“จุติ” เปิดห้วยขวางศูนย์ชุมชนสู้ภัยโควิด
“จุติ” เปิดศูนย์ชุมชนสู้ภัยโควิด เคหะชุมชนห้วยขวาง ภายใต้โครงการ พม. “เราไม่ทิ้งกัน”
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ขับเคลื่อนโครงการ พม. “เราไม่ทิ้งกัน” ภายใต้แนวคิด “สำรวจให้พบ จบที่ชุมชน” โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ร่วมลงพื้นที่เคหะชุมชนห้วยขวางเพื่อเปิดศูนย์ชุมชนสู้ภัยโควิด – 19 และมอบถุงยังชีพ พร้อมให้กำลังใจผู้อยู่อาศัยภายในชุมชน ณ บริเวณสนามกีฬาห้วยขวาง โครงการเคหะชุมชนห้วยขวาง
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่มีความรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในทุกภาคส่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อประชาชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึง
ออกมาตรการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในชุมชน โดยกำหนดแผนขับเคลื่อนโครงการ พม. “เราไม่ทิ้งกัน” ชุมชนปลอดภัยสู้ภัยโควิด – 19 ภายใต้
แนวคิด “สำรวจให้พบ จบที่ชุมชน” เพื่อเร่งช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งผู้มีรายได้น้อยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค
วิด-19 และครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน อีกทั้งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นการดำเนินงานช่วยเหลือประชาชนในชุมชนกรุงเทพฯ 286 ชุมชน ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของการเคหะแห่งชาติ 91 ชุมชน และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) 195 ชุมชน
สำหรับเคหะชุมชนห้วยขวาง เป็น 1 ในชุมชนที่อยู่ในความดูแลของการเคหะแห่งชาติโดยมีผู้อยู่อาศัยภายในชุมชนติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 จำนวน 3 ราย รักษาหายแล้ว 1 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย พร้อมเฝ้าระวังดูอาการและกักตัว จำนวน 13 ราย ในเบื้องต้นการเคหะแห่งชาติได้ฉีดพ่นทำความสะอาดบริเวณพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งนำสิ่งของและอาหารแห้งที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนไปมอบให้แก่ผู้อยู่อาศัยในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยของตนเอง อีกทั้งได้จัดตั้ง “ครัวกลาง” เป็นระยะเวลา 7 วัน ณ สนามกีฬาห้วยขวาง และศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระ
ทบจากวิกฤตโควิด – 19 รวมถึงผู้ที่ตกงาน และผู้ที่ขาดแคลนอาหาร ฯลฯ ซึ่งเคหะชุมชนห้วยขวางเป็นพื้นที่เป้าหมายแรกที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในชุมชนได้รับทราบและเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลของตนเองและครอบครัวกับผู้ประสานงานชุมชน เพื่อนำไปจัดทำแผนฟื้นฟูชุมชน พร้อมกันนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ชุมชนสู้ภัยโควิด – 19 ภายในโครงการเคหะชุมชนห้วยขวาง และได้มอบถุงยังชีพจำนวน 250 ถุง มอบให้คนพิการกับผู้ป่วยติดเตียง นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งคลังชุมชนเพื่อนำไปช่วยเหลือให้กับ ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และแจกเจลล้างมือแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 รวมถึงการเคหะแห่งชาติได้ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ประกอบอาชีพในชุมชนลงทะเบียนผ่าน Line : @nha.thailand หรือเว็บไซต์ http//covid.nha.co.th เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลที่มีมาตรการเยียวยาประชาชน เริ่ม
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ธุรกิจอสังหา ขาดสภาพคล่อง ชำระหุ้นกู้ 7.8 หมื่นล. ไตรมาส 2
ธุรกิจผวาขาดสภาพคล่องหมุนเงิน ชำระหุ้นกู้ครบกำหนดไตรมาส 2 วงเงิน 7.8 หมื่นล้าน บริษัทรายกลางเลี่ยงจัดเรตติ้ง ระดมทุนจูงใจดอกเบี้ย 5-6% สูงกว่าแบงก์ไม่ยินยอมปล่อยกู้ ขณะแบงก์ชาติเข้ม ออกกองทุนซื้อเฉพาะ rollover กู้ใหม่ชำระหนี้เดิม-มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
มีความกังวลกันว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายกลางในตลาดหลักทรัพย์ อาจไม่มีสภาพคล่องชำระหุ้นกู้ ช่วงไตรมาส 2 ได้ทัน เพราะนอกจากได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 แล้ว ที่ผ่านมาได้ออกหุ้นกู้เกิน ยังพบว่าบางรายใช้วิธีออกหุ้นกู้โดยไม่มีการจัดอันดับเครดิตหรือเรตติ้ง ระดมทุนจูงใจดอกเบี้ย 5-6% หรือสูงกว่านั้น ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ โครงการของสถาบันการเงิน
สะท้อนว่าบริษัทรายนั้น ไม่มีเครดิตพอที่สถาบันการเงินจะปล่อยกู้ ขณะช่องโหว่การออกหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อาจส่งผลกระทบตามมา รวมถึงบริษัทรายกลางแม้ผ่านการจัดเรตติ้ง แต่หากอันดับอยู่ที่ต่ำอย่างบีบีลบถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง
หากจะขอระดมทุนเพื่อหมุนชำระหนี้รอบใหม่มองว่าน่าจะทำได้ยาก เพราะไม่มีใครเชื่อมั่น ส่วนค่ายใหญ่แม้จะกระทบบ้าง แต่โดยรวมไม่มีปัญหา นอกจากเรตติ้งอยู่ในอันดับที่สูง อีกทั้งยังมีสภาพคล่องจากการขายโครงการลูกค้าให้ความเชื่อมั่นมีแหล่งทุน, เงินสดคงเหลือ, วงเงินกู้แบงก์ อีกทั้งหลักทรัพย์ค้ำประกันที่พร้อมชำระ
ทั้งนี้ ตัวเลขธุรกิจครบกำหนดชำระตราสารหนี้ในไตรมาส 2 ปีนี้ รวมวงเงิน 1.85 แสนล้านบาท แยกเป็นอสังหาริมทรัพย์ 7.8 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามท่ามกลางสถานการณ์ที่น่าวิตก หลายธุรกิจ บาดเจ็บล้มตายจากโรคระบาด ธนาคารแห่งประเทศ ไทยได้ออกกองทุนวงเงิน 4 แสนล้านบาท ช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เหมือนช่วงผลกระทบน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554
แต่จะเลือกสินทรัพย์ชั้นดี ช้อนซื้อ rollover กู้ใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่คือดอกเบี้ยที่น่าสนใจ และต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สะท้อนว่า การครบกำหนดชำระหุ้นกู้ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว กลุ่มธุรกิจที่น่าเป็นห่วง คือกลุ่มท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์รายกลางที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพคล่อง และการหาแหล่งทุนใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการระดุมทุนในช่วงนี้ไม่น่าจะมีใครเชื่อมั่น แม้จะให้ดอกเบี้ยสูงล่อใจ
ขณะกองทุนแบงก์ชาติ มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ในการช่วยพยุงธุรกิจในยามวิกฤติ แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าทุกรายได้รับความช่วยเหลือ โดยแบงก์ชาติจะมีเกณฑ์ใหม่ออกมาที่เข้มข้น โดยเลือกเฉพาะซื้อ rollover กู้ใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม และต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเท่านั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจในการชำระหุ้นกู้ ถึงคิวครบกำหนดชำระว่าสามารถจ่ายคืนได้หมด เนื่องจากจะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัท ที่เกิดขึ้นจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งปี รวมมูลค่าทั้งปี 2.4 หมื่นล้านบาทมารองรับ ขณะสถานการณ์โรคระบาดต้องยอมรับว่าทุกค่ายต้องปรับแผนรับมือ หากผ่านไปได้จะช่วยให้เกิดช่องทางใหม่ๆ ในการดึงลูกค้า
ด้าน บมจ.แสนสิริ โดยนาย วันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ เปิดเผยว่า บริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบไถ่ถอน 1 ล็อต มูลค่า 5 พันล้านบาท โดยเตรียมจะทยอยคืนในช่วง 3 เดือน หลังจากนี้ ได้แก่ เดือนเมษายน, พฤษภาคม และมิถุนายน อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีความกังวลแต่อย่างใด ในแง่เงินทุนที่จะนำมาพัฒนาโครงการใหม่ตามแผน ทั้งหมด 18 โครงการ มูลค่ากว่า 2.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2563 นี้ เนื่องจากก่อนหน้าได้ประสบความสำเร็จจากการนำเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 4 พันล้านบาทให้กับนักลงทุน เตรียมรองรับไว้พร้อมแล้ว ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่อง และ Cash flow หรือกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจทุกสภาวการณ์
ขณะที่ นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA กล่าวว่า แม้สถานการณ์โควิดจะกระทบกับการขาย แต่มั่นใจว่าบริษัทสามารถชำระหุ้นกู้ได้ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมทั้งต่ออายุตั๋ว และการเตรียมความพร้อม สำหรับเงินสดชำระคืนตามกำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กลุ่มทิสโก้กำไร1,484ล้านบาท
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 1 ของปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,484 ล้านบาท หรือลดลง 14.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาวะธุรกิจชะลอตัวลง รวมถึงภาวะความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง บริษัทมีการเริ่มใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS 9) เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 7.75 บาท สำหรับรอบผลประกอบการวันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2562 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 เม.ย. 2563
“ความท้าทายของการดำเนินธุรกิจในปีนี้ คือ เรื่องคุณภาพสินเชื่อ จากตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ การชะลอตัวลงของธุรกิจ กฎเกณฑ์มาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มเติมเข้ามา และยังมีความไม่แน่นอนของระยะเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากนี้ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้อาจแตกต่างจากที่เคยคาดการณ์ไว้” นายสุทัศน์ กล่าว
1) สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จะมีความรุนแรงเพียงใด และ การ Lockdown จะใช้เวลานานเท่าใด
2) ผลของมาตรการบรรเทาผลกระทบของ COVID-19 ของทางการ ต่อระบบเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะส่งผลบวก ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดของมาตรการ การเบิกจ่ายงบประมาณ และการใช้จ่ายเงินของประชาชนต่อไป
3) สถานการณ์ภัยแล้ง
จากการคาดการณ์ข้างต้น กลุ่มทิสโก้ยังคงดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยเน้นคุณภาพสินเชื่อและการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความร่วมมือสนับสนุนมาตรการต่างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งดำเนินการบรรเทาภาระหนี้และปรับโครงสร้างหนี้แก่ลูกค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผ่านมาตรการช่วยเหลือด้านต่างๆ การดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ในขณะเดียวกันยังคงสานต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบข้อมูลและติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือสามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
สมาร์ทโฟนร้อนฉ่า”Apple-หัวเว่ย”แข่งราคาเดือด
แห่เปิดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สู้โควิด หัวเว่ย ส่งเรือธง P40 ลงตลาด เคาะราคาทำร่วมแพ็กเกจโอเปอเรเตอร์ เริ่มต้น 5,490 บาท ส่วนแอปเปิล เปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ ทะลวงตลาดแมส
ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อไป ล่าสุดยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนโลกได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ลงสู่ตลาด โดยหัวเว่ยส่งแฟล็กชิพโมเดล คือ หัวเว่ย P40 และ P40 Pro ออกสู่ตลาดไทย
ประเด็นน่าสนใจของสมาร์ทโฟน หัวเว่ย P40 และ P40 Pro คือ เป็นสมาร์ทโฟน 5G และการทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์ 3 ราย โดยราคาพิเศษพร้อมแพ็กเกจ สำหรับ P40 เริ่มต้นที่ 5,490 บาท และ P40 Pro เริ่มต้นที่ 7,990 บาท
ส่วนค่ายแอปเปิล เปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ ที่วางระดับราคาไว้น่าสนใจเริ่มต้นที่ 14,900 บาท เพื่อขยายการทำตลาดไปสู่วงกว้างหรือแมส เชื่อว่า iPhone SE ใหม่ที่ออกมาจะเข้ามาเขย่าตลาดสมาร์ทโฟน และช่วยแอปเปิลเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาดจากแอนดรอยด์โฟน
นายอิงมาร์ หวาง ผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าหัวเว่ยได้จับมือร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำในประเทศไทย เปิดตัว HUAWEI P40 Series 5G พร้อมให้บริการทุกเครือข่ายรูปแบบ ทุกย่านความถี่ ทั้ง 2 ซิม ด้วยชิปเซ็ต Kirin 990 ที่รวมเอาโปรเซสเซอร์และโมเด็มไว้ด้วยกัน มีความเสถียรและประหยัดพลังงาน
จุดเด่นด้านการถ่ายภาพและวิดีโอนั้น หัวเว่ย P40 และ P40 Pro มาพร้อมเซ็นเซอร์ กล้องแบบ RYYB ขนาดใหญ่ที่สุด ให้การถ่ายภาพในทุกสภาพแสงยังคมชัด เซ็นเซอร์อุณหภูมิสี ที่เก็บรายละเอียดสีได้แม่นยำ กล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอที่ความคมชัดระดับ 4K พร้อมสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ (หน้าชัด หลังเบลอ) ได้แบบเรียลไทม์
ในด้านฮาร์ดแวร์ หัวเว่ยยังคงจับมือกับแบรนด์กล้องถ่ายภาพระดับโลก Leica ในการพัฒนาเลนส์และตัวกล้อง ประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัง 4 ตัว ที่ รวมถึงระบบ SuperSensing Zoom ที่สามารถซูมได้ถึง 50 เท่า
นอกจากนี้ยังได้อัพเกรดซอฟต์แวร์เพิ่มเติม จากระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ถูกบรรจุอยู่ในเครื่องพร้อมใช้ EMUI 10.1 เพิ่มเติมฟีเจอร์ HUAWEI Golden Snap ที่ใช้ AI ในการจัดการปัญหาการถ่ายภาพ
ส่วนค่ายแอปเปิล เปิดตัวรุ่นแมส สำหรับผู้เริ่มต้นอยากเปลี่ยนจากแอนดรอยด์โฟนมาใช้ “ไอโฟน” โดยเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่ ที่วางระดับราคาไว้น่าสนใจเริ่มต้นที่ 14,900 บาท เพื่อขยายการทำตลาดไปสู่วงกว้างหรือแมส เชื่อว่า iPhone SE ใหม่ที่จะเข้ามาเขย่าตลาด สมาร์ทโฟน และช่วยแอปเปิลเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาดจากแอนดรอยด์โฟน
หรับ iPhone SE รุ่นใหม่ จะมาพร้อมกับหน้าจอ 4.7 นิ้ว ด้านหลังเป็นกระจก พร้อมหน้าจอ Retina HD ที่มาพร้อมระบบปรับแสงแบบ True Tone เพื่อปรับให้แสงบนหน้าจอเข้ากับแสงสว่างรอบข้าง, รองรับ Dolby Vision และ HDR 10 หน่วยประมวลผล Apple A13 Bionic เป็นชิปที่ใช้กับ iPhone 11
ดังนั้นความสามารถประมวลผลไม่แพ้รุ่นไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลภาพถ่าย, เล่นเกม, เออาร์ หรือวีอาร์ส่วนตัวกล้องเป็นแบบเลนส์เดียว 12 ล้านพิกเซล f/1.8 Wide
ส่วนระบบอัดวิดีโอสามารถอัดได้สูงสุด 4K 60fps พร้อมหรือ 30fps รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Gigabit-class LTE มีระบบ Dual SIM ที่มี eSIM ที่สามารถเปลี่ยนซิมได้ง่าย มี ให้เลือก 3 สี คือขาว, ดำ และแดง (PRODUCT) RED มีให้เลือก 3 ความจุ 64GB ราคา 14,900 บาท, 128GB ราคา 16,900 บาท และ 256GB ราคา 20,900 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
พุดซ้อน สรรพคุณและประโยชน์ของดอกพุดซ้อน 29 ข้อ !
พุดซ้อน
พุดซ้อน ชื่อสามัญ Cape jasmine, Gareden gardenia, Gerdenia, Bunga cina (มาเลเซีย), Kaca piring[1],[2],[4]
พุดซ้อน ชื่อวิทยาศาสตร์ Gardenia jasminoides J.Ellis (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Gardenia augusta Merr., Gardenia florida L., Gardenia grandiflora Siebold ex Zucc., Gardenia radicans Thunb.) จัดอยู่ในวงศ์เข็ม (RUBIACEAE)[1],[5]
สมุนไพรพุดซ้อน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า เค็ดถวา แคถวา (เชียงใหม่), พุดป่า (ลำปาง), พุทธรักษา (ราชบุรี), พุดฝรั่ง (กรุงเทพฯ), พุดสา พุดสวน พุดจีบ (ภาคกลาง), พุด, พุดจีน พุดใหญ่ พุดซ้อน (ไทย), กีจื้อ จือจื่อ สุ่ยจือจื่อ (จีนกลาง) เป็นต้น[1],[2],[3],[4],[6]
ลักษณะของพุดซ้อน
- ต้นพุดซ้อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน[4] บ้างก็ว่าจัดเป็นพรรณไม้ดั้งเดิมของบ้านเรานี่เอง[1] โดยจัดเป็นไม้พุ่มเตี้ยหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงได้ประมาณ 1-2 เมตร มีลักษณะทั่วไปคล้ายต้นพุดจีบ แต่จะแตกต่างกันที่ว่าพุดซ้อนจะไม่มีสีขาวอยู่ในต้นและใบเหมือนพุดจีบ ลำต้นแตกกิ่งก้านมาก ลำต้นและกิ่งก้านเป็นสีเขียว ใบขึ้นดกหนาทึบ ส่วนรากใต้ดินเป็นสีเหลืองอ่อน นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง เนื่องจากเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ต้องการแสงแดดจัดและความชื้นสูง หากปลูกในที่มีแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้ไม่ค่อยออกดอก และการตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งจะช่วยทำให้ดอกมีขนาดใหญ่ขึ้นได้[4],[5] โดยมักพบขึ้นในป่าดงดิบทางภาคเหนือ[1],[3]
ใบพุดซ้อน พุดซ้อนเป็นไม้ที่ออกใบหนาแน่น ทำให้ดูทึบ โดยใบจะเป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามหรือประกอบเป็นใบ 3 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรีหรือรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบ เป็นขอบสีขาว ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 7-14 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบมันเป็นสีเขียวเข้ม เนื้อใบหนา ก้านใบสั้น มีหูใบ 2 อันอยู่ระหว่างก้านใบด้านละอัน ลักษณะของใบทั่วไปคล้ายใบพุดจีบ แต่จะแตกต่างกันตรงที่ไม่มียางสีขาวเท่านั้น[1],[3],[5]
ดอกพุดซ้อน โดยมากแล้วจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว โดยจะออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่ ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกพุดจีบ ดอกของพุดซ้อนจะเป็นสีขาวและมีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น โคนกลีบแหลม ปลายกลีบมนรี มีกลีบดอกประมาณ 5-7 กลีบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7 เซนติเมตร เนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอมแบบอ่อน ๆ ดอกมีเกสรเพศผู้ 6 ก้านรูปแถบ ติดที่ปลายหลอดกลีบดอก เกสรเพศเมีย ก้านเกสรยาว ยอดเกสรเป็นกระจุกแน่น รังไข่จะอยู่ใต้ฐานรองดอก ส่วนกลีบเลี้ยงมีประมาณ 5-8 แฉก ก้านดอกสั้นหรือไม่มีก้านดอก[1],[5]
ผลพุดซ้อน ผลมีลักษณะกลมเป็นรูปไข่ ออกแบบหัวทิ่มลง ผลอ่อนเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองหรือเป็นสีส้มถึงแดง ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 3-7 เซนติเมตร เปลือกผลมีเหลี่ยมตามยาว ประมาณ 5-7 เหลี่ยม[3] ภายในมีเมล็ดอยู่ประมาณ 3-6 เมล็ด เมล็ดจะมีเนื้อเยื่อหุ้มเป็นสีแดง[1]
สรรพคุณของพุดซ้อน
- รากและผลมีรสขม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและตับ ใช้เป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ช่วยแก้อาการร้อนใน ขับน้ำชื้น ทำให้เลือดเย็น แก้ตัวร้อน มีไข้สูง (ราก, ผล)[3]
- เนื้อไม้เป็นยาเย็น ช่วยลดพิษไข้ (เนื้อไม้)[1] เปลือกต้นและรากเป็นยาแก้ไข้ (เปลือกต้น, ราก)[5]
- ช่วยกระจายเลือดที่อุดตัน (ผล)[3]
- ช่วยแก้อาการกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ (ผล)[3]
- ช่วยแก้ตาอักเสบ (ผล)[3]
- ช่วยแก้เลือดกำเดา (ผล)[3]
- ใบใช้ตำพอกแก้อาการปวดศีรษะได้ (ใบ)[4],[5]
- ช่วยแก้อาการเหงือกบวม ปวดฟัน (ผล)[3]
- ช่วยรักษาปากและลิ้นเป็นแผล (ผล)[3]
- ช่วยแก้อาเจียนเป็นเลือด (ผล)[3]
- รากช่วยแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ (ราก)[5]
- เปลือกต้นเป็นยาแก้บิด แก้ปวดท้อง (เปลือกต้น)[4],[5]
- ผลเป็นยาขับพยาธิและขับปัสสาวะ (ผล)[4],[5] ส่วนน้ำจากต้นใช้เป็นยาขับพยาธิ (น้ำจากต้น)[1]
- ช่วยแก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ผล)[3]
- ตำรับยาแก้ตับอักเสบเฉียบพลันเนื่องจากการติดเชื้อและมีอาการตัวเหลือง ระบุให้ใช้รากพุดซ้อนสด 70 กรัม, รากใบไผ่เขียว, หญ้าคา และเปลือกต้นหม่อนอย่างละ 35 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำรับประทาน (ราก)[3]
- รากใช้ตำพอกแผลสด ห้ามเลือด ช่วยสมานบาดแผล (ราก)[3]
- น้ำคั้นจากดอกนำมาผสมกับน้ำมันใช้เป็นยาทารักษาโรคผิวหนัง หรือจะใช้เฉพาะน้ำคั้นจากดอกเพียงอย่างเดียวก็ได้ (น้ำจากดอก)[1]
- ช่วยแก้ผื่นคันตามผิวหนัง (ราก)[5]
- ช่วยแก้ฝีหนองอักเสบ (ราก)[3]
- ช่วยแก้อาการปวดบวม (ราก)[3]
- ตำรับยาแก้เคล็ดขัดยอกระบุให้ใช้ผลพุดซ้อนแห้ง 250 กรัม, โกฐเชียง, คำฝอย และเมล็ดลูกท้ออย่างละ 150 กรัม นำมารวมกันบดเป็นผง แล้วนำไปเคี่ยวกับวาสลิน 250 กรัม และผสมกับน้ำส้มสายชูอีก 500 ซีซี แล้วเคี่ยวจนให้เข้ากันดี ใช้เป็นยาทาภายนอกบริเวณที่มีอาการ (ผล)[3]
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [3] ถ้าเป็นยาแห้งให้ใช้ครั้งละ 3-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หากเป็นยาสดให้ใช้ครั้งละ 35-70 กรัม นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำรับประทาน หรือใช้ตำพอกแผลภายนอก[3]
สรรพคุณของผลพุดซ้อนตามตำราการแพทย์แผนจีน
- กีจื้อ (ผลพุดซ้อน) มีรสขมเย็น มีฤทธิ์ขับความร้อน ระบายความร้อน แก้ไข้ แก้หงุดหงิดกระวนกระวาย ช่วยเสริมความชื้น ทำให้เลือดเย็น แก้เลือดกำเดาไหล แก้ปัสสาวะและอาเจียนเป็นเลือด (เนื่องจากเลือดมีพิษร้อน) แก้ดีซ่าน (ตัวเหลืองจากความร้อนหรือร้อนชื้นของตับและถุงน้ำดี) มีฤทธิ์บรรเทาอาการพิษอักเสบ แก้พิษอักเสบของแผล ฝีอักเสบ อาการบวมจากการกระทบกระแทก ลดบวมจากการอักเสบ ช่วยระงับอาการปวด แก้อาการอักเสบบวมแดง[3]
- กีจื้อผัดและกีจื้อผลพุดซ้อนผัดเกรียมมีวิธีใช้และสรรพคุณที่เหมือนกัน แต่จะใช้ในกรณีที่ระบบกระเพาะอาหารและม้ามพร่อง[3]
- กีจื้อถ่านมีฤทธิ์ห้ามเลือดและทำให้เลือดเย็น ช่วยแก้อาการไอเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด[3]
หมายเหตุ : สำหรับวิธีใช้ ให้ใช้ประมาณ 6-9 กรัมนำมาต้มเอาแต่น้ำดื่ม[3]
ข้อควรระวัง ผลพุดซ้อนไม่เหมาะสำหรับนำมาใช้กับคนธาตุอ่อน อุจจาระเหลว[3]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของพุดซ้อน
- สารที่พบ ได้แก่ Jasminodin, Geniposide, Crocin, Shanzhiside, Genipin-1-B-gentiobioside, Dipentene, Gardonin และยังพบ Gum, Tanin เป็นต้น[3]
- สารสกัดด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการกระตุ้นน้ำดีให้มีการไหลออกมากขึ้น และจากการทดลองกับกระต่ายก็พบว่า สารสกัดดังกล่าวสามารถช่วยยับยั้ง Bilirubin ของเม็ดเลือดที่อยู่ในเส้นเลือดได้[3]
- เมื่อนำน้ำที่ต้มได้จากผลพุดซ้อนหรือสารที่สกัดได้จากผลพุดซ้อนด้วยแอลกอฮอล์มาทดลองกับสัตว์ทดลอง เช่น หนู แมว หรือกระต่าย พบว่ามีฤทธิ์ทำให้ความดันของสัตว์ทดลองลดลงได้นานพอสมควร[3]
- ผลพุดซ้อนมีฤทธิ์เป็นยาห้ามเลือดและช่วยสมานบาดแผล[3]
- สารหลัก Linalool มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา มีฤทธิ์สงบประสาท และการอักเสบ[5]
ประโยชน์ของพุดซ้อน
- ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับสวนบริเวณบ้านทั่วไป ตัดแต่งทรงพุ่มและปลูกเป็นแนวรั้วได้ดี[1] สามารถควบคุมการออกดอกได้ด้วยการควบคุมการให้น้ำและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม อีกทั้งดอกพุดซ้อนยังมีความหมายที่เป็นมงคลอีกด้วย โดยตามความหมายของไทยจะหมายถึงความแข็งแรง สมบูรณ์ ความเจริญมั่นคง ส่วนตามความหมายของฝรั่งจะหมายถึงรักแท้[4]
- ดอกนำมาปักแจกันไหว้พระหรือนำไปร้อยเป็นพวงมาลัยสำหรับบูชาพระ ส่วนในประเทศจีนจะใช้ดอกพุดมาอบใบชาให้มีกลิ่นหอม
- ดอกสามารถนำมาสกัดทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้[4]
- ผลและเมล็ดเมื่อนำมาบดจะให้สารสีเหลืองทองชื่อ Gardenia ใช้เป็นสีสำหรับแต่งสีอาหารให้เป็นสีเหลือง (เช่น การใช้ย้อมสีด้านนอกของเต้าหู้แข็ง แต่งสีน้ำเก๊กฮวย ส่วนในประเทศจีนใช้เป็นสีย้อมผ้า) และยังให้สารสีน้ำตาลแดงชื่อ Corcin ใช้สำหรับแต่งอาหารให้มีสีน้ำตาลแดง[1],[2],[4]
- เนื้อไม้สามารถนำมาใช้ทำธูป ทำกรอบรูป และทำหัวน้ำหอมได้[1]
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,800.00 | 26,000.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,671.00 | 25,332.36 | 26,500.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,503.90 | 22,799.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,336.80 | 20,265.89 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 752.00 | 11,400.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 585.00 | 8,868.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,732.00 | 26,257.12 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/04/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 | 17.55 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 | 17.28 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 15.74 | 15.74 | 15.74 | 15.74 | 15.74 | – | 15.74 | 15.74 | 15.74 | 15.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 15.34 | 15.34 | – | – | – | – | – | 15.34 | – | – |
เบนซิน 95 | 24.96 | – | – | – | 25.41 | – | 25.46 | 24.96 | – | 24.96 |
ดีเซล | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 | 19.09 |
ดีเซล B10 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | 16.09 | – | 16.09 |
ดีเซล B20 | 15.84 | 15.84 | 15.84 | 15.84 | 15.84 | – | 15.84 | 15.84 | – | 15.84 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 22.94 | 22.96 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |