แสนสิริ รุกตลาดแมส ดันยอดขาย15,900ลบ.
แสนสิริ แหวกการตลาดอสังหา จับมือแบรนด์ผู้นำสุขภาพและความงาม “ชาเม่”เจาะฐานลูกค้าใหม่ระดับแมสทั่วประเทศ ชิงภาพแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ หวังดันยอดขายไตรมาส 2 พุ่งตามเป้า 12,000 ล้านบาท
นางสาวอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ประธานผู้บริหารสายงานการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)เผยว่า จากวิสัยทัศน์ Speed-to-market และคิดนอกกรอบ แสนสิริสร้างเซอร์ไพรส์ใหม่ให้แก่วงการอสังหาฯด้วยการร่วมมือกัน“ชาเม่” (CHAME’) ผู้นำด้านสุขภาพและความงามของไทย ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาด Mass และPremium mass นับเป็นการข้ามวงการอสังหาฯ–สุขภาพและความงามเพื่อร่วมกันสร้างมิติใหม่แก่วงการอสังหาริมทรัพย์โดยนำผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามสู่การสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัย (Living Experience) ตอบโจทย์กระแสคนรักสุขภาพและWell-Being มากขึ้น
รุกเจาะฐานการตลาดลูกค้าระดับแมส เซ็กเมนต์เรียลดีมานด์ที่แท้จริง ผ่านแบรนด์และฐานการตลาดที่แข็งแกร่งของชาเม่
ต่อยอดยุทธศาสตร์ของบริษัทฯในปีนี้ภายใต้ “Made for Life…Made for Everyone”สู่การเป็นแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ เพื่อสร้างภาพแบรนด์ที่จับต้องง่ายขึ้นโดยสร้างเซอร์ไพรส์ความแปลกใหม่ส่งเสริมสีสันการทำการตลาด ให้แสนสิริสร้างการรับรู้และจดจำแก่กลุ่มฐานลูกค้าระดับแมสได้มากขึ้นควบคู่กับการทำแคมเปญการตลาดของแสนสิริร่วมกัน
ปีที่ผ่านมา แสนสิริ สร้างยอดขายโครงการระดับ Masssegment รวมมูลค่ากว่า 8,700 ล้านบาทซึ่งศักยภาพของตลาดอสังหาฯระดับแมส มีดีมานด์เฉลี่ยปีละสูงถึง 250,000 ล้านบาท จึงทำให้แสนสิริ มองเห็นโอกาสในการรุกขยายฐานลูกค้า เพื่อช่วงชิงสัดส่วนการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้ายอดขายโครงการแนวราบ 15,900 ล้านบาท และเป้ายอดโอน 15,400 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้“เราจึงเดินหน้าต่อครองใจตลาดด้วยกลยุทธ์Unexpected Marketingโดยเตรียมวางแผนเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ที่เคยไม่มีก่อนในเมืองไทยผ่านความร่วมมือใหม่ๆ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านBeauty & Health Solution”ปัจจุบันแบรนด์ ชาเม่ มีกลุ่มฐานลูกค้ากว่า 7,000,000 ราย ทั่วประเทศแสนสิริ เตรียมวางแผนและออกแบบกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ที่เคยไม่มีก่อนในเมืองไทย ผ่านการสร้างประสบการณ์และกิจกรรมการตลาดหรือแคมเปญการตลาดใหม่ๆเอาใจคนรักสุขภาพและความงามขยายฐานการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ร่วมกับชาเม่
วางแผนส่งเสริมดันยอดขายบริษัทในไตรมาส 2 ตามเป้าที่วางไว้12,000 ล้านบาทผ่านช่องทางการขายใหม่ในทุกช่องทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมการสื่อสารทั้งOmni-Channel และทุกTouch pointsซึ่งแบรนด์ ชาเม่ จะกลายเป็นกลยุทธ์หัวหอกสำคัญทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพได้อย่างเข้าถึงผ่านธุรกิจสุขภาพและความงาม ควบคู่กับการทำแคมเปญการตลาดและโปรโมชั่นของแสนสิริร่วมกัน รวมถึงพริวิเล็จใหม่ๆสำหรับครอบครัวแสนสิริ แฟมิลี่ที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 100,000 ครอบครัวทั่วประเทศ
ล่าสุด เริ่มต้นความร่วมมือจัดกิจกรรม KnockDoor Surprise ภายใต้แคมเปญ Sansiri Care #เพราะเราห่วงใยแจกชุดผลิตภัณฑ์ชาเม่มอยซ์เจอร์ไรซิ่งแฮนด์เจลและแฮนด์สเปรย์ นำโดยเชียร์ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์สร้างสีสันเซอร์ไพรส์แก่ลูกบ้านครอบครัวแสนสิริเพื่อส่งมอบความห่วงใยในช่วงเวลาที่ทุกคนอยู่บ้าน เริ่มต้นที่ สิริ เพลส อณาสิริ และเดอะ เบส
นอกจากนี้ แสนสิริยังได้มอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้าชาเม่กับโปรโมชั่น On Top เมื่อจองโครงการแสนสิริรับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท สำหรับบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมรวมกว่า50 โครงการ เริ่ม1.99-20 ล้าน* และสำหรับคอนโดมิเนียม ฟรี! ค่าส่วนกลางเพิ่ม 1 ปี ทุกโครงการพร้อมอยู่ โดยแสนสิริ ยังมีออกแคมเปญพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถมีบ้านง่ายขึ้นกับ แคมเปญล่าสุด“แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน”*จบทุกปัญหาลดทุกภาระ ผ่อนให้ทั้งต้นทั้งดอก สูงสุดถึง 24 เดือนที่บ้านเดี่ยวทาวน์โฮม และคอนโดพร้อมอยู่จากแสนสิริ 62 โครงการทั่วประเทศ เริ่มต้นเพียง990,000 บาทพร้อมฟรีค่าโอนและค่าจดจำนองฟรีค่าส่วนกลางพร้อมโปรโมชั่นในทุกโครงการ
ด้านนางสาวนันท์ฐณิชา ศิริปรีดาวัชร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชาร์มมิ่ง เวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ชาเม่เผยว่า“เราเชื่อว่าการร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นมิติใหม่ครั้งสำคัญระหว่าง 2 ภาคธุรกิจที่จะร่วมเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงความเชี่ยวชาญของชาเม่ จะช่วยตอบโจทย์การตลาดร่วมกัน โดยทำให้แสนสิริในการเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่ายและสร้างการจดจำแก่กลุ่มฐานลูกค้าระดับแมสเซ็กเม้นท์ได้มากขึ้น สู่การผลักดันให้แสนสิริ เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดแนวราบได้ในปี 2563 นี้”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“โควิด”ดันทาวน์เฮาส์แรง ถล่มซํ้าสต๊อกคอนโดฯ
“โควิด-19” ดันตลาดทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 4 ล้านแรง ถล่มซ้ำคอนโดมิเนียม เหตุมีพื้นที่กว้าง มีความเป็นส่วนตัว ตั้งราคาขายไม่ต่างกัน
พิษโควิด-19 ซัดกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์หายไปจากตลาดมากกว่า 50% สะท้อนจากลูกค้าตัดสินใจจะซื้อโครงการก่อนหน้า เมื่อวิกฤติถล่มซ้ำลูกค้าบางรายปฏิเสธที่จะเดินเรื่องต่อ หลายรายยอมทิ้งดาวน์ ไม่มาโอนตามนัด แม้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อแล้วก็ตาม ปมเหตุมาจาก 1. ถูกลดเงินเดือน 2. ถูกเลิกจ้าง 3. รับรู้ถึงความไม่มั่นคงในระยะยาว 4. ต้องการลดภาระ โดยเฉพาะรายที่มีบ้านหลังแรกแล้ว มองว่าหลังที่ 2 และหลังที่ 3 โดยไม่จำเป็น
คอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อถูกเปรียบเทียบในเรื่องของทำเล และราคาที่ไม่ต่างกันมากนัก โดยเฉพาะ เส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ช่วงต้นๆ มักจะเห็นราคาขายคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาทต่อหน่วย ขณะขยับออกไปไม่เกินถนนวงแหวนชั้นในกรุงเทพมหานคร หรือแม้แต่ในซอย ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า ราคา ขายบ้านแนวราบอย่างทาวน์เฮาส์ไม่ต่างกับคอนโดมิเนียมมากนัก จึงเป็นเหตุให้คนหันมาสนใจทาวน์เฮาส์มากขึ้น ส่วนบ้านเดี่ยว สำหรับคนทำงานถือว่ายังมีราคาแพง กลุ่มระดับบนที่สามารถครอบครองได้ อย่างไรก็ตามสัญญาณที่อยู่อาศัยแนวราบ กลับมานิยมในกลุ่มผู้บริโภคอีกครั้งเกิดจากเรื่องระดับราคา ความเป็นส่วนตัว ขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องขนาดเล็ก ด้านผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมเองก็ต่างปรับแผนหันไปโฟกัสบ้านแนวราบ ประเภททาวน์เฮาส์มากขึ้น อย่าง บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บมจ.พฤกษา บมจ.อนันดา ต่างมุ่งพัฒนาแนวราบมากขึ้น
“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจ ปริมาณโครงการเปิดตัวใหม่ จาก นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) สะท้อนตัวเลขเปิดตัวโครงการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบการเปิดตัวทาวน์เฮาส์มาเป็นอันดับ 1 จำนวน 3,165 หน่วย (52.7%) รองลงมายังคงเป็นคอนโดมิเนียม 1,229 หน่วย 20.5% อันดับ 3 คือบ้านเดี่ยว 984 หน่วย (16.4%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด 6,005 หน่วย 26 โครงการ มูลค่า 23,499 ล้านบาท และประเมินว่าในแต่ละเดือนจะมีทาวน์เฮาส์เปิดตัวออกสู่ตลาด มีสัดส่วนสูงขึ้นเรื่อยๆ จาก ตัวเลขทั้งปีที่ประมาณการว่าจะมีโครงการเปิดตัวใหม่มากถึงกว่า 300 โครง การ และอาจมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 40% หากโควิดจบเร็ว ในช่วงครึ่งปีหลัง
สอดคล้อง ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) กล่าวในบทวิเคราะห์ว่า สถานการณ์โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ทาวน์เฮาส์ระดับราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท มาแรง กลายเป็น กลุ่มที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมสูง นับจากโควิด-19 ระบาด เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัว ราคาเมื่อเทียบกับอาคารชุดแล้วไม่ต่างกัน หากต้องการขยับเข้าในเมือง ใกล้แนวเส้นทางรถไฟฟ้าช่วงปลายเส้นทาง
นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด แฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ สะท้อนว่าคอนโดมิเนียมไม่ได้โอเวอร์ซัพพลายอย่างที่หลายคนเข้าใจ เหตุที่ขายไม่ออก หรือขายได้น้อย เป็นเพราะคอนโดมิเนียม ในเมืองมีข้อจำกัด ต้องตั้งราคาขายออกมาสูง จากปัจจัยแวดล้อม ทั้งที่ดินแพง รถไฟฟ้าผ่าน ดังนั้น คอนโดมิเนียมกลุ่มระดับล่าง-กลางแทบจับต้องไม่ได้ เฉลี่ยราคาส่วนใหญ่อยู่ระดับ 3-4 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งไม่ต่างจากทาวน์เฮาส์ หากคนที่สนใจที่อยู่อาศัยราคาระดับนี้ เชื่อว่าอันดับแรกต้องเลือกทาวน์เฮาส์ก่อน แม้การเดินทางจะไกลกว่าก็ตาม
“คอนโดฯถูกจำกัด ให้ตั้งราคาสูง ส่งผลให้คนชั้นกลางที่มีฐานกว้าง ไม่สามารถเข้าถึงได้ ขณะทาวน์เฮาส์กลายเป็นจุดเปรียบเทียบ ทั้งพื้นที่ใช้สอย ความไม่แออัดลดความเสี่ยงการอยู่รวมกันบนอาคารที่อาจทำติดโควิดหรือ โรคร้ายในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น”
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด วิเคราะห์ว่าตลาดแนวราบ เริ่มได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และเมื่อเกิดสถานการณ์ “โควิด-19” ระบาด ยิ่งตอกย้ำให้ตลาดนี้มีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะทำเลปลายทางเส้นทางรถไฟฟ้า จะเห็นได้จากค่ายใหญ่อย่างแอลพีเอ็น ยังหันมาเน้นแนวราบ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างไร หลังจากที่การแพร่ระบาดดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก จนทำให้หลายสถาบันปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้ลดลงจากกำลังซื้อที่ชะลอ
ขณะที่โครงการคอนโด มิเนียมใหม่ของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/63 ยังไม่มีการเปิดขาย แต่ยังมียอดขายที่เข้ามาจากโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ที่ได้เปิดไปในปีที่แล้วที่ยังสามารถทำยอดขายได้อยู่ โดยปัจจุบันวางแผนเปิดคอนโดมิเนียมใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 1.21 หมื่น ล้านบาท โดยจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/63 จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 1.33 หมื่นล้านบาท และในครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท
ขอบคุณข้อมูล thansettakij.com
บาทเปิด 32.41/43 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.41/43 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.46 บาท/ดอลลาร์
ตลาดรอฟังผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในระหว่างวันที่28-29 เม.ย.นี้ ว่าจะมีมาตรการเรื่อง QE ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะน่าจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดได้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นตลาดคาดว่ารอบนี้ FOMC น่าจะคงไว้ในอัตราเดิม
“ต้องรอผลประชุม FOMC ว่าจะมีนโยบายเรื่อง QE เพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนอัตราดอกเบี้ยตลาดคาดว่าจะคงไว้เท่าเดิม” นักบริหารเงินระบุ
ยิงกระจาย “แมนยูฯ” หมายตากองหน้าสถิติโหด (คลิป)
“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าว วางตัวกองหน้าจอมถล่มประตูรายนี้ เป็นเป้าหมายสูงสุดในการเสริมทัพส่าโรงละครแห่งความฝัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 29 เม.ย. ว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังวางแผนคว้าตัว มุสซา เดมเบเล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ โอลิมปิก ลียง เป็นเป้าหมายเบอร์ 1 ในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้
สำหรับ ปิศาจแดง ตกเป็นข่าวกับนักเตะหลายรายรวมถึง แฮร์รี เคน กองหน้าของทอตแนม ฮอตสเปอร์ และ จาดอน ซานโช ปีกของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่มีค่าตัว 200 ล้านปอนด์ และ 100 ล้านปอนด์ ตามลำดับ อย่างไรก็ตามจากการที่ เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหาร ออกมายืนยันก่อนหน้านี้ว่าสโมสรจะไม่ทุ่มเงินจนเกินเหตุในช่วงซัมเมอร์นี้ ทำให้พวกเขากำลังมองไปที่นักเตะที่มีค่าตัวไม่แพงจนเกินไป
ซึ่งรายงานข่าวล่าสุดจาก แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ สื่อท้องถิ่นเมืองแมนเชสเตอร์ ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วางเป้าหม่ายไปที่ มุสซา เดมเบเล ที่ซีดไปแล้ว 16 ประตู จากการลงเล่น 27 นัดในลีก เอิง ฤดูกาลนี้ เป็นเป้าหมายสูงสุดในการเสริมทัพ โดยโอลิมปิก ลียง ต้องการค่าตัวที่ 83 ล้านปอนด์
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
โรคหัวใจ หรือโควิด-19 กันแน่? อาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก แยกอย่างไร?
โรคเดียวที่พูดถึงกันไปทั่วโลกในขณะนี้ หนีไม่พ้นเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ซึ่งเกิดจากเชื้อ SARS Coronavirus -2 มาตั้งแต่ปลายปี2562โดยหนึ่งในอาการ หากติดเชื้อโควิด-19 คือ เหนื่อยหอบแน่นหน้าอกซึ่งใกล้เคียงกับอาการของโรคหัวใจบางประเภทเรามาดูวิธีสังเกตอาการว่าจะแยกออกจากโรคหัวใจได้อย่างไร
โรคหัวใจหรือโควิด-19 ต่างกันอย่างไร?
นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์หัวใจ รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า ทำความเข้าใจก่อนว่าอาการของการติดเชื้อโควิด-19 คือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโดยจะมีอาการที่ทางเดินหายใจส่วนบนเป็นอันดับแรก เช่น คัดจมูกน้ำ มูกไหล ไอเจ็บคอ ร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่นปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัว ปวดตามข้อ
หลังจากนั้นอาการจะมีการเปลี่ยนแปลงและลุกลามไปจนถึงการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง คือปอดจุดนี้ ที่จะทำให้คนไข้เริ่มมีอาการเหนื่อยเกิดภาวะเมตาบอลิซึมสูงร่วมกับการติดเชื้อในปอดทำให้ออกซิเจนในเลือดลดต่ำลง คนไข้จะหายใจหอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว ซึ่งจะมีความแตกต่างจากอาการเจ็บหน้าอกจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบคืออาการเริ่มต้นจะไม่มีอาการของไข้หวัดมาก่อน โดยมากอาการเจ็บหน้าอกจากเส้นเลือดตีบจะสัมพันธ์โดยตรงกับการออกแรงและออกกำลังกาย
อาการเหนื่อยจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอด
ขณะที่อาการเหนื่อยจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้น หากเกิดขึ้นจากภาวะน้ำเกินจะไม่มีอาการเป็นไข้หวัดนำมาก่อนหรือร่วมด้วย แต่ลักษณะอาการของโรคหัวใจล้มเหลวหรือน้ำท่วมปอดนั้นจะเป็นตอนขณะที่นอนราบและอาการจะมากขึ้นจนถึงนอนราบไม่ได้นอนลงไปแล้วจะมีอาการไอต้องนอนหมอนสูงหลายใบ และหนักสุดคือนั่งหลับเพราะนอนราบไม่ได้ สิ่งสำคัญที่ควรระวังคือ คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว หากติดเชื้อโควิด-19 จะไปกระตุ้นให้อาการของโรคหัวใจกำเริบจนแยกอาการได้ค่อนข้างยาก
ผู้ป่วยโรคหัวใจหากติดเชื้อโควิด-19 อาการจะรุนแรง
ผู้ป่วยโรคหัวใจหากติดเชื้อโควิด-19 อาการจะรุนแรง มีอัตราการเสียชีวิตได้สูงกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการหากติดเชื้อไม่ได้เฉพาะในคนที่เป็นโรคหัวใจเท่านั้นแต่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ได้แก่อายุมากกว่า 65 ปีมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรังเดิม โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคไต โรคตับแข็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอยู่เดิมล้วนแต่เป็นภาวะที่จะทำให้การติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงได้ ดังนั้นผู้ป่วยควรมีความระมัดระวังอย่างยิ่งในการดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่รักษาโรคได้โดยตรง การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว จะมีอาการแสดงมากขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิด
คนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว จะมีอาการแสดงมากขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิดคือโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงหรือล้มเหลว ถ้าได้รับเชื้อเข้าไปจะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเมตาบอลิซึมสูงขึ้น จนกระทั่งกระตุ้นให้โรคหัวใจล้มเหลวกำเริบติดเชื้อโควิดรุนแรงจนทำให้ไตวายและไตไม่สามารถขับน้ำออกจากร่างกายได้จนเป็นเหตุให้น้ำท่วมปอดซึ่งทั้งสองภาวะนี้ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้เสียชีวิตหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมามากมาย
คำแนะนำที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจควรปฎิบัติคือ
- Social distancing ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร
- ใส่หน้ากากอนามัยหมั่นล้างมือให้สะอาดสม่ำเสมอหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
- กินร้อน ใช้ช้อนของเราไม่ปนกับใคร แยกของใช้
- ไม่ไปในแหล่งระบาดแหล่งชุมชนมีประกาศไม่ให้ผู้สูงอายุออกจากบ้าน
ที่สำคัญคือ ลูกหลานต้องไม่เอาเชื้อจากนอกบ้านไปติดผู้สูงอายุในบ้าน ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและมีอาการหรือจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาหรือติดตามอาการในช่วงนี้ควรจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมีการตรวจคัดกรองโรคสวมหน้ากากอนามัยไม่ควรจะไม่มาพบแพทย์หรือเลี่ยงไม่มาปรึกษาแพทย์ถ้าอาการยังไม่สงบและยังมีอาการอยู่และที่สำคัญที่สุดไม่ควรขาดยาถ้ามาโรงพยาบาลไม่ได้ควรเตรียมยาให้พอดีหรือใช้วิธีปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางอื่นเช่น การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ หรือโทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ผ่านอุ่นใจสายด่วนของโรงพยาบาลกรุงเทพเป็นต้น
สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจหากเกิดการติดเชื้อโควิด-19
ผู้ป่วยโรคหัวใจหากเกิดการติดเชื้อโควิด-19 อาจต้องสังเกตอาการของตนเองอย่างดี ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น อาการที่คล้ายหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหลไอเจ็บคอร่วมกับอาการไข้จนถึงไข้สูงหนาวสั่นปวดเมื่อยตามตัวปวดหัวปวดตามข้อควรจะต้องรีบติดต่อสถานพยาบาลและเตรียมพร้อมที่จะมาตรวจเพื่อรักษาอาการตั้งแต่เริ่มต้น หากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายได้ ในห้วงเวลาของการระบาดเชื้อโควิด -19 โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ ขอดูแลทุกคนด้วยความห่วงใย ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
Tip เมื่อถูกชาวต่างชาติถามเส้นทาง ทำไงดี!!
เคยเป็นกันไหมครับ เมื่อถูกชาวต่างชาติเข้ามาถามเรื่องเส้นทาง แต่ไม่สามารถตอบได้ ทั้งทีรู้เส้นทางเป็นอย่างดี แต่ตอบไม่ได้ เนื่องจากนึกคำศัพท์ไม่ออก หรือ เรียงประโยคตำตอบไม่ได้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ งั้นวันนี้เรามาเรียนรู้คำศัพท์ที่ใช้สำหรับการบอกเส้นทาง และประโยคการบอกเส้นทางง่ายๆ เมื่อถูกชาวต่างชาติเข้ามาถามเรื่องเส้นทางกันครับ
** คำศัพท์ **
Go straight (โกสเตรท์) – ตรงไป Turn right (เทิรน์ไรท์) – เลี้ยวขวา
Turn left (เทิรน์เล็ฟท์) – เลี้ยวซ้าย Right side (ไรท์ไซด์) – ฝั่งขวา
Left side (เล็ฟท์ไซด์) – ฝั่งซ้าย Between (บีทวีน)-อยู่ระหว่าง
Across from (อะครอสฟรอม) – ตรงข้าม Next to (เน็กซท์ทู) – ข้างๆ
Around (อะเราน์ดฺ) – ใกล้ๆ
At the corner (แอ๊ทเดอะคอร์เนอร) – ตรงหัวมุม
**บอกเส้นทางโดยให้เดินไป
Go straight ahead as far as the traffic lights. Then turn right .
( โก สเตร้ท อะเฮด แอส ฟา แอส เธอะ แทรฟฟิก ไล้ส เธน เทิน ไร้ท )
เดินตรงไป จนถึงสัญญาณ ไฟจราจร แล้วเลี้ยวขวา
บอกจุดเริ่มต้น = You are here .
( ยู อาร์ เฮีย )
คุณอยู่ตรงนี้
When you go out of the hotel……..
( เว็น ยู โก เอ้า อ๊อฟ เธอะ โฮเทล)
เมื่อคุณออกจากโรงแรม…. จากนั้นก็ต่อด้วยข้อความต่อไปนี้
– ข้ามถนน = Cross over the road.
– เดินตรงไป = walk along the road / Walk straight on / Go straight on.
– เดินผ่านโรงเรียน = Walk pass the school / Go pass the school.
– เดินไปประมาณ 5 นาที = Walk for about 5 minutes
– สี่แยก = Intersection / crossroads
– สามแยก = Junction
– ไฟจราจร = Traffic lights
– สุดถนน = at the end of the road.
– ข้างขวา / ข้างซ้าย = on your right / left
– ติดกับโรงเรียน = next to school
– ก่อนถึงโรงเรียน = just before school
– มุมถนน = at the corner
**บอกเส้นทางโดยให้ใช้รถแท็กซี่
– You can catch a taxi / take a taxi . It will take you there in 5 minutes.
( ยู แคน แคช อะ แท็คซิ / เทค อะ แท็คซิ อิท วิวล์ เทค ยู แดร์ อิน เทน มินิทส )
คุณสามารถไปรถแท็กซี่ และจะพาคุณไปที่นั่นใน 5 นาที
**บอกเส้นทางโดยใช้รถประจำทาง
Take a number 540 bus. That’ll take you pass…(บอกสถานที่ ) and then you get off at…
(เทค อะ นัมเบอร์ 540 บัส แธทอิล เทค ยู พาสท……… แอนด์ เธน ยู เกท ออฟ แอท
ไปรถประจำทางเบอร์ 540 ก็จะผ่าน….(สถานที่) จากนั้นลงรถที่….. (บอกสถานที่)
สำนวนที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้รถประจำทาง
– ขึ้นรถ = take / catch / get on
( เทค / แคช / เกท ออน
– ลงรถ = get off.
( เกท ออฟ )
– เบอร์รถ = bus number 540 / a number 540 bus
( บัส นัมเบ่อร์ 540 / อะ นัมเบ่อร์ 540 บัส )
(ข้อสังเกต เมื่อใช้ bus number 21 จะไม่มี article ‘ a ‘ นำหน้า)
– ป้ายรถเมล์ = bus stop
( บัส สตอพ )
– รถแล่นผ่านอะไรบ้าง = It will take you pass………
( อิท วิว เทค ยู พาส ) บอกสถานที่ว่าผ่านอะไร?
เป็นยังไงกันบ้างครับ ที่นี้ก็พอจะทราบกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าหากกถูกถามเรื่องเส้นก็สามารถนำคำศัพท์ หรือประโยคเหล่านี้มาใช้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก undifteach.blogspot.com
กลุ่มทรู ส่งมอบหุ่นยนต์ให้ ร.พ.ราชวิถี
กลุ่มทรู ส่งมอบหุ่นยนต์ให้ ร.พ.ราชวิถี เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ช่วยโควิด
นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทรูได้มอบหุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G Connect & Care Tech สนับสนุนบุคลากรการแพทย์ ลดเสี่ยงแบ่งเบาภารกิจดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในโรงพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลราชวิถี
โดยกลุ่มทรู จะทยอยส่งมอบหุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G เพื่อแบ่งเบาภารกิจของบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G Connect & Care Tech มีต้นแบบจากหุ่นยนต์เทมิ ซึ่งทีมทรู โรโบติกส์ ได้พัฒนาให้มีความอัจฉริยะสามารถช่วยเหลือแพทย์พยาบาลในการดูแลผู้ป่วยในช่วงวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อควบคุมผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความเร็วสูงและความหน่วงต่ำจะทำให้ตอบสนองต่อการสั่งงานได้เร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไอโอทีที่ใช้งานร่วมด้วย ทำให้การรับส่งข้อมูลระหว่างแพทย์กับหุ่นยนต์ก็เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถพูดคุยและตอบคำถามแพทย์ได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้หุ่นยนต์อัจฉริยะ True 5G ยังทำหน้าที่เสมือนพยาบาลที่จะคอยเสิร์ฟยาและอาหารตามที่แพทย์สั่ง โดยสามารถพูดคุยกับแพทย์ได้ผ่านทางหน้าจอ ซึ่งจะช่วยเหลือทีมบุคลากรแพทย์ดูแลผู้ป่วย ไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง อีกทั้งทีมงานยังได้เพิ่มความอัจฉริยภาพให้กับหุ่นยนต์ True5G นี้โดยติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน เพื่อวัดไข้ผู้ป่วยและแจ้งเตือนได้ทันที รวมทั้งติดตั้งเจลล้างมือฆ่าเชื้อแบบอัตโนมัติที่ด้านหลังหุ่นยนต์ เพื่อช่วยเรื่องสุขอนามัย ลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สำหรับหุ่นยนต์อัจฉริยะ True5G Connect & Care Tech นี้ ได้ทยอยส่งมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ สามารถใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลสนามวชิระภูเก็ต และ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
13 สรรพคุณ…ประโยชน์ของดอกบานไม่รู้โรย สมุนไพรบริสุทธิ์เพื่อหญิงสาว ช่วยลดอาการหอบหืด
“ดอกบานไม่รู้โรย” ดอกไม้ที่ต้องอยู่ในงานพิธีมงคลต่างๆ เสมอ และในสมัยก่อนเกือบทุกบ้านจะต้องปลูกดอกบานไม่รู้โรยเอาไว้ นั่นเพราะตามความเชื่อของคนสมัยก่อนบอกว่า จะช่วยเสริมดวงในเรื่องของความรักที่ยั่งยืนและมั่นคง จนมาถึงในสมัยนี้ที่คนเราได้รู้จักกับเจ้าดอกไม้ชนิดนี้ว่ามีดีมากกว่านั้น
สรรพคุณทางยา ตำรายาพื้นบ้านของ “ดอกบานไม่รู้โรย”
เพราะดอกบานไม่รู้โรยถูกจัดให้เป็นดอกไม้สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยในตำรายาพื้นบ้านของไทยจะใช้ดอกบานไม่รู้โรยมาช่วยแก้อาการไข้ในผู้หญิงที่ไม่สบายเป็นไข้ทับฤดู เพื่อลดความร้อนในร่างกาย และยังสามารถใช้เป็นยาแก้อาการตกขาวในผู้หญิงได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงได้เสมอหากร่างกายอยู่ในภาวะไม่สมดุล ที่ต้องการการดูแลรักษาสุขภาพอย่างเร่งด่วน รวมทั้งมีสรรพคุณทางยาอีกมากที่น่าสนใจ
โดยลักษณะของดอกบานไม่รู้โรยจะประกอบด้วยดอกเล็กๆ จำนวนมากอยู่บนก้านช่อดอก ซึ่งส่วนใหญ่มีด้วยกัน 3 สี คือ สีขาว สีม่วงเข้ม และสีชมพู แต่ในการนำมาใช้ประโยชน์เพื่อตกแต่งงานพิธีและรักษาโรคมักจะนิยมใช้ดอกบานไม่รู้โรยสีขาว เนื่องจากถือว่าดอกบานไม่รู้โรยสีขาวมีความบริสุทธิ์มากกว่าสีอื่นนั่นเอง
13 สรรพคุณของดอกบานไม่รู้โรย ประโยชน์ในการรักษาโรค
1. ดอกบานไม่รู้โรยเหมาะกับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ซึ่งอาจมีอาการผิดปกติได้ง่ายอย่างการเป็นไข้ทับระดู เพราะฮอร์โมนในร่างกายกำลังมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่มีความสมดุลกัน โดยจะช่วยแก้ไข้ทับระดูได้เป็นอย่างดี
2. ดอกบานไม่รู้โรยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคมะเร็งมดลูก แก้ตกขาวและประจำเดือนมาไม่ปกติ โดยการนำดอกบานไม่รู้โรย 10-20 ดอก ต้มในน้ำเดือดประมาณ 1 ลิตร ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ และยังใช้แก้มดลูกหรือกะบังลมเคลื่อนได้ด้วย
3. ดอกบานไม่รู้โรยได้ถูกศึกษาทางเภสัชวิทยาพบว่า มีสรรพคุณช่วยละลายและขับเสมหะอย่างได้ผลชะงัด ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันจึงได้นำสารสกัดจากดอกมาเป็นยาฉีดเพื่อรักษาเสมหะกรณีที่มีมาก
4. ดอกบานไม่รู้โรยช่วยแก้อาการหอบหืด รักษาอาการไอรวมถึงการไอเป็นเลือดหรือไอกรน และบรรเทาหลอดลมอักเสบ
5. ดอกบานไม่รู้โรยมีสรรพคุณเป็นยารักษาอาการปวดหัว มีอาการเวียนหัวคล้ายจะเป็นลม
6. ประโยชน์ของดอกบานไม่รู้โรยใช้เป็นยาเพื่อแก้ตาเจ็บ ตามัว บำรุงดวงตาไม่ให้เกิดอาการผิดปกติได้
7. ดอกบานไม่รู้โรยมีสรรพคุณช่วยบำรุงปอดและตับ ทำให้การทำงานของปอดและตับดี ลดการเกิดโรคได้สูง และยังรักษาโรควัณโรคปอด
8. ดอกบานไม่รู้โรยมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ แก้โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ รักษานิ่วในทางเดินปัสสาวะ และแก้ปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะกะปริดกะปรอย
9. ดอกบานไม่รู้โรยช่วยลดอาการปวดท้อง บรรเทาอาการปวดหลัง ปวดเอว และปวดตามข้อเข่า
10. ดอกบานไม่รู้โรยเป็นยารักษาแผลผื่นคันและโรคผิวหนัง รวมทั้งช่วยแก้พิษต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
11. ดอกบานไม่รู้โรยหากนำต้นสดมาตำแล้วใช้พอกแก้ฝีหนอง แต่หากต้มทั้งต้นแล้วดื่มน้ำจะช่วยรักษาอาการหนองในและโรคกามโรคได้
12. สรรพคุณของดอกบานไม่รู้โรยช่วยเพิ่มความสดชื่น ผ่อนคลายร่างกาย ดอกบานไม่รู้โรยยังนิยมนำมาตากแห้งแล้วใช้ชงเป็นชาดอกไม้ดื่มช่วยให้ร่างกายสดชื่น จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย แต่ดอกอาจไม่มีกลิ่นหอมมากนัก สามารถจะใส่ดอกไม้แห้งที่มีกลิ่นหอมผสมด้วยก็ได้
13. ดอกบานไม่รู้โรยในรูปแบบของชาชงดื่มยังมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลของอารมณ์และจิตใจให้เป็นปกติ สงบและไม่รู้สึกกังวล ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายด้วย
เมื่อได้ทราบถึงสรรพคุณของดอกบานไม่รู้โรยว่ามีคุณค่าช่วยดูแลสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดีแล้ว ต่อไปก็อย่ามองว่าดอกบานไม่รู้โรยเป็นเพียงดอกไม้สวยๆ ที่ใช้ประโยชน์แค่ทำพานดอกไม้ ร้อยมาลัย หรือตกแต่งงานให้งดงามเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อใดที่ไม่สบายหรือยังไม่หายจากอาการเจ็บป่วยซะที ก็ให้เก็บดอกบานไม่รู้โรยมาใช้รักษากันดูก็ได้นะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,950.00 | 26,150.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,681.00 | 25,483.96 | 26,650.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,512.90 | 22,935.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,344.80 | 20,387.17 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 756.00 | 11,460.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 588.00 | 8,914.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,742.00 | 26,408.72 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29/04/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | – | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 15.04 | 15.04 | – | – | – | – | – | 15.04 | – | – |
เบนซิน 95 | 24.36 | – | – | – | 24.81 | – | 24.86 | 24.36 | – | 24.36 |
ดีเซล | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 |
ดีเซล B10 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | – | 14.89 |
ดีเซล B20 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | – | 14.64 | 14.64 | – | 14.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 21.74 | 21.76 | 23.74 | 23.74 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |