สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 04 พฤษภาคม 2563

บิ๊กเนมดิ้น  เลื่อนเปิดโครงการ  ฉุด Q2 ยอดขาย-กำไรร่วงแรง

บิ๊กเนมปรับแผนอุตลุด รับผลกระทบพิษโควิด-19 เล่นงาน เลื่อนเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 2 คาดยอดขาย กำไร ร่วงแรง นักวิเคราะห์กสิกรไทย ระบุทั้งปีไม่ต่ำกว่า 30-40%

ไตรมาส 2  ผู้ประกอบการ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประเมินกันว่า ยอดขายผลกำไรน่าจะลดลงรุนแรงไม่ต่ำกว่า 30% จาก ภาวะตลาดอ่อนตัว ความไม่มั่นใจ สถานการณ์ทั้งเศรษฐกิจ กับโรคร้าย แม้มีเงินในกระเป๋า รายได้ไม่ลดลง กลุ่มกำลังซื้อเหล่านี้ ต้องการออมเงิน ชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อรอดูท่าทีไปจนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ขณะไตรมาสแรก ผู้ประกอบการยังมีผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากยอดโอนของลูกค้าเมื่อปีที่ผ่านมาและยอดขายช่วงต้นปี จากการระบายสต๊อกแคมเปญลดราคาบ้านพร้อมอยู่ ประกอบกับ “โควิด” เริ่มปะทุในประเทศไทย ประมาณเดือนมีนาคม ซึ่งยังเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อโครงการ

สอดคล้องกับ นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียฯ สะท้อนผลกระทบโควิด-19 ว่า เริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม ที่มีมาตรการควบคุมการเดินทางและกิจกรรมสังคม ทำให้อัตราการขายใหม่ชะลอลงราว 40% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ขณะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปรับตัวขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น สำหรับในไตรมาส 2/2563 จะถูกกระทบเต็มที่ และหลายบริษัทอาจเลื่อนเปิดโครงการออกไปทำให้ยอดขายคาดชะลอตัวลงเป็นระดับต่ำสุดของปี โดยประเมินว่าคอนโดมิเนียมจะได้รับผลกระทบมากกว่าแนวราบซึ่งเป็นเรียลดีมานด์ หรือ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง

ไม่ต่างจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย ที่คาดการณ์ว่า กำไรอสังหาฯปีนี้ น่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 30%

โดยเฉพาะค่ายใหญ่ที่มีสต๊อกในมือค่อนข้างมาก แม้จะโปรโมชันออกมาช่วงพยุงในไตรมาส 2 นี้แต่น่าจะเกิดการชะลอการตัดสินใจหากเศรษฐกิจส่อแววซึมยาว

ทั้งนี้ นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถานการณ์ในช่วงไตรมาส 2 ยอดขายลดลงค่อนข้างแรง จากผลกระทบโควิด-19 ส่งผล ผู้ซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ และกลุ่มลงทุนไม่มั่นใจ โดยหายไปจากตลาดประมาณ 50% อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินรายได้ ผลกำไรลดลง เท่าใด ประกอบกับบริษัทมี ธุรกิจโรงแรม และโครงการในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกัน คาดไม่น่าเกิน 20-30%

จากผลกระทบที่เกิดขึ้น เพิ่มความรุนแรงตามลำดับ ส่งผลให้ไตรมาส 2 เป็นต้นไป บริษัทปรับแผนครั้งใหญ่ เลื่อนเปิดโครงการใหม่ออกไป 4-5 โครงการ เหลือเพียง 8 โครงการ จากเดิม 12 โครงการซึ่งเป็นบ้านแนวราบทั้งหมด และพร้อมจัดแคมเปญในเดือนพฤษภาคม นับเป็นครั้งแรก ที่บริษัทให้ส่วนลด และผ่อนให้กับลูกค้ายาวนานถึง 30 เดือน (2 ปี 6 เดือน) เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ จะก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รายได้กลับมา หรือธุรกิจเดินได้ต่อ

นอกจากนี้ ยังปรับแผนพัฒนาเน้นขยายเฟสในโครงการเดิม มากกว่าเปิดโครงการใหม่ เพื่อลดงบประมาณ ลงทุนสาธารณูปโภค อีกทั้งจำนวนหน่วยจะเน้นตามที่ลูกค้าต้องการ และผลิตไว้เผื่อขายในระยะ2 เดือน โดยไม่ผลิตมาก เพื่อตุนไว้ขายในระยะยาว 5-6 เดือนข้างหน้าเหมือนเช่นเคยอีกต่อไปเพื่อรักษา กระแสเงินสด (แคชโฟลว์)

“ไตรมาส 2 กำลังซื้อตลาดอ่อนลงมาก ทำให้บริษัทต้องตั้งรับ ปรับแผนใหม่โดยเฉพาะการช่วยเหลือลูกค้าให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้”

  สอดคล้องกับ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ยอมรับว่าไตรมาสแรก ผลประกอบการค่อนข้างดี แต่ไตรมาส 2 ทั้งยอดขาย รายได้ ผลกำไร น่าจะปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง และเชื่อว่ากระทบลักษณะเดียวกันทุกค่าย แต่คาดว่าไม่น่าลดลงมากถึง 40-50% เพราะต่าง กิจกรรมตลาดพยุงอยู่ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าไตรมาส 3 สถาน การณ์จะเริ่มดีขึ้น

ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย ระบุว่าผลกระทบโควิด ส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง อยู่ที่ 5,720 ล้านบาท ขณะที่ช่วงไตรมาส 2 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานในการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะมีการเลื่อนเปิดตัวบางโครงการใหม่ออกไป พร้อมกับการออกโปรโมชัน แคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายในโครงการต่างๆ ที่มีสต๊อกอยู่ในมือรวมประมาณ 1.3 -1.4 หมื่นล้านบาท ส่วนเป้าหมายยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์รวมทั้งปี 2563 นั้น อยู่ระหว่างการประเมิน ซึ่งคาดจะมีความชัดเจนหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงแล้ว ทั้งนี้ เดิมเป้ายอดขายตลอดทั้งปี ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท เป้ารายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท

ส่วน บมจ.เสนา ปรับแผนดำเนินธุรกิจ หลังคาดการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจไทยชะลอตัวยาวนาน ประมาณ 2 ปี เบื้องต้นบริษัทจะชะลอการเปิดโครงการใหม่กลุ่มคอนโดมิเนียมตึกสูงขนาดใหญ่ (JV) ทั้งหมด คงไว้แต่คอนโดฯโลว์ไรส์ ราคาต่ำกว่าล้านบาท (BOI) จำนวน 4 โครงการ และเดินหน้าแผนพัฒนาในกลุ่มแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ตามปกติอีก 5 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 6 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนยอดขายตลอดทั้งปี 2563 เนื่องจากต้องการลดต้นทุนบางส่วนลง จากเดิมต้นปี ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1.15 หมื่นล้านบาท และเป้ารายได้ที่ 10.6 หมื่นล้านบาท สำหรับ บมจ.เอพี ต่างปรับตัวชะลอโครงการออกไปเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นแนวราบมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปิด“จิณณ์เวลบีอิ้ง” ป้องภัย“โควิด-19” ดูแลผู้สูงวัย 24 ชม.

ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ปกป้องผู้สูงอายุ พ้นภัยโควิด-19 ยกระดับ โครงการ“จิณณ์ เวลบีอิ้ง” ดูแลเข้ม 24 ชั่วโมง มั่นใจไม่มีโอกาสรับเชื้อจากภายนอก

ผู้สูงอายุ กลายเป็นกลุ่มเปราะบาง ที่บุตรหลานต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป แนะทางเลือกการดูแลสุขภาพ ปกป้องผู้สูงวัยให้ปลอดภัยห่างไกลจาก COVID-19

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือCOVID-19 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าไวรัสชนิดนี้จะคงอยู่ยาวนานต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน จนก่อให้เกิดความกังวลใจในกลุ่มผู้สูงวัย ทั้งที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีโรคประจำตัว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงเมื่อได้รับเชื้อ

นพ.บุญ วนาสิน

ล่าสุด ได้เปิดพื้นที่ “จิณณ์ เรสซิเดนซ์” ภายใน โครงการ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง” ให้บริการสำหรับผู้ที่มองหาที่พักที่ปลอดภัย มีการดูแลรักษาเพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ให้รู้สึกอุ่นใจในสถานที่ที่ปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ในบรรยากาศเสมือนบ้าน มีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีบริการเกี่ยวกับกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย จาก Jin Wellness Clinic ที่ให้บริการในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพในระยะยาวแบบบูรณาการ ด้วยการออกแบบโปรแกรม กิจกรรมเพื่อป้องกัน และชะลอความเสื่อมจากโรคภัยแบบเฉพาะบุคคลอีกด้วย

“เรียกได้ว่า ที่จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงวัยระยะยาวโดยมีโรงพยาบาลธนบุรีบูรณาอยู่ในบริเวณเดียวกัน”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“อุตตม” สั่งคลังแบงก์รัฐดูแลประชาชนร้องทุกข์5พันบาท

"อุตตม" สั่งคลังแบงก์รัฐดูแลประชาชนร้องทุกข์5พันบาท

คลังย้ายจุดรับคำร้องกลุ่มชวด 5,000 บาท เปิดใหม่วันที่ 5 พ.ค.ใต้ทางด่วน พร้อมจัดทีมรับมือเต็มรูปแบบ

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 2-4 พ.ค.2563 เป็นวันหยุดรายการ ดังนั้น กระทรวงการคลัง ไม่ได้เปิดให้มีการตั้งโต๊ะรับร้องเรียนผู้เยียวยา ผู้ไม่ได้รับสิทธิ์ 5,000 บาท และจะกลับมาเปิดในวันที่ 5 พ.ค.2563 โดยกระทรวงการคลัง ได้เปลี่ยนพื้นที่ให้บริการผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นบริเวณลานจอดรถใต้ทางด่วน ริมคลองประปา หน้าประตู 1-2 กระทรวงการคลัง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เนื่องจากสามารถปิดการจราจร และรองรับคนที่เดินทางมาร้องเรียนได้

นอกจากนี้ นายธนกร กล่าวว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้สั่งการให้วันที่ 5 พ.ค.2563 คลังจะจัดเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ที่มาร้องเรียนที่กระทรวงการคลังเต็มรูปแบบ ตามมาตรฐานการป้องกันโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข เช่น มีการตรวจวัดอุณหภูมิ มีการจัดเจ้าหน้าที่บริการให้เพียงพอ แยกส่วนชัดเจน ไม่เหมือน 2 วันแรก และจะมีการ เรียกผู้บริหารสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งมั่นใจว่า สถานการณ์ที่คนเดินทางมาร้องเรียนจะคลี่คลายลง คลังพร้อมที่จะดูแลผู้ได้รับผลกระทบทุกคน

ทั้งนี้ ภายหลังจากนี้ นายอุตตม ได้มีคำสั่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ให้ผู้บริหารสูงสุดและเจ้าหน้าที่ ลงมาช่วยเหลือประชาชน ที่เดินทางมาร้องเรียน 5,000 บาท ทำให้ บรรยากาศเดินทางการมาร้องเรียนภาพรวมในวันที่ 2 (1 พ.ค.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากขึ้น แม้ว่าจะมีคนมาร้องทุกข์ถึง 1,500 คน

สำหรับผู้บริหารที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมจุดร้องเรียนตามคำสั่ง รมว.คลัง ได้แก่ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เเละนายปิยกร อภิบาลศรี ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีธนารักษ์ ส่วนนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์ได้ลงพื้นที่ในเขตคลองเตย

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งจ่ายเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการ โดยคาดว่าภายในวันที่ 8 พ.ค. 2563 จะสามารถจ่ายเงินได้ 11 ล้านคน โดยภายในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. นี้จะจ่ายได้ 2.6 ล้านคน แบ่งเป็น วันที่ 1 พ.ค. จ่ายได้ 1 แสนคน ผ่านระบบของธนาคารกรุงไทย และในวันที่ 4 พ.ค. จะจ่ายได้อีก 1 แสนคน และวันที่ 5 พ.ค. 2563 คาดว่าจะจ่ายได้ 1 ล้านกว่าคน

ขณะที่มีผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาแจ้งคืนสิทธิ์แล้ว 3.1 พันคน และมีการยกเลิกการลงทะเบียน/ยกเลิกการทบทวนสิทธิ์ ทั้งสิ้น 9 แสนคน ส่วนการยกเลิกการยกเลิกทบทวนสิทธิ์ ที่เปิดให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 1 พ.ค. 2563 พบว่าจนถึงเวลา 10.00 น. มีคนลงทะเบียนแล้ว 9 หมื่นคน โดยยืนยันว่าขณะนี้กระทรวงการคลังให้ความดูแลและช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่ม

“ย้ำอีกครั้งว่าวันนี้สิ่งที่ดีที่สุดก่อนจะมาคลัง คือ ให้เข้าไปดูที่เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยเฉพาะกลุ่มสีเท่าที่ต้องตรวจสอบสถานะ หลายคนไม่ได้ดูว่าท่านผ่านแล้ว ท่านได้สิทธิ์แล้ว แต่รอการจ่ายเงิน ก็อยากให้เข้าไปตรวจสอบก่อนเพื่อจะได้สบายใจ คลายความกังวลว่าจะได้หรือไม่ได้เงิน 5 พันบาท ซึ่งปัจจุบันข้อมูลอัพเดทแล้วว่ามีผู้ได้รับสิทธิ์ 11 ล้านคน ตรงนี้จะเป็นการช่วยเหลือที่เร็วที่สุดมากกว่าการมาคลัง” นายลวรณ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


สธ. แนะอาหารสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สู้โควิด-19

สธ. แนะอาหารสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สู้โควิด-19 thaihealth

สธ.แนะ “อาหาร” สร้างระบบภูมิคุ้มกัน สู้โควิด-19 เน้นวิตามินสูง และเกลือแร่ ย้ำกินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ

เมื่อวันที่ 30  เม.ย.63  ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า   จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ คาดว่าเราจะยังต้องอยู่กับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรค ประชาชนจึงต้องปรับการใช้ชีวิตในวิถีใหม่ (New Normal)

นอกจากการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และสิ่งสำคัญคือการดูแลตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารถูกหลักโภชนาการทุกกลุ่มวัย แนะนำให้มีความหลากหลาย มีผักผลไม้ทุกมื้อ ในเด็กให้กินนมจืดวันละ 1-2 แก้ว และเด็กทารกกินนมแม่ 

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า ขอให้เลือกกินอาหารที่มีวิตามิน เกลือแร่สูง เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้แก่ วิตามินซี ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาว ขจัดเชื้อโรค ต้านภูมิแพ้ ลดการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ลดการจาม น้ำมูกไหล มีมากในผักผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เงาะ พริกหวานแดง พริกหวานเขียว ผักคะน้า บรอกโคลี มะระขี้นก และวิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันกรดไขมันไม่อิ่มตัวและส่วนประกอบเยื่อหุ้มเซลล์ของอวัยวะในร่างกายถูกทำลาย มีมากน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว ถั่วลิสง ไข่ไก่ รวมทั้งวิตามินดี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบใน เห็ดหอม ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ปลาแซลมอน ปลานิล ไข่แดง และในแสงแดด 

สำหรับแร่ธาตุได้แก่ ซีลีเนียม ช่วยอนุมูลอิสระที่ทำอันตรายต่อเซลล์หรือเปลี่ยนแปลงเซลล์ปกติให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง และเสริมการทำงานของวิตามินซี และวิตามินอี ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ พบในปลาทูสด ไข่ ปลาจาระเม็ดสด เนื้อปูต้มสุก   หากขาดซีลีเนียมจะติดเชื้อได้ง่าย และแร่ธาตุที่จำเป็นอีกชนิดหนึ่งคือ สังกะสี ช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคและการเจริญเติบโต พบมากในเนื้อสัตว์สันใน และเครื่องในสัตว์ หอยนางรม ไข่ นม ปลา      

นอกจากนี้ แนะนำเมนูชูสุขภาพช่วยเสริมภูมิต้านทานที่มีใบกะเพรา และพริกขี้หนูเป็นส่วนประกอบ เช่น  ผัดกะเพราปลา ไข่เจียวกะเพรา  ต้มยำปลาทู สปาเกตตีขี้เมาทะเล เป็นต้น โดยกะเพรามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดปวด ต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงเกิดมะเร็ง ส่วนพริก มีวิตามินซีสูง กระตุ้นความอยากอาหาร ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยการเผาผลาญพลังงาน และบำรุงสายตา

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th

ส.จักรยานเล็งปรับศึกชิงแชมป์ประเทศไทย หากโควิด-19 ไม่ดีขึ้น

สมาคมกีฬาจักรยานฯ พร้อมปรับรูปแบบการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยทุกประเภท หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย ด้าน “พลเอกเดชา” เผยเตรียมวางแผนรับมือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด รวมไปถึงศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” มีการประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิด ส่วนโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” สัปดาห์ที่ 3 สุดคึกคัก เปิดโอกาสให้แฟนจักรยานทางบ้านร่วมปั่นกับนักกีฬาทีมชาติ มีผู้ชมผ่านการ live บนเฟซบุ๊กของ “ไทยพีบีเอส” ยอดถล่มทลายเกือบ 4 แสนวิว

วันที่ 3 พ.ค.63 พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19

สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้ปรับเปลี่ยนการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2563 จากทั้งหมด 5 สนาม ให้เหลือ 4 สนาม โดยตัดสนามที่ จ.ตราด ออกไป เพื่อเป็นการลดภาระของจังหวัด เนื่องจากในปีนี้ จ.ตราด จะต้องเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 “ช้างขาวเกมส์” และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “ตราดเกมส์”

พลเอกเดชา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะลดการแข่งขันเหลือ 4 สนามแล้ว ก็ยังต้องดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรงเชื้อไวรัส-19 อย่างใกล้ชิด หากผ่านเดือน พ.ค. ไปแล้ว การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลายลง หรือรัฐบาลประกาศขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก สมาคมฯ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนโปรแกรมใหม่ หรือต้องเปลี่ยนแปลงการแข่งขันบางประเภท เช่น การแข่งขันจักรยานประเภทถนนโร้ดเรซ อาจจะยกเลิก แล้วให้แข่งขันไทม์ไทรอัลแทน ซึ่งรูปแบบการแข่งขันเป็นการปล่อยตัวนักกีฬาทีละคน ผู้ที่ทำเวลาเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ แต่ทั้งนี้นักกีฬาที่แข่งขันทั้ง 2 ประเภทก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเอาไว้ก่อน ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็จะจัดแข่งขันตามรูปแบบเดิม

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า ส่วนประเภทเสือภูเขา ครอสคันทรี่ อาจจะปรับเป็นการแข่งขันอิลิมิเนเตอร์ ซึ่งปล่อยตัวทีละ 4 คน คัดเอา 2 คนผ่านเข้ารอบต่อไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยใช้เส้นทางแข่งขันที่ไม่ยาวมากนัก ขณะที่ประเภทดาวน์ฮิล คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการปล่อยตัวมาทีละคนอยู่แล้ว ให้แข่งขันตามรูปแบบเดิม ด้านการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ก็เช่นกัน ไม่มีปัญหาเรื่องความใกล้ชิดของนักกีฬา เนื่องจากเวลาปล่อยตัวออกจากเกตสตาร์ต นักกีฬาจะอยู่ช่องของแต่ละคน มีระยะห่างชัดเจน และใช้เวลาแข่งขันในระยะสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้วางมาตรการเข้มงวดเรื่องของกองเชียร์หรือผู้ปกครองที่ติดตามนักกีฬาเข้ามาในสนาม ต้องให้รักษายะยะห่างกัน มีจุดคัดกรองก่อนเข้าสนาม มีการวัดไข้ แจกหน้ากากอนามัย และแจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และห้ามเข้าไปใกล้พื้นที่ในส่วนที่นักกีฬาทำการแข่งขัน

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2020” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ซึ่งสมาคมฯ ได้กำหนดเลื่อนไปแข่งขันระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. เส้นทางจาก จ.สมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-สุราษฎร์ธานี ก็จะมีการวางมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส-19 อย่างเข้มงวด โดยในพิธีเปิดการแข่งขันและการมอบรางวัลประจำวัน จะจำกัดผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนไม่เกิน 20 คน ลดขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ ให้กระชับ รวมทั้งวางแผนการคัดกรองอย่างละเอียดทุกจุด

“สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ส่งคณะทำงานมาวางแผนร่วมกับ ฝ่ายแพทย์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ นำโดย นพ.เอกลาภ ทองบริสุทธิ์ อุปนายกฝ่ายแพทย์ อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กินเวลาออกไปนานหลายเดือน สมาคมฯ ก็ได้วางแผนหาทางออกเตรียมการไว้แล้ว ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว

“ซูเปอร์หมึก คึกกว่า5G” กล่าวเสริมอีกว่า ในสถานการณ์ที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดทำโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานออนไลน์ หรือ E-Cycling ผ่านแอปพลิเคชัน “Zwift” ทุกวันอาทิตย์ โดยมีนักกีฬาจักรยานทีมชาติทั้งชายและหญิงมาแข่งขันกัน มีการถ่ายทอดสดทางไทยพีบีเอส เวลา 14.00-16.00 รวมทั้งการ Live บนเฟซบุ๊กแฟนเพจของไทยพีบีเอส และเฟซบุ๊กของสมาคมกีฬาจักรยานฯ Thaicycling Association ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับจากแฟน ๆ จักรยานทั่วประเทศ มียอดผู้เข้าชมบนเฟซบุ๊กของไทยพีบีเอสแต่ละครั้งมากกว่า 3 แสนวิว โดยการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. มียอดผู้ชมรวมแล้วเกือบ 4 แสนวิว นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

สำหรับโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. กลุ่มนักปั่นชายทำการแข่งขันในลูป Watopia Figure 8 ส่วนกลุ่มนักปั่นหญิง แข่งขันในเส้นทางโบโลญญา แต่ครั้งนี้เปิดโอกาสให้แฟน ๆ จักรยานทางบ้านมาร่วมแข่งขันกับนักปั่นทีมชาติไทย ซึ่งแบ่งเป็นระดับ A คือนักปั่นทีมชาติไทย และทีมอาชีพ ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม, ระดับ B คือผู้ที่มีความชำนาญในโปรแกรม Zwift และระดับ C คือนักปั่นมือสมัครเล่นทั่วไป สำหรับผู้ที่ชนะเลิศอันดับ 1-3 ของระดับ A และผู้ชนะเลิศอันดับ 1-10 ของระดับ B จะได้รับโล่เกียรติยศจาก พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ

ทั้งนี้ แฟนกีฬาจักรยาน สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “กล่องข้อความ” ในเฟซบุ๊ก.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


“กลัว” ในภาษาอังกฤษพูดว่าอย่างไร? I’m running scared.

scared Scary กลัว ภาษาอังกฤษ ความกลัว คําศัพท์ภาษาอังกฤษ น่ากลัว ประโยคภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ภาษาอังกฤษน่ารู้ ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

“กลัว” เป็นความรู้สึกที่ทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์ ไม่ว่าจะจากการดูหนังสยองขวัญที่ทำให้หัวใจเราเต้นรัวๆ หรือทำอะไรผิดมาแล้วกลัวแม่ดุ น่ากลัว ในภาษาอังกฤษเราจะคุ้นเคยกับคำว่า Scary (Adj.) เราลองมาดูคำศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับความกลัวกันค่ะ

“กลัว” ในภาษาอังกฤษพูดว่าอย่างไร?
I’m running scared.

  • Scared of

ตามด้วยคำนาม แปลว่า กลัวอะไรบางอย่าง

เช่น I’m scared of your mother. : ฉันกลัวแม่เธอ

I’m scared that I will fail you. : ฉันกลัวว่าฉันจะทำให้คุณผิดหวัง

  • Frightened (adj.)

แปลว่า รู้สึกกลัว

เช่น Emmie was so frightened when Luke yelled at her. : เอมมี่กลัวมากตอนที่ลุคดุเธอ

  • Afraid (adj.)

แปลว่า รู้สึกกลัวรู้สึกเกรง

เช่น I’m afraid of losing you. : ฉันกลัวจะเสียเธอไป

  • Fear (v.)

แปลว่า กลัว

เช่น I don’t fear anything. : ฉันไม่กลัวอะไรเลย

  • Terrified (adj.)

แปลว่า รู้สึกกลัว

เช่น It is so terrified when I saw the car accident. : มันน่ากลัวมากตอนที่ฉันเห็นอุบัติเหตุ

  • Wuss (n.)

แปลว่า คนป๊อด คนขี้กลัว ขี้ขลาด

เช่น Bank is a wuss. : แบงค์เป็นคนขี้ป๊อด

ฉันกลัวมากๆ มันโคตรน่ากลัวเลย สามารถพูดเป็นภาษาอังกฤษได้อีกหลายแบบเลย เช่น

– I’m shaking like a leaf. : ประมาณกลัวไปหมดแล้ว กลัวจนสั่นเหมือนใบไม้ที่โดนลมแรงๆ

– I’m so terrified : ฉันรู้สึกกลัวมากไม่ไหวแล้ว

– It makes my blood run cold. : ฉันกลัวจนมือชา หน้าซีดเย็นไปหมดทั้งตัวละเนี่ย (อารมณ์แบบกลัวจนหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปละ)

– It gives me the creeps. : มันทำให้ฉันขนลุก

– I’m scared stiff. : กลัวจนแข็งไปหมดแล้ว กลัวแบบขาแข็งเดินไม่ได้ทำอะไรไม่ถูก

– I’m scared to death. : กลัวจนจะตายอยู่แล้ว โคตรกลัวเลยอ่า

– I’m running scared. : ฉันกำลังกลัว

– I’m scared as hell! : ฉันกลัวชิบหายเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com


เสียวหมี่เปิดตัว Mi 10 เรือธงราคาเริ่มต้น 27,999 บาท

เสียวหมี่เปิดตัว Mi 10 ในไทย  เผยโฉมสมาร์ทโฟนเรือธงโดดเด่นด้านถ่ายวิดีโอ  รองรับ 5G  จำหน่าย 8 พ.ค. ราคาเริ่มต้น 27,999 บาท

มร.หลู   เหว่ยปิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเสียวหมี่ ประเทศจีน เผยว่า หลังจากบริษัทได้ประกาศเปิดตัว Mi 10 Series ไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา  ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างมาก สามารถสร้างยอดจำหน่าย Mi 10 Series ทะลุไปกว่า 1 ล้านเครื่องในประเทศจีน  แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวท่ามกลางสภาวะการแพร่ระบาดของ  COVID-19 ก็ตาม นอกจากนี้เสียวหมี่ พร้อมแนะนำ Mi 10 Series ไปตลาดทั่วโลกด้วยเช่นกัน  

Mi 10 อวดศักยภาพที่ให้ประสบการณ์การใช้งานอันน่าทึ่งของสมาร์ทโฟนเสียวหมี่  รังสรรค์ภาพตามต้องการ: กล้อง 4 ตัว มาพร้อมเซ็นเซอร์ให้ภาพคมชัดระดับ 108 ล้านพิกเซล ให้เก็บทุกภาพและวิดีโอสวยดั่งใจปรารถนา   ทั้งมาพร้อมประสิทธิภาพด้านการถ่ายภาพและวิดีโอที่ยอดเยี่ยมด้วยระบบฮาร์ดแวร์ชั้นเลิศ   ผสานเข้ากับฟีเจอร์ซอฟแวร์สุดล้ำ อัดแน่นไปด้วยเซ็นเซอร์หลัก 108 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนในตลาด ณ ขณะนี้ 

นอกจากมอบการถ่ายภาพคมชัดขั้นสุดถึงระดับ 108 ล้านพิกเซลแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถบันทึกเรื่องราวแบบเต็มมุมมองด้วยเลนส์ ultra-wide ที่ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซลใน Mi 10 อีกด้วย 

กล้องหลักที่มาพร้อมเลเซอร์ออโต้โฟกัสมีทั้ง โหมด AI 2.0, Night mode 2.0 หรือ โหมดกลางคืน และแฟลชคู่ผสานพลังกันเพื่อเก็บภาพรายละเอียดคมกริบระหว่างวันและในที่ที่มีแสงจ้าได้อย่างดีเยี่ยม  ตลอดจนให้ภาพสวยชัดแม้ในยามกลางคืน  

ตัวเครื่องมาพร้อมเทคโนโลยีระดับผู้นำตลาดที่มีฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ 8K 30 เฟรมเรตต่อวินาทีเพื่อเก็บทุกรายละเอียดและสามารถรับชมได้แม้กระทั่งรายละเอียดที่เล็กที่สุด  และมีโหมดวิดีโอต่างๆ อาทิ  Portrait Video, Color Focus, ShootSteady, Vlog และ Slow Motion ให้คุณสามารถรังสรรค์วิดีโอคุณภาพเดียวกับการถ่ายทำภาพยนตร์ได้อย่างง่ายดาย Mi 10 ยังมาพร้อมโหมดโปร ที่มีตัวเลือกซอฟแวร์เพิ่มเข้ามาสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพวิดีโอแบบมืออาชีพ  

สัมผัสประสบการณ์เสียงที่ดีที่สุดระดับโลก   ด้วยพลังลำโพงเสียงแบบคู่ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว  ด้วยฮาร์ดแวร์ของระบบเสียงที่ดีที่สุด Mi 10 มีระบบลำโพงเสียงแบบคู่ ที่ถูกออกแบบมาให้มีพลังเสียงสมมาตรกันทั้งหัวและท้าย ด้วยสองลำโพงแบบ 1216 super-linear และ speaker chamber เทียบเท่า 1.0 cc ที่มีแอมพลิจูดสูงถึง 0.5 มม. ทั้งสองลำโพงนั้นถูกออกแบบขึ้นมาพิเศษ  เพื่อให้รองรับเสียงทุกระดับและช่วยในการผลิตเสียงคุณภาพดี และการผสานเข้ากันอย่างลงตัวมอบประสบการณ์พิเศษสุดให้ดื่มด่ำไปกับสุนทรียะของเสียงถึงขีดสุด  

เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์เรียบหรู  หน้าจอแสดงผลสีสันสวยสมจริง  เมื่อความงามด้านดีไซน์ผสานเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว  จนเกิดเป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์หรูไม่เหมือนใคร Mi 10 มาพร้อมดีไซน์โค้งมนแบบสามมิติทั้งหน้าและหลัง ขอบเรียบลื่นและบาง  ทำให้หยิบจับกระชับมือสำหรับผู้ใช้งาน Mi Series ทุกคน และเพื่อความทนทานตัวเครื่องฝาหน้าและฝาหลังยังใช้เทคโนโลยี Corning® Gorilla® Glass 5  และฝาหลังมันวาว นอกจากนี้ตัวกล้องหน้าถูกออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเทคนิคการซ่อนกล้องใต้หน้าจอ หรือ In-Display Front Camera  เพื่อให้มีพื้นที่แสดงผลหน้าจอได้มากขึ้น

หน้าจอโค้งมนขนาด 6.67 นิ้ว แบบ AMOLED DotDisplay ที่มาพร้อมเทคโนโลยี TrueColor ที่ให้ค่าสีที่สมจริง Mi 10 เทคโนโลยีของหน้าจอรูปแบบใหม่นี้  มอบภาพที่สวยสว่างขึ้นกว่าเดิม (ค่าความสว่างสูงสุดได้ถึง 1120nit)  และยังประหยัดพลังงานมากกว่ารุ่นก่อนๆ  พร้อมทั้งยังมีหน้าจอแบบ SmoothSync Display ด้วยความเร็วสูงสุด 90 เฮิรตซ์ เพื่อให้หน้าจอทำงานได้เร็วลื่นไหลไม่กระตุก

หน้าจอ Mi 10 แสดงผลที่ดีที่สุดของเสียวหมี่ dual brightness sensors สามารถตรวจจับความความสว่างได้อย่างแม่นยำ ขณะที่โหมดปรับค่าความสว่างบนหน้าจอถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณสบายตามากที่สุด  ทั้งสองรุ่นนั้นได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland เพื่อลดแสงสีฟ้าและรองรับ HDR10+ เพื่อประสบการณ์การรับชมแบบคมชัด 
ประสิทธิภาพและความเร็วสูงสุดด้วย Snapdragon™  865 + LPDDR5 + UFS 3.0

Mi 10 มาพร้อมชิปเซ็ตเรือธงที่รองรับ 5G ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 865 5G Mobile Platform พร้อมยกระดับ CPU, GPU, ประสิทธิภาพ AI และประสบการณ์การใช้งานโดยรวม ชิปเซ็ตขนาด 7 นาโนเมตร มีความเร็วสูงสุด 2.84 GHz มาพร้อม Kyro™ 585 บนสถาปัตยกรรม ARM Cortex-A77 และยังปรับปรุงด้านการประหยัดพลังงานอีกด้วย ชิปเซ็ตทรงพลังนั้นถูกเสริมทัพด้วยด้วยความเร็ว Ultra high-speed RAM พร้อมการจัดเก็บข้อมูลแบบ LPDDR5 และ UFS3.0 รองรับการประมวลผลการอ่านเขียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

รุ่นนี้มาพร้อมนวัตกรรมระบายความร้อน LiquidCool 2.0 ที่มีระบบ vapor chamber ขนาดใหญ่รวมไปถึงการใช้แกรไฟต์และแกรฟีนหลายชั้นเพื่อระบายความร้อน  เมื่อมีการใช้งานที่ยาวนาน   เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานคอนเทนต์ด้วยความเร็วสูงในยุค 5G  Mi 10 ไม่เพียงแต่รองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ MultiLink ของ 5G** ได้ถึงสามเครือข่าย (2.4GHz/5GHz Wi-Fi และดาต้าของโทรศัพท์มือถือ) ในคราวเดียว เพื่อการสลับการเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi 6* ซึ่งเป็น Wi-Fi ที่มีมาตรฐานที่ล้ำหน้าที่สุดในตอนนี้ได้อีกด้วย ทำให้อัตราความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ช่วยลดปัญหาการเชื่อมต่อของเครือข่ายเมื่อเชื่อมต่อกับหลายอุปกรณ์พร้อมกัน   

เมื่อการชาร์จแบบไร้สายของแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาดใหญ่ผสานเข้ากับระบบ Ultra-Realistic Haptic Feedback จึงได้ผลลัพธ์เป็นประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนแบบเหนือระดับ  มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4780mAh ชาร์จผ่านสายและไร้สาย 30 วัตต์ รวมไปถึงการชาร์จจากตัวเครื่องไปยังอุปกรณ์อื่นได้เช่นกัน   ด้วยระบบ Ultra-Realistic Vibration System ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อการทำงานที่ดีขึ้น ให้การสั่นแบบเสมือนจริงและพร้อมตอบสนองต่อการสัมผัสที่ดีขึ้นกว่าแบบเดิม มีตัวเลือกรูปแบบการสั่นให้เลือกมากถึง 150 ตัวเลือก    มี Multifunctional NFC และมี IR Blaster ทำหน้าที่เป็นรีโมทสำหรับควบคุมอุปกรณ์และสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้หลายอย่าง 

สำหรับประเทศไทย Mi 10 ความจุ 8GB + 256GB  มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Twilight Grey และ Coral Green จะวางจำหน่ายพร้อมกันวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ในราคา 27,999 บาท ทั้ง 3 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Shopee, Lazada และ JD Central, Mi Stores และร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่อย่างเป็นทางการ อาทิ TG FONE สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เดอะ มอลล์ บางกะปิ, เซ็นทรัล พระราม 9, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, Com7 สาขาแฟชั่นไอแลนด์, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล เวสต์เกต, Jaymart สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเวิลด์ และเดอะ มอลล์ บางกะปิ ทั้งนี้การเปิดจำหน่ายผ่านทางร้านค้าทั่วไป ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


16 สรรพคุณ…ประโยชน์ของดอกแก้ว คุณค่าที่มีมากกว่าความหอม

สรรพคุณ ประโยชน์ของดอกแก้ว

หากจะพูดถึงดอกไม้ไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นหอม มีความโดดเด่นในกลิ่นหอมเย็น จนชาวต่างชาติชื่นชอบก็เป็น “ดอกแก้ว” ที่คนนิยมนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย แต่นอกจากดอกแก้วจะมีกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจด้วย

“ดอกแก้ว” สรรพคุณดี ไม่ใช่แค่ดอก แต่มีประโยชน์ทั้งต้น

ดอกแก้วสีขาวสวยที่เราเห็นกันนี้มีสรรพคุณเป็นยาได้ด้วย และที่น่าแปลกใจคือคนสมัยโบราณใช้ประโยชน์จาก “ต้นแก้ว” ได้เกือบทุกส่วน ทั้งดอก ใบ ก้าน และราก ต่างก็มีสรรพคุณทางยาทั้งสิ้น เช่น ใบแก้ว หากนำไปตำให้ละเอียดจะใช้พอกผิวแก้ผด หรือจะนำไปต้มน้ำดื่มแก้ปวด แก้อักเสบก็ได้อีก นอกจากเรื่องของสรรพคุณทางยาแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าต้นแก้วนั้นนอกจากจะมีดอกที่สวยงามแล้วยังมี “ผลแก้ว” อีกด้วย โดยผลของมันจะมีสีแดงสด ถ้าแก่มากๆ บริเวณเปลือกจะเหี่ยวย่นคล้ายๆ เก๋ากี้ ชาวมาเลเซีย และอินโดนีเซียนิยมนำผลแก้วมาสกัดเป็นยาลดน้ำหนัก แต่ยังไม่มีการวิจัยทางการแพทย์ที่แน่ชัดว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริง

นอกจากนี้ดอกแก้วยังเป็นดอกไม้ที่คนสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ จึงนิยมนำมาใช้สักการะบูชา และเชื่อว่าช่วยชำระล้างจิตใจให้สงบ โดยนำดอกแก้วมาวางไว้ที่หัวนอนเพื่อให้ได้กลิ่นหอมๆ ก่อนเข้านอนแล้วจะทำให้ใจเย็นลงได้ แต่นอกจากความเชื่อเรื่องที่ว่าจะทำให้จิตใจสงบร่มเย็นได้นั้นนักบำบัดด้วยกลิ่นได้วิจัยแล้วว่ากลิ่นของดอกแก้ว หรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหวานเย็นใกล้เคียงกันเหล่านี้ จะช่วยบำบัดความเครียดซึ่งทำให้จิตใจสงบได้จริงๆ จึงมีการรักษาบำบัดผู้ป่วยโรคเครียดโดยการบำบัดด้วยกลิ่นต่างๆ นั่นเอง

16 ประโยชน์และสรรพคุณของดอกแก้ว

1. ดอกแก้วและใบแก้วมีสรรพคุณช่วยแก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ

2. ประโยชน์ของดอกแก้วช่วยทำให้ผ่อนคลาย

3. ดอกแก้วช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ

4. ใบ และก้านของดอกแก้วมีสรรพคุณช่วยแก้ปวด แก้อักเสบได้

5. นำใบดอกแก้วมาต้มสามารถใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

6. รากของต้นแก้วมีสรรพคุณเป็นยาแผนไทยที่ช่วยขับลม

7. ประโยชน์ของดอกแก้วช่วยให้เลือดไหลเวียนดี

8. ใบและดอกแก้วมีประโยชน์ช่วยขับลมและแก้ท้องเสีย

9. ใบ รากและดอกแก้วมีสรรพคุณช่วยแก้บิด

10. สรรพคุณของรากต้นแก้วช่วยให้หญิงตั้งครรภ์คลอดลูกได้สะดวก

11. รากต้นแก้วช่วยแก้ฝีในมดลูกได้

12. รากสดช่วยรักษาแผล นำมาพอกที่แผลช่วยแก้อักเสบได้

13. ใบและกลีบดอกแก้วมีสรรพคุณช่วยลดผื่นคันจากแมลงกัดต่อย

14. ประโยชน์ของใบแก้วช่วยแก้รอยเขียวช้ำ แผลฟกช้ำดำเขียว

15. กลิ่นของดอกแก้วช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

16. กลิ่นของดอกแก้วช่วยให้นอนหลับสบาย

กลิ่นดอกแก้ว

เคล็ด (ไม่) ลับของการปลูกต้นแก้ว

ต้นแก้วจะมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ลักษณะของใบมีความมนเล็ก และหนา สามารถนำไปใช้ทำยาแผนโบราณได้ ตัวดอกแก้วจะมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกเริ่มแรกจะมีความม้วนงอก่อนจะบานออก และจะส่งกลิ่นหอมแรงในช่วงเวลาเช้า แต่ดอกจะร่วงโรยง่ายมากๆ ซึ่งดอกแก้วนั้นจะบานอยู่ที่ต้นไม่นานก่อนจะร่วงโรยในวันที่ 4-5 แต่ข้อดีคือมันจะออกดอกตลอดทั้งปี เป็นต้นไม้ที่พบเห็นได้ทุกที่ของไทย ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถตกแต่งพุ่มด้วยการตัดแต่งให้สวยงามได้

วิธีการปลูกแบบทั่วไปมี 2 วิธีด้วยกัน ประการแรกคือ การปลูกในแปลงปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับบริเวณบ้านและสวน การปลูกควรขุดหลุมประมาณ 30 เซนติเมตร ต้นแก้วชอบใช้ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยคอก ควรผสมดินในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 สามารถตัดแต่งเป็นแบบทรงพุ่มได้ และตัดแต่งได้ตามความต้องการ หรือจะปลูกในกระถางเพื่อการแต่งอาคารบ้านเรือนก็ยังได้

ประการที่สองการปลูกในกระถาง ควรใช้กระถางทรงสูงที่มีขนาดประมาณ 16 นิ้ว ใส่ปุ่ยหมักหรือปุ๋ยคอกก็ได้เช่นเดียวกัน และใส่ดินร่วน ในปริมาณอัตรา 1 ต่อ 1 ผสมกับดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถางในช่วงเวลาที่ต้นเริ่มเจริญเติบโตขึ้น วิธีการดูแลรักษาต้นแก้วนั้นไม่ยาก สิ่งที่สำคัญคือต้นแก้วต้องการแสงแดดจัด จะทำให้ออกดอกแก้วสวยมากยิ่งขึ้น และจะต้องรดน้ำให้ได้อย่างน้อย 3 วันต่อครั้ง

ความหมายที่เป็นมงคลของ “ดอกแก้ว”

นอกจากสรรพคุณและประโยชน์ของดอกแก้ว-ต้นแก้วในเรื่องของการดูแลสุขภาพแล้ว อยากบอกว่าทั้งต้นแก้วและดอกแก้ว มีความหมายที่เป็นมงคล เป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เรือนของไทย คนไทยในสมัยโบราณเชื่อว่าการปลูกแก้วไว้ จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้าบ้าน และทุกๆ คนที่อาศัยอยู่ในบ้านจะมีจิตใจที่สงบสุข ร่มเย็น ทุกครั้งที่มีลมพัดโชยมาในบ้านแล้วได้กลิ่นดอกแก้ว จะสื่อถึงจิตใจที่สงบสุขหรือการหลุดพ้นจากทุกข์ร้อนใดๆ ทั้งปวง พูดง่ายๆ ว่า ดอกแก้วนั้นเสมือนเป็นตัวแทนของคำว่า “ร่มเย็นเป็นสุข” นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 25,900.00 26,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,678.00 25,438.48 26,600.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,510.20 22,894.63 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,342.40 20,350.78 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 755.00 11,445.80 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 587.00 8,898.92 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,739.00 26,363.24 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 04/05/2563

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45 17.45
แก๊สโซฮอล์ 91 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18 17.18
แก๊สโซฮอล์ E20 15.94 15.94 15.94 15.94 15.94 15.94 15.94 15.94 15.94
แก๊สโซฮอล์ E85 15.34 15.34 15.34
เบนซิน 95 24.86 25.31 25.36 24.86 24.86
ดีเซล 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69 17.69
ดีเซล B10 14.69 14.69 14.69 14.69 14.69 14.69 14.69 14.69 14.69
ดีเซล B20 14.44 14.44 14.44 14.44 14.44 14.44 14.44 14.44
ดีเซลพรีเมี่ยม 21.54 21.56 23.54 23.54
แก๊ส NGV 15.31 15.31
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า