สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2563

ศุภาลัย รุกตลาดบ้านหรู พื้นที่กว้าง รับ New Normal ราคาเริ่มที่ 5.4 ล.

ศุภาลัย ปรับแผนรุกตลาดแนวราบ รับ New Normal เปิด Segment ใหม่ โครงการบ้านหรูระดับพรีเมี่ยมในย่านรังสิต ราคาเริ่มต้น 5.44 ล้านบาท  

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้เกิดแนวโน้มมาตรฐานแบบใหม่“New Normal” เทรนด์การอยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไป สังคมจะให้ความสำคัญกับ Social Distancing การมีพื้นที่ใช้ชีวิต เพื่อทำกิจกรรมภายในบ้าน มีสวนสำหรับการพักผ่อน มีพื้นที่สำหรับทำงาน รวมถึงมุมผ่อนคลายในบ้าน จะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น 

ไตรมาส 2  บริษัทฯ มีแผนงานเปิดตัวโครงการแนวราบ 1 โครงการ ซึ่งเป็น Segment ใหม่ ระดับพรีเมี่ยมในย่านรังสิต สำหรับกลุ่มลูกค้า ที่มองหาบ้านเดี่ยวหรู และต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ภายใต้แบรนด์ “พาร์ควิลล์” มูลค่าโครงการกว่า 2,100 ล้านบาท

นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิต คลอง ชู 4 แนวคิดเพิ่มพื้นที่ความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว บนพื้นที่โครงการกว่า 92 ไร่ จำนวน 375 แปลง โดยมีบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ พื้นที่กว้าง หลากหลายถึง 6 แบบ และมีพื้นที่ใช้สอยเริ่ม 175-318 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.44 ล้านบาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในโครงการ

นายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า เมื่อวิถีการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันเปลี่ยนไป บทบาทของบ้านมีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการเป็นที่พักอาศัย เป็นที่ทำงานพื้นที่สังสรรค์ ที่เก็บสินค้า ที่ประชุม ที่พักผ่อนหย่อนใจ และอีกหลายๆ รูปแบบความต้องการ

ขนาดที่ใหญ่ และฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็นในการออกแบบที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางโครงการในยุคปัจจุบัน  ศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิต คลอง 4 โครงการบ้านเดี่ยวที่ มีพื้นที่รองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิต

ขอบคุรข้อมูลจาก thansettakij.com


อสังหาฯ ขาดความเชื่อมั่น “เน็กซัส” ชี้การดำเนินงานยังจับทิศทางไม่ถูก

ผ่ามุมคิด

โควิด-19 พ่นพิษอุตสาหกรรมใหญ่ ภาคอสังหาฯ งัดกลยุทธ์ ปรับการขายและวางหมากเดินเกมธุรกิจรายสัปดาห์ โดยเฉพาะแผนเปิดโครงการใหม่ ที่ต้องระแวงระวังสูงสุด แม้เสี่ยงแต่ต้องเปิด เพราะจะนำมาซึ่งยอดขายที่สร้างรายได้ให้ในอนาคต พร้อมๆ กับการโละสต๊อกแปรสินค้าเป็นเงินสด ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในรอบ 10 ปี ขณะกูรู “เน็กซัส พร็อพเพอร์ตี้” นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชี้ภาวะตลาดยังน่าห่วง ทั้งผู้ซื้อและปัจจัยถ่วงธุรกิจ ผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่น “เดินหน้า ถอยหลัง” จับทิศไม่ถูก ระบุหมดยุคตลาดของแพง เรียลดีมานด์พร้อมอยู่ราคาไม่เกิน 2 – 5 ล้านถึงไปรอด ยิ่งทำเลนอกเมืองยิ่งคึกคัก

ตลาดขาดความมั่นใจ

ประเมินภาพรวมซัพพลายใหม่ทั้งปี 2563 จะลดหายไปจากตลาดจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนได้จากแนวโน้มโครงการเปิดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดฯ เกิดขึ้นเพียง 7 พันหน่วยเท่านั้นในช่วงไตรมาสแรกของปี คาดตลอดทั้งปีคงมีจำนวนไม่เกิน 3 หมื่นหน่วย เนื่องจากผู้ประกอบการยังกังวลถึงภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศ ถึงทิศทางที่ยังไม่แน่นอนหลังผ่านพ้นวิกฤติ ขณะเดียวกัน เรื่องโรคก็ยังไม่อาจวางใจได้ เพราะแม้จะสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ ก็มีโอกาสจะกลับมาระบาดได้อีกเช่นกัน มองเศรษฐกิจจะเคลื่อนตัวได้ ก็ต่อเมื่อผู้คนสามารถกลับมาทำกิจกรรมในสังคมตามปกติ การท่องเที่ยว หรือ เซ็กเตอร์ต่างๆ ที่เคยหยุดชะงักไปก่อนหน้า สามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง ส่วนภาคอสังหาฯ ยังน่าเป็นห่วง เพราะมีความอ่อนแอทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขาย

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในภาคอสังหาฯ คือ การที่ภาพรวมของทุกอย่าง ยังไม่มีภาพการแก้ไขชัดเจนได้ 100% เพราะฉะนั้น ทำให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย ไม่มั่นใจ คล้ายลักษณะเดินหน้าถอยหลัง เดินหน้าถอยหลัง ไม่กล้าที่จะไปต่อ ทำได้แค่ปรับตัวกันไปตามสถานการณ์”

เกมราคายังดุเดือด

จากปรากฏการณ์ความเปลี่ยนแปลงของตลาด เพราะมีปัจจัยลบสถานการณ์โควิด-19 เป็นข้อจำกัดในการขายโครงการ และทุกรายหันมาเล่นสงครามราคา ลดราคาแข่งกันนั้น เราพบว่าผู้ซื้อตอบรับดี โดยเฉพาะของพร้อมอยู่ลดราคา และแม้ความต้องการจะมีกระจายในหลายระดับราคา แต่กลุ่มราคา 2-5 ล้านบาท กลับเป็นตลาดที่สนใจมากสุด ณ ขณะนี้ จึงคาดว่าผู้ประกอบการจะยังคงนำสต๊อกออกมาโละราคาขายทิ้งอย่างต่อเนื่องนับหลังจากนี้

“ช่วงไตรมาส 2  ปรับตัวชัดเจน แต่ละค่ายนำของเก่ามาลดราคา หวังขายให้หมด ขณะของใหม่ก็คงออกมาน้อย ก่อนจะกลับมาเปิดตัวกันคึกคักในช่วงไตรมาส 3, 4 แต่อย่างไรก็ตามคาดกลยุทธ์ผ่านการลดราคา เพื่อต้องการปล่อยสต๊อกนั้นคงเกิดขึ้นในตลาดต่อเนื่องไปอีกประมาณ 1 ไตรมาส จนกว่าสต๊อกจะหมด”

หมดยุคของแพง

นางนลินรัตน์ ยังกล่าวว่า ปัจจัยโควิด-19 เป็นปัจจัยคาดเดาไม่ได้ ทำให้การป้องกัน ปรับตัวในกลุ่มผู้ประกอบการเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่งผลตลาดเกิดภาวะ “ช็อก” อย่างที่ระบุด้านบน แต่อย่างไรก็ตามเป็นบทเรียนที่ดีให้ผู้ประกอบการหันกลับมาสู่ ตลาดเรียลดีมานด์ (ผู้ซื้อเพื่อต้องการอยู่อาศัย) อย่างแท้จริง ต่างจากอดีตที่บางส่วนไปเน้นกลุ่มโครงการไฮเอนด์เยอะมากเกินไป สวนทางกับความต้องการและความสามารถของคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ จึงอยากแนะให้หันกลับมาสู่ตลาด Mid Market (ราคาระดับกลาง) ไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือ กลุ่ม City Condo (ราคา 1.2 -2.5 ล้านบาท) กันมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มความต้องการที่ใหญ่สุดของคนกรุงเทพฯ

“ยุคต่อไป ความต้องการของนักลงทุนยังไปได้แค่ตลาดที่มีผู้เช่าต่อเนื่องเท่านั้น อย่าคาดหวังตลาดลงทุนระยะสั้น ส่วนของราคาแพง แม้มีคนกำลังซื้อสูงตอบรับได้อยู่บางส่วน แต่ต้องระวัง อย่าพัฒนากันมากเกินไป เพราะมีสัดส่วนผู้ซื้อไม่เกิน 20% ของตลาด”

ทั้งนี้ เราเห็นการปรับตัวของตลาดอสังหาฯ มาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ตั้งแต่สถานการณ์โควิดยังไม่รุนแรง ผ่านจำนวนเปิดโครงการใหม่ที่หายไปเยอะ และราคาต่ำกว่าสินค้าที่เคยเปิดตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามาก แม้กระทั่งราคาต่ำล้าน-ล้านต้นๆ ก็มี เช่นเดียวกับทำเล พบรอบนอกกรุงเทพฯ เส้นทางรถไฟฟ้าไปถึง มีโครงการคอนโดฯเกิดขึ้นต่อเนื่อง ต่างจากอดีตกระจุกตัวเพียงในเมือง ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัวและเข้าให้ถึงเพื่อรับโอกาส

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 31.88บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง

บาทเปิด 31.88บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง

เงินบาทเปิดตลาด 31.88บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค นักลงทุนรอลุ้นผลประชุมกนง.บ่ายนี้ มองกรอบ 31.85-32.00บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.88 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันที่ 19 พ.ค. ที่ระดับ 31.90 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. โดยเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มค่าเงินในภูมิภาค วันนี้นักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 0.50% อย่างไรก็ดี ช่วงบ่ายเงินบาทอาจผันผวน หากมติ กนง.ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

“บาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน หลังมีแรงเทขาย(ดอลลาร์)ทางเทคนิคเพื่อตัดขาดทุน” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“พรีเมียร์ลีก” ส่อวุ่น ตรวจพบ 6 รายติดเชื้อโควิด-19

พรีเมียร์ลีก ยืนยัน มีการตรวจพบนักเตะและสตาฟฟ์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 รายจาก 3 สโมสร จากการตรวจทั้งหมด 748 คนช่วงวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา

วันที่ 19 พ.ค. 63 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันผลการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 และวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งหมด 748 คน ผลปรากฏว่ามีนักเตะและสตาฟฟ์ 6 รายจาก 3 สโมสรที่ติดเชื้อ

แถลงการณ์ระบุว่า “พรีเมียร์ลีก สามารถยืนยันได้ในวันนี้ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ค. และวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ผู้เล่นและสตาฟฟ์จำนวน 748 คน เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลปรากฏว่ามี 6 ราย จาก 3 สโมสร ที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก โดยนักเตะหรือสตาฟฟ์ที่ติดเชื้อจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวเป็นเวลา 7 วัน”

ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีก ได้มีการวางคิวโปรเจกต์รีสตาร์ต กลับมาฟาดแข้งกันต่อในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หลังจากถูกระงับมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่จากผลการตรวจโควิด-19 ที่ออกมา ทำให้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าสุดท้ายจะสามารถกลับมาแข่งขันได้ตามกำหนดหรือไม่

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


ข่าวดี! วัคซีนป้องกันโควิด-19 “ชนิด mRNA” จะมีใช้ปีหน้า

ข่าวดี! วัคซีนป้องกันโควิด-19 “ชนิด mRNA” จะมีใช้ปีหน้า

ล่าสุดงานวิจัย “วัคซีนชนิด mRNA” ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ อว.มอบให้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รับผิดชอบ ประสบความสำเร็จในระดับดีหลังทดสอบในหนูทดลองแล้ว

ผลงานวิจัยศูนย์วัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลังประสบความสำเร็จในหนูทดลองแล้ว กำลังเตรียมทดสอบในลิงในสัปดาห์หน้า รมว.การอุดมศึกษาฯ เผยนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย ประสานเตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในสหรัฐฯ และแคนาดาแล้ว เพื่อนำมาใช้ทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีข่าวดีสำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด–19 ล่าสุดงานวิจัย “วัคซีนชนิด mRNA” ที่ศูนย์วัคซีนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ อว.มอบให้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) รับผิดชอบ ประสบความสำเร็จในระดับดีหลังทดสอบในหนูทดลองแล้ว โดยผลการคัดกรองเบื้องต้นที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอมริกา พบว่าให้ผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า Neutralizing antibody ในระดับที่สูงถึง 1: 3000 ทั้งนี้กำลังเตรียมจะทดสอบในลิงในประเทศไทยสัปดาห์หน้าต่อไป 

รมว.การอุดมศึกษาฯ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ได้มีการประสานเตรียมการผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เพื่อนำมาใช้ทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล รวมทั้งได้ประสานกับบริษัท Bionet Asia ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของไทย เตรียมการในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากโรงงานผลิตวัคซีนต้นแบบ ซึ่งเชื่อว่าจะสำเร็จจนถึงขั้นสุดท้าย คือ ประเทศไทย สามารถผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่มากที่สุดในประเทศไทยและนำมาใช้ช่วยคนไทยในการป้องกันโควิด – 19 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ให้ประเทศไทยดำเนินการเรื่องวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีวัคซีนโรคโควิด-19 ใช้แล้ว ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย

นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระดมกำลังจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนให้มีการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนใช้งานได้อย่างรวดเร็วและเพียงพอโดยใช้ 3 แนวทางควบคู่กันไป คือ การสนับสนุนการวิจัยในประเทศ การร่วมมือกับเครือข่ายนานาชาติ และการทำงานจตุรภาคี กับผู้ผลิต ภาควิชาการ ภาครัฐ และเอกชน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งได้ให้ทุนวิจัยเรื่องวัคซีนโควิด-19 แล้ว 5 โครงการในหลายสถาบัน ซึ่งหลายแห่งมีความก้าวหน้าจนถึงขั้นทดสอบในสัตว์ทดลองแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 คือการบริหารจัดการให้แน่ใจว่าจะมีวัคซีนใช้งานได้อย่างรวดเร็วและจำนวนเพียงพอ ซึ่งต้องเตรียมการทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา และการผลิตควบคู่กันไป เช่น การเตรียมโรงงานเพื่อผลิตวัคซีน

สำหรับทดสอบในอาสาสมัคร รวมทั้งการวางแผนถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่บริษัทผลิตวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งต้องเตรียมการ ให้เหมาะสมจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิตวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประเทศภายในปีหน้าได้หากประสบความสำเร็จ ขณะที่ปัจจุบัน มีวัคซีนต้นแบบที่เข้าทดสอบในสัตว์ทดลองมากกว่า 150 ชนิดและอย่างน้อยมี 10 ชนิดที่เริ่มทำการทดสอบในอาสาสมัครแล้วอย่างน้อย 5 ประเทศ คือ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน และแคนาดา

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


เมนูอาหารภาษาอังกฤษ 10 เมนูอาหารไทยที่ฝรั่งบอกว่าใช่ ไทยบอกว่าแซ่บ!

มาแล้วจ้า เมนูอาหารภาษาอังกฤษที่เราๆท่านๆควรรู้จักกันเอาไว้ จะได้อธิบายบอกฝรั่งถูกว่าชื่ออาหารไทยที่เรียกหน่ะ มันคืออะไร มันมีส่วนประกอบ หรือว่าทำมาจากอะไร ฝรั่งเขาจะได้พอมองภาพออกว่าหน้าตาอาหารไทยอันขึ้นชื่อลือชามันน่าจะเป็นอย่างไร

เมนูอาหารภาษาอังกฤษ

เมนูอาหารภาษาอังกฤษ

คำว่า “เมนู” ภาษาอังกฤษ คือ menu อ่านว่า เม็น+ นยู  คำว่า นยู ให้ออกเสียงเป็นอักษรควบกล้ำแบบเร็วๆนิดนึง

เมนูอาหารด้านล่างจะเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ชื่ออาหารมันก็ชื่อไทยๆนี่แหละ แต่เขียนเป็นภาษาอังกฤษให้ฝรั่งสามารถอ่านได้ ซึ่งก็คล้ายกับ “พิซซ่า” มันเป็นชื่อฝรั่งแหละ ” Pizza”  แต่เรามาเขียนภาษาไทยเพื่อให้คนไทยอ่านได้นั่นเอง

มาดูอาหารไทยๆ ที่ฝรั่งส่วนใหญ่น่าจะรู้จักครับ  เพราะคนไทยชอบหนักหนาที่จะแนะนำของกินให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลองอาหารรสจัดจ้านของไทย และอาหารที่เป็นนัมเบอร์วันเลยก็คือ “ส้มตำ” ที่ฝรั่งเรียกว่า papaya salad (สลัดมะละกอ) หรือ green papaya salad (สลัดมะละกอดิบ) หรือ spicy green papaya salad (สลัดมะละกอดิบรสเผ็ด) แล้วแต่จะเรียก

Som Tum = ส้มตำ
Spicy Green Papaya Salad (สไป๊ซิ กรีน พะไพ๊ยะ แซ๊เลิด )
สลัดมะละกอดิบรสจัดจ้าน

Tom Yum Kung = ต้มยำกุ้ง
Spicy Shrimp Soup  (สไป๊ซิ ชริ๊มพ ซูป)
ซุปกุ้งรสจัดจ้าน

Khao Pad = ข้าวผัด
Fried Rice (ฟรายดึ ไรซ)
ข้าวผัด

Khao Pad Kung =ข้าวผัดกุ้ง
Fried Rice with Shrimp (ฟรายดึ ไรซ วิธ ชริ๊มพ)
ข้าวผัดกับกุ้ง

Khao Man Kai  = ข้าวมันไก่
Hainanese chicken rice (ไฮนานนี๊ส ชิ๊เคิน ไรซ)
ข้าวไก่ไหหลำ

Pad Thai = ผัดไทย
Thai style Fried Noodles (ไท สไตล์ ฟรายดึ นู๊เดิลส์)
บะหมีผัดสไตล์ไทยๆ

Gaeng Keow Wan Kai = แกงเขียวหวานไก่
Green Chicken Curry  (กรีน ชิ๊เคิน เค๊อะริ)
แกงไก่เขียว

Khao Niew Ma Muang = ข้าวเหนียวมะม่วง
Sticky Rice with Mango (สติ๊คคิ ไรซ วิธ แม๊งโก)
ข้าวเหนียวกับมะม่วง

Pad Kaphrao Moo Saap = ผัดกะเพราหมูสับ
Fried Basil and Pork (ฟรายดึ เบ๊เซิล แอน พอค)
กะเพราผัดกับเนื้อหมู

Tom Kha Kai = ต้มข่าไก่
Chicken in Coconut Soup (ชิ๊คเคิน อิน โค๊โคนัท ซูป)
ไก่ในน้ำกะทิมะพร้าว

ถ้าเราจะอธิบายความหมายของอาหารไทย ให้อธิบายบอกคำที่อยู่ในวงเล็บนะครับ เช่น

Tom Yum Kung  ถ้าเราพูดว่า “ต้มยำกุ้ง” แต่เขาไม่รู้จัก ก็ให้บอกว่า (สไป๊ซิ ชริ๊มพ ซูป) จะทำให้เขาพอมองภาพออกว่าอาหารดังกล่าวทำมาจากอะไร

ขอบคุณข้อมูลจาก ภาษาอังกฤษออนไลน์.com


SVOA ปรับทีมบริหาร รับมือ New Normal

SVOA จัดทัพองค์กร ประกาศทีมผู้บริหารใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนบริษัทสู่ New normal และ Digital Age หลังโควิด -19

นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า SVOA ได้ปรับตัว พร้อมจัดทัพองค์กร ด้วยทีมบริหารใหม่ หลังการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากผลของวิกฤต COVID-19 ที่ทำให้หลายองค์กรต้องประเมินความพร้อมด้านธุรกิจและด้านนโยบายต่างๆ รวมทั้งเงื่อนไขขีดความสามารถในการแข่งขัน การรองรับตลาดในยุคดิจิทัล กฎระเบียบด้านดิจิทัลของประเทศ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากนี้ เพื่อการขับเคลื่อนองค์กรสู่ New Normal และ Digital Age เต็มตัว สำหรับ SVOA พร้อมประกาศโครงสร้างคณะผู้บริหารใหม่ 

“โครงสร้างผู้บริหารใหม่ดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานกับนักบริหารรุ่นใหม่โดยจะทำงานประสานรวมกันอย่างมืออาชีพ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ SVOA เติมโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นางสาวกุลภา กล่าว

ภาครัฐและภาคเอกชนยังเฝ้ารอจังหวะที่เหมาะสม ในการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก จะเห็นว่าช่วงแรกของวิกฤิตหน่วยงานภาครัฐและองค์กรธุรกิจมีการปรับตัว โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการประชุมในรูปแบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ การเว้นระยะห่างทางสังคมโดยทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อให้ธุรกิจและวิถีชีวิตยังสามารถดำเนินต่อไปได้ สำหรับการปรับตัวดังกล่าวขององค์กรและพฤติกรรมของผู้บริโภคยังก่อให้เกิดตลาดใหม่ หรือ Next New Normal ซึ่งหลังสิ้นสุดวิกฤต COVID-19 ไปแล้ว เชื่อว่าตลาดใหม่ที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพเชิงการแข่งขันขององค์กรต่อไป

สำหรับ SVOA ซึ่งมีจุดเด่นคือพันธมิตรธุรกิจและคู่ค้ามีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้การนำของคณะผู้บริหารใหม่ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายแผนการดำเนินงานเชิงรุกและกลยุทธ์ธุรกิจ จะสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่ Next New Normal และก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างเต็มรูปแบบ

ทีมผู้บริหารใหม่ ได้แก่ 1. นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) 2. นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) 3. นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอที บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) 4. นายอดิศร แก้วบูชา ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)

5. นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด และ 6. ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)

จากประสบการณ์ของทีมผู้บริหาร จะส่งเสริมให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง โดยปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่มุ่งเน้น ประกอบด้วย สินค้าและบริการไอทีครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำ สินค้าเกมมิ่งที่ครอบคลุมทั้ง โน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป อุปกรณ์คอมโพเนนท์ ไปจนถึงเก้าอี้เกมมิ่ง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นอีกตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีโรโบติกส์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษา อุตสาหกรรม และการบริการ รวมทั้งโซลูชั่นสำหรับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้บริโภค

ด้าน นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมุ่งเดินหน้าเน้นการพัฒนาธุรกิจอยู่บนแพลตฟอร์ม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ก้าวสู่นวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัล สานต่อเรื่องของปัญญาประดิษฐ์สู่อนาคต “Step of Evolution” ตอบสนองการบริการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร ผ่านตัวแทนร้านค้าปลีก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นตลาดโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก

บริษัทได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการเรียนการสอนหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ สนับสนุนให้เด็กไทยต้องได้เรียนโค้ดดิ้ง พร้อมทั้งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับครูและนักเรียน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเรียนรู้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต

สำหรับธุรกิจช่องทางจัดจำหน่าย (IT Distribution) บริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบ การจำหน่ายหุ่นยนต์สำหรับภาคการศึกษา หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ ในทุกช่องทางการกระจายสินค้า และธุรกิจการขายส่งให้ทั่วทุกภูมิภาค พร้อมกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำ และบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงการวางกลยุทธ์แบบผสมผสานสร้างความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อเป็นการสร้างการซื้อซ้ำและต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย

ด้าน นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอที บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ SVOA มีจุดแข็ง ในการนำเสนอโครงการไอทีแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรให้กับหน่วยงานราชการ และปัจจุบันหน่วยงานราชการในหลาย ๆ กระทรวงล้วนมีความต้องการในการวางระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการให้บริการที่ดีและทั่วถึง โดยบริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานราชการในทุกระบบและทั้งโซลูชั่นตามการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานรัฐได้บรรลุเป้าหมายการให้บริการประชาชน และขับเคลื่อนไปตามนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล

ด้าน นายอดิศร แก้วบูชา ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่มธุรกิจราชการแล้ว ในภาคธุรกิจธนาคารและประกันภัย ทางบริษัทให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจะนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อมุ่งตอบสนองต่อธุรกิจธนาคารของการให้บริการสมัยใหม่ และธนาคารจำเป็นต้องใช้ข้อมูลยุคใหม่ที่กำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ธนาคารต่าง ๆ ต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงานและให้บริการทางธุรกรรม ทั้งการโอนเงินระหว่างธนาคารในประเทศ และการโอนเงินระหว่างธนาคารในภูมิภาค ซึ่งบริษัทจะเข้าไปตอบโจทย์ตรงนี้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจประกันภัย ล้วนต้องปรับตัวเรื่องการให้บริการกับลูกค้าจากสาขาประกันภัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเช่นกัน

ด้าน นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทควัน จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทจะเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงการบริการรูปแบบใหม่ โดยไม่ต้องขอข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน แต่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของตนผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ซึ่งบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการลงทะเบียนพิสูจน์ยืนยันตัวตนออนไลน์ (e-KYC) โดยมีการใช้เทคโนโลยี Biometric ในการตรวจสอบใบหน้าเพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยมากขึ้น หรือการใช้ดิจิทัลไอดีผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเช่น บริษัท NDID โดยมีการบริการตั้งบล็อกเชนโหนดให้แก่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเชื่อมเข้าสู่เครือข่ายยืนยันตัวตนข้ามองค์กร (cross verification) ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมสะดวกมากขึ้น เช่น การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ หรือการเปิดบัญชีการลงทุนทางออนไลน์ รวมถึงการยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตในการขอสินเชื่อออนไลน์

นอกจากนี้ เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษและการนำส่งเอกสารสำคัญ องค์กรสามารถทำสัญญาหรือลงนามเอกสารสำคัญต่าง ๆ ผ่านระบบ Document Signing ซึ่งก็คือแอพพลิเคชั่นออนไลน์ โดยสามารถสร้างเทมเพลต PDF และระบุตำแหน่งลายเซ็น และ Workflow ของผู้ที่ต้องลงนามตามลำดับชั้น ส่งไปยังผู้ลงนามผ่านช่องทางออนไลน์และลงนามด้วย Digital Certificate โดยเทคโนโลยี Public Key Infrastructure นี้ได้รับมาตรฐานสากล ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเอกสารนั้นได้มีการลงนามอย่างถูกต้องและมีผลตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย

รวมทั้งระบบการกู้ยืมดิจิทัลที่ช่วยให้ธนาคารและ Fintech เข้าถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์สอดคล้องกับแนวโน้มการลดสาขาของธนาคารในปัจจุบันและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา

ด้าน ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีเครดิตและความแข็งแกร่งทางการเงิน มีเสถียรภาพโดยไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากวิกฤต COVID-19 รวมทั้งบริษัทมีธนาคารมากกว่า 10 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศให้การสนับสนุนทางการเงิน ทั้งนี้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดจากวิกฤต และความท้าทายของธุรกิจในอนาคต ฝ่ายการเงินและบัญชีเป็นแหล่งข้อมูลเชิงกลยุทธ์แก่หน่วยธุรกิจต่าง ๆ เช่น การให้ข้อมูลการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการเงินทุนหมุนเวียนและประเมินศักยภาพทางการเงินของงานโครงการต่างๆ เน้นการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดและบริหารจัดการอัตราส่วนหนี้สินต่อสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีเอื้อต่อความแข็งแกร่งและการเติบโตของกลุ่ม SVOA

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ดอกไม้สมุนไพร

หนึ่งในความปรารถนาของใครหลายๆ คน คือการมีบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ ผู้เขียนก็เป็นหนึ่งคนที่มีความฝันที่จะมีบ้านเล็กๆ สักหลัง แล้วปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ล้อมรอบบ้าน เพิ่มพื้นที่สีเขียวขจี อีกทั้งยังเพิ่มสีสันสดใส ที่ได้จากดอกไม้เวลาบานสะพรั่งด้วย แต่ใครบ้างที่จะทราบว่า ดอกไม้แสนสวยที่บ้างก็มีกลิ่นหอมดึงดูดทั้งคนและแมลง บ้างก็มีสีสดสวยดึงดูดสายตาเหล่านั้น นอกจากจะใช้ประดับเพิ่มความงามให้กับบ้านแล้ว ยังเป็นสมุนไพรมากคุณค่าอีกด้วย

ตัวอย่างไม้ดอกที่เราพบเจอกันได้บ่อยๆ ที่ไม่ได้เป็นแค่ต้นไม้ประดับ แต่ยังเป็นสมุนไพรที่ช่วยดูแลสุขภาพเราด้วย

1. ปีบ หรือกาสะลอง ต้นไม้สูง ออกดอกขาวโพลนทั้งต้น กลิ่นหอมโชยตามลมอย่างต้นปีบนี้ ไม่ได้แค่สวยและหอมอย่างเดียว เพราะดอกของต้นปีบ ใช้เป็นสมุนไพรในการแก้โรคหอบ หืด ได้โดยการนำดอกมามวนสูบ

2. เบญจมาศ ดอกไม้ที่เป็นไปด้วยกลีบเล็กๆ อัดซ้อนกันจนแน่นอย่างเบญจมาศนี้ ไม่ได้แค่สวยอยู่แต่ในแจกันเท่านั้น เราสามารถนำดอกและใบมาคั้นเป็นยาสมุนไพร ใช้สำหรับรักษาบาดแผล หรือจะนำไปต้มดื่มรักษาโรคนิ่ว โรควัณโรค และโรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง

3. บุนนาค ไม้ดอกกลีบบางน่าทะนุถนอม กลายเป็นสมุนไพรช่วยบำรุงเลือด ทำเป็นยาหอม รักษาอาการร้อนอ่อนเพลีย

4. บานเย็น ไม้ดอก ที่ดอกไม่บานตอนเช้า กว่าจะได้ยลโฉมก็ต้องรอบ่ายไปแล้ว นำดอกที่ได้มาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมน้ำดื่ม เป็นยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับอาการกระอักเลือด และอาเจียนเป็นเลือด

5. บัวหลวง ดอกไม้บูชาพระ สวย สะอาด บริสุทธิ์ นอกจากจะสวยดึงดูดสายตาแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ โดยใช้เกสรจากบัวหลวงนำไปตากแห้ง ใช้เป็นส่วนผสมในตำรายาหอม ยาบำรุงหัวใจ

6. เทียนดอก ไม้ดอกช่อน่ารัก กลีบที่แสนจะบอบบางที่เราเห็นนั้น เมื่อนำมาตำก็จะเป็นสมุนไพรที่ช่วยลดอาการพุพองจากแผลน้ำร้อนลวกและแผลไฟไหม้ได้

7. ทานตะวัน ไม้ดอกสีสด คอยแต่หันหน้าตามแสงตะวัน เป็นดอกไม้ที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรมากมายเหลือหลาย ทั้งใช้เป็นยาแก้หลอดลมอักเสบ แก้วิงเวียนศีรษะ ช่วยขับลม บีบมดลูก ทำให้ตาสดใส และรักษาใบหน้าตึงบวม ฐานรองดอก เป็นยาแก้อาการปวดรอบเดือน ปวดศีรษะ ตาลาย ปวดฟัน ปวดท้องเนื่องจากโรคกระเพาะอักเสบ และแก้อาการปวดบวมฝี เป็นต้น แกนลำต้น เป็นยาแก้โรคนิ่วในไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นโลหิต ปัสสาวะขุ่นขาว ช่วยขับปัสสาวะได้ดี ไอกรน และยังเป็นยาช่วยรักษาบริเวณแผลที่มีโลหิตออก

8. ผักคราดหัวแหวน ไม้คลุมดิน ดอกจิ๋วน่ารัก เราสามารถใช้ดอกมาทำเป็นยาแก้อาการปวดฟัน และปวดศีรษะได้

9. ทองกวาว ไม้ดอกต้นใหญ่ ออกดอกสีสดร้อนแรงเป็นพวง สามารถใช้เป็นสมุนไพรถอนพิษไข้ หรือขับปัสสาวะได้ หรือจะนำดอกมาคั้นน้ำผสมยาหยอดตาแก้โรคตามัว หรืออาการเจ็บตาได้

10. ท้อ ต้นไม้ดอกสวย ผลรับประทานอร่อย แต่ชื่อน่าหดหู่ ดอกสดนั้นใช้เป็นยาสมุนไพรแก้อาการท้องผูก หรือจะนำมาต้มเป็นชาสมุนไพร จิบดื่มบ่อยๆ ช่วยบรรเทาอาการปวดเอวและสะโพกได้

11. นมสวรรค์ ไม้ดอกช่อฉัตรสีแดงสด เราสามารถใช้ดอกเป็นยาสมุนไพรแก้พิษสัตว์กัดต่อย และพิษที่เกิดจากการติดเชื้อ และแก้อาการตกเลือด

12. เถาสิงโต หรือกะทกรก ไม้เลื้อยปลูกเป็นซุ้มให้ร่มเงา ดอกสวยพอแก่กลายเป็นผล เราสามารถนำดอกมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับทรวงอก แก้อาการไอ ขับเสมหะได้

13. ทองหลาง ไม้ดอกแผ่กิ่งก้านกว้างขวาง ดอกสีส้มสดสวย ใช้ดอกสดมาต้มน้ำ ดื่มเป็นยาสมุนไพรช่วยขับระดู

14. มะลิ ดอกไม้หอม ขาวสะอาด ร้อยเป็นมาลัยบูชาพระ ดอกมะลิมีสรรพคุณทางยาสมุนไพร แก้อาการโรคบิด อาการปวดท้อง หากนำมาตำให้ละเอียด สามารถใช้พอกที่ขมับแก้อาการปวดหัว และปวดหูชั้นกลางได้ นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาแผลพุพอง แก้พิษแมลงกัดต่อย และเป็นส่วนผสมในยาบำรุงหัวใจอีกด้วย

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างดอกไม้ในสวน ที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรบำรุงร่างกาย รักษาและบรรเทาอาการจากโรคต่างๆ ได้ และปลูกดอกไม้ไว้เพิ่มความสดชื่นให้กับสวนสวยของบ้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก technologychaoban.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,150.00 26,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,694.00 25,681.04 26,850.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,524.60 23,112.94 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,355.20 20,544.83 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 762.00 11,551.92 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 593.00 8,989.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,755.00 26,605.80 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20/05/2563

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 20.25 20.25 20.75 20.25 20.25 20.25 20.25 20.25 20.25 20.25
แก๊สโซฮอล์ 91 19.98 19.98 20.48 19.98 19.98 19.98 19.98 19.98 19.98 19.98
แก๊สโซฮอล์ E20 18.74 18.74 19.24 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74 18.74
แก๊สโซฮอล์ E85 16.99 16.99 16.99
เบนซิน 95 27.66 28.11 28.16 27.66 27.66
ดีเซล 19.79 19.79 20.29 19.79 19.79 19.79 19.79 19.79 19.79 19.79
ดีเซล B10 16.79 16.79 17.29 16.79 16.79 16.79 16.79 16.79 16.79 16.79
ดีเซล B20 16.54 16.54 17.04 16.54 16.54 16.54 16.54 16.54
ดีเซลพรีเมี่ยม 23.64 23.66 26.14 25.64
แก๊ส NGV 15.31 15.31
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า