อสังหาฯ EEC ชะลอตัว เปิดใหม่ลด-สต็อกบวม
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส.วิเคราะห์ตลาดที่อยู่อาศัยภาคตะวันออก 3 จังหวัด EEC พบหน่วยขายได้ใหม่ลดลง อัตราดูดซับต่ำ ส่งผลตลาดรวมชะลอตัว ห่วงสุด ทำเลชลบุรี หลังคาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ร่วง 20%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2562 ในพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดฉะเชิงเทรา หรือพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย โดยดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่าพื้นที่ EEC เข้ามามีบทบาทความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย พบว่า ณ สิ้นปี 2562 มีโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 78,780 หน่วย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 22 ของจำนวนที่อยู่อาศัยใน 26 จังหวัดหลักซึ่งมีจำนวนรวม 355,145 หน่วย นับได้ว่ามีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งมีจำนวน 209,868 หน่วย โดยจังหวัดชลบุรีมีจำนวนที่อยู่อาศัยเสนอขายมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด EEC
จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรีพบว่า ณ สิ้นปี 2562 มีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 675 โครงการ จำนวน 50,655 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 176,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ 1.8 โดยมีโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังเพียง 6,593 หน่วย แบ่งเป็นอาคารชุด 3,700 หน่วย และบ้านจัดสรร 2,893 หน่วย
เมื่อพิจารณาจากหน่วยขายได้ใหม่จากการสำรวจพบว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2562 มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 6,270 หน่วย ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ 27.5 ในจำนวนดังกล่าวเป็นการขายห้องชุด 2,535 หน่วย และเป็นบ้านจัดสรร 3,735 หน่วย และมีหน่วยเหลือขายจำนวน 44,385 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ 8 มูลค่ารวม 155,838 ล้านบาท โดยมีหน่วยเหลือขายประเภทโครงการอาคารชุดจำนวน 19,271 หน่วย บ้านจัดสรรจำนวน 25,114 หน่วย
“จากการที่จำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีอัตราการขายได้ลดลงถึงร้อยละ 27.5 จึงส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 โดยทำเลที่มีที่อยู่อาศัยเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 7,185 หน่วย 2.ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 6,864 หน่วย 3.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร-บายพาส จำนวน 3,798 หน่วย 4. ทำเลนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน จำนวน 3,729 หน่วย และ 5.ทำเลบางแสน-หนองมน-บางพระ จำนวน 3,306 หน่วย”
โดยมีหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขาย(พร้อมโอน) หรือเป็น Inventory ในตลาดจำนวน 9,527 หน่วยมูลค่า 31,501 ล้านบาท ซึ่ง 5 ทำเลที่มีหน่วยสร้างเสร็จเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 1,496 หน่วย 2.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 1,311 หน่วย 3. ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 1,209 หน่วย 4. ทำเลนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน จำนวน 1,145 หน่วย 5. ทำเลแหลมฉบัง จำนวน 1,051 หน่วย
สำหรับทำเลขายดี 5 อันดับได้แก่ 1. ทำเลหาดจอมเทียน จำนวน 1,037 หน่วย 2.ทำเลพัทยา-เขาพระตำหนัก จำนวน 718 หน่วย 3.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร-บายพาส จำนวน 712 หน่วย 4.ทำเลบางแสน-หนองมน-บางพระ จำนวน 703 หน่วย และ 5.ทำเลศรีราชา-อัสสัมชัญ จำนวน 581 หน่วย
อย่างไรก็ตามศูนย์ข้อมูลฯได้ประมาณการว่าในปี 2563 จะมีที่อยู่อาศัยเหลือขายอยู่ในตลาดจำนวน 44,060 หน่วย ประกอบด้วยอาคารชุดจำนวน 19,348 หน่วย ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 12,699 หน่วย บ้านเดี่ยวจำนวน 5,730 หน่วย บ้านแฝดจำนวน 4,979 หน่วย และอาคารพาณิชย์จำนวน 1,304 ซึ่งเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับอัตราดูดซับที่ลดต่ำลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 และคาดว่าในปี 2563 อัตราดูดซับจะเหลือประมาณร้อยละ 1.1-1.3 และคาดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยก็จะลดลงมาอยู่ที่ 30,141 หน่วย มูลค่าประมาณ 59,293 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานซึ่งมีมูลค่า 64,095 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -20.0 ด้วยภาพรวมดังกล่าวผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การเสนอขาย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮ้าส์ที่มีอัตราการดูดซับชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงต้นปี 2562 และคาดว่าจะต่อเนื่องมาถึงปี 2563
สำหรับภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในลำดับรองลงมาใน EEC ภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยจังหวัดระยองในครึ่งหลังปี 2562 อุปทานภาพรวมมีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 302 โครงการ รวม 21,634 หน่วย รวม มีโครงการที่ขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจำนวน 3,586 หน่วย และมีหน่วยเหลือขายจำนวน 18,048 หน่วย มูลค่า 45,221 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขาย ณ สิ้นปี 2562 จำนวน 3,079 หน่วย มูลค่า 7,841 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรมีจำนวน 2,750 หน่วย มูลค่า 7,105 ล้านบาท โครงการอาคารชุดมีจำนวน 329 หน่วย มูลค่า 736 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทำเลซึ่งมีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้-อีสเทิร์น จำนวน 1,514 หน่วย 2.ทำเลนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จำนวน 450 หน่วย และ 3. ทำเลเมืองระยอง จำนวน 407 หน่วย
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากภาพรวมแม้อัตราดูดซับจะอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 โดยอัตราดูดซับของอาคารชุดสูงถึงร้อยละ 5.6 และอัตราดูดซับบ้านจัดสรรอยู่ในระดับร้อยละ 2.5 แต่ในปี 2563 คาดการณ์ว่าอัตราดูดซับจะลดต่ำลงในทุกกลุ่มประเภทที่อยู่อาศัย ภาพรวมที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยองถือว่ายังไม่น่ากังวลเนื่องจากมีจำนวนสร้างเสร็จเหลือขาย(พร้อมโอน) หรือเป็น Inventory ไม่มากนัก
สำหรับภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยจังหวัดฉะเชิงเทรา จากการสำรวจพบว่าในครึ่งหลังปี 2562 อุปทานภาพรวมมีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 67 โครงการ รวม 6,491หน่วย มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 831 หน่วย และมีหน่วยเหลือขาย 5,660 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 16,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 5,334 หน่วยมีมูลค่า 16,164 ล้านบาท โครงการอาคารชุด มีจำนวน 326 หน่วย มีมูลค่า 336 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเหลือขาย ณ ปี 2562 แยกตามทำเลสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลในเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 608 หน่วย 2.ทำเลคลองหลวงแพ่ง จำนวน 155 หน่วย และ 3. ทำเลบ้านโพธิ์ จำนวน 141 หน่วย
สำหรับทำเลขายดี 3 อันดับ ได้แก่ 1.ทำเลบางปะกง จำนวน 330 หน่วย 2.ทำเลบ้านโพธิ์ จำนวน 256 หน่วย 3.ทำเลในเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 194 หน่วย อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากภาพรวมแม้อัตราดูดซับจะอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 โดยอัตราดูดซับบ้านจัดสรรอยู่ในระดับร้อยละ 2.2 แต่อัตราดูดซับของอาคารชุดกลับลดต่ำลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 และลงมีอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ในช่วงปี 2562 ซึ่งในปี 2563 คาดการณ์ว่าอัตราดูดซับของทุกกลุ่มประเภทที่อยู่อาศัยจะยังคงทรงตัว โดยภาพรวมที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นหน่วยเหลือขายจะเพิ่มขึ้น ไม่มากนัก คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนประมาณ 5,709 หน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 5,660 หน่วย หากมีการปรับกลยุทธ์การขายให้เหมาะสมกับตลาดหลักซึ่งที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจคือทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ซึ่งขายได้ดีกว่าบ้านเดี่ยว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บิ๊กเนมหันหัวรบ โละคอนโด เจาะนักลงทุนหุ้นกู้
บิ๊กเนมสะท้อน ออพชันโครงการบ้านธอส.เราไม่ทิ้งกันดอกเบี้ย คงที่ 2 ปี 1.99 % -ขยายลดค่าโอน-จดจำนอง อีก 2 ปีไม่ปลุกกำลังซื้อโควิดเหตุ ทุกค่ายจัดหนักให้ลูกค้าอยู่แล้ว ฟรีทุกรายการผ่อนแทนยาวสุด 5 ปี ค่ายแอลพีเอ็น พลิกแนวรบ งัด 3 คอนโดฯ ทำเลศักยภาพ เจาะนักลงทุนหุ้นกู้ ควักกระเป๋าจ่ายสด ขั้นต่ำ 30 ล้านโอนทันที 10 หน่วย การันตีผลตอบแทน 3 ปี 6% ไม่พอใจรับซื้อคืน
การแข่งขันระบายสต็อกที่อยู่อาศัยท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ยังรุนแรงแม้ รัฐบาลกระตุ้นจับจ่าย คลายล็อกระยะที่ 3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกแคมเปญ โครงการ บ้านธอส.เราไม่ทิ้งกัน วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ได้รับสิทธิ์ดอกเบี้ย 1.99% คงที่นาน 2 ปี ทั้งบ้านมือสอง บ้านใหม่ เช่นเดียวกับกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ขยายระยะเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองเหลือรายการละ 0.01% ออกไปอีก 2 ปี หรือหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2565 จากเดิมจะสิ้นสุดลงภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม แม้การลดค่าโอน-จดจำนองจะลดภาระคนซื้อบ้าน ช่วยแบ่งเบาผู้ประกอบการ กรณีจัดแคมเปญ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย แต่ในใจลึกๆ มองว่า มาตราการนี้ไม่ช่วยให้เกิดการระบายสต็อก ให้หมดไปโดยเร็วท่ามกลาง ซากปรักหักพังธุรกิจ จากพิษโควิดเช่นเดียวกับโครงการธอส. ดอกเบี้ยต่ำสุดๆ คงที่ 2 ปี มองว่าจะได้ลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว อีกทั้งการปล่อยกู้ เป็นไปได้ยากยิ่งที่สำคัญดีเวลอปเปอร์ ได้จัดแคมเปญ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย ผ่อนให้ทั้งต้นและดอก ยาวข้ามพ้นพิษโควิดไปไกลตั้งแต่ 1-3 ปี 6 เดือน ล่าสุด มีออกแคมเปญยาวถึง 60 เดือน หรือ 5 ปี เพื่อนำเงินสด ไปชำระหุ้นกู้ เสริมสภาพคล่อง ดังนั้น แคมเปญที่รัฐออกมาไม่ได้ช่วยมากนัก ตราบใดที่กลุ่ม เรียลดีมานด์ มนุษย์เงินเดือนหายไป
ขณะกลุ่มที่มีความพร้อมเศรษฐีมีเงิน คนชั้นกลาง ที่ออมเงินกับธนาคารแล้วดอกเบี้ยไม่เคลื่อนไหว กลุ่มนักลงทุน ที่มองว่าอสังหาฯ ไม่ทำให้บาดเจ็บล้มตายเหมือนลงทุนในหุ้นกู้ กองทุน ในยุคนี้ และคนกลุ่มนี้ที่ ดีเวลอปเปอร์ หันมาจัดแคมเปญ ดึง กำลังซื้อ อีกครั้งหลังจาก หายไป ในช่วง วิกฤติ แอลทีวี การวางงินดาวน์สูงกับ มาตราการ ปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
มุมสะท้อนนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มาตราการรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ อย่างโครงการธอส. เราไม่ทิ้งกัน ไม่สามารถช่วยได้จริงเนื่องจากเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวของธอส. เช่นเดียวกับ การขยายระยะเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง มาตราการคลายล็อกดาวน์ ล้วนเป็นจิตวิทยา แต่ ตามข้อเท็จจริง หากสถานการณ์โควิด จบไม่จริง ไม่มีวัคชีนมารักษาภายใน 2 ปี นี้ จะเกิดการเผาจริงในระบบเศรษฐกิจแบบซึมลึกโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ
ขณะ ผลกระทบอสังหาฯมี 2 เรื่องใหญ่ ที่ประเมิน ไว้ได้แก่ สต็อกที่มากเกินไป และ การครบกำหนดชำระหุ้นกู้จังหวะที่เกิดวิกฤติโควิด ส่งผลให้แต่ละค่ายต่างจัดแคมเปญ ระบายสต็อก เก็บเงินสดและหากจะออกหุ้นกู้ เพื่อนำไปชำระคืนในช่วงนี้ เชื่อว่า นักลงทุนต่างไม่กล้าเสี่ยง
ขณะอสังหาฯ เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว สำหรับคนมี เงินเย็นแล้ว เป็นโอกาสเหมาะที่ซื้อในช่วงนี้ เพื่อลงทุนเพื่อได้ของถูก มากกว่าลงทุนในหุ้นกู้ ทองคำ กองทุนต่างๆ ที่มีความผันผวนสูง
บริษัทจึงจัดแคมเปญที่ต่างไปจากค่ายอื่น ด้วยการ นำ3โครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ได้แก่ ทำเล พหลโยธิน 32, สุทธิสาร และ พระราม 3 จำนวน 400-500 หน่วย ออกขายแบบยกล็อต ขั้นต่ำชำระเงินสด 30 ล้านบาท ได้รับห้องชุด ทันที 10 หน่วย เพื่อลงทุนระยะยาวกับริษัท 3 ปี การันตีผลตอบแทน 6% (ไม่รวมหักภาษี) ทั้งนี้หาก 3 ปีไม่พอใจสามารถ ขายคืนบริษัทได้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าในระยะ 3 ปี ราคา อาจขยับไป 50% เนื่องจากที่ดินไม่มีลดราคา มีแต่ปรับขึ้น โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าทำเลกลางใจเมือง
“3 โครงการนี้เปิดรับลูกค้าเฉพาะ นักลงทุนหุ้นกู้-กองทุน ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 2-3 ล้านบาท มองว่าคุ้ม แต่เน้น ต้องซื้อด้วยเงินสด เพราะต้องการเงินสดกลับเข้าบริษัทโดยเร็วซึ่งที่ผ่านมา แอลพีเอ็นมีประสบการณ์เคยประสบปัญหา สต็อก ล้น บริษัทใช้วิธี ระบายสต็อกลดแลกแจกแถม ขาย
หน่วยโครงการให้กับกลุ่มนักลงทุน เพื่อปล่อยเช่าระยะยาว เปลี่ยนจากการขายเป็นให้เช่า ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี”
นอกจากค่ายแอลพีเอ็นแล้วยังมี ค่ายเอพีไทยแลนด์ ที่ประกาศขายบ้านกลางเมืองหรู ทำเลบางนา-
วงแหวนฯ ในราคาพิเศษ จาก 11.99 ล้านบาทเหลือเพียง 8.99 ล้านบาท และให้ลูกค้าเลือกระหว่างลดราคา 3 ล้านบาท กับ บริษัท ใส่เงินให้ในบัญชี เพื่อลงทุน เมื่อซื้อบ้าน
ด้านอสังหาฯ น้องใหม่บริษัทเวลท์ แอทเสท กรุ๊ปจำกัด พัฒนาโครงการ เดอะไรน์คอนโดมิเนียมจอมเทียน พัทยาจังหวัดชลบุรี จัดแคมเปญสำหรับนักลงทุน 40 หน่วย ในราคาเพียง 1 ล้านต้นๆ หากซื้อเพื่อลงทุน การันตรีผลตอบทน 8%+2 นาน 5 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บล.ทิสโก้เปิด 9 หุ้นเด็ดรับเงินต่างชาติไหลเข้า
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันนี้ (YTD) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.9 แสนล้านบาท แต่ล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้า โดยนักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ 3 วันติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2563 รวมกว่า 8,900 ล้านบาท นับเป็นการซื้อสุทธิ 3 วันติดต่อกันครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
จากการตรวจสอบเงินทุนต่างประเทศ (Foreign Funds Inflow) ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้มีทิศทางเป็นบวกเกือบทุกตลาดเหมือนประเทศไทย โดยในสัปดาห์นี้ (WTD) เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าสุทธิแล้วกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการไหลเข้าสูงสุดในรอบ 22 สัปดาห์ หรือประมาณ 6 เดือน โดยเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดียมากที่สุด 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามด้วยตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียมีเม็ดเงินไหลเข้า 166 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดหุ้นไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์มีเม็ดเงินไหลเข้า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีเพียงตลาดหุ้นมาเลเซียเท่านั้นที่มีเม็ดเงินไหลออก 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับสาเหตุที่เงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามาซื้อหุ้นในภูมิภาคนี้อีกครั้ง มองว่าเป็นผลจากนักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง จากการทยอยคลายล็อกดาวน์ ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และสภาพคล่องในระบบที่เพิ่มขึ้นมหาศาลจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางหลักในต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนกลับมาแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น (Search for Yield)
“สัญญาณบวกเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าหุ้นทั่วภูมิภาค เป็นความเสี่ยงด้านบวก (Upside Risk) ต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยจากการประเมินของบล.ทิสโก้พบว่า เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้า หรือไหลออก ทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท จะมีผลให้ดัชนีหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือลง ราว 29 จุด เพราะฉะนั้นหากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ารอบนี้มีความต่อเนื่อง คาดจะผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,390-1,400 จุดได้ไม่ยาก ซึ่งเป็นการปิดช่อง (GAP) ทางเทคนิคอีก 1 GAP อย่างไรก็ดี ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้นอีก เพราะ บล.ทิสโก้มองว่าโอกาสการปรับขึ้นหลังจากนี้น่าจะมีจำกัดแล้ว จากระดับการประเมินมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวมาก โดยระดับดัชนีปัจจุบันเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ บล.ทิสโก้ประเมินว่าจะดัชนีสิ้นปีจะอยู่ที่ 1,420 จุด และหากใช้วิธีคำนวณเป้าหมายโดย Bottom-up จะได้เป้าหมายดัชนีปลายปี 2563 ที่ 1,433 จุด” นายอภิชาติ กล่าว
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ มองควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1. เป็นหุ้นขนาดใหญ่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับหุ้นที่อยู่ใน SET100 และ MSCI Global Standard Index 2. เป็นหุ้นที่ต่างชาติลดการถือครองลงในปีนี้ (Under-owed) เมื่อเทียบกับปลายปีที่แล้ว และที่สำคัญเพิ่งเริ่มมีสัญญาณบวกจากแรงซื้อต่างชาติเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญสัปดาห์นี้ และ 3. ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไม่แพง โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมีโอกาสปรับขึ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน
จากการพิจารณาหุ้นตามเกณฑ์คุณสมบัติทั้งหมดข้างต้น มองหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ คือ SET50 แนะนำ ADVANC (คำแนะนำ “ซื้อ”, เป้าพื้นฐาน 208 บาท), BDMS (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 25 บาท), CPALL (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 86 บาท), KBANK (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 118 บาท), PTTGC (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 55 บาท), SCB (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 96 บาท) และ SCC (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 372 บาท) และ SET100 แนะนำ CK (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 23.8 บาท), STEC (“ซื้อ”,เป้าพื้นฐาน 22 บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
สื่อดังคาด 11 ตัวจริง “เชลซี” หลังจ่อคว้า “แวร์เนอร์” จัดได้ 3 แผน
สื่อดังของอังกฤษคาดการณ์รายชื่อ 11 ตัวจริงของ “สิงโตน้ำเงิน” เชลซี หลังจ่อคว้า ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิงของแอร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมทัพ จัดได้ 3 แผน
ล่าสุด เดอะ อีฟนิง สแตนดาร์ด สื่อดังของอังกฤษ ออกมาคาดการณ์ 11 ตัวจริงของ เชลซี ถ้าได้ แวร์เนอร์ เข้ามาเติมเต็ม ร่วมกับนักเตะใหม่ที่ได้มาแน่ๆ แล้ว ก็คือ ฮาคิม ซิเยค ปีกทีมชาติโมร็อคโกจากอาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ก็จะสามารถจัดทัพได้ 3 ระบบการเล่น ประกอบด้วย 4-3-3, 4-2-3-1 และ 3-4-3
เกปา อาร์ริซาบาลากา (GK), อันเดรียส คริสเตนเซน, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รีซ เจมส์, เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา, จอร์จินโญ, เอ็นโกโล ก็องเต, มัตเตโอ โควาซิช, ฮาคิม ซิเยค, ติโม แวร์เนอร์ และ แทมมี อับราฮัม
4-3-3
4-2-3-1
3-4-3
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
ชูปทุมธานีโมเดล ต้นแบบศูนย์กักแยกตัว
มาตรการการแยกตัวของผู้เฝ้าสังเกตอาการโควิด-19 ใน 14 วัน ยังเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการกักตัว “ศูนย์ที่พักอาศัยเพื่อการกักแยก ตัดวงจรโควิด-19” (Isolation Facility) ที่ จ.ปทุมธานี จึงถูกตั้งขึ้นจากการระดมความคิดของคนหลายสาขาอาชีพ
โดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ในสังกัดสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จับมือเครือข่ายด้านหลักนิติธรรมและการพัฒนา (RoLD) ชูยุทธศาสตร์ต้นน้ำ คือ ศูนย์ที่พักอาศัยเพื่อการกักแยก ตัดวงจรโควิด-19 เพื่อแยกประชาชนที่เป็นกลุ่มอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง โควิด-19 แต่ไม่มีสถานที่กักตัวที่ดีพอ ให้มีที่พักแยกจากครอบครัวและชุมชน ลดความเสี่ยงของชุมชนที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบัน TIJ กล่าวว่า ความร่วมมือการจัดตั้งศูนย์ที่พักฯ เริ่มที่ปทุมธานีครั้งนี้ เพราะเรามองว่า ทุกคนควรเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับปัจเจกจนถึงระดับชุมชนสังคม ซึ่งศูนย์ฯ นี้ไม่ได้นำผู้ติดเชื้อมาพักอาศัย จึงไม่ใช่สถานพยาบาล แต่เป็นที่พักอาศัยระหว่างกักแยก
ถือเป็นกระบวนการต้นน้ำที่จะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส ที่อาจเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวหรือชุมชน ดังนั้นต้นน้ำก็ยังรวมถึงชุมชนสังคมด้วย ส่วนกลางน้ำ คือ โรงพยาบาล (Hospital) และปลายน้ำ คือ การจัดตั้งโรงพยาบาลพิเศษโรงพยาบาลสนาม (Cohort Hospital)
ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในศูนย์ฯ ต้องผ่านการคัดกรองจาก จ.ปทุมธานี สามารถเข้าใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมมีเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารครบ 3 มื้อ มีอินเตอร์เนตใช้ฟรี หากไม่พบอาการติดเชื้อหลัง 14 วัน จะถูกส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่หากผู้ใดพบอาการที่มีแนวโน้มว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ก็จะถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาทันที
ดร.อณูวรรณ วงศ์พิเชษฐ์ รองผู้อำนวยการ และ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และแผน TIJ กล่าวว่า ถ้าเราจัดการต้นน้ำได้เร็ว ก็ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อในชุมชน การระบุตัวได้เร็ว (Early Identification) การกักแยกตัวเร็วตั้งแต่ระยะสังเกตอาการ (EarlyIsolation) การส่งต่อรักษาได้เร็ว (Early Treatment) โอกาสหายเร็ว ทั้งนี้ ได้มีการประสานงานกับผู้นำท้องถิ่น สร้างความเข้าใจกับคนในชุมชนเป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
Medical Vocabulary คำศัพท์เฉพาะภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับการแพทย์
เกี่ยวกับ โรงพยาบาล (Hospital)
- Ambulance (แอม บิวเลิน) รถพยาบาล
- Gown (กาว) เสื้อคลุมยาว
- Antibiotic (แอนทิไบออท ทิค) ยาปฏิชีวนะ
- Balm (บาล์ม) ยาหม่อง
- Heating (ฮีทดิง แพค) กระเป๋าน้ำร้อน
- Examination Table (เอคแซม มะเนชั่น เทเบิล) เตียงตรวจโรค
- Emergency Room (อีเมอร์ เจนซี่ รูม) ห้องฉุกเฉิน
- Intensive Care Unit (ICU Room) (อินเทนซิฟ แคร์ ยูนิท) ห้องผู้ป่วยหนัก
- Operating Room (โอเปอร์ทิง รูม) ห้องผ่าตัด
- Docter (ดอดเทอะ)หมอ
- Nurse (เนิร์ซ) นางพยาบาล
- Assistant (อะซิสเทิน) ผู้ช่วย
- Patient (เพเชิน) ผู้ป่วย,คนไข้
- Medicine (เมดดิซิน) ยา
- Pill (พิล) ยาเม็ด
- Tincture (ทิงเชอะ) ยาใส่แผล
- Prescription (พรีสคริพชั่น) ใบสั่งยา
- Thermometer (เธอมอมมิเทอะ) เครื่องวัดอุณหภูมิ
- Height Chart (ไฮ ชาร์ท)ที่วัดส่วนสูง
- Eye Chart (อาย ชาร์ท) แผนภูมิวัดสายตา
- Mask (แมส) ผ้าปิดจมูกและปาก
- male nurse (เมล-เนิร์ซฺ )บุรุษพยาบาล
- wheelchair (วีล’แชร์) เก้าอี้รถเข็น (สำหรับคนป่วยหรือคนพิการ)
- hospital bed (ฮอส’พิเทิล-เบล) เตียงคนไข้
- call button (คอล-บัท’เทิน) ปุ่มกดเรียกพยาบาล
- respirator (เรส’พิเรเทอะ) เครื่องช่วยหายใจ
- pulse (พัลซฺ) ชีพจร, อัตราการเต้นของหัวใจ
- syringe (ซี’รินจฺ) เข็มฉีดยา, กระบอกฉีดยา
- inject (อินเจคทฺ) ฉีดยา
- vaccine (แวคซีน) วัคซีน
- clinical thermometer (คลินิเคิล-เธอมอมิเทอะ) ปรอทวัดไข้
- inflatable cuff (อินแฟลททะเบิล-คัฟฺ) ที่วัดความดัน
- scale (สเกล) เครื่องชั่งน้ำหนัก, ตราชั่ง
- height chart (ไฮทฺ-ชารทฺ) ที่วัดส่วนสูง
- stethoscope (สเตธโธสโคพฺ) หูฟังของแพทย์
- rubber hammer (รับเบอร์-แฮมเมอร์) ค้อนยาง
- tongue depressor (ทัง-ดีเพรสเซอะ) ที่กดลิ้น
- ice pack (ไอซฺ-แพคฺ) แผ่นประคบเย็น
- cotton wool (คอทเทิน-วูล) สำลี
- alcohol (แอล’กะฮอล) แอลกอฮอล์
- ammonia (อะมอน’เนีย) แอมโมเนีย
- gentian violet (เจ็นเชิน-ไวอะเล็ท) ยาฆ่าเชื้อ สีม่วง
- tincture (ทิงคฺ’เชอะ ทิงเจอร์) (ยาใส่แผลสด)
- mercurochrome (เมอคิว’โรโครม) ยาแดง
- tweezers (ทวี’เซอรซฺ) คีมหนีบ, แหนบ
- gauze (กอซ) ผ้าพันแผล, ผ้าก๊อซ
- tape (เทพ) เทปพันแผล
- bandage (แบน’ดิจฺ) ผ้าพันแผล
- adhesive bandage (แอดฮีซีฟ-แบนดิจ) พลาสเตอร์ปิดแผล
- walker (วอล์ค’เคอะ) อุปกรณ์ช่วยเดิน, โครงช่วยพยุงตัว
- crutches (ครัทเชส) ไม้ค้ำยัน
- cane (เคน) ไม้เท้า
- cast (คาสทฺ) เฝือก
- sling (สลิง) ผ้าคล้องแขน
- examination room (อิกแซมมะเนเชิน-รูม) ห้องตรวจโรค
- X-ray (เอ็กซฺ-เรย์) เอกซเรย์
- operating room (ออพพะเรทิง-รูม) ห้องผ่าตัด
- operate (ออพ’พะเรท) ผ่าตัด
- plastic surgery (พลาสติค-เซอร์เจอรี) ศัลยกรรมตกแต่ง
- Intensive Care Unit (ICU) (อินเทนซีฟ-แคร์-ยูนิท) (ไอซียู) ห้องผู้ป่วยหนัก
คำย่อแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาลที่เรียกกันทั่วไป
- ER ย่อมาจาก EMERGENCY ROOM ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
- OR ย่อมาจาก OPERATING ROOM ห้องผ่าตัด
- LR ย่อมาจาก LABOR ROOM ห้องคลอด
- OPD ย่อมาจาก OUTPATIENT DEPARTMENT แผนกผู้ป่วยนอก
- MED ย่อมาจาก MEDICINE อายุรกรรม(การรักษาด้วยยา)
- PED ย่อมาจาก PEDIATRIC กุมารเวชกรรม(การรักษาโดยเฉพาะเด็ก)
- SUR ย่อมาจาก SURGICAL ศัลยกรรม(การรักษาด้วยการผ่าตัด)
- ORTHO ย่อมาจาก ORTHOPEDIC ศํลยกรรมกระดูก(การรักษาโรคกระดูกด้วยยาหรือการผ่าตัด)
- OB-GYN ย่อมาจาก OBSTRETIC GYNECOLOGY สูติ-นรีเวชกรรม(การรักษาโดยเฉพาะสตรีและการตั้งครรภ์)
- ANC ย่อมาจาก Ante natal care การดูแลก่อนคลอด
- IPD ย่อมาจาก INPATIENT DEPARTMENT แผนกรักษาผู้ป่วยใน
- PT ย่อมาจาก PHYSICAL THERAPY แผนกกายภาพบำบัดและฟื้นฟู
- LAB ย่อมาจาก LABORATORY แผนกห้องปฏิบัติการ
คำย่อที่ใช้ในการบันทึกทั่วๆไป
- CC ย่อมาจาก Chief Complaint ประวัติสำคัญที่มารพ.
- PI ย่อมาจาก Present illness ประวัติปัจจุบัน
- PH ย่อมาจาก Past history ประวัติอดีต
- FH ย่อมาจาก Family history โรคทางกรรมพันธุ์ หรือการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
- SH ย่อมาจาก Social history ภาวะสังคมผู้ป่วย, อาชีพ, ความรับผิดชอบของงานหรือลักษณะ
- ROS ย่อมาจาก Review of system คือการเจ็บป่วยและสุขภาพทั่วไป ไล่ถามตามระบบอวัยวะต่างๆ เช่น ระบบทั่วไป ระบบผิวหนัง ระบบไหลเวียนโลหิต ฯลฯ
- HPI ย่อมาจาก History of present illness ประวัติปัจจุบันในเรื่องอาการ, ปัญหา
- PMH ย่อมาจาก Past medical history ประวัติอดีตของการรักษา, รายละเอียดการแพทย์,การผ่าตัดในอดีต หรือการเจ็บป่วยในอดีตที่สัมพันธ์กับปัจจุบัน
- U/D ย่อมาจาก Underlying disease โรคประจำตัว
- PE ย่อมาจาก Physical Examination การตรวจร่างกาย
- BP ย่อมาจาก Blood Pressure ความดันโลหิต
- PR ย่อมาจาก Pulse Rate อัตราชีพจร
- RR ย่อมาจาก Respiratory Rate อัตราการหายใจ
- T ย่อมาจาก Temperature อุณหภูมิ
- BW ย่อมาจาก Body Weight น้ำหนัก
- HT ย่อมาจาก Height ส่วนสูง
- GA ย่อมาจาก General Appearance ลักษณะภายนอกทั่วไป
- HEENT ย่อมาจาก Head Ear Eye Nose Throat ศรีษะ หู ตา จมูก คอ
- Abd ย่อมาจาก Abdomen ช่องท้อง
- Ext ย่อมาจาก Extremity ระยางค์(แขน ขา)
- IMP ย่อมาจาก Impression การวินิจฉัยแรกรับ
- Dx ย่อมาจาก Diagnosis การวินิจฉัยโรค
- Ddx ย่อมาจาก Differential Diagnosis การวินิจฉัยแยกโรค
- Rx,Px ย่อมาจาก Medical Prescribtion เอกสารที่แพทย์เขียนให้เภสัชกรสำหรับการจัดยาดูแลรักษาคนไข้
- Tx ย่อมาจาก Treatment การรักษา
- IVF ย่อมาจาก Intravenous Fluid สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
- V/S ย่อมาจาก Vital sign สัญญาณชีพ
- I/O ย่อมาจาก Intake/Outtake ปริมาณน้ำเข้าออกในแต่ละวัน
- N/S ย่อมาจาก Neurosign สัญญาณชีพทางระบบประสาท
- GCS ย่อมาจาก Glas glow coma score คะแนนการประเมินการตอบสนองทางระบบประสาท
- AWS ย่อมาจาก Alcohol Withdrawal score การประเมินกลุ่มอาการจากการถอนแอลกอฮอล์
คำย่อที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคที่ใช้กันทั่วๆไป
- Fx ย่อมาจาก Fracture กระดูกหัก
- DHF ย่อมาจาก Dangue Hemorrahic Fever ไข้เลือดออกจากเชื้อ dangue (เป็นไวรัสชนิดหนึ่ง)
- DF ย่อมาจาก Dangue Fever ไข้เลือดออกระยะแรก
- URI ย่อมาจาก Upper Respiratory Infection การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
- COPD ย่อมาจาก Chronic Obstructive Pulmonar Disease โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
- AE ย่อมาจาก Acute exaerbation การกำเริบฉับพลัน
- DM ย่อมาจาก Diabetes Mellitus โรคเบาหวาน
- HT ย่อมาจาก Hypertension โรคความดันโลหิตสูง
- DLD ย่อมาจาก Dyslipidemia โรคไขมันในเลือดสูง
- CVA ย่อมาจาก Cerebro Vascular Accident โรคทางหลอดเลือดสมอง
- SDH ย่อมาจาก Subdural hematoma เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นดูรา
- EDH ย่อมาจาก Epidural hematoma เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง
- SAH ย่อมาจาก Subarachnoid hemorrhage ลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นอะราชนอยด์
- ICH ย่อมาจาก Intra cerebral hemorrhage เลือดออกในสมอง
- UTI ย่อมาจาก Urinary Tract Infection การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- ARF ย่อมาจาก Acute Renal Failure ไตวายฉับพลัน
- CRF ย่อมาจาก Chronic Renal Failure ไตวายเรื้อรัง
- ESRD ย่อมาจาก End Stage Renal Disease โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
- ATN ย่อมาจาก Acute Tubular Necrosis โรคไตวายฉับพลัน
- CAPD ย่อมาจาก Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis การล้างไตทางช่องท้องชนิดต่อเนื่องด้วยตนเอง
- AF ย่อมาจาก Atrial Fibrillation หัวใจเต้นผิดจังหวะจากห้องส่วนบน
- VF ย่อมาจาก Ventricular Fibrillation หัวใจเต้นสั่นพลิ้ว
- VT ย่อมาจาก Ventricular Tachycardia หัวใจเต้นผิดจังหวะจากห้องส่วนล่าง
- SVT ย่อมาจาก Supra Ventricular Tachycardia หัวใจเต้นผิดจังหวะจากห้องส่วนบน
- AMI ย่อมาจาก Acute Myocardial Infarction โรคหัวใจวายฉับพลัน
- STEMI ย่อมาจาก ST Elevated Myocardial Infarction โรคหัวใจวายฉับพลัน
- NSTEMI ย่อมาจาก Non-ST Elevated Myocardial Infarction โรคหัวใจวายฉับพลัน
- PVC ย่อมาจาก Premature Ventriular Contracture หัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ
- CHF ย่อมาจาก Congestive Heart Failure หัวใจวาย
- NF ย่อมาจาก Necrotizing Fasciitis แผลติดเชื้อเนื้อตายลุกลามถึงชั้นพังผืด
- LBP ย่อมาจาก Low Back Pain ปวดหลัง
- MFPS ย่อมาจาก Myofascial Pain Syndrome ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- CTS ย่อมาจาก Carpal Tunnel Syndrome โรคเส้นประสาทที่ข้อมือถูกกดรัด
- HNP ย่อมาจาก Herniated Nucleus Pulposus หมอนรองกระดูกเคลื่อน
- BPH ย่อมาจาก Benign Prosthetic Hypertrophy ต่อมลูกหมากโต
- STD ย่อมาจาก Sexual transmitted disease โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- AGE ย่อมาจาก Acute Gastroenteritis ลำไส้อักเสบฉับพลัน
- CA ย่อมาจาก Cancer โรคมะเร็ง
- DC ย่อมาจาก Dental Caries โรคฟันผุ
CDA ย่อมาจาก Chronic Dento Alveolar abscess เป็นฝีที่เหงือกเรื้อรัง (โรครำมะนาด)
หากใครกำลังมีความสนใจอยากเรียนกฎหมายที่ต่างประเทศ แต่กลัวว่าจะยาก และไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองมองสถาบันสอนภาษาที่จะช่วยให้น้องๆ ได้รับพื้นฐานเกี่ยวกับวิชากฎหมายมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก hands-on.co.th
หุ่นยนต์-TeleMed New Normal เฮลธ์เทคไทย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ทำให้คนไทยยอม รับในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งนอกจากการนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันแล้ว เทคโนโลยีด้านสุขภาพก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่คนไทยกำลังตื่นตัว โดยเฉพาะการเดินหน้าพัฒนา หุ่นยนต์ และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างออกมาให้การสนับสนุนเพื่อสอดรับวิถี New Normal หลังวิกฤติ โควิด-19
Hapybot หุ่นยนต์ผู้ช่วยแพทย์
ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 การสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อแบ่งเบาภาระให้กับบุคลากรทาง การแพทย์ที่มีงานล้นมือ ซึ่งเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์มีส่วนช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมาก จึงถูกนำมาใช้ ในโรงพยาบาลเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ช่วยลดการสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ และลดความเสี่ยงของบุคลากร ซึ่ง หุ่นยนต์ Hapybot มีจุดเด่น อาทิ การเคลื่อนที่อิสระด้วยตัวเองในการขนส่งยา วัคซีนและเวชภัณฑ์การแพทย์รวมถึงสิ่งของอื่นๆ, มีหน้าจอสําหรับพยาบาลเพื่อสื่อสารกับผู้ป่วย สามารถพูดคุยสนทนาแบบเห็นหน้าได้, สั่งการผ่านหน้าจอสัมผัสบนตัวหุ่นยนต์, มีความเร็วในการเคลื่อนที่ 2.5-3 กม./ชม. หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อัตโนมัติ, สร้างแผนการเดินทางได้อัตโนมัติด้วย AI ทํางานต่อเนื่อง 3 ชม. และกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติเมื่อทํางานเสร็จ เป็นต้น
สำหรับ หุ่นยนต์ Hapybot นั้นเป็นความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยมหิดล-สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้สนับสนุนการใช้หุ่นยนต์เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้มอบ หุ่นยนต์ Hapybot จำนวน 3 ตัว เพื่อนำไปใช้งานจริงภายในโรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล 3 แห่ง คือ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทย ศาสตร์ศิริราชพยาบาล และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
การแพทย์ฉุกเฉินวิถีใหม่
ด้านนายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ล่าสุดทางทรูนั้นได้มีการผนึกกำลังกับโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการแพทย์มาใช้ผ่านเครือข่าย 5G โดยการสร้างการแพทย์ฉุกเฉินวิถีใหม่ หรือ ER New Normal เพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับหน่วยงานแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาล อื่นๆ แห่งแรกในไทย ซึ่งเทคโนโลยีระบบฉุกเฉินวิถีใหม่ หรือ ER New Normal นั้นจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ ลดความแออัดในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ตัวอย่างนวัตกรรมด้านการแพทย์ ที่ใช้งานผ่านเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ประกอบด้วย True 5G MedTech Ambulance : อุปกรณ์รถพยาบาลฉุกเฉินอัจฉริยะ ที่ช่วยติดตาม และสื่อสารระหว่างแพทย์ที่โรงพยาบาลกับภายในรถฉุกเฉินเพื่อจัดเตรียมการรักษาได้ทันท่วงที, AR Professional Consult Powered by True 5G : ระบบการเชื่อมต่ออัจฉริยะ สำหรับใช้สื่อสารระหว่างแพทย์ฉุกเฉินและแพทย์เฉพาะทาง โดยแพทย์เฉพาะทางจะเห็นภาพในมุมมองเดียวกันจากแว่นที่แพทย์ฉุกเฉินใส่ ทำให้สามารถให้ความเห็นได้อย่างแม่นยำ, True 5G Temi Connect & CareBot : หุ่นยนต์ สื่อสารอัจฉริยะ ลดการสัมผัส ช่วยส่งเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เอกสาร บังคับได้จากระยะไกล, Nopparat Teleclinic Powered by True 5G: เทคโนโลยี Vhealth Platform แอพพลิเคชันคัดกรองให้คำปรึกษาและวินิจฉัยโรคโดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ผ่านพ้นไป เชื่อว่าหลายคนจะคุ้นชินกับเทคโนโลยีด้านสุขภาพของไทยที่พัฒนาไปอย่างก้าวลํ้า รวมถึงการมี หุ่นยนต์ เข้ามาให้บริการเพื่อลดภาระการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลที่จะกลายมาเป็น New Normal ของคนไทย หลังช่วงวิกฤติ โควิด-19
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ปีบฝรั่ง สรรพคุณและประโยชน์ของต้นปีบฝรั่ง 6 ข้อ !
ปีบฝรั่ง
ปีบฝรั่ง ชื่อสามัญ Star of bethlehem[3], Madam fate[4]
ปีบฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippobroma longiflora (L.) G.Don (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Isotoma longiflora (L.) C.Presl, Laurentia longiflora (L.) Peterm., Lobelia longiflora L.) จัดอยู่ในวงศ์พระจันทร์ครึ่งซีก (CAMPANULACEAE)[1],[2],[4]
สมุนไพรปีบฝรั่ง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า แสนประสะ (กรุงเทพฯ) เป็นต้น[1]
ลักษณะของปีบฝรั่ง
- ต้นปีบฝรั่ง มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 20-30 เซนติเมตร โคนของลำต้นเป็นแกนแข็ง ตามลำต้นมีขนขึ้นประปราย ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ขึ้นได้ดีในดินทั่วไป ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดแบบเต็มวันถึงร่มรำไร เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ขึ้นได้ดีในที่รกร้างหรือที่ชุ่มชื้น และมีปลูกบ้างทั่วไป[1],[2],[3],[4]
- ใบปีบฝรั่ง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กลับ รูปยาวรี หรือรูปขอบขนานแกมรูปรี ปลายใบมนหรือแหลม โคนใบมนหรือสอบ ส่วนขอบใบจักเป็นฟันเลื่อยหรือหยักเว้าไม่สม่ำเสมอ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-16 เซนติเมตร หลังใบและท้องใบเรียบ ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบเป็นสีขาว[1],[2],[3]
- ดอกปีบฝรั่ง ออกเป็นดอกเดี่ยว โดยจะออกตามซอกใบ ดอกเป็นสีขาว มีกลีบดอกสีขาว 5 กลีบ ปลายกลีบดอกแหลม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว ส่วนปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ มีขนาดยาวประมาณ 1-2.5 เซนติเมตร ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ปลายกลีบแหลม ขอบกลีบหยักเป็นซี่ฟันไม่สม่ำเสมอ ขนาดของกลีบเลี้ยงยาวได้ประมาณ 0.8-2 เซนติเมตร บริเวณกลางดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ติดอยู่ข้างในท่อดอก ยาวเท่าหรือเลยหลอดกลีบ อับเรณูโค้ง ยาวประมาณ 0.4-0.6 เซนติเมตร รังไข่เป็นรูประฆัง เป็นริ้ว มีขนปกคลุมหนาแน่น ส่วนเกสรเพศเมียยื่นยาวเท่า ๆ อับเรณู ปลายเกสรมี 2 แฉก ก้านดอกยาวประมาณ 0.3-1.5 เซนติเมตร บริเวณโคนก้านดอกมีใบประดับ 2 ใบ ลักษณะเป็นรูปปลายแหลมเรียว เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร[1],[2],[3],[4]
- ผลปีบฝรั่ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงรี เป็นผลแห้งแตก เมื่อแก่จะโป่งออกและโค้งลง ภายในผลมีเมล็ดลักษณะเป็นรูปรีจำนวนมาก[1],[2],[3]
สรรพคุณของปีบฝรั่ง
- ทั้งต้นมีรสเฝื่อนร้อน นำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยารักษาโรคลมบ้าหมู (ลำต้น, ทั้งต้น)[1],[2]
- ใบสดนำมาตำให้ละเอียดเอามาอุดบริเวณฟันที่ปวด เป็นยาแก้ปวดฟัน (ใบสด)[1],[2]
- ใช้เป็นยาแก้โรคหอบหืด รักษาหลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้ลำต้นหรือทั้งต้นนำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ลำต้น, ทั้งต้น)[1],[2]
- ทั้งต้นนำมาต้มกับน้ำรับประทานเป็นยารักษากามโรค (ลำต้น, ทั้งต้น)[1],[2]
- ใบมีรสเฝื่อนร้อน ใช้เป็นยาถูทาให้ร้อนแดง (ใบสด)[1],[2]
ข้อควรระวัง : น้ำยางจากต้นทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเป็นอัมพาตและระคายเคืองต่อปากและคอ[5] ไม่ควรให้ถูกปาก คอ และตา เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ถ้าถูกตาอาจทำให้ตาบอดได้[1],[2]
ประโยชน์ของปีบฝรั่ง
- ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปเป็นกลุ่ม ๆ ปลูกตามริมน้ำตก ลำธาร แต่ไม่ควรปลูกใกล้กับสนามเด็กเล่น เพราะน้ำยางจากต้นเมื่อสัมผัสจะทำให้ผิวหน้าคันหรือถ้าเข้าตาก็อาจทำให้ตาบอดได้[2],[3]
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,450.00 | 25,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,649.00 | 24,998.84 | 26,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,484.10 | 22,498.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,319.20 | 19,999.07 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 742.00 | 11,248.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 577.00 | 8,747.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,709.00 | 25,908.44 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/06/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.64 | 17.64 | – | – | – | – | – | 17.64 | – | – |
เบนซิน 95 | 28.56 | – | – | – | 29.01 | – | 29.06 | 28.56 | – | 28.56 |
ดีเซล | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 |
ดีเซล B10 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 |
ดีเซล B20 | 18.04 | 18.04 | 18.04 | 18.04 | 18.04 | – | 18.04 | 18.04 | – | 18.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.44 | 25.46 | 27.44 | 27.44 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |