เน็กซัส รุก “ธุรกิจตัวกลางอสังหาฯ” เพิ่มโอกาส ปิดดีลลูกค้า
เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ พลิกกลยุทธ์ จับทิศทางธุรกิจ Third Party ตัวกลางซื้อ-ขาย ครบวงจร
หลายปีมาแล้วที่ธุรกิจตัวกลาง หรือ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) เกิดขึ้น และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากใครสามารถจับทิศทางได้ดีก็จะสามารถเติบโตไปแบบก้าวกระโดด ดังนั้นกลุ่มธุรกิจ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) จะเป็นตัวกลางที่เข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า อีกทั้งยังช่วยอุด Pain Point ของธุรกิจนั้นๆ ไปพร้อมกัน อาทิ ในกลุ่มธุรกิจช็อปปิ้ง สินค้าเพื่อความงาม หรือ แม้กระทั่ง FMCG ธุรกิจตัวกลางที่เป็นที่รู้จักอย่างดี อย่าง Shopee, Lazada และธุรกิจที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้น่าจะเป็นกลุ่ม Delivery อาทิ Lineman, Grab, Lalamove เป็นต้น ธุรกิจดังกล่าวยังเข้ามาช่วยอุดช่องโหว่ในอดีตที่เคยมี และเป็นทางเลือกลูกค้ามากมาย อาทิ ลูกค้าสามารถเลือกดูสินค้าได้ตลอดเวลา มีการเปรียบเทียบราคาได้
ยิ่งในภาวะการณ์เช่นนี้ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) ได้เข้ามาเติมเต็ม และเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราไปโดยสิ้นเชิง เพราะจากปกติที่เราก็เคยใช้บริการผ่าน Third Party กันอยู่แล้ว เมื่อเกิดการระบาดของ Covid-19 ยิ่งทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการกันเพิ่มมากขึ้น ด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ พฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป คือ หลีกเลี่ยงการออกไปซื้อของนอกบ้านด้วยตัวเอง, การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ไม่สะดวกเหมือนเดิม หรืออาจจะเคยชินกับความสบายในการเรียกใช้บริการ Third Party ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตไปแล้ว
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) เติบโต ต้องอาศัยปัจจัยหลักๆ 5 ข้อ ได้แก่ การตอบสนองได้อย่างทันท่วงที (Last Mile, Next Hour), มีสินค้าที่หลากหลายในที่เดียว (One destination for multi choices), เปรียบเทียบทั้งสินค้าและราคาได้ทันที (Comparable), มีความน่าเชื่อถือ (Reliability) และมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้คำตอบ (Technology) นอกจากนี้ ยังต่อยอดในเรื่องการทำโปรโมชั่นแบบ Private Premium โดยการใช้ AI มาเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค อาทิ คนที่อาศัยในพื้นที่ย่านบางนาอาจได้รับเลือกให้ได้รับโปรโมชั่นจากร้านค้าในย่านนั้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นต้น สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้ ก็เกิด Third Party เพื่อเข้ามาเติมเต็ม Eco System นี้ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ยิ่งในภาวะการณ์เช่นนี้ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) ได้เข้ามาเติมเต็ม และเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราไปโดยสิ้นเชิง เพราะจากปกติที่เราก็เคยใช้บริการผ่าน Third Party กันอยู่แล้ว เมื่อเกิดการระบาดของ Covid-19 ยิ่งทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการกันเพิ่มมากขึ้น ด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ พฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป คือ หลีกเลี่ยงการออกไปซื้อของนอกบ้านด้วยตัวเอง, การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ไม่สะดวกเหมือนเดิม หรืออาจจะเคยชินกับความสบายในการเรียกใช้บริการ Third Party ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตไปแล้ว
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Third Party (เติร์ด ปาร์ตี้) เติบโต ต้องอาศัยปัจจัยหลักๆ 5 ข้อ ได้แก่ การตอบสนองได้อย่างทันท่วงที (Last Mile, Next Hour), มีสินค้าที่หลากหลายในที่เดียว (One destination for multi choices), เปรียบเทียบทั้งสินค้าและราคาได้ทันที (Comparable), มีความน่าเชื่อถือ (Reliability) และมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้คำตอบ (Technology) นอกจากนี้ ยังต่อยอดในเรื่องการทำโปรโมชั่นแบบ Private Premium โดยการใช้ AI มาเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค อาทิ คนที่อาศัยในพื้นที่ย่านบางนาอาจได้รับเลือกให้ได้รับโปรโมชั่นจากร้านค้าในย่านนั้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เป็นต้น สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานี้ ก็เกิด Third Party เพื่อเข้ามาเติมเต็ม Eco System นี้ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ทรัพย์คณาฯ”ทุ่มพันล้าน เปิดโปรเจ็กต์ใหม่รับคลายล็อก
“ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้” ถือฤกษ์รัฐบาลคลายล็อกเฟส 4 เปิดตัวโครงการใหม่ ที่นครปฐม มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท จองแล้ว 40% ชูคอนเซ็ปต์ “นิยามชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ” พร้อมเตรียมเปิดอีกโครงการปี 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่บริเวณโครงการ “Garden Ville by Yusabai” อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม คณะผู้บริหารบริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด นำโดยนายวิชัย สุทธิเลิศวรกุล กรรมการบริหาร ได้เปิดตัวโครงการ “Garden Ville by Yusabai” อย่างเป็นทางการ และมีตัวแทนสถาบันการเงิน ผู้สนับสนุนโครงการ, และฝ่ายการตลาดของบริษัทและตัวแทนลูกค้า เข้าร่วมในงานอย่างคับคั่ง ภายใต้มาตรการคุ้มเข้มโควิด-19
นางยุพิน รัชตวุฒิพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า โครงการ “Garden Ville by Yusabai” ในพื้นที่กว่า 50 ไร่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท บริษัทมีความตั้งใจจะดำเนินโครงการนี้ภายใต้ความผูกพันธุ์เหมือนครอบครัว และบริหารงานอย่างมืออาชีพ ด้วยศักยภาพผลงานตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น โดยโครงการนี้ได้จัดวางพื้นที่ส่วนกลาง กว่า 2 ไร่ เป็นพื้นที่สีเขียว ความร่มรื่นสวยงาม มีสวนดอกไม้ มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น คลับเฮ้าส์ อีกทั้งมีฟิตเนส พร้อมสระว่ายน้ำ รวมถึงส่วนพื้นที่เอนกประสงค์ เพื่อรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ขณะนี้โครงการได้เริ่มก่อสร้างและได้รับความสนใจจากลูกค้าเข้ามาจองแล้วกว่า 40% จึงตั้งเป้าพร้อมให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยเฟสแรกประมาณเดือนมิถุนายน 2564 นี้
ในช่วงสถานการณ์ ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด บริษัทฯ ได้ปรับตัวทางธุรกิจเหมือนผู้ประกอบการและธุรกิจทั่วไป และเมื่อรัฐบาลผ่อนคลายล็อกในเฟส 4 บริษัทฯ จึงพร้อมเต็มที่ในการเปิดตัวในวันนี้ ขณะเดียวกันก็ทุกโครงการในจังหวัดนครปฐมได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพา “โครงการอยู่สบายสนามกีฬา” ที่ประสบความสำเร็จ ทำให้บริษัทต่อยอดมาถึงโครงการนี้
สำหรับโครงการ “Garden Ville by Yusabai” มีบ้านจำนวนทั้งสิ้น 274 ยูนิต ภายใต้แนวคิด “นิยามชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ” ใน 3 รูปแบบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.89 ล้านบาทจนถึง 3.75 ล้านบาท
ด้านนายกฤษณ์ สุวพนิช ที่ปรึกษาฝ่ายการออกแบบและพัฒนาโครงการ กล่าวเสริมว่า นอกจากการเปิดตัวโครงการ “Garden Ville by Yusabai” แล้ว บริษัทยังเตรียมดำเนินโครงการใหม่เพิ่มเติมคือ “CozyBIzTown by Yusabai” ในพื้นที่ตำบลห้วยจรเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อตอบโจทย์ชีวิตชาวนครปฐม ที่ค้าขายและทำธุรกิจเก่งจนร่ำรวยมั่งคั่ง โดยจะออกแบบโครงการดังกล่าว ในลักษณะ เป็นทั้งอาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ ทาวน์โฮม ตลอดจนคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในปี 2564 และมั่นใจว่า จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นทำเลที่คุ้มค่าทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนธุรกิจต่าง ๆ อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 31.11 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า
เงินบาทเปิดตลาด 31.11 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า หลังดอลล์แข็งจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.11 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.07 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังได้รับปัจจัยหนุนจากยอดค้าปลีกที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19
“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากยอดค้าปลีกที่ออกมาดีกว่าคาด และมีข่าวดีเรื่องวัคซีน” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าวันนี้บาทมีทิศทางผันผวน และมีแนวโน้มอ่อนค่า
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
จริงหรือ? COVID-19 เชื่อมโยงกับระบบประสาท
ปัจจุบันไวรัส COVID-19 ยังคงระบาดไปทั่วโลก แม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในบางประเทศเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับโรคบางโรคที่อาจเชื่อมโยงกับ COVID-19 ได้ ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อ นอกจากในระบบทางเดินหายใจ ยังสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบอื่นๆ ได้ โดยหนึ่งในระบบโรคดังกล่าวคือ โรคทางระบบสมองและประสาท
จริงหรือ? COVID-19 เชื่อมโยงกับระบบประสาท
นพ.ชัยศักดิ์ ดำริการเลิศ แพทย์อายุรกรรมระบบประสาทและแพทย์ผู้ชำนาญการด้านพฤติกรรมประสาทวิทยาและโรคสมองเสื่อม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า มีงานวิจัยจากนครอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีนพบว่าผู้ป่วย COVID-19 สามารถพบอาการทางระบบประสาทได้ถึง 36% ซึ่งอาการดังกล่าวพบได้ทั้งในระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System) และระบบประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nervous System)
โดยคาดว่าอาการดังกล่าวเกิดจากการที่เชื้อไวรัสสามารถเข้าไปในระบบประสาทได้โดยตรง และไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ ให้เกิดการอักเสบ และทำให้มีการบาดเจ็บของเซลล์ประสาทตามมา จากงานวิจัยดังกล่าวพบว่า อาการทางระบบประสาทในผู้ป่วย COVID-19 มีได้ตั้งแต่อาการเพียงเล็กน้อย เช่น มึนศีรษะ ปวดศีรษะ การรับรสหรือรับกลิ่นลดลง อาการปวดเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อ จนถึงอาการรุนแรง เช่น การรับรู้สติสัมปชัญญะที่ลดลง อาการชัก หรืออาการของโรคหลอดเลือดสมอง
จากงานวิจัยจนถึงปัจจุบันยังไม่พบว่าโรคประจำตัวทางระบบประสาทเพิ่มความเสี่ยงการติด COVID-19
นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้ป่วยเกี่ยวกับเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ (Encephalitis) หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) โรคกลุ่มอาการกิลแลงบาร์เร (Guillain Barre Syndrome) และโรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือดในผู้ป่วยอายุน้อย (Acute Ischemic Stroke in Young Adults) สำหรับคนที่มีโรคทางระบบประสาทอยู่เดิม เช่น โรคลมชัก โรคหลอดเลือดสมอง โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ หรือ โรคพาร์กินสัน จากงานวิจัยจนถึงปัจจุบันยังไม่พบว่าโรคประจำตัวทางระบบประสาทดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 และยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนชัดเจนว่า ยารักษาโรคทางระบบประสาทดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเช่นกัน
ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวทางระบบประสาทดังกล่าวบางส่วนมีอายุค่อนข้างมาก
ผู้ป่วยบางคนจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันหรือปรับเปลี่ยนภูมิคุ้มกันในการควบคุมโรค ซึ่งจากข้อมูลจนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่ายากลุ่มนี้จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้มากน้อยเพียงใด แต่หากหยุดยาดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้โรคประจำตัวกำเริบ ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงจากตัวโรคและทุพพลภาพตามมา แนะนำว่าผู้ป่วยที่รับยาในกลุ่มนี้ไม่ควรหยุดยาเอง ควรดูแลสุขภาพ และป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อให้ดี ปรึกษาแพทย์ประจำที่รักษาก่อนการหยุดหรือปรับเปลี่ยนยาทุกครั้ง
บางครั้งอาการที่เป็นอาจเป็นจากสาเหตุอื่น ไม่ได้เป็นจากเชื้อไวรัส COVID-19 เสมอไป
การติดเชื้อไวรัส COVID-19 นอกจากจะทำให้เกิดอาการทางระบบหายใจแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทได้หลากหลายแบบ ซึ่งอาการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ บางครั้งอาการที่เป็นอาจเป็นจากสาเหตุอื่น ไม่ได้เป็นจากเชื้อไวรัส COVID-19 เสมอไป ดังนั้นหากมีอาการหรือข้อสงสัย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์อายุรกรรมระบบประสาทเพื่อทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และสืบค้นเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของอาการต่อไป
ขอยคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
โควิดก็หยุดไม่อยู่ “บาเยิร์น” เฉือน “เบรเมน” 1-0 การันตีแชมป์สมัย 30
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ซัดประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก และเป็นสกอร์เดียวของเกม ทำให้ บาเยิร์น มิวนิก บุกมาเอาชนะ เบรเมน 1-0 คว้าแชมป์บุนเดสลีกาประจำฤดูกาล 2019-2020 เป็นที่แน่นอนแล้ว
เกมในครึ่งเวลาแรกเป็นทางบาเยิร์น มิวนิก ครองเกมได้มากกว่า โดยประตูแรกของเกมมาเกิดขึ้นในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 จากจังหวะการโยนตัดข้ามแนวรับเบรเมนของ เจอโรม บัวเต็ง ไปให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปพักอกก่อนซัดด้วยขวาเข้าไป ช่วยให้เสือใต้นำในครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 1-0
ครึ่งหลังบาเยิร์น พยายามอย่างหนักที่จะเอาประตูที่สองเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งมีโอกาสส่งบอลเข้าสู่กันตาข่ายแล้วอีกหนึ่งรอบในช่วงต้นครึ่งหลังจาก เลวานดอฟสกี คนเดิม แต่ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นลูกล้ำหน้าก่อน และในนาทีที่ 79 อัลฟองโซ เดวีส์ มาโดนใบเหลือที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ทำให้เสือใต้เหลือนักเตะ 10 คนในสนาม ก่อนที่นาทีที่ 89 มานูเอล นอยเออร์ จะได้ออกแรงเซฟเป็นครั้งแรกของเกม หลังต้องบินปัดลูกโขกของ ยูยะ โอซาโกะ
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม บาเยิร์น มิวนิก บุกมาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-0 ส่งผลให้คว้าแชมป์บุนเดาลีกาประจำฤดูกาล 2019-2020 เป็นที่แน่นอน แม้ยังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัดก็ตาม หลังทำคะแนนทิ้งห่างอันดับสอง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแล้ว 10 แต้ม ขณะที่ เบรเมน ยังต้องลุ้นหนักในอีกสองเกมที่เหลือต่อจากนี้
ส่วนผลคู่อื่น ไฟร์บวร์ก เปิดบ้านเอาชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 2-1 และ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เฉือน พาเดอร์บอร์น 1-0 (พาเดอร์บอร์น ตกชั้นแน่นอนแล้ว)
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
10 ประโยคฟังไว้ คุณหมอและเภสัชกรที่ไหนก็พูดกัน
ในบางครั้งเราอาจจะได้ยินว่า What can I get for you?
และ May I see your prescription? ในกรณีที่มีใบสั่งยาจากหมอ เพราะที่ต่างประเทศจะไม่สามารถซื้อยาบางชนิดได้ด้วยตัวเอง ต้องมีใบสั่งซื้อจากคุณหมอเท่านั้น
(เทค-…อาฟ’เตอร์ / บี’ฟอร์-…)
ทาน …(จำนวน) หลัง/ก่อน…(มื้ออาหาร)…
บางครั้งคุณหมอ หรือเภสัชจะแนะนำเรื่องวิธีการทานยาให้กับเรา
เช่น Take 2 (tablets) after dinner.
Take 1 (tablet) before lunch.
9. It may cause _____
(อิท-เมย์-คอซ)
มันอาจทำให้คุณ…
คุณควรหลีกเลี่ยงที่จะดื่มแอลกอฮอล์
ป่วยแบบนี้ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก mindenglishofficial.com
คนทำงานกว่า 60% รู้สึกไม่สะดวกกลับทำงานในออฟฟิศ
ควอทริคซ์ (Qualtrics) ประกาศผลการศึกษาเรื่อง “การกลับไปทำงานในที่ทำงาน” (Return to Work & Back to Business Study) ” ซึ่งเป็นผลการศึกษากับกลุ่มคนทำงานในอายุต่างๆ กัน นับตั้งแต่คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ถึงยุคเจนซี ในประเทศไทย และมาเลเซีย รู้สึกไม่สะดวกใจที่จะกลับไปทำงานในที่ทำงาน
ผลการศึกษาเรื่อง “การกลับไปทำงานในที่ทำงาน” (Return to Work & Back to Business Study) ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 509 คน จาก 2 ประเทศ โดยเป็นคนไทย 150 คน ในหัวข้อเกี่ยวกับความมั่นใจในการกลับไปทำงานในที่ทำงาน หรือออกไปใช้ชีวิตในสังคมเหมือนเดิม และปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้เขารู้สึกสบายใจที่จะทำ
คนทำงานจำนวน 62% คาดหวังว่าจะกลับไปที่ทำงานในเดือนกรกฎาคม และมากกว่าครึ่งหนึ่ง (58%) กล่าวว่า ต้องมีการรักษาโรคให้หาย หรือวัคซีน ออกมาก่อน พวกเขาจึงรู้สึกสบายใจที่จะกลับไปที่ทำงาน
นายเหมา กล่าวเสริมว่า “มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งในประเทศไทยและมาเลเซียรู้สึกยังไม่สะดวกที่จะกลับไปที่ทำงาน องค์กรและรัฐบาลจำเป็นต้องเข้าใจว่าพฤติกรรมและทัศนคติของพนักงานและลูกค้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้น องค์กรต้องช่วยให้พนักงานรู้สึกมั่นใจในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปยังเฟสต่อไปของ “ภาวะปกติแบบใหม่” ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากที่องค์กรธุรกิจต้องรู้ข้อมูลเชิงลึกว่าพนักงานและลูกค้ามีความมั่นใจมากน้อยเพียงใด ในแต่ละขั้นตอนของการเปลี่ยนผ่าน เพื่อผลักดันสิ่งจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในแต่ละขั้นตอนได้อย่างเหมาะสม และเรามีเครื่องมือ เช่น Qualtrics Return to Work Pulse เป็นเครื่องมือที่สร้างความแตกต่างในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้”
ผลการสำรวจ การกลับไปทำงานในที่ทำงาน
ผลการศึกษาพบว่า พนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องการให้องค์กรมีแนวทางปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
- 83% ของคนทำงานต้องการให้เพื่อนร่วมงานทุกคนใส่หน้ากากอนามัย
- 82% ต้องการเจลล้างมืออนามัยและสิ่งทำความสะอาดวางกระจายอยู่ทั่วออฟฟิศ
- 67% ยังคงต้องการให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing)
- 63% ต้องการให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ
- 62% ต้องการให้ออกนโยบายไม่สนับสนุนให้มีการจับมือหรือกอดทักทายในที่ทำงาน
ทันที่ที่กลับไปที่ทำงาน พนักงานกล่าวว่า พวกเขาจะรู้สึกสบายใจหากว่าบริษัทออกมาตรการต่างๆ เหล่านี้ เพื่อปกป้องพวกเขา และเพื่อนร่วมงานทุกคน
- 96% กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะจำกัดจำนวนคนในการเข้าประชุม
- 98% กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่พนักงานทุกคนจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย
- 96% กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรควรอนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ หากพวกเขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัย
- 97% กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามายังอาคาร
- 97% กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีนโยบายรักษาระยะห่างทางสังคมในที่ทำงาน
ผลการศึกษา – การกลับสู่ธุรกิจ
แม้ว่ากฎเกณฑ์เริ่มผ่อนคลายลง แต่ทว่าคนยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และ 32% คิดว่า “จะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม”
การแสดงคอนเสิร์ตและกีฬา: ปัจจุบัน คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจที่จะดูกีฬาสดที่สนาม (73%) และการแสดงคอนเสิร์ต (71%) คนจำนวน 1 ใน 4 (25%) ที่ดูกีฬาเป็นประจำ กล่าวว่า พวกเขาไม่น่าจะดูกีฬาที่สนามในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ แม้ว่าจะมีการผ่อนผันก็ตาม นอกจากนี้ คนเกือบครึ่ง (48%) กล่าวว่า พวกเขาไม่น่าจะเข้าดูการแข่งขันกีฬาที่สนามจนกว่าจะถึงมกราคม ปีหน้า ในขณะที่คน 59% กล่าวว่า พวกเขาจะไม่ไปดูการแสดงคอนเสิร์ตจนกว่าจะมกราคมปีหน้าเช่นกัน
ร้านอาหารและช้อปปิ้ง: คน 60% กล่าวว่า ยังรู้สึกไม่สบายใจที่จะไปร้านอาหาร ในขณะที่อีก 36% รู้สึกแบบเดียวกัน คือ ไม่อยากไปช็อปปิ้ง เมื่อห้างร้านเปิดกิจการแล้ว ไม่มีการรับประกันว่าคนจะกลับมาเดินเที่ยวเหมือนเดิม
แม้ว่าสาธารณสุขจะประกาศว่าปลอดภัย และการรักษาหรือวัคซีนป้องกันไวรัสพร้อมแล้ว ผู้คนยังคงต้องการที่จะเห็นมาตรการต่างๆ ก่อนที่จะออกไปทานอาหารนอกบ้าน
- 12% ต้องการให้โต๊ะแยกห่างกันเพื่อความปลอดภัย
- 12% ต้องการให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม
- 12% ต้องการให้บริกรและพนักงานในร้านอาหารใส่ถุงมือและหน้ากาก
- 11% ต้องการให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ก่อนเข้าร้านอาหาร
สายการบิน และการเดินทางโดยรถสาธารณะ: ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 67% รู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้บริการรถสาธารณะ และ 73% รู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้บริการสายการบิน
นายเหมา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกยังไม่พร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม นั่นหมายความว่า ในขณะที่มาตรการต่างๆ ได้รับการผ่อนผัน และองค์กรธุรกิจเปิดทำการอีกครั้งในช่วงสัปดาห์นี้และเดือนนี้ ดังนั้น เป็นเรื่องจำเป็นที่องค์กรธุรกิจควรเข้าใจถึงความรู้สึกของลูกค้า ผู้ใช้บริการ หรือพนักงาน ซึ่งต้องการเห็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัย นำมาใช้ในองค์กรและการให้บริการ ทั้งนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากพนักงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง และช่องทางดิจิทัล ทำให้องค์กรสามารถดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจ ให้กับทุกคน ทั้งนี้ เพื่อการก้าวไปข้างหน้าได้อย่างดีที่สุด”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กระชับ สรรพคุณและประโยชน์ของผักกระชับ 37 ข้อ ! (หญ้าผมยุ่ง)
กระชับ
กระชับ ชื่อสามัญ Burweed, California-bur, Cocklebur, Ditch-bur[2]
กระชับ ชื่อวิทยาศาสตร์ Xanthium strumarium L.[2] (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Xanthium sibiricum Patrexwidd[1], Xanthium americanum Walter[2], Xanthium chinense Miller[2], Xanthium indicum Koeing ex Roxb.[2], Xanthium japonicum Widder[2]) จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE)[1],[2]
สมุนไพรกระชับ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ขี้ครอก (ราชบุรี), หญ้าผมยุ่ง (เชียงใหม่), เกี๋ยงนา มะขัดน้ำ มะขะนัดน้ำ (ภาคเหนือ), เกี๋ยงน้ำ ขี้อ้น ขี้อ้นดอน ขี้อ้นน้ำ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), ชางเอ๋อจื่อ (จีนกลาง), ผักกระชับ เป็นต้น[1],[2],[5],[6]
ลักษณะของกระชับ
- ต้นกระชับ จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุราว 1 ปี (บ้างว่าหลายปี) มีความสูงของต้นประมาณ 40-100 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรง ผิวต้นหยาบ มีลายเส้นเป็นเหลี่ยม ๆ ทั้งต้น มีขนสีขาว ๆ ขึ้นอยู่ประปราย ผิวโคนต้นเป็นสีม่วง ส่วนผิวด้านบนของลำต้นเป็นสีเขียวแต้มด้วยสีน้ำตาลดำ แตกกิ่งก้านได้มาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด และเข้าใจว่าต้นกระชับนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา มีการแพร่กระจายเป็นวัชพืชไปทั่วโลก โดยมักจะขึ้นตามที่โล่ง แม่น้ำ ริมลำธาร ริมตลิ่ง ริมทะเล ตามหนองบึงทั่วไป รวมไปถึงตามที่รกร้างว่างเปล่า[1],[2],[5]
- ใบกระชับ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปสามเหลี่ยม เว้าลึกเป็นแฉก 3-5 แฉก แผ่นใบยาวประมาณ 9-25 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเป็นรูปหัวใจตื้นหรือกลม ขอบใบเป็นซี่ฟันปลาหรือหยักเป็นฟันเลื่อยแบบไม่เป็นระเบียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-10 เซนติเมตร ก้านใบยาวประมาณ 3.5-10 เซนติเมตร แผ่นใบมีขนสากทั้งสองด้าน[1],[2]
- ดอกกระชับ ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่น เรียงแบบช่อกระจะบนแกนเดียว ดอกมีจำนวนมาก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน โดยดอกเพศผู้จะออกที่ปลายกิ่ง มีวงใบประดับ 1 วง ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 2.2 เซนติเมตร กาบด้านนอกเป็นรูปขอบขนาน กาบด้านในมีลักษณะเป็นรูปใบหอก ยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร กลีบดอกเป็นสีขาว หลอดกลีบยาวประมาณ 2.5 มิลลิเมตร ปลายเป็นจัก 5 จัก มีเกสรเพศผู้จำนวน 5 ก้าน เชื่อมติดกันอยู่ ส่วนช่อดอกเพศเมียจะออกตามซอกใบ มีวงใบประดับอยู่ 1 วง ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร โดยใบประดับด้านในจะเชื่อมติดกับกาบนอก ส่วนเกสรเพศเมียปลายแยกเป็น 2 แฉก[1],[2]
- ผลกระชับ ผลมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปกลมรีหรือเป็นรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1-1.8 เซนติเมตร โดยจะออกเป็นคู่ ๆ ผลมีหนามนุ่มเป็นรูปตะขออยู่บนผิวของผล ที่ปลายผลเป็นจะงอยแหลม 2 อัน ในผลหนึ่งผลจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด เรียกว่า “เมล็ดกระชับ” เมล็ดเป็นสีดำมีลักษณะเรียวยาวและเข็ง โดยจะมีความยาวประมาณ 8-16 มิลลิเมตรและกว้างประมาณ 5-12 มิลลิเมตร[1],[2]
สรรพคุณของกระชับ
- ผลใช้เป็นยาเย็น ยาบำรุงกำลัง (ผล)[6]
- รากใช้เป็นยาขมช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก)[6]
- ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ใบ, ต้น)[1],[6]
- ช่วยระงับประสาท (ต้น)[6]
- ช่วยแก้อาการปวดหู (ใบ, ต้น)[6]
- ช่วยแก้จมูกอักเสบเรื้อรังและริดสีดวงจมูก ด้วยการใช้เมล็ดกระชับประมาณ 8 กรัม, ใบสะระแหน่ 5 กรัม, ใบชา 10 กรัม, รากหอมใหญ่ 6 กรัม, โกฐสอ 10 กรัม และดอกชุนฮัว 12 กรัม นำทั้งหมดมาต้มกับน้ำเป็นยารับประทาน (ต้น)[1]
- น้ำสกัดจากผลใช้เป็นยาบ้วนปาก แก้อาการปวดฟันได้ (ผล)[2]
- เมล็ดใช้เป็นยาแก้ไข้หวัด ถอนพิษไข้ (ราก, ต้น, ใบ, เมล็ด)[1],[6]
- เมล็ดใช้เป็นยารักษาไข้จับสั่น (เมล็ด)[1]
- ผลใช้เป็นยาแก้ไข้ทรพิษ (ผล)[6]
- ลำต้นใช้เป็นยาแก้โรคมาลาเรีย (ต้น)[6]
- ช่วยขับเหงื่อ (ต้น)[1],[6]
- ช่วยขับน้ำลาย (ต้น)[4],[6]
- ราก ลำต้น ใบ และเมล็ดมีรสขม เผ็ดชุ่ม เป็นยาอุ่นแต่มีพิษเล็กน้อย ออกฤทธิ์ต่อปอดและตับ ช่วยขับลมชื้น (เมล็ด)[1]
- ช่วยรักษาโรคกระเพาะอักเสบ (ต้น)[6]
- ช่วยรักษาโรคท้องมาน (ผล)[6]
- ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ (ต้น)[6]
- ช่วยรักษาโรคเริม (ใบ)[1],[6]
- แก้มุตกิดของสตรี (ต้น)[6]
- ช่วยแก้อาการตกเลือดในสตรี (ราก, ต้น, ใบ, เมล็ด)[1]
- ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนของสตรี (ต้น)[4],[6]
- ใบใช้แก้โรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง (ใบ)[6]
- ช่วยแก้พิษงูสวัด (ใบ)[1],[6]
- ช่วยแก้ลมพิษ (ผล)[6]
- ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ด้วยการใช้ใบและลำต้นนำมาตำแล้วใช้พอกบริเวณที่ถูกกัด (ใบ, ต้น)[1]
- ช่วยแก้โรคผิวหนัง รักษาโรคเรื้อน (เมล็ด)[1]
- ช่วยแก้หิด (ใบ, ต้น)[1],[6]
- ช่วยแก้ฝีหนองภายนอก ด้วยการใช้ต้นกระชับสดประมาณ 60 กรัม นำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ต้มได้มาล้างบริเวณที่เป็นแผล (ต้น)[1]
- ใบและลำต้นนำมาตำให้ละเอียด ใช้พอกรักษาแผลปวดบวม (ใบ, ต้น)[6]
- ช่วยสมานแผลสด ช่วยห้ามเลือด (ราก, ใบ)[1],[6]
- ช่วยแก้อาการปวดกล้ามเนื้อ (ต้น)[6]
- ช่วยระงับอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ อัมพาต (ผล)[6]
- ช่วยแก้ไขข้ออักเสบ (ต้น)[1]
- รากใช้เป็นยาแก้วัณโรคต่อมน้ำเหลืองและมะเร็ง (ราก)[6]
- รากและผลมีสารจำพวกอัลคาลอนด์ เช่น Xanthinin, Xanthumin และสาร Xanthatin ซึ่งเป็นที่มีสรรพคุณแก้แพ้ แก้อาการอักเสบได้หลายอย่าง เช่น การติดเชื้อทางผิวหนัง โรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น (ผล, ราก)[2]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระชับ
- ทั้งต้นพบสาร 43-lsopetenyl, Strumaroside, Xanthinin, Xanthumin อีกทั้งยังมีสาร KNO3, C aSO4, Amino Acid เป็นต้น[1]
- เมล็ดกระชับพบสาร Xanthostrumarin 1.27% และพบสาร Xanthumin Xathnol และยังพบน้ำมันอีกประมาณ 39% ซึ่งในน้ำมันพบสาร เช่น Oleic acid และ Linoleic acid ในเมล็ดยังพบ Oxalic acid, เรซิน, วิตามินซี, โปรตีน, และน้ำตาลอีกด้วย[1]
- ในเมล็ดกระชับมีสาร Santhostrunarin โดยสารชนิดนี้เมื่อนำมาทดลองกับสัตว์ทดลอง จะพบว่ามันสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของสัตว์ทดลองได้ แต่สารดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เหมือนสารอินซูลิน เนื่องจากสารดังกล่าวนั้นมีลักษณะการลดน้ำตาลในเลือดที่แตกต่างกันคือ อินซูลินจะทำให้หน้าที่ลดระดับน้ำตาลในเลือดที่มีอยู่ในกระแสเลือดให้ลดลง แต่สารจากเมล็ดกระชับจะทำให้หน้าที่สลายโครงสร้างของน้ำตาลที่กำลังสร้างขึ้นจากภายในตับ ดังนั้น จึงไม่มีผลในการลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือดที่เกิดจากการรับประทานเข้าได้เหมือนกับสารอินซูลิน[1]
- น้ำต้มที่ได้จากเมล็ดกระชับ มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Bacillus inuza และ Staphylococcus ได้[1]
- สาร Santhostrunarin จากกระชับมีฤทธิ์เป็นพิษ โดยจะทำให้ bun. ในปัสสาวะสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไต เพราะจะทำให้พิษไนโตรเจนจากปัสสาวะเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะมีผลในการทำลายตับ ทำให้ตับเกิดโรคได้ หรือหากพิษเข้าสู่สมองก็มีผลในการทำลายเส้นประสาทในสมอง และมีผลต่อชีวิตได้[1]
- หากฉีดสาร Santhostrunarin ในขนาด 10-16 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวของหนู 1 กิโลกรัม จะเริ่มถึงขีดอันตราย แต่ถ้าหากฉีดในขนาดถึง 40 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม จะมีพิษทำให้หนูเสียชีวิตได้[1]
- สำหรับวิธีการแก้พิษจากสาร Santhostrunarin ให้ฉีดน้ำเกลือ จะสามารถช่วยบรรเทาพิษลงได้ และขึ้นอยู่กับปริมาณของพิษที่ได้รับ[1]
ประโยชน์ของกระชับ
- ยอดอ่อนและต้นอ่อนที่มีใบแท้สมบูรณ์เมื่อทำให้สุกแล้วสามารถใช้รับประทานเป็นผักได้ หรือใช้ต้นอ่อน (เพาะจากเมล็ด) นำมาใช้ปรุงอาหาร เช่น ทำแกงส้ม เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะระมัดระวัง เนื่องจากต้นกระชับมีสาร xanthostrumarin glycoside ซึ่งเป็นสารที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง[2],[3],[5]
- เมล็ดให้แป้ง โดยเมล็ดจากแป้งสามารถนำมาใช้ทำเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวได้[2],[3]
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรกระชับ
- ต้นกล้าของกระชับจะมีพิษมาก ห้ามรับประทานเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้[1]
- เมล็ดมีสาร Xanthostrumarin glycoside ซึ่งเป็นสารที่มีพิษต่อสัตว์ สารนี้จะคงอยู่จนถึงระยะที่เมล็ดงอกเป็นต้นอ่อนมีใบเลี้ยงติดอยู่ เมื่อใบแท้เริ่มมีการเจริญเติบโต ไกลโคไซด์จะลดลงอย่างรวดเร็ว โดยสารพิษชนิดนี้จะไม่สลายตัวแม้จะนำมาตากแดดให้แห้งแล้วก็ตาม[2]
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,350.00 | 25,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,642.00 | 24,892.72 | 25,950.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,477.80 | 22,403.45 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,313.60 | 19,914.18 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 739.00 | 11,203.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 575.00 | 8,717.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,702.00 | 25,802.32 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/06/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 20.95 | 20.95 | 21.45 | 20.95 | 21.45 | 20.95 | 20.95 | 20.95 | 20.95 | 20.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 20.68 | 20.68 | 21.18 | 20.68 | 21.18 | 20.68 | 20.68 | 20.68 | 20.68 | 20.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.44 | 19.44 | 19.94 | 19.44 | 19.94 | – | 19.44 | 19.44 | 19.44 | 19.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | 17.59 | – | – |
เบนซิน 95 | 28.36 | – | – | – | 29.31 | – | 28.86 | 28.36 | – | 28.36 |
ดีเซล | 21.39 | 21.39 | 21.89 | 21.39 | 21.89 | 21.39 | 21.39 | 21.39 | 21.39 | 21.39 |
ดีเซล B10 | 18.39 | 18.39 | 18.89 | 18.39 | 18.89 | 18.39 | 18.39 | 18.39 | 18.39 | 18.39 |
ดีเซล B20 | 18.14 | 18.14 | 18.64 | 18.14 | 18.64 | – | 18.14 | 18.14 | – | 18.14 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.54 | 25.56 | 28.04 | 27.54 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |