“กรมที่ดิน”เปิด6บริการรูปแบบใหม่บนแอพพลิชั่นไลน์
“New Normal on LINE” กรมที่ดินเปิดบริการรูปแบบใหม่บนแอพพลิชั่นไลน์ 6ด้าน กับวิถีชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน โดยเปิดให้บริการ จำนวน 6 ด้าน นัดทำธุรกรรมล่วงหน้า –คำนสณภาษี-ค้นหาแปลงที่ดิน-ราคาประเมิน –ค้นประกาศ-ร้องทุกข์
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ทุกคนต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ที่มีความสำคัญเพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างบุคคล ทำให้โอกาสในการติดเชื้อ COVID-19 ก็จะลดน้อยลงด้วย
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดินเปิดเผยว่า กรมที่ดิน เล็งเห็นความสำคัญในการให้บริการประชาชนได้อย่างราบรื่น ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน จึงได้เปิดบริการในรูปแบบใหม่ (New Normal) บนแอพพลิชั่นไลน์ (LINE Official Account) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ยังไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานที่ดิน ลดการแออัด รักษาระยะห่างทางสังคม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในยุคปัจจุบัน โดยเปิดให้บริการ จำนวน 6 ด้าน ได้แก่
1. การนัดหมายทำธุรกรรมล่วงหน้า ผ่านระบบ LINE Official Account ของสำนักงานที่ดิน โดยสามารถนัดหมายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยตรง กับสำนักงานที่ดินที่ต้องการไปทำธุรกรรมได้ทั่วประเทศ ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
2. การคำนวณภาษีที่ดิน สามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมและภาษีอากรในการทำนิติกรรมต่าง ๆ เช่น ขาย ขายเฉพาะส่วน ขายฝาก ให้ โอนมรดก จำนอง หรือเช่า ได้จากเว็บไซต์กรมที่ดิน ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
3. การตรวจสอบราคาประเมิน สามารถตรวจสอบราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของตนเองได้ทั่วประเทศ จากเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
4. การค้นหารูปแปลงที่ดิน สามารถตรวจสอบตำแหน่ง ภาพแปลงที่ดิน สภาพแวดล้อมที่ดินข้างเคียง ข้อมูลผังเมือง เส้นทางเพื่อเดินทางไปยังแปลงที่ดินดังกล่าว และตรวจสอบสถานที่ตั้งสำนักงานเขตที่ดินที่เกี่ยวข้อง บนแอพพลิเคชั่น LandsMaps ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
5. การค้นหาประกาศกรมที่ดิน สามารถตรวจสอบประกาศสำนักงานที่ดินทั่วไทย เพื่อการรักษาสิทธิ์ในที่ดิน บนเว็บไซต์ e-LandsAnnoucement ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
6. การร้องทุกข์ร้องเรียน สามารถยื่นเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนเกี่ยวกับที่ดินด้วยระบบ E-Contact DC ของศูนย์ดำรงธรรมกรมที่ดิน จากโทรศัพท์มือถือของท่านได้ทันที ผ่านระบบ LINE Official Account : @teedin
บริการทั้ง 6 ด้านดังกล่าว เปิดให้บริการแล้ววันนี้ โดยท่านสามารถใช้บริการผ่าน LINE Official Account เพียงแอดไลน์ไอดี : @teedin (มี @ด้วย) หรือคลิกเพิ่มเพื่อนอัตโนมัติได้ที่ : https://lin.ee/xHXz6SG สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง นี่คือ การบริการในรูปแบบ New Normal ของกรมที่ดิน ที่สะดวกสบาย ประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย และไม่ประมาทการ์ดอย่าตก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“กทม.” ล้าง 4อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำรับมือฝนถล่มกรุง
พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุอีกหนึ่งภารกิจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกทม. ที่ต้องดำเนินการเป็นประจำทุกปีก่อนเข้าฤดูฝน คือ การล้างทำความสะอาดและบำรุงรักษาอุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งสำนักการระบายน้ำกทม. จะดำเนินการในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม ของทุกปี ล่าสุด เพื่อให้พร้อมรับมือกับฤดูฝนได้เร่งรัดดำเนินการจัดเก็บขยะและดูดตะกอนที่ตกค้างภายในอุโมงค์ ตรวจเช็คสภาพเครื่องสูบน้ำ ตรวจสอบคุณภาพอากาศและติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ตรวจสอบงานระบบเครื่องกลไฟฟ้า เคลือบสีกันสนิม หากพบการชำรุดหรือเสื่อมสภาพก็จะมีการซ่อมแซมแก้ไขเพื่อให้แล้วเสร็จก่อนเข้าฤดูฝน ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ระบายน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่ว่าตรงไหนติดขัด ไฟดับ เครื่องสูบน้ำขัดข้อง มีขยะลอยไปติดหน้าตะแกรง จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำ เรียกได้ว่าเป็นทางด่วนลัดน้ำให้ไปออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วขึ้น เพราะหากปล่อยให้น้ำไหลตามระบบคูคลองปกติจะใช้เวลานานมากกว่าจะลัดเลาะตามเส้นทางไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ซึ่งปัจจุบัน กทม.มีอุโมงค์ระบายน้ำ จำนวน 4 แห่ง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.40 – 5 เมตร ได้แก่
1อุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.40 เมตร ยาว 1.88 กิโลเมตร ช่วยระบายน้ำริมคลองเปรมประชากรเขตบางซื่อ จตุจักร หลักสี่ และดอนเมือง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3.50 ตารางกิโลเมตร และยังมีแผนที่จะก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงคลองบางบัวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ
2อุโมงค์ระบายน้ำบึงมักกะสันลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.60 เมตร ยาว 5.98 กิโลเมตร ช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่เขตวัฒนา ปทุมวัน ราชเทวี พญาไท ห้วยขวาง และดินแดง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 26 ตารางกิโลเมตร
3อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร ยาว 5.11 กิโลเมตร ช่วยระบายน้ำในพื้นที่เขตห้วยขวาง บางกะปิ บึงกุ่ม วัฒนา วังทองหลาง และลาดพร้าว ครอบคุลมพื้นที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร
4อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก ลอดใต้คลองบางซื่อไปออกแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเกียกกาย ขนาดเส้นผ่านศูนย์ 5 เมตร ความยาว 6.4 กิโลเมตร ช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่เขตห้วยขวาง ดินแดง พญาไท จตุจักร ลาดพร้าว วังทองหลาง บางซื่อ และดุสิต ครอบคลุมพื้นที่ 56 ตารางกิโลเมตร
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เศรษฐกิจไทยดื้อยา พ.ร.ก.กู้เงิน1.9ล้านล้านบาท
ว่ากันไปแล้วประวัติศาสตร์เศรษฐกิจแบบนี้ไม่ใครอยากได้ ไม่มีใครอยากเป็นแชมป์ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไวรัสโควิด-19 พ่นพิษเศรษฐกิจไทยหนักหนาสาหัสไปทุกหย่อมหญ้า ไม่มีใครไม่ได้รับความเดือดร้อนหลังจากการหยุดกิจการทางเศรษฐกิจทั้งประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อโควิด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563 คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% พร้อมกับปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 จะขยายติดลบ 8.1% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวติดลบ 5.3% (คาดการณ์เดือนมี.ค.2563) เรียกได้ว่า บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น จนตลาดหุ้นขานรับติดลบทันที
เศรษฐกิจไทยที่ยังตกแรง เพราะเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทบทุกตัวดับสนิท จากข้อมูลของ กนง. คาดการณ์ว่าการส่งออกจะติดลบเพิ่มเป็น 10.3% จากเดิมติดลบ 8.8% โดยกระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือน พ.ค. ติดลบ 22.50% ทำสถิติติดลบมากสุดในรอบ 150 เดือน ซึ่งเป็นประวิติศาสตร์ที่กระทรวงการพณิชย์ไม่อยากได้เช่นกัน
ด้านการท่องเที่ยว กนง. คาดว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยเพียง 8 ล้านคนเท่านั้น จากเดิมคาดว่า 15 ล้านคน ไม่ต้องไปเทียบกับภาวะปกติที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเมืองไทยปีละ 40 ล้านคน
ส่วนการบริโภคภาคเอกชน คาดว่าติดลบ 3.6% จากเดิมติดลบ 1.5% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ติดลบถึง 13.8% จากเดิม 4.3% ซึ่งถือว่าติดลบเพิ่มขึ้นมาก เพราะทั้งประชาชนและนักลงทุนผวาโควิดไม่กล้าใช้จ่ายไม่กล้าลงทุน โดยมีเพียงการลงทุนภาครัฐเท่านั้นที่ยังขยายตัวเป็นบวก 5.8% เท่าคาดการณ์เดิม ที่ กนง ประมาณการไว้เดือน มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา
กนง. และ สำนักเศรษฐกิจต่างๆ ประมาณการณ์ตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจะขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์อีก ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกลับมารุนแรงอีกหรือไม่ โดยเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ติดลบลึกที่สุดในไตรมาส 2 นี้
สอดคล้องกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกตัวตลอดว่าไม่ใช่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ระบุว่า เศรษฐกิจเไทยดือน ก.ค. 2563 จะอาการหนัก เพราะเงินเยียวยาที่รัฐบาลแจกให้คน 5,000 บาท 3 เดือน จะหมดแล้ว ดังนั้นจะเห็นมีธุรกิจที่ทยอยปิดตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้น การส่งออกยังไม่ฟื้น โรงงานยังไม่สามารถกลับมาผลิตได้เต็มที่ นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมา ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของ 4 แสนล้านบาท ให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเร็วที่สุด
เมื่อพูดถึง พ.ร.ก. กู้เงิน ทำให้เกิดคำถามคำโตว่า พ.ร.ก. ที่รัฐบาลออกมา 3 ฉบับ วงเงินรวมกัน 1.9 ล้านล้านบาท ทำไมไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นไข้จากโควิด-19 เลยแม้แต่น้อย
เพราะจากการประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดของ กนง. เห็นได้ชัดว่า ตอนประมาณการเดือน มี.ค. นั้น เศรษฐกิจขยายตัวติดลบ 5.3% หลังจากนั้นไม่นานก็มีการออกพ.ร.ก. 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาตร์เช่นกัน แต่การประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดเมื่อปรากฎว่า เศรษฐกิจไทยทรุดลงไปถึงลบ 8.1% มากกว่าตอนมี พ.ร.ก. เสียอีก
ทำไมเป็นเช่นนั้น เป็นเพราะเศรษฐกิจไทยดื้อยา พ.ร.ก. 1.9 ล้านล้านบาท หรือ ว่า พ.ร.ก. 1.9 ล้านล้านบาท ยังเป็นยาที่แรงไม่พอที่จะรักษาอาหารป่วยโคม่าของเศรษฐกิจไทย
เมื่อลองไปดูการออกฤทธิ์ของ พ.ร.ก. แต่ละตัวจะพบว่า ในส่วนแรก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ อุตตม สาวนายน รมว.คลัง ออกมายอมรับว่าไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็น รมว.คลัง ในประวัติศาตร์ที่กู้เงินมากที่สุด ในส่วนนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรก 6 แสนล้านบาท เป็นการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือนบ้าง หรือ 1,000 บาท 3 เดือนบ้าง ให้กับเกือบทุกคนทั่วไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด หมดเงินไปแล้วประมาณ 4 แสนล้านบาท เหลือเงินอยู่ 2 แสนล้านบาท ที่รอใช้เยียวยาเพิ่มต่อไป
ส่วนที่สอง คือ เงินกู้ 4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีหน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการใช้เงินรวมทุกแผนงาน จำนวน 43,851 โครงการ วงเงินกว่า 1.36 ล้านล้านบาท สูงกว่าเงินกู้ 3 เท่า เงินก้อนนี้ถูกมองว่าเป็นเบี้ยหัวแตก เป็นงบจัดสรร ไม่เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจจริง
สำหรับ พ.ร.ก. เงินกู้ซอฟท์โลน ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 5 แสนล้านบาท ที่ปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% เพื่อไปปล่อยกู้ต่อให้เอสเอ็มอีในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ปรากฎว่ามาตรการนี้ไม่ทำงาน ปล่อยกู้ไปได้เพียง 5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เพราะธนาคารพาณิชย์กลัวหนี้เสียไม่กล้าปล่อย และที่ปล่อยไปก็ให้กับลูกค้าดีของธนาคารไม่ได้เดือดร้อนจริง กลายเป็นคนอยากได้เงินกู้ไม่ได้ ส่วนคนไม่อยากได้ก็ได้
สุดท้าย พ.ร.ก.ซื้อหุ้นกู้เอกชน ของธปท. วงเงิน 4 แสนล้านบาท ต้องถือว่ามาตรการนี้ตายสนิท เพราะตั้งแต่ตั้งกองทุนมายังไม่ได้เข้าไปซื้อตราสารหนี้ใครเลย เพราะเรทติ้งไม่ดีกองทุนที่ ธปท. ตั้งขึ้นเข้าไปซื้อไม่ได้
เมื่อเครื่องยนต์เศรษฐกิจดับหมด ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การส่งออก การท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยจริงทรุดลงต่อเนื่อง
ยิ่งเศรษฐกิจไทยมาดื้อยา พ.ร.ก. 1.9 ล้านล้านบาท หรือ พ.ร.ก. 1.9 ล้านล้านบาท เป็นยาผิดสูตร เป็นยาหมดอายุเร็ว ทำให้ช่วยรักษาเศรษฐกิจไทยไม่ได้ ดังนั้นการประมาณเศรษฐกิจไทยครั้งหน้าของ ธปท. น่าจะสร้างประวัติศาสตร์ต่ำที่สุดของประเทศอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ผื่นกุหลาบ โรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าฝน
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง แนะนำโรคผื่นกุหลาบ โรคผิวหนังที่มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน เป็นโรคไม่ติดต่อที่มีอาการเฉียบพลัน สามารถหายเองได้ มักเกิดในวัยหนุ่มสาว อายุ 10 ถึง 35 ปี พบไม่บ่อยในเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคผื่นกุหลาบเป็นโรคผิวหนังมีอาการเฉียบพลัน ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด พบมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัส ผื่นมีลักษณะเฉพาะ รูปร่างกลมหรือรี มีการกระจายเป็นแนวตามร่องบนผิว คล้ายกับลักษณะของต้นสน โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดในคนอายุน้อย โดยเฉพาะช่วงอายุ 10-35 ปี พบได้ในทุกเชื้อชาติ และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในอัตรา 2:1 ผื่นมักเกิดอยู่นานประมาณ 6-8 สัปดาห์แล้วหายได้เอง แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจเป็นนานถึง 5 เดือนหรือมากกว่า การวินิจฉัยแยกกับผื่นผิวหนังอักเสบอื่นๆ มีรายงานว่า การเกิดผื่นกุหลาบในผู้ป่วยตั้งครรภ์ เป็นความเสี่ยงทำให้เกิดการแท้งได้ โดยเฉพาะช่วง 15 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผื่นแรกมักเกิดขึ้นบริเวณลำตัวและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งอาจพบบริเวณคอ หรือ แขนขาส่วนบนได้ โดยมักจะเกิดนำผื่นอื่นๆ เป็นชั่วโมงหรือวัน ลักษณะเป็นผื่นเป็นสีชมพู สีแซลม่อน หรือสีน้ำตาล อาจจะมีขอบยกเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร แต่บางกรณีอาจมีขนาด 1 เซนติเมตร หรือใหญ่ถึง 10 เซนติเมตร ตรงกลางของผื่นมีขุยขนาดเล็ก ขอบขยายใหญ่ขึ้น ประมาณ 5%ของคนไข้มีอาการนำมาก่อน เช่น ปวดหัว มีไข้ ปวดข้อ และปวดเมื่อย อาจพบตุ่มหนองเล็กๆ ในช่วงแรกของโรค มักไม่พบผื่นบริเวณหน้า มือและเท้า อาการคันในโรคผื่นกุหลาบพบได้ประมาณ 25%
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ผื่นกุหลาบมักไม่มีอาการแสดงและสามารถหายได้เอง โดยไม่ทิ้งร่องรอย การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการเป็นหลัก การใช้ครีมชุ่มชื้นผิวที่เหมาะสม ร่วมกับยาทาสเตียรอยด์ หรือ ยากินในกลุ่ม antihistamines สามารถช่วยลดอาการคันได้ แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง การรับประทานยาในกลุ่มสเตียรอยด์ช่วงสั้นๆ การฉายแสง UVB (Narrowband or broadband) สามารถช่วยควบคุมโรคได้
ขอบคุรข้อมูลจาก thaihealth.or.th
“ซิโก้” เผยความรู้สึกแรก หลัง “ลิเวอร์พูล” ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
“เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” อดีตกุนซือ “ทีมชาติไทย” และ “การท่าเรือ เอฟซี” ออกมาเปิดเผยความรู้สึกแรก ภายหลังจากที่ “ลิเวอร์พูล” ทีมรักผงาดคว้าแชมป์ “พรีเมียร์ลีก”
ปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ลูกทีม เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คว้าแชมป์ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปพลาดท่าปราชัยให้กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ภายใต้การนำทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-2 นั่นทำให้ทีมแชมป์เก่ามีคะแนนตามหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ถึง 23 แต้ม ในขณะที่เหลือโปรแกรมฟาดแข้งอีกเพียง 7 นัดเท่านั้น ซึ่งยังไงแล้วก็ไล่ตามไม่ทัน
นิทานภาษาอังกฤษ เรื่อง หญิงชราตาบอดกับหมอ
เรียนภาษาอังกฤษกับนิทานอีสป 2 ภาษา เรื่อง หญิงชราตาบอดกับหมอ
The Old Woman and the Physician
An old woman having lost the use of her eyes, called a doctor to heal them. She made a bargain with him in the presence of witnesses, that if he could cure her blindness, he would get a sum of money. However, if her blindness continued, she would give him nothing.
This agreement being made, the doctor, day after day, applied medicine to her eyes and on every visit he took something away, stealing all her property little by little. When he stole all she had, he healed her and demanded the promised payment. When the old woman gained her sight and saw none of her goods in her house, refused to give him anything. The doctor insisted on his claim and she still refused. He summoned her before the Judge. The old woman, standing up in the court, argued, “This man here speaks the truth in what he says. I did promise to give him a sum of money it should recover my sight. However, if I continued to be blind, I was to give him nothing. Now he says that I am healed. on the contrary think that l am still blind because when I lost the use of my eyes I saw many valuable things in my house, but now, though he swears I am cured of my blindness, I am not able to see a single thing in it.”
The Moral
He who plays a trick must be prepared to take a joke.
บทแปลภาษาไทย นิทานเรื่อง หญิงชราตาบอดกับหมอ
มีหญิงชราคนหนึ่ง มีนัยน์ตาบอด ทั้งสองข้าง ได้ให้หมอมารักษาตาของเธอ โดยที่ทั้งคู่ได้ทำสัญญาต่อหน้า เหล่าพยานทั้งหลาย ถ้าหมอสามารถรักษาตาของเธอให้หาย ได้ เธอจะให้เงินค่ารักษาตอบแทน แต่ถ้าตาของเธอไม่หายเธอจะไม่ให้สิ่งใดแก่หมอเป็นการตอบแทนเลย
หลังจากนั้นวันแล้ววันเล่า หมอได้มาเยียวยานัยน์ตาของผู้หญิงชราโดยใส่ยาไว้ให้เธอแต่ทุกครั้งที่มาหมอก็ได้ขโมยของบางสิ่งไปจนในที่สุดสมบัติในบ้านของเธอก็ร่อยหรอลงทีละเล็กทีละน้อยจนหมด เมื่อหมอผู้นี้ได้ขโมยสมบัติของหญิงชราหมดแล้ว เขาก็รักษานัยน์ตาของเธอจนหายเป็นปกติดี และเมื่อหญิงชรามองเห็นอีกครั้ง เธอได้พบว่าทรัพย์สินสมบัติในบ้านของเธอถูกขโมยจนหมดเกลี้ยง เธอจึงปฏิเสธที่จะให้ค่ารักษาพยาบาลแก่หมอผู้นี้ เมื่อหมอได้ฟังดังนั้นเขาจึงไม่ยอม เขายืนกรานจะเรียกค่ารักษาเยียวยาตาของหญิงชราให้ได้
เมื่อเรื่องถึงศาล หญิงชราจึงยืนขึ้นให้การกับศาลว่า ใช่ สิ่งที่ชายผู้นี้พูดเป็นความจริง ฉันได้ทำสัญญาที่จะจ่ายเงินให้เขาถ้าเขารักษาตาของฉันให้มองเห็นได้ แต่ฉันก็ได้ทำสัญญาว่า ถ้าตาของฉันยังบอดมองไม่เห็นฉันจะไม่จ่ายค่าตอบแทนใดๆ ให้เขาเลย และตอนนี้เขาบอกว่าตาของฉันหายแล้วแต่ฉันคิดว่าตาของฉันยังมองไม่เห็นเพราะเมื่อก่อนตอนที่ตาฉันยังไม่บอดฉันมองเห็นว่าฉันยังมีของมีค่าอยู่ในบ้านของฉันมากมายแต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะยืนกรานว่าฉันหายแล้ว แต่ทำไมฉันกลับมองไม่เห็นทรัพย์สินสมบัติของฉันสักชิ้นเหลืออยู่ในบ้านเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนที่ใช้เล่ห์กลมักต้องกลายเป็นตัวตลก
ขอบคุณข้อมูลจาก tonamorn.com
ซัมซุงเผย Work from Home ดันยอดขายแท็บเล็ตพุ่ง 30%
ซัมซุง เผยผลสำรวจล่าสุดการวิจัยตลาดสมาร์ทแท็บเล็ตในประเทศไทยพบว่า มีการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2562 และหดตัวลงในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปี 2563 ก่อนที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งเป็นการเติบโตในเชิงปริมาณ อันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของดีมานด์แท็บเล็ตรุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลางที่เจาะกลุ่มตลาด Mass สันนิษฐานได้ว่าการมองหาแท็บเล็ตเพื่อการทำงานและการเรียนออนไลน์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดแท็บเล็ตในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบยอดขายแท็บเล็ตของซัมซุงในช่วงเวลาเดียวกัน (มกราคม-เมษายน) ของปี 2563 พบว่าในปีนี้มีการเติบโตขึ้นกว่า 30% ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดแท็บเล็ต ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายตอบสนองความต้องการใช้งานของทุกกลุ่ม โดยแท็บเล็ตในเซกเมนต์เริ่มต้น-กลาง เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สะท้อนความต้องการของตลาดที่มองหาแท็บเล็ตที่ฟีเจอร์ครบในราคาที่คนเริ่มทำงานและนักเรียนนักศึกษาเข้าถึงได้ จากผลสำรวจนี้ยังพบว่า 3 ฟีเจอร์หลักที่ผู้บริโภคจะพิจารณาเมื่อซื้อแท็บเล็ต คือ ปากกา ราคา และ ดีไซน์
จากการศึกษาประสบการณ์การใช้งานแท็บเล็ตเซกเมนต์กลาง ซัมซุงยังพบว่า Pain Points ของผู้บริโภค คือ สเปคและฟีเจอร์ที่ไม่สมบูรณ์เมื่อเทียบกับรุ่นแฟลกชิป โดยเฉพาะการที่ไม่มีปากกาแถมมาให้ในกล่อง เนื่องจากในคนนิยมใช้แท็บเล็ตเพื่อจดบันทึกต่างๆ ในการทำงานหรือเรียนหนังสือมากขึ้น ปากกา Stylus จึงมีผลต่อการตัดสินใจซื้อแท็บเล็ตในปัจจุบันอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังพิจารณาจากความคุ้มค่าด้านราคา และดีไซน์ต้องทันสมัย มีขนาดและน้ำหนักที่สะดวกต่อการพกพา ซัมซุงจึงได้นำเสนอแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว พร้อมเติมเต็มประสบการณ์แท็บเล็ตฟีเจอร์เทียบเท่ารุ่นพรีเมี่ยมในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง
Galaxy Tab S6 Lite (กาแลคซี่ แท็บ เอส 6 ไลท์) คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่โดดเด่นของแท็บเล็ตซัมซุงในเซกเมนต์นี้ที่ พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านการเรียน การทำงาน และความบันเทิง อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ระดับแฟลกชิปในราคาที่เข้าถึงได้ โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนเรียบหรูและสีสันที่ทันสมัย บางเบากว่าเดิม และมาพร้อมปากกา S Pen ใหม่ ตอบสนองไว ไม่ต้องชาร์จ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.4 นิ้ว เพิ่มความสะดวกให้การจดบันทึกและเพลิดเพลินกับคอนเทนต์โปรดได้แบบจุใจ พร้อมจุดประกายไอเดียและแรงบันดาลใจใหม่ๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ราชพฤกษ์ สรรพคุณและประโยชน์ของราชพฤกษ์ 44 ข้อ ! (ต้นคูน)
ราชพฤกษ์
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกลาง), ลมแล้ง (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วไปเรียกและมักจะเขียนผิดหรือสะกดผิดเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น
คำว่า “ราชพฤกษ์” มีความหมายว่า “ต้นไม้ของพระราชา” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานมหกรรมพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอและสรุปให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ และสถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพิจารณาได้ข้อสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติคือ “ศาลาไทย” และในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุผลในการคัดเลือกดังนี้
- ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)
- ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเห็นได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
- ต้นราชพฤกษ์มีความเกี่ยวข้องกับประเพณีชาวไทยมาอย่างช้านาน เพราะเป็นไม้มงคลนามและใช้ในการประกอบพิธีสำคัญ ๆ ต่าง ๆ หลายพิธี เช่น พิธีลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล เป็นต้น
- ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
- ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานและแข็งแรงทนทาน
- ต้นราชพฤกษ์มีรูปทรงและพุ่มที่งดงาม มีดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น แลดูสวยงามยิ่งนัก
- ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นสัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนา และยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- นอกจากนี้ตามตำราไม้มงคล 9 ชนิดยังระบุไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ ความมีอำนาจวาสนา มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคและอาการต่าง ๆ โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นสรรพคุณทางยานั้น ได้แก่ ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก และเมล็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ได้ทั้งกับเด็ก สตรี รวมไปถึงผู้สูงอายุ โดยไม่มีอันตรายใด ๆ
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์
- ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชพื้นเมืองในแถบเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถานไปจนถึงอินเดีย พม่า และประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลแกมเทาเกลี้ยง มักขึ้นทั่วไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการถ่ายเทน้ำดี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกในพื้นที่ แต่ในปัจจุบันอาจจะใช้วิธีการทาบกิ่งและเสียบยอดก็ได้ แต่โอกาสสำเร็จจะน้อยกว่าวิธีการเพาะเมล็ด
- ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) ลักษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นมัน ช่อหนึ่งยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร และมีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อม ๆ ประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างประมาณ 5-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนและสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางเกลี้ยง มีเส้นแขนงใบถี่และโค้งไปตามรูปใบ
- ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวประมาณ 20-45 เซนติเมตร มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร กลีบมี 5 กลีบ หลุดร่วงได้ง่าย และกลีบดอกยาวกว่ากลีบรองดอกประมาณ 2-3 เท่า และมีกลีบรูปไข่จำนวน 5 กลีบ บริเวณพื้นกลีบจะเห็นเส้นกลีบชัดเจน ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างกันจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกมักจะบานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม แต่ก็มีบางกรณีที่ออกดอกนอกฤดูเหมือนกัน เช่น ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม
- ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปทรงกระบอกเกลี้ยง ๆ ฝักยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร และวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีผนังเยื่อบาง ๆ ติดกันอยู่เป็นช่อง ๆ ตามขวางของฝัก และในช่องจะมีเมล็ดสีน้ำตาลแบน ๆ อยู่ มีขนาดประมาณ 0.8-0.9 เซนติเมตร
สรรพคุณของราชพฤกษ์
- ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย (เปลือก)
- สารสกัดจากลำต้นและใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
- สารสกัดจากเมล็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เมล็ด)
- ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
- ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
- ฝักราชพฤกษ์มีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
- ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการใช้ใบอ่อนนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ)
- ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด สรรพคุณสามารถใช้ขับเสมหะได้ (ฝักอ่อน)
- ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ (ฝัก)
- เปลือกเมล็ดและเปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยถอนพิษ ทำให้อาเจียน หรือจะใช้เมล็ดประมาณ 5-6 เมล็ด นำมาบดเป็นผงแล้วรับประทานก็ได้ (เมล็ด, ฝัก)
- ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้อาการปวดฟัน (กระพี้)
- ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก และใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้และหัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แก้อาการซึมเศร้า หนักศีรษะ หนักตัว ทำให้ชุ่มชื่นทรวงอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
- สรรพคุณราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
- ช่วยรักษาเด็กเป็นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ฝัก)
- ช่วยบรรเทาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
- ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวก ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูกบ่อย ๆ และสตรีมีครรภ์ เพราะมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่าหัวแม่มือ (หนักประมาณ 4 กรัม) และน้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือเล็กน้อย ใช้ดื่มก่อนอาหารเช้าหรือช่วงก่อนนอนเพียงครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เมล็ด)
- เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องร่วง (เมล็ด)
- ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและแผลเรื้อรัง (ดอก)
- ช่วยรักษาโรคบิด (เมล็ด)
- สรรพคุณของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
- ช่วยทำให้เกิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ และน้ำตาล แล้วนำมากิน (เมล็ด)
- ฝักและใบมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งประมาณ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำดื่ม (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
- ต้นคูณมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
- เปลือกฝักมีรสเฝื่อนเมา ช่วยขับรกที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
- สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
- สรรพคุณของคูน รากใช้แก้โรคคุดทะราด (ราก)
- ใบสามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราได้ (ใบ)
- ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
- รากนำมาฝนใช้ทารักษากลากเกลื้อน และใบอ่อนก็ใช้แก้กลากได้เช่นกัน (ราก, ใบ)
- เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผดผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
- เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกและใบนำมาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
- คูน สรรพคุณของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
- เปลือกราชพฤกษ์ สรรพคุณช่วยสมานบาดแผล (เปลือก)
- ฝักคูณมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
- ชาวอินเดียใช้ใบนำมาโขลก นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและอัมพาต (ใบ)
- ช่วยกำจัดหนอนและแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยกำจัดแมลงและหนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
- สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
- นอกจากนี้ยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น
-
- น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต และแก้ปัญหาเรื่องเส้น
- ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน และอบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคและความต้องการเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน
- ผงพอกคูนคาดข้อ ทำจากใบคูนที่นำมาบดเป็นผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยนำมาพอกบริเวณที่เป็นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือด บรรเทาอาการปวดข้อ รักษาโรคเกาต์ และยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
- ชาสุวรรณาคา ทำจากใบคูน สรรพคุณช่วยในด้านสมอง แก้ปัญหาเส้นเลือดตีบในสมอง ช่วยให้ระบบไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มควบคู่ไปกับการรักษาแบบอื่น ๆ
ข้อควรระวัง ! :การทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอประมาณจึงจะได้ผลดี หากต้มนานเกินไปหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่จะทำให้ท้องผูกแทน และควรเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินไป และยาต้มที่ได้หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้อาเจียนได้
ประโยชน์ของราชพฤกษ์
- นิยมปลูกไว้เป็นต้นไม้ประดับตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานที่ราชการ บริเวณริมถนนข้างทาง และสถานที่อื่น ๆ
- ต้นราชพฤกษ์กับความเชื่อ ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลนามที่คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้มีเกียรติและศักดิ์ศรี สาเหตุเพราะคนให้การยอมรับว่าต้นราชพฤกษ์เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยอีกด้วย และยังเชื่อว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยนั้นเจริญรุ่งเรือง โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะทิศดังกล่าวได้รับแสงแดดจัดในช่วงตอนบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนภายในบ้านและช่วยประหยัดพลังงาน)
- ต้นราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลและศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีกรรมต่าง ๆ ทางศาสนา เช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาเอกในการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีนัก เป็นต้น
- เนื้อไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องมือต่าง ๆ หรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่น ๆ เช่น ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น
- เนื้อของฝักแก่สามารถนำมาใช้แทนกากน้ำตาลในการทำเป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์และจุลินทรีย์ขยายได้
- ฝักแก่สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดพอเหมาะ โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,700.00 | 25,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,665.00 | 25,241.40 | 26,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,498.50 | 22,717.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,332.00 | 20,193.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 749.00 | 11,354.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 583.00 | 8,838.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,725.00 | 26,151.00 | n/a |
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 | 22.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 | 21.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.64 | 20.64 | 20.64 | 20.64 | 20.64 | – | 20.64 | 20.64 | 20.64 | 20.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.39 | 18.39 | – | – | – | – | – | 18.39 | – | – |
เบนซิน 95 | 29.56 | – | – | – | 30.01 | – | 30.06 | 29.56 | – | 29.56 |
ดีเซล | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 | 22.39 |
ดีเซล B10 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 | 19.39 |
ดีเซล B20 | 19.14 | 19.14 | 19.14 | 19.14 | 19.14 | – | 19.14 | 19.14 | – | 19.14 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.54 | 26.56 | 28.54 | 28.54 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |