ชาญอิสสระ ลุย 6 โครงการหรู 16,000 ล้าน ขยายพอร์ตธุรกิจ สุขภาพ-ความงามเสริมทัพ

ชาญอิสสระ CI ปักหมุดโครงการหรู กรุงเทพกรีฑา -เมืองใหญ่ ภูเก็ต -หัวหิน 16,000 ล้าน โฟกัส โครงการมิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต “ศรีพันวา ลากูน” 62 ไร่ พร้อมขยายพอร์ตธุรกิจใหม่ สุขภาพ-ความงามเสริมทัพ การเติบโต สู่ปรัชญาการดำเนินธุรกิจบนนิยามความเป็นชาญอิสสระ “Live Excellence”
ภูเก็ตและหัวหิน ยังคงเป็นทำเลศักยภาพที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยให้ความสนใจเดินทางเข้ามาพักผ่อนและซื้อที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง และหลังที่สามกันมาก ขณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แน่นอนว่าทำเล ที่เป็นย่านคนรวย ต้องยกให้ “กรุงเทพกรีฑา” ถนนสายเศรษฐกิจสำคัญ
ที่มีโครงการหรูเกิดขึ้นมาก ซึ่งเป็นกำลังซื้อเฉพาะกลุ่มที่น่าจับตา ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกโตต่ำ กระทบตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ประกอบการต้องพลิกเกมการแข่งขันเจาะตลาดลักชัวรีมากขึ้นรวมถึงการขยายพอร์ตธุรกิจใหม่เพื่อเสริมทรัพย์การเติบโตอย่างยั่งยืน
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือCI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ อย่างภูเก็ตและหัวหินซึ่งเป็นพื้นที่ศักยภาพที่บริษัทบุกเบิกเป็นรายแรกๆ ที่จะเปิดตัวในปีนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสทำเลเชิงทะเลภูเก็ต รองรับกลุ่มกำลังซื้อสูง“ศรีพันวา ลากูน” 62 ไร่ ทำเลที่ดีที่สุดบนเกาะภูเก็ต
ด้านนายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2568 กลุ่มชาญอิสสระ เตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท เป็นลักชัวรี่คอมมูนิตี้ ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
เริ่มจากบริเวณพระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา มี 2 โครงการ คือ โครงการ อิสสระ เรสซิเดนท์ บนที่ดิน 19 ไร่ จำนวน 23 ยูนิต และ โครงการ บ้านอิสสระ บนที่ดิน 21 ไร่ จำนวน 67 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 5,123 ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต “ศรีพันวา ลากูน” บนที่ดิน 62 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท
ที่มีทั้งโรงแรมหรูวิลล่า และคอมมูนิตี้ ย่านเชิงทะเล, The Sky Series เวิลด์คลาสลักชัวรี่วิลล่า บนที่ดินกว่า 2 ไร่ จำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท, โครงการ อิสสระ วิลล์ หัวหิน (ISSARA VILLE) ลักชัวรี่พูลวิลล่า หัวหิน บนที่ดิน 4 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 144 ล้านบาท
ที่นำความสมดุลของธรรมชาติ เป็นจุดเชื่อมต่อให้กับทุกการพักผ่อนได้สัมผัสธรรมชาติในทุกมิติ รวมถึง โครงการ ซาซ่าส์ หัวหิน (SASA HUA HIN) A NEW STYLISH BEACH CONDOMINIUM บนที่ดิน 3 ไร่ จำนวน 248 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,706 ล้านบาท ที่ได้ทั้งวิวทะเล และวิวสนามกอล์ฟแบบเต็มๆ
สำหรับธุรกิจโรงแรม มุ่งหน้าขยายสู่ Wellness ระดับ World Class โดยความร่วมมือกับ BDMS เพื่อ ให้ศรีพันวาเป็นที่พักผ่อน ผสมผสานไปกับการดูแลสุขภาพกายและใจ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) อย่างแท้จริง
“เร็วๆ นี้ โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ BDMS Wellness Clinic ในการมอบประสบการณ์ด้านสุขภาพที่ครอบคลุมร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผสานความเป็นเลิศ ทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลของ BDMS Wellness Clinic เข้ากับ การพักผ่อนที่หรูหราและสงบสุขของศรีพันวา เพื่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟูความสมบูรณ์ ของร่างกายอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีโปรแกรมดูแลสุขภาพ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ อย่างใกล้ชิด ลดการใช้สารเคมี เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ส่งเสริมการรับประทานอาหารที่ดี ต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และใช้ชีวิตที่คำนึงถึงธรรมชาติ” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาโปรดักส์ใหม่ในกลุ่มของธุรกิจดูแลสุขภาพผิว ภายใต้แบรนด์ BABA SKIN CLUB ด้วยแนวคิด Skin Vacation นวัตกรรมใหม่เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุง, พักผ่อน ซึ่งใช้ สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นส่วนผสม โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยมี “กรัชเพชร อิสสระ “รับตำแหน่ง เป็นแบรนด์ไดเร็กเตอร์ ของผลิตภัณฑ์ BABA SKIN CLUB
BABA SKIN CLUB เป็นไลน์ธุรกิจใหม่ โดยจะนำร่องเป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเป็นชุดแรก ที่คำนึงถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้จบครบในหลอดเดียว ทั้งปกป้อง ดูแล ฟื้นฟู ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม” นายดิฐวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามจากนโยบาย และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่กล่าวไปข้างต้น กลุ่มชาญอิสสระเชื่อมั่นว่า จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในการมุ่งสู่การพัฒนาธุรกิจ ตรงตามนิยามความเป็นชาญอิสสระ “Live Excellence”
นางธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2568 บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักปรัชญา สัจจะเป็นหลัก สามัคคีเป็นเลิศ สุขภาพยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นปรัชญาของกลุ่มชาญอิสสระ ที่ถ่ายทอดมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่นที่มุ่งสร้างความสุขให้กับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร ได้รับสิ่งที่ดี มีคุณภาพ มีความสุขในการอยู่อาศัย ตลอดจนมีความสุขในการได้ร่วมงานกับกลุ่มชาญอิสสระ
“เราจึงมี DNA 3 อย่างที่สำคัญ ที่สะท้อนความเป็นชาญอิสสระอย่างชัดเจน ได้แก่ Trusty ความน่าเชื่อถือ มีความซื่อสัตย์ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า คู่ค้า มาตลอดระยะเวลา 70 ปี Synergy ความร่วมมือร่วมใจ มุ่งมั่นในการทำงาน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ดี มีคุณภาพด้วยการทำงานเป็นทีมทั้งภายในกับภายนอกองค์กร และ Creativity ที่เราภูมิใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบที่แตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้มีที่อยู่อาศัย โรงแรม ที่มีเอกลักษณ์ มีความอยู่สบาย ด้วยฟังก์ชั่นที่ครบครัน” นางธีราภรณ์ กล่าว
คุณค่าของความเป็น “Live Excellence” จึงมีองค์ประกอบของ Empathy มีความเข้าใจผู้บริโภค จากมุมมองที่หลากหลาย จนสามารถพัฒนา ออกแบบโปรดักส์ที่ตอบโจทย์ของลูกค้า สร้างความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมที่ดีในการอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังคิด พร้อมนำ Innovation นวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดความสุขที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม และความเป็น Craftmanship ที่กลุ่มชาญอิสสระพร้อมทุ่มเทเวลา และกลั่นกรองในการพัฒนาโปรดักส์ออกมาเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด มีความแตกต่าง และถูกใจลูกค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
10 บิ๊กอสังหาฯ 67 ใครรุ่ง? พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยพร้อมชี้เทรนด์ตลาดปี 68

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดผลวิจัย 10 ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ปี 67 พบแสนสิริ เอพี ศุภาลัย ครองแชมป์รายได้สูงสุด พร้อมชี้เทรนด์ตลาดปี 68 จับตากลุ่มลักซ์ชัวรีและเมืองท่องเที่ยว
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลวิจัยภาพรวมผลประกอบการของ 10 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ไทยปี 2567 พบว่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ผู้ประกอบการหลายรายสามารถปรับตัวและขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าลักชัวรีและทำเลท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้ดี
- อันดับ 1 แสนสิริ รายได้รวม 39,205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,253 ล้านบาท แสนสิริยังคงรักษาการเติบโตด้วยกลยุทธ์ขยายพอร์ตโครงการระดับพรีเมียมและลักชัวรี พร้อมรุกเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
- อันดับ 2 เอพี ไทยแลนด์ รายได้รวม 37,460 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,020 ล้านบาท เอพียังคงแข็งแกร่งในกลุ่มสินค้าบ้านแนวราบ โดยเฉพาะบ้านแฝดและทาวน์โฮมที่ได้รับการตอบรับดีจากตลาด
- อันดับ 3 ศุภาลัย รายได้รวม 31,985 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,190 ล้านบาท ศุภาลัยเป็นบริษัทเดียวใน 3 อันดับแรกที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3% จากปีก่อนหน้า โดยมีรายได้หลักจากโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า
- อันดับ 4 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ รายได้รวม 28,151 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,491 ล้านบาท รายได้ลดลง 6.7% และกำไรสุทธิลดลง 26.6% จากปีก่อนหน้า
- อันดับ 5 พฤกษา รายได้รวม 20,996 ล้านบาท ลดลง 19.7% จากปีก่อน กำไรสุทธิ 456 ล้านบาท พฤกษาเผชิญกำไรลดลง 79.3% เนื่องจากมาตรการสินเชื่อที่เข้มงวด ส่งผลต่อกลุ่มลูกค้าเปราะบาง
- อันดับ 6 เอสซี แอสเสท รายได้รวม 20,823 ล้านบาท ลดลง 15.2% กำไรสุทธิ 1,706 ล้านบาท ลดลง 31.3%โดยสัดส่วนรายได้มาจากการขายโครงการแนวราบและแนวสูง อีกทั้งยังเดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจสร้างรายได้ประจำ
- อันดับ 7 ออริจิ้น รายได้รวม 11,985 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,052 ล้านบาท รายได้ลดลง 20.9% และกำไรลดลง 61.3% จากปีก่อนหน้า
- อันดับ 8 แอสเซทไวส์ รายได้รวม 9,941 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,457 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 39.1% และกำไรเพิ่มขึ้น 33.4%
- อันดับ 9 ควอลิตี้เฮ้าส์ รายได้รวม 8,695 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,150 ล้านบาท รายได้ลดลง 5.9% และกำไรลดลง 14%
- อันดับ 10 แอล.พี.เอ็น. รายได้รวม 8,011 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 7.6% แต่กำไรลดลง 69%
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 แม้เผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยเศรษฐกิจและความเข้มงวดด้านสินเชื่อ แต่ยังพบว่าผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัวได้ดีจะเน้นพอร์ตโครงการระดับลักชัวรีและแนวราบที่ตอบโจทย์ตลาดจริง รวมถึงขยายไปยังทำเลศักยภาพในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และขอนแก่น ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนและผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย
สำหรับปี 2568 นอกจากแนวโน้มของตลาดลักซ์ชัวรีและเมืองท่องเที่ยวแล้ว ปัจจัยที่ต้องจับตาคือมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายที่อาจช่วยหนุนกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการ LTV ที่ยังต้องรอการผ่อนปรน หากเกิดขึ้นจริงจะช่วยดึงดีมานด์กลับเข้าสู่ตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ของผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มตลาดในปีนี้คือ การมุ่งพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น บ้านแนวราบที่รองรับครอบครัวหลายเจเนอเรชัน คอนโดมิเนียมที่เน้นฟังก์ชัน Pet-Friendly และการเพิ่มบริการเสริมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2568 คาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับกลาง ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่อยู่ในโซนศักยภาพ ซึ่งยังเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 7มี.ค. “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ระดับ 33.73 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาท ในช่วงระหว่างวันอาจแกว่งตัว Sideways ก่อนที่ตลาดจะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้มองกรอบช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.95 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้7 มี.ค.2568 ที่ระดับ 33.73 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.75 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ในช่วงระหว่างวัน เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัว Sideways ก่อนที่ตลาดจะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้
โดยโซนแนวรับของเงินบาทก็อาจอยู่ในช่วง 33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวต้านของเงินบาทก็ดูจะติดอยู่แถว 33.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยจะมีโซนแนวต้านสำคัญถัดไปแถว 34.00 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ดี เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ (Nonfarm Payrolls) เนื่องจากสถิติในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา สะท้อนว่า เงินบาท (USDTHB) อาจแกว่งตัวได้ถึง +0.57%/-0.32% ในช่วง 30 นาที หลังรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว
โดยหากประเมินจากมุมมองของบรรดานักวิเคราะห์ในตลาด จะเห็นได้บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดการจ้างงานฯ ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นราว +1.6 แสนตำแหน่ง แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่า ยอดการจ้างงานฯ อาจเพิ่มขึ้นต่ำกว่า +1 แสนตำแหน่ง
ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า เฟดจะมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ และอีก 1 ครั้ง ในปีหน้า ไปเต็มที่แล้ว (Fully Priced-In) ทำให้ หากยอดการจ้างงานฯ ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด
หรือตามคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดโอกาสเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในปีนี้ ลงบ้าง หนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้น กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาท
แต่หากยอดการจ้างงานฯ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน เช่น เพิ่มขึ้น น้อยกว่า +1 แสนตำแหน่งไปมาก ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างยิ่งกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเพิ่มโอกาสที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ยได้มากกว่า 3 ครั้งในปีนี้
หรืออาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่า 1 ครั้ง ในปีหน้า ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจกดดันเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ไม่ยาก ซึ่งเงินบาทก็เสี่ยงแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.95 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหว Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.63-33.76 บาทต่อดอลลาร์) ตามการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ
โดยในช่วงแรก เงินดอลลาร์มีจังหวะย่อตัวลงบ้าง หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) หลังรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งแม้จะมีการลดดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) ลง 25bps สู่ระดับ 2.50% ตามคาด
ทว่า ECB ได้ส่งสัญญาณว่า การปรับลดดอกเบี้ยล่าสุด ได้ทำให้นโยบายการเงินมีความตึงตัวลดลงอย่างมาก (Meaningfully Less Restrictive) สะท้อนว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกไม่มากนัก
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็กลับมาทยอยแข็งค่าขึ้นได้ ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ของตลาดการเงินสหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดต่างกังวลต่อความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ
บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) กดดันโดยความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ อีกทั้งผู้เล่นในตลาดต่างก็เดินหน้าขายหุ้นเทคฯ ใหญ่ อาทิ Nvidia -5.7%, Tesla -5.6%, Amazon -3.7% ทำให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลง -2.61% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.78%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.03% โดยตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนอยู่บ้างจากการรีบาวด์ขึ้นของหุ้นกลุ่มยานยนต์ อาทิ BMW +4.3% หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มยานยนต์กับเม็กซิโกและแคนาดา
ทว่าตลาดหุ้นยุโรปยังคงเผชิญแรงกดดันอยู่บ้างจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม และยา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งสินค้าจากยุโรปก็อาจเผชิญการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมได้
ในส่วนตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน แม้ว่าจะมีจังหวะปรับตัวขึ้นทะลุโซน 4.30% ทว่า ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้าง สู่ระดับ 4.26% ทั้งนี้ เราคงแนะนำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะในการทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว เน้นกลยุทธ์ Buy on Dip โดยไม่ไล่ราคาซื้อ ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวลดลง
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ Sideways แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) หลังตลาดรับรู้ผลการประชุม ECB แต่เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ทำให้โดยรวมเงินดอลลาร์ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 104.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 103.7-104.3 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าบรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินและความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะพอช่วยหนุนราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. 2025)
ทว่า ราคาทองคำก็เผชิญแรงกดดันบ้าง ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของผู้เล่นในตลาด ทำให้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแถวโซน 2,910-2,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ (ทยอยรับรู้ในช่วง 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ทั้ง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) และอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings)
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้ง ในปีนี้ และอีก 1 ครั้ง ในปีหน้า (Fully Priced-In)
ส่วนในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศ (Exports & Imports) ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ทางฝั่งไทย เราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) เดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 0.82% (ตลาดคาดการณ์ 1.10%)
แต่ เราประเมินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ได้กังวลต่อแนวโน้มการชะลอลงของอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว จนกว่าจะเห็นสัดส่วนของสินค้าและบริการที่มีราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพิ่มมากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานปลางเริ่มปรับตัวลดลงชัดเจน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.81-33.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.32 น.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย และการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวกลับมา (หลังถูกเทขายหลังสหรัฐฯ ลดความแข็งกร้าวของสหรัฐฯ ต่อเม็กซิโกและแคนาดา) โดยอาจมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนเพื่อปรับโพสิชันก่อนการประกาศตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในคืนนี้ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ รวมถึงตัวเลขการส่งออกของจีนเดือนม.ค.-ก.พ. และตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนก.พ.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เมกาบางนา เปิดสังเวียนบาสเกตบอล 3×3 ระดับนานาชาติ ส่งเสริมคอมมูนิตี้สู่ ACTIVE HEALTHY LIFESTYLE

ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์และชุมชนที่แข็งแกร่ง เปิดสนามต้อนรับการแข่งขันบาสเกตบอลระดับนานาชาติ “3X3.EXE SUPER PREMIER 2025 ROUND 2 BANGKOK” สุดยอดทัวร์นาเมนต์บาสเกตบอลประเภททีม 3 คน ที่รวมเหล่านักกีฬามืออาชีพจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, จีน, สวิตเซอร์แลนด์ และ ออสเตรเลีย ร่วมชิงชัยบนสนามแข่งขันมาตรฐานระดับสากล ณ ฟู้ดวอล์ค พลาซ่า ศูนย์การค้าเมกาบางนา โดยมีผู้เข้าร่วมชมการแข่งขันตลอดงานอย่างคึกคัก ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่าทีม Hangzhou เป็นทีมที่คว้าชัยในสนามนี้ พร้อมเดินทางสู่การชิงชัยการแข่งขัน FIBA CHALLENGER 2025 และ FIBA WORLD TOUR ต่อไป
ความมันไม่หมดแค่แมตช์ระดับโลก ผู้ชมยังได้สนุกไปกับการแข่งขันพิเศษจากศิลปินนักแสดงสุดฮอตที่มีความสามารถด้านบาสเกตบอล โชว์สกิลบาสเกตบอลแบบไม่มีใครยอมใคร ได้แก่ หลุยส์-พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร, อ้วน-รังสิต ศิรนานนท์, โอม Cocktail-ปัณฑพล ประสารราชกิจ, มาร์ค-ณฐริศร์ วรกรเลิศสิทธิ์, เจมส์-เฮย์วาร์ด เพรสคอตต์ และ เซอร์ไพรส์-ปิฐิกร ศิริพรสวรรค์ สร้างความสนุกและเสียงเชียร์กระหึ่มสนาม ผู้ชมต่างตื่นเต้นไปกับการประชันฝีมือของเหล่าคนดังที่ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น เติมเต็มความสนุกให้กับงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ศูนย์การค้าเมกาบางนาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมไลฟ์สไตล์เชิงสร้างสรรค์ และสนับสนุนให้ชุมชนโดยรอบมีการใช้ชีวิตที่แอคทีฟและมีสุขภาพดี ภายในงานจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและผู้ที่สนใจพัฒนาทักษะด้านบาสเกตบอลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น 3X3 BASKETBALL CLINIC คลาสฝึกสอนทักษะพื้นฐานและเทคนิคการแข่งขันบาสเกตบอล 3 คน โดยโค้ชมืออาชีพให้กับเยาวชน รวมถึง FREE COURT สนามบาสเกตบอลมาตรฐานที่เปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชนทั่วไป
จากความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันกีฬาและการสนับสนุนชุมชนให้ ACTIVE HEALTHY LIFESTYLE ในปี 2567 สนามแข่งขันที่เมกาบางนาได้รับการยกย่องให้เป็น “THE BEST VENUE OF THE YEAR” จากรายการ 3X3.EXE PREMIER ประเทศญี่ปุ่น สะท้อนถึงความพร้อมของศูนย์การค้าในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับมาตรฐาน และเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้ที่สนับสนุนการมีสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟอย่างแท้จริง
ติดตามกิจกรรมเพื่อสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวตลอดปี ตามแนวคิดการเป็นศูนย์การค้าที่พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตให้ทุกๆ วันคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยแนวคิด YOUR EVERYDAY MEETING PLACE
ติดตามรายละเอียดของกิจกรรมดีได้ที่แอปพลิเคชันเมกาบางนา เฟซบุ๊ก : FACEBOOK.COM/MEGABANGNASHOPPINGCENTRE และ LINE OA : @MEGABANGNAOFFICIAL
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เฝ้าระวัง “ไข้อีดำอีแดง” โรคโบราณที่อุบัติซ้ำกลับมาใหม่

กรมวิทย์ฯ เผยผลตรวจวินิจฉัยเชื้อก่อโรคไข้อีดำอีแดงทางห้องปฏิบัติการ ชี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงสามารถรักษาให้หายขาดได้ แนะผู้ปกครองสังเกตบุตรหลานหากมีผื่นแดงร่วมกับอาการไข้ให้พบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษา
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า โรคไข้อีดำอีแดง เป็นโรคโบราณที่อุบัติซ้ำกลับมาใหม่ หลายคนอาจไม่รู้จักและเข้าใจผิดกันอยู่จนทำให้เกิดโรคลุกลามและแทรกซ้อนได้
โรคไข้อีดำอีแดง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส กรุ๊ปเอ (Group A Streptococcus) หรือ Streptococcus pyogenes ซึ่งเป็นเชื้ออยู่ในลำคอสามารถพบคนที่เป็นพาหะเชื้อนี้ได้ร้อยละ 10-20 เชื้อนี้มีช่องทางการติดต่อโดยการหายใจ สูดละอองฝอยน้ำลาย หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ มักพบในเด็กเล็กจนถึงวัยเรียน อายุ 5-15 ปี
หากติดเชื้อจะมีไข้สูง หนาวสั่น เจ็บคอ กลืนลำบาก มีผื่นแดงหยาบคล้ายกระดาษทราย (sandpaper-like rash) มักเริ่มจากหน้าอก ลำตัว แล้วลามไปทั่วร่างกาย มีลิ้นสีแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี (Strawberry tongue) และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสำคัญคือ โรคหัวใจรูมาติก (Rheumatic Fever) หรือไตอักเสบ
โรคไข้อีดำอีแดง ไม่ใช่โรคร้ายแรง สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ได้แก่ Penicillin หรือ Amoxycillin หรือ Erythromycin จนครบ 10 วัน เพื่อป้องกันการเกิดโรคไข้รูมาติกและไตอักเสบแทรกซ้อน
การป้องกันและการลดโอกาสเกิดการติดเชื้อในเด็ก ผู้ปกครองควรสังเกตผื่นแดงร่วมกับอาการไข้ที่เกิดขึ้นกับบุตรหลาน ไม่ใช่ผื่นจากอาการแพ้ แต่เป็นผื่นจากโรคมากกว่าเพื่อจะได้รีบพาไปพบแพทย์รับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
หากเด็กป่วยให้หยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เด็กคนอื่น นอกจากนี้การล้างมือเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะหลังไอ จาม หรือก่อนจับอาหาร ควรปิดปากขณะไอ จาม ไม่ใช้แก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน ก็เป็นการป้องกันที่ดี รวมทั้งการแยกภาชนะของผู้ป่วย การแยกซักล้างเครื่องใช้ส่วนตัวก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
สำหรับการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข เปิดให้บริการตรวจเกี่ยวกับเชื้อ S. pyogenes ดังนี้
1. การเพาะแยกเชื้อแบคทีเรีย S. pyogenes จากสิ่งส่งตรวจ ได้แก่ Throat swab, Nasopharyngeal swab ใน Stuart transport media หรือ Amies transport media ขนส่งที่อุณหภูมิห้อง
2. ตรวจยืนยันตัวอย่างเชื้อบริสุทธิ์บน Blood agar หรือ Dorset egg slant ขนส่งที่อุณหภูมิห้อง
ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มได้ที่ศูนย์รวมบริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์เฝ้าระวังและประสานงานทางห้องปฏิบัติการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“Knowva” แชทบอทแนะแนว AI ตัวแรกของไทย ถามได้-ตอบได้ แบบเรียลไทม์ ฝีมือ สจล.

สจล. จับมือ Amazon Web Services เปิดตัว “Knowva” แชทบอทแนะแนว AI ตัวแรกของไทย พัฒนาบน AWS ถามได้ ตอบได้ แบบเรียลไทม์
รองศาสตราจารย์ ดร. คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ในโอกาสฉลองครบรอบ 65 ปี สจล. จัดงาน “KMITL Innovation Expo 2025” มหกรรมสุดยอดนวัตกรรมที่รวม 1,000 ผลงานล้ำสมัย การเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พร้อม 65 เวิร์กชอปสุดล้ำ ที่เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้สัมผัสและทดลองอาชีพในฝัน ผ่านห้องปฏิบัติการจริงจากทุกคณะและหลักสูตรของ สจล.
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว “Knowva” แชทบอทครูแนะแนว AI ตัวแรกของประเทศไทย ที่พัฒนาร่วมกับ Amazon Web Services (AWS) เพื่อช่วยแนะแนวอาชีพและการศึกษาผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยโนวา แชทบอท AI จะทำหน้าที่เป็น “ครูแนะแนวอัจฉริยะ” ตัวแรกของไทย โดยใช้ Claude 3.5 Sonnet ของ Anthropic ที่อยู่บน Amazon Bedrock

แชทบอทนี้ช่วยให้นักเรียนและเยาวชนสำรวจความถนัดส่วนตัว แนะนำหลักสูตรที่เหมาะสม และให้ข้อมูลเส้นทางอาชีพที่เป็นไปได้ในอนาคต Knowva สามารถทำงานได้แบบเรียลไทม์ เสมือนมีครูแนะแนวส่วนตัว โดยมีฟีเจอร์หลัก ได้แก่
• แนะแนวอาชีพตามความสนใจ – วิเคราะห์ความถนัดของนักเรียนและแนะนำอาชีพที่เหมาะสม
• ให้ข้อมูลหลักสูตรการศึกษา – เชื่อมโยงข้อมูลจากมหาวิทยาลัยชั้นนำและหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง
• ช่วยเตรียมตัวสอบและสมัครเรียน – แนะแนวทางการสอบเข้ามหาวิทยาลัยและเส้นทางอาชีพ
• รองรับการสนทนาอัจฉริยะ – ใช้ AI โต้ตอบและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์
Knowva ไม่เพียงช่วยให้นักเรียนเข้าใจตนเองและเลือกเส้นทางที่เหมาะสม แต่ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการแนะแนวทางการศึกษา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดแคลนครูแนะแนว อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าถึงข้อมูลจากสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมได้โดยตรง ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมเยาวชนไทยให้พร้อมสู่โลกอนาคต
“Knowva ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนและนวัตกรรมด้าน AI ให้กับประเทศ โดยการทำงานร่วมกับ AWS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ทำให้เราสามารถนำเทคโนโลยีมาสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทยได้อย่างทั่วถึง Knowva จะช่วยให้นักเรียนสามารถค้นพบความถนัดของตัวเอง เข้าใจเส้นทางอาชีพ และเตรียมตัวสู่อนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ สจล. ยังมีแผนผลิตและพัฒนากำลังคนด้าน AI อย่างเป็นระบบ เพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ ตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่มุ่งเน้นการสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ AI และ Data Science ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ทั้งนี้ในอนาคต สจล. และ AWS มีแผนขยายการพัฒนา AI ที่สามารถรองรับการแนะแนวทางการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Learning) การช่วยเหลือด้านการศึกษาตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการสนับสนุนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการพัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดด้วย
“สจล. พร้อมเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา AI ในระดับประเทศ โดยมุ่งสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพและผลักดันนวัตกรรมด้าน AI ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภูมิภาค”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
70 แคปชั่นหน้าร้อน ภาษาอังกฤษ โพสต์แคปชั่นซัมเมอร์ รับหน้าร้อน

แคปชั่นหน้าร้อน แคปชั่นซัมเมอร์ ภาษาอังกฤษ
- Girls just wanna have sun.
ผู้หญิงอย่างเราแค่ต้องการสนุกสนานไปกับแสงแดดแค่นั้นเอง
- Sunshine is the best medicine.
แสงแดดเป็นยาที่ดีที่สุด
- I was made for sunny days.
ฉันถูกสร้างขึ้นมาสำหรับวันที่มีแดด
- Vacation mode is on.
ได้เวลาเปิดโหมดพักร้อนแล้วจ้าา
- Just blue skies and sunshine.
ท้องฟ้าสีครามและแสงแดด
- Wake me up when it’s summer.
ปลุกฉันเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน
- Make your own sunshine.
สร้างแสงแดดของคุณเอง
- I need a six month vacay twice a year.
ฉันต้องการวันหยุดพักผ่อนหกเดือนสองครั้งต่อปี
- Summer should get a speeding ticket.
ฤดูร้อนควรได้รับตั๋วเร่งให้มาถึงไวๆ!
- There are Sundays, and then there are SUN-DAYS.
มันคือวันอาทิตย์ และก็คือวันที่มีแดดด้วย!
- Less Monday, more summer, please.
ลดวันจันทร์น้อยลง เพิ่มซัมเมอร์ให้มากขึ้นได้ไหม
- Nothing but good vibes and blue skies.
ไม่มีอะไรดีไปกว่าความรู้สึกที่ดีและท้องฟ้าสีคราม
- Keep calm and lay in the sun.
ใจเย็นๆ แล้วนอนอาบแดดดีกว่า
- Watch more sunsets than Netflix.
ดูพระอาทิตย์ตกให้มากกว่า Netflix
- Swim your worries away.
ปล่อยความกังวลของคุณออกไป
- Summer nights and city lights.
คืนฤดูร้อนและแสงไฟของเมืองหลวง
- Never stop chasing your summer.
อย่าหยุดไล่ตามฤดูร้อนของคุณ
- Life is better when you’re under the sun.
ชีวิตจะดีขึ้นเมื่อคุณอยู่ภายใต้แสงแดด
- Every summer has a story.
ทุกฤดูร้อนมีเรื่องราว
- Hot sun and clear water.
แดดร้อนๆ และน้ำใสๆ
- Good times and tan lines.
ช่วงเวลาที่ดีและผิวสีแทน
- High tides and good vibes.
คลื่นน้ำสูงๆ และความรู้สึกดีๆ
- Summer is a state of mind.
ซัมเมอร์คือสภาวะจิตใจของฉันในตอนนี้
- Find me under the palms.
ตามหาฉันได้ที่ใต้ต้นปาล์ม
- I’m a summer girl.
ฉันเป็นสาวที่รักหน้าร้อน
- Don’t Worry, Get Sandy!
ไม่ต้องกังวล เตรียมมีผิวแทนกันเถอะ!
- Keep calm and lay in the sun.
ทำใจร่มๆ และนอนอาบแดด
- Mermaid vibes.
กลิ่นอายของนางเงือก
- I’m on island time.
โหมดการใช้ชีวิตของฉันตอนนี้คืออยู่บนเกาะ
- Life is cool by the pool.
ชีวิตริมสระน้ำช่างเย็นสบาย
แคปชั่นอากาศร้อน แคปชั่นแสงแดด ภาษาอังกฤษ
- Sun-Kissed.
พระอาทิตย์จูบใบหน้า
- Summer Season or Sunny Season?
ฤดูร้อนหรือฤดูแดด?
- Remember: SPF’s Your BFF.
อย่าลืมว่า SPF คือ Best Friend Forever ของคุณ
- Sun of a Beach.
พระอาทิตย์แห่งชายหาด
- Ray Ray Sunny Day.
วันที่สดใส มีแสงแดด
- Here Comes the Sun.
พระอาทิตย์มาแล้ว
- More Sunsets, Less Netflix.
ออกไปดูพระอาทิตย์ตกมากขึ้น ดู Netflix น้อยลง
- Sunshine and Fine Wine.
แสงแดดและไวน์ชั้นดี
- Hello grill season!
สวัสดีฤดูกาลแห่งการไหม้!
- In a relationship with: my air conditioner.
อยู่ในความสัมพันธ์กับ: เครื่องปรับอากาศของฉัน
แคปชั่นซัมเมอร์ ทะเล หาดทราย ภาษาอังกฤษ
- Stay salty.
เค็ม (หมายถึงความเค็มของทะเล)
- B.E.A.C.H. : Best Escape Anyone Can Have
การหลบหนีที่ดีที่สุดที่ทุกคนสามารถมีได้ คือทะเล
- Don’t worry, beach happy.
ไม่ต้องกังวล แค่มีความสุขกับทะเลก็พอ (เลียนเสียงคำว่า Be กับ Beach)
- Time to seas the day.
ได้เวลาออกไปเจอทะเลแล้ว
- Sandy toes, tan lines and ocean waves.
นิ้วเท้าที่เปื้อนทราย ผิวสีแทนๆ และคลื่นทะเล
- Sun of a beach.
ดวงอาทิตย์ของชายหาด
- Long time, no sea.
ไม่ได้เจอกันนานนะ ทะเล! (เลียนเสียงคำว่า See กับ Sea)
- Eat. Sleep. Beach. Repeat.
กิน. นอน. ชายหาด. ทำซ้ำวนไป
- Salt water heals all wounds.
น้ำเกลือช่วยรักษาบาดแผลทั้งหมด
- Life is better in a bikini.
ชีวิตดีขึ้น เมื่อเราได้ใส่บิกินี่
- Mentally on the beach.
จิตใจฉันอยู่ที่ชายหาด
- No one likes a shady beach.
ไม่มีใครชอบชายหาดที่ไม่มีแดด
- Beach life.
ชีวิตริมชายหาด
- Let the sea, set you Free.
ปล่อยให้ทะเลทำให้คุณเป็นอิสระ
- Catch me by the Sea.
จับฉันได้ที่ริมทะเล
- Ocean air, salty hair.
กลิ่นทะเล และผมเค็มๆ (หมายถึงความเค็มจากทะเลน่ะ)
- Good Vibes happen on Tides.
ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นบนกระแสน้ำในทะเล
- Sun, Sand, and Pineapple in hand.
พระอาทิตย์ หาดทราย และสับปะรดในมือ
- Sand on, stress off.
ออกไปแตะหาดทราย และปิดความเครียดทิ้งไป
- Salt in the air. Sand in my hair.
ความเค็มลอยอยูในอากาศ และทรายซ่อนตัวอยู่ในผมของฉัน
- Sea la vie!
ชีวิตในทะเล!
- Happiness comes in waves.
ความสุขมาในรูปแบบคลื่นทะเล
- A good beach day keeps the doctor away.
วันเวลาดีๆ ที่ชายหาด ทำให้เราไม่ต้องเจอหมอ!
- The best days are beach days.
วันที่ดีที่สุดคือวันที่ชายหาด
- Ocean waves and happy days.
คลื่นทะเลและวันแห่งความสุข
- Sandy, salty, and happy.
ทราย ความเค็ม และมีความสุข
- I can sea clearly now.
ตอนนี้ฉันสามารถทะเลได้อย่างชัดเจน
- Just blue skies and sunshine.
แค่ท้องฟ้าสีครามและแสงแดด
- Time to seas the day.
ถึงเวลาของทะเลแล้ว
- Good vibes happen on the tides.
ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นบนกระแสน้ำ
ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net
ดับร้อนพร้อมคืนผิวสวยด้วย 5 เครื่องดื่มบูสต์ผิวให้ Glow ใส สุขภาพดี

เมื่อเข้าหน้าร้อน เชื่อว่าสาว ๆ หลายคน ต้องเจอกับปัญหาผิวแห้ง พัง หรือหมองคล้ำ? วันนี้ เรามีเคล็ดลับมาบอกต่อกันค่ะ! แค่เลือกเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ ก็ช่วยบูสต์ผิวให้ Glow ใส สุขภาพดีได้ในทุกวัน แถมยังดับร้อนได้ด้วยนะ! ถ้าอยากรู้ว่ามีเครื่องดื่มอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงผิวสวย ๆ ตามมาดูกันเลย
5 เครื่องดื่มบูสต์ผิวให้ Glow ใส สุขภาพดี
1.น้ำมะพร้าว สดชื่นได้ทั้งร่างกายและผิว
น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นและช่วยให้ผิวสุขภาพดี เพราะน้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินซี และแร่ธาตุที่ช่วยในการฟื้นฟูผิว ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างธรรมชาติ แถมยังช่วยเรื่องการขับสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย ดื่มน้ำมะพร้าวเย็น ๆ ในวันอากาศร้อน นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยให้ผิวใสขึ้นด้วยนะคะ
2.น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น ล้างพิษและเพิ่มความสดชื่น
เชื่อหรือไม่ว่าน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มากกว่าที่คิด! การดื่มน้ำมะนาวในตอนเช้า ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและขับสารพิษออกจากร่างกายได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ มะนาวยังเต็มไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แถมลดเลือนริ้วรอยได้ด้วยค่ะ เริ่มวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นสักแก้ว ผิวก็จะสดใสขึ้นตั้งแต่เช้าเลย!
3.ชาเขียว ช่วยต่อต้านการอักเสบและฟื้นฟูผิว
ชาเขียวถือเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพโดยรวม รวมทั้งการดูแลผิวด้วยค่ะ ชาเขียวมีสารคาเทชิน ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและกระจ่างใส ชาเขียวยังช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอีกด้วย ดังนั้น ใครที่อยากมีผิวใส ไม่อยากให้ร้อนนี้พัง ลองดื่มชาเขียวดูนะคะ
4.น้ำแตงโม อุดมไปด้วยวิตามินและความชุ่มชื้น
แตงโมถือเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงผิวได้ดีเยี่ยม เพราะมีวิตามินซีสูงและมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดใสได้อย่างดีเยี่ยม น้ำแตงโมยังช่วยลดอุณหภูมิร่างกายในหน้าร้อน ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูสดใสและสุขภาพดี ไม่ว่าจะดื่มเป็นน้ำแตงโมสดหรือทำเป็นสมูทตี้ ก็อร่อยและมีประโยชน์มากค่ะ
5.น้ำสมุนไพรใบเตย ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก
น้ำสมุนไพรใบเตย เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวสะอาดและดูสดใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ใบเตยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวัยและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ใครที่อยากมีผิวสวยในหน้าร้อนนี้ ลองหาน้ำใบเตยมาดื่มกันดูค่ะ
เครื่องดื่มที่เราแนะนำในวันนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยดับร้อน แต่ยังช่วยบำรุงผิวให้สวยใสและสุขภาพดี จากภายในสู่ภายนอก ดื่มแล้วไม่ต้องกลัวอ้วน ไม่ต้องกลัวผิวพัง ลองเลือกดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในแต่ละวัน เพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกายและดูแลผิวไปพร้อม ๆ กัน รับรองว่าหน้าร้อนนี้ คุณจะมีผิวสวยกระจ่างใส พร้อมทั้งสุขภาพดีแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 07/03/2568
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 46,350.00 | 46,450.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 3,002.00 | 45,510.32 | 47,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,701.80 | 40,959.29 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,401.60 | 36,408.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,351.00 | 20,481.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 1,051.00 | 15,933.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 3,111.00 | 47,162.76 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 07/03/2568
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ![]() ไออาร์พีซี | พีที | ![]() ซัสโก้ | ![]() เพียว | ![]() พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.95 | 34.95 | 35.45 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 | 34.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.58 | 34.58 | 35.08 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 | 34.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.74 | 32.74 | 33.24 | 32.74 | 32.74 | – | 32.74 | 32.74 | 32.74 | 32.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 31.19 | 31.19 | – | – | – | – | – | – | – | 31.19 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 43.54 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 43.54 |
เบนซิน 95 | 43.24 | – | – | – | 49.81 | – | 43.74 | 43.39 | – | 43.24 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 17.90 | 17.90 | – | – | – | – | – | – | – | 17.90 |