สาระน่ารู้ประจำวันที่ 10 มีนาคม 2568

รถไฟฟ้า‘สายสีส้ม’ปลุกดีมานด์อสังหาทำเลทองคอนโดแห่งอนาคต

คุชแมนฯ ชี้สายสีส้มจุดเปลี่ยนอสังหาฝั่งตะวันตก “คอนโดสะสม” 1.5 หมื่นยูนิต ขายแล้ว 86% ปลุกดีมานด์-ซัพพลายเพชรบุรี ราชเทวี ประตูน้ำ ราคาที่ดิน-คอนโด พุ่ง ผงาด “ทำเลทอง”

แม้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่อนข้างชะลอตัว โดยเฉพาะตลาด “คอนโดมิเนียม” เปิดขายใหม่น้อยจากซัพพลายสะสมจำนวนมาก แต่ยังมีปัจจัยบวกจากโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ หนุนแจ้งกิดทำเลศักยภาพแห่งอนาคต ยิ่งแนวเส้นทางผ่านย่านการค้าสำคัญกระตุ้นดีมานด์ทั้งผู้อยู่อาศัยจริงและนักลงทุนได้เป็นอย่างดี 

นายสุรเชษฐ กองชีพหัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การก่อสร้างของรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) เริ่มขยับไปข้างหน้า แม้จะไม่รวดเร็วเท่าที่คาดหวัง แต่ก็ถือเป็นสัญญาณแห่งการฟื้นตัวสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ จากศักยภาพและมูลค่าของพื้นที่ที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในอนาคต 

โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมบริเวณเส้นทางรถไฟฟ้าสีส้มฝั่งตะวันตกรวมกันมีจำนวนสะสม 15,271 ยูนิต ขายไปแล้วถึง 86% ซึ่งราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมพุ่งสูงถึง 169,000 บาทต่อตารางเมตร หรือบางทำเลทะลุ 250,000 บาทต่อตารางเมตร จะเห็นว่าราคาเฉลี่ยค่อนข้างสูงในระดับที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้บริโภคที่มองหาทำเลในอนาคต

สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ยังคงมีอยู่ แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ค่อยมีโครงการใหม่ๆ เปิดขายมากนักจากสภาวะตลาดโดยรวมที่ซบเซา ดังนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ เป็นเรื่องธรรมดารอจังหวะและโอกาส” 

พื้นที่ศักยภาพ‘เพชรบุรี-ราชเทวี-ประตูน้ำ’

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาทำเลย่านประตูน้ำ ราชเทวี ต่อเนื่องเพชรบุรี ถือเป็นพื้นที่ศักยภาพ ซึ่งประตูน้ำจะเป็นหนึ่งในสถานีใหญ่ของรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก มองไปยังบริเวณถนนเพชรบุรีจะเห็นว่าบางทำเลราคาที่ดินอาจสูงถึง 2 ล้านบาทต่อตารางวา หรือใกล้เคียงกันในบางพื้นที่ของถนนพญาไท ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อของสายสีส้มฝั่งตะวันตกกับสถานีราชเทวี ที่คอนโดมิเนียมอยู่ในกลุ่มจำนวนสะสมมากที่สุด ทำให้ทำเลนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อการก่อสร้างมีความคืบหน้า

ขณะที่ย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งค้าส่งค้าปลีกที่มีการพัฒนาใหม่มาแล้วระยะหนึ่ง มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงพาณิชย์อย่างมาก เช่น การปรับโฉมใหม่ของ “พันธ์ทิพย์ ประตูน้ำ” เปลี่ยนชื่อเป็น “ฟีนิกซ์”  เป็นศูนย์รวมค้าส่งค้าปลีกครบวงจร  ช่วยเสริมศักยภาพของย่านนี้ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น 

อีกทั้งยังมีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสจาก แพลทินัม สแควร์ และ เจอาร์เค ทาวเวอร์  สะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่นี้มีการปรับตัวในเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่องรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด

คอนโดสายสีส้มฝั่งตะวันตก“รอเวลา”

อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก จะพบว่าฝั่งตะวันออกมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมากกว่า 4-5 ปีแล้ว และเส้นทางนี้กำลังจะเปิดให้บริการในปี 2571 ส่วนฝั่งตะวันตก แม้ว่าจะคืบหน้าอย่างช้าๆ แต่การเปิดเส้นทางราวปี 2573 จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านนี้คึกคักขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ การพัฒนารถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกเป็นโครงการที่คาดการณ์ได้ว่าจะสร้างผลกระทบในแง่บวกต่อการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่การที่จะได้เห็นการเติบโตที่ชัดเจนต้องอาศัยการพัฒนาและการสร้างความพร้อมในด้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยโอกาส

“จากการพัฒนาอย่างช้าๆ ของเส้นทางนี้ เราจะเห็นได้ว่าในอนาคตเมื่อทุกอย่างเริ่มปรับตัวจนเข้าที่แล้ว คอนโดมิเนียมบริเวณนี้จะกลายเป็นทำเลทองของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของกรุงเทพฯ จากการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกสบายมากขึ้น

เอพี-แสนสิริ ลุยคอนโดในเมือง

สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านประตูน้ำ ราชเทวี มีบิิ๊กคอร์ปปักหมุดโครงการหลายราย อย่างกลุ่มเอพี เปิดโครงการ THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี มูลค่า 8,600 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 3 ไร่ ประกอบด้วยที่พักอาศัยสูง 50 ชั้น รวม 880 ยูนิตตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยทำเลที่ตั้งที่ช่วยให้เดินทางง่ายมาพร้อมฟังก์ชันใช้งานครบครัน ใกล้แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

ขณะที่ “แสนสิริ” มีโครงการชูช์ ราชเทวี  ไม่ไกลกันยังนักมีโครงการเอ็กซ์ที พญาไท ใจกลางถนนศรีอยุธยา ใกล้แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน สะดวกสบายต่อการเดินทางในเมืองเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


คนผ่อนไม่ไหว!อสังหาฯมือสองNPA พุ่ง สถาบันการเงินหั่นราคา10-30%

ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้ เผยอสังหาฯมือสองประเภท NPA คอนโด บ้าน อาคารพาณิชย์ ที่ดิน เพิ่มขึ้น สถาบันการเงินส่งสัญญาณเร่งระบายทรัพย์หั่นราคา 10-30%

ทรัพย์ NPA ยังคงเป็นสินค้าที่มีความน่าสนใจไม่เพียงแค่สำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการหาทรัพย์ในราคาที่คุ้มค่า ในขณะที่ราคาอสังหาฯ ใหม่ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี !

ในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจท้าทายไม่หยุดยั้ง มักจะมีผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ในช่วงหลายปีมานี้ราคาบ้านใหม่ต่างปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ดินหรือราคาวัสดุก่อสร้าง แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มือสอง โดยเฉพาะที่เป็นทรัพย์ NPA (Non-Performing Assets) กลับกลายเป็น”ทางเลือก”ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้ที่มองหาบ้านในทำเลดีในราคาที่”คุ้มค่า”

NPA ในตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง

นางดรุณี รุ่งเรืองผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาร์วิดพร๊อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มของทรัพย์ NPA ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า จำนวนอสังหาริมทรัพย์มือสองที่เป็นทรัพย์ NPA ยังคงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่กระทบต่อการผ่อนชำระของผู้กู้จากสถาบันการเงิน ส่งผลให้สถาบันการเงินต้องเร่งระบายทรัพย์ที่ติดหนี้ด้วยการจัดโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งบางครั้งอาจลดราคาตั้งแต่ 10-30% ทั้งในส่วนของบ้านประเภทคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว หรือแม้กระทั่งทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เช่น อาคารพาณิชย์ และโกดัง warehouse

สำหรับนักลงทุนที่มองหาความคุ้มค่าในการลงทุนทรัพย์ NPA จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด พร้อมกับได้ทำเลที่มักจะตั้งอยู่ในจุดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง เช่น แหล่งพาณิชย์หรือทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก

ทำไมทรัพย์ NPA ถึงน่าสนใจในปี 2568

ในขณะที่ราคาบ้านใหม่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตาม”ต้นทุน”การก่อสร้างที่สูงขึ้น  ตรงกันข้ามกับทรัพย์ NPA กลับถูกนำมาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาขายของทรัพย์เหล่านี้ยังคงน่าสนใจ และเป็น”ตัวเลือก”ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่พร้อมที่จะตัดสินใจซื้อ

โดยเฉพาะบ้านมือสองที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เช่น ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวในชุมชนที่มีศักยภาพ ซึ่งการซื้อบ้านในราคาที่ต่ำกว่าและมีทำเลที่ดี เหมือนการได้บ้านในทำเลเด่นในราคาที่ถูกกว่าตลาด ทำให้ทรัพย์ NPA เป็นที่จับตาของทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและกลุ่มนักลงทุน

นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังได้ปรับการตลาดโดยการจัดแคมเปญลดราคาหรือจัดโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบ เพื่อดึงดูดผู้ซื้อและนักลงทุนให้มีความสนใจในการซื้อทรัพย์ NPA มากยิ่งขึ้น

จุดเด่นที่ทำให้นักลงทุนหันมาจับตาทรัพย์ NPA

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ทรัพย์ NPA น่าสนใจคือการที่สถาบันการเงินสามารถจัดการขายทรัพย์เหล่านี้ในราคาที่คุ้มค่ากว่า เนื่องจากต้องการเร่งระบายสินทรัพย์ที่คงค้างการลดราคาจึงเป็น”โอกาส”ที่ดีสำหรับผู้ซื้อและนักลงทุน โดยเฉพาะในตลาดอสังหาฯ มือสองที่มีจำนวนยูนิตในตลาดหลายแสนยูนิต รวมถึงทรัพย์ NPA ที่ยังคงมีความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เช่น อาคารพาณิชย์ ก็ได้รับความนิยมจากนักลงทุนที่มองหาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่มีศักยภาพสูง การซื้อทรัพย์ NPA ในทำเลพาณิชย์จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถนำมาพัฒนาเพื่อประกอบธุรกิจได้ทันที ต่างจากการซื้อทรัพย์ใหม่ที่มักจะอยู่ห่างจากแหล่งพาณิชย์หรือคมนาคมไม่สะดวก

ทำเลทองในบ้านมือสอง NPA

แม้ว่าทรัพย์ NPA ประเภทที่อยู่อาศัยจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่มองหาบ้านมือสองในทำเลที่ดี แต่ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านใหม่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การหาทรัพย์ในทำเลที่ดีกลับกลายเป็นข้อได้เปรียบของบ้านมือสอง NPA ที่สามารถซื้อได้ในราคาที่”ถูกกว่า”โดยเฉพาะบ้านในทำเลที่เป็นชุมชนหรือใกล้กับแหล่งคมนาคมหรือสถานศึกษา ทำให้ราคาที่ดีกว่าในทำเลดี เป็นจุดที่นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว ทั้งในด้านการปล่อยเช่าหรือการขายต่อในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10 มี.ค. “อ่อนค่าลง เล็กน้อย” ที่ระดับ 33.72 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways จับตาทิศทางเงินหยวน รวมถึงราคาทองคำ ส่วนเงินดอลลาร์อาจยังคงเผชิญแรงกดดันจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร และเงินเยน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 10 มี.ค. 2568  ที่ระดับ  33.72 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง เล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.64 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่านับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวผันผวน ทยอยอ่อนค่าลง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 33.58-33.78 บาทต่อดอลลาร์)

โดยในช่วงแรกเงินบาทอาจพอแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 33.60 บาทต่อดอลลาร์ ตามการรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ พร้อมกับจังหวะย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุด ออกมาผสมผสาน

 ทว่า เงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ตามการส่งสัญญาณของประธานเฟด ที่ย้ำจุดยืน ไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย และคงมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางที่ดีอยู่ (ขณะที่ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลแนวโน้มเกิดภาวะ Stagflation)

นอกจากนี้ เงินบาทก็ถูกกดดันเพิ่มเติม ตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำ ที่ถูกกดดันจากการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากากรแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะ เงินยูโร (EUR) ท่ามกลางความหวังรัฐบาลยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนีเตรียมเพิ่มงบประมาณด้านการทหารและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนานใหญ่

สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อย่าง อัตราเงินเฟ้อ CPI พร้อมจับตาพัฒนาการของปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ อย่างการเจรจาเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้ โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างมองว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง หรือ 75bps ในปีนี้ และเดินหน้าลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง หรือ 25bps ในปีหน้า (Fully Priced-In)

ทั้งนี้ เรามองว่า อีกหนึ่งข้อมูลที่สำคัญและต้องจับตามองในระยะถัดไป คือ ข้อมูลตลาดแรงงาน อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ที่อาจสะท้อนผลกระทบจากการปรับลดดการจ้างงานของภาครัฐ โดย DOGE

และอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลความเสี่ยงการเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอลงชัดเจน ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อสูง) ในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล Trump 2.0 โดยเฉพาะนโยบายกีดกันทางการค้า พร้อมทั้งรอติดตามพัฒนาการของการเจรจาเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ฝั่งยุโรป – บรรดาผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB หลัง ECB ได้เดินหน้าลดดอกเบี้ยในสัปดาห์ก่อนหน้า

อีกทั้ง ตลาดได้รับรู้โอกาสที่เศรษฐกิจยุโรปจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น จากความหวังว่า บรรดารัฐบาลในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนีจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาด รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรปส่วนใหญ่ที่ออกมาสดใส ได้หนุนการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินยูโร (EUR) ในช่วงนี้ อนึ่ง ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ECB มีโอกาสราว 91% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง หรือ 50bps สู่ระดับ 2.00% ในปีนี้ 

▪ ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผ่านรายงานข้อมูลตลาดแรงงาน อย่าง อัตราการเติบโตของค่าจ้าง โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า BOJ มีโอกาสราว 45% ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้

▪ ฝั่งไทย – ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนกุมภาพันธ์ ที่อาจมีแนวโน้มทยอยปรับตัวสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ทว่าความเสี่ยงสงครามการค้าก็อาจกดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้

สำหรับ แนวโน้มเงินบาท นั้น หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะต้องกลับมาอ่อนค่าทะลุโซน 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน ถึงจะกลับมาสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง

ทำให้เรามองว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อน บนความผันผวนที่สูงกว่าปกติ (หากประเมินจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่จะทยอยรับรู้) ทั้งนี้ เงินบาทยังมีโซนแนวต้านแรกแถว 33.80 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญแถว 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์)

ขณะที่โซนแนวรับสำคัญจะอยู่ในช่วง 33.50-33.60 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 33.30 บาทต่อดอลลาร์) อนึ่ง เราขอเน้นย้ำว่า แนวโน้มเงินบาทจะขึ้นกับทิศทางราคาทองคำด้วยเช่นกัน

โดยหากราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นชัดเจนอีกครั้ง (เช่น กลับไปแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์)

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยต้องจับตาทิศทางเงินดอลลาร์ เงินหยวนจีน รวมถึงราคาทองคำ ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจมีแนวโน้มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย

โดยเฉพาะหุ้นไทยได้บ้าง หากดัชนี SET สามารถปรับตัวขึ้นปิด Gap ที่ลงมาได้ ทั้งนี้ เงินบาทเสี่ยงผันผวนสูงกว่าปกติ หากประเมินจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยรับรู้ในสัปดาห์นี้

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์เงินดอลลาร์อาจยังคงเผชิญแรงกดดันจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินยูโร (EUR) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY)

นอกจากนี้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาผสมผสาน หรือ ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้บ้าง ตามการเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ ของผู้เล่นในตลาด

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนจากความกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งต้องจับตาท่าทีของทางการสหรัฐฯ ต่อการเพิ่มภาษีนำเข้ากับสินค้าจากยุโรป รวมถึงความไม่แน่นอนของการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.45-34.00 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.70-33.72 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.22 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 33.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่ากลับมา (หลังแข็งค่าขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ รับข่าวตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด) ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีแรงประคองบางส่วนจากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่กล่าวในวันศุกร์ว่า เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยรอติดตามความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก่อน  

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.60-33.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ รวมถึงตัวเลขมุมมองคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนก.พ.   

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ไตเติ้ล-เจน” แพ้คู่เดนมาร์ก ปิ๋วตัดเชือกแบดมินตันออร์เลอ็อง มาสเตอร์ส

“ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ คู่ผสมไทย ทำผลงานได่อย่างยอดเยี่ยมแล้ว แต่ไม่สามารถหยุดเกมบุกที่เฉียบขาดชอง เจสเปอร์ ทอฟท์ กับ อเมเลีย แม็กลุนด์ คู่เต็ง 5 จากเดนมาร์กไม่ไหว ตกรอบรองชนะเลิศแบดมินตัน ออร์เลอ็อง มาสเตอร์ส 2025

การแข่งขันแบดมินตันรายการ ออร์เลอ็อง มาสเตอร์ส 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,160,000 บาท ที่เมืองออร์เลอ็อง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มี.ค.68 ที่่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ 

ประเภทคู่ผสม รอบรองชนะเลิศ “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ คู่มืออันดับ 21 ของโลก พบกับ  เจสเปอร์ ทอฟท์ กับ อเมเลีย แม็กลุนด์ คู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากเดนมาร์ก

เกมแรก ในช่วงต้นคู่ ไตเติ้ล กับ เจน เล่นได่้ดีกว่าในช่วงต้น แต่หลังจากผ่านไป 7 แต้มแรก คู่เดนมาร์ก ใช้เเล่นจังหวะสอง และบุกได้อย่างแม่นยำกว่ามาปิดเกมแรกไปได้ที่ 21-12 

เกมสอง ไตเติ้ล กับ เจน แก้เกมได้ดีขึ้นพยายามเปิดเกมบุกใส่คู่เดนมาร์กทำแต้มได้สนุก แต่คู่เดนมาร์ก ก็ยังคุมเกมการเล่นไว้ได้ดีกว่า มาเอาชนะไปได้อีกที่ 21-16 ทำให้คู่ของ เจสเปอร์ ทอฟท์ กับ อเมเลีย แม็กลุนด์ เอาชนะไปได้ 2-0 เกม ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เรฮาน นัลฟาล คูชาร์จานโต กับ กลอเลีย เอ็มมานูเอล วิดจาจ้า คู่มืออันดับ 173 ของโลกจากอินโดนีเซีย ที่เอาชนะ ลี จองมิน กับ แช ยูจุง คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการจากเกาหลีใต้ มาได้ 2-1 เกม 21-16 ,18-21,21-13 ส่วน “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ จบเส้นทางไว้เพียงรอบรองชนะเลิศ

สำหรับรายการต่อไปของนักแบดมินตันไทย จะเดินทางไปแข่งขันรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง โยเน็กซ์ ออล อิงแลนด์ โอเพ่น แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 49,300,000 บาท แข่งระหว่างวันที่ 11-16 มี.ค.นี้ ที่ยูทิลิต้า อารีน่า เบอร์มิงแฮม เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


5 สัญญาณอันตราย “มะเร็งหลอดอาหาร”

ตามปกติแล้วเรามักจะคุ้นชินกับมะเร็งที่เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่สำคัญ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก แต่อีกหนึ่งอวัยวะที่สำคัญ แต่เราอาจจะไม่ได้พูดถึงกันบ่อยๆ คือ “หลอดอาหาร” ที่ทำให้ผู้ที่ป่วยโรคนี้มีอาการทรมานไม่น้อยไปกว่ามะเร็งในส่วนอื่นๆ

มะเร็งหลอดอาหาร คืออะไร?

มะเร็งหลอดอาหาร คือโรคมะเร็งที่พบเนื้อเยื่อที่มีเซลล์เจริญเติบโตผิดปกติที่บริเวณเนื้อเยื่อชั้นใน เนื้อเยื่อมีขนาดโตออกสู่ผนังด้านนอก หลอดอาหารเป็นส่วนที่อยู่ใกล้เคียงกับอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ถ้ามะเร็งกระจายผ่านผนังหลอดอาหารจะสามารถเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง เส้นเลือดใหญ่ในทรวงอก และอวัยวะใกล้เคียง มะเร็งหลอดอาหารยังสามารถกระจายสู่ปอด ตับ กระเพาะอาหาร และส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้

ชนิดของมะเร็งหลอดอาหาร

  • Squamous cell carcinoma เกิดจากเซลล์เยื่อบุผนังหลอดอาหาร มักเกิดที่ส่วนต้นและส่วนกลางของหลอดอาหาร
  • Adenocarcinoma เกิดจากส่วนที่เป็นต่อมในส่วนปลายของหลอดอาหาร

ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหาร

  • อายุ 45-70 ปี
  • เพศชายเสี่ยงกว่าเพศหญิง 3 เท่า
  • สูบบุหรี่ ยิ่งสูบนาน สิ่งเสี่ยงมาก
  • ดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหารชนิด Squamous cell carcinoma
  • เป็นโรคกรดไหลย้อน หรือภาวะหลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง
  • หลอดอาหารเกิดภาวะ Barrett’s esophagus ที่กรดในกระเพาะอาหารทำลายเซลล์บุผนังหลอดอาหาร ทำให้เกิดมะเร็งชนิด Adenocarcinoma
  • รับประทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ และแร่ธาตุต่างๆ ต่ำเกินไป
  • เป็นโรคอ้วน
  • พันธุกรรม

อาการของโรคมะเร็งหลอดอาหาร

สัญญาณอันตราย “มะเร็งหลอดอาหาร” มีดังนี้

  1. เสียงแหบ สะอึกเรื้อรัง ไอเรื้อรัง
  2. กลืนอาหารแล้วเจ็บ อาจปวดร้าวไปด้านหลัง
  3. น้ำหนักลดลงผิดปกติ โดยไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนัก
  4. มีภาวะโลหิตจาง อาเจียนเป็นเลือด หรือขับถ่ายมีสีดำ
  5. กลืนลำบาก รู้สึกแน่นอก หรือลำคอ โดยเริ่มมีอาการหลังจากทานอาหารแข็ง อาหารนิ่ม อาหารเหลว ไปจนถึงน้ำตามลำดับ และอาจสำลัก หรืออาเจียนเอาอาหารที่เคยทานไปแล้วออกมา

วิธีรักษาโรคมะเร็งหลอดอาหาร

  • ผ่าตัด ทั้งการผ่าตัดนำเนื้องอกที่มีขนาดเล็กมากออกไป การผ่าตัดหลอดอาหารออกบางส่วน และการผ่าตัดต่อหลอดอาหารกับกระเพาะอาหาร
  • ฉายรังสี เป็นการใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง อีกทั้งยังอาจใช้บรรเทาภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารที่ลุกลาม
  • เคมีบำบัด ใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง อาจใช้ก่อนหรือหลังการผ่าตัด สามารถใช้รักษาร่วมกับการฉายแสง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน

วิธีป้องกันโรคมะเร็งหลอดอาหาร

  1. งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตลอดเวลา
  3. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพิ่มการทานผักผลไม้ให้มากขึ้น
  4. รักษาโรคกรดไหลย้อน หรือภาวะหลอดอาหารอักเสบเรื้อรังให้อาการดีขึ้นโดยเร็วที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


‘แคสเปอร์สกี้’ แนะ ‘5 เช็คลิสต์’ แก้ปัญหาเมื่อ ‘ข้อมูลรั่วไหล’

การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย “แคสเปอร์สกี้” วิเคราะห์ความต้องการซื้อขายในตลาดมืดพบ สิ่งที่ดึงดูดอาชญากรไซเบอร์ คือต้นทุนการลงทุนต่ำและได้รับผลตอบแทนสูง

เซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย

ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ได้วิเคราะห์ความต้องการซื้อขายในตลาดมืดและพบว่า สิ่งที่ดึงดูดอาชญากรไซเบอร์ส่วนใหญ่ให้เข้าสู่ธุรกิจการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล คือต้นทุนการลงทุนต่ำและได้รับผลตอบแทนสูง

ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลประจำตัวที่ไม่ได้รับการป้องกันอาจถูกนำไปใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อสร้างความเสียหายในวงกว้าง เริ่มจากรหัสผ่านและเอกสารส่วนตัวถูกขโมย ไปจนถึงธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย และการขโมยข้อมูลประจำตัวทั้งหมด

แคสเปอร์สกี้แนะนำ ‘5 ขั้นตอน’ ที่ควรทำเมื่อความเป็นส่วนตัวถูกละเมิด

สำหรับบุคคลทั่วไป

หากบริษัทหรือผู้ให้บริการประกาศให้ทราบว่าข้อมูลอาจเป็นส่วนหนึ่งของการละเมิดข้อมูล ข้อมูลส่วนบุคคลอาจอยู่ในเว็บมืดหรือในฐานข้อมูลแสวงหากำไรที่ดำเนินการโดยผู้ไม่ประสงค์ดี ขั้นตอนการกู้คืนที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง

1. ตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกละเมิด และตรวจสอบการอัปเดตต่างๆ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกขโมยส่วนใหญ่คือ ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน อีเมล ชื่อและรหัสผ่านสำหรับเข้าสู่ระบบ และข้อมูลบัตรเครดิต

ควรตรวจสอบกับบริษัทนั้นๆ ทางโทรศัพท์โดยตรง หรือทางเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อตรวจสอบประเภทของข้อมูลที่รั่วไหล และติดตามการอัปเดตด้านความปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว

2. อัปเดตข้อมูลประจำตัวที่ถูกเผยแพร่

เปลี่ยนที่อยู่อีเมลหรือรหัสผ่านทันที ปฏิบัติตามกฎการสร้างรหัสผ่านที่ดี โดยใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง ใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันสำหรับบัญชีต่างๆ และควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ

3. ลงทะเบียนการยืนยันตัวตนด้วยสองขั้นตอน

เพิ่มความปลอดภัยออนไลน์เป็นสองเท่าด้วยการยืนยันสองขั้นตอน (two-factor authentication) ซึ่งเป็นระดับความปลอดภัยพิเศษสำหรับบัญชีออนไลน์ โดยคุณจะต้องป้อนข้อมูลประจำตัวเพิ่มเติมเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

ตรวจสอบบัญชีทั้งหมด

ข้อมูลประจำตัวที่ถูกเผยแพร่ออกไปเพียงหนึ่งชุด อาญชากรจะสามารถตรวจสอบข้ามเว็บไซต์ เพจโซเชียลมีเดีย การสมัครรับข้อมูล และการเป็นสมาชิกต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ควรระวังกิจกรรมแปลกๆ ในบัญชี เช่น รายการซื้อสินค้าใหม่ การเปลี่ยนรหัสผ่าน และการเข้าสู่ระบบจากสถานที่ต่างๆ

5. ปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน

หากข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล รีบแจ้งให้ผู้ให้บริการบัตรระงับหรือยกเลิกบัตรทันที เพื่อป้องกันการใช้งานหรือการซื้ออื่นๆ เพิ่มเติม ตั้งค่าการตรวจสอบเครดิตเพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายงานเครดิตหรือบัญชี ควรอายัดเครดิตหากข้อมูลทางการเงินถูกเปิดเผยและมีการเปลี่ยนแปลงในเครดิตหรือบัญชี

สำหรับองค์กรธุรกิจ

  • อัปเดตซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้อยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โจมตีแทรกซึมเครือข่ายโดยใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ ติดตั้งแพตช์สำหรับช่องโหว่ใหม่โดยเร็วที่สุด
  • เพื่อปกป้องบริษัทจากภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ ให้ใช้โซลูชันที่แข็งแกร่ง 
  •  สำหรับการปกป้องธุรกิจขนาดเล็กมาก แนะนำโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการความปลอดภัยไซเบอร์โดยไม่มีผู้ดูแลระบบไอทีเข้ามาช่วยก็ตาม
  • หากองค์กรไม่มีฟังก์ชันการรักษาความปลอดภัยไอทีโดยเฉพาะและมีเพียงผู้ดูแลระบบไอทีทั่วไปที่อาจขาดทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับโซลูชันการตรวจจับและการตอบสนองระดับผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้พิจารณาใช้บริการที่มีการจัดการ
  • อบรมพนักงานเพื่อปกป้องจากการโจมตีไซเบอร์ที่หลักสูตรเฉพาะทางสามารถช่วยได้ 
  • ตั้งค่าการสำรองข้อมูลแบบออฟไลน์ที่ผู้บุกรุกไม่สามารถแทรกแซงได้ ตรวจสอบการเข้าถึงไฟล์ที่สำรองได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉินเมื่อจำเป็น
  • ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยทางไซเบอร์

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


รูปแบบวิธีปฏิเสธ ภาษาอังกฤษแบบคนชิค แบบไม่ต้องพูดว่า No

ในหลาย ๆ ครั้งที่เรานั้นได้รับคำเชิญหรือคำร้องขอจากคนอื่น ๆ หรือมีการมีบทสนทนาร่วม บางครั้งเราก็ตอบตกลงไป แต่บางครั้งเราก็ต้องอยากที่อยากจากตอบปฏิเสธ หรือ Say No ไป แต่ด้วยสถานการ์ต่าง ๆ อาจจะทำให้เรานั้นคิดคำศัพท์หรือนึกคำที่เราจะปฏิเสธแบบสุภาพไม่ออก เพราะบางครั้งบางสถานการณ์แค่คำว่า No ก็อาจจะไม่เข้าหรือไม่เหมาะกับสถานการณ์นั้น ๆ แต่ในบทความนี้ที่ Engduo Thailand จะพาไปดูว่านอกจากคำว่า No แล้ว เราสามารถที่จะพูดคำหรือประโยคอื่น ๆ ที่ใช้ในการปฏิเสธได้อีกหรือไม่

การพูดปฏิเสธกรณีที่มีคนชวนเราไปไหนมาไหน แต่เราไม่สะดวก

  • That sounds great, but… 

ฟังดูดีนะ แต่ว่า…(ตามด้วยเหตุผล)

  • I wish I could come, but unfortunately… 

ฉันหวังว่าจะไปได้ แต่น่าเสียดายที่…(ตามด้วยเหตุผล)

  • I really appreciate the invitation, but… 

ฉันรู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับคำเชิญนั้น แต่ว่า…(ตามด้วยเหตุผล)

  • I wish I could come, but unfortunately, I won’t be able to be there. Have a great party.

ฉันหวังว่าฉันจะไปได้ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถไปได้ ขอให้สนุกนะ

  • I’m honored that you would ask me, but my answer is no.

ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ที่คุณเอ่ยปากชวน แต่ว่าฉันคงต้องขอปฏิเสธ

การพูดปฏิเสธกรณีที่มีคนต้องการเสนออะไรให้เรา แต่เราไม่ต้องการ

  • Thank you for the offer, but…

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ แต่ว่า…(ตามด้วยเหตุผล)

  • I appreciate the offer, but…

ฉันรู้สึกทราบซึ้งกับข้อเสนอ แต่ว่า…(ตามด้วยเหตุผล)

  • That would be great, but… 

มันก็จะดีมากเลยนะ แต่ว่า…(ตามด้วยเหตุผล)

  • Thank you for asking, but that isn’t going to work out for me. 

ขอบคุณที่ถามนะ แต่มันคงไม่เหมาะกับฉันเท่าไหร่

  • Thank you so much for your support. but I’m sorry I can’t accept your offer this time.

ขอบคุณมากที่คอยสนับสนุน แต่ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถรับข้อเสนอของคุณในครั้งนี้ได้

  • I appreciate you asking me, but I can’t do it.

ขอบคุณมากที่ถาม แต่ฉันไม่สะดวกทำจริง ๆ 

การพูดปฏิเสธกรณีที่มีคนขอร้องให้ช่วย แต่เราไม่สะดวก

  • I wish I could help you, but… 

ฉันหวังว่าฉันจะช่วยเธอได้ แต่…(ตามด้วยเหตุผล)

  •  I would love to help you, but…

ฉันอยากที่จะช่วยมาก ๆ เลย แต่…(ตามด้วยเหตุผล)

  • Unfortunately now is not a good time for me, I have to…

น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสะดวกของฉัน ฉันต้อง…

ประโยคตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นว่าเราจะไม่ปฏิเสธไปตรงๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดความข้องใจระหว่างกัน หรือเกิดความขุ่นเคืองในใจ เราอาจใช้การปฏิเสธแบบนุ่มนวลและตามด้วยเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องปฏิเสธ จึงจะเป็นวิธีปฏิเสธที่ดีกว่าการพูดว่า No เฉยๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


กินแล้วสมองแล่น 10 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มความจำดี คิดไว ไม่เบลอ

ถ้าใครเคยรู้สึกว่าทำไมวันนี้ คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย หรือทำไมจำอะไรไม่ได้เลย ก็ต้องบอกเลยว่าอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายและสมองของเรา กำลังต้องการการบำรุง! เราก็จะขอพามาทำความรู้จักกับ 10 อาหารบำรุงสมองของสาว ๆ ที่ไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มความจำ แต่ยังช่วยให้คิดไว คิดทัน และไม่เบลออีกด้วย มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง

10 อาหารบำรุงสมองของสาว ๆ

1.ปลาทะเล

ปลาทะเลอย่างปลาแซลมอน ถือเป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่ดีมากสำหรับสมอง กรดไขมันในปลาแซลมอน ช่วยบำรุงสมองและกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ให้ดีขึ้น แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย สาว ๆ คนไหนที่อยากให้สมองเฉียบคม ต้องมากินแซลมอนเดี๋ยวนี้เลย!

2.แครอท

แครอทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการรักษาสุขภาพของสมองและกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมองให้ดีขึ้น  นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ทำให้ความคิดและความจำทำงานได้เต็มที่

3.ผักใบเขียว

ผักใบเขียวอย่างผักโขมและคะน้า อุดมไปด้วยวิตามิน K และกรดโฟลิก ซึ่งช่วยบำรุงการทำงานของสมอง ลดความเสี่ยงในการสูญเสียความจำ และช่วยเพิ่มสมาธิในการทำงาน การทานผักใบเขียวทุกวัน จะช่วยให้สมองและร่างกายของเรา ทำงานได้อย่างเต็มที่

4.โยเกิร์ต

 โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากนม ที่มีจุลินทรีย์ช่วยในการปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพสมอง ระบบย่อยอาหารที่ดีจะช่วยให้ร่างกาย ดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสมองได้ดีขึ้น จึงทำให้สมองทำงานได้เต็มที่

5.ไข่

ไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและอุดมไปด้วยโคลีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการพัฒนาความจำและความคิดได้ดีขึ้น โคลีนช่วยสร้างสารสื่อประสาทในสมอง ที่ช่วยให้เกิดการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าอยากให้สมองแล่นเร็วขึ้น ลองกินไข่ต้มเป็นอาหารเช้าดูสิคะ

6.เมล็ดฟักทอง

เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งของแมกนีเซียมและสังกะสี ซึ่งทั้ง 2 แร่ธาตุนี้ ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้นและสามารถโฟกัสได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งดีต่อการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย

7.ข้าวกล้อง

ข้าวกล้องเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ย่อยช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงจนเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระดับพลังงานให้สมองทำงานได้ดีตลอดวัน ข้าวกล้องยังมีวิตามิน B และธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างสมองให้แข็งแรง

8.ชาโรสแมรี่

สมุนไพรชนิดนี้ มีสารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นสมองและเพิ่มความจำได้ดี โดยเฉพาะสารคาโรซอล (Carnosol) ที่ช่วยในการป้องกันเซลล์สมองถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ พร้อมช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารได้อย่างเต็มที่

9.ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลตที่มีเปอร์เซ็นต์โกโก้สูง จะอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ช่วยให้สมองตื่นตัวและกระฉับกระเฉงขึ้น แถมยังช่วยลดความเครียดและปกป้องสมองจากความเสียหายอีกด้วย

10.ขมิ้น

ขมิ้นเป็นเครื่องเทศที่มีสาร Curcumin ที่ช่วยบำรุงสมองและลดการอักเสบในสมอง ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ยิ่งไปกว่านั้น ขมิ้นยังช่วยเพิ่มความจำและการเรียนรู้ได้อีกด้วย ถ้าอยากให้สมองของเราแล่นเร็ว คิดไว และความจำดีขึ้น การเลือกกินอาหารที่บำรุงสมองก็เป็นเรื่องสำคัญค่ะ ลองทานอาหารที่เราแนะนำดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมองของเราได้อย่างเห็นผล อีกทั้งยังทำให้ร่างกายแข็งแรงจากภายในอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 10/03/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.9534.9535.4534.9534.9534.9534.9534.9534.9534.95
แก๊สโซฮอล์ 9134.5834.5835.0834.5834.5834.5834.5834.5834.5834.58
แก๊สโซฮอล์ E2032.7432.7433.2432.7432.7432.7432.7432.7432.74
แก๊สโซฮอล์ E8531.1931.1931.19
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.5449.8449.8449.8443.54
เบนซิน 9543.2449.8143.7443.3943.24
ดีเซล32.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV17.9017.9017.90

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/03/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.9534.9535.4534.9534.9534.9534.9534.9534.9534.95
แก๊สโซฮอล์ 9134.5834.5835.0834.5834.5834.5834.5834.5834.5834.58
แก๊สโซฮอล์ E2032.7432.7433.2432.7432.7432.7432.7432.7432.74
แก๊สโซฮอล์ E8531.1931.1931.19
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.5449.8449.8449.8443.54
เบนซิน 9543.2449.8143.7443.3943.24
ดีเซล32.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV17.9017.9017.90
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า