สาระน่ารู้ประจำวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568

อ่าวมะขาม–แหลมพันวาก้าวสู่Monaco of Asiaด้วยวิลล่าหรู150ล้าน

  • เปิดตัวโครงการวิลล่าหรู GARDEN ATLAS BAYVIEW ที่อ่าวมะขาม-แหลมพันวา ยูนิตละ 150 ล้านบาท
  • ตั้งเป้าผลักดันทำเลสู่การเป็น “Monaco of Asia” แห่งใหม่ ด้วยจุดเด่นด้านความสงบเป็นส่วนตัว น้ำลึกเหมาะกับเรือยอร์ช และใกล้ท่าเรือนานาชาติ
  • การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภูเก็ต ส่งเสริมศักยภาพสู่การเป็นเมืองพักอาศัยของกลุ่มมหาเศรษฐี

ภาพของ “โมนาโก” เมืองชายฝั่งเล็กที่สุดอันดับสองของโลกที่เต็มไปด้วยเรือยอร์ชสุดหรูและวิถีชีวิตระดับมหาเศรษฐี กำลังถูกฉายซ้ำในภูเก็ต โดยเฉพาะ “อ่าวมะขาม–แหลมพันวา” พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกที่กำลังถูกจับตาให้เป็น Monaco of Asia แห่งใหม่ของภูมิภาค

ต่อศักดิ์ ใจชื่น ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด ผู้พัฒนาโครงการพักอาศัยระดับ Ultra Luxury ผู้คร่ำหวอดในตลาดบ้านหรูมากกว่า 20 ปี เปิดตัวโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW มูลค่า 2,000 ล้านบาท คอลเลกชันวิลล่าหรูเพียง 15 ยูนิต บนพื้นที่ 16 ไร่ มูลค่าเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท วิวทะเลพาโนรามาแบบ Hilltop และความเป็นส่วนตัว

โครงการนี้สะท้อนแนวคิด “Timeless” ผ่านสถาปัตยกรรม Modern Bali Contemporary ที่ออกแบบให้เหนือกาลเวลา ใช้วัสดุ Hi-end Low Maintenance เพื่อชีวิตแบบ Well-being แต่ยังตอบโจทย์การพักผ่อนในทุกโหมดจากพูลเดย์เบดในสระแบบซีทรูสองชั้น ไปจนถึงสวนลอยฟ้าพร้อมศาลาเพื่อการชมวิวแบบ 360 องศา

พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,500 ตร.ม. ห้องพักผ่อน 3 สเปซ ห้องครัว 2 ห้อง สระน้ำ 2 แห่ง และเทคโนโลยี Home Automation ครบครัน พร้อมคลับเฮ้าส์ Paddle Tennis ฟิตเนสเต็มรูปแบบ คาเฟ่ และพื้นที่อีเวนต์รองรับแขกได้กว่า 150 คน

Rare Coastal Location 

การ์เด้น แอทลาส มองเห็น “คุณค่าที่ซ่อนอยู่” ของทำเลอ่าวมะขาม ซึ่งโดดเด่นด้วยองค์ประกอบเฉพาะตัวที่หาไม่ได้ง่ายในภูเก็ต ได้แก่

  • True Coastal Privacy – ชายฝั่งสงบและเป็นส่วนตัว
  • Maritime-Ready Location – น้ำลึก เหมาะสำหรับเรือยอร์ช
  • Seamless Yachting Access – ใกล้ท่าเรือนานาชาติ
  • Scarcity Drives Value – พื้นที่ติดทะเลมีจำกัดและมูลค่าเพิ่มตามเวลา
  • Prestigious Connectivity – เดินทางได้ทั้งรถ เรือ และในอนาคตคือ “เครื่องบินน้ำ (Seaplane)”

แผนพัฒนา Seaplane Terminal และ Cruise Terminal ที่อ่าวมะขาม จะยกระดับภูเก็ตให้เป็น “Gateway Port” ของอันดามันและอาเซียน เชื่อมสมุย–พัทยา–หัวหิน ด้วยการเดินทางทางน้ำภายในไม่กี่ชั่วโมง

จากเกาะท่องเที่ยว สู่เมืองเศรษฐีโลก

จังหวัดภูเก็ตกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ ทั้งโครงการขยายสนามบินระยะที่ 2 ทางด่วนกะทู้–ป่าตอง และรถไฟฟ้าเบา MRTA ระยะทาง 42 กม. ซึ่งจะเชื่อมสนามบินถึงฉลอง เพิ่มศักยภาพในการเป็นเมืองพักอาศัยของกลุ่ม Ultra Rich

ภูเก็ตวันนี้มีองค์ประกอบครบทุกมิติของ “Global Living” ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลมาตรฐาน JCI โรงเรียนนานาชาติ 16 แห่ง สนามกอล์ฟระดับทัวร์นาเมนต์ และร้านอาหารมิชลินสตาร์ ทำให้ไลฟ์สไตล์หรูริมทะเลไม่ต่างจาก 3 เมืองชายฝั่งระดับโลก โมนาโก, ฮ่องกง และสิงคโปร์

Life Curated นิยามใหม่ของการครอบครองอสังหาฯ

“การเป็นเจ้าของบ้านหรู ไม่ใช่แค่ถือครองสินทรัพย์ แต่คือการออกแบบชีวิตในแบบของตนเอง”  คือแนวคิด Life Curated ที่การ์เด้น แอทลาสนำมาใช้ในการพัฒนา GARDEN ATLAS BAYVIEW

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือ Hybrid Billionaire นักธุรกิจและนักลงทุนผู้มองเห็นโอกาสจากการครอบครองสินทรัพย์ที่เติบโตได้ทั้ง “คุณค่าและมูลค่า” โดยคาดว่าวิลล่าในโครงการสามารถปล่อยเช่าได้คืนละ 1,650–4,200 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว

ตลาดวิลล่าหรูภูเก็ตโตต่อเนื่อง

ข้อมูลจาก CBRE ประเทศไทย ระบุว่า ตลาดวิลล่าหรูภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า และกว่า 76% ของซัพพลายระดับ 90 ล้านบาทขึ้นไปถูกขายแล้ว โดย ทำเลชายฝั่งตะวันออก ทำยอดขายสูงสุดถึง 92.8% สะท้อนความต้องการของนักลงทุนระดับบนที่มองหาความเป็นส่วนตัว วิวทะเล และผลตอบแทนระยะยาว

ลูกค้าส่วนใหญ่ 68% ซื้อเพื่อการลงทุน ขณะที่ 31% ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง มีทั้งไทย 57% และต่างชาติ 43% จากยุโรป อเมริกา และเอเชีย เช่น อังกฤษ ฮ่องกง และสหรัฐฯ

จาก Trendsetter สู่ Global Residences Brand

ต่อศักดิ์ทิ้งท้ายว่า การ์เด้น แอทลาส ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาฯ แต่คือ “Trendsetter” ผู้สร้างทิศทางตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังเคยปั้นตลาดวิลล่าระดับ 1 ล้านดอลลาร์ จนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภูเก็ต วันนี้จึงก้าวข้ามขีดจำกัดอีกครั้ง ด้วยเป้าหมายผลักดันแบรนด์ GARDEN ATLAS สู่ Global Residences Brand เจาะตลาดบ้านหรูระดับ 5 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก

“อ่าวมะขาม แหลมพันวา จะไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตระดับโลก Monaco of Asia แห่งใหม่ของภูเก็ต”

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


“พลัสฯ” ขยับเร็ว ตั้งทีมเฉพาะกิจเฝ้าระวังน้ำรอบโครงการ

พลัสฯ เปิดแผนบริหารความเสี่ยงเชิงรุก จัดทีมเฉพาะกิจ ERT ตรวจตรา–เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความปลอดภัยและอุ่นใจให้ลูกบ้าน

นฤมล อาภรณ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เผยว่า จากสถานการณ์น้ำเหนือหลากและระดับน้ำหนุนที่เพิ่มสูงในช่วงปลายปี ประกอบกับฝนที่ตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ซึ่งภาครัฐได้ออกประกาศเตือนให้ชุมชนริมแม่น้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารอาคารและที่อยู่อาศัยครบวงจร ได้เปิดแผนปฏิบัติการเชิงรุกทันที

โดยจัดตั้งทีม ERT (Emergency Response Team) เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินทุกประเภท โดยเฉพาะภัยน้ำท่วม ซึ่งในครั้งนี้ได้ระดมทีมเร่งด่วนเฉพาะกิจลงพื้นที่สำรวจและติดตามระดับน้ำในโครงการอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมมาตรการป้องกันเต็มรูปแบบ ทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และระบบสื่อสาร

โฟกัสพื้นที่เสี่ยง–โครงการใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา

ขอบเขตการเฝ้าระวังของพลัสฯ ครอบคลุม โครงการที่ตั้งอยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรจากแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ที่ภาครัฐประกาศให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษทั้งโครงการแนวราบและแนวสูงอยู่ภายใต้แผนรับมือครบถ้วน โดยแต่ละพื้นที่ได้มีการตรวจสอบระบบระบายน้ำ 100% พร้อมจัดเตรียมกระสอบทราย เครื่องสูบน้ำ และทีมประจำหน้างาน เพื่อรับมือสถานการณ์ได้ทันเวลา ขณะที่โครงการที่มีความเสี่ยงสูง มีการวัดระดับน้ำทุกวัน และรายงานผลให้ลูกบ้านทราบผ่านช่องทางสื่อสารของโครงการ

แผนรับมือของบริษัทมุ่งเน้นการดำเนินการเชิงรุก (Proactive Management) ทันทีที่ได้รับสัญญาณแจ้งเตือน ได้มีการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้น 5 ทีมหลัก ได้แก่

  • Monitoring Team – ติดตามข้อมูลข่าวสารและระดับน้ำแบบเรียลไทม์
  • Property Management Team – ดูแลและควบคุมการปฏิบัติงานในแต่ละโครงการ
  • Data Centre – รวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และแจ้งเตือนลูกบ้าน
  • Plus Concierge – ประสานบริการช่วยเหลือลูกบ้านเพิ่มเติม
  • Crisis Communications Team – สื่อสารข้อมูลสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อคลายความกังวล

ทุกทีมจะทำงานร่วมกันภายใต้ระบบสื่อสารแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ลูกบ้านได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสถานการณ์

ระบบป้องกันครบวงจร ตรวจบ่อพักน้ำ–ปั๊มน้ำทุกจุด

พลัสฯ ยังเดินหน้าตรวจสอบระบบระบายน้ำภายในทุกโครงการ ตั้งแต่การลอกท่อ กำจัดเศษขยะและสิ่งกีดขวาง ไปจนถึงการทดสอบการทำงานของบ่อพักน้ำ ปั๊มน้ำ และประตูระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสำหรับโครงการในพื้นที่เสี่ยงสูง มีการเตรียม “ปั๊มพญานาค” และ ปั๊มแบบ Mobile เพื่อเร่งระบายน้ำออกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการจัดวางแนวกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย เพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย

พลัสฯ ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานให้ความช่วยเหลือหากโครงการหรือชุมชนใกล้เคียงได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของการอยู่อาศัย และสะท้อนบทบาทของผู้บริหารอสังหาฯ ที่ให้ความสำคัญกับ “การอยู่ร่วมกับชุมชน” อย่างแท้จริง

ลูกบ้านสามารถติดตามข่าวสารและรายงานสถานการณ์น้ำได้แบบเรียลไทม์ผ่านSansiri Home App สำหรับลูกบ้านโครงการแสนสิริ และLiving Plus App สำหรับลูกบ้านพลัสฯหรือผ่านบอร์ดประชาสัมพันธ์ภายในโครงการ

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 12พ.ย.“ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ระดับ 32.39 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังไม่รีบปรับสถานะถือครองที่ชัดเจน สำหรับ 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ตลาดรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของBOE,ECB ,FED และ พัฒนาการของการเมืองสหรัฐ หลังภาวะ Shutdown อาจยุติลงได้ในเร็ววันนี้

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 12พ.ย.2568 ที่ระดับ  32.39 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงประเมินว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยโซนแนวต้านยังคงอยู่แถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่โซนแนวรับยังอยู่แถว 32.30 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะยังไม่รีบปรับสถานะถือครองที่ชัดเจน หลังภาวะ US Government Shutdown มีแนวโน้มจะยุติลงภายในสัปดาห์นี้ ทำให้ ผู้เล่นในตลาดจะทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากทางการสหรัฐฯ ได้

โดยหลังจากที่หน่วยงานทางการของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาทำงานตามปกติ เรามองว่า ภายใน 2 วัน อาจจะสามารถทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ จากทาง BLS อย่าง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เดือนกันยายน ส่วนในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ก็อาจทยอยรับรู้ ยอดการจ้างงานฯ ในเดือนตุลาคม ได้

รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ทำให้ เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงหลังภาวะ US Government Shutdown สิ้นสุดลง ผู้เล่นในตลาดจะเผชิญกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

หรือ Data Bombardment ซึ่งอาจทำให้ตลาดการเงินผันผวนสูงขึ้นได้ไม่ยาก และควรระมัดระวังความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงนี้ ประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา กลับมาร้อนแรงขึ้น ก็อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินไทยในระยะสั้นได้ ซึ่งอาจเป็นภาพที่กดดันตลาดการเงินไทยและกดดันเงินบาทได้บ้าง

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเงินบาทนั้น เราพบว่า หากตลาดกลับมาเชื่อมั่นในแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ย และบรรยากาศในตลาดการเงินอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว หรือ ปิดรับความเสี่ยง ผู้เล่นในตลาดอาจเลือกที่จะถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึง เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) มากกว่าจะถือครองเงินดอลลาร์ หนุนให้ เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง หรืออย่างน้อยก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้

และเนื่องจาก ความผันผวนของเงินบาทได้กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลาง ความไม่แน่นอนของการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด รวมถึงบรรดาธนาคารกลางหลักต่างๆ ประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ที่ต้องจับตาทั้งสถานการณ์ Government Shutdown และ

การพิจารณาคดีมาตรการภาษีนำเข้าโดยศาลสูงสุด (Supreme Court) ทำให้เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options หรือพิจารณาใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currencies) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน (แกว่งตัวในกรอบ 32.36-32.47 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะเคลื่อนไหวผันผวนตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์และราคาทองคำ

โดยเงินดอลลาร์มีจังหวะทยอยอ่อนค่าลง หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ หลังรายงานข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนรายสัปดาห์ โดย ADP

สะท้อนว่า ภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดการจ้างงาน 11,250 ราย ต่อสัปดาห์ โดยเฉลี่ย ในช่วง 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาประเมินว่า ภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง เพิ่มโอกาสการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟดได้ (ตลาดให้โอกาสราว 68% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ และราว 72% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปี 2026)

อย่างไรก็ดี การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็ถูกชะลอลง และเงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ

ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ก็ทยอยรีบาวด์สูงขึ้นบ้าง จากความหวังของผู้เล่นในตลาดว่า ภาวะ US Government Shutdown อาจสิ้นสุดลงได้ในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่กลับมาร้อนแรงขึ้น ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลง หลังราคาทองคำทยอยรีบาวด์สูงขึ้น ตามภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ 

บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม แม้ในภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะพอได้แรงหนุนจากความหวังว่า ภาวะ US Government Shutdown อาจสิ้นสุดลงได้ภายในสัปดาห์นี้

ทว่า แรงขายหุ้นธีม AI/Semiconductor ยังคงมีอยู่ อาทิ Nvidia -3.0% ส่งผลให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.21% ส่วนดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq พลิกกลับมาย่อลง -0.25%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +1.28% หนุนโดยความหวังว่า ภาวะ US Government Shutdown อาจสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้

นอกจากนี้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงเพิ่มเติม ก็หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีโอกาสราว 85% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม นี้ ส่งผลดีต่อบรรดาหุ้นในตลาดอังกฤษ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Healthcare อย่าง AstraZeneca +2.6%

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 4.08% ตามการทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด จากรายงานข้อมูลการจ้างงานรายสัปดาห์ของ ADP ที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานชะลอตัวลงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดยังไม่รีบปรับสถานะถือครองและไล่ราคาซื้อบอนด์ระยะยาวมากนัก เพื่อรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากทางการสหรัฐฯ หลัง ภาวะ US Government Shutdown อาจสิ้นสุดลงได้ในเร็ววันนี้

อีกทั้งยังมีประเด็นการพิจารณาคดีมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยศาลสูงสุด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มฐานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้

ทำให้ เราประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจเคลื่อนไหวผันผวนได้ในช่วงนี้ ตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ภาวะตลาดการเงินโดยรวม และประเด็นการพิจารณาคดีมาตรการภาษีนำเข้า

 อย่างไรก็ตาม หากบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ สามารถปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ เราก็ยังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ (เน้นกลยุทธ์ Buy on Dip) ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง ตามรายงานข้อมูลการจ้างงานรายสัปดาห์ โดย ADP ล่าสุด ที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากขึ้น ทว่า เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนบ้างจากภาวะระมัดระวังตัวของตลาดการเงินโดยรวม

อีกทั้งผู้เล่นในตลาดยังไม่รีบปรับสถานะถือครอง จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากทางการสหรัฐฯ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อตัวลงบ้าง สู่โซน 99.5 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 99.2-99.7 จุด) 

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าราคาทองคำจะเผชิญแรงกดดันบ้าง ตามความหวังภาวะ US Government Shutdown อาจสิ้นสุดลงภายในสัปดาห์นี้ และแรงขายทำกำไรของผู้เล่นในตลาดบางส่วน ทว่า ภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด และ

มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หลังรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดย ADP ล่าสุด สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ยังคงชะลอตัวลงมากขึ้น ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) สามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นเข้าใกล้โซน 4,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง 

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางหลักดังกล่าว

โดยผู้เล่นในตลาดอาจให้ความสนใจกับ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุด ยังคงสะท้อนภาพตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงชัดเจนมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังมีความคาดหวังต่อแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมของเฟด

และนอกเหนือจากประเด็นดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน รวมถึง พัฒนาการของสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ หลังภาวะ Government Shutdown ที่ยืดเยื้ออาจยุติลงได้ในเร็ววันนี้

และเริ่มมีการไต่สวนคดีมาตรการภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยศาลสูงสุด (Supreme Court) นอกจากนี้ ควรติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินไทยในระยะสั้นบ้าง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าค่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.40-32.42 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.20 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่มี Bias ในด้านอ่อนค่าตามสัญญาณขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังคงได้รับอานิสงส์จากความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์หน่วยงานราชการสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินไว้ที่ 32.30-32.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์การชัตดาวน์ของสหรัฐฯ    

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ทำความรู้จัก “น้ำตาล วิลาสินี” นักฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทยดีกรีไม่ธรรมดา

เชื่อว่าชื่อของ “น้องน้ำตาล” วิลาสินี รัตนนัย นักไอซ์ฮอกกี้สาวทีมชาติไทย คงเป็นที่คุ้นหูของแฟนๆ กีฬาชาวไทยเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความน่ารักบวกด้วยรูปร่างที่ดูสะดุดตาทำให้กลายเป็นที่สนใจของใครหลายคน

โดย “น้องน้ำตาล วิลาสินี” สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมลบคำสบประมาทได้อย่างหมดจดกับคำว่า “มีดีแค่สวย” เพราะเธอคือหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ต่างๆ ให้กับประเทศ

แต่กว่าชีวิตจะมาถึงวันนี้ เธอต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ใครหลายคนคิด วันหนึ่งเธอมีเงินติดตัวเพียง 700 บาท แล้วตัดสินใจออกจากบ้านเกิดที่จังหวัดพะเยา เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มุ่งหาความฝันและโอกาสในชีวิต

น้ำตาล วิลาสินี เริ่มต้นเส้นทางบนลานน้ำแข็งจากกีฬาสปีดสเก็ตติ้ง ก่อนจะค้นพบความหลงใหลใหม่ใน “ฮอกกี้น้ำแข็ง” และพัฒนาฝีมือจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกองหน้าทีมชาติไทยในปัจจุบัน
ทุกวันนี้

นอกจากบทบาทในสนาม น้ำตาล วิลาสินี ยังถ่ายทอดความรู้ และแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ในฐานะโค้ชสอนสเก็ตน้ำแข็ง รวมถึงผันตัวเป็นโค้ชให้กับทีมกีฬาคนพิการไอซ์ฮอกกี้

ประวัติ วิลาสินี รัตนนัย นักไอซ์ฮอกกี้สาวทีมชาติไทย

  • ชื่อ: วิลาสินี รัตนนัย (น้ำตาล)
  • เกิด: 20 พ.ย.2538
  • อายุ: 29 ปี
  • การศึกษา: โรงเรียนพะเยาพิทยาคม  

เกียรติประวัติ

  • รองแชมป์ ฮอกกี้น้ำแข็งหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ดิวิชัน 3 กลุ่มเอ
  • แชมป์ ฮอกกี้น้ำแข็งหญิงชิงแชมป์โลก 2024 ดิวิชัน 3 กลุ่มบี
  • แชมป์ ไอไอเอชเอฟ ไอซ์ฮอกกี้ วูเม่น ชาลเลนจ์ คัพ ออฟ เอเชีย 2019

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ส่อง 6 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ชายวัย 40 ความดันโลหิตพุ่งสูงไม่รู้ตัว

เช็กด่วน! 6 พฤติกรรมเสี่ยง “ความดันโลหิตสูง” ในผู้ชายวัย 40 ที่ไม่ควรละเลย

เมื่อเข้าสู่วัย 40 คุณผู้ชายหลายคนอาจเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่ทำงานไม่เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน ซึ่งเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ ความดันโลหิตสูง เพราะถือว่าเป็นภัยเงียบที่มักไม่มีอาการแสดงออกอย่างชัดเจน เราจึงจะของชวนคุณผู้ชายมาสำรวจ 6 พฤติกรรมเสี่ยงใกล้ตัวที่อาจทำให้ความดันโลหิตของคุณพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพื่อให้คุณสามารถป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธีกัน!

6 พฤติกรรมเสี่ยง “ความดันโลหิตสูง”

1.ชอบอาหารรสจัด 

อาหารรสจัด โดยเฉพาะรสเค็มที่มีปริมาณโซเดียมสูง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น โซเดียมจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาตรเลือดในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น และเกิดแรงดันต่อผนังหลอดเลือดมากขึ้นตามไปด้วย  นอกจากนี้ อาหารที่มีรสหวานจัดหรือมีไขมันสูงก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงโดยตรงของโรคความดันโลหิตสูง 

2.ขาดการออกกำลังกาย

ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ คุณผู้ชายหลายคนอาจใช้เวลาไปกับการทำงานจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย การใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ  (Sedentary Lifestyle) ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง ไขมันจึงสะสมในร่างกายมากขึ้น และทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความดันสูงในผู้ชายวัย 40 การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพียง 30 นาทีต่อวัน เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้หัวใจแข็งแรง หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น และควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้

3.ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป จะส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและหลอดเลือดแข็งตัว ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นในระยะยาว  นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยิ่งเป็นอันตราย เพราะสารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดหดตัว หัวใจเต้นเร็วขึ้น และเพิ่มแรงดันโลหิตอย่างเฉียบพลัน การเลิกพฤติกรรมทั้ง 2 อย่างนี้ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี

4.ความเครียดสะสม

ความเครียดจากการทำงานหรือเรื่องส่วนตัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในวัยนี้ เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรีนาลีนจะถูกหลั่งออกมา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและหลอดเลือดหดตัวชั่วคราว หากความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ร่างกายจะอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

5.นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงพอหรือไม่ดีพอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่หลายคนมองข้าม เมื่อเรานอนหลับ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด หากนอนหลับไม่เพียงพอ ฮอร์โมนเหล่านี้จะทำงานผิดปกติ ทำให้ความดันโลหิตในเวลากลางคืนสูงขึ้นและส่งผลต่อเนื่องไปถึงตอนกลางวันได้ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ดีขึ้น

6.ไม่เคยตรวจสุขภาพ

หลายคนคิดว่าตัวเองยังแข็งแรงดี จึงละเลยการตรวจสุขภาพประจำปี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความดันสูงในผู้ชายวัย 40 อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการเตือน การตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ จึงจะช่วยให้คุณรู้ค่าความดันของตัวเอง หากพบว่ามีความผิดปกติก็สามารถเริ่มดูแลตัวเองและเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้าม

ความดันสูงในผู้ชายวัย 40 เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คุณสามารถป้องกันและควบคุมได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น ลดเค็ม ออกกำลังกาย ลดละเลิกแอลกอฮอล์และบุหรี่ การจัดการความเครียด และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรงในระยะยาวอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รู้เท่าทันเศรษฐกิจ (สีเทา) ดิจิทัล?

ปัจจุบันประเทศไทยถูกห้อมล้อมไปด้วยเครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทาถึง 2 ด้านด้วยกัน คือทั้งทางด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออก

ทั้งนี้ปรากฏว่า เครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ยังได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 เป็นต้นมาด้วย

อ้างอิงจากรายงานข่าวของต่างประเทศที่พบว่า เจ้าหน้าที่ของประเทศจีนได้เริ่มติดตามสอบสวนการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่ม Prince Holding Group ในกัมพูชาที่ถูกสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมฟอกเงินและอาชญากรรมสแกมเมอร์ (cyber scams) มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2020 ก่อนที่จะมีรายงานข่าวของกระทรวงการคลังสหรัฐว่า 

มีการประมาณการมูลค่ารวมของเงินที่คนอเมริกันถูกหลอกลวงจากอาชญากรรมไซเบอร์ในปี ค.ศ. 2024 ที่สูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเหล่าสแกมเมอร์ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นความเสียหายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 2023

ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้มักทำการหลอกขโมยเงินจากเหยื่อผ่านบัญชีม้าเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่จะรีบถอนโอนเงินออกนอกประเทศโดยแปลงเป็นเงิน stablecoins อย่างเช่น USDT หรือ USDC เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีข้อน่าสังเกตที่น่าสนใจว่า เงินจำนวนมากที่เครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์ได้จากการล่อลวงเหยื่อ ก่อนจะแปลงเป็นเงิน USDT หรือ USDC ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเครือข่ายมิจฉาชีพและอาชญากรรมสแกมเมอร์ในช่วง ค.ศ. 2020-2024 แล้วนั้น

มันยังบังเอิญมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตลาดของ stablecoins อย่าง USDT และ USDC ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย (ดูรูปที่ 1) การขยายตัวของแหล่งสแกมเมอร์ในภูมิภาคนี้ จึงขยายตัวตามมูลค่าตลาดของ stablecoins ทั้งระบบด้วย

ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการจะตัดเส้นเลือดใหญ่ของเครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์อย่างถอนรากถอนโคนแล้ว รัฐบาลคงหนีไม่พ้นที่จะต้องดำเนินมาตรการต่อไปนี้อย่างจริงจัง เพื่อจะสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์ให้ได้ผลต่อไป ซึ่งได้แก่

มาตรการแรก ประเทศไทยควรต้องเตรียมเรื่องการออกกฎหมายเฉพาะด้านเพื่อรับมือกับนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่อย่างเช่น stablecoins และอื่น ๆ ทั้งนี้เพื่อที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะได้สามารถกำกับดูแลธุรกรรมผ่านช่องทาง stablecoins ให้เกิดผลได้จริงมากขึ้น 

ทั้งนี้ ก.ล.ต. อาจจะเริ่มต้นด้วยการติดตามและศึกษาจากกฎหมาย GEINUS Act (Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins Act) ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ก.ล.ต. อาจประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น Securities and Exchange Commission (SEC) เพื่อช่วยแนะนำเรื่องของการรับมือกับนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่

มาตรการที่สอง ประเทศไทยควรใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ทำการยึดทรัพย์สินและจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพในเครือข่ายอาชญากรรมสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทาอื่น ๆ ให้ได้ผลมากขึ้น 

ตัวอย่างเช่น ที่สหรัฐอเมริกาได้ทำการยึด bitcoin ที่มีมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนายเฉินจื้อ (Chen Zhi) ซึ่งเป็นประธานและผู้บริหารของ Prince Holding Group

ในขณะที่ประเทศอังกฤษก็ได้ทำการยึดคฤหาสน์ของนายเฉินจื้อที่มีมูลค่า 12 ล้านปอนด์ และอาคารสำนักงานอีกราว 100 ล้านปอนด์ ไต้หวันได้ยึดทรัพย์คิดเป็นมูลค่า 114 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับเรือยอชต์อีก 1 ลำและอื่น ๆ

ฮ่องกงได้ประกาศยึดทรัพย์ที่เป็นทั้งเงินสดและหุ้นที่มีมูลค่า 353 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประเทศสิงคโปร์ก็ได้ยึดทรัพย์ของเครือข่ายกลุ่มนี้คิดเป็นเงินรวม 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น

ข้อดีของความร่วมมือกันระหว่างประเทศคือการสามารถร่วมกันยึดทรัพย์สินของนายเฉินจื้อและพรรคพวกในเครือข่ายที่พยายามกระจายทรัพย์สินไปแฝงตัวอยู่ในหลาย ๆ ประเทศได้มากขึ้นนั่นเอง

มาตรการที่สาม ต้องมุ่งกำจัดเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตต่อหน้าที่ในแต่ละสายงานที่เห็นแก่อามิสสินจ้างที่ได้จากนายทุนสีเทา

อย่างไรก็ตาม ระบบกระบวนการยุติธรรมปกติที่แม้จะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาก็ตาม แต่ก็มักต้องใช้เวลานานกว่าจะได้ผลสรุปที่ชัดเจน หรืออาจจะถูกแทรกแซงบิดเบือนจากการใช้อำนาจหน้าที่อย่างไม่ถูกต้องของบรรดาผู้ที่ทุจริตด้วย

ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้กฎหมายสำคัญอื่น ๆ  อย่างเช่น กฎหมายภาษี เข้ามาร่วมใช้กับการรายงานบัญชีทรัพย์สินเพื่อใช้เล่นงานผู้บริหารที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ด้วยข้อหาที่ไม่รายงานรายได้พึงประเมินให้ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง เนื่องจากผู้ทุจริตจะไม่สามารถรายงานรายได้ในส่วนที่ได้มาโดยทุจริตได้ 

การใช้กฎหมายภาษีเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตต่อหน้าที่นี้ก็จะมีข้อดีในแง่ที่ว่า จะสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ใช้เวลาไม่มาก และมีต้นทุนในการดำเนินการที่ค่อนข้างต่ำด้วย

โดยสรุปแล้ว การรับมือให้เท่าทันกับการขยายตัวของปัญหาสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทานั้น เราจำเป็นต้องดำเนินการให้ได้อย่างน้อย 2 ใน 3 ด้านหลักตามที่ได้กล่าวไปแล้วคือ ด้านความพร้อมในเรื่องกฎหมายเฉพาะทางเพื่อรับมือกับนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่

ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อทำการยึดทรัพย์สินของเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมาย และด้านการใช้กฎหมายภาษีมาเป็นเครื่องมือเสริมในการลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตต่อหน้าที่ให้เหลือน้อยลง เช่นนี้แล้ว ไทยก็จะสามารถรับมือกับธุรกิจสีเทาและสแกมเมอร์ได้อย่างเท่าทันต่อไป.

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


TOEIC WORD FAMILIES “General Business: Warranties”

เรียนภาษาอังกฤษ คำศัพท์โทอิค TOEIC ที่จำเป็นสำหรับการสอบ

คำศัพท์ TOEIC ที่จำเป็นในการสอบ

TOEIC Word Families “General Business: Warranties”

Characteristic / Characterize / Characteristically

• Characteristic (adj.)

revealing of individual traits; n., an individual trait
One characteristic of the new Lexus is its computerized seat settings.

• Characterize (v.)

somebody / something to be typical of a person, place or thing
This line is characterized by its bold flavor and spicy aftertaste.

• Characteristically (adv.)

in a way that is very typical of something or of somebody’s character
Characteristically, she accused middle-level management of the accounting error.

Consider / Consideration / Considerable

• Consider (v.)

v., to think about carefully
You should consider carefully whether a product will meet your needs.

• Consideration(n.)

the act of thinking carefully about something
After long consideration, Heloise decided that the five-year warranty would be sufficient.

• Considerable (adj.)

fairly large, especially large enough to have an effect or be important
The fee for the extra year of protection was a considerable expense.

Protect / Protection / Protective

• Protect (v.)

to guard
Juan protected the warranty by taking excellent care of his lawn mower.

• Protection (n.)

the condition or state of being kept safe from injury, damage, or loss:
For your own protection, you should have a warranty that provides for a replacement product.

• Protective (adj.)

able to keep someone or something safe from injury or damage
Alfredo is very protective of the condition of his car and gets all the preventive maintenance his warranty requires.

Reputation / Reputable / Reputed

• Reputation (n.)

the general opinion that people have about someone or something
The good reputation of the manufacturer inspired Maria Jose to try the new product.

• Reputable (adj.)

having a good reputation and able to be trusted
Because the company had a reputable name, I did not spend sufficient time reading the details of the warranty.

• Reputed (adj.)

famous and with a good reputation
The new store is reputed to carry items that are not of the highest quality.

Require / Requirement / Requisite

• Require (v.)

to need something or make something necessary
The warranty requires that you send the watch to an approved repair shop to have it fixed.

• Requirement (n.)

something that you must do, or something you need
The terms of the warranty divulge the legal requirement the manufacturer has to the consumer.

• Requisite (adj.)

necessary or needed for a particular purpose
The warranty spelled out the requisite steps to take to request a replacement product.

ขอบคุณข้อมูลจาก edufirstschool.com


6 สูตรน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชายที่ไม่ชอบกินผัก

6 สูตรน้ำผักผลไม้ปั่น อร่อย ดื่มง่าย สำหรับคุณผู้ชายที่ไม่ชอบกินผัก

คุณผู้ชายหลายคนอาจไม่ถนัดเรื่องการกินผัก แต่รู้หรือไม่ว่าการละเลยผักผลไม้ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ทั้งภูมิคุ้มกันต่ำ ผิวพรรณไม่สดใส หรือแม้แต่พลังงานที่ลดลง วันนี้เราจึงขอเสนอ 6 สูตรน้ำผักผลไม้ปั่นที่อร่อย ดื่มง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารครบครัน รับรองว่าคุณผู้ชายจะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ โดยไม่ต้องฝืนใจกินผักเลย!

1. สูตรเขียวสดชื่น

สูตรนี้เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการเพิ่มพลังงานและความสดชื่นในตอนเช้า รวมถึงช่วยบำรุงสายตาที่ต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ผักโขมอุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเค และสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะที่แอปเปิลเขียวมีวิตามินซีและใยอาหาร

ส่วนผสมสูตรเขียวสดชื่น

  • ผักโขม 1 กำมือ (ประมาณ 1 ถ้วยตวง)
  • แอปเปิลเขียว 1/2 ลูก
  • สับปะรด 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)
  • ขิงสดหั่นแว่นเล็กน้อย (ไม่ใส่ก็ได้)

สับปะรดช่วยย่อยอาหาร น้ำมะพร้าวเติมความสดชื่นและเกลือแร่ ขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้และเพิ่มความสดชื่น หากไม่ชอบรสผักโขมมากนัก สามารถลดปริมาณลง หรือเพิ่มสัดส่วนผลไม้ให้มากขึ้นได้

2. สูตรแดงอมชมพู

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส และดูแลสุขภาพหัวใจ สูตรนี้ตอบโจทย์อย่างยิ่ง แครอทและบีทรูทอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ

ส่วนผสมสูตรแดงอมชมพู

  • แครอท 1 หัวเล็ก
  • บีทรูท 1/4 หัว
  • มะเขือเทศเชอร์รี่ 5-6 ลูก
  • แอปเปิลแดง 1/2 ลูก
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง

มะเขือเทศมีไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม แอปเปิลแดงช่วยเพิ่มความหวานและใยอาหาร ซึ่งบีทรูทมีกลิ่นเฉพาะตัว หากไม่ชอบสามารถใส่ในปริมาณน้อยก่อน หรือเพิ่มแอปเปิลเพื่อกลบรสชาติได้

3. สูตรส้มซ่าได้ประโยชน์

ดื่มสูตรนี้เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคหวัด ฟักทองอุดมด้วยวิตามินเอและใยอาหาร ส่วนส้มและเสาวรสมีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ

ส่วนผสมสูตรส้มซ่าได้ประโยชน์

  • ฟักทองนึ่ง 1/2 ถ้วยตวง
  • ส้ม 1 ลูก (ปอกเปลือก เอาเม็ดออก)
  • เสาวรส 1 ลูก (เฉพาะเนื้อและน้ำ)
  • นมสดจืด หรือนมอัลมอนด์ 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำผึ้งเล็กน้อย (ตามชอบ)

คุณสามารถต้มหรือนึ่งฟักทองเตรียมไว้ล่วงหน้า แล้วนำมาแช่เย็นสำหรับปั่นได้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำ น้ำผักผลไม้ปั่น สูตรนี้

4. สูตรม่วงทรงพลัง

หากคุณผู้ชายต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะเรื่องการชะลอวัยและบำรุงสมอง สูตรนี้เป็นตัวเลือกที่ดี กะหล่ำปลีม่วง บลูเบอร์รี่ และองุ่นแดง อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง

ส่วนผสมสูตรม่วงทรงพลัง

  • กะหล่ำปลีม่วง 1/4 หัวเล็ก
  • บลูเบอร์รี่ 1/2 ถ้วยตวง (แช่แข็งได้)
  • องุ่นแดงไร้เมล็ด 1/2 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วยตวง

สารแอนโทไซยานินช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และบำรุงสมอง เพื่อรสชาติที่อร่อยและดื่มง่าย ควรเลือกบลูเบอร์รี่และองุ่นที่หวานฉ่ำ

5. สูตรขาวละมุน

สูตรนี้ช่วยทำความสะอาดลำไส้และขับสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และรู้สึกโล่งสบาย ขึ้นฉ่ายและแตงกวามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำ ส่วนลูกแพร์มีใยอาหารสูงช่วยระบบขับถ่าย

ส่วนผสมสูตรขาวละมุน

  • ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (Celery) 1 ก้าน
  • แตงกวา 1/2 ลูก
  • ลูกแพร์ 1/2 ลูก
  • ขิงสดหั่นแว่นบาง ๆ 2-3 แว่น
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง

ขิงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด น้ำมะนาวเพิ่มวิตามินซีและความสดชื่น ดื่มสูตร น้ำผักผลไม้ปั่น นี้ในตอนเช้าขณะท้องว่าง จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้ดี

6. สูตรโปรตีนซ่อนผัก

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนและอยากได้ประโยชน์จากผักไปพร้อมกัน สูตรนี้เป็นทางเลือกที่ลงตัว ผักเคลหรือคะน้าอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ กล้วยหอมให้พลังงานและโพแทสเซียม

ส่วนผสมสูตรโปรตีนซ่อนผัก

  • ผักเคล หรือผักคะน้า 1/2 ถ้วยตวง
  • กล้วยหอม 1 ลูก
  • ผงโปรตีน (รสวนิลา หรือช็อกโกแลต) 1 สกู๊ป
  • นมสดจืด หรือนมอัลมอนด์ 1 ถ้วยตวง
  • เมล็ดเจีย หรือแฟลกซ์ซีด 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)

ผงโปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เมล็ดเจียหรือเมล็ดแฟลกซ์ซีด ให้ใยอาหารและโอเมก้า 3 หากไม่ชอบรสผักเคลมากนัก สามารถใช้ผักโขมแทนได้ หรือใส่ในปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่ม

การดื่มน้ำผักผลไม้ปั่นเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสุขภาพ

การดูแลสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ด้วย น้ำผักผลไม้ปั่น เหล่านี้เป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับคุณผู้ชายที่ไม่ชอบกินผัก เพียงแค่ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อย ก็สามารถสร้างสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างง่ายดาย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/11/2568

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a63,150.0063,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5%4,082.0061,883.1264,050.00
ทองรูปพรรณ 90%3,673.8055,694.81n/a
ทองรูปพรรณ 80%3,265.6049,506.50n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,836.9027,847.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%1,428.7021,659.09n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%4,230.0564,127.56n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 12/11/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9531.8531.8532.3531.8531.8531.8531.8531.8531.85
แก๊สโซฮอล์ 9131.4831.4831.9831.4831.4831.4831.4831.4831.48
แก๊สโซฮอล์ E2029.6429.6430.1429.6429.6429.6429.6429.64
แก๊สโซฮอล์ E8527.5927.5927.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม40.0449.5449.8440.04
เบนซิน 9540.1449.5140.6440.2940.14
ดีเซล30.9430.9430.9430.9430.9430.9430.9430.9430.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.4445.6449.8445.6443.44
แก๊ส NGV18.5518.5518.55
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า