สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2560

สภาวิศวกร-สถาปนิกตั้งกรรมการ 4 ฝ่ายอบรมเทคนิควิศวกรจีนสร้างรถไฟเร็วสูงกทม.-โคราช

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร เปิดเผยว่า คำสั่งมาตรา 44 การเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้ยกเว้นการขอใบอนุญาตประเภทบุคคลธรรมดา (ระดับภาคีพิเศษ) หรือนิติบุคคลของจีนจากสภาวิศวกร ในงานออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน งานที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง และงานระบบราง ระบบไฟฟ้า เครื่องกลและงานจัดหาขบวนรถไฟ แต่งานก่อสร้างยังต้องได้รับใบอนุญาต และจัดให้มีการอบรมและทดสอบกับบุคลากรของจีน

สำหรับการอบรมและทดสอบทางสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจะตั้งคณะกรรมการร่วม 4 ฝ่าย (สภาวิศวกร, สภาสถาปนิก, คมนาคม, ผู้แทนจีน) เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการอบรมทางเทคนิค ได้แก่ สภาพภูมิศาสตร์ โครงสร้างชั้นดิน และกฎหมาย, ความปลอดภัยและจริยธรรม

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือกับจีนที่จะเดินทางมาในวันที่ 21-30 มิ.ย.60 ในเรื่องความรู้เฉพาะของงาน โดยหลังผ่านการฝึกอบรมและทดสอบ ทั้ง 2 สภาจะให้ใบรับรองแก่บุคลากรของจีนภายใน 120 วัน เนื่องจากในมาตรา 44 ไม่ได้ยกเว้นมาตรา 8 รับรองความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิศวกร พ.ศ.2542 เพื่อให้เริ่มงานได้

“ใบรับรองที่ออกจะระบุโครงการและระยะเวลา เพื่อไม่ให้ใช้ใบรับรองกับโครงการอื่นๆ ทั้งนี้หากบุคลากรของจีนทำผิดก็ดำเนินการตามกฎหมายไทยทั้งคดีแพ่งและอาญาเพราะใน ม.44ไม่ได้ยกเว้นให้” ศ.ดร.อมรกล่าวและว่า

นอกจากนี้ทั้ง 2 สภายังได้เสนอให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทยให้เป็นรูปธรรมด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการ กำหนดสัดส่วนวิศวกรไทยร่วมงานในโครงการ ให้วิศวกรไทยประกบทำงานกับจีนในตำแหน่งที่สำคัญและมีองค์กรที่มีกาวิจัยต่อยอดความรู้

ส่วนสภาสถาปนิกให้ความรู้เกี่ยวกับ สถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมของไทยด้วย

ที่มา prachachat.net


อนาคตอสังหาฯ “ขอนแก่น” โตอู้ฟู่เด้งรับเมกะโปรเจกต์รัฐ

อนาคตอสังหาฯ “ขอนแก่น” โตอู้ฟู่เด้งรับเมกะโปรเจกต์รัฐ

อานิสงส์เมกะโปรเจกต์รัฐ ทั้งรถไฟรางคู่จิระ – ขอนแก่น ตามแผนจะสร้างเสร็จในปี’62 เป็นการสร้างเพื่อรองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือให้มีประสิทธิภาพและรวมถึงการขยายสนามบินขอนแก่น สร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ลานจอด อาคารจอดรถ เพื่อยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติ รองรับนักท่องเที่ยว รวมถึงโครงการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าระบบรางเบา (LRT) ที่จะเปิดใช้บริการในปี’ 63

ขณะเดียวกัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐที่มีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งทางบกและทางอากาศ ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่ เส้นทางช่วงชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร ปัจจุบัน งานก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 22% ถือว่าเร็วกว่าแผนงาน 0.47% เพื่อให้การก่อสร้างรวดเร็วเสร็จทันตามกำหนดภายในปี 2561-2562

ซึ่งความคาดหวังหลังโครงการรถไฟรางคู่สร้างเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว จะสามารถเปลี่ยนการขนส่งทางถนนไปสู่รางมากขึ้น โดยมีผู้โดยสารใช้บริการ 27,200-38,800 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 37,000-55,000 คนต่อวัน ขณะที่ปริมาณขนส่งสินค้าที่ผ่านเส้นทางประมาณ 10,900-11,300 ตันต่อวันจะเพิ่มขึ้นเป็น 36,400 ตันต่อวัน ภายในปี 2577 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางและขนส่งสินค้า รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ของประเทศ สามารถรองรับการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังมีแผนเร่งขยายสนามบินขอนแก่นให้เร็วขึ้นภายในปี 2561 โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ลานจอด อาคารจอดรถ เพื่อยกระดับเป็นสนามบินนานาชาติ

นอกจากนี้ยังมีโครงการขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าระบบรางเบา (LRT) ที่จะพัฒนาขึ้นเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น นับเป็นจังหวัดแรกที่จะมีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนนอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยจะเปิดใช้บริการในปี 2563 นำร่องเส้นทางแนวเหนือ-ใต้ ถนนมิตรภาพ ช่วงบ้านสำราญ-บ้านท่าพระ ระยะทาง 22.6 กม. มีทั้งหมด 16 สถานี ซึ่งจะมีสถานีแยกประตูเมือง (เซ็นทรัล) ผ่านด้านหน้าโครงการเดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ –ขอนแก่น ทำให้ลูกค้าโครงการฯเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น

ซึ่งจากอานิสงส์ของแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของรัฐในจ.ขอนแก่น จึงส่งผลให้ขอนแก่นมีดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง

Sansiri TheBaseKK 058

อย่างเช่น “เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น” คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ของแสนสิริตั้งอยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น ติดเซ็นทรัล พลาซา ขอนแก่น เหมาะกับการอยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น แพทย์จากโรงพยาบาลในขอนแก่น และเจ้าของกิจการ

อนึ่ง “เดอะ เบส ไฮท์ มิตรภาพ-ขอนแก่น” อาคารพักอาศัยสูง 36 ชั้น จำนวน 983 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นห้องขนาด 1-2 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 29.00-65.00 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.75 ล้านบาท

Sansiri TheBaseKK 017

ที่สำคัญตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 มิ.ย 2560 ทางโครงการเตรียมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีค่าโอน และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบเซ็ท รับส่วนลดสูงสุดถึง 1 แสนบาท และอัตราดอกเบี้ย 2.99% นาน 3 ปี

ที่มา ddproperty.com


ข่าวดีวันนี้!ลดค่าโดยสารเรือด่วน-เรือข้ามฟาก

ข่าวดีวันนี้!ลดค่าโดยสารเรือด่วน-เรือข้ามฟาก

ผลพวงมาจากราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลอด 10 วันมานี้ ดังนั้นทาง กรมเจ้าท่า จึงประกาศปรับลดค่าโดยสารเรือในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลใหม่ 0.50 – 1 บาท มีผลตั้งแต่วันนี้ (21มิถุนายนนี้)

ตรวจสอบราคาใหม่เรือด่วน – เรือข้ามฟาก
– เรือด่วนเจ้าพระยา ประเภทเรือประจำทาง อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 8-10-12 บาท/คน (ตามระยะ)
– เรือด่วนพิเศษ ธงส้ม อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 14 บาท/คน
– เรือด่วนพิเศษ ธงเหลือง อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 19 บาท/คน
– เรือด่วนพิเศษ ธงเขียว อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 12-19-31 บาท/คน (ตามระยะ)
– เรือโดยสารในคลองแสนแสบ อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 8-10-12-14-16-18 บาท/คน (ตามระยะ)

เรือโดยสารข้ามฟาก เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
– กลุ่มที่ 1 (นนทบุรี-บางศรีเมือง, ท่าช้าง-วังหลัง, ท่าช้าง-วัดระฆัง, วังหลัง-ท่าพระจันทร์เหนือ, วังหลัง-มหาราช และราชวงศ์-ดินแดง ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 3 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
– กลุ่มที่ 2 (โอเรียลเต็ล-วัดสุวรรณ และ ท่าเตียน-วัดอรุณ ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 3.50 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
– กลุ่มที่ 3 (สี่พระยา-คลองสาน ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 4 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
– กลุ่มที่ 4 ( พระสมุทรเจดีย์-วิบูลย์ศรี และ สะพานตากสิน(สาทร) ฝั่งพระนคร-ฝั่งธนบุรี ) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 5 บาท/คน เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา
– กลุ่มที่ 5 (ปากคลองตลาด-วัดกัลยาณมิตร-วัดกุฎีจีน) อัตราค่าโดยสารไม่เกิน 5.50 บาท/คน

boat

ที่มา ddproperty.com


วิธีใดทำให้มีเงินเกษียณเดือนละ 50,000 บาท ในอีก 35 ปีข้างหน้า

เนื่องจากได้มีโอกาสอ่านกระทู้หนึ่งในพันทิพ (ที่มา https://pantip.com/topic/36439388 ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ได้ตั้งคำถามว่าหากต้องการมีเงินไว้ใช้หลังเกษียณที่เดือนละ 50,000 บาทนั้นจะมีวิธีการอย่างไรได้บ้าง โดยเจ้าของกระทู้ได้ตั้งระยะเวลาในการทำงานของตนเองเอาไว้ที่ 35 ปี ซึ่งเมื่อได้อ่านในรายละเอียดต่าง ๆ ทางเจ้าของกระทู้ได้ตั้งเงื่อนไขในการทำตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ดังนี้

  1. เงิน 50,000 บาทตอนนี้ ถ้าข้ามไปอีก 35 ปี เท่ากับเงินจำนวนประมาณเท่าไหร่
    การที่เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามเช่นนี้แสดงว่ามีรู้จักเรื่องของอัตราเงินเฟ้ออยู่บ้าง แต่อาจยังคำนวณหรือคาดคะเนไม่ถูก จึงได้ตั้งคำถามขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอัตราเงินเฟ้อนั้นไม่มีความแน่นอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ภาวะสังคมของโลก อัตราดอกเบี้ยชนิดต่าง ๆ ของธนาคาร และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นหากกำหนดให้ตายตัวไปเลยว่าจำนวนเงิน 50,000 บาทในวันนี้จะกลายเป็นเงินจำนวนเท่าใดในอีก 35 ปีครั้งหน้าจึงไม่สามารถตอบได้แบบตายตัว แต่คราวอัตราเงินเฟ้อโดยทั่วไปจะคำนวณไว้ที่ 3% ซึ่งอาจหมายความว่าจำนวนเงิน 50,000 บาทในอีก 35 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นเงิน 51,500 บาทนั่นเอง แต่หากต้องการเผื่อในระยะปลอดภัยอาจคิดเป็น 52,000 บาท ถ้วนแทนไปเลยได้


  2. ถ้าสมมติเผื่อไว้ใช้ประมาณ 20 ปี อายุ 65 – 85 ปี จะต้องมีเงินรวมทั้งหมดเท่าไหร่
    จากคำถามนี้คาดเดาว่าเจ้าของกระทู้กำหนดจำนวนเงินที่ 50,000 บาทต่อเดือนที่ต้องการใช้หลังเกษียณเป็นระยะว่าต่อเนื่องไปอีก 20 ปี ดังนั้นจึงคำนวณตามตัวเลขที่ให้มาดังนี้ 50,000 บาท x 12 เดือน x 20 ปี = 12,000,000 บาท หากต้องการเผื่ออัตราเงินเฟ้อก็จะกลายเป็น 12,036,000 บาทนั่นเอง


  3. มีวิธีไหนที่สามารถสร้างเงินจำนวนข้างต้นได้บ้าง
    เช่น การลงทุน การออม หรืออื่น ๆ เพื่อให้ถึงเป้าหมายตามระยะที่กำหนด (ปล. สมมุติ เงื่อนไข (แบบโหด ๆ) ตอนนี้มีเงินเก็บเริ่มต้นที่เดือนละ 3,000 บาท) จากคำถามข้อนี้ ขอแตกประเด็นจากจำนวนเงินที่เจ้าของกระทู้ได้ตั้งเงื่อนไชเอาไว้ซึ่งก็คือจำนวนเงินที่ 12,036,000 บาท ซึ่งจะต้องเก็บให้ได้ภายในระยะเวลา 35 ปี หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเจ้าของกระทู้จะต้องเก็บเงินให้ได้ 343,886 บาท ขอปัดเป็นตัวเลขกลม ๆ ก็จะต้องเก็บเงินให้ได้ 350,000 บาทต่อปี โดยในเบื้องต้นเจ้าของกระทู้ระบุว่าในขณะนี้สามารถเก็บเงินได้ที่ 3,000 บาทต่อเดือน หรือเท่ากับว่าภายใน 1 ปีเจ้าของกระทู้สามารถเก็บเงินได้ 36,000 บาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนดเกือบ 10 เท่า

 

หากอ่านรายละเอียดมาเพียงเท่านี้หลายคนอาจรู้สึกหมดหวังหรือกำลังใจในการออมเงินเพื่อใช้หลังเกษียณ แต่ในความเป็นจริงแล้วการออมเงินที่ดีไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในการออมเพียงชั่วปีเดียว แต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการสะสมเงินออมให้เพิ่มพูนจนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งการที่เจ้าของกระทู้ได้เผื่อเวลาให้กับตนเองนานกว่า 35 ปีนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี และนับเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับตนเอง เพราะเรื่องของการออมเงินยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไร โอกาสที่จะได้ตามเป้าหมายที่กำหนดก็จะยิ่งง่ายมากขึ้น เพราะเป็นความจริงที่ว่าเงินล้านก้อนแรกจะเป็นเงินที่หามาได้ยากที่สุด แต่หากรู้วิธีในการเพิ่มพูนเงินก้อนแรกแล้ว เงินล้านส่วนต่อ ๆ มาก็จะง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

โดยจะขอแนะนำวิธีการออมให้ได้ยอดเงินตามจำนวนที่เจ้าของกระทู้ต้องการไว้สัก 3 วิธี ดังนี้

  1. การเพิ่มอัตราเงินเก็บแบบก้าวกระโดด การเพิ่มอัตราเงินเก็บถือเป็นวิธีพื้นฐานที่ปลอดภัยที่สุดในการออมเงิน ทั้งยังเป็นการปรับให้เหมาะกับรายได้ของตนเอง อาทิในขณะนี้เจ้าของกระทู้สามารถเก็บเงินได้เดือนละ 3,000 บาท หรือเท่ากับ 36.000 บาทต่อปี หากปีหน้าเจ้าของกระทู้ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 2,000 บาท เจ้าของกระทู้ก็ควรนำเงินเดือนส่วนที่เพิ่มไปทบกับเงินเก็บซึ่งจะกลายเป็นเงิน 5,000 บาท เท่ากับต่อปีที่ 60,000 บาท เท่ากับเพียง 2 ปีแรกเจ้าของกระทู้ก็จะมีเงินเก็บที่ 96,000 บาทแล้ว ซึ่งหากทบตามจำนวนคงที่เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ เพียง 5 ปีแรกของการออมเจ้าของกระทู้ก็จะมีเงินก้อนได้ถึง 348,000 บาท ทั้งนี้หากต้องการเก็บเงินให้ได้เร็วขึ้นก็สามารถทบเงินเก็บเพิ่มไปเรื่อยอาทิจากเดือนละ 3,000 (เพิ่ม 2,000) เป็น 5,000 (เพิ่ม 4,000) เป็น 9,000 บาท เป็นต้น

  2. การนำเงินไปลงทุนหรือฝากเงินที่ได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เมื่อได้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วเจ้าของกระทู้ก็ควรนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งอาจต้องพิจารณากับความสามารถในการยอมรับอัตราเสี่ยงของตัวเจ้าของกระทู้เองด้วยว่าสามารถยอมรับได้ที่เท่าใด อาทิเช่น หากยอมรับความเสี่ยงได้น้อยหรือไม่ได้เลยก็อาจเลือกวิธีการฝากเงินในบัญชีดอกเบี้ยพิเศษ หรือซื้อสลากออมสิน แต่หากยอมรับได้บ้างเล็กน้อยก็อาจเลือกใช้การซื้อกองทุน RMF และ LTF แทน หรือหากยอมรับความเสี่ยงสูง ๆ ได้ก็อาจเลือกลงทุนผ่านหุ้นหรือกองทุนระยะสั้นประเภทต่าง ๆ ได้

  3. การมองหาหนทางสร้างเงินประจำในอนาคต การจะมีเงินไว้ใช้จ่ายที่ 50,000 บาทหลังวัยเกษียณนอกจากเงินก้อนที่เก็บและอดออมเอาไว้แล้ว ยังสามารถได้มาจากการลงทุนที่หวังผลระยะยาว เช่น การซื้อหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าซึ่งก็จะทำให้ได้เงินหมุนเข้าบัญชีมาทุกเดือน รวมถึงการซื้อหุ้นหรือกองทุนที่มีการปันผลให้อย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น

จึงจะเห็นได้ว่าหนทางในการสร้างเงินเก็บนั้นมีหลากหลายวิธี ซึ่งควรปรับให้เข้ากับความสามารถในการทำเงินของตัวเจ้าของกระทู้เองด้วย และควรวางแผนการลงทุนและออมเงินอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดได้สำเร็จนั่นเอง

ที่มา moneyhub.in.th


5 เทคนิคการเขียนลงท้ายอีเมลภาษาอังกฤษ

การเขียนอีเมลแบบเป็นทางการสิ่งที่สำคัญคือความกระชับ บวกกับความชัดเจนในจดหมายหนึ่งฉบับ เพราะนึกภาพดูสิคะว่าบริษัทหรือองค์กรๆหนึ่งจะต้องติดต่อกับคนหรือองค์กรอื่นๆอีกกี่องค์กร การที่อีเมลของเรามีความกระชับและชัดเจนจะทำให้คนอ่านเข้าใจจุดประสงค์ของเราได้ง่าย และไม่เสียเวลาสำหรับคนอ่าน

การเขียนอีเมลนี่ความจริงเค้าก็มีรูปแบบ และแนวทางการเขียนที่ชัดเจนนะคะ มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจนว่าส่วนไหนจะพูดถึงเรื่องอะไร เรียกได้ว่าในแต่ละส่วนไม่มีส่วนใดสำคัญน้อยไปกว่ากันเลย  และวันนี้เราจะพูดถึงในส่วนท้ายของอีเมลกันว่าควรจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

endingemails

สิ่งที่ควรใส่ไว้ในย่อหน้าสุดท้ายของจดหมาย

1. การย้ำสิ่งที่ต้องการให้ผู้รับจดหมายรับรู้ หรือกระทำตามอีกครั้ง ด้วยประโยคที่กระชับเข้าใจง่าย มักขึ้นต้นด้วยประโยคด้านล่างนี้ แล้วตามด้วยกริยาที่เราต้องการให้ผู้รับจดหมายกระทำ

We/I would like to ask you to…. (เรา/ฉัน อยากจะขอให้คุณ….)
We/I hope you will be able to…. (เรา/ฉัน หวังว่าคุณจะสามารถ….)
I am writing to ask you to please…. (ฉันเขียนมาเพื่อขอความกรุณาให้คุณ…)
Could you please look into this matter? (รบกวนให้คุณช่วยตรวจสอบปัญหานี้หน่อยได้หรือไม่?)
We/I should be glad if you would…. (เรา/ฉันจะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าคุณ…)

2. ในช่วงสุดท้ายอาจใส่คำขอบคุณผู้รับในกรณีใดกรณีหนึ่ง อย่างการที่จะช่วยแก้ไขให้ หรือ แม้แต่การสละเวลาเพื่อช่วยเหลือ และถ้าคุณขอให้ทางผู้รับช่วยเหลือสิ่งใดก็ให้ขอบคุณล่วงหน้าไปด้วย อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงหนทางในการติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำคัญไม่แพ้กันคือการกล่าวถึงการติดต่อกันในอนาคตเพื่อเป็นการจบจดหมาย เช่น

I appreciate immediate attention on this matter. (ฉันหวังว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด)
We hope to continue relying on your valued input as a customer. (เราหวังว่าจะได้เป็นลูกค้าของคุณต่อไป)
I once again apologize for inconveniences this may cause. (ฉันขออภัยอีกครั้งสำหรับความไม่สะดวกในครั้งนี้)
If you require further information, don’t hesitate to ask. (หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เสมอ)
I look forward to our continue working relationship and its success. (ฉันจะเฝ้าคอยดูความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันของเราและความสำเร็จของมัน)
Please provide the necessary advice. (กรุณาเตรียมคำแนะนำที่จำเป็น)
I look forward to meeting with you. ( ฉันจะตั้งตารอคอยที่จะได้พบคุณ)
I look forward to receiving your response. (ฉันจะตั้งตารอคอยที่จะได้รับผลตอบรับจากคุณ)
I look forward to listening to/hearing your reply. (ฉันจะตั้งตารอคอยที่ได้ได้ยิน /ได้ฟังผลตอบรับจากคุณ)
I look forward to hearing from you. (ฉันจะตั้งตารอคอยการตอบรับจากคุณ)

3. ปิดท้ายจดหมาย เมื่อจบย่อหน้าสุดท้ายให้เว้นบรรทัดมาประมาณหนึ่งบรรทัด ลงท้ายในบรรทัดต่อไปด้วย คำลงท้ายเหล่านี้ เพื่อแสดงความเคารพ

Yours sincerely
Yours faithfully
Sincerely yours
Faithfully yours
Most sincerely
Sincerely
Respectfully
Respectfully yours
Thank you for your consideration
Thank you
Best wishes,
Best regards

4. บรรทัดถัดมาก็ลงลายเซ็นของคุณ ใส่ชื่อเต็ม (ชื่อจริงและนามสกุล) ถ้าเขียนมาในนามตัวแทนองค์กรก็ให้ใส่ชื่อตำแหน่งของคุณมาด้วย

เช่น Amanda Lee

Amanda Lee
Marketing manager

5. ใส่คำว่า enclosure ในกรณีที่มีข้อมูลอื่นๆแนบมาด้วยกับจดหมายให้ เขียนไว้ในส่วนท้ายของจดหมายว่า Enclosure หรือ หรือ Enc.โดยอาจจะใส่รายละเอียดของสิ่งที่แนบมาด้วย หรือจำนวนของสิ่งที่แนบมาด้วยก็ได้

เช่น  Enclosure: Article by John Graham
      Encl. (2)

นี่ล่ะค่ะคือสิ่งที่ควรมีในย่อหน้าสุดท้ายของอีเมล สิ่งสำคัญคือเมื่อเขียนเสร็จทุกครั้งให้กลับมาทบทวนใหม่ทุกครั้งเสมอ และถ้าอยากมีความชำนาญมากขึ้นก็ต้องฝึกเขียนบ่อยๆนะคะ รับรองว่าอีกหน่อยก็จะกลายเป็นมือโปรในการเขียนอีเมลแน่ๆ

ที่มา dailyenglish.in.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 22/06/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,100.00 20,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,302.00 19,738.32 20,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,171.80 17,764.49 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 586.00 8,883.76 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 456.00 6,912.96 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,349.00 20,450.84 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  22/06/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55 25.55
แก๊สโซฮอล E-20 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04 23.04
แก๊สโซฮอล E-85 19.24 19.24 19.24 19.24
แก๊สโซฮอล 91 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28 25.28
เบนซิน 95 32.66 33.11 33.11 33.16 32.66 32.66 32.66
ดีเซลหมุนเร็ว 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89 23.89
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 26.89 27.57 27.57 27.57 27.57
มีผลตั้งแต่ 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00 16 Jun 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า