อสังหาฯหวั่น‘รีเวิร์สซัพพลาย’ ฉุดตลาด
อสังหาฯ หวั่นยอดรีเจ็กส์-ภาษีที่ดิน สร้าง‘รีเวิร์สซัพพลาย’ ฉุดการเติบโตธุรกิจอสังหาฯ เตือนผู้ประกอบการต้องจับตามอง
อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมของอสังหาฯช่วงครึ่งหลังของปี 2560 จะมีทิศทางการเติบโต เนื่องจากมีปัจจัยหนุนในเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐมีความชัดเจน โดยเฉพาะแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ บวกกับชาวต่างชาติได้เข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาฯของไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากยอดปฏิเสธสินเชื่อของธนาคาร หรือ รีเจ็กส์ ที่ยังอยู่ในอัตราที่สูง ประกอบกับการประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดซัพพลายด์ย้อนกลับเข้ามาในตลาด หรือ “รีเวิร์สซัพพลาย”
โดยสถานการณ์ดังกล่าว จะทำให้โครงการใหม่เกิดขึ้นได้น้อย เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯต้องชะลอแผน เพื่อให้ซัพพลายด์เดิมที่มีอยู่ในตลาดถูกดูดซับไปหมดก่อน และการชะลอการเปิดตัวโครงการนี่เอง จะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการ บริษัทก่อสร้าง และภาคแรงงาน ทำให้การเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาฯเกิดอาการสะดุดได้
“ลูกค้าถูกรีเจ็กส์ สินค้าที่จองไปก็ต้องนำกลับมาขายใหม่ ส่วนกรณีที่โอนไปแล้ว แต่ผู้บริโภคกังวลเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็นำสินค้ามาขายในรูปแบบบ้านมือสอง ตอนนี้เริ่มเห็นแล้วในกลุ่มบ้านพักตากอากาศ ตั้งแต่ราคาล้านต้นๆไปถึงหลักร้อยล้าน โดยเฉพาะที่หัวหินและพัทยา ซึ่งยังคาดการณ์ไม่ได้ว่า รีเวิร์สซัพพลายด์จะเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นเรื่องน่ากังวล”
ดึง ‘นอนแบงก์’ช่วยลูกค้าถูกรีเจ็กส์
ด้าน พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารยังเป็นคงเป็นปัญหาสำหรับธุรกิจอสังหาฯในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปัจจุบันยอดปฏิเสธดังกล่าวอยูที่ประมาณ 30- 40% ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมฯอยู่ระหว่างการเจรจากับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เพื่อตั้งคณะศึกษาการขยายตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยไปยังสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือ “นอนแบงก์”
ทั้งนี้ เพื่อช่วยลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร โดยเฉพาะในกลุ่มรายย่อยที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท คาดว่า จะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2561
“กลุ่มนอนแบงก์ที่เราเจรจา ก็ได้แก่ บริษัทลีสซิ่ง บริษัทประกัน เป็นต้น รูปแบบ คือ กลุ่มนอนแบงก์จะเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ที่ต้องการ แต่อัตราดอกเบี้ยที่จะเสนอให้จะสูงกว่าสินเชื่อรายย่อย หรือ MRR ทั่วไป ประมาณ 2% ส่วนลูกค้าที่จะกู้เราจะมีการคัดกรองไปอีกชั้นด้วย”
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/767914
อสังหาฯ มหาชนยึดส่วนแบ่งตลาด 78%
เอเจนซี่ฯ เผยข้อมูลเปิดตัวโครงการครึ่งปีแรก 2560 บริษัทพัฒนาที่ดินกลุ่มมหาชน ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 78%
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (www.area.co.th) สำรวจพบว่าในบรรดา 50 บริษัทพัฒนาที่ดินที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งบริษัทในเครือ ได้เปิดตัวโครงการต่าง ๆ ช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ถึง 78% ของมูลค่าทั้งหมดที่เปิดตัว 182,647 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทขนาดเล็กนับร้อยแห่ง ได้เปิดตัวโครงการเพียง 22% หรือมูลค่า 39,789 ล้านบาทเท่านั้น ถ้าพิจารณาในแง่จำนวนหน่วยจะพบว่าบริษัทขนาดเล็ก ที่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีกเปิดตัวเพียง 23% หรือ 12,269 หน่วย จากทั้งหมด 54,281 หน่วยที่เปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าบริษัทเอสเอ็มอี เปิดขายราคาเฉลี่ย 3.243 ล้านบาท ซึ่งถูกกว่าบริษัทมหาชนและบริษัทในเครือมหาชนที่เปิดขายในราคา 3.344 และ 3.521 ล้านบาทตามลำดับ
แต่ความแตกต่างนี้ก็ไม่มีนัยสำคัญอะไร แสดงให้เห็นว่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เปิดขายสินค้าในราคาที่ไม่แตกต่างจากบริษัทเล็ก จึงอาจเสียเปรียบบริษัทมหาชนที่มีต้นทุนทางการเงินถูกกว่า ขณะที่ความสามารถในการแข่งขันของของบริษัทเล็กอาจมีจำกัด
ยิ่งกว่านั้นหากพิจารณาจากจำนวนที่ยังเหลือขาย ปรากฏว่าบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์เหลือขายน้อยกว่า แต่ปรากฏว่าสำหรับอัตราการขายได้ต่อเดือน บริษัทเอกชนนอกตลาดหลักทรัพย์ขายได้ 14.21% ในเดือนแรก ในขณะที่บริษัทในตลาดและบริษัทในเครือสามารถขายได้ 15.66% และ 19.16% ตามลำดับ ซึ่งกลายเป็นว่าบริษัทในตลาดขายได้ดีกว่า
“อันที่จริงรัฐบาลควรส่งเสริมการพัฒนากลุ่มเอสเอ็มอีก แต่ในความเป็นจริง บริษัทใหญ่ ๆ ที่มีต้นทุนทางการเงินถูกกว่า จะได้เปรียบ”
ในญี่ปุ่น ปรากฏว่า สำหรับตลาดอาคารชุด มีบริษัทใหญ่ๆ ราว 4 แห่ง สามารถครอบส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 90% ของทั้งตลาด แต่สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบ กลับปรากฏว่าไม่มีใครครองส่วนแบ่งตลาดได้เลย แนวโน้มแบบนี้อาจเกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคตได้
รัฐบาลควรเร่งให้การคุ้มครองเงินดาวน์ของคู่สัญญาคือผู้ซื้อและผู้ขายได้ถูกบังคับใช้เสมอหน้ากันทั้งบริษัทมหาชนและบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้แต่ละบริษัทมีการคุ้มครองผู้บริโภคเหมือนกัน เป็นการสร้างแบรนด์ที่เท่าเทียมกัน ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน อันเป็นการสร้างประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ขาย เพราะผู้บริโภคจะมีความมั่นใจในการซื้อมากขึ้น ผู้ขายก็จะขายสินค้าได้ดีขึ้นนั่นเอง
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/767817
“มหกรรมการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต”
ปัจจัยในการใช้ชีวิตของทุกๆคนบนโลก มาตรวัดที่สำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่อง “ความสุข” และปฏิเสธไม่ได้ว่า “ความมั่งคั่ง” หรือ Wealth (เวลท์) คือปัจจัยสำคัญทีช่วยเกื้อหนุนให้เกิดความสุขได้ ความมั่งคั่งสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเริ่มต้นจากการตระหนักและให้ความสำคัญกับการเก็บออมและการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนเงินออม
สำหรับในประเทศไทยแล้ว ความตระหนักในเรื่องนี้ยังอยู่ในวงแคบ ยิ่งเมื่อประกอบกับโครงสร้างทางประชากรในปัจจุบันที่กำลังก้าวเข้าสู่ความเป็น “สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์” ในอีกไม่กี่ปี ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงว่า คนไทยในอนาคตจะกลายเป็นคนสูงวัยที่ประสบปัญหามีเงินออมไม่พอใช้ในวัยเกษียณ เป็นภาระของลูกหลานและสังคมต่อไป
จากที่กล่าวมาข้างต้น
นายจักรชัย บุญยะวัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟมมิลี่ โนฮาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องการให้คนไทยตระหนักถึงในเรื่องนี้ จึงเตรียมจัดงาน “FUTURE WEALTH & LUXURY EXPO 2017” มหกรรมรวบรวมการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต ในวันที่ 18-20 ส.ค.2560 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเป็นงานมหกรรมให้ความรู้ด้านการวางแผน การเงิน การออมและการลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ โดยได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ต้นแบบนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งสินค้าและบริการด้านการออม การลงทุน สินค้าในการดูแลผู้สูงอายุ และสินค้าลักชัวรี่ ที่เป็นทั้งการลงทุนทางเลือก และรางวัลของชีวิตสำหรับผู้ที่มีความพร้อมด้านการเงินแล้ว เพื่อมานำเสนอให้แก่ประชาชนภายในงานเดียวกันอย่างครบครัน
นายจักรชัยกล่าวว่า สำหรับการจัดงาน FUTURE WEALTH & LUXURY EXPO 2017 ในครั้งนี้ เราเน้นสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผน การเงิน การออมและการลงทุน การวางแผนสุขภาพ ตลอดจนการใช้ชีวิตให้มีความสุขตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อให้คนไทยมีความพร้อมรับวัยเกษียณในอนาคต โดยเน้น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1–กลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 40–60 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีความพร้อมด้านการเงิน มีกำลังซื้อ และเริ่มมองหาหนทางในการสร้างความมั่งคั่งมั่นคงให้ชีวิตในวันข้างหน้า
https://www.thairath.co.th/content/1027140
ประโยชน์จากการดื่มน้ำอุ่น ที่คุณยังไม่รู้
เรามักจะได้ยินกันว่าการดื่มน้ำเย็นนั้นไม่ค่อยดีกับร่างกาย ควรจะดื่มน้ำที่ระดับอุณหภูมิห้องดีกว่า แล้วถ้าอย่างนั้น การดื่มน้ำอุ่นจะยิ่งดีกับร่างกายมากขึ้นไปอีกไหม ไปอ่านกันเพราะอาจจะมีข้อมูลดีๆ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้
แน่นอนว่า การดื่มน้ำอุ่นนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าจะให้ดีต้องดื่มให้ถูกต้อง เรามีข้อมูลเรื่องประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่นตามเวลาที่คุณอาจไม่เคยรู้ วิธีดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยป้องกันโรค
ถ้าดื่มน้ำอุ่นเพียง 8 แก้ว/วัน สามารถกลายเป็น น้ำดื่มเพื่อสุขภาพสุดพิเศษได้ทันที หากเรารู้จักดื่มน้ำอุ่นในเวลาที่เหมาะสม น้ำเปล่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นในหนึ่งวันเราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเติมออกซิเจนให้แก่อวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะสมองที่ต้องการออกซิเจนมากถึง 1 ใน 3 ของความต้องการออกซิเจนทั้งหมดของร่างกาย มิเช่นนั้น ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองจะลดลง ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียตัดสินใจช้า ขาดสมาธิและความสามารถในการจดจำลดลง
นอกจากนี้ 70 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ดังนั้นน้ำเปล่ายังมีบทบาทสำคัญ ในการคง รูปร่างของอวัยวะ ลำเลียงสารอาหารเข้าออกเซลล์ ทั้งยัง ควบคุมความเป็นกรดด่าง และเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างฮอร์โมนและสารเคมีต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย น้ำเปล่าเป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ เพราะหากเราอดอาหารยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 2 เดือน แต่ถ้าขาดน้ำเพียง 10 วันก็ต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
ตามหลักการแพทย์แผนจีน น้ำมีบทบาทสำคัญ ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ทั้งช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลำเลียงสารอาหาร ลดความตึงเครียด คืนความสดชื่นภายหลังออกกำลังกายและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในยามที่เข้านอน น้ำเปล่า 8 แก้ว จะกลายเป็นน้ำวิเศษทันทีหากเราดื่มในเวลาที่เหมาะสม
มีประโยชน์ของการดื่มน้ำอุ่นในเวลาต่างๆ มาบอก ลองดื่มตามเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง…
เวลา 05.00-07.00 น. ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้วเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย ลำไส้ใหญ่เคลื่อนตัวพร้อมสำหรับขับของเสีย สิ่งที่ควรทำคือ ควรปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
เวลา 07.00-09.00 น. ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว เพื่อกระเพาะอาหารทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมอาหาร สิ่งที่ควรทำคือทานอาหารเช้าที่ย่อยและดูดซึมง่าย คนจีนมักกินอาหารที่มีน้ำ เช่น ข้าวต้มในมื้อเช้า
เวลา 11.00-13.00 น. ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว เพื่อให้หัวใจจะสูบฉีดเลือดไหลเวียนทั่วร่างกาย โดยจะทำงานหนักในช่วงเวลานี้ สิ่งที่ควรทำคือหลังอาหารเที่ยง ควรหลีกเลี่ยงความเครียดและผ่อนคลายอารมณ์
เวลา 15.00-17.00 น. ดื่มน้ำอุ่นอย่างน้อย 2 แก้ว ชดเชยน้ำที่สูญเสียจากกระเพาะปัสสาวะขับถ่ายของเสีย และยังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการระบายความร้อนออกจากร่างกาย สิ่งที่ควรทำเพิ่มคือ ออกกำลังกายให้เหงื่อออก โดยเฉพาะเวลา 17.00 น.
เวลา 17.00-19.00 น. ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วช่วงเวลานี้ ไตจะเก็บสะสมพลังงานเป็นทุนสำรองของร่างกาย สิ่งที่ควรทำคือ ทานอาหารมื้อเย็น พร้อมทำจิตใจให้สดชื่น
เวลา 21.00-23.00 น. ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว ช่วงนี้พลังงานในร่างกายเชื่อมถึงกัน เป็นเวลาที่เกิดการพักฟื้นของร่างกาย สิ่งที่ควรทำคือ ทำร่างกายให้อบอุ่นและไม่ควรอาบน้ำเย็น
เมื่อรู้ข้อดีของน้ำอุ่นกันแล้ว อย่าลืมหันมาดื่มน้ำอุ่นให้มากกว่าน้ำเย็นกันล่ะ ส่วนใครที่ไม่อยากดื่มแค่น้ำอุ่นธรรมดา ก็สามารถเพิ่มเติมประโยชน์จากอาหารที่มีคุณสมบัติเป็นยาได้เช่นกัน เช่น เลมอน ขิง และน้ำผึ้ง นอกจากเพิ่มรสชาติ ไม่น่าเบื่อแล้ว เพียงเท่านี้ร่างกายเราก็จะลืมไปเลยว่าเคยป่วยครั้งสุดท้ายไปเมื่อไร
http://www.thaihealth.or.th
ชนะทุกข์ด้วยคุณธรรม
จงจำไว้ว่าอย่าทุกข์กับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเราอย่าทุกข์ในสิ่งที่ไม่มีแล้วยังจะไปทุกข์อีก รัก โลภ โกรธ หลง อารมณ์พวกนี้จงรู้จักมีให้เป็นแล้วจะไม่ทุกข์มาก อย่าทุกข์กับการพลัดพราก ทุกสิ่งย่อมมีเกิดดับ มีตั้งอยู่แล้วก็เปลี่ยนแปลงไปบางครั้งจึงต้องทำใจให้ได้ สำคัญคือจิตใจของเราจงรู้คิดในทางที่ดีแม้จะ เจอความทุกข์ยากลำบาก ใจที่ดีนั่นแหละจะเป็นตัวฝ่าฟันหาทางออกให้กับตัวเราเอง ใจที่ยอมสู้ ยืนหยัดในความดีอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จะเป็นตัวที่ช่วยให้เรามีทางออก มีทางสู้ สำคัญอย่างเดียวอย่าเกียจคร้านอย่ารักสบายบำเพ็ญธรรมเป็นเรื่องที่ไม่สบายเป็นเรื่องที่ต้องฝึกขัดเกลาจิตตัวเอง คนที่รู้จักควบคุมตัวเองดำรงตัวเองอย่างมีศีลธรรม มีคุณค่า มีคุณงามความดี คนๆ นั้นเกิดมาไม่เสียชาติเกิด วันนี้แม้ท่านมีเงินมีทองมากมายเท่าใด สิ่งที่เราอยากเรียกร้องให้ท่านทำเพิ่มคือ จงปลุกคุณธรรมภายในจิตใจของตนออกสู่มวลชนและเอาธรรมไปช่วยเขา เงินทองช่วยเขาได้ แต่ไม่สามารถช่วยให้เขามีสำนึกที่ดีได้ มีแต่คุณธรรมความดีในตัวท่านที่ทำให้กับเขา แล้วจะปลุกให้เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำชั่ว และจะปลุกให้เขารู้ว่า ทั้งต่อหน้าและลับหลังควรเป็นคนอย่างไร ไม่ใช่หลอกลวงเราแบบนี้ และจะปลุกให้เขารู้ว่าเป็นคนอย่างไรที่ไม่ทำให้พ่อแม่เราเป็นทุกข์ขณะนี้ อาศัยธรรมทั้งนั้นเงินทองไม่มีประโยชน์เงินทองซื้อใจเขาได้หรือ ซื้อก็ได้แต่ชั่วขณะเลี้ยงลูกก็ได้แต่ชั่วครู่ แต่พอเขามีเงินทองเลี้ยงดูตัวเองได้ พ่อแม่เขาก็ไม่สนใจ ก็เพราะว่าเราเลี้ยงเขาด้วยเงินทอง ไม่ใช่เลี้ยงเขาด้วยความถูกหรือไม่ ทำไมลูกน้องบางคนจึงชื่อสัตย์กับเราจนตัวตาย แต่ทำไมบางคนพอถึงเวลา เอาเปรียบเรายังกับอะไรดี หากเราเอาแต่ได้ เขาก็ต้องเอาเปรียบเรา แต่ถ้าเราสอนเขา หรือทำงานร่วมกับเขา ใช้คุณธรรมส่งเสริมเขา เขาก็ย่อมใช้คุณธรรมปฏิบัติกับเรา
http://www.shawpat.or.th
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 8/08/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,800.00 | 19,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,283.00 | 19,450.28 | 20,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,154.70 | 17,505.25 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 577.00 | 8,747.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 449.00 | 6,806.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,330.00 | 20,162.80 | n/a |
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 26.65 | 26.65 | – | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | – | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 19.94 | 19.94 | – | – | – | – | 19.94 | 19.94 | – | |
แก๊สโซฮอล 91 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 |
เบนซิน 95 | 33.76 | – | – | 34.21 | 34.21 | – | 34.26 | 33.76 | 33.76 | 33.76 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 28.19 | 28.19 | 28.19 | 28.19 | 28.19 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 | 02 Aug 05:00 |