ออริจิ้นผุด‘คราวน์ เรสซิเดนซ์’บริการตลาดซื้อปล่อยเช่า
“ออริจิ้น”ส่งแบรนด์ใหม่ “คราวน์ เรสซิเดนซ์” ลุยธุรกิจบริการหาผู้เช่า ชูเซอร์วิสระดับโรงแรมในคอนโด จูงใจตลาดลงทุนซื้อปล่อยเช่า ดึง“จตุพร ผิวขาว” มือดีวงการโรงแรมกุมบังเหียน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม แบรนด์เคนซิงตัน นอตติ้ง ฮิลล์ และไนท์บริดจ์ เปิดเผยว่าได้จัดตั้งแบรนด์ “คราวน์ เรสซิเดนซ์” (Crown Residences) ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจจัดหาและคัดเลือกผู้พักอาศัยให้แก่ผู้ที่ต้องการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียม พร้อมทั้งมีบริการหลากหลายระดับ “เรสซิเดนซ์ เซอร์วิส” ให้แก่ผู้พักอาศัย
“ออริจิ้นมีวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และมุ่งพัฒนาบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ซื้อคอนโดได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดี”
ทั้งนี้ การจัดตั้งคราวน์ เรสซิเดนซ์ จะเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ซื้อกลุ่มนักลงทุน ให้ได้พบกับผู้เช่าที่ดี มีคุณภาพ ขณะเดียวกันผู้เช่าเองได้รับบริการการอยู่อาศัยในมาตรฐานระดับโรงแรม
สำหรับบริการที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พักอาศัย ได้แก่ บริการทำความสะอาดห้องพัก บริการเปลี่ยนและซักผ้าปูที่นอน บริการล้างจาน รวมถึงยังช่วยดูแลเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ในห้องน้ำด้วย บริษัทจะเริ่มให้บริการในคอนโดแบรนด์นอตติ้ง ฮิลล์ และไนท์บริดจ์ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับกลางและพรีเมียม
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่าเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของคราวน์ เรสซิเดนซ์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีบริการและมาตรฐานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคครบวงจร จึงได้แต่งตั้งให้นางจตุพร ผิวขาว ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจโรงแรมมากว่า 16 ปี รวมถึงเคยบริหารเชนโรงแรมจากต่างประเทศ ขึ้นดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด ดูแลทิศทางของแบรนด์คราวน์ เรสซิเดนซ์
http://www.bangkokbiznews.com
ปลดล็อกอสังหาฯ แก้ “ก.ม.เซ้ง” ใช้สิทธิเช่าบ้าน-ที่ดิน กู้แบงก์ได้
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292 วันที่ 31 ส.ค. – 2 ก.ย. 2560 รายงานว่า คลังเร่งสรุป “ร่างกฎหมายลีสโฮลด์” เปิดทางใช้สัญญาเช่าที่อยู่อาศัยกู้แบงก์ได้ จ่อเสนอ ครม. เร็ว ๆ นี้ … สศค. ชี้ช่วยสร้างมูลค่า กระตุ้นเศรษฐกิจ วงการอสังหาริมทรัพย์จับตากลุ่มทุนใหญ่ พัฒนาโครงการยักษ์จากการเช่าที่ดินย่านกลางเมืองได้รับอานิสงส์ก่อน โดยเฉพาะ “โปรเจ็กต์มิกซ์ยูส” ตามที่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายปลดล็อกสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัย ให้เทียบเคียงกับสิทธิการเช่าที่ดิน เพื่อการพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม ด้วยการยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. … หรือ “ลีสโฮลด์ (leasehold)” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและกระตุ้นให้เศรษฐกิจหมุนเวียนอีกทางหนึ่งนั้น
ล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าในการยกร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย สศค. จะขยายเวลารับฟังถึงสิ้นเดือน ส.ค. นี้ (เดิมสิ้นสุดเดือน มิ.ย. 2560) เนื่องจากหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องยังเสนอความเห็นเข้ามาน้อย จากนั้นจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ปัจจุบัน กฎหมายที่บังคับใช้เพื่อการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แยกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
1.เช่าเพื่อที่อยู่อาศัย : เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยกฎหมายระบุให้สิทธิการเช่าไม่เกิน 30 ปี (ต่อได้อีก 30 ปี) สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อผู้เช่าเสียชีวิตสัญญาเช่านั้นจะระงับลง ห้ามเช่าช่วง และสิทธิการเช่าไม่สามารถเป็นหลักประกัน (กู้ธนาคารได้)
2.การเช่าเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม : ขึ้นกับ พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 ที่มีข้อกำหนดยืดหยุ่นกว่าการเช่าเพื่อที่อยู่อาศัย เช่น สิทธิการเช่าไม่เกิน 50 ปี ต่อได้ 50 ปี (เดิม 30 ปี ต่อ 30 ปี) การเช่าช่วงตกทอดแก่ทายาทได้สิทธิการเช่าเป็นหลักประกันได้ เป็นต้น
ผู้อำนวยการ สศค. ย้ำว่า ร่าง พ.ร.บ.ใหม่ มีประโยชน์มาก เพราะทำให้สินทรัพย์ในกลุ่มการเช่าเพื่อที่อยู่อาศัยมีมูลค่ามากขึ้น โดยหลักการทรัพย์อิงสิทธิ เริ่มจากให้เจ้าของที่ดินไปจดทะเบียนสิทธิการเช่าที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย จะทำให้ผู้เช่าสามารถนำที่ดิน (เช่า) ไปทำอะไรก็ได้ แต่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของเจ้าของที่ดิน “เป็นหลักการเดียวกับการเช่า แต่มันทำให้มีมูลค่ามากกว่า คนที่ได้ไปสบายใจมากกว่า ทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น นำไปพัฒนาต่อ นำไปโอนสิทธิต่อได้ ไปเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อได้ เป็นต้น”
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเสนอ พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 โดยให้ขยายเวลาเช่าจาก 30 ปี เป็น 50 ปี แต่เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรมเท่านั้น ส่วนกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิที่กำลังยกร่างเป็นการเช่าที่ดินอาคารเพื่อการทั่วไป แต่กำหนดระยะเวลาเช่าไม่เกิน 30 ปี เหมือนเดิม ซึ่งเป็นระบบที่ดินที่ใช้กันทั่วโลก เรียกกันในชื่อ “leasehold” โดยกฎหมายนี้ไม่มีผลต่อราคาที่ดิน แต่เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เป็นผลดีต่อทุกคน ไม่ได้เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน
ขณะที่ แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กฎหมายนี้เป็นการขยายพื้นที่ ขยายโอกาส เปรียบเหมือนการแปลงสิทธิเป็นทุน โดยกำหนดให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ใน “โฉนดที่ดินและเจ้าของอาคารชุด” ไปยื่นจดทะเบียนทรัพย์อิงสิทธิ ได้การจดทะเบียน ก็เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิโฉนดที่ดินหรือห้องชุด โดยสิทธิดังกล่าว ผู้จดทะเบียนสัญญาหรือผู้รับสิทธิสามารถเอาสิทธิไปเช่าช่วงจำนองเป็นหลักประกัน รวมถึงตกทอดเป็นมรดกได้ เป็นต้น
เมื่อมีกฎหมายนี้รองรับจะช่วยทำให้ทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น ที่ดินหรือห้องชุด มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น นาย ก. มีที่ดินและห้องชุด ปัจจุบันอาจจะปล่อยให้เช่าได้ห้องละ 7,000-8,000 บาท/เดือน แต่ถ้าจดทะเบียนอิงสิทธิ์ ราคาอาจจะปรับขึ้นเป็น 10,000-12,000 บาท เพราะผู้เช่าสามารถนำสิทธิไปทำประโยชน์ต่อได้ เช่น ปล่อยเช่าช่วงหรือขายสิทธิต่อได้ ภายในช่วงเวลาที่เจ้าของกรรมสิทธิ์จดทะเบียนเช่าสิทธิไว้ แต่สูงสุดไม่เกิน 30 ปี
“ผลของร่างกฎหมายนี้ ทำให้มูลค่าสินทรัพย์เกิดการหมุนเวียนหลายทอด เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้เข้ารัฐจากการจดสัญญาเช่าสิทธิ เป็นประโยชน์ทั้งกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ (กฎหมายเรียกว่า ผู้ให้) และผู้รับช่วง (กฎหมายเรียกว่า ผู้ทรงทรัพย์อิงสิทธิ)”
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ส่งความเห็นเสนอให้ควรนำหลักการเรื่อง “กฎหมายการขายอาคารชุด ที่ให้ต่างด้าวถือครองพื้นที่ได้ไม่เกิน 49% (ของจำนวนยูนิตรวมของโครงการ)” ร่วมพิจารณาประกอบด้วย เพื่อเป็นการคุ้มครองให้การอยู่อาศัยร่วมกันเป็นไปด้วยความสงบสุข ป้องกันร่างกฎหมายใหม่นี้ที่จะออกมา ซึ่งอาจทำให้ต่างชาติถือครองเกินที่กำหนด รวมทั้งให้เอาหลักการของ พ.ร.บ.จัดสรรฯ ที่ระบุ ตั้งแต่ 10 แปลงขึ้นไป ต้องอยู่ในข่าย ก.ม.จัดสรรฯ มาพิจารณาใน ร่าง พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ นี้ด้วย
ด้าน ผู้บริหารระดับสูงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลทางบวกต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์แน่นอน แต่กลุ่มที่จะได้ประโยชน์ลำดับแรก ๆ คือ กลุ่มทุนใหญ่ที่พัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ด้วยการเช่าที่ในเขตซีบีดี (ย่านธุรกิจกลางเมือง) โดยเฉพาะกลุ่มทีซีซี แอสเสท ของ คุณเจริญ (สิริวัฒนภักดี ประธานกลุ่มทีซีซี) ที่ทำสัญญาเช่าที่ในเขตซีบีดีไว้หลายแปลง เพื่อพัฒนาโครงการประเภทมิกซ์ยูส (ผสมผสาน) มีทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า และคอนโดมิเนียม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของ “ฐานเศรษฐกิจ” พบว่า กลุ่มทีซีซีได้ทำสัญญาเช่าที่ดินในเขตซีบีดี เพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการ, กลุ่มคันทรี 1 โครงการ, กลุ่มเซ็นทรัลร่วมกับดุสิตธานี 1 โครงการ และโครงการหอชมเมือง นอกจากนี้ ยังมีที่ดินแปลงใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ ที่รอเปิดประมูลให้เอกชนเช่าพัฒนาอีกหลายทำเล เช่น สถานีมักกะสัน บริเวณการท่าเรือ เป็นต้น ซึ่งจะได้รับอานิสงส์ หาก ก.ม.ทรัพย์อิงสิทธิ บังคับใช้
อนึ่ง หอการค้าร่วมต่างประเทศ เคยทำหนังสือปกขาวเสนอรัฐบาลในปี 2554 ให้แก้กฎหมายเปิดทางให้ขยายสิทธิการเช่าที่ในเมืองนาน 50 ปี เช่นเดียวกัน การเช่าที่พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม
http://www.bkkcitismart.com
คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า เคลื่อนไหวที่33.10-33.30
กสิกรฯคาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า เคลื่อนไหวที่ 33.10-33.30 ติดตามทิศทางตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก หลังประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์เงินบาทสัปดาห์หน้า (4-8 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.10-33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามทิศทางของตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อของโรงงาน สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค. และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.
นอกจากนี้นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นทางการเมืองในสหรัฐฯ ผลการประชุมนโยบายการเงินของ ECB รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการ และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ด้วยเช่นกัน
www.bangkokbiznews.com
มาแน่…10 เทรนด์แต่งบ้านปี 2017 บอกลาเทรนด์เก่าได้เลย
อัพเดทเทรนด์แต่งบ้านปี 2017 รวบรวมแนวคิดและสไตล์การตกแต่งบ้านที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมในปีหน้า มาดูกันว่าเทรนด์แต่งบ้านปี 2017 มีเทรนด์ไหนที่มาแรงบ้าง
วันและเวลายังมีเปลี่ยนแปลง แล้วจะนับประสาอะไรกับเทรนด์แต่งบ้านล่ะคะ ฉะนั้นกระปุกดอทคอมจึงอยากให้คนรักบ้านเตรียมให้พร้อมกันซะตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วไปอัพเดทเทรนด์แต่งบ้านในปี 2017 กันหน่อยว่ามีเทรนด์ไหนที่น่าสนใจ และคู่ควรกับการนำมาตกแต่งบ้านของคุณบ้าง แล้วบอกว่าเทรนด์แต่งบ้านเก่า ๆ ไปได้เลย
1. กระเบื้องดินเผา
แม้ว่าในอดีตเทรนด์แต่งบ้านด้วยกระเบื้องดินเผาจะค่อนข้างล้าสมัย แต่ด้วยลุคที่ดูอบอุ่นและดูใกล้ชิดกับธรรมชาตินี้เอง เลยทำให้เทรนด์กระเบื้องดินเผากลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง หากจะเทรนด์นี้มาแต่งบ้านจริง ๆ ก็ไม่ควรประโคมแต่งจนเยอะมากเกินไป มิเช่นบ้านจะดูล้าสมัยเอาได้
2. วัสดุจากจุกไม้ก๊อก
อีกหนึ่งวัสดุแต่งบ้านที่นักออกแบบยุคก่อนคาดเดาเอาไว้ว่า เทรนด์นี้ต้องวนกลับมาใหม่อย่างแน่นอน แล้วก็เป็นตามคำทำนายทุกประการ เนื่องจากวัสดุจุกไม้ก๊อกมีข้อดีที่ช่วยปรับบรรยากาศภายในบ้านให้ดูอบอุ่น เพิ่มรายละเอียดให้ดูน่าสนใจ และที่สำคัญยังเป็นวัสดุที่สามารถดูดซับเสียงรบกวนได้อีกด้วย ไม่ว่าจะนำมาทำโต๊ะกาแฟ แต่งผนัง และทำเป็นของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน ก็ดูเข้าเทรนด์ในปีหน้านี้แน่นอน
3. เฟอร์นิเจอร์สีเขียวเข้ม
เรียกได้ว่าเป็นโทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากธรรมชาติ ดูน่าค้นหา และมีเสน่ห์ในตัวเอง จนทำให้การสีครามและสีน้ำเงินเข้มล้าสมัยไปในทันที และไม่ต้องกังวลว่านำสีเขียวเข้มมาตกแต่งบ้านแล้ว จะทำให้บ้านมืดจนดูน่ากลัว เพราะนักออกแบบเขาแนะนำมาว่า ให้นำสีเขียวเข้มมาแต่งบ้านเพียงบ้างส่วนเท่านั้น อย่างเช่น ทาสีห้องรับแขกให้เป็นสีขาว แต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากวัสดุหนังสัตว์ พรมขนสัตว์ โคมไฟรูปทรงโบราณ และโซฟาสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นการตัดโทนกันระหว่างสีผนังห้องและสีโซฟาได้อย่างลงตัว
4. หัวเตียงแบบหนัง
หลายคนอาจจะมองว่าหัวเตียงหนังจะเป็นเทรนด์ใหม่ได้อย่างไร ก็ในเมื่อมันได้รับความนิยมอยู่แล้วในปัจจุบัน ใช่ค่ะ…เพราะนี่เป็นการตอกย้ำว่าหัวเตียงหนังจะยังคงเป็นเทรนด์ที่นิยมกันอยู่ และได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง เนื่องจากของแต่งบ้านชิ้นมีคุณสมบัติที่ช่วยอัพเกรดห้องนอนให้ดูหรูหราเทียบเท่าโรงแรมได้เลยทีเดียว นอกจากนี้หัวเตียงที่ทำจากกำมะหยี่ก็น่าจะเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน
5. มุมส่วนตัวไร้โซเชียล
ปัจจุบันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่สังคมก้มหน้าเต็มไปหมด ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักออกแบบคาดการณ์กันว่า เทรนด์แต่งบ้านในปีใหม่นี้ บ้านจะต้องมีพื้นที่ลับสำหรับการปลีกตัวออกจากโลกโซเชียลด้วย หรือพูดง่ายคือ จัดหามุมพักผ่อนสักมุมในบ้าน ที่มีอากาศปลอดโปร่ง และแต่งด้วยโซฟาสบาย ๆ เดย์เบด พรมขนสัตว์ พรมถักผืนใหญ่ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่อำนวยความสะดวกอื่น ๆ อีกมากมายให้พักผ่อน ที่สำคัญห้องนั้นจะต้องเป็นเขตปลอดเทคโนโลยีดิจิตอลทั้งหลายทั้งปวง
6. ดอกไม้สด
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เทนรด์การตกแต่งบ้านด้วยดอกไม้สดก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักบ้านอยู่ดี ถ้าอยากปรับบรรยากาศในบ้านให้สดชื่นและดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา ก็แค่นำดอกไม้สด ๆ สีสันสวยงามมาตกแต่งในแจกันแล้วประดับตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน นอกจากนี้หากว่ากันตามหลักฮวงจุ้ย ดอกไม้สดจะช่วยเปิดรับพลังงานดี ๆ ให้เข้ามาในบ้านด้วยล่ะ
7. บาร์เครื่องดื่ม
แม้ครัวจะเป็นมุมหลักในการจัดเตรียมเครื่องดื่ม แต่เทรนด์ในปีหน้านี้จะแยกมุมเครื่องดื่มเอาไว้ที่บาร์เฉพาะไปเลย ไม่ว่าจะเป็นบาร์เครื่องดื่มแบบคอนโซล บาร์ หรือบาร์รถเข็น เอาไว้ในห้องต่าง ๆ หรือห้องที่เป็นจุดเด่นของบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้การพักผ่อนดูมีระดับมากยิ่งขึ้น
8. ทองเหลือง
เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ที่หายหน้าหายตาไปนานนับ 10 ปี แม้จะเคยถูกลืมเลือนไปจากวงการตกแต่งบ้านไป แต่อีกไม่นานเครื่องทองเหลืองในรูปแบบของแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ชนิดต่าง ๆ จะหวนกลับมานิยมอีกครั้ง แทนที่เครื่องเงินในปัจจุบัน เพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้บ้าน 2017 นี้ดูดีมีเอกลักษณ์
9. เครื่องโลหะ
แม้เครื่องโลหะจะดูเป็นวัสดุที่มีเนื้อแข็ง แต่ด้วยความเงางามและลวดลายที่สามารถแปรเปลี่ยนไปตามการออกแบบ จะช่วยสร้างจุดเด่นให้กับมุมต่าง ๆ ในบ้านได้ และกลายมาเป็นอีกหนึ่งเทรนด์แต่งบ้านในปีหน้านี้อย่างแน่นอน หากตู้ไม้ที่บ้านดูธรรมดาและจืดชืดจนเกินไป ก็แค่นำด้ามจับโละมาเปลี่ยนใส่ด้ามจับอันเดิม รับรองว่าตู้ไม้จะดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
10. โทนสียอดนิยม
โทนสีในการตกแต่งบ้านเป็นสิ่งที่ต้องอัพเดทกันอยู่ทุกปี เทรนด์สีปี 2017 อยู่ในโทนสว่างสดใส ไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีน้ำเงิน สีชมพู สีพีช สีเขียวอมฟ้า รวมทั้งโทนวัสดุต่าง ๆ ที่มีลักษณะโทนสีแบบอัญมณีตามธรรมชาติ เช่น ผ้าไหมเนื้อเบา ผ้าเนื้อโปร่ง ม่านโปร่งแสง และของแต่งบบ้านต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้บ้านดูน่าสนใจ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตรงตามที่หลายคนคาดเดากันไว้หรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบและนิยมเทรนด์ใหม่หรือเทรนด์เก่า เราก็อยากให้คุณสนุกและมีความสุขกับการตกแต่งบ้านของตัวเองให้สวยงามตามความเหมาะสมดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่าใครสนใจอยากจะอัพเกรดภาพลักษณ์บ้านให้ดูใหม่ก็ลองนำเทรนด์เหล่านี้ไปตกแต่งได้เลยค่ะ
https://home.kapook.com
ธรรมะดีๆ
นานมาแล้ว มีต้นแอปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นนึง
และก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนนึง
ชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิ้ลและก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิ้ล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันหนึ่ง เด็กน้อย กลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า
‘มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ’ ต้นไม้ถาม
‘ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆต้นไม้อีกแล้ว
ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น’ เด็กน้อยตอบ
‘ฉันไม่มีเงินจะให้ ….เก็บลูกแอปเปิ้ลของฉันไปขายสิ
เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น ‘ ต้นไม้ตอบ
เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิ้ลไปหมด และจากไปอย่างมีความสุข
หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย
ต้นไม้ดูเศร้า….
วันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น
ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
‘มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ’ ต้นไม้ถาม
‘ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว
ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง
เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม’
‘ฉันไม่มีบ้านจะให้ แต่… ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ….เอาไปสร้างบ้าน’
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไป และจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดาย และเศร้า….
วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
‘มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ’ ต้นไม้ถาม
‘เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิต และเริ่มแก่ขึ้น
ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม’
‘ใช้ลำต้นของฉันได้ เอาไปสร้างเรือ เพื่อเธอจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข’
ต้นไม้ตอบ
ดังนั้น เด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ
เขาล่องเรือไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย
หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา
คราวนี้เขาดูแก่ลงไปมาก
‘ฉันเสียใจ ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว
ไม่มีผลแอปเปิ้ลให้ …ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว’
‘ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว
ฉันปีนไม่ไหว และฉันก็แก่แล้ว’ เด็กน้อยตอบ
‘ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย’
‘ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว’
‘รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้
…… มาสิ นั่งลงข้างๆฉัน …หลับให้สบาย…’
เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม…และน้ำตาไหล……..
นี่เป็นเรื่องสำหรับทุกๆคน ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่
เมื่อเราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่…
เมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อ และแม่ และกลับมาหาท่าน
เมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา
ไม่ว่าอย่างไร…พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำได้
หวังเพียงเรามีความสุข
คุณอาจจะคิดว่า ‘เด็กน้อย’ ในเรื่องโหดร้าย
แต่นั่นคือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทำกับผู้มีพระคุณอย่าง
https://writer.dek-d.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 4/09/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
20,800.00 |
20,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,347.00 |
20,420.52 |
21,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,212.30 |
18,378.47 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
606.0 |
9,186.96 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
467.00 |
7,079.7 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,396.00 |
21,163.36 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 4/09/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
27.15 |
27.15 |
– |
27.15 |
34.71 |
27.15 |
27.15
|
27.15
|
27.15
|
27.15
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
– |
24.64
|
24.64
|
24.64
|
24.64
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.24 |
20.24 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.24 |
19.94 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
26.88 |
เบนซิน 95 |
34.26 |
– |
– |
– |
34.71 |
– |
34.76 |
34.26 |
34.26 |
34.26 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
24.99 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
27.99 |
28.67 |
28.67 |
28.67 |
28.67 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05:00 |
30 Aug 05: |