สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 26 กันยายน 2560

โอเชี่ยนฯชี้อานิสงส์บูมอีอีซี หนุนอสังหาฯพัทยาโตทุนใหญ่กว้านซื้อที่ดินรอ

“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ชี้อานิสงส์รุฐบาลบูม “อีอีซี” หนุนการลงทุนรอบใหม่ดันอสังหาฯพัทยาฟื้นตัว เผยทุนยักษ์ใหญ่กว้านซื้อที่ดินย่านจอมเทียน จ่อพัฒนาโครงการใหญ่รองรับการเติบโต พร้อมเผยโฉมห้องชุดคอลเลคชั่นใหม่ของ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน” คอนโดฯติดริมทะเล 80 ยูนิตสุดท้ายราคา 8-13 ล้านบาท

ดร.ธีระชัย พิพิธศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือของ “โอเชี่ยน กรุ๊ป” เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยา มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยบวกอยู่ในพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor : EEC) ที่ภาครัฐอนุมัติงบประมาณกว่า 700,000 ล้านบาท ในการขยายสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินทั้ง สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา อีกทั้งได้มีการลงทุนจากประเทศผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนรอบใหม่ มีการขยายการลงทุนในภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยคาดการณ์ว่าหลังจากเปิดพื้นที่ EEC แล้วจะมีความต้องการแรงงานระดับวิศวกรและกลุ่มแรงงานที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงมากกว่า 1 แสนคน ในระยะ 5 ปีนับจากนี้

นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ที่มีจุดขึ้นลงในย่านจอมเทียน ส่งผลให้พื้นที่นี้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมามีกลุ่มทุนของใหญ่ของไทยเข้ามากว้านซื้อที่ดินแปลงใหญ่หลายราย เนื้อที่ตั้งแต่ 40 ไร่ ไปจนถึง 100 ไร่ และอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินอีก 500-1,000 ไร่ ทั้งที่ติดทะเลและไม่ติดทะเล โดยคาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นศักยภาพของทำเลจอมเทียนเป็นอย่างมาก

ดร.ธีระชัย กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยไฮเอนด์ ทำเลจอมเทียนเริ่มแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น พิจารณาจากยอดขายของบริษัทในไตรามาสแรก ที่มีมูลค่าการขาย 120 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 2 ยอดขายได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 160 ล้านบาท คาดว่าจบไตรมาส 3 คาดว่าจะสร้างยอดขายอีก 200 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์​ชลบุรีในครึ่งปีแรก ตลาดชะลอตัวจากปีที่ผ่านมา 28% หรือมียอดขายที่ 18,723 ล้านบาท ขณะที่ปี 2559 ครึ่งปีแรกมียอดขาย 26,000 ล้านบาท ทั้งปีมีมูลค่าตลาด 52,000 ล้านบาท เฉลี่ยไตรมาส 13,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเป็นรายไตรมาสจะพบว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯมีการปรับตัวดีขึ้น โดยไตรมาส 1 มียอดขาย ราว 8,723 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 เติบโตขึ้นมา 15% อยู่ที่ 10,070 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 ยอดขายเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติคาดว่าสิ้นไตรมาส 3 ยอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-13,000 โดยอสังหาฯโซนชายทะเล จะมีการเติบโตมากที่สุด

นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจ Residential Business บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ในการขายห้องชุดโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน” ใหม่ซึ่งปัจจุบันมียูนิตเหลือขาย 80 ยูนิต แบ่งเป็นขนาด 1 ห้องนอน 60 ยูนิต และ 2 ห้องนอน 20 ยูนิต ด้วยการแปลงโฉมห้องชุดใหม่หมดทั้งห้องแบบพร้อมเข้าอยู่ เน้นการตกแต่งที่หรูหราในแบบบ้านพักริมทะเลสไตล์โมเดิร์น พร้อมโปรโมชั่นพิเศษตกแต่งให้ฟรีและมอบของแถมทั้งหมดที่แสดงไว้ให้ในห้องตัวอย่าง

“โครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน” เป็นโครงการคอนโดมิเนียม สูง 37 ชั้น จำนวน 268 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 120 ไร่ โดยมีขนาดห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน แต่ละยูนิตมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 76 – 313 ตารางเมตร โดยในส่วนของ New Collection นั้นมีขนาด 1 ห้องนนน พื้นที่ใช้สอย 76-90 ตร. ม. ราคาขายเริ่มต้น 9 ล้านบาท และยูนิต 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 127-159 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 13 ล้านบาท.
https://mgronline.com

อดิเรก แสงใสแก้ว

สามสมาคมแกนหลักธุรกิจอสังหาฯ เดินหน้าจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ระดมผู้ประกอบการอัดโปรโมชั่นเรียกความมั่นใจผู้บริโภค พร้อมเชื่อสถาบันการเงินช่วยสนับสนุนปล่อยสินเชื่อภายในงาน ฟื้นภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ โค้งสุดท้ายของปี

นายอดิเรก แสงใสแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 เปิดเผยว่า “อสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และนักลงทุน ในการเลือกซื้อสินค้ารูปแบบต่าง ๆ เพราะนอกจากผู้ประกอบการจะต้องการระบายสต๊อกสินค้าแล้ว ยังแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และพยายามออกโปรโมชั่นใหม่ เพื่อจูงใจลูกค้ากันมากขึ้น ท่ามกลางความพยายามของเหล่าธนาคารที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปลายปีนี้”

นอกจากนี้ โปรโมชั่นด้านการเงินจากเหล่าสถาบันการเงินที่ร่วมงานครั้งนี้ยังจะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าจะทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินลดลงจากในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งอยู่ที่ 30-35% มาอยู่ที่ระดับ 17-20% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าในครึ่งปีหลังว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ จะกลับมาเติบโตทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่งผลให้ทั้งปีมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับไม่เกิน 5% ทำให้ทางสามสมาคมอสังหาฯ ผู้จัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 เชื่อว่างานครั้งนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” 

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมบ้าน และคอนโด ครั้งที่ 37 ขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 5 ถึงวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2560 เวลา 10.00-20.00 น. ณ บริเวณโซนซี ชั้น 1 และ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยรวมโครงการมากกว่า 1,000 โครงการจากผู้ประกอบการรายเล็กถึงรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการที่มีการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ ตลอดจนสถาบันการเงิน และโบรกเกอร์อสังหาฯ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมเกือบ 200 รายมาร่วมงานครั้งนี้ สำหรับประเภทสินค้าภายในงานจะครอบคลุมโครงการอสังหาฯ ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม, รีสอร์ต, สนามกอล์ฟ ตลอดจนที่ดินเปล่า ทั้งยังมีบ้านมือสอง และบ้าน NPA อีกด้วย โดยแบ่งเป็นโครงการแนวสูง 60% และแนวราบ 40%

นายอดิเรก กล่าวว่า ผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 ยังจะได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากโปรโมชั่นทุกรูปแบบ ที่ผู้ประกอบการจำนวนมากแข่งขันกันออกมา รวมถึงโปรโมชั่นใหญ่ของงานฯ สำหรับผู้ที่จองที่อยู่อาศัยภายในงานทุก 300,000 บาท จะได้รับคูปอง 1 ใบ เพื่อลุ้นบัตรกำนัลส่วนลดเงินสด มูลค่า 1 ล้านบาท อีกด้วย โดยคาดว่าตลอดการจัดงาน 4 วัน จะมียอดคนเดินงานกว่า 100,000 คน และมียอดขายมากกว่า 4 พันล้านบาท และยอดขายต่อเนื่องตามหลังงานอีก 3-4 เท่าตัว รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

“งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 37 นี้ ยังเป็นงานที่เปิดประตูสู่ลูกค้ากลุ่ม Gen Y อย่างเต็มที่ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Living Solution” มิติใหม่แห่งพื้นที่ ที่อยู่อาศัย ซึ่งเหล่าผู้ประกอบการพร้อมเสนอโครงการที่มีรูปแบบดีไซน์ที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เหล่าผู้ประกอบการกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเริ่มลงทุนกับการพัฒนานวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยในอนาคตอย่างจริงจัง ไม่เพียงแต่ในเรื่องเทคโนโลยีด้านก่อสร้าง ระบบจัดการภายในบ้าน ระบบการซื้อขายที่อยู่อาศัยผ่านออนไลน์ ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ที่รองรับยุค Internet of Thing (IoT) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย”

ปัจจุบันมีจำนวนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุในช่วง 25-35 ปี หรือ Gen Y นิยมซื้อคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการทำงาน และต้องการไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นกลุ่มดีมานด์จริงด้วย ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายหันมาให้ความสนใจกับกลุ่มนี้มากขึ้น ในขณะนี้อีกหลายราย มุ่งจับตลาดกลาง-บน ที่มีราคา 100,000-300,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป เน้นโซนใจกลางเมืองย่าน CBD ใกล้ที่ทำงาน เดินทางได้สะดวก อย่างโซนพร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย, เพลินจิต-ชิดลม, อโศก-รัชดา-พระราม 9 และตามแนวรถไฟฟ้าเส้นสุขุมวิท ซึ่งเป็นโซนยอดนิยมของกลุ่มชาวต่างชาติอีกด้วย

“นอกจากนี้ โครงการในระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป รวมไปถึงคอนโดฯ รีเซล และโครงการคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้า ก็คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่มางานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นตลาดที่มีดีมานด์จริงอยู่ โดยเฉพาะโครงการคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า ซึ่งมีจำนวนยูนิตเปิดใหม่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก ทั้งเส้นใจกลางเมือง หรือเส้นรอบนอกเมือง ไม่ว่าจะเป็นทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงอ่อนนุช-บางนา-แบริ่ง ทำเลบนถนนลาดพร้าว ช่วงต้นรัชโยธิน-เกษตรนวมินทร์ หรือทำเลสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า เป็นต้น” นายอดิเรก กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าได้ทาง www.housecondoshow.com หรือติดตาม รายละเอียดข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook/housecondoshow และนอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน HouseCondoShow เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการค้นหาข้อมูลโครงการและโปรโมชั่นมากมายจากทุกผู้ประกอบการได้อย่างง่าย และสะดวกรวดเร็ว อีกด้วย.

https://mgronline.com


คลังเล็ง ไล่เก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก หลังพบแบงก์ซิกแซกช่วยคนรวยเลี่ยงภาษี

ภาษีเงินฝาก

 คลัง เล็งเลิกยกเว้นภาษีดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อปี หลังพบสถาบันการเงินใช้ช่องโหว่ ช่วยคนรวยหลบเลี่ยงภาษี ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% 
วันที่ 22 กันยายน 2560 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้กรมสรรพากรศึกษาแนวทางยกเลิก การยกเว้นเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี หลังจากพบว่าเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่สถาบันการเงินบางแห่งนำไปเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้ารายใหญ่ คือ เมื่อดอกเบี้ยใกล้จะถึง 20,000 บาท ซึ่งถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีแล้ว ก็ให้ปิดบัญชีเก่าแล้วไปเปิดบัญชีใหม่แทน ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย 15%

โดยขณะนี้มีแนวทางการป้องกัน 2 วิธี ได้แก่ 1. เลิกการยกเว้นเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 20,000 บาท ทุกคนต้องเสียหมดและพอสิ้นปีถึงจะให้มาขอคืนภาษีภายหลัง ซึ่งทำให้กระทบกับผู้ฝากเงินที่สุจริต เพราะธนาคารพาณิชย์บางแห่งไม่มีธรรมาภิบาล ส่วนวิธีที่ 2 ให้หน่วยงานที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน นั่นคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าไปกำชับและตักเตือน เพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก หากไม่ทำตามก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ภาษีเงินฝาก
ทั้งนี้ แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ถือว่าขัดต่อหลักธรรมาภิบาล เพราะปกติกรมสรรพากรจะยกเว้นการเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้ผู้ฝากเงินรายย่อยที่ได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี แต่จะเรียกเก็บภาษีเฉพาะผู้ที่มีรายได้ดอกเบี้ยออมทรัพย์เกิน 20,000 บาทต่อปี โดยหัก ณ ที่จ่าย 15% เพื่อต้องการสนับสนุนให้ประชาชนมีการออมเพิ่มขึ้น

ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเรื่องการยกเลิก การเว้นเก็บภาษีจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เจอกับตัวเอง
เพราะมีพนักงานธนาคารโทรศัพท์เข้ามาสอบถามว่า จะปิดบัญชีที่รายได้จากดอกเบี้ยใกล้จะถึงเกณฑ์ที่จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แล้วมาเปิดบัญชีใหม่แทนหรือไม่ แต่ตนบอกว่าให้หักภาษีไปเลย ทำให้รู้ว่ามีช่องโหว่ทางกฎหมายแบบนี้อยู่
 
https://money.kapook.com

เปิดรายได้การท่องเที่ยว 8 เดือน กระจายทั่วไทย 1.72 ล้านล้าน!

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยว 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ปี 60 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวไทย
23.54 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สร้างรายได้ให้ประเทศ 1.197 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.47% ส่วนสถานการณ์คนไทยเที่ยวภายในประเทศ ตั้งแต่
เดือน ม.ค.-ก.ค. อยู่ที่ 83.70 ล้านคน/ครั้ง (1 คนเที่ยวได้มากกว่า 1 ครั้ง) ขยายตัว 3.30% และก่อให้เกิดรายได้รวม 530,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.95% ส่งผลให้เกิดรายได้กระจายสู่ภูมิภาคต่างๆ รวม 1.727 ล้านล้านบาท ขยายตัว 7.31% และมั่นใจว่าทั้งปี จะสร้างรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย 2.7 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ หากแยกเฉพาะรายได้เดือน ส.ค.60 พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 3.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.66% ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกมากที่สุด 2.26 ล้านคน รองลงมาได้แก่ นักท่องเที่ยวจากยุโรป เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง อเมริกา โอเชียเนีย และแอฟริกา ทั้งนี้ หากแยกเป็นรายประเทศ พบว่า ประเทศที่มาเที่ยวไทยมากที่สุด 10 อันดับแรก คือ จีนมาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ลาว อินเดีย ฮ่องกง เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ ตามลำดับส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า จีนยังเป็นประเทศที่ใช้จ่ายสูงสุด ตามด้วยเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหราชอาณาจักร
ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ลาว และฮ่องกง ตามลำดับ โดยค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวดังกล่าวรวม 163,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น 66% ของรายได้รวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ พบว่า เฉพาะเดือน ก.ค.มีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 12.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น 66% ของรายได้รวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ พบว่า เฉพาะเดือน ก.ค.มีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 12.33 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.46% จากช่วงปีก่อน สร้างรายได้ 76,937 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 4 คาดว่า รายได้ไม่น่าโตต่ำกว่า 10% ซึ่งจะทำให้รายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้า 3 ล้านล้านบาท.
https://www.thairath.co.th


 สูตรสู่ความสำเร็จ

ถ้า A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z

มีค่าเท่ากับ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

แล้วจะพบว่า……

1) H+A+R+D+W+O+R+K = 8+1+18+4+23+15+18+11 = 98%

HARD WORK หรือ ทำงานหนัก มีค่าเท่ากับ 98 %

2) K+N+O+W+L+E+D+G+E = 11+14+15+23+12+5+4+7+5 = 96%

KNOWLEDGE หรือ ความรู้ มีค่าเท่ากับ 96 %

3) L+O+V+E=12+15+22+5 = 54%

LOVE หรือ ความรัก มีค่าเท่ากับ 54 %

4) L+U+C+K = 12+21+3+11 = 47%

LUCK หรือ โชค มีค่าเท่ากับ 47 %

Q ; ไม่มีสิ่งใดที่มีค่า 100 % เลยหรือ !!! แล้วสิ่งใดที่มีค่าเท่ากับ 100 %

– ใช่เงินหรือเปล่า ?……… …. …..ไม่ใช่ !!!!!

– ความเป็นผู้นำหรือเปล่า ?………ไม่ใช่ !!!!!

Q ; แล้วอะไรล่ะ ?

Ans. ; A+T+T+I+T+U+D+E = 1+20+20+9+20+21+4+5 = 100%

ATTITUDE หรือ ทัศนคติ นั่นเอง ที่มีค่าเท่ากับ 100 %

ท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่ ทุกปัญหามีทางออก . . บางทีแค่เพียงแต่เราเปลี่ยน “ทัศนคติ ”

ของเราเสียใหม่เท่านั้นเอง มีเพียงแต่ “ทัศนคติ” ของเราเท่านั้น ที่จะเป็นตัวนำทาง ไปสู่ความสำเร็จในชีวิต และงานที่ทำ

ความคิด & ทัศนคติ

สุดท้าย …. ลงมือทำ

https://writer.dek-d.com

 ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 26/09/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,450.00 20,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,325.00 20,087.00 21,050.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,192.50 18,078.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 596.00 9,035.36 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 464.00 7,034.24 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,373.00 20,814.68 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  26/09/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45
27.45
27.45
27.45
27.45
แก๊สโซฮอล E-20
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
24.94
แก๊สโซฮอล E-85 20.24 20.24 20.24 20.24
แก๊สโซฮอล 91 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18
เบนซิน 95 34.56 35.01 35.06 34.56 34.56 34.56
ดีเซลหมุนเร็ว 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49 25.49
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 28.49 29.17 29.17 29.17 29.17
มีผลตั้งแต่ 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00 07 Sep 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า