คอนโดแข่งเปิดโครงการซัพพลายส่อ“ล้น”
“คอลลิเออร์ส” ชี้สัญญาณคอนโด กรุงเทพฯ เปิดใหม่ปี 2560 ส่อ“ล้น” คาดสิ้นปีแตะ 5 หมื่นยูนิต พบไตรมาส3 ดีเวลลอปเปอร์แข่งผุดโครงการมูลค่า 6.5 หมื่นล้าน กว่า 1.8 หมื่นยูนิต สูงสุดรอบ 5 ปี
เศรษฐกิจประเทศไทยปี 2560 ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แม้มีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่กำลังซื้อ อสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่าง ที่ยังมีปัญหาการขอสินเชื่อ ซึ่งเป็นภาวะสวนทางการเปิดตัวคอนโดใหม่ในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา พบว่ามีโครงการคอนโด ในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล เปิดขายใหม่ 18,806 ยูนิต มูลค่า 6.5 หมื่นล้านบาท ถือเป็นจำนวนยูนิตเปิดใหม่มากที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 ที่เผชิญกับวิกฤติน้ำท่วมใหญ่
ขณะที่ภาพรวมกำลังซื้ออสังหาฯ ปีนี้ ถือว่ายังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดคอนโดระดับกลางถึงล่าง หรือราคา 6 หมื่นบาทถึง 1.4 แสนบาทต่อตร.ม. ที่ยังมีปัญหาการขอสินเชื่อบ้าน ขณะที่ตลาดบนและลักชัวรี ยังขยายตัวได้ เนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องกำลังซื้อ แต่เป็นเซ็กเมนต์ที่มีจำนวนยูนิตไม่มากในตลาดอสังหาฯ
รายใหญ่แข่งเปิดโครงการ
ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดคอนโดไตรมาส 3 ปีนี้ พบว่าผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ยังแข่งขันเปิดโครงการและเป็นกลุ่มขับเคลื่อนตลาดต่อเนื่อง เพื่อต้องการสร้างการเติบโตด้านยอดขายและรายได้บริษัท สะท้อนได้จากสัดส่วน 73% ของคอนโดทั้งหมดที่เปิดขายในไตรมาส 3 เป็นของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์
“โครงการที่เปิดขายใหม่ ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีหลายโครงการ หลายทำเล และบางโครงการปิดการขายหรือมียอดขายกว่า 80% ในวันที่เปิดขายวันแรก แต่ก็มีหลายโครงการอาจจะไม่ได้รับความสนใจเช่นกัน”
แม้ว่าจะมีคอนโดเปิดขายใหม่ไตรมาส 3 หลายโครงการมีอัตราการขายสูงหรือปิดการขายได้ แต่อัตราขายเฉลี่ยของโครงการที่เปิดขายใหม่ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 60% ซึ่งถือว่าสูงกว่าไตรมาสอื่นๆ ที่ผ่านมา โดยผู้ประกอบการให้ความสนใจลงทุนคอนโดราคา 6 หมื่นบาท ถึง 1.2 แสนบาทต่อตร.ม. สัดส่วน 64% เนื่องจากเน้นเปิดขายโครงการในทำเลที่ราคาที่ดินไม่สูงเกินไป เช่น เส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ ที่กำลังก่อสร้าง ทั้งสายสีเขียว สีน้ำเงิน และสีส้ม เป็นต้น
ซัพพลายคอนโดส่อล้นตลาด
นายสุรเชษฐ กล่าวว่าไตรมาส4 ปีนี้ คาดมีคอนโดเปิดขายใหม่อีกกว่า 5,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นคาดว่าทั้งปี 2560 จะมีจำนวน 5 หมื่นยูนิต จากปี 2559 ที่มีจำนวน 3.9 หมื่นยูนิต เพิ่มขึ้น 28% ขณะที่กำลังซื้อ โดยรวมปีนี้ยังไม่ฟื้นตัว โดยมีเพียงบางทำเลที่ขายได้ คือในทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงิน ที่คอนโดระดับราคา 6-8 หมื่นบาทต่อตร.ม. และคอนโดมีโอกาสปรับขึ้นได้ราว 30% เมื่อรถไฟฟ้าเปิดใช้งานและคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จ
“ซัพพลายคอนโดที่เปิดเพิ่มจำนวนมากในปีนี้ ขณะที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ถือเป็นภาวะที่ทำให้ตลาดคอนโดมีความเสี่ยงล้นตลาดตั้งแต่ปีนี้ ต่อเนื่องปีหน้าที่ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ยังมีแนวโน้มเปิดตัวใหม่ในอัตราไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นยูนิต เช่นเดียวกับปีนี้”
จับตาต่างชาติทิ้งดาวน์–เมินโอน
นอกจากนี้ยังพบสัญญาณการซื้อโครงการเพื่อลงทุนของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่เริ่มเห็นการทิ้งดาวน์ โดยไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากติดปัญหาการนำเงินออกนอกประเทศ รวมทั้งราคาคอนโด ปรับขึ้นต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้ขายต่อได้กำไรหรือผลตอบแทนต่ำ กลุ่มนี้จึงไม่ยอมเสียเงินมากขึ้นเพื่อโอน เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถขายต่อได้ จึงกลายเป็นปัญหาโอนกรรมสิทธิ์ในกลุ่มต่างชาติ
ปัจจุบันเริ่มเห็นโครงการคอนโดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1-2 โครงการที่ลูกค้าชาวจีน ไม่โอนกรรมสิทธิ์ และขายคืนให้โบรกเกอร์โดยยอมขายทุนเงินดาวน์ที่จ่ายไปแล้ว 1-2 แสนบาท ลูกค้าต่างชาติที่ไม่โอนกรรมสิทธิ์พบว่ามีสัดส่วนราว 5-10% ของจำนวนยูนิตโครงการ ซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบกับตลาด แต่เป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองในปีนี้ เพราะจะทำให้มีคอนโดนำกลับมาขายใหม่ในตลาด (รีเซล) เพิ่มขึ้น ในตลาดคอนโดพบว่ากำลังซื้อราว 60-70% เป็นกลุ่มคนไทยที่ซื้ออยู่เอง และอีก 30-40% เป็นลูกค้าต่างชาติที่ซื้อเพื่อลงทุน
“ปัญหาลูกค้าต่างชาติไม่โอนกรรมสิทธิ์ ยังไม่น่ากังวลเท่ากับลูกค้าไทยถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารในปีนี้”
คอนโดใหม่เหลือขาย 3.6 หมื่นยูนิต
นายสุรเชษฐ กล่าวอีกว่าตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา พบว่าคอนโดที่โอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ มีปีละ 5.3 หมื่นยูนิต ซึ่งมากกว่าจำนวนคอนโดเปิดขายใหม่ต่อปี ซึ่งมาจากคอนโดที่โอนกรรมสิทธิ์ส่วนหนึ่งเป็นการซื้อจากผู้ซื้อทั่วไป ไม่ใช่จากผู้ประกอบการโดยตรง ทำให้ปัจจุบันยังคงมีคอนโดเหลือขายอยู่ในตลาดอีกกว่า 3.69 หมื่นยูนิต ซึ่งเป็นภาระที่ผู้ประกอบการต้องหาทางระบายออก คาดว่าต้องใช้เวลาดูดซับอีกราว 2 ปี
ขณะเดียวกันพบว่าดีเวลลอปเปอร์ยังเปิดขายโครงการใหม่ต่อเนื่องเพื่อรักษาการขยายตัวของบริษัทให้เป็นไปแบบต่อเนื่อง ในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายจึงมีการออกแบบโครงการหรือพัฒนาโครงการที่เปิดขายใหม่ให้มีความน่าสนใจและโดดเด่นกว่าโครงการอื่นๆ ในตลาด เพื่อกระตุ้นความน่าสนใจ อีกทั้งมีการเลือกเปิดขายโครงการในทำเลที่มีแนวโน้มการขยายตัวในอนาคต เพื่อผู้ซื้อที่เป็นนักลงทุนสามารถคาดหวังผลตอบแทนที่จะได้รับในอนาคต
http://www.bangkokbiznews.com
‘แสนสิริ’ชูนวัตกรรม‘เอไอ’ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล
อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกธุรกิจที่เดินเหน้าเปลี่ยนแปลงองค์กรในยุคดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพื่อพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ “ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์” ของผู้อยู่อาศัยปัจจุบัน
ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปีนี้ถือเป็นปีแห่งการ“ทรานส์ฟอร์ม”องค์กร ด้วยการเดินหน้ารุกนวัตกรรม“พร็อพ เทค”เต็มรูปแบบ ทั้งการใช้งานโมบาย แอพ “โฮม เซอร์วิส” ตามด้วย “น้องแสนดี” (Delivery Robot) หุ่นยนต์ส่งของ เริ่มใช้ในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า รวมทั้งการเปิดตัวสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Charging Station ครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์
การปรับเปลี่ยนองค์กร โดยมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ถือเป็น “ดีเอ็นเอ”ขององค์กร ด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ควบคู่ไปกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และเซอร์วิสต่างๆ ทั้งด้วยตัวเองและร่วมกับพันธมิตร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกบ้านในยุคดิจิทัล
การเดินหน้าในธุรกิจ “พร็อพ เทค”ล่าสุดได้นำเทคโนโลยีจากบริษัทระดับโลก “Amazon Web Services” (AWS) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านไอทีผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon.com ที่มีบริการหลากหลายรวมทั้งแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) โดยร่วมมือกับ “เดลิเทค” พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีบนคลาวด์ ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรมการอยู่อาศัยสู่ยุคการใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลไม่รู้จบ (The New Era of Limitless Living)
ทั้งนี้ ได้นำร่องพัฒนานวัตกรรมเอไอ “ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย”ครั้งแรกด้วยเทคโนโลยี Artificial Intelligence solutions จาก Amazon Web Services ผ่าน Alexa ซึ่งเป็น ลำโพงอัจฉริยะ หรือ AI Box ซึ่งจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะครบวงจร
ในธุรกิจพร็อพ เทค การพัฒนาด้าน อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) ผ่านอุปกรณ์ต่างๆในที่อยู่อาศัย ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของธุรกิจอสังหาฯในยุคนี้ ดังนั้นสิ่งที่แสนสิริ ให้ความสำคัญ คือการพัฒนา “เอไอ”และบิ๊กดาต้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า พัฒนานวัตกรรมและเซอร์วิสที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยด้วยระบบอัจฉริยะ
นวัตกรรม “เอไอ บ็อกซ์” ที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตร เป็นเซอร์วิสผ่านแพลตฟอร์มเอไอ ที่จะติดตั้งและใช้งานในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 เริ่มในโครงการคอนโดมิเนียม“เดอะไลน์” ที่กลุ่มลูกค้ามีไลฟ์สไตล์เกาะติดเทคโนโลยี รวมทั้งติดตั้งในโครงการที่อยู่อาศัยระดับ“บี เซ็กเมนท์” ราคา 1.5-2.5 แสนบาทต่อตร.ม.ของแสนสิริ
ทางด้าน วิชญ์ เนียรนาทตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลิเทค จำกัด พันธมิตรด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า เอไอ บ็อกซ์ ของแสนสิริ ใช้เทคโนโลยีจาก Amazon Web Services ซึ่งใช้งานง่ายและมีบริการหลากหลาย พร้อมเปิดให้นักพัฒนาสามารถนำมาต่อยอดเพื่อให้เกิดบริการใหม่ๆ
การทำงานของ เอไอ บ็อกซ์ เริ่มด้วยฟังก์ชั่นพื้นฐาน ที่สอดรับกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การตรวจสอบยอดค่าน้ำ ตรวจเช็คพัสดุ การจองและตรวจสอบสถานะการใช้งานของห้องส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ เช่น การเปิดจองบริการของห้องโยคะ เป็นต้น พร้อมทั้งความสามารถให้ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ได้ เช่น พยากรณ์อากาศ เช็คสภาพการจราจร สรุปข่าวรายวัน รวมทั้งเชื่อมต่อการรับคลื่นวิทยุในประเทศไทย
ทวิชา กล่าวว่าหลังจากเปิดตัว เอไอ บ็อกซ์ ระยะแรกไตรมาส2 ปีหน้า แสนสิริจะนำเทคโนโลยีจาก Amazon Web Services มาใช้เพื่อพัฒนาบริการและเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ
เช่น ชอปปิง ออนไลน์ จองตั๋วบริการต่างๆ ออนไลน์ บริการเรียกรถแท็กซี่ ส่งอาหาร รับส่งสินค้า เป็นต้น โดยเชื่อมโยงกับ “โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น”ของแสนสิริ ซึ่งปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอคทีฟกว่า 2 หมื่นราย
ปีนี้แสนสิริ ใช้งบประมาณด้านพร็อพ เทค กว่า 100 ล้านบาท คาดว่าปีหน้าจะใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะ market shaper ทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อยกระดับการให้บริการและการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยเหนือความคาดหมายให้ลูกค้า
http://www.bangkokbiznews.com
หุ้นไทยทุบสถิติ ปิดทะลุ 1,700 จุดในรอบ 23 ปี รับข่าวดีนายกฯ ประกาศวันเลือกตั้ง
หุ้นไทยเด้งแรงปิดตลาดเหนือ 1,700 จุดได้สำเร็จในรอบ 23 ปี หลังนายกฯ ประกาศจะเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศจะให้มีการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ทำให้ในช่วงบ่ายของวันที่ 10 ตุลาคม ดัชนี SET INDEX ทะยานขึ้นเหนือ 1,700 จุด จนมาปิดที่ระดับ 1,706.95 จุด บวก 14.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 81,464.26 ล้านบาท ถือเป็นสถิติใหม่ในรอบ 23 ปีที่ดัชนี SET INDEX สามารถยืนเหนือ 1,700 จุดได้สำเร็จ หลังจากเคยทำประวัติศาสตร์ปิดการซื้อ-ขายสูงสุดที่ระดับ 1,753 เมื่อปี 2537
โดย นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การประกาศกำหนดวันเลือกตั้งอย่างชัดเจนทำให้นักลงทุนคลายความกังวลและมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น เพราะในมุมมองของภาคเอกชนต้องการความชัดเจนเพื่อที่แต่ละองค์กรจะได้วางแผนการลงทุนได้ถูก ซึ่งภาครัฐก็จะมีการลงทุนที่เชื่อมโยงกับภาคเอกชนด้วย
ขณะที่ในวันนี้ (11 ตุลาคม) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดทำการในช่วงเช้าพบว่า ดัชนี SET INDEX ยังทำสถิติพุ่งทะยานเหนือ 1,700 จุดอย่างต่อเนื่อง โดยจนถึงเวลา 11.26 น. ดัชนีแตะที่ระดับ 1,717.77 จุด บวกจากปิดตลาดเมื่อวาน 10.82 จุด
ก่อนจะปิดตลาดในช่วงเย็นด้วยระดับ 1,714.14 จุด บวกเพิ่มจากวันก่อน 7.19 จุด มูลค่าการซื้อ-ขาย 78,057.59 ล้านบาท
https://money.kapook.com
ก.พาณิชย์ เผยผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพฯ พร้อมใช้สิทธิ์ 17 ต.ค.นี้
ข่าวดีสำหรับผู้มีรายได้น้อยและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในพื้นที่กรุงเทพฯ และอีก 6 จังหวัดรอบ ๆ กรุงเทพฯ ร้านค้าประชารัฐพร้อมรับรูดบัตรซื้อสินค้า ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมร้านธงฟ้าประชารัฐ ในพื้นที่เขตดินแดง และเขตห้วยขวาง ซึ่งเป็นร้านที่ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ หรือ EDC และพร้อมให้บริการกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว โดยเขตดินแดงมีผู้ถือบัตรจำนวน 12,729 ราย มากที่สุดในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 552,278 ราย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้คัดเลือกร้านค้าใน กทม.ที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,000 ร้านค้า คาดว่าภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่จะได้ใช้บัตรสวัสดิการเป็นวันแรก พร้อม ๆ กับอีก 6 จังหวัดในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร โดยในกรุงเทพฯ จะมีร้านค้าพร้อมให้บริการรูดบัตรได้ จำนวน 300 ร้าน จากเป้าหมาย 800 ร้านค้า ครอบคลุม 50 เขต ทั่วกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันก็จะมีรถร้านค้าประชารัฐเคลื่อนที่ หรือ โมบายยูนิต เข้าไปช่วยเสริมการให้บริการในกรุงเทพฯ
http://www.krobkruakao.com
น้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เป็นแนวทางดำรงชีวิต
เพื่อน้อมรำลึกถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทางเว็บไซต์ Thaiware.com จึงขอรวบรวม พระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มานำเสนอ เพื่อเป็นแนวทาง เป็นหลักปฏิบัติในการดำรงชีิวิตสืบไป
“การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจ และความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตร แก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
“คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
“การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพ และความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔
“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๐๖
“คุณธรรมข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใดแก่ผู้ใดโดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคล และให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕
“หลักการสำคัญประการหนึ่ง ที่จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จ และเจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือการไม่ทำตัวทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรี ยินดีประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ร่วมงานอย่างจริงใจ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๓๐
“เมื่อมีโอกาสและมีงานให้ทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆ นั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใดย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยันและซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ๘ กรกฎาคม ๒๕๓๐
“การดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทน
เป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมั่นเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมื่อท้อใจไปแล้วไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓
“ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๓๒
“การทำงานใดๆ ไม่ว่าเล็ก ใหญ่ ง่าย ยาก ถ้าย่อหย่อนจากความเพียรแล้ว ยากที่จะให้สำเร็จเรียบร้อยทันเวลาได้ และเมื่อใดพลังของความเพียรนี้เกิดขึ้น เมื่อนั้นการงานทั้งหลายก็สำเร็จได้โดยง่ายดาย และรวดเร็ว”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๒๒
“ในการปฏิบัติงานนั้น ย่อมมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้ไข อย่าทิ้งไว้พอกพูนลุกลามแก้ยาก ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆ คนหลายๆ ทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๓
“ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ๒๕๓๙
“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒
“คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดสระบุรี ๑๖ เมษายน ๒๕๑๙
“ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพชอบ เป็นหลักสำคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบ และหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสำหรับใช้กระทำการทำงาน สิ่งหลังเป็นปัจจัยสำหรับส่งเสริมความประพฤติ และการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม ๔ จังหวัดภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๙
“สามัคคี หรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖
“ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่นๆ ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกประเทศในโลก จึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อม ให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเอง และเพื่อนมนุษย์”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึกในพิธีรับมอบเรือขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กน้อมเกล้าฯ ถวาย ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๙
“ความรู้ในวิชาการ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ และทำให้เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นคนที่สามารถ เป็นคนที่มีความพอใจได้ในตัวว่า ทำประโยชน์แก่ตนเองและแก่ส่วนรวม นอกจากวิชาความรู้ ก็จะต้องฝึกฝนในสิ่งที่ตัวต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคม สอดคล้องกับสมัย และสอดคล้องกับศีลธรรมที่ดีงาม ถ้าได้ทั้งวิชาการ ทั้งความรู้รอบตัว และความรู้ในชีวิต ก็จะทำให้เป็นคนที่ครบคน ที่จะภูมิใจได้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสวันปิดภาคเรียนของโรงเรียนจิตรลดา ๒๕ มีนาคม ๒๕๑๕
“ความจริงใจต่อผู้อื่นเป็นคุณธรรมสำคัญมาก สำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จและความเจริญ เพราะช่วยให้สามารถขจัดปัดเป่าปัญหาได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอันเกิดจากความกินแหนงแคลงใจ และเอารัดเอาเปรียบกัน นอกจากนั้น ยังทำให้ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ และความร่วมมือสนับสนุนจากทุกคนทุกฝ่าย ที่ถือมั่นในเหตุผลและความดี ผู้มีความจริงใจจะทำการสิ่งใดก็มักสำเร็จได้โดยราบรื่น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๕
“งานทุกอย่างมีบุคคลซึ่งมีชีวิตจิตใจ มีความนึกคิดเป็นผู้กระทำ ถ้าผู้ทำมีจิตใจไม่พร้อมจะทำงานเช่น ไม่ศรัทธาในงาน ไม่สนใจผูกพันกับงาน ผลงานที่ทำก็ย่อมบกพร่อง ไม่คงที่ ต่อเมื่อผู้ปฏิบัติมีศรัทธา เข้าใจซึ้งถึงประโยชน์ของงาน พร้อมใจและพอใจที่จะขวนขวายปฏิบัติงานโดยเต็มกำลังความสามารถ งานจึงจะดำเนินไปได้โดยราบรื่น และบรรลุผลตามที่มุ่งหมาย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๓๖
“การรู้จักประมาณตน ได้แก่ การรู้จักและยอมรับว่าตนเองมีภูมิปัญญา และความสามารถด้านไหน เพียงใด และควรจะทำงานด้านไหน อย่างไร การรู้จักประมาณตนนี้ จะทำให้คนเรารู้จักใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ได้ถูกต้องเหมาะสมกับงาน และได้ประโยชน์สูงสุดเต็มตามประสิทธิภาพ ทั้งยังทำให้รู้จักขวนขวายศึกษาหาความรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงส่งเสริมศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองให้ยิ่งสูงขึ้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๑
“คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วย เมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลาย มีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๒๑
“ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไรทำอย่างนั้น จึงจะได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธา เชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือพูดจริงทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐
“ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกัน จะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓
“การศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นการศึกษาที่สำคัญ และควรจะดำเนินควบคู่กันไปกับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เพราะความเจริญของบุคคล ตลอดจนถึงความเจริญของประเทศ และของโลกโดยส่วนรวมด้วยนั้น มีทั้งทางวัตถุและจิตใจ ความเจริญทั้งสองทางนี้ จะต้องมีประกอบกัน เกื้อกูลและส่งเสริมกันพร้อมมูล จึงจะเกิดความเจริญที่แท้จริงได้ ประเทศทั้งหลายจึงต่างพยายามส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พร้อมกันไปกับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๓๕
“วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัยมีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสำคัญอยู่ที่ ทุกๆ คนจะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลา เพื่อเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนนั้นด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยสามัคคีธรรม จึงจะผ่อนหนักให้เป็นเบาและกลับร้ายให้กลายเป็นดีได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๒๘ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๗
https://news.thaiware.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 12/10/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
20,200.00 |
20,300.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,308.00 |
19,829.28 |
20,800.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,177.20 |
17,846.35 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
589.00 |
8,929.24 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
458.00 |
6,943.28 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,355.00 |
20,541.80 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 12/10/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
27.05 |
27.05 |
– |
27.05 |
27.05 |
27.05 |
27.05
|
27.05
|
27.05
|
27.05
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
– |
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.04 |
20.04 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.04 |
20.04 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
เบนซิน 95 |
34.16 |
– |
– |
– |
34.16 |
– |
34.66 |
34.66 |
34.66 |
34.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
28.79 |
28.79 |
28.79 |
28.79 |
28.79 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |