สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 18 มกราคม 2561

“พฤกษา”ชูกลยุทธ์ดันรายได้ 5 หมื่นล้าน ปี61

“พฤกษา” ชี้ตลาดอสังหาฯโตต่อเนื่อง ประกาศแผนปี 61 เปิดตัว 75 โครงการ มูลค่า 6.6 หมื่นล้าน ตั้งเป้ารายได้ 5 หมื่นล้าน โต 10% สูงกว่าภาพรวม“สองเท่า” ชูกลยุทธ์พัฒนานวัตกรรม มุ่งสร้างแบรนด์ ดันตลาดแวลู-พรีเมียมขยายตัว

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดการณ์ยอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมา 5% มีมูลค่าตลาดรวม 4.20 แสนล้านบาท  ขณะที่ยอดโอนเติบโต 7.5% มีมูลค่า 3.03 แสนล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ขยายตัวปีนี้ มาจากโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาล เส้นทางรถไฟฟ้า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี  รวมทั้งมีปัจจับดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อเติบโต

ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ 75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท   เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เปิดตัว 56 โครงการ มูลค่า 59,200 ล้านบาท  โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 53,742 ล้านบาท เติบโต 13% และรายได้ 50,500 ล้านบาท เติบโต10% ถือเป็นการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม “สองเท่า”  และวางงบประมาณซื้อที่ดินปีนี้อยู่ที่ 16,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 13,000 ล้านบาท

วางโรดแมพกำไร15%

กลยุทธ์การเติบโตปีนี้มาจากการผลักดันตลาดที่อยู่อาศัยทั้งกลุ่มแมส และพรีเมียมขยายตัวจากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ตามเมกะเทรนด์“สมาร์ทโฮม”และการพัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่อาศับบตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า

การสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง เพื่อทำให้แบรนด์ที่อยู่อาศัยของพฤกษาเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้า ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์ จะโฟกัส 14 แบรนด์ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและคอนโด จากเดิมที่มี 48 แบรนด์ รวมทั้งทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น อาทิ การใช้เสาเข็มมาตรฐาน มอก. ของ GEL, ร่วมมือกับ SCG พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ในโครงการ และการพัฒนาคุณภาพสีทาบ้านร่วมกับทีโอเอ เป็นต้น

พร้อมกันนี้มุ่งสร้างฐานรายได้ประจำมากขึ้น จากการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต ขณะนี้โครงการได้ผ่าน EIA และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้ในปี 2563

นอกจากนี้วางกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ส่งผลให้เว็บไซต์พฤกษามียอดผู้เข้าชมสูงสุด และก้าวขึ้นมาเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยปีที่ผ่านมามียอดขายที่มาจากสื่อดิจิทัล 16,101 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 98%

ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าววางเป้าหมายโรดแมพกำไรสุทธิ 15% ให้ได้ภายใน 3 ปีนี้  ขณะที่ปีนี้อยู่ที่ 13.5%

ตลาดแวลูขยายลูกค้ากลาง-บน

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปีนี้ภาพรวมตลาดกลุ่มธุรกิจแวลู เติบโต 4.79% ทั้งตลาดบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม

สำหรับแผนกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจแวลูเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลางและล่าง เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม และขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังระดับกลางและบนมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ โดยนำนวัตกรรม “พฤกษา 4.0” มาใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยทุกโครงการ พร้อมจับมือร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการแนวราบบนถนนบางนา-วงแหวน มูลค่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการเมกะโปรเจคที่ใหญ่ที่สุดของปีนี้

กลุ่มพรีเมียมรายได้โต

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปีนี้เตรียมเดินหน้าตลาดพรีเมียมต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,800 ล้านบาท และเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 10,260 ล้านบาท

ปีนี้ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ของธุรกิจอสังหาฯ และมีปัจจัยความเสี่ยงของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ บริษัทจึงเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก ซึ่งจะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเพื่อสร้างความแตกต่างจากตลาดและคู่แข่ง

“ปีที่ผ่านมาถือว่าพฤกษาได้ประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมียมอย่างมาก และปีนี้ก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นอีกปีที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยปี 2562 จะเป็นปีที่กลุ่มพรีเมียมเติบโตสูงทั้งรายได้และกำไร จากการบริหารต้นทุนได้ดีและการทำงานร่วมกับพันธมิตร”

http://www.bangkokbiznews.com


รัฐปรับลดเพดาน ภาษีที่ดิน 40% พร้อมมาตรการผ่อนปรน

รัฐปรับลดเพดาน ภาษีที่ดิน 40% พร้อมมาตรการผ่อนปรน

จากที่ทางภาครัฐต้องการผลักดันกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ… สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้จัดการเสวนา และการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ… มาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปี 2562 ซึ่งจะมีการจัดเก็บภาษีในอัตราใหม่ ทำให้ผู้ที่ครองที่ดินผืนงามในกรุงเทพฯ ที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบปล่อยที่ดินออกมาขายมากขึ้น

ภาษีที่ดินฯ เร่งเจ้าของที่ดินขาย
ผลจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะประกาศใช้ในปี 2562 ทำให้เจ้าของที่ดินที่กังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนำที่ดินมาขายมากขึ้น โดยเฉพาะที่ดินในทำเลทองของกรุงเทพฯ โดยข้อมูลจากนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้เกิดการซื้อขายและเปลี่ยนมือเจ้าของที่ดินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ดินแปลงขนาดใหญ่ของตระกูลดังที่ตั้งอยู่กลางเมือง อาทิ

เอชเคอาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากฮ่องกงที่ซื้อที่ดินจากตระกูลพานิชภักดี เตรียมเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับหรูบนที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 24 ไร่ บน ถ.พระราม 3 ด้วยงบลงทุนประมาณ 2,800 ล้านบาท และที่ดินอีกแปลงที่ร่วมทุนกับกลุ่มซิตี้เรียลตี้ พัฒนาบน ถ.วิทยุ ใกล้แยกสารสินตรงข้ามสวนลุมพินี เนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ รวมทั้ง บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ยังได้ที่ดินของตระกูลพิชัยรณรงค์สงคราม เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณ ถ.หลังสวน โดยสร้างสถิติราคาขายต่อตารางวาสูงสุดถึง 3.2 ล้านบาท

รวมประกาศโครงการที่อยู่อาศัย โซนถนนวิทยุ

ภาษ๊ที่ดิน ประกาศใช้ปี 2562

ภาษ๊ที่ดิน ประกาศใช้ปี 2562

ปรับลดเพดานภาษีลง 40%
กมธ. ได้เสนอปรับลดเพดานภาษีลงประมาณ 40% โดยกรณีที่ดินเกษตรกรรม ลดเพดานเหลือ 0.15% ของฐานภาษี จากร่างกฎหมายเดิมที่คณะรัฐมนตรี กำหนดไว้ที่ 0.2% ส่วนที่ดินที่เป็นที่อยู่อาศัยลดเพดานเหลือ 0.3% จากเดิมกำหนดที่ 0.5% ขณะที่ที่ดินอื่น ๆ นอกจากเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย (รวมที่ดินรกร้างว่างเปล่า) ลดเพดานเหลือ 1.2% จากเดิมกำหนดที่ 2% แต่กรณีที่รกร้างว่างเปล่าจะมีการปรับเพิ่ม 0.3% ทุก 3 ปี แต่ไม่เกิน 3% ซึ่งต่ำกว่าเดิมที่กำหนดให้เพิ่มขึ้น 0.5% ทุก 3 ปี แต่ไม่เกิน 5%

อย่างไรก็ตาม กมธ. ได้เสนอกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ในช่วง 2 ปีแรกในอัตราผ่อนปรน ไว้ในบัญชีแนบท้ายของกฎหมาย ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป รัฐบาลขณะนั้นจะเป็นผู้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่จัดเก็บจริงต่อไป

ทั้งนี้ จะเสนอต่อที่ประชุม สนช. ภายในวันที่ 24 มกราคม 2561 คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาอีกประมาณ 60 วัน หากผ่าน สนช. จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป โดยจากการประเมินคาดว่าภาครัฐจะมีรายได้จากการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปีแรกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

https://www.ddproperty.com


พาณิชย์หวั่นภาคอสังหาฯเสี่ยงภาวะฟองสบู่

“กระทรวงพาณิชย์” เตือนภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตร้อนแรง เสี่ยงเกิดภาวะฟองสบู่ เหตุเติบโตจากเงินปล่อยกู้ไม่ใช่ความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีภาวะการค้าภาคบริการ ซึ่งเก็บข้อมูลตามหลักสากลจาก 13 สาขาหลัก ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคบริการเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยพบว่าดั ชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยในปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ขยายตัวต่อเนื่องจากร้อยละ 2.7 ในปี 2559 สะท้อนถึงสถานการณ์การค้าภาคบริการที่ยังอยู่ในระดับดี ซึ่งภาคบริการในรายสาขาเกือบทุกสาขาปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะสาขาอสังหาริมทรัพย์, สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร , และสาขาการขายส่งและขายปลีก ส่วนในปี 2561 แนวโน้มการค้าภาคบริการ จะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง จากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่ยังมีแผนในการลงทุนใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีความกังวลในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตร้อนแรงและเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่ เนื่องจากเป็นการเติบโตมาจากจำนวนเงินที่ปล่อยกู้ ไม่ได้เติบโตจากความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ ซึ่งอาจจะต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เหมาะสมต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในการกำกับดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน สัดส่วนการค้าภาคบริการคิดเป็นร้อยละ 61.5 ของจีดีพี หรือ มีมูลค่ารวมประมาณ 8 ล้านล้านบาท จากมูลค่าจีดีพีรวม 14 ล้านล้านบาท สำหรับธุรกิจบริการทั้ง 13 สาขาประกอบด้วย 1.อสังหาริมทรัพย์ 2.ที่พักแรม 3.การขายส่ง 4.การขนส่ง 5.การก่อสร้าง 6.กิจกรรมทางการเงิน 7.กิจกรรมด้านสุขภาพ 8.ศิลปะ 9.ข้อมูลข่าวสาร 10.กิจกรรมการบริหาร 11.กิจกรรมวิชาชีพ 12.การศึกษา และ 13.กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ เป็นต้น

http://www.bangkokbiznews.com


CES 2018 : แนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ชี้นำอนาคต

CES 2018 : แนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ชี้นำอนาคต

ก้าวเข้าสู่เดือนมกราคม ปี 2018 ประเดิมศักราชใหม่ด้วยงาน CES 2018 (Consumer Electronics Show) ที่จัดขึ้น ณ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 9 – 12 มกราคม 2018 งานใหญ่ที่รวบรวมเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมเป็นตัวชี้นำให้เห็นถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีที่คาดว่าจะขึ้นตลอดทั้งปีนี้

ก่อนที่งาน CES 2018 จะเริ่มขึ้น เรามีวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ทั้ง 8 อย่างที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ไปชมกันครับ

1.ชาร์จไร้สายแบบ Over-the-air

wattup-1024x684

สมาร์ทโฟนในปัจจุบันหลายรุ่นรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging) บ้างแล้ว แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยีในลักษณะนี้ยังต้องพึ่งพาแท่นชาร์จ แต่ความฝันของเทคโนโลยีนี้ต้องสามารถชาร์จแบบไร้สายได้อย่างแท้จริง หรืออีกนัยหนึ่งคือ “การส่งพลังงานเพื่อชาร์จผ่านทางอากาศ” (Over-the-air)

ซึ่งบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Energous ได้รับการอนุมัติจาก Federal Communications Commission คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ หรือ FCC สำหรับเครื่องส่งพลังงานไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระยะ 3 ฟุต ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, นาฬิกาอัจฉริยะ, คีย์บอร์ดไร้สาย เป็นต้น เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีส่งพลังงานแบบไร้สายผ่านทางอากาศ นอกจากนี้ยังมีบริษัท Powercast ที่นำเสนอเครื่องส่งพลังงานสำหรับการชาร์จแบบไร้สายได้ไกลถึง 80 ฟุต

ซึ่งคาดว่าต้นแบบและการสาธิตเทคโนโลยีสมัยใหม่นี้จะมีปรากฏให้เห็นในงาน CES 2018 นี้

2.ทีวีแบบ Micro-LED

ces-2018-tc

ปกติเรามักได้ยินแต่ทีวีแบบ LED แต่สำหรับงาน CES 2018 มีการคาดการณ์ว่า Samsung เตรียมเปิดตัวทีวีแบบใหม่ที่เรียกว่า Micro-LED ที่ใช้หลอดไฟ LED ขนาดเล็กกว่า 100 micrometers ให้ประโยชน์ต่อการผลิตแสงในตัวเอง พร้อมอัตราความคมชัดสูงและให้สีดำที่ดำสนิท นอกจากนี้ยังเป็นทีวีที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำอีกด้วย

3.Smart home

ces-2018-smarthone

เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา อุปกรณ์ประเภทลำโพงอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียงได้ กลายเป็นเทรนด์ที่บริษัทด้านเทคโนโลยีให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดย Alexa จาก Amazon ถือเป็นอุปกรณ์ภายในบ้านที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีอีกหลายบริษัทก็ได้คิดค้นและพัฒนาอุปกรณ์ในลักษณะดังกล่าวออกมาชิงชัยกันอย่างคึกคัก

สำหรับในงาน CES 2018 อุปกรณ์อัจฉริยะประเภท Smart Home ที่สามารถรับคำสั่งเสียงและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ภายในบ้านได้ จะมีความฉลาดและทันสมัยมากขึ้น และคาดว่าจะได้อุปกรณ์ใหม่ ๆ ในลักษณะเดียวกันนี้เปิดตัวเพิ่มมากขึ้น

4.อีกก้าวของ Augmented reality

ces-2018-ar

จากปรากฏการณ์ของเกม Pokemon GO ที่นำเสนอรูปแบบการเล่นเกมในลักษณะ Augmented reality หรือ AR จนกลายกระแสความนิยมไปทั่วโลก สร้างความคึกคักให้กับวงการ AR เป็นอย่างมาก และนั่นนำไปสู่การต่อยอดของการพัฒนา AR ร่วมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้คนที่สามารถเข้าถึงโลกเสมือนจริงภายใต้โลกแห่งความเป็นจริงได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่หลายบริษัทจะนำเสนอเทคโนโลยี AR ใหม่ๆ ภายในงาน CES 2018 ได้แก่ Carl Zeiss, Occipital, Kinmo, Kodak, Royole และ Sony

5.สงครามในตลาด “โน้ตบุ๊ค” จะดุเดือดอีกครั้ง

ces-2018-laptop

ตลาดโน้ตบุ๊คที่ซบเซาไปหลายปี แต่คาดการณ์ว่าในงาน CES 2018 เราจะได้เห็นการแข่งขันของผู้ผลิตโน้ตบุ๊คกันอย่างดุเดือด ซึ่งโน้ตบุ๊คประเภทที่มีน้ำหนักเบา ประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การพกพา ดีไซน์สวยงาม สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน มีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวในฝั่งผู้ผลิตซีพียูสองค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Intel และ AMD จะยังขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด และที่น่าจับตามอง คือ Qualcomm ที่เริ่มหันมาพัฒนาซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊คที่ใช้ Windows 10 S โดยมี ASUS กับ HP ได้สองพาร์ทเนอร์แรก

6.หุ่นยนต์

ces-2018-robot

อย่าหวาดวิตกครับว่าปีนี้เราจะมีหุ่นยนต์ประเภทเดียวกับในหนังอย่าง iRobot หรือ Terminator แต่หุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะถูกนำมาโชว์ในงาน CES 2018 จะเน้นไปในเชิงการเป็นผู้ช่วยให้กับผู้คน หรือเป็นผู้ช่วยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่จะพัฒนามากขึ้น คือ Artificial Intelligence หรือ A.I. เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ให้มีความสามารถในการโต้ตอบกับผู้คนได้มากขึ้น เข้าใจในภาษาพูด สามารถวิเคราะห์และให้คำแนะนำ หรือช่วยตัดสินใจให้กับผู้คนได้มากขึ้น

7.สมาร์ทโฟน

ces-2018-smarthone-01

แม้ตัวเลขการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนจะไม่พุ่งสูงมาก แต่การแข่งขันของผู้ผลิตจำนวนมากยังเป็นไปอย่างเข้มข้น งานออกแบบค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงสเปคและประสิทธิภาพที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคา ซึ่งในงาน CES 2018 คาดว่าจะมีผู้ผลิตบางรายใช้โอกาสนี้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งงานออกแบบอย่างตัวเครื่องที่ทำขึ้นจากกระจก, สัดส่วนหน้าจอ 18:9, กล้องคู่, ตัด headphone jack ทิ้ง และกันน้ำได้ จะมีมากับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปี ส่วนจะมีค่ายไหนบ้างต้องรอติดตามครับ

8.Smart Car

ces-2018-smart-car

ตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา ทิศทางของตลาดรถยนต์เริ่มพุ่งเป้าไปที่การพัฒนารถยนต์ส่วนบุคคลที่สามารถขับเคลื่อนเองได้อัตโนมัติ พร้อมระบบอัจฉริยะที่สามารถควบคุมและให้ความปลอดภัยกับคนนั่งได้ แถมช่วงปลายปีก็เริ่มมีค่ายรถยนต์บางรายเริ่มพัฒนารถโดยสารขนส่งสาธารณะแบบขับเคลื่อนเองอัตโนมัติบ้างแล้วเช่นกัน รวมไปถึงการพัฒนารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า, ไนโตรเจน หรือพลังงานอื่นๆ ทดแทนการใช้น้ำมัน ซึ่งใน CES 2018 รถยนต์จะยังเป็นไฮไลท์สำคัญภายในงาน ส่วนจะมีการพัฒนาไปทิศทางไหน และจะเปลี่ยนมุมมองของรถยนต์แบบเดิม ๆ ไปอย่างไรบ้าง แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ

https://hitech.sanook.com


เครื่องดื่มลดพุง สำหรับผู้ชายรักสุขภาพ

เครื่องดื่มลดพุง สำหรับผู้ชายรักสุขภาพ

นอกจากการออกกำลังกายซึ่งช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินและลดหน้าท้อง การดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำให้คุณมีหน้าท้องแบบราบได้เช่นกัน วันนี้เรามีตัวอย่างเครื่องดื่มสำหรับลดพุงมาฝากทุกๆ คน

1. ชามินต์ คุณสมบัติของมินต์คือช่วยย่อยสลายไขมัน แม้แต่อาหารไขมันสูงอย่างเบอร์เกอร์หรือสเต็ก ก็จะถูกย่อยอย่างรวดเร็ว แถมยังลดอาการท้องอืด พร้อมเร่งการขับถ่ายได้อีกด้วย

2. ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า “คาเทซิน” ช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ เพียงจิบชาเขียวก่อนออกกำลังกาย ก็ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันในระหว่างนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ชาเขียวที่เราพูดถึงคือชาเขียวจริงๆ ไม่ใช่กากชาผสมน้ำตาล แต่งกลิ่นแล้วบรรจุขวดออกมาขาย

3. นมถั่วเหลือง เพราะถั่วเหลืองมีสารแลคตินที่ช่วยป้องกันการสะสมไขมันของเซลล์ในร่างกาย พร้อมกับช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เพียงดื่มนมถั่วเหลือง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี

4. น้ำเปล่า เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด และยังดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย รวมทั้งช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ทั้งยังลดอาการบวมน้ำได้ด้วย

5. น้ำแตงโม มีสารอาหารมากมาย เช่น ไลโคปีนที่ช่วยต้านมะเร็ง รวมถึงกรดอะมิโนที่ชื่อว่า “อาร์จินีน”   โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition ระบุว่า น้ำแตงโมช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ แต่คุณก็ต้องออกกำลังกายอย่างจริงจังควบคู่กันไปด้วย

6. น้ำสับปะรด มีสารที่เรียกว่า “โบรมีเลน” ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้การย่อยอาหารง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดอาการท้องอืด นอกจากนั้นการใส่น้ำมันที่สกัดจากเมล็ดเฟล็กซ์ผสมลงไป ก็ถือเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย เพราะมีไขมันโมเลกุลเดี่ยวที่ไม่อิ่มตัวในปริมาณค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พึงตระหนักก็คือ ไม่ว่าอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ก็ควรจะรับประทานให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย เพราะหากรับประทานน้อยเกินไปจะขาดสารอาหาร แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจเกิดการสะสมในร่างกาย ที่สำคัญ ควรหาเวลาออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย

https://www.sanook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 18/1/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,000.00 20,100.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,296.00 19,647.36 20,600.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,166.40 1,166.40 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 583.00 8,838.28 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 454.00 6,882.64 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,343.00 20,359.88 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  18/1/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 28.45 28.45 27.95 28.45 28.45
28.45
28.45
28.45
28.45
แก๊สโซฮอล E-20
25.94
25.94
25.94
25.44
25.94
25.94
25.94
25.94
25.94
แก๊สโซฮอล E-85 20.94 20.94 20.94 20.94
แก๊สโซฮอล 91 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18
เบนซิน 95 35.56 36.01 36.06 35.56 35.06 35.56
ดีเซลหมุนเร็ว 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.59 30.59 30.59 30.59 30.59
มีผลตั้งแต่ 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00 18 Jan 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า