สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561

คอนโดรัชดาฯโซนฮิต‘อยู่อาศัย-ลงทุน’

“รัชดาภิเษก”เป็นถนนสายสำคัญอีกเส้น ที่เชื่อมต่อพื้นที่โซนพระราม9-ลาดพร้าวเข้าด้วยกัน ตลอดระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงรัชโยธิน มีโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตที่จะเชื่อมต่อกับ “เอ็มอาร์ที” ปัจจุบัน 2 จุด และมีเมกะ โปรเจค จำนวนมาก

ส่งผลให้ย่าน พระราม9-รัชดา เป็นพื้นที่ใจกลางธุรกิจแห่งใหม่ ที่ขยายตัวมาจากพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน จึงไม่น่าแปลกใจที่ย่านนี้ เป็นอีกหนึ่งทำเลน่าสนใจสำหรับที่อยู่อาศัย แหล่งงาน หรือแม้แต่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการปล่อยเช่า

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า “ถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อถนนหลักสำคัญหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนลาดพร้าว ถนนสุทธิสาร และถนนพระราม 9 ถนนทั้ง 3 เส้นที่ตัดผ่าน ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกัน ทั้งแง่การกระจุกตัวของที่อยู่อาศัย ออฟฟิศ ศูนย์การค้า

ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนไปถึงราคาอสังหาฯในพื้นที่นั้นๆ ด้วย ทั้งนี้ทำเลรัชดาภิเษกครอบคลุมจาก รัชดา-พระราม 9, รัชดา-สุทธิสาร และรัชดา-ลาดพร้าว

ด้านการอยู่อาศัย ความโดดเด่นของ 3 ทำเลนี้ ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิต ทำงาน และการเดินทางที่สะดวกด้วยระบบราง ด้านราคา ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 9.3% ต่อปี จากราคาเฉลี่ย 86,900 บาทต่อตร.ม. ในปี 2556 เป็น 116,000 บาทต่อตร.ม. ในปี 2560

“ราคาที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการเติบโตของราคาในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่เฉลี่ย 10% ต่อปี เห็นได้ว่าแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน”

หากเทียบเป็นโซนย่อยของรัชดา ทำเลรัชดา-ลาดพร้าว เติบโตสูงกว่าเขตกรุงเทพฯ ชั้นในอย่างเห็นได้ชัด เฉลี่ยอยู่ที่ 15% ต่อปี สะท้อนศักยภาพการลงทุนและการเติบโตของชุมชนในทำเลนี้  ทำเลรัชดา-สุทธิสาร มีราคาเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี สะท้อนการเติบโตของตลาดและความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ทำเลรัชดา-พระราม 9 ราคาเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี เป็นทำเลศักยภาพใกล้ย่านธุรกิจ

ด้านการลงทุนคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ มีอัตราเฉลี่ยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 5.39% เปรียบเทียบทำเลในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน เฉลี่ยอยู่ที่ 3-5% ทำให้คอนโดในทำเลนี้น่าสนใจในด้านการลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งเนื่องมาจากเป็นทำเลที่ใกล้โซนออฟฟิศและยังมีศักยภาพสำหรับการปล่อยขายและเช่าตลาดลูกค้าต่างชาติอีกด้วย

หากวิเคราะห์ลักษณะพื้นที่รัชดาภิเษก แบ่งได้เป็น 3 ส่วน

โซนรัชดา-พระราม 9 พื้นที่เชื่อมต่อเมือง เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์กลางออฟฟิศในอนาคต  พื้นที่ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงสถานีเอ็มอาร์ที ศูนย์วัฒนธรรม มีอุปทานรวม 6,279 หน่วย อัตราขายรวม 89% ราคาเฉลี่ย 132,600 บาทต่อตร.ม. เป็นโซนที่มีราคาต่อตร.ม.เฉลี่ยสูงสุดของทำเลรัชดา เนื่องจากเชื่อมต่อจากอโศก-สุขุมวิท เป็นย่านพื้นที่ดินราคาแพงของกรุงเทพฯ มีศูนย์การค้าเกิดขึ้นจำนวนมาก

โซนรัชดา-สุทธิสาร แหล่งท่องเที่ยวและออฟฟิศ โซนเปลี่ยนผ่านไปยังชุมชนกรุงเทพฯ ชั้นกลาง พื้นที่ตั้งแต่สถานีเอ็มอาร์ที ศูนย์วัฒนธรรม แยกเทียมร่วมมิตรไปจนถึงแยกสุทธิสาร มีอุปทานรวม 3,305 หน่วย อัตรขายรวม 93% ราคาเฉลี่ย 117,875 บาทต่อตร.ม. โดยราคาขายต่ำลงมาจาก โซนรัชดา-พระราม 9 ประมาณ 11% พื้นที่โซนนี้เต็มไปด้วยออฟฟิศ และแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวเกาหลีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

โซนรัชดา-ลาดพร้าว พื้นที่เชื่อมต่อไปยังชานเมืองหลายเส้นทาง มีความเป็นชุมชนและราคาคุ้มค่า พื้นที่ตั้งแต่แยกสุทธิสารไปจนถึงแยกรัชโยธิน มีอุปทานรวม 5,256 หน่วย อัตราขาย 68%  ราคาเฉลี่ย 100,200 บาทต่อตร.ม. มีคอนโดเปิดใหม่จำนวนมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีกำหนดวันเข้าก่อสร้างที่ชัดเจน ส่งผลให้มียูนิตเหลือขายอีกจำนวนหนึ่ง จากโครงการเปิดใหม่ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดเล็ก มีความเป็นชุมชน

ในปี 2563 รถไฟฟ้าสายสีเหลืองก่อสร้างแล้วเสร็จ “รัชดาภิเษก”จะเป็นทำเลที่กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจมาพัฒนาโครงการในบริเวณนี้มากขึ้น โดยเฉพาะทำเลจุดตัดของรถไฟฟ้าทั้ง สายสีเหลืองและสายสีส้ม ซึ่งเริ่มก่อสร้างไปแล้วทั้งสองสาย

http://www.bangkokbiznews.com


จับตา 5 ทำเลแนวรถไฟฟ้า ราคาพุ่งขึ้นสูงสุด 173.7%

จับตา 5 ทำเลแนวรถไฟฟ้า ราคาพุ่งขึ้นสูงสุด 173.7%

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการศึกษาดัชนีแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานีสมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม พบว่า ในปี 2560 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 65.6% โดยทำเลที่มีการปรับเพิ่มมากที่สุดอยู่บริเวณแนวรถไฟฟ้า 5 สาย สูงสุดถึง 173.7%

ดัชนีราคาที่ดินเปล่าฯ ปี 60 เพิ่ม 65.6%
ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2560 มีค่าดัชนีเท่ากับ 165.6 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 65.6% เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี 2555 = 100) และปรับเพิ่มขึ้น 13.2% เมื่อเทียบกับปี 2559 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 146.3 จุด ทั้งนี้ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา มีการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2556 คือ ปรับเพิ่มขึ้น 14.9% ส่วนในปี 2559 มีการปรับเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือ ปรับเพิ่มขึ้น 4.6%

สำหรับไตรมาส 4 ปี 2560 ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 168.3 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2560 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 166.5 จุด และปรับเพิ่มขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2559 มีค่าดัชนีเท่ากับ 149.6 จุด ทั้งนี้ ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา มีการปรับเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในไตรมาส 1 ปี 2559 คือ ปรับเพิ่มขึ้น 2.7% และช่วงเวลาที่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ ไตรมาส 1 ปี 2557 โดยปรับเพิ่มขึ้น 19%

ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ มีการปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า

ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ มีการปรับตัวขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า

5 ทำเล ราคาที่ดินปรับตัวสูงสุด
ทำเลตามแนวเส้นรถไฟฟ้าที่มีการปรับราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก (ไตรมาส 4 ปี 2560 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555) มีดังนี้

1. รถไฟฟ้าสาย MRT มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุด 173.7% หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 29% ต่อปี
2. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 169.5% หรือเฉลี่ย 28.2% ต่อปี
3. รถไฟฟ้าสายสีทอง ช่วงธนบุรี-ประชาธิปก มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 148.9% หรือเฉลี่ย 24.8% ต่อปี
4. รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 148.1% เฉลี่ย 24.7% ต่อปี
5. รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-ม.ธรรมศาสตร์รังสิต มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 144.3% หรือเฉลี่ย 24.1% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวของราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 มีอยู่ 2 ปัจจัยคือ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับผังเมือง ที่ทำให้ราคาที่ดินราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 22.8% และแผนการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนตั้งแต่การเริ่มโครงการ การก่อสร้าง หรือการเปิดให้บริการ ที่มีส่วนผลักดันให้ราคาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 24.6%

https://www.ddproperty.com


กองทุนวรรณจัดงาน เปิดมุมมองเศรษฐกิจ พิชิตการลงทุน ปี 2561

เทรนด์ลงทุน 61

บลจ.วรรณ มองทิศทางการลงทุนปี 2561 แนะหุ้นเทคโนโลยี-การเงิน มาแรงสุด มีโอกาสโตก้าวกระโดด คาดทั้งปี SET วิ่งในกรอบ 1,680-1,900 จุด หลังภาพรวมตลอดยังแข็งแกร่ง

          บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด ได้จัดงานเสวนา “ONEAM INVESTMENT FORUM 2018” ส่องเศรษฐกิจ พิชิตการลงทุน ปี 61 ผ่านการวิเคราะห์นโยบายของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก เจาะลึกการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ และพิเศษกับการเกาะติด Cypto currency การลงทุนรูปแบบใหม่ในโลกออนไลน์

เทรนด์ลงทุน 61

การเสวนาในครั้งนี้ ดำเนินรายการโดยคุณสุรศักดิ์ ธรรมโม หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด ร่วมด้วยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในวงการตลาดเงิน ตลาดทุน ได้แก่ ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย, ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด (มหาชน), คุณอิศราดร หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Omise จำกัด และคุณพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด

          สำหรับประเด็นที่น่าสนใจของงานในครั้งนี้ อยู่ที่เรื่องทิศทางการลงทุนปี 2561 โดยคุณพจณ์ หะริณสุต  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ มีมุมมองว่า หุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่น่าลงทุนที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด และกลุ่มสถาบันการเงิน ที่จะได้รับอานิสงส์ในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

เทรนด์ลงทุน 61

โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยปีนี้ คาดว่า SET Index จะอยู่ในกรอบ 1,680-1,900 จุด จากเศรษฐกิจไทยที่คาดจะขยายตัวประมาณ 3.5-4% เพราะภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกยังดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนของภาครัฐว่าจะมากน้อยขนาดไหน โดยอยากให้นักลงทุนมองผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลักในการตัดสินใจเข้าลงทุน

          ส่วนกรณีที่ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวมองว่าเป็นการพักฐานเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งเป็นโอกาสทยอยเข้าซื้อของนักลงทุน และเชื่อว่าไม่ใช่สัญญาณของการเกิดวิกฤตทางการเงินแน่นอน เป็นแค่ความกังวลของตลาดในเรื่องนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า

          “การที่ตลาดลงแรงในช่วงนี้ น่าจะเป็นแค่การปรับฐาน เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นไทยขึ้นทุกปี ปีละกว่า 20% และยืนยันว่าคงไม่ใช่วิกฤตทางการเงินอะไร แต่เป็นการแพนิคของนักลงทุน เรื่้องการปรับดอกเบี้ยมากกว่า” นายพจน์ กล่าว

 

เทรนด์ลงทุน 61

          ขณะที่ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ในปี 2561 การลงทุนในหุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น เนื่องจาก Real Bond Yield ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของหุ้นทั่วโลก ยังคงต่ำอยู่ที่ประมาณ 0.6-0.8% ทำให้ต้นทุนทางการเงินค่อนข้างต่ำ เพราะฉะนั้น การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้น จึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

          อย่างไรก็ตาม มองว่าการที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงในตอนนี้ เป็นโอกาสในการทยอยเข้าลงทุน และมองว่าน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน จึงจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยังคงเป้าหมาย SET Index ปีนี้อยู่ที่ 1,900 จุด อิง P/E ระดับ 16.5 เท่า

เทรนด์ลงทุน 61

           ด้านมุมมองทางฝั่งธนาคารแห่งประเทศไทย โดย ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ต้องจับตามองในปีนี้ จะเป็นเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ทั้งเรื่องอัตราค่าจ้างแรงงาน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กระทบต่อการลงทุนทั่้วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร

          ทั้งนี้ ธปท. คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แต่ก็มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดี ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่น ยังคงดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่คงยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วนี้

เทรนด์ลงทุน 61

          นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการพูดคุยเรื่องทิศทางธุรกิจ Fintech ในปี 2561 โดยนายอิศราดร หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท Omise จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนเกี่ยวกับ Fintech ในตอนนี้ มองว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล (Cypto Currency) ยังคงน่าสนใจ โดยเฉพาะการทำ ICO (Initial Coin Offering) ที่มีหลายบริษัทสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก เพราะมองเห็นโอกาสตรงจุดนี้

          อย่างไรก็ตาม การลงทุน Cypto Currency ในปัจจุบัน ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องกังวล ได้แก่ การเข้ามาตรวจสอบขององค์กรกำกับดูแลต่าง ๆ (Regulator) แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่หลายองค์กรกำกับดูแลหลายแหล่งให้ความสนใจในเรื่องนี้ เพราะจะทำให้การลงทุนใน Cypto Currency มีความชัดเจนมากขึ้น

เทรนด์ลงทุน 61

ทั้งนี้ Omise เป็นบริษัท Startup สัญชาติไทย ที่ให้บริการชำระเงินออนไลน์ และเป็นบริษัทแรกในไทย ที่มีการระดุมผ่าน ICO ด้วยการออกเหรียญดิจิทัลที่ชื่อว่า “OmiseGo” (OMG) ในเดือนกรกฎาคม ปี 2560 ซึ่งได้เงินจากการระดมทุนไปประมาณ 870 ล้านบาท

https://money.kapook.com


‘รมว.พาณิชย์’ คาดส่งออกปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 6%

“รมว.พาณิชย์” คาดส่งออกปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 6% รอผลประชุมทูตพาณิชย์ 21-22 ก.พ.นี้ ก่อนเคาะเป้าหมายชัดเจน!!

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า ในเบื้องต้นจากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ประเมินร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 61 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 6% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอผลสรุปจากที่ประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 21-22 ก.พ.นี้ก่อน แต่ก็เชื่อว่าเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไม่น่าจะโตต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน

“เราคาดในเบื้องต้นว่าเป้าหมายการส่งออกปีนี้ น่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 6% แต่ขอรอดูตัวเลขอย่างเป็นทางการในการประชุมทูตพาณิชย์วันที่ 21-22 ก.พ.นี้ก่อน ว่าจะออกมาเท่าไร” รมว.พาณิชย์ กล่าว

พร้อมมองว่า จากสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง จะต้องนำมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณาเพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ โดยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้คงสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ระดับ 32-34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี เห็นว่าทิศทางของเงินบาทยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้อีก

http://www.bangkokbiznews.com


Foodvisor แอปฯ วิเคราะห์อาหารจากภาพถ่าย บอกได้ว่ากี่แคล

Foodvisor

Foodvisor แอปฯ วิเคราะห์อาหารจากภาพถ่าย บอกได้ว่ากี่แคลอรี่ มีสารอาหารอะไรบ้าง

Foodvisor แอปฯ สำหรับคนรักสุขภาพ โดยหน้าที่ของแอปฯ นี้ก็คือมันสามารถวิเคราะห์อาหารจากภาพถ่ายได้ เพื่อบอกว่าอาหารจานนั้นเป็นเมนูใด มีสารอาหารและให้พลังงานกับร่างกายเท่าไร เพื่อให้ผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการคุมน้ำหนักสามารถเลือกรับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น และถ้าหากแอปฯ ให้ข้อมูลผิดผู้ใช้ก็สามารถร่วมกันแก้ไขเพื่อให้ฐานข้อมูลเก็บข้อมูลอาหารมาใช้วิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น และยังสามารถสแกนบาร์โค้ดของอาหารต่าง ๆ เพื่อดูข้อมูลโภชนาการได้อีกเช่นกัน

Foodvisor

นอกจากนี้ Foodvisor ยังสามารถติดตามและบันทึกสถิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่ได้จากอาหารในแต่ละวัน การเคลื่อนไหวและการออกกำลังกายสามารถเผาผลาญพลังงานแคลอรีไปมากเท่าไรแล้ว ซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายได้ เช่น น้ำหนักที่ต้องการลด โดยแอปฯ Foodvisor จะช่วยบันทึกและแสดงสถิติพร้อมทั้งแนะนำสิ่งที่ผู้ใช้ควรปรับปรุงเมื่อทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ โดยวิเคราะห์จากสถิติที่ผู้ใช้ได้ทำไปแล้ว

https://men.kapook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 08/02/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,700.00 19,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,276.00 19,344.16 20,300.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,148.40 17,409.74 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 574.00 8,701.84 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 447.00 6,776.52 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,322.00 20,041.52 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  08/02/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 28.45 28.45 28.45 28.45 28.45 28.45 28.45 28.45 28.45
แก๊สโซฮอล E-20 25.94 25.94 25.94 25.94 25.94 25.94 25.94 25.94 25.94
แก๊สโซฮอล E-85 20.94 20.94 20.94 20.94
แก๊สโซฮอล 91 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18
เบนซิน 95 35.56 36.01 36.06 35.56 35.06 35.56
ดีเซลหมุนเร็ว 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59 27.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.59 31.46 31.46 31.46 31.46
มีผลตั้งแต่ 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00 03 Feb 05:00

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า