สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561

คอนโดเปิดใหม่ทำเลสี่แยกรัชโยธินราคาพุ่ง

หนึ่งในพื้นที่ ที่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำนวนมากในกรุงเทพฯ คือ พื้นที่รอบๆ สี่แยกรัชโยธิน ที่เรียกว่าเป็นทำเลฮอตของดีเวลลอปเปอร์

นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์  กล่าวว่า ทำเลสี่แยกรัชโยธิน เรียกได้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมาหลายโครงการแล้วก็ตาม แต่ก็ทิ้งช่วงหรือว่าว่างเว้นไปหลายปีก่อนหน้านี้

พื้นที่รอบๆ สี่แยกรัชโยธินเป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้หลายปี เพราะมีทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกันประมาณ 5 แสนตารางเมตร อีกทั้งมีคอมมูนิตี้มอลล์และไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินหรือว่าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทำให้พื้นที่นี้มีศักยภาพมาก่อนหน้านี้แล้ว แม้จะยังไม่มีเส้นทางรถไฟฟ้าก็ตาม

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต – คูคต) ที่มีกำหนดเปิดให้บริการใน ปี 2563 แต่อาจจะเปิดให้บริการบางสถานีภายในปี 2562 และเริ่มการก่อสร้างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี 2558 แต่เริ่มทำให้ความสนใจในพื้นที่นี้มีมากขึ้นตั้งแต่มีการรื้อสะพานข้ามแยกเกษตรและสะพานข้ามแยกรัชโยธินในปี 2558-2559 โดยผู้ประกอบการเริ่มเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมกันมากมายในปี 2560 แม้จำนวนคอนโดมิเนียมอาจจะยังไม่มากเทียบเท่ากับบางปีในอดีต เป็นเพราะว่าโครงการที่เปิดขายในปี 2560 ล้วนเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มีจำนวนยูนิตไม่มากเมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้

คอนโดมิเนียมสะสมที่เปิดขายมาก่อนหน้านี้มีทั้งหมดประมาณ 8,779 ยูนิตโดยกว่า 90% เป็นโครงการที่เปิดขายมาก่อนที่เส้นทางรถไฟฟ้าจะเริ่มการก่อสร้าง โดยอัตราการขายของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายรวมทั้งหมดในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 91% ที่อัตราการขายสูงก็เพราะบางโครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ล้วนขายหมดและโครงการที่เปิดขายปีที่แล้วก็มีอัตราการขายสูงเช่นกัน

ในปี 2561 มีอีกหลายโครงการที่รอการเปิดขายอยู่ แม้ว่าจะผ่านไปเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายเริ่มประกาศแผนการเปิดขายโครงการใหม่ในพื้นที่นี้กันแล้ว โดยคาดว่าภายในปี 2561 อาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่รวมแล้วหลายร้อยยูนิตหรืออาจจะมากกว่านี้ แม้ว่าจะไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ

แต่ก็น่าสนใจเพราะเป็นพื้นที่ใหม่ที่มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากมายและเป็นอีกพื้นที่ที่ราคาขายของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปีที่ผ่านมามีราคาขายสูงมาก โดยบางโครงการมีราคาขายมากกว่า 1.3 แสนบาทต่อตร.ม. ในขณะที่โครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้นั้นต่ำกว่าแสนบาทต่อตร.ม.ทั้งนั้น ส่งผลให้ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 8.2 หมื่นบาทต่อตร.ม.เท่านั้น แต่หากพิจารณาเฉพาะโครงการที่เปิดขายในปีที่แล้วเท่านั้นจะพบว่ามีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.4-1.5 แสนบาทต่อตร.ม.

พื้นที่นี้จะยังคงเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการต่อไปในอนาคตเพราะว่าเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รวมไปถึงการที่มีข่าวว่าจะมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจากแยกรัชดา-ลาดพร้าวมาจนถึงแยกรัชโยธิน ซึ่งจะทำให้แยกรัชโยธินเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สายในอนาคต เรียกได้ว่าศักยภาพและความน่าสนใจของพื้นที่นี้จะมากขึ้นไปอีกในอนาคต

http://www.bangkokbiznews.com


ถมลงทุน 5.2 หมื่นล้านแก้รถติดโซนใต้ ผุดมอเตอร์เวย์วงแหวน-มหาชัยเชื่อมทางด่วนใหม่

ทะลวงโซนใต้ – โครงการทางด่วนสายพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก (ล่าง) และมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-วังมะนาว (บน) และส่วนต่อขยายปิ่นเกล้า-นครชัยศรีที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งลงทุน เพื่อแก้รถติดกรุงเทพฯโซนใต้และช่วยบรรเทาการจราจรบนถนนพระรามที่ 2 และถนนเพชรเกษม

คมนาคมโหมลงทุนกว่า 5.2 หมื่นล้าน สร้างโครงข่ายแก้รถติดกรุงเทพฯโซนใต้ รับเมืองโต แบ่งเบาการจราจรถนนพระราม 2-เพชรเกษม กรมทางหลวงผุด 2 โครงการใหญ่ ทุ่ม 1.5 หมื่นล้าน ยกระดับบางขุนเทียน-มหาชัยเป็นมอเตอร์เวย์ 11.5 กม. เชื่อมด่วน “พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก” เร่งขยายถนนบรมราชชนนี ดีเดย์ปีนี้ กทพ.ลุยเวนคืนตัดทางด่วนใหม่ 3 หมื่นล้าน
 
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมจะของบประมาณปี 2562 ก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาการจราจรกรุงเทพฯโซนใต้ และช่วยบรรเทาการจราจรบนถนนพระราม 2 เป็นเส้นทางสู่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มคับคั่ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลจะมีการเดินทางจำนวนมาก
ทางหลวงผุด 2 โครงการ
 
กรมมีแผนจะสร้างมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-วังมะนาว ระยะทาง 75 กม. เงินลงทุน 87,000 ล้านบาท กรมจะของบประมาณสร้างเฟสแรกเอง ระยะทาง 11.5 กม. เริ่มจากต่างระดับบางขุนเทียน-ถนนมหาชัย วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร สร้างบนแนวถนนพระราม 2 มีทางขึ้น-ลง 3 จุด ตรงบางขุนเทียน วัดพันท้ายนรสิงห์และบริเวณมหาชัยเมืองใหม่ เมื่อได้งบประมาณมาก่อสร้างช่วงมหาชัย-วังมะนาว กรมจะโอนโครงการเป็น PPP เพื่อให้เอกชนร่วมลงทุน ทั้งก่อสร้างส่วนต่อขยายและระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง
 
“มีเวนคืน 2 ไร่ตรงบางขุนเทียนและจุดตัดเอกชัย เพราะสร้างบนเขตทาง 80 เมตรพอดี จะใช้เวลาก่อสร้างกว่า 2 ปี หากได้งบฯปี”62 กรมจะแบ่งงานประมูลหลายสัญญาเพื่อให้สร้างเสร็จโดยเร็ว คาดว่าจะเสร็จเปิดใช้ปี”64-65 เก็บค่าผ่านทางเริ่มต้น 10 บาทคิดกิโลเมตรละ 1 บาท จะเป็นเส้นทางต่อเชื่อมกับทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ซึ่งได้ประสานการทางพิเศษฯแล้ว” นายธานินทร์กล่าวและว่า
 
เร่งต่อขยายบรมราชชนนี
อีกทั้งจะของบประมาณอีกกว่า 6,000-7,000 ล้านบาท สร้างส่วนต่อขยายถนนบรมราชชนนีไปถึงถนนพุทธมณฑลสาย 4 เชื่อมการเดินทางไปยัง จ.นครปฐมและภาคใต้
 
สำหรับโครงการนี้กรมศึกษาเสร็จแล้ว เป็นการต่อขยายคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี และปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงหมายเลข 338 (ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) มีจุดเริ่มต้นที่ทางแยกต่างระดับฉิมพลี กม.ที่ 9+506 ถึงแยกต่างระดับนครชัยศรี กม.ที่ 34+120 ระยะทาง 30.3 กม. ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯเขตตลิ่งชัน เขตทวีวัฒนา และ อ.พุทธมณฑล อ.สามพราน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐมแบ่งก่อสร้าง 3 ส่วน เริ่มจากต่อขยายทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี ตั้งแต่จุดสิ้นสุดทางยกระดับบรมราชชนนี (กม.12+780) ถึงทางแยกต่างระดับนครชัยศรี (กม.34+120) มีระยะทาง 21.3 กม. เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมจุดทางขึ้น-ลง 5 จุด ได้แก่ 1.แยกต่างระดับนครชัยศรี เชื่อมกับมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ รองรับรถนครปฐมและถนนเพชรเกษม
 
2.แยกต่างระดับพุทธมณฑลสาย 7 เชื่อมกับถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี รองรับรถเข้ากรุงเทพฯ 3.แยกต่างระดับพุทธมณฑลสาย 5 รองรับรถเข้ากรุงเทพฯ 4.ทางแยกต่างระดับฉิมพลี เชื่อมกับทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก รองรับรถที่จะไปบางบัวทอง และ 5.แยกต่างระดับพุทธมณฑลสาย 4 รองรับรถเข้ากรุงเทพฯ
 
ส่วนที่ 2 ปรับปรุงถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีเดิม ระยะทาง 24.6 กม. เป็นถนน 6 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทางและทางคู่ขนานขนาด 6 ช่องจราจร พร้อมทางเท้า และส่วนที่ 3 สร้างทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดถนนสายต่าง ๆ ให้เกิดความคล่องตัวในการสัญจร
 
ทั้งโครงการใช้เงินลงทุน 22,300 ล้านบาท แยกเป็นค่าเวนคืน 200 ล้านบาท มีค่าที่ดิน 17 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 14 หลัง ค่าก่อสร้าง 19,700 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาถนน 2,400 ล้านบาท

ปีนี้เวนคืนตัดด่วนใหม่ 3 หมื่นล.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีแผนก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. วงเงินลงทุน 31,244 ล้านบาทแบ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 807 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 30,437 ล้านบาท โดยรัฐเป็นผู้จ่ายค่าเวนคืน และให้ กทพ.ใช้แหล่งเงินทุนจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFF มาดำเนินการก่อสร้าง ตามแผน กทพ.จะเริ่มเวนคืนที่ดินในปี 2561 ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินเขตราษฎร์บูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะเปิดประมูลและเดินหน้าก่อสร้าง จะแล้วเสร็จในปี 2564
 
สำหรับอัตราค่าผ่านทาง แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก-ดาวคะนอง และดาวคะนอง-พระราม 3 รถยนต์ขนาด 4 ล้อ ค่าบริการ 30 บาท รถยนต์ขนาด 6-10 ล้อ ค่าบริการ 60 บาท รถยนต์มากกว่า 10 ล้อ ค่าบริการ 90 บาท ซึ่งจะมีการปรับค่าบริการ 5 บาท ทุก ๆ 5 ปี ปริมาณจราจรในปีแรกที่เปิดบริการมีประมาณ 100,000 คัน/วัน
เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์มหาชัย
 
โดยแนวเส้นทางมีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-วังมะนาว เริ่มต้นที่ กม.13+100 ของถนนพระราม 2 ออกแบบเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจรไปตามแนวเกาะกลางถนนพระราม 2 ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงด่านผ่านทางดาวคะนอง
 
จากนั้นทับซ้อนบนทางพิเศษเฉลิมมหานครจนถึงบริเวณถนนพระราม 3 ใกล้กับทางแยกต่างระดับบางโคล่ ซึ่งจะช่วยทดแทนหลังมีการปิดซ่อมบำรุงสะพานพระราม 9 ขยายโครงข่ายทางพิเศษรองรับชั้นในและชั้นนอก และแก้ปัญหาจราจรบนถนนพระราม 2
 
ทั้งนี้ กทพ.ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อปรับปรุงแบบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และข้อจำกัดของพื้นที่ปัจจุบัน โดยต่อขยายแนวเส้นทางอีก 1.8 กม.ให้เชื่อมกับมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-มหาชัยของกรมทางหลวง ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น พร้อมเปลี่ยนแปลงระบบจัดเก็บค่าผ่านทางจากระบบเปิดเป็นระบบปิดให้สอดคล้องกัน โดยมีด่านจ่ายบัตรผ่านทางทุกทางขึ้น-ลง
 
ยังเปลี่ยนตำแหน่งด่านเก็บค่าผ่านทาง 2 ด่าน คือ ด่านสุขสวัสดิ์ 2 บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 35 มาอยู่ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางสุขสวัสดิ์ปัจจุบัน เนื่องจากมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และด่านวัดสารอดมาอยู่บริเวณดาวคะนอง โดยซ้อนอยู่บนด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนองของทางด่วนขั้นที่ 1 และเปลี่ยนชื่อเป็นด่านดาวคะนอง 2 เพื่อลดการเวนคืนที่ดิน
 
และเปลี่ยนตำแหน่งอาคารศูนย์ควบคุมทางด่วนจากต่างระดับบางขุนเทียนมาอยู่ต่างระดับดาวคะนองจะไม่มีการเวนคืนที่ดิน โดย กทพ.จะจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่วันที่ 10 ก.พ. 2561

http://www.bkkcitismart.com


เปิดโพล ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้ เครียดเรื่องปากท้อง-เศรษฐกิจ มากสุด

  เปิดโพล 10 อันดับ ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้ เครียดเรื่องปากท้อง-เศรษฐกิจ มากสุด ท่ามกลางปัญหาหนี้สิน ไม่พอกินพอใช้ 

 วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2561) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จากการเก็บข้อมูลจากคน 1,273 คน ระหว่างวันที่ 6-10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้” ท่ามกลางความวิตกกังวลและความหนักใจของประชาชนที่มีในบ้านเมือง ทั้งในเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยสามารถสรุปออกมาได้ 10 อันดับ ดังต่อไปนี้

10 อันดับ ความวิตกกังวลของคนไทย ณ วันนี้

อันดับ 1 ชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้อง รายได้ ค่าครองชีพสูง ร้อยละ 78.32

เหตุเพราะมีหนี้สิน เงินไม่พอใช้ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย มีภาระมาก ความเป็นอยู่ลำบาก สังคมเหลื่อมล้ำ ฯลฯ  วิธีแก้สามารถทำได้โดย ประหยัด กินใช้อย่างพอเพียง ทำงานหารายได้เพิ่ม กู้ยืม หมุนเงิน รัฐบาลช่วยเหลือ เร่งแก้ไขปัญหา ฯลฯ

อันดับ 2 เศรษฐกิจตกต่ำ ร้อยละ 69.05 

มีผลกระทบต่อทุกภาคส่วน มีคนตกงาน ต่างชาติไม่ลงทุน ทำให้ประเทศไม่ก้าวหน้า คนไม่มีกำลังซื้อ ฯลฯ วิธีแก้คือ รัฐต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุน ธนาคารให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ ยกเว้นภาษี เร่งจัดการเลือกตั้ง ฯลฯ

อันดับ 3 อุบัติเหตุบนท้องถนน การจราจร ร้อยละ 66.46 

เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีความรุนแรงมากขึ้น คนใช้รถใช้ถนนมากขึ้น กฎหมายไม่รุนแรง ออกไปทำงานทุกวัน ฯลฯ ซึ่งวิธีแก้คือ ช่วยกันรณรงค์ กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึก ปฏิบัติตามกฎจราจร เมาไม่ขับ ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท ฯลฯ

อันดับ 4 การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งและความขัดแย้ง ร้อยละ 63.45 

เพราะยังมีความขัดแย้ง การทุจริตคอร์รัปชั่น กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ อยากให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ  วิธีแก้ รัฐบาลดำเนินการตามโรดแมป จัดการเลือกตั้ง ปฏิรูปอย่างจริงจัง รับฟังความคิดเห็น ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ฯลฯ

อันดับ 5 โรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพอนามัย ร้อยละ 63.08 

เพราะการมีโรคประจำตัว กระทบต่อการทำงาน ค่ารักษาพยาบาลสูง กังวลว่าไม่มีคนคอยดูแล ไม่อยากป่วย ฯลฯ  แก้ไขได้โดย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด กินอาหารมีประโยชน์ ฯลฯ

อันดับ 6 หน้าที่การงาน งานที่ทำ ธุรกิจ ค้าขาย ร้อยละ 61.67 

เพราะเศรษฐกิจไม่ดี อาจมีการเลิกจ้าง ลดค่าแรง มีลูกค้าน้อยลง รายได้ลด ธุรกิจซบเซา ฯลฯ วิธีแก้ ต้องช่วยเหลือตนเอง หาจุดเด่นเพื่อเพิ่มมูลค่า ขยันทำงานมากขึ้น หารายได้เสริม ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ฯลฯ

อันดับ 7 สิ่งแวดล้อม ป่าไม้ สภาพอากาศ ร้อยละ 45.17

เพราะเสื่อมโทรมลงทุกวัน มีคนบุกรุก ทำร้ายสัตว์ป่าและธรรมชาติ ทำให้โลกร้อน อากาศเปลี่ยนแปลง ฯลฯ วิธีแก้คือต้องกระตุ้นให้ทุกคนมีจิตสำนึก ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์และไม่ทำลาย ฟื้นฟูผืนป่า รัฐเอาจริงเอาจัง  ฯลฯ

อันดับ 8 คุณภาพการศึกษาไทย ร้อยละ43.12

เพราะมีผลต่อการพัฒนาประเทศ เป็นห่วงเยาวชน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ไทยการศึกษารั้งท้าย ฯลฯ วิธีแก้คือการปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง ปรับโครงสร้างการศึกษา จัดการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ฯลฯ

อันดับ 9 การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม สองมาตรฐาน ร้อยละ 42.81

เพราะมีข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในทางมิชอบ ไม่ยุติธรรม คนรวยกับคนจนแตกต่างกัน ฯลฯ วิธีแก้คือ มีช่องทางร้องเรียน ดำเนินการอย่างจริงจัง มีบทลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเหมาะสม ช่วยกันสอดส่องดูแล ฯลฯ

อันดับ 10 คุณธรรม จริยธรรมของคนในสังคม ร้อยละ40.93

เพราะสังคมเสื่อมโทรม คนเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ อารมณ์ร้อน มีพฤติกรรมรุนแรง โหดร้าย อาชญากรรมมากขึ้น ฯลฯ วิธีแก้คือ การอบรมเลี้ยงดูที่ดี ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ มีแบบอย่างที่ดีให้เห็น ใกล้ชิดศาสนา ฯลฯ

https://hilight.kapook.com


 ธปท.เผยปี 60 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มเป็น 4.4%

ธปท.เผยปี 60 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มเป็น 4.4% จากระดับ 2.0% ในสิ้นปีก่อน ตามการฟื้นตัวของ ศก. ขณะที่ NPL เร่งตัวเล็กน้อยมาที่ 2.91%

น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ปี 60 โดยระบุว่า สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.4% จาก 2% ในสิ้นปีก่อน โดยเร่งขึ้นในช่วงปลายปีทั้งสินเชื่อธุรกิจจากพอร์ตสินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่ออุปโภคบริโภคจากพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ ส่งผลให้ภาพรวมการระดมทุนผ่านสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์และตราสารหนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 4.4% มาอยู่ที่ 4.7%

ขณะที่ NPL Ratio เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.91% จากสิ้นปี 59 ที่ 2.83% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นปีก่อน

“สินเชื่อและคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาริชย์ปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิลดลงจากการกันสำรองเพื่อรองรับคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลงและเตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (IFRS9) อย่างไรก็ดี ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีเสถียรภาพ มีเงินสำรอง เงินกองทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไปได้”https://mgronline.com


 AirVisual แอปฯ รายงานมลพิษทางอากาศ รู้ไว้จะได้ป้องกัน

AirVisual

AirVisual แอปฯ รายงานมลพิษทางอากาศ ดูล่วงหน้าได้ 7 วัน แจ้งเตือนเมื่ออากาศมีมลพิษมากเกินไป

AirVisual แอปฯ รายงานสภาพมลพิษทางอากาศ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอปฯ ที่เหมาะในสภาวะอากาศเป็นพิษในช่วงนี้ (อ่านข่าวเพิ่มเติม) โดยแอปฯ นี้มีความสามารถในการตรวจสอบและรายงานปริมาณมลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่รอบโลก ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่าตำแหน่งที่กำลังอยู่หรือกำลังจะไปนั้นมีค่ามลพิษในอากาศมากน้อยเท่าไร โดยแอปฯ จะช่วยแนะนำวิธีป้องกันเบื้องต้นด้วย เช่น แนะนำการสวมหน้ากากอนามัย และนอกจากการรายงานสภาพอากาศขณะนั้นแล้ว มันก็ยังสามารถรายงานล่วงหน้าได้ถึง 7 วันอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

AirVisual

เมื่อผู้ใช้เปิดหน้าแผนที่ของแอปฯ AirVisual จะมีแถบสีแสดงในแต่ละบริเวณตามปริมาณมลพิษที่มีอยู่ในบริเวณนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีการแสดงข้อมูลมลพิษทางอากาศในรูปแบบกราฟว่ามีมลพิษเพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไร รวมทั้งการจัดอันดับพื้นที่ที่มีมลพิษมากที่สุด โดยผู้ใช้สามารถเลือกแชร์ข้อมูลเหล่านี้ไปให้เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักได้ ซึ่งข้อดีของแอปฯ นี้ก็คือช่วยให้ไม่ต้องไปเปิดเว็บไซต์เพื่อเช็กสภาพอากาศ แค่เปิดแอปฯ ก็รู้ทันที แถมยังช่วยแจ้งเตือนเมื่ออากาศมีมลพิษมากเกินไปอีกด้วย

AirVisual

     แอปฯ AirVisual มีให้ใช้ทั้งบน iOS และ Android สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play

https://men.kapook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 13/02/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,750.00 19,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,279.00 19,389.64 20,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,151.10 17,450.68 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 576.00 8,732.16 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 4576.00 8,732.16 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,325.00 20,087.00 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  13/02/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 28.05 28.05 28.05 28.45 28.05 28.05 28.05 28.05 28.05 28.05
แก๊สโซฮอล E-20 25.54 25.54 25.54 25.54 25.54 25.54 25.54 25.54 25.54
แก๊สโซฮอล E-85 20.74 20.74 20.74 20.74
แก๊สโซฮอล 91 27.78 27.78 27.88 28.18 27.78 27.78 27.78 27.78 27.78 27.78
เบนซิน 95 35.16 35.16 35.66 35.16 34.66 35.16
ดีเซลหมุนเร็ว 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19 27.19
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.19 30.19 30.19 30.19 30.19
มีผลตั้งแต่ 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00 09 Feb 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า