ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,700.00 | 19,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,276.00 | 19,344.16 | 20,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,148.40 | 17,409.74 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 574.00 | 8,701.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 447.00 | 6,776.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,322.00 | 20,041.52 | n/a |
อสังหาฯ เติบโตสูงสุด หนุนเศรษฐกิจฐานราก
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้เปิดเผยถึงดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยในเดือนมกราคม 2561 พบว่า ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน อยู่ที่ระดับ 113.7 สูงขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยจาก 11.9% ในเดือนธันวาคม 2560 สาขาบริการสำคัญ เช่น ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การขายปลีก มีการขยายตัวในอัตราที่ดี คาดว่าภาคบริการจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2561
สาขาอสังหาฯ เติบโตสูงสุด
เมื่อพิจารณาภาคบริการในรายสาขาจะพบว่าขยายตัวเกือบทุกสาขา โดยสาขาที่ขยายตัวเร่งขึ้น ประกอบด้วย 4 สาขา คือ การก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ กิจกรรมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และการศึกษา ส่วนสาขาที่ยังคงขยายตัวแต่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า ประกอบด้วย 7 สาขา คือ การขายส่งและการขายปลีกการซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย กิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ และศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ สำหรับสาขาที่หดตัวมีเพียง 2 สาขา คือ กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน และกิจกรรมการบริการด้านอื่น ๆ
ดูทำเลโครงการที่อยู่อาศัยดีๆ ได้ที่นี้
ความเคลื่อนไหวในภาคบริการที่น่าสนใจในเดือนมกราคม 2561 ได้แก่
– สาขาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นสาขาที่เติบโตสูงสุดที่ 24%
– สาขาก่อสร้างเริ่มมีการขยายตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.9% โดยเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียนของนิติบุคคลในธุรกิจก่อสร้างมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าการจ้างงานจะหดตัวก็ตาม
– สาขาการศึกษาขยายตัวถึง 22% มีการจ้างงานมากขึ้น แต่ว่าทุนจดทะเบียนของนิติบุคคลจะไปกระจุกตัวอยู่ที่การศึกษาด้านการกีฬาและนันทนาการ ไม่ใช่การศึกษา mainstream (การเรียนเต็มเวลา)
แนวโน้มทั้งปี อสังหาฯ ขยายตัวตามเศรษฐกิจ
แนวโน้มภาวะการค้าภาคบริการในปี 2561 คาดว่า ภาคบริการจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตามแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับสาขาบริการที่มีศักยภาพ และแนวโน้มขยายตัวได้ดี ได้แก่ สาขาอสังหาริมทรัพย์ สาขาบริการทางการเงิน สาขาสุขภาพ สาขาขายส่งและการขายปลีก และสาขาก่อสร้าง โดยสาขาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษฐกิจของประเทศ และสาขาสุขภาพมีแนวโน้มขยายตัวที่ดีตามกระแส Medical Tourism ซึ่งคาดว่าในระยะต่อไปจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น ทั้งในแง่ของการลงทุนและการทำการตลาดด้านสุขภาพ ในขณะที่สาขาก่อสร้างมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ยังมีแผนการลงทุนใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ายังคงต้องติดตามเพิ่มเติมเรื่องการจ้างงาน แม้ว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ได้รับชี้ว่า การจ้างงานในภาคบริการขยายตัวประมาณ 8.3% ในเดือนมกราคม ถือว่าน่าพอใจ แต่หากขยายตัวได้มากกว่านี้จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเข้มแข็งต่อไป
https://www.ddproperty.com
อสังหาไทยจูนคลื่นลงทุน”เจแปนโมเดล” ผุดคอนโด 2 แสนล.”สมอลล์สเปซ” 28 ตร.ม.ขายดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำรวจคลื่นการลงทุนระหว่างบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นมีความเคลื่อนไหวคึกคักเป็นอย่างมากในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ล่าสุดของปี 2561 ในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาส 1/61 ผู้ประกอบการรายใหญ่นำเสนอแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ควบคู่เดินหน้าโครงการร่วมทุนเพิ่มเติมอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีมูลค่าโครงการรวมกันแตะ 2 แสนล้านบาท
http://www.bkkcitismart.com
กกร.คงจีดีพี ปี 61 ขยายตัว 3.8-4.5%
กกร.คงกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 3.8-4.5 และการส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.5-6
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยผลการประชุมในเดือนมีนาคม ว่า ที่ประชุม กกร. เห็นควรให้ยังคงกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 3.8-4.5 และการส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.5-6 จากเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงต้นปี 2561 ซึ่งยังคงบ่งชี้ถึงแรงส่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง จากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2560 สะท้อนจากการขยายตัวของการส่งออกและการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม กกร. มองว่า นอกจากความผันผวนของค่าเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยแล้วประเด็นที่ต้องติดตามคือผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการค้าของไทยจากการดำเนินมาตรการปกป้องทางการค้าของสหรัฐฯ โดยยังต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
http://www.bangkokbiznews.com
มีผลแล้ว ! แบงก์ชาติประกาศเกณฑ์ Banking Agent ถอนได้ไม่เกินวันละ 2 หมื่น
แบงก์ชาติ เดินหน้าแบงกิ้งเอเย่นต์ เปิดทางร้านค้าเป็นตัวแทนธนาคาร รับฝาก-ถอน-ชำระ สูงสุดไม่เกินวันละ 2 หมื่นบาท มีผลวันที่ 6 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป
วันที่ 6 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 3/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับช่องทางให้บริการของธนาคารพาณิชย์ หลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ธนาคารประเทศไทยมีแนวคิดจัดตั้งตัวแทนธนาคาร หรือ แบงกิ้งเอเย่นต์ (Banking Agent) เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการทำธุรกรรมจากตัวแทนธนาคารได้สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ ประกาศฉบับดังกล่าว ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับช่องทางให้บริการ 3 ฉบับ ได้แก่ หลักเกณฑ์การประกอบกิจการสาขาธนาคารพาณิชย์ หลักเกณฑ์การแต่งตั้งตัวแทนของสถาบันการเงิน หรือ Banking Agent และประกาศอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ให้บริการการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีความยืดหยุ่นและสอดรับกับความต้องการของลูกค้า
สำหรับกรณีการจัดตั้งตัวแทนธนาคาร (Banking Agent) นั้น ธนาคารพาณิชย์ สามารถแต่งตั้งได้เองจาก 5 กลุ่ม คือ
1. ธนาคารพาณิชย์อื่น
2. สถาบันการเงินเฉพาะกิจ
3. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
4. ผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ประกอบธุรกิจบริการที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนให้บริการ
5. นิติบุคคลอื่นที่มีคุณสมบัติตามที่ประกาศนี้กำหนด เช่น มีหลักแหล่งในการบริการที่ชัดเจน, มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ที่เหมาะสมในการเป็น Banking Agent, ทั้งนิติบุคคล และกรรมการหรือผู้มีอำนาจ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ส่วนช่องทางให้บริการนั้น Banking Agent จะให้บริการ 5 ประเภท คือ
1. รับฝากเงิน
2. รับถอนเงิน (ให้บริการไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน สำหรับผู้ใช้บริการแต่ละราย)
3. ตัวแทนจ่ายเงินสำหรับผู้ใช้บริการรายย่อย (ให้บริการไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน สำหรับผู้ใช้บริการแต่ละราย)
4. ตัวแทนจ่ายเงินสำหรับผู้ใช้บริการรายใหญ่ (ทำได้เฉพาะธนาคารพาณิชย์อื่นและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ)
5. รับชำระเงิน
ทั้งนี้หลักเกณฑ์นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2561 สามารถอ่านประกาศฉบับเต็มได้ที่ ราชกิจจานุเบกษา
https://money.kapook.com
สธ.เตือนระวัง ‘โรคฮีทสโตรก’ จากอากาศร้อน อันตรายถึงเสียชีวิต
สธ.เตือนระวัง “โรคฮีทสโตรก” จากอากาศร้อน อันตรายถึงเสียชีวิต หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน แนะดื่มน้ำบ่อยๆ
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.61 นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในปี 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาประเมินว่าตั้งแต่มีนาคม ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อน สภาพอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิสูงสุดอาจจะสูงถึง 40-42 องศาเซลเซียส ซึ่งในช่วงอากาศร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงมีภาวะเจ็บป่วยจากสภาวะอากาศร้อน ทั้งโรคลมแดด ลมร้อน หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) มีอันตรายอย่างรุนแรง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตจากการทำงานผิดปกติของระบบสมอง ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดดเฉลี่ยปีละ 32 คน ล่าสุดในปี 2559 พบผู้เสียชีวิต 21 ราย สาเหตุเกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และไม่สามารถปรับตัวได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด อาจมีอาการเพิ่มเติมเช่น ภาวะขาดเหงื่อ เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อค หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้
นายแพทย์เจษฎากล่าวต่อว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สื่อสารความรู้คำแนะนำในการดูแลและป้องกันโรคที่มาจากอากาศร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะ 6 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น เล่นกีฬา การฝึกทหาร ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน ผู้ทำงานกลางแดด เช่น กรรมกร ก่อสร้าง เกษตรกร 2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ 3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง 4.คนอ้วน 5.ผู้ที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ และ6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัด
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมแดด ลมร้อน มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.นำผู้ป่วยเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก ถ้าผู้ป่วยหมดสติให้เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง จัดให้นอนท่าตะแคงเพื่อป้องกันลิ้นตกและป้องกันการสำลัก 2.เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเย็น หรือสเปรย์ร่างกายด้วยน้ำแล้วเป่าลม 3.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ 4.หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเปียกคลุมตัวผู้ป่วย เพราะจะขัดขวางการระเหยของน้ำออกจากร่างกาย 5.รีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดหรือโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือสายด่วน 1669
สำหรับวิธีการป้องกันตัวไม่ให้เป็นโรคลมแดด ลมร้อน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวด้านหลอดเลือดหรือหัวใจ หากจำเป็นให้กางร่มหรือใส่หมวก ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องรอหิวน้ำ ไม่ทิ้งเด็กเล็กหรือผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ไว้ในรถที่จอดกลางแดด เพราะอาจเสียชีวิตจากความร้อนได้ ในกลุ่มผู้ที่ต้องทำงานในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้มีการปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพอากาศร้อนก่อน หากรู้สึกหิวน้ำมาก ตัวร้อนแต่เหงื่อไม่ออก หายใจถี่ ปากคอแห้ง อาจวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
http://www.bangkokbiznews.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 7/03/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 7/03/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 | 27.35 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 24.84 | 24.84 | 24.84 | 24.84 | 24.84 | – | 24.84 | 24.84 | 24.84 | 24.84 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.44 | 20.44 | – | – | – | – | – | 20.44 | 20.44 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 27.08 | 27.08 | 27.18 | 27.58 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 | 27.08 |
เบนซิน 95 | 34.46 | – | – | – | 34.91 | – | 34.96 | 34.46 | 34.46 | 34.46 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 | 26.59 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | 29.59 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 | 06 Mar 05:00 |