สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2561

คอนโดโตต่อเนื่อง รับทําเลรถไฟฟ้าฮอต

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ มองตลาดอสังหาฯ ปี 61 ขยายตัวต่อเนื่องโดยกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนคึกคักเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ฐานะรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คาดการณ์ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2561 ยังคงได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากปัจจัยภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและการส่งออก โดยเฉพาะการกระจายเม็ดเงินสู่ภาคประชาชน ขณะเดียวกันพบว่า ประชาชนยังคงตอบรับให้ความสนใจในภาคที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้ตลาดอสังหาฯมีความคึกคัก ผู้ประกอบการต่างมีการปรับตัวเพื่อรองรับตลาด โดยคาดว่าตลาดภาพรวมทั่วประเทศจะมีอัตราการขยายตัว ด้านหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณ 7.9% ด้านมูลค่าขยายตัวการโอนกรรมสิทธิ์ 10.8%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ขณะที่ด้านการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อที่อยู่อาศัยจะโต 2.8% มีมูลค่าไม่ตํ่ากว่า 6.11 แสนล้านบาท จากยอดขายรวมประมาณ 111,300 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 79,900 หน่วย และโครงการอาคารชุด 31,400 หน่วย
 
ทั้งนี้พบโครงการเปิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลเป็นหลัก โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า และเซ็กเมนต์ที่มีการเปิดตัวมากสุดคือโครงการคอนโดมิเนียม รวมตลาด กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีหน่วยเปิดใหม่ประมาณ 117,100 หน่วย ขยายตัว 2.8% ส่วนตลาดภูมิภาคแม้เติบโต แต่ยังอยู่ในสัดส่วนน้อย มีเพียงในจังหวัดศูนย์กลางสำคัญ และจังหวัดท่องเที่ยว จังหวัดอุตสาหกรรมเท่านั้น รวมประมาณ 111,300 หน่วย โดยส่วนใหญ่เป็นประเภททาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว
http://www.bkkcitismart.com

“สมคิด” เชิญทูต-นักลงทุนทั่วโลก ชิงรถไฟไฮสปีด-สนามบิน-ท่าเรือ EEC

การประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. มูลค่าการลงทุน 2 แสนล้านบาท เป็น “ไฮสปีดเทรน” เชื่อมกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา ในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

 

กรุงเทพฯถึงอู่ตะเภา 45 นาที
 
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากสนามบินดอนเมือง-อู่ตะเภา ระยะทาง 220 กม. โดยสถานีมักกะสันจะเป็น main station เป็นรถไฟสายอนาคตสำหรับภาคตะวันออก ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจสูง มีความสำคัญ 4 ด้าน
 
1.รถไฟความเร็วสูงสายนี้จะเชื่อมโยง 3 สนามบิน ใน 45 นาที อนาคตจะยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ทำให้การเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภา-กรุงเทพฯ รองรับผู้โดยสารจากสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิที่เกินความจุแล้ว 17 ล้านคนต่อปี
 
2.เปิดพื้นที่การพัฒนาจากกรุงเทพฯเชื่อมฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง 5 สถานี ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา มีการพัฒนาบริเวณสถานีเชื่อมโยงกับชุมชนเก่า
“ไฮสปีด” เฟส 2 ระยอง-จันทบุรี-ตราด
 
3.ระยะต่อไปจะเป็นการศึกษาในระยะที่ 2 เส้นทางระยอง จันทบุรี และตราด คาดว่าจะใช้ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ-ระยอง 60 นาที กรุงเทพฯ-จันทบุรี 100 นาที และกรุงเทพฯ-ตราด 120 นาที
 
4.การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการ ตั้งแต่สร้างจนกระทั่งเสื่อมราคา 700,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 50 ปีแรก มีมูลค่าเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเงินลงทุน 200,000 ล้านบาท ผลตอบแทนที่ได้จากการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดแนว 2 ข้างทาง คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เมื่อครบกำหนด 50 ปีแล้ว โครงการทั้งหมดจะตกเป็นของรัฐ มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 300,000 ล้านบาท
 
โครงการจะครอบคลุมเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากสนามบินดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภา โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1.รถไฟความเร็วสูงส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ ดอนเมือง-พญาไท ระยะทาง 21 กม. ซึ่งเป็นแนวรางแอร์พอร์ตลิงก์เดิม 2.รถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ พญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 29 กม. 3.รถไฟความเร็วสูงจากสนามบินสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กม.
 
4.พัฒนาพื้นที่สถานีและสนับสนุนการให้บริการผู้โดยสาร 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 สถานีมักกะสัน 150 ไร่ สำหรับการเป็นสถานีหลักรถไฟความเร็วสูง รวมที่จอดรถและเชื่อมโยงกับรถไฟใต้ดิน เป็นการแก้ปัญหาของสถานีมักกะสัน เนื่องจากการเดินทางไม่เชื่อมโยงกับรถไฟในเมือง และจุดที่ 2 สถานีศรีราชาประมาณ 100 ไร่ สำหรับการเป็นสถานี ที่จอดรถ และอู่ซ่อม แบ่ง 75 ไร่ อีก 25 ไร่พัฒนาเชิงพาณิชย์ และจ่ายค่าเช่าให้การรถไฟฯตามราคาตลาด และเมื่อมีกำไรเกินปกติต้องมีการนำกำไรแบ่งปันกับรัฐ
 
โดยจะมี 1 ช่วงที่จะต้องเวนคืน คือ พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากรถไฟความเร็วสูงเวลาเลี้ยวโค้งต้องใช้รัศมีของหัวโค้งเป็นวงกว้าง
 
รูปแบบลงทุน PPP net cost
 
การดำเนินการเป็นโครงการร่วมทุนกับเอกชน (PPP) เพื่อลดการใช้งบประมาณภาครัฐและความเสี่ยงจากความล่าช้าของโครงการ ขณะที่การกู้เงินจากต่างประเทศทำให้เกิดภาระหนี้สาธารณะ ความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน บางครั้งทำให้ต้นทุนโดยรวมสูงและเงินลงทุนถูกถ่ายเทกลับประเทศเจ้าของเงินจนทำให้ประเทศเหลือแต่หนี้และการบำรุงรักษา
 
การประมูลจะเป็น PPP net cost ผู้สนอผลประโยชน์สูงสุด-รัฐลงทุนน้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ โดยเอกชนแต่ละรายจะคำนวณผลตอบแทนสูงสุด ทั้งการจัดหาขบวนรถไฟ การหารายได้ การบริหารอสังหาริมทรัพย์ ได้พัฒนาเต็มที่
พ่วงพัฒนาที่ดินมักกะสัน-ศรีราชา
 
“สำหรับเรื่องอ่อนไหวหลายประการที่ที่ประชุมหารือกันอย่างกว้างขวาง ได้แก่ เรื่องที่ดินมักกะสัน 150 ไร่ มีพื้นที่ี่เชิงพาณิชย์ ผู้รับไปพัฒนาต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้ ร.ฟ.ท.ตามราคาตลาด และให้รัฐมีส่วนร่วมรับกำไร หรือ revenue shar-ing” นายคณิศกล่าว
 
ถกสัมปทาน 50 ปีกันรัฐลงทุนเพิ่ม
 
ด้านการรวมแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อแก้ปัญหาการขาดทุนสะสม 1,785 ล้านบาท และเป็นหนี้จากการก่อสร้างประมาณกว่า 33,000 ล้านบาท จึงนำมารวมและแก้ปัญหาการขาดทุนในคราวเดียว ผู้ที่จะมาลงทุนต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อไปพัฒนา โดย ร.ฟ.ท.จะนำเงินไปใช้หนี้ของแอร์พอร์ตลิงก์
 
สำหรับอายุโครงการ 50 ปี เพื่อให้รัฐบาลใช้งบประมาณน้อยที่สุด ถ้าให้เวลาโครงการน้อยก็จะขาดทุนมาก เพราะกำไรของโครงการจะอยู่ในช่วงปีหลัง ๆ ถ้าเหลือ 30 ปี รัฐอาจต้องจ่ายเงินลงทุนไปกับเอกชนเพิ่ม
 
สำหรับการใช้วิศวกรไทยและการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยจะอยู่ในเงื่อนไขร่าง TOR การกำกับโครงการ มีคณะกรรมการขึ้นมาดูแลการดำเนินโครงการ ค่าโดยสารจากมักกะสัน-พัทยา 270 บาท และจากมักกะสัน-สนามบินอู่ตะเภา 330 บาท
เปิดประมูลทั่วโลกมีนาคม
 
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป คือ เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติและนำไปสู่การประกาศเชิญชวนนักลงทุนในเดือนมีนาคม ในรูปแบบอินเตอร์เนชั่นแนลบิดดิ้งเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วโลกเข้าร่วมประมูลและเปิดกว้างให้ทุกค่ายที่สนใจขณะนี้ อาทิ ยุโรป ญี่ปุ่น จีน คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลภายในไตรมาสสองและลงนามเซ็นสัญญากับผู้ชนะการประมูลภายในปีนี้ สร้างเสร็จปี 2566
 
หลังจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้เชิญทูตทุกประเทศ ร่วมฟังความคืบหน้าในโครงการอีอีซีทั้งหมด เพื่อให้เห็นโอกาสที่กำลังเปิดในประเทศไทย โดยจะเชิญชวนและเปิดประมูลแก่นักลงทุนและเซ็นสัญญาภายในปีนี้ อาทิ รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด
 
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานอีอีซีไปศึกษาการขยายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่รอบ ๆ ใกล้เคียงเพื่อเชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดเดิม เช่น ปราจีนบุรี สระแก้ว และสมุทรปราการ เชื่อมโยงจากกรุงเทพฯไปยังการค้าการลงทุนชายแดน ใช้เวลาศึกษา 4 เดือน

http://www.bkkcitismart.com


‘กอบศักดิ์’ มอบนโยบายสสว.เร่งปั้นSME4.0

ดร.กอบศักดิ์” มอบนโยบายสสว. เร่งปั้น SME 4.0 เน้นปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แถลงภายหลังการประชุมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารว่า นโยบายสำคัญที่มอบหมายให้ สสว. เร่งดำเนินการคือ การจัดทำฐานข้อมูลสำหรับ SME (Big Data) เพื่อเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูล SME แห่งชาติที่สามารถสะท้อนตัวตน รองรับการแนวทางการส่งเสริมที่ต่อเนื่อง และสอดคล้องอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกัน สสว. จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งต่อให้ SME สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดย สสว. จะเป็นหน่วยงานกลางในการบริหารจัดการฐานข้อมูล SME แบบเบ็ดเสร็จ อีกทั้ง สสว. ในฐานะเจ้าภาพปีที่ 3 การจัดทำงบประมาณบูรณาการด้านการส่งเสริม SME ของประเทศร่วมกับ 25 หน่วยงาน ภายใต้วงเงิน 3,810.41 ล้านบาท จึงมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสาน กำกับ และติดตามการดำเนินงานภายใต้แผนดังกล่าว

โดยผลจากการลงพื้นที่จึงต่อยอดเป็น “โครงการปั้นดาว” โดยผลักดันให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บูรณาการทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจรายย่อย วิสาหกิจชุมชน ให้มีศักยภาพ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ถือเป็นการทำงานตามแนวพระราชดำริโดยการระเบิดจากข้างใน

ด้านนายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผอ.สสว. เปิดเผยว่า ในปี 2561 สสว. วางแนวทางในการส่งเสริม SME ที่ตอบโจทย์นโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ใน 4 แนวทาง โดยคาดว่า การดำเนินงานตามแผนบูรณาการส่งเสริม SME ในปีนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ 331,315 ราย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้ 90,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สสว. มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่พบผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ พร้อมสร้าง”กาฬสินธุ์โมเดล” เพื่อยกเป็นต้นแบบจังหวัดนำร่องและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่จังหวัดอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย คาดว่าภายในปี 2561 จะสามารถดำเนินโครงการปั้นดาวได้ไม่น้อยกว่า 10 จังหวัด

http://www.bangkokbiznews.com


อนาคตเทคโนโลยีวัสดุ? ส่องจากนโยบายยุคนี้

อุโมงค์ทนไฟ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุน้ำหนักเบาในยานยนต์ เหล่านี้คือ “วัสดุล้ำสมัย” ซึ่งเป็นโจทย์วิจัยของหน่วยงานวิจัยต่างๆ ตามกรอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2569

เทคโนโลยีวัสดุ หรือ Materials Technology เป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่เป็นเทคโนโลยีเป้าหมายของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ สุขภาพและเครื่องมือแพทย์ และแม้แต่อุตสาหกรรมการบิน ฯลฯ เทคโนโลยีวัสดุล้วนเป็นพื้นฐานองค์ความรู้ที่สำคัญของอุตสาหกรรมเหล่านี้

จากการคาดการณ์เทคโนโลยีแห่งอนาคต โดย McKinsey Global Institute ชี้ให้เห็นว่า ในอนาคตจะมี 12 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ วัสดุล้ำสมัย หรือ Advanced Materials นอกจากนี้ ข้อมูลที่รวบรวมจากสถาบันวิจัยด้านวัสดุ 50 สถาบันทั่วโลกได้สรุปการศึกษาแนวโน้มการวิจัยและพัฒนาด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมวัสดุ เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายระดับโลกออกเป็นหลายด้าน ทั้งวัสดุเพื่อพลังงานทดแทนและการกักเก็บพลังงาน ซึ่งต้องการวัสดุที่มีสมบัติพิเศษเฉพาะทาง เช่น ทนอุณหภูมิสูง เกิดปฏิกริยาเคมีไฟฟ้าให้พลังงานสูง วัสดุสำหรับอาคารและโครงสร้าง เช่น อุโมงค์ทนไฟซึ่งต้องการวัสดุฉนวนที่ทนไฟได้มากขึ้น วัสดุก่อสร้างชนิดใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยืดอายุการใช้งานของอาคาร วัสดุการแพทย์ที่สามารถฝังใน เข้ากับร่างกายได้ น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง เป็นต้น วัสดุที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ เช่น วัสดุทนการกัดกร่อน

 ในเมื่อเทคโนโลยีวัสดุมีความสำคัญอย่างนี้ ที่ผานมาประเทศไทยมีสถาบันการศึกษา หน่วยงานสถาบันเฉพาะทาง ที่ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีวัสดุ และในปัจจุบันภาคเอกชนและให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาด้านวัสดุ มีการจัดตั้งศูนย์วิจัยเฉพาะทางขึ้นหลายแห่ง เมื่อต้นปีนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช. จัดทำกรอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2569 โดยมีวิสัยทัศน์ว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพของสังคมไทย ด้วยความร่วมมือแบบไตรภาคี โดยเน้นความร่วมมือของหน่วยงานที่สำคัญในลักษณะเครือข่าย (Network) หรือ consortium

วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศ เพื่อผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ปิดลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมในระดับชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ศักยภาพกำลังคนและบุคลากร สร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพัฒนากฎระเบียบและเกิดการลงทุนร่วมมือและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีจากต่างประเทศ ตัวอย่างเช่นในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุ น้ำหนักเบา วัสดุนำไฟฟ้า วัสดุชีวภาพ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ การขึ้นรูปแบบ 3 มิติ, ในอุตสาหกรรมเกษตร วัสดุหน้าที่เฉพาะทาง ฟิล์มเลือกผ่าน วัสดุหน้าที่เฉพาะทาง, อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน วัสดุพลังงานที่ทันสมัย วัสดุเพื่อกักเก็บพลังงาน วัสดุก่อสร้างเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีประเด็นท้าทาย ได้แก่ การพัฒนาและเพิ่มศักยภาพกำลังคนให้พอเพียง การบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานของห้องปฏิบัติการทดสอบในระบบคุณภาพและมาตรฐาน ประเด็นท้าทายการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

ทั้งหมดนี้เพื่อประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเทคโนโลยีวัสดุก้าวหน้า หวังว่าเมื่อเสร็จสิ้นแผน 10 ปี ประเทศไทยจะอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกได้บ้าง

*บทความโดย ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค)

http://www.bangkokbiznews.com


กรมอนามัย แนะซื้อน้ำแข็งผ่านมาตรฐาน ลดเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์

กรมอนามัย เผย หน้าร้อนกินน้ำแข็งไม่สะอาดอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงและอหิวาตกโรคได้ แนะซื้อน้ำแข็งผ่านมาตรฐาน GMP ลดเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์

นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงหน้าร้อนเครื่องดื่มและของหวาน คลายร้อนประเภทน้ำแข็งไส หวานเย็น ขนมปังเย็น น้ำผลไม้ปั่น รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำแข็งหลายชนิด ได้แก่ น้ำแข็งหลอด น้ำแข็งสี่เหลี่ยม น้ำแข็งถ้วยเล็ก น้ำแข็งถ้วยใหญ่ น้ำแข็งเกล็ด น้ำแข็งโม่หรือน้ำแข็งป่น จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่หากน้ำแข็งที่ใช้บริโภคไม่สะอาดพอ อาจเสี่ยงให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารตามมาได้ ผู้บริโภคควรเลือกบริโภคน้ำแข็งที่มีวิธีการผลิตที่ ถูกสุขลักษณะได้มาตรฐาน GMP เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ และเมื่อน้ำแข็งละลายจะต้องใส ไม่มีตะกอนขาวขุ่นๆ อยู่ก้นแก้ว ส่วนผู้จำหน่ายน้ำแข็งต้องคำนึงถึงความสะอาดและปลอดภัยโดยเฉพาะการเก็บรักษาความเย็นและภาชนะสำหรับบรรจุน้ำแข็ง ห้ามใช้แกลบ ขี้เลื่อย กระสอบ กาบมะพร้าว เสื่อ ในการห่อหรือปกคลุมน้ำแข็งเด็ดขาด สถานที่เก็บรักษาเพื่อจำหน่ายต้องสะอาดและมีระดับสูงกว่าทางเดิน ง่ายต่อการทำความสะอาดและไม่มีสิ่งปนเปื้อนในน้ำแข็ง ภาชนะที่ใช้บรรจุน้ำแข็งต้องสะอาดไม่มีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค หากเป็นน้ำแข็งที่บรรจุในถุงพลาสติกจะต้องเป็นพลาสติกไม่มีสี และไม่บรรจุในถุงพลาสติกที่ผ่านการใช้มาแล้วหรือเป็นถุงที่เคยบรรจุสารเคมีมาก่อน เช่น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือปุ๋ย เป็นต้น ถ้าบรรจุในถังน้ำแข็งต้องเป็นถังที่บรรจุน้ำแข็งอย่างเดียวยกเว้นให้มีได้เฉพาะที่ตักน้ำแข็งมีด้าม เพื่อใช้ตักน้ำแข็งเท่านั้น ถ้าพบว่ามีการนำขวดน้ำดื่ม น้ำอัดลม ผักหรือเนื้อสัตว์ แช่รวมกันอยู่ในถังน้ำแข็งนั้นก็ไม่ควรนำมาใช้เพื่อการบริโภค

นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อไปว่า น้ำแข็งที่แบ่งบรรจุเพื่อจำหน่ายต้องมีภาชนะปกปิดมิดชิด ไม่ควรวางอยู่บนพื้น ทางเท้าหรือใกล้ถังขยะ ภาชนะที่ใช้เก็บสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ใช้มือกอบน้ำแข็ง ส่วนร้านอาหารต้องเก็บน้ำแข็งในภาชนะที่สะอาด มีฝาปิด ตั้งสูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร ภาชนะต้องไม่เป็นสนิม สามารถเก็บความเย็นได้ดี ห้ามนำอาหารหรือเครื่องดื่มมาแช่ในน้ำแข็งที่ใช้บริโภคโดยเด็ดขาด ส่วนผู้ปฏิบัติงาน ณ บริเวณขนส่ง ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด ล้างมือทุกครั้ง ก่อนปฏิบัติงานสวมรองเท้าที่สะอาด และควรเป็นรองเท้าคนละคู่กับรองเท้าที่ปนเปื้อนจากนอกบริเวณขนส่ง ไม่สูบบุหรี่หรือมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่ไม่ถูกสุขลักษณะขณะทำการขนส่ง และที่สำคัญห้ามใช้เท้าสัมผัสน้ำแข็ง ในส่วนของรถขนส่งนั้นต้องเป็นรถที่สะอาด โดยเฉพาะพื้นรถที่วางน้ำแข็งต้องมีการล้างฆ่าเชื้อก่อนทำการขนส่ง และมีมาตรการควบคุมอุณหภูมิน้ำแข็งให้สม่ำเสมอ

“ทั้งนี้ การผลิตน้ำแข็งจะต้องผ่านกระบวนการหลายอย่างกว่าจะถึงมือผู้บริโภค หากผู้ผลิตไม่มีความระมัดระวังตั้งแต่ต้น เริ่มจากคุณภาพของน้ำที่นำมาผลิต การเก็บ การขนส่ง รวมถึงภาชนะที่ใช้บรรจุน้ำแข็ง ไม่สะอาดพอก็อาจก่อให้เกิดปัญหาการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ควบคุมการผลิตน้ำแข็งเพื่อจำหน่ายในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานต่าง ๆ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 78 (พ.ศ.2527) และฉบับที่ 137 (พ.ศ.2534) เรื่อง น้ำแข็ง เพื่อกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน กรรมวิธีการผลิต การใช้น้ำในการผลิต สถานที่เก็บรักษาน้ำแข็ง การใช้ภาชนะบรรจุน้ำแข็ง ตลอดจนการแสดงฉลาก ต้องมีวิธีการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับข้อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตหรือ จีเอ็มพี เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อนดังกล่าว หากฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตาม จะมีโทษปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท และมีการควบคุมตรวจสอบสุขลักษณะการจำหน่ายตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 16/03/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,400.00 19,500.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,257.00 19,056.12 20,000.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,131.30 17,150.51 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 566.00 8,580.56 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 440.00 6,670.40 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,303.00 19,753.48 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  16/03/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35
แก๊สโซฮอล E-20 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84 24.84
แก๊สโซฮอล E-85 20.14 20.14 20.14 20.14
แก๊สโซฮอล 91 27.08 27.08 27.18 27.58 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08
เบนซิน 95 34.46 34.91 34.96 34.46 34.46 34.46
ดีเซลหมุนเร็ว 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.59 30.46 30.46 30.46 30.46
มีผลตั้งแต่ 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00 06 Mar 05:00

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า