สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 25 เมษายน 2561

‘สีลม-สาทร’ทำเลยอดนิยมสนง.-ที่อยู่ เผยคอนโดฯขายต่อ-ปล่อยเช่าโตปีละ4-5%

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยสีลม-สาทร ทำเลยอดนิยมสำนักงาน-ที่อยู่อาศัย Co-working Space กระแสแรง ส่วนคอนโดมิเนียมผลตอบแทนขายต่อ-ปล่อยเช่าโตปีละ 4 – 5%

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบว่ามีพื้นที่สำนักงานรวมทั้งสิ้น 8.6 ล้านตารางเมตร โดยโซนสีลม-สาทร เป็นโซนยอดนิยมของคนทำงาน มีพื้นที่สำนักงานสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 2.1 ล้านตารางเมตร คิดเป็น 24% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมด รองลงมาคือโซนสุขุมวิท 1.7 ล้านตารางเมตร คิดเป็น 20% และ โซนรัชดาภิเษก 1.2 ล้านตารางเมตร คิดเป็น 14% ซึ่งนอกจากโซนสีลม-สาทร จะเป็นย่านสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนวัยทำงานมากมาย อาทิ การเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกมีรถไฟฟ้าหลายสถานีล้อมรอบเกือบทุกมุมถนน มีสถานีเชื่อมต่อ BTS และ MRT จึงเป็นทำเลกลางเมืองที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญๆ ได้ง่าย นอกจากนี้โซนสีลม-สาทร ยังเริ่มเป็นทำเลที่มีพื้นที่สำนักงานร่วม (co-working space) ที่เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจแบ่งปัน ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนทำงาน ซึ่ง co-working space ยังมีแนวโน้มเติบโตทั่วโลกและในไทยเองก็มีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยล่าสุดในปี 2560 พบว่ามีผู้ใช้บริการทั่วโลก จำนวน 1.74 ล้านราย เติบโตจากปี 2558 เฉลี่ย 83%

3_2

จากข้อมูลของ Global Co-Working Space Unconference Conference ได้วิเคราะห์ว่าภายในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการ co-working space ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 5.1 ล้านราย ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้จำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมมีการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น จากปัจจุบันในปี 2561 ที่น่าจะมีจำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมอยู่ที่ 17,725 แห่งและเติบโตเฉลี่ยราว 16% ต่อปีนั้น เพิ่มเป็น 30,432 แห่งทั่วโลกในปี 2565 สำหรับประเทศไทยเริ่มมีความต้องการหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 เนื่องจากหลายๆ คนไม่สามารถเดินทางไปยังสำนักงานได้ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ co-working space ทั้งหมด 91 แห่งทั่วประเทศ โดย 70% เป็นพื้นที่ที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และ 30% ไปกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่ เป็นต้น โดยมีอัตราค่าใช้บริการแบบรายวันประมาณ 180 – 500 บาท หรืออาจคิดค่าบริการแบบเหมารายเดือนประมาณ 3,000 – 7,450 บาท ด้วยรูปแบบที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ จึงทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 35% ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้ให้บริการต่างชาติรายใหญ่ เช่น JustCo ได้เข้ามาเปิดให้บริการในทำเล สีลม-สาทร ซึ่งถือเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มคนทำงาน ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานออฟฟิศและสตาร์ทอัพในย่านนี้

“อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านสีลม-สาทรนั้น พบว่าเหลือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการจำกัด ส่งผลให้มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยสูง ทั้งความต้องการในการซื้อต่อและความต้องการเช่า ทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างน่าสนใจโดยราคานำกลับมาขายใหม่ (resale) และผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจทั้งคู่ โดยในส่วนของตลาดรีเซลมีผลตอบแทนการขายต่อ (capital gain) ประมาณ 4-5% ต่อปี ราคาขายต่อเฉลี่ยประมาณ 230,000 บาท/ ตารางเมตร ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (rental yield) อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อปีเช่นกัน โดยราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ 800-1,000 บาท/ตารางเมตร สาเหตุที่ทำเลสีลม-สาทรได้รับความนิยมทั้งพื้นที่สำนักงาน co-working space และที่อยู่อาศัยนั้น เนื่องจากไม่เพียงตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนทำงานทั่วไป สตาร์ทอัพ และฟรีแลนซ์ ยังพบว่ามีความต้องการจากกลุ่มต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย (expat) และอยู่อาศัยในย่านธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลปี 2560 พบว่ามีจำนวน expat ในกรุงเทพฯ รวมประมาณ 1.2 ล้านคน” นายอนุกูล กล่าว

http://www.bangkokbiznews.com


คอนโดฯ 3 หมื่นยูนิตรุมรถไฟฟ้า สายสีส้ม-สีเหลืองทำเลฮอตสุด

กำลังตอกเข็มเร่งรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคอย่างคึกคัก สำหรับรถไฟฟ้า 3 สายใหม่ ไม่ว่าสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สีชมพูแคราย-มีนบุรี และสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ตามแผนจะทยอยสร้างเสร็จเปิดใช้ปี 2564-2566
 
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้าไปพัฒนาลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมดักตลอดแนวเส้นทาง ตั้งแต่โครงการยังไม่เริ่มประมูล
“สุรเชษฐ กองชีพ” ผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู และเหลือง มีผู้ประกอบการเข้าไปซื้อที่ดินและเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (ดูกราฟิก) มีหน่วยสะสมรวม 29,233 ยูนิต โดยเฉพาะสายสีเหลือง มีคอนโดฯเปิดขายใหม่มากที่สุด เพราะเป็นทำเลมีความพร้อม และตลอดสองข้างทางเป็นชุมชน อีกยังมีรถไฟใต้ดินตัดผ่านถนนลาดพร้าว
ต่อมาปี 2559 หลังรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายชัดเจนมากขึ้น ปรากฏว่าสายสีส้มกลายเป็นทำเลที่มีคอนโดฯเปิดขายใหม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กระจุกตัวอยู่แค่บางทำเล โดยมีคอนโดฯเปิดขายใหม่สะสมถึงไตรมาส 1/2561 จำนวน 12,703 ยูนิต ซึ่งบางโครงการมีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิต ขณะที่แนวสายสีเหลืองมีจำนวน 9,190 ยูนิต และสายสีชมพูมีจำนวน 7,340 ยูนิต กระจุกตัวในบางทำเล เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก เมื่อเทียบกับพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ทำให้จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สายสีชมพูน้อยที่สุด
“ในอนาคตมีแนวโน้มตลาดคอนโดฯแนวสายสีชมพูจะปรับเพิ่มขึ้นตามราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดรูปแบบการพัฒนาโครงการในพื้นที่แนวรถไฟฟ้าจะต้องเป็นแนวสูง อีกทั้งราคาที่ดินที่สูงขึ้นย่อมเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรที่มีมากในพื้นที่ตามแนวถนนรามอินทรา ลาดพร้าว และศรีนครินทร์”
ด้านความเคลื่อนไหวของราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวสายสีส้ม บริเวณรอบสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่ราคาซื้อขายกว่า 8 แสนบาท/ตร.ว. และราคาลดหลั่นลงเมื่อทำเลไกลออกไปตามถนนพระราม 9 และรามคำแหง แต่ราคาไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ตร.ว. ขณะที่สายสีชมพูและสีเหลืองในทำเลที่มีศักยภาพราคาที่ดินไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท/ตร.ว. ส่วนราคาขายคอนโดฯมีความหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่ทั้ง 3 เส้นทางมีราคาขายเฉลี่ยไม่เกิน 1 แสนบาท/ตร.ม. แต่อาจมีบางโครงการและบางทำเลมีราคาขายเกิน 1 แสนบาท/ตร.ม.
ส่วนอัตราการขายโครงการแนวสายสีเหลืองจะมีอัตราการขายอยู่ที่ 88% สายสีส้มอยู่ที่ 82% และสายสีชมพูอยู่ที่ 77% ซึ่งนับว่าอัตราการขายเฉลี่ยของทั้ง 3 เส้นทาง ค่อนข้างสูงและมีโอกาสที่จำนวนคอนโดฯจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ตามความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยเป็นการขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและแค่บางทำเลที่มีศักยภาพ ไม่ได้เป็นการขยายตัวพร้อมกันตลอดทั้งเส้นทาง เช่น รอบสถานีที่มีศูนย์การค้า ศูนย์ราชการ หรือสถานีร่วมของรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง

http://www.bkkcitismart.com


อีสานยังทรุดต่อเนื่อง3ไตรมาส ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานล่างยังไม่ฟื้น

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชี้อีสานยังทรุดต่อเนื่อง3ไตรมาส ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานล่างยังไม่ฟื้น

วันนี้ (24เมษายน2561) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 1/2561” ผลสำรวจพบว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจอีสานในไตรมาสที่ 1/2561ยังต่ำกว่าร้อย หรือความเชื่อมั่นแย่ลงต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว และต่ำกว่าร้อยต่อเนื่อง 3 ไตรมาส และมีแนวโน้มแย่ลงต่อในไตรมาส 2/2561เนื่องจากเศรษฐกิจฐานล่างยังไม่ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของภาพรวมส่งผลคะแนนประเมินผลงานรัฐบาลทั้งด้านเศรษฐกิจและภาพรวมลดลงและต่ำกว่าครึ่ง

4_1

ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่าการสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือนและระดับจังหวัด เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจและคำนวณดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาส 1/2561 และประเมินผลงานรัฐบาล ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 19-22เมษายน 2561จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,208รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

2_2

http://www.bangkokbiznews.com


ค่าบาท ‘อ่อนค่า’ นักลงทุนหวั่นต้นทุนดอกเบี้ย

บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า “31.45 บาทต่อดอลลาร์” หลังศก. สหรัฐยังดี แต่นักลงทุนกังวลต้นทุนดบ. ปรับขึ้นในตลาดอสังหาฯ เริ่มผันผวนจากการเทขายทำไร ค่าเงินเอเชียน่าจะหยุดอ่อนค่าและถึงจุดพักฐานในระยะสั้น

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.45บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.42 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงผันผวน S&P500 ปรับตัวลง 1.3% จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3.00% สูงที่สุดในรอบกว่าสี่ปี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นต่อแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนที่ 75 เหรียญต่อบาร์เรล และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลังจากแข็งค่ามาห้าวันติดต่อกัน

ในช่วงนี้ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ยังเพิ่มขึ้นต่อ แต่ก็ดูจะไม่สามารถพยุงตลาดการเงินได้เลย นักลงทุนมีความกังวลมากกับความเสี่ยงที่ต้นทุนจะปรับตัวสูงขึ้นทั้งในมุมเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยระยะสั้น จึงเริ่มมีการขายทำกำไรก่อนด้วยความเชื่อว่าภาวะดังกล่าวจะทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น และไม่แปลกที่ตลาดเคลื่อนไหวตามข่าวมากกว่าตัวเลขเศรษฐกิจหรือพื้นฐาน

ในวันนี้ เชื่อว่าค่าเงินบาทจะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง แม้ผู้ค้าเงินจะให้ความสนใจกับยิลด์ที่สูงขึ้น และการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของค่าเงินดอลลาร์ แต่ส่วนหนึ่งก็ยังมีความเชื่อว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าในระยะยาว จึงยังไม่มีการปรับสถานะชัดเจน มองว่าจุดเปลี่ยนจะเป็นภาวะตลาดเอเชีย ถ้าไม่เจอกับแรงขายหนักตามฝั่งยุโรปและสหรัฐ ค่าเงินโดยรวมก็จะหยุดอ่อนค่าและพักฐานในระยะสั้น มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.40 – 31.50 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


ความเชื่อเกี่ยวกับ ‘ปัญญาประดิษฐ์’

“ปัญญาประดิษฐ์(เอไอ)” เป็นหนึ่งในหัวข้อการสนทนาที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีการแบ่งขั้วทางความคิดเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ มีศักยภาพที่จะนำไปสู่การพัฒนาในหลากหลายด้านสำหรับธุรกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของเราทุกคน

บาส เดอ โวส ผู้อำนวยการกลุ่มนักคิดด้านเทคโนโลยีภายในองค์กร ไอเอฟเอส แลบส์ บริษัท ไอเอฟเอส กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า บางคนอาจเห็นว่า เอไอ จะเข้าควบคุมโลกภายในสองปีจากนี้ ขณะที่บางคนอาจคิดว่าไม่มีทางเป็นจริงได้ โดยปกติแล้ว ความเป็นจริงมักจะอยู่ตรงกลางเสมอ แม้ว่า เอไอ จะนำมาซึ่งความเป็นไปได้จำนวนมากที่แทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

อย่างไรก็ดี แม้เอไอกลายเป็นคำศัพท์ทางการตลาดที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้มีสติปัญญาทั่วไปเหมือนกับมนุษย์เลยทีเดียว และแน่นอนว่าอาจยังไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น

ปัจจุบันมีการสร้างฟังก์ชั่นเอไอจำนวนมากที่มีประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมาก ฟังก์ชันเหล่านี้มักได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ(NLP) การจดจำรูปภาพ เครื่องมือค้นหาข้อมูล เกม การพยากรณ์ หรือคุณลักษณะเฉพาะในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ แน่นอนว่าการเป็นผู้เชี่ยวชาญมักเสริมสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้สูงกว่าการเป็นผู้มีความรู้ในรูปแบบสหวิทยาการ

ชุดข้อมูลสำคัญต่อความสำเร็จ

เขากล่าวต่อว่า แม้เห็นคุณประโยชน์หลากหลาย แต่อย่าเพิ่งตัดสินใจ เพราะแม้ว่าการเรียนรู้ของเครื่อง(แมชชีนเลิร์นนิง) จะถือว่าเป็นส่วนสำคัญของ เอไอ แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะนำไปใช้ได้จริง แน่นอนว่ามีความท้าทายทั้งที่เป็นเรื่องง่ายและยากจะจัดการ แต่โดยทั่วไปแล้วการใช้อัลกอริทึมที่ทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นหรือปัญหาขององค์กรได้ดีอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออย่างมาก

โดยบ่อยครั้งที่อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องดูจะเข้าใจได้ง่าย แต่ความท้าทายก็คือการเลือกอัลกอริธึมที่เหมาะสมกับปัญหาและนำเสนอปัญหาให้กับอัลกอริทึมด้วยวิธีที่ถูกต้อง สิ่งนี้ต้องใช้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา รวมถึงความเข้าใจที่ค่อนข้างลึกซึ้งถึงความสามารถและข้อจำกัดของอัลกอริทึมและโมเดลที่มีอยู่ ซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในแวดวงวิทยาการคอมพิวเตอร์

ขณะที่ เรื่องที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นคือ การเรียนรู้ของเครื่องนั้นจำเป็นต้องมีการฝึกสอนอย่างถูกต้องเป็นจำนวนมาก เพื่อให้โมเดลดังกล่าวมีมาตรฐานเพียงพอสำหรับนำไปใช้ประโยชน์กับปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น หากใช้การไม่ได้ตามที่คาดไว้ การแก้ปัญหาอาจใช้เวลานานเนื่องจากโมเดลที่สร้างโดยเครือข่ายเส้นประสาท(เป็นต้น)อาจซับซ้อนมากและยากเกินกว่าที่จะเข้าใจ

นอกจากนี้ ข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้ามีอยู่ทั่วไป ดังนั้นจึงมีข้อมูลเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการใช้อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง มักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า “เรามีข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่” และ “เราสามารถสร้างข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้หรือไม่”

ตัวอย่างที่ ไอเอฟเอส แลบส์ ใช้คือการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น (Sentiment Analysis) โดยวิกิพีเดีย(Wikipedia) ให้คำจำกัดความของการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น (หรือการทำเหมืองความคิดเห็น) ว่าหมายถึงการใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ การวิเคราะห์ข้อความ และภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เพื่อระบุและคัดแยกข้อมูลอัตนัยออกจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น สามารถใช้การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นบนโซเชียลมีเดียเพื่อปรับปรุงความถูกต้องของความต้องการในอนาคตที่คาดการณ์ได้ และมีข้อมูลเกิดขึ้นมากมายในโซเชียลมีเดีย เช่น ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ค ฯลฯ

ในทางปฏิบัติแล้วทุกสิ่งจะขึ้นอยู่กับการใช้งานจริง เช่นเดียวกับการวิเคราะห์เรื่องต่างๆ จำนวนและความน่าเชื่อถือของชุดข้อมูลพื้นฐานมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะดำเนินการ

เรียนรู้ไปกับความอัจฉริยะ 

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน การปฏิวัติเทคโนโลยีในแต่ละครั้งนั้นได้สร้างงานให้เกิดขึ้นมากกว่าที่จะทำลายล้าง ไม่ว่าจะพิจารณาไปที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมหรือการเพิ่มจำนวนการใช้งานอินเทอร์เน็ต ในตอนท้าย ผู้คนมากขึ้นจะมีงานเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยมีมาก่อน และมักจะได้รับค่าตอบแทนที่ดีกว่าเดิมเนื่องจากสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

“ด้วยเหตุนี้ผมจึงคาดหวังว่าข้อดีของ เอไอ จะมีมากกว่าข้อเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้คนได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่พวกเขาจะต้องทำงานควบคู่ไปกับระบบอัจฉริยะต่างๆ”

นอกจากนี้ การพัฒนาด้านเทคโนโลยีมักใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนต้น เครื่องที่มีสติปัญญาทั่วไปเหมือนมนุษย์อาจต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายทศวรรษจึงจะเป็นจริงได้ทั้งหมด ดังนั้นสถานการณ์ที่เป็นไปได้ในตอนนี้ก็คือมนุษย์และ เอไอ จะต้องทำงานร่วมกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ถือเป็นสถานการณ์ที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

และแม้ว่าเทคโนโลยี เอไอ จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มและทดแทนงานของมนุษย์บางส่วนได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างงานใหม่ๆ เกิดขึ้นด้วย และงานใหม่ๆ เหล่านี้ยังคงต้องใช้แรงงานคนที่มีทักษะสูงกว่า จากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ที่ระบุว่า“ในปี2563เทคโนโลยี เอไอ จะกลายเป็นตัวกระตุ้นเชิงบวกในการสร้างงานได้มากถึง 2.3 ล้านงาน โดยจะมีงานลดลงเพียง 1.8 ล้านงานเท่านั้น

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ นี่ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น มีคำกล่าวและความคิดเห็นอีกจำนวนมากเกี่ยวกับความสำคัญของเอไอ และบางทีอาจมองว่าเป็นความเชื่อก็ได้ เช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่าง การหาสมดุลระหว่างการมองโลกในแง่บวกและลบย่อมเป็นเรื่องดีเมื่อพูดถึงเรื่องเอไอ แต่ทั้งนี้อย่าเชื่อทุกสิ่งที่กล่าวมา ให้ลงทุนในโอกาสที่เป็นไปได้และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการธุรกิจ

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 25/04/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,700.00 19,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,276.00 19,344.16 20,300.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,148.40 17,409.74 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 574.00 8,701.84 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 448.00 6,791.68 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,322.00 20,041.52 n/a
 
ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  25/04/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
28.15
แก๊สโซฮอล E-20 25.64 25.64 25.64 25.64 25.64 25.64 25.64 25.64 25.64
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 27.88 27.88 27.98 27.88 27.88 27.88 27.88 27.88 27.88 27.88
เบนซิน 95 35.26 35.71 35.76 35.26 35.26 35.26
ดีเซลหมุนเร็ว 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.49 30.49 30.49 30.49 30.49
มีผลตั้งแต่ 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00 21 Apr 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า