ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,700.00 | 19,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,276.00 | 19,344.16 | 20,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,148.40 | 17,409.74 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 574.00 | 8,701.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 448.00 | 6,791.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,322.00 | 20,041.52 | n/a |
คอนโดฯ สีลม-สาทร ทำเลยอดนิยมของคนทำงาน
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทำเลสีลม-สาทรติดลมบนโซนยอดนิยมของคนทำงาน ครองอันดับหนึ่งพื้นที่สำนักงานสูงสุด 2.1 ล้านตร.ม. ล่าสุดพบกระแสการเปิด co–working space มาแรง สอดคล้องกับการเติบโตในต่างประเทศ โดยในช่วง 2-3 ปี co–working space มีการเติบโตถึง 35% โดยเริ่มมีผู้ให้บริการต่างชาติเข้ามาเจาะตลาดโซนสีลม-สาทร รองรับกลุ่มคนทำงาน สตาร์ทอัพ ฟรีแลนซ์ และ expat ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยพบพื้นที่พัฒนาโครงการใหม่จำกัด ส่งผลให้ตลาดรีเซลและปล่อยเช่าน่าสนใจ ผลตอบแทนขายต่อ-ปล่อยเช่าอยู่ที่ 4-5%
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่ามีพื้นที่สำนักงานรวมทั้งสิ้น 8.6 ล้านตร.ม. โดยโซนสีลม-สาทร เป็นโซนยอดนิยมของคนทำงาน มีพื้นที่สำนักงานสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 2.1 ล้านตร.ม. คิดเป็น 24% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมด รองลงมาคือโซนสุขุมวิท 1.7 ล้านตร.ม. คิดเป็น 20% และ โซนรัชดาภิเษก 1.2 ล้านตารางเมตร คิดเป็น 14%
โซนสีลม-สาทร ทำเลทองของคนทำงาน
ทั้งนี้นอกจากโซนสีลม-สาทร จะเป็นย่านสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนวัยทำงานมากมาย อาทิ การเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกมีรถไฟฟ้าหลายสถานีล้อมรอบเกือบทุกมุมถนน มีสถานีเชื่อมต่อ BTS และ MRT จึงเป็นทำเลกลางเมืองที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญๆ ได้ง่าย นอกจากนี้โซนสีลม-สาทร ยังเริ่มเป็นทำเลที่มีพื้นที่สำนักงานร่วม (co-working space) ที่เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจแบ่งปัน ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนทำงาน ซึ่ง co-working space ยังมีแนวโน้มเติบโตทั่วโลกและในไทยเองก็มีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยล่าสุดในปี 2560 พบว่ามีผู้ใช้บริการทั่วโลก จำนวน 1.74 ล้านราย เติบโตจากปี 2558 เฉลี่ย 83%
Co-Working Space เติบโตในไทยอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลของ Global Co-Working Space Unconference Conference ได้วิเคราะห์ว่าภายในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการ co-working space ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 5.1 ล้านราย ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้จำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมมีการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น จากปัจจุบันในปี 2561 ที่น่าจะมีจำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมอยู่ที่ 17,725 แห่งและเติบโตเฉลี่ยราว 16% ต่อปีนั้น เพิ่มเป็น 30,432 แห่งทั่วโลกในปี 2565 สำหรับประเทศไทยเริ่มมีความต้องการหลังจากผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 เนื่องจากหลายๆ คนไม่สามารถเดินทางไปยังสำนักงานได้ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ co-working space ทั้งหมด 91 แห่งทั่วประเทศ โดย 70% เป็นพื้นที่ที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และ 30% ไปกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่ เป็นต้น โดยมีอัตราค่าใช้บริการแบบรายวันประมาณ 180 – 500 บาท หรืออาจคิดค่าบริการแบบเหมารายเดือนประมาณ 3,000 – 7,450 บาท ด้วยรูปแบบที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์การทำงานของคนรุ่นใหม่ จึงทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 35% ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้ให้บริการต่างชาติรายใหญ่ เช่น JustCo ได้เข้ามาเปิดให้บริการในทำเล สีลม-สาทร ซึ่งถือเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มคนทำงาน ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานออฟฟิศและสตาร์ทอัพในย่านนี้
อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านสีลม-สาทรนั้น พบว่าเหลือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการจำกัด ส่งผลให้มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยสูง ทั้งความต้องการในการซื้อต่อและความต้องการเช่า ทำให้คอนโดฯ ในทำเลนี้มีราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างน่าสนใจโดยราคานำกลับมาขายใหม่ (resale) และผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจทั้งคู่ โดยในส่วนของตลาดรีเซลมีผลตอบแทนการขายต่อ (capital gain) ประมาณ 4-5% ต่อปี ราคาขายต่อเฉลี่ยประมาณ 230,000 บาท/ ตร.ม. ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (rental yield) อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อปีเช่นกัน โดยราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ 800-1,000 บาท/ตร.ม.
สาเหตุที่ทำเลสีลม-สาทรได้รับความนิยมทั้งพื้นที่สำนักงาน co-working space และที่อยู่อาศัยนั้น เนื่องจากไม่เพียงตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนทำงานทั่วไป สตาร์ทอัพ และฟรีแลนซ์ ยังพบว่ามีความต้องการจากกลุ่มต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย (expat) และอยู่อาศัยในย่านธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลปี 2560 พบว่ามีจำนวน expat ในกรุงเทพฯ รวมประมาณ 1.2 ล้านคน
https://www.ddproperty.com
“กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองที่จีนเข้ามาทำธุรกิจมากที่สุด
JLL เผยประเทศจีนมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์การเมืองโลกเพิ่มขึ้น โดยกรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองที่บริษัทรายใหญ่ของจีนเข้ามาเปิดดำเนินธุรกิจมากที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก และเช่าใช้พื้นที่สำนักงานมากที่สุดเป็นอันดับ 3
“จีน” วางแผนขยายเส้นทางการทำธุรกิจไปทั่วโลก
นายเจรามี เคลลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเจแอลแอลทั่วโลก กล่าวว่า “จากรายงาน China12: China’s Cities Go Global ทำให้เห็นทั้ง 12 หัวเมืองบนแผ่นดินใหญ่ของจีน เป็นที่ตั้งของบริษัทรุ่นใหม่ที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีความเคลื่อนไหวและความมุ่งหวังสูงที่จะเติบโต และจะกลายเป็นคลื่นลูกต่อไปที่จะขยายธุรกิจออกไปยังทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากการที่มีบริษัทจีนจำนวนมาก ทั้งที่เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมานานแล้วและที่เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ได้ขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
บริษัทรายใหญ่ที่สุดของจีนหลายบริษัทเป็นผู้บุกเบิกในการขยายธุรกิจออกไปในต่างแดนและกลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกในด้านนวัตกรรม ซึ่งหากเทียบขนาดแล้ว แบรนด์ใหญ่ของจีน อาทิ ไป๋ตู้ (Baidu) อาลีบาบา (Alibaba) และ เทนเซ็นต์ (Tencent, เจ้าของ WeChat) อยู่บนสังเวียนการแข่งขันกับกูเกิ้ล (Google) อเมซอน (Amazon) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านฮาร์ดแวร์ของจีน ดังเช่น หัวเว่ย (Huawei) แซตทีอี (ZTE) และเลอโนโว (Lenovo) เป็นตัวอย่างของบริษัทจีนที่มีการขยายธุรกิจออกไปทั่วโลกอย่างกว้างขวางมากที่สุด
กรุงเทพฯ ติดอันดับ 10 เมืองที่จีนเข้ามาทำธุรกิจมากที่สุด
ในบรรดาเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่บริษัทจีนขยายเข้าไปทำธุรกิจ มีหลายๆ เมืองของเอเชียที่เป็นเป้าหมายสำคัญ อาทิ สิงคโปร์ โตเกียว โซล จาการ์ตา กรุงเทพฯ และเดลี โดยกรุงเทพฯ อยู่ในอันดับที่ 10 เนื่องจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคสำคัญที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนต้องการขยายเข้าไปทำธุรกิจมากที่สุด ส่วนกรุงเดลีของอินเดียตามมาในอันดับที่ 13 เนื่องจากเป็นเมืองหลวงของประเทศที่มีประชากรมากกว่าพันล้าน
นายเจรามี เคลลีย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “การขยายธุรกิจเข้าไปในเมืองเหล่านี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอันเป็นตลาดที่มีการเติบโต ช่วยให้บริษัทจีนสามารถเข้าถึงฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ของเอเชียซึ่งประกอบด้วยเป็นกลุ่มประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากและกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ มีบริษัทชั้นนำของจีนจำนวนมากที่แสดงความสนใจในธุรกิจสตาร์ทอัพของอินเดีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจรุ่งเรือง ดังจะเห็นได้จากการมีบริษัทจีนจำนวนมากในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมอร์สและสินค้าอุปโภคประเภทอีเล็กทรอนิกส์ เข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงในประเทศเหล่านี้บางประเทศ”
ในอนาคตอันใกล้ การขยายธุรกิจของบริษัทจีนที่เพิ่มมากขึ้นในหลายๆ เมืองของเอเชีย นับตั้งแต่เมืองศูนย์กลางขนาดปานกลางไปจนถึงเมืองขนาดใหญ่ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเมืองเหล่านี้ นอกเหนือจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการสำหรับพื้นที่สำนักงาน/สถานประกอบการ และเงินทุนไหลเวียนในภูมิภาค คาดว่าหลายๆ เมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านสาธารณูปโภคอันเกี่ยวเนื่องกับยุทธศาสตร์ของจีนที่เรียกว่า ความริเริ่มแถบเศรษฐกิจและเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ซึ่งจะช่วยสร้างงานและหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน คาดว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของจีนจะเปลี่ยนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยและการทำงานของผู้คนในเมืองเหล่านี้
https://www.ddproperty.com
ค่าบาท ‘แข็งค่า’ จับตาประชุมอีซีบี
บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่า “31.52 บาทต่อดอลลาร์” บอนด์ยิลด์ยืนเหนือระดับ3%แล้ว ตลาดรอจับตาประชุมธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้ ขณะที่บาทยังแกว่งตัวกรอบแคบ
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.52บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.55 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐเริ่มฟื้นตัว บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10ปีปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 3.0% เป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับตัวลงไปที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์ต่อยูโรก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรปสัปดาห์นี้
ในส่วนของราคาน้ำมันดิบแม้เบรนท์จะเริ่มติดแนวต้านที่ระดับ 75 เหรียญต่อบาร์เรล แต่แรงซื้อก็ยังคงหนาแน่น ราคาน้ำมันยังสนับสนุนให้เกิดแรงขายในตราสารหนี้ บอนด์ยิลด์สหรัฐที่ระดับ 3.03% ในปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ดึงให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
สำหรับวันนี้ยังต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรปว่าจะมีท่าทีผ่อนคลายนโยบายทางการเงินต่อไปนานกว่าที่ตลาดมองไว้หรือไม่ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปเริ่มชะลอตัวลง
ค่าเงินบาทในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลงเพราะตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (risk-on) แต่ช่วงนี้เงินบาทอาจไม่แข็งค่าเพราะเป็นช่วงที่มีแรงซื้อดอลลาร์เพื่อจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนกดไว้ในระยะสั้นมองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.48 – 31.58 บาทดอลลาร์
http://www.bangkokbiznews.com
เปิดอาณาจักร “แจ็ค หม่า” กับ 5 ธุรกิจ Alibaba ในไทย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Alibaba Group
ส่องอาณาจักร “แจ็ค หม่า” ในเมืองไทย มาดูกันว่ากลุ่มอาลีบาบา มีธุรกิจอะไรบ้างที่ลงทุนในไทย และร่วมมือกับเอกชนรายใดบ้าง
สืบเนื่องจาก นายแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มอาลีบาบา (Alibaba Group) ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทย ในการผลักดันนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี รวมถึงโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัล-อีคอมเมิร์ซ (อ่านข่าว ชื่นมื่น…บิ๊กตู่ เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ แจ็ค หม่า หารือลงทุนในพื้นที่ EEC)
แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า ปัจจุบัน กลุ่มอาลีบาบา ยังได้ร่วมลงทุนกับบริษัทเอกชนไทยอีกหลายแห่งมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเว็บไซต์ Money2Know ได้รวบรวมธุรกิจที่อาลีบาบาเข้ามาลงทุนในประเทศไทย มาให้ดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ภาพจาก Money2Know
1. ธุรกิจนำเข้า ส่งของ สินค้าออนไลน์
กลุ่มอาลีบาบา ได้ร่วมลงทุนกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยจำนวนมาก เพื่อทำธุรกิจนำเข้า ส่งออกสินค้าออนไลน์ เช่น โรจนะ อีทัช, เรดดี้แพลนเน็ต, คราวน์ เทค แอดวานซ์ และสวัสดี กรุ๊ป โดยได้ขยายบริการสมาชิก Gold Supplier และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในไทย
2. ร่วมมือสถาบันการศึกษาให้ความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซ
นอกจากร่วมมือกับภาคธุรกิจแล้ว อาลีบาบายังร่วมมือกับสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อให้ความรู้นักศึกษาและผู้ประกอบการ เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งถือว่าเป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการยกระดับธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย
อีกทั้ง เมื่อเดือนเมษายน 2560 ได้ลงนามข้อตกลงสามฝ่ายกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถาบันกลุ่มแม่น้ำโขง ในการสนับสนุนการพัฒนากลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในแถบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย
3. บริการชำระเงิน อาลีเพลย์ (Alipay)
อาลีเพลย์ เป็นผู้ให้บริการชำระเงินในประเทศจีนและต่างประเทศ ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารชั้นนำในไทยหลายแห่ง รวมถึงผู้ให้บริการชำระเงินชั้นนำอื่น ๆ เพื่อให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนแก่ผู้ประกอบการไทย โดยเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ล่าสุดอาลีเพลย์ได้เปิดให้บริการในไทยไปแล้วมากกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ โดยส่วนมากจะอยู่ในจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นหลัก
4. อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud)
อาลีบาบา คลาวด์ คือ ธุรกิจให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งครบวงจรสำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยปัจจุบันอาลีบาบา คลาวด์ เป็น 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ในไทย
5. เเพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว ฟลิกกี้ (Fliggy)
ฟลิกกี้ เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ทางด้านการท่องเที่ยว ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ผ่านผู้ประกอบการจำนวนมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งตอนนี้ ฟลิกกี้ ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีน
สำหรับธุรกิจไทยที่เข้าไปให้บริการบนแพลตฟอร์ม ฟลิกกี้ ของอาลีบาบา ก็มีทั้ง สายการบินไทย รวมถึงตัวแทนจำหน่ายการท่องเที่ยวในประเทศไทย อย่างแม็กซ์ สมายล์ และโกลเด้นกูซ
จากธุรกิจทั้งหมดที่กลุ่มอาลีบาบา เข้ามาลงทุนในไทยนั้น ได้เพิ่มโอกาสทางการค้าของผู้ประกอบการไทยกว่า 50,000 ราย และยังเป็นการเพิ่มช่องทางธุรกิจจากนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย ซึ่งน่าสนใจว่า หลังจากที่อาลีบาบา ได้ทำการตกลงร่วมมือกับรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว จะส่งผลต่อการลงทุนในประเทศขนาดไหน และผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์จากจุดนี้มากน้อยเพียงใด
https://money.kapook.com
หมอแนะพกยาสมุนไพรแก้ท้องเสียติดตัว ช่วงหน้าร้อน
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะประชาชนพกยาสมุนไพร ใช้รักษาอาการท้องเสีย หากปล่อยนานเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะประสบปัญหาจากโรคท้องเสีย ท้องร่วง เนื่องจากรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ถูกสุขลักษณะ มีเชื้อโรคปนเปื้อน จึงควรระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อโรคท้องเสีย ควรรับประทานอาหารที่ ปรุงสุกใหม่ ล้างมือ ล้างภาชนะบรรจุอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาด อย่างไรก็ตามบางครั้งอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการท้องเสีย แนะนำให้รับประทานยาเหลืองปิดสมุทร เป็นตำรับยาในยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ และเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ยารักษาโรคในกลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ยาแก้ท้องเสียในรูปแบบยาแคปซูล ยาผง ยาเม็ด
ประกอบด้วย เครื่องยา 13 ชนิด ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูกหรือมีเลือดปน และท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ วิธีใช้ สำหรับเด็ก อายุ 6 -12 ปี รับประทานครั้งละ 800 – 1,000 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม ทุก 3-5 ชั่วโมง หรือใช้ ยาธาตุบรรจบ วิธีใช้ สำหรับเด็ก อายุ 6 -12 ปี รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง หรือจะใช้ยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรก็ได้ รับประทานครั้งละ 500 – 2,000 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน
วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการท้องเสีย ส่วนใหญ่อาการท้องเสียหากไม่ติดเชื้อรุนแรง สามารถหายได้เอง แต่ข้อสำคัญเมื่อร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย มักจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายโดยเฉพาะในเด็กและคนสูงอายุจะอ่อนเพลีย มีไข้จากการสูญเสียน้ำ จึงจำเป็นต้องทดแทนน้ำและเกลือแร่ป้องกันภาวะขาดน้ำ ด้วยการดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำเกลือแห้งให้เพียงพอ ระหว่างท้องเสียควรรับประทานอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด และ ไม่ควรงดอาหาร เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร ไม่ควรรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด เป็นต้น หากมีอาการท้องเสีย ชนิดติดเชื้อ เช่น อุจจาระมีมูกเลือดปนหรือมีไข้ร่วมด้วย กลิ่นอุจจาระมีกลิ่นเหม็นคล้ายของเน่า ให้รีบไปโรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจหาเชื้อและทำการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันต่อไป
http://www.bangkokbiznews.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 26/04/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 |
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
28.55
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
– |
26.04
|
26.04
|
26.04
|
26.04
|
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.64 | 20.64 | – | – | – | – | – | 20.64 | 20.64 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 | 28.28 |
เบนซิน 95 | 35.66 | – | – | – | 36.11 | – | 36.16 | 35.66 | 35.66 | 35.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 | 27.89 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 30.89 | 31.76 | 31.76 | 31.76 | 31.76 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 | 25 Apr 05:00 |