ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,550.00 | 19,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,266.00 | 19,192.56 | 20,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,139.40 | 17,273.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 570.00 | 8,641.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 443.00 | 6,715.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,312.00 | 19,889.92 | n/a |
อสังหาฯพื้นที่ ‘อีอีซี’ สต็อกรอขายนำโด่ง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลสำรวจไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา พบ “ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา” โครงการที่อยู่อาศัย รอการขายนำโด่ง 67.4% เทียบ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ที่มีที่อยู่อาศัยรอการขายในปีทีผ่านมาประมาณ 2.6 ล้านหลัง คิดเป็น10 %ของประเทศ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ล่าสุดในไตรมาส 3 ปี2560 โดยดำเนินการเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสำคัญ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา(3 จังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) พบว่า 3 จังหวัดดังกล่าวมีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขาย (Housing Stock) รวมกันคิดเป็น 67.4% ของ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งมีจำนวน Housing Stock ปี 2560 ประมาณ 2.6 ล้านหลัง (คิดเป็นสัดส่วน10.0% ของประเทศ) และมีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ 47,256 หน่วย มูลค่ารวม 84,054 ล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ให้รายละเอียดว่า จังหวัดชลบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายประเภทบ้านจัดสรรจำนวน 498 โครงการ มีหน่วยในผังรวมกันประมาณ 66,569 หน่วย โดยมีจำนวนหน่วยมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ และในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 59 โครงการ รวม 7,698 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 20,657 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 52 โครงการ จำนวน 5,601 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 14,450 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 7 โครงการ จำนวน 2,097 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 6,207 ล้านบาท
แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย โดยภาพรวมเป็นโครงการอาคารชุดมากที่สุด 56% พื้นที่ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุงมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 21% อยู่ในอำเภอศรีราชามากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านเดี่ยว 12.8% อยู่ในอำเภอบางละมุงมากที่สุด
จังหวัดระยองมีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 221 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 76,273 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 26,943 หน่วย (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 21,839 หน่วย) เป็นอาคารชุด 4,007 หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 5,187 หน่วย) โดยจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด 45% รองลงมาอยู่ในอำเภอเมืองระยอง 34.4% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 25 โครงการ จำนวน 2,557 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 6,024 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 24 โครงการ จำนวน 2,479 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 5,545 ล้านบาท เป็นอาคารชุดเพียง 1โครงการ จำนวน 78 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 479 ล้านบาท
โดยภาพรวมจังหวัดระยองโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 36% อยู่ในอำเภอเมืองระยองมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 30.7% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านแฝด 15.3% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด ส่วนภาพรวมด้านการขายมีโครงการขายได้ 20,748 หน่วย หรือ 67 %(ต่อหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย) มีมูลค่าโครงการขายได้รวม 49,698 ล้านบาท อำเภอปลวกแดงมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 68.6% (ต่อหน่วยทั้งหมด 13,951 หน่วย) อาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 84.9% (ต่อหน่วยทั้งหมด 4,007 หน่วย)
จังหวัดฉะเชิงเทรามีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 46 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 11,039 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 32,911 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 10,432 หน่วย (ลดลงเล็กน้อยจากปี 2559 ที่มี 10,457 หน่วย) เป็นอาคารชุด 607หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 1,308 หน่วย) ในจำนวนดังกล่าวมีจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด 60% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 มีเพียง 1 โครงการ เป็นบ้านจัดสรร โดยมีจำนวน 80 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 182 ล้านบาท มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 11,039 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 10,432 หน่วย อาคารชุดประมาณ 1,308 หน่วย จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุด 36.6% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 33.8% อันดับสามเป็นบ้านแฝด 21.4% ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด
http://www.bangkokbiznews.com
พบดีลซื้อขายที่ดินสูงสุดไตรมาสแรกปี 61 ! ขณะตลาดอสังหาฯ ยังโตต่อเนื่อง
ผ่านไปไตรมาสแรกปี 61 ตลาดอสังหาฯ ยังส่อแววสดใสอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ประกอบอสังหาฯ จะพบต้นทุนราคาที่ดินสูงขึ้น แต่ยังพบดีลการซื้อขายที่ดินมูลค่าหลักพันล้าน สูงสุดในไตรมาสนี้ โดยที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ โซนCBD ยังคงมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ของปี 60 และคาดว่าจะคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปตลอดปี
ตลาดอสังหาฯ ปี 61 ส่อแววสดใส
จากรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ ของ Edmund Tie & Company Research เผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 60 โดยสังเกตได้จากตัวเลข GDP ที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 3.9% เป็น 4.0% ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เปรียบเสมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าในปีนี้ตลาดอสังหาฯ น่าจะส่อแววสดใส เนื่องจากช่วงต้นปี 2561 ภาครัฐมีความชัดเจนในการลงทุนแผนพัฒนาโครงการอย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและการจ้างงาน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจมีการเติบโต อีกทั้งแผนการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นั้นมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งโครงการขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์ให้เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออก รวมถึงแผนพัฒนาในอนาคตกับการสร้างรถไฟเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และโซนภาคตะวันออกนั้นน่าจะได้รับแรงหนุนให้โตขึ้นกว่าปี 60
ไตรมาสแรกปี 61 พบดีลการซื้อที่ดินมูลค่าสูง
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 เตรียมพบกับข้อตกลงการทุนที่มีมูลค่าสูงแห่งปี นั้นคือบริษัท เอพี เอ็มอี 6 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ของเมืองไทย อย่างบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน เข้าซื้อที่ดิน 3 ไร่ 1 งาน 59.9 ตร.ว. ของบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) โดยที่ดินผืนนี้มีมูลค่าสูงถึง 2.57 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นดีลการซื้อที่ดินเพื่อลงทุนใหญ่ที่สุดในไตรมาส 1 ของปี 2561 ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าที่ดินผืนดังกล่าว จะถูกพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ รูปแบบใด และจะมีมูลค่าสูงตามตลาดที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวหรือไม่
อัตราค่าเช่าคอนโดฯ – อาคารสำนักงานยังคงต่อต่อเนื่อง
ตลาดอสังหาฯ รูปแบบที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ ในย่าน CBD ซึ่งเป็นที่นิยมของนักลงทุน ยังคงมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 81% สูงกว่าไตรมาส 4 ปี 2560 อยู่ที่ 70% โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเป็น 349,206 บาท/ตร.ม. ขณะที่ตลาดอาคารสำนักงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 ยังไม่มีโครงการเปิดใหม่ แต่ขณะเดียวกันค่าเช่าโดยเฉลี่ยของสำนักงานเกรด A ในโซน CBD เพิ่มขึ้นต่อไตรมาสอยู่ที่ 820 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60
อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาฯ ในปี 61 นี้ ภาคเอกชนยังคงมีแนวโน้มเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น หลังจากชะลอตัวไปในช่วงปี 2560 และโซนทำเลที่มีศักยภาพของการเติบโตอย่าง CBD ยังได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนปัจจัยราคาที่ดินสูงก็ตาม
https://www.ddproperty.com
ชงนายกฯ 14 ข้ออุ้ม ‘20.8ล้านราย’ แรงงานนอกระบบ
สำนักงานสถิติฯ เผยจำนวนแรงงานนอกระบบ 55.2% หรือ20.8ล้านคน ขาดสวัสดิการคุ้มครอง-หลักประกันทางสังคม ชี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท แต่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญเท่าในระบบ
สำนักงานสถิติฯ เผยจำนวนแรงงานนอกระบบ 55.2% หรือ20.8ล้านคน ขาดสวัสดิการคุ้มครอง-หลักประกันทางสังคม ชี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท แต่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญเท่าในระบบ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างแรงงาน พร้อมขอเข้าม.39 ด้านประกันสังคมประกาศ ‘คืนสภาพ’ ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ 7.7 แสนคน
วานนี้ (30เม.ย.) นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวในงาน “เวทีสัมมนาเพื่อเปิดสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย” ว่า แรงงานนอกระบบมีสัดส่วนมากเกินกว่าครึ่งของผู้มีทำงานทั้งหมด และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2560 พบว่าในจำนวนผู้มีงานทำ 37.7 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบหรือผู้ทำงานไม่ได้รับความคุ้มครองหรือไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน 55.2% หรือ 20.8 ล้านคน และที่เหลือเป็นแรงงานในระบบ 44.8% หรือ 16.9 ล้านคน ในขณะนี้สภาพปัญหาของแรงงานนอกระบบ คือ เรื่องค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม ชั่วโมงการทำงาน งานหนัก
ยื่น 5 ข้อดูแลแรงงานนอกระบบ
นางสุจิน รุ่งสว่าง ประธานสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แรงงานนอกระบบได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท ต้องการให้รัฐดูแลสวัสดิการ โดยประกาศใช้ ร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการแรงงานนอกระบบ และได้ประกาศเจตนารมณ์ รวม 5 ข้อ คือ 1.จะร่วมสร้างและพัฒนาขบวนการแรงงานนอกระบบ ที่ครอบคลุมแรงงานทุกสาขาอาชีพ โดยเน้นความมีเอกภาพ เป็นอิสระ และมีประสิทธิภาพในการทำงาน 2.จะร่วมพัฒนาศักยภาพผู้นำ กลุ่ม หรือเครือข่ายแรงงานนอกระบบ พัฒนาด้านอาชีพให้มีความสามารถในการจัดการตนเอง 3.จะร่วมสร้างแนวร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงกับขบวนการทางสังคม และขบวนการแรงงานสากล
4. จะร่วมรณรงค์และผลักดันให้มีการพัฒนานโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สุขภาพ สวัสดิการทางสังคม ปกป้องคุ้มครองสิทธิของแรงงานนอกระบบให้สอดคล้องกับบริบทสังคมและเศรษฐกิจ 5. จะร่วมสร้างกระบวนการทางการเมืองของแรงงานนอกระบบที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหาคุณภาพชีวิต สร้างขบวนการทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เสมอภาคและเป็นธรรม
http://www.bangkokbiznews.com
ค่าบาท ‘อ่อนค่า’ รอผลประชุมเฟดคืนนี้
บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า “31.69บาทต่อดอลลาร์” คาดผลประชุมเฟดในคืนนี้จะทำให้บาทอ่อนค่าลงไปอีก
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.69บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.54 บาทต่อดอลลาร์
ในคืนที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว สหรัฐยืดระยะเวลาการพิจารณามาตรการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของยุโรปต่อไปอีกหนึ่งเดือน ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing) ปรับตัวลงเล็กน้อยไปที่ 57.3จุด แต่ยังถือว่าขยายตัวจากราคาสินค้าที่มีทิศทางดีขึ้น
ในฝั่งของตลาดการเงิน บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10ปี กลับตัวขึ้นมาที่ 2.97% อีกครั้ง ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นชี้ว่าตลาดเชื่อว่าบอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ราคาน้ำมันที่ย่อตัวลงดึงให้บอนด์ยิลด์ไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก เราเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จับตาไปที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในคืนวันนี้ ขณะที่ภาพรวมเงินเฟ้อทั่วโลกยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันจะส่งผลให้เฟดพร้อมที่ใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะดันให้บอนด์ยิลด์และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าได้ต่อ
ทางด้านสกุลเงินเอเชียและค่าเงินบาท ได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่ดูดีขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินต่างๆเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เรามองว่า ผลการประชุมเฟดในคืนนี้จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก เช่นเดียวกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ที่น่าจะเป็นบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.63 – 31.73 บาทต่อดอลลาร์
http://www.bangkokbiznews.com
ติดต่อด่วน! สปส.คืนสภาพผู้ประกันตน ม.39
ประกันสังคม ประกาศคืนสภาพผู้ประกันตน ม.39 ที่สิ้นสภาพ แนะผู้ประกันตนติดต่อเช็คสิทธิตนเองด่วน ก่อนส่งเงินสมทบเพื่อคืนสภาพ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 19 เม.ย.62
สปส. ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายที่สิ้นสภาพแล้ว 7.7 แสนคน แนะผู้ประกันตนรีบเช็คสิทธิตนเองก่อนส่งเงินสมทบ เพื่อคืนสภาพ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 19 เม.ย.62
ประกันสังคม แจ้งผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ ขณะนี้ประกาศคืนสภาพแล้ว เลขาธิการ สปส. เผย ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายที่สิ้นสภาพแล้ว 7.7 แสนคน แนะผู้ประกันตนรีบเช็คสิทธิตนเองก่อนส่งเงินสมทบ เพื่อคืนสภาพได้ที่ www.sso.go.th สายด่วน 1506 บริการ 24 ชั่วโมง/สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เม.ย. 62
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง การดำเนินการคืนสภาพผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน ได้กลับเข้าสู่ระบบประกันสังคมอีกครั้ง ว่า พระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2561 โดยตัวเลขล่าสุดมีผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ จำนวน 777,228 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 เม.ย.61) อยู่ในข่ายได้รับการคืนสภาพให้กลับเป็นผู้ประกันตนเช่นเดิม
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 กลุ่มดังกล่าว สามารถตรวจสอบสิทธิการ คืนสภาพก่อนยื่นส่งเงินสมทบได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 บริการ 24 ชั่วโมง หรือติดต่อที่ สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ
อย่างไรก็ดี สำนักงานประกันสังคม ได้มีหนังสือแจ้งเรื่องการกลับเป็นผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพไปแล้ว โดยผู้ประกันตน มาตรา 39 สามารถยื่นคำขอได้ ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ / จังหวัด / สาขาทุกแห่ง หรือทางไปรษณีย์ (แนบแบบ สปส. 1-20/1) หรือทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เมษายน 2562
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนจะต้องชำระเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้กลับเป็นผู้ประกันตน หากผู้ประกันตนประสงค์ชำระเงินสมทบโดยวิธีหัก ผ่านบัญชีธนาคารให้แนบสำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่มีชื่อและเลขที่บัญชี มาติดต่อได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ
http://www.bangkokbiznews.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 02/05/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 02/05/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 |
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
28.95
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
26.44
|
26.44
|
26.44
|
26.44
|
26.44
|
– |
26.44
|
26.44
|
26.44
|
26.44
|
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.84 | 20.84 | – | – | – | – | – | 20.84 | 20.84 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 | 28.68 |
เบนซิน 95 | 36.06 | – | – | – | 36.51 | – | 36.56 | 36.06 | 36.06 | 36.06 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 | 28.29 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 31.29 | 32.16 | 32.16 | 32.16 | 32.16 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 | 01 May 05:00 |