สาระน่ารู้ประจำวันที่ 14 มิถุนายน 2566

พราวฯ มั่นใจดีลซื้อ2โครงการโนเบิล เสริมแกร่งธุรกิจสร้างกำไรขั้นต้น30%

‘พราว เรียลเอสเตท’ มั่นใจ ดีลใหญ่ ซื้อ 2 โครงการ โนเบิล ‘ดิสทริค อาร์ 9 -นิว ครอส คูคต สเตชัน’ สร้างกำไรขั้นต้น 30% กำไรสุทธิประมาณ 10% เสริมพอร์ตฟอลิโอให้แข็งแกร่ง พร้อมเตรียมระดมทุนรอบใหม่เฉียด 2.5 พันล้าน ดึงโนเบิลถือหุ้น 5%

เป็นครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่มีการดีลซื้อโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว กับโครงการ นิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) ซึ่งมียอดขาย (pre-sales) แล้ว 100% และ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 90 ที่มียอดขาย 83% มูลค่าลงทุน 1,735 ล้านบาท ของผู้พัฒนาโครงการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) PROUD ที่เข้ามาซื้อโครงการทั้งหมด โดยจะเริ่มต้นเป็นทางการเดือน ก.ค.นี้ 

ทั้งนี้จากการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ย่านคูคตพบว่าเป็นทำเลทองแห่งใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากจังหวัดปทุมธานีเข้ามาใน กทม. ทำให้มีโครงการใหม่เข้าไปลงทุน นำโดยบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม นิว ครอส คูคต สเตชัน เริ่มเปิดโครงการตั้งแต่เดือน เม.ย.2565 และปัจจุบันสร้างยอดขาย (pre-sales) แล้ว 100%

คูคต ศูนย์กลาง กทม.โซนเหนือ

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิลดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า ทำเลคูคตถือเป็นศูนย์กลางของ กทม.โซนทางเหนือ เนื่องจากมีสถานีรถไฟฟ้าคูคต จุดเริ่มต้นของการเดินทาง เชื่อมต่อจากจังหวัดปทุมธานี ทั้งจากพื้นที่รังสิต และจังหวัดนครนายก ต่อมาใน กทม. ใจกลางเมืองโดยรถไฟฟ้าที่ใช้เวลาเพียง 40 นาที  ทำให้ในย่านนี้กลายเป็นฮับที่ใหญ่ที่สุดในการเชื่อมต่อที่สำคัญในการเดินทางแห่งใหม่จากนอกเมืองสู่ในเมือง และกลายเป็นพื้นที่จราจรหนาแน่นและมีรถติดแล้ว

 ทั้งนี้ บริษัทได้พัฒนาโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน มีแผนจะมีการพัฒนารวมทั้งหมด 4 เฟส จะทยอยพัฒนาต่อเนื่อง นอกจากในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกราย ได้เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการออฟฟิศ ที่จะช่วยกระตุ้นทำให้ย่านคูคตมีความคึกคักมากขึ้นนับจากนี้ รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน

ธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิลดีเวลลอปเมนท์

โนเบิล เล็งร่วมถือหุ้นพราวฯ เดือน ก.ค.

นายธงชัย กล่าวว่า สำหรับดีลของโนเบิลกับพราว เรียล เอสเตท เป็นดีลโครงการพิเศษนี้ที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่เป็นไปตามกลยุทธ์ในการดำเนินการของบริษัทที่ต้องการสร้างอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงที่สุด (Maximize Return on Equity (ROE) & Internal Rate of Return (IRR) ) จากการลดระยะเวลาการถือครองและรับรู้กำไรที่สมเหตุสมผล ซึ่งโครงการร่วมทุนทั้ง 2 โครงการ ประสบความสำเร็จในการขายอย่างสูง

และทั้ง 2 โครงการนี้เป็นการพัฒนาระหว่าง บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) โดยบริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ เป็นบริษัทร่วมทุน ระหว่างบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ภายใต้เครือสหพัฒน์ มีโครงการที่พัฒนาทั้งหมด 13 โครงการ มูลค่ารวม 34,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเปิดโครงการในปีนี้และปีต่อไป และเฉลี่ยรอบลงทุนจะใช้ระยะเวลา 2-3 ปี ถึงจะสร้างรายได้ แต่ดีลนี้ที่จบเร็วในเวลา 1 ปีเท่านั้น ทำให้บริษัทพร้อมขายโครงการที่สามารถสร้างรายได้เข้ามาทันที รวมถึงสามารถนำเงินที่ได้จากการขายโครงการในครั้งนี้ นำไปพัฒนาโครงการใหม่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม แม้เป็นครั้งแรกของบริษัทที่ขายโครงการรูปแบบนี้ แต่บริษัทมีหลายโมเดลที่จะร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท พราว เรียล เอสเตท โดยแผนต่อไปจะเข้าไปร่วมลงทุนถือหุ้นใน บริษัท พราว เรียล เอสเตท คาดว่าจะเริ่มเห็นในเดือน ก.ค.นี้ คาดว่าจะไม่ถึง 10%

พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท

พราวฯ คาดแบ็คล็อกทะลุ หมื่นล้าน

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงนามสัญญาซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด และ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด 100% จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) โดยทั้ง 2 บริษัทได้พัฒนาใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) มีมูลค่าโครงการรวม 8,623 ล้านบาท

โครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station)

แต่การลงทุนซื้อทั้ง 2 โครงการรวมอยู่ที่ 1,735 ล้านบาท ซึ่งโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน  จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567

ทั้ง 2 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้ปี 2567-2568 ทำให้บริษัทมี Backlog ถึง 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,180 ล้านบาท ถือเป็นการทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทมีโครงการที่กำลังพัฒนารวม 4 โครงการ แต่โครงการที่มีอยู่ในมือจะแล้วเสร็จหลังปี 2568 จึงเป็นการปิดช่องว่างของรายได้ในปี 2567-2568 

ซึ่งดีลที่เกิดขึ้นนี้จะสร้างกำไรขั้นต้นอย่างน้อย 30% และกำไรสุทธิประมาณ 10% พร้อมช่วยเสริมพอร์ตฟอลิโอให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยนับเป็นโครงแรกของบริษัทที่ได้เข้าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบนี้เต็มตัว และเป็นโครงการที่เข้าไปลงทุนในเชคเมนต์ใหม่ จากที่ผ่านมาจะเน้นตลาดระดับลักชัวรี เป็นหลัก

พราวระดมทุนรอบใหม่ 2,490 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อระดมทุนจำนวน 2,490 ล้านบาท แบ่งเป็น ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering : RO) ในอัตราส่วน 1.80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท ส่วนส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน อีก 1,890 ล้านบาท โดยจะเสนอเรื่องที่ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น คาดว่าจะมีสัดส่วนประมาณไม่เกิน 5% ต่อการประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน ก.ค.นี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการลงทุนใหม่นี้ แม้ว่าบริษัทจะได้รับ IRR ลดลงอยู่ที่ 12% จากปกติโครงการที่พัฒนาจะมี IRR 20% แต่ความเสี่ยงในการบริหารลดลง เนื่องจากทั้ง 2 โครงการขายเกือบหมดแล้ว และคาดว่าจะขายหมดในสิ้นปี 2566 รวมถึงมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ของบริษัทเติบโตก้าวกระโดดถึงระดับ 10,000 ล้านบาทในปี 2569 จากเดิมตั้งเป้าหมายที่ 4,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายจะทำให้บริษัท ติดอันดับ Top10 ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


วิน-วินดีล ‘พราว เรียลเอสเตท’ มั่นใจซื้อ 2 โครงการ โนเบิล ดัน Backlog หมื่นล้าน

วิน-วินดีล ‘พราว เรียล เอสเตท’ ลงนามซื้อหุ้น 2 บริษัท จาก ‘โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์’ ลุย 2 โครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และ นิว ครอส คูคต สเตชัน ดัน Backlog ทะลุ 10,000 ล้าน เตรียมแผนระดมทุนรอบใหม่วงเงิน 2,490 ล้าน ทั้งออกหุ้นเพิ่มทุน กู้ยืมจากสถาบันการเงิน ขึ้นแท่น Top10 บริษัทอสังหาใน 5 ปี

นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) “PROUD” เปิดเผยว่า บริษัทลงนามสัญญาซื้อหุ้นสามัญ ของบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด (KK) และ บริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด (PA9) ในสัดส่วน 100% จาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) โดยทั้งสองบริษัทได้พัฒนาใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station) ) มีมูลค่าโครงการรวม 8,623 ล้านบาท

ทั้งนี้การลงทุนซื้อ 2 โครงการ ทั้งโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station ) จะอยู่ที่ 1,735 ล้านบาท ซึ่งโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน (Nue Cross Khu Khot Station ) สร้างยอดขาย (pre-sales) แล้ว 100% 

ทั้งนี้จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567 และโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 (Nue District R9) มียอดขาย (pre-sales) แล้ว 83% คาดรับรู้รายได้ในปี 2568 โดยภาพรวม 2 โครงการจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 2567-2568 ทำให้บริษัทมี Backlog ถึง 10,000 ล้าน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,180 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อระดมทุนจำนวน 2,490 ล้านบาท แบ่งเป็น ออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ PROUD (Right Offering : RO) ในอัตราส่วน 1.80 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 1.75 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 624 ล้านบาท ส่วนส่วนที่เหลือเป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเป็นเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน อีก 1,890 ล้านบาท

ทั้งนี้มั่นใจว่าการลงทุนโครงการนี้จะทำให้ PROUD สร้างรายได้เติบโตก้าวกระโดดถึง 10,000 ล้านบาท ในปี 2569 จากเป้าหมายที่วางไว้เดิมที่ 4,000 ล้านบาท พร้อมช่วยขยายฐานทุน เพิ่มขีดความสามารถทางการเงินและศักยภาพของบริษัท พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน และวางเป้าหมายให้ติดอันดับ Top10 ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า

“ภาพรวมผลประกอบการของ PROUD สามารถถึงจุดเทิร์นอะราวนด์สำเร็จทั้งรายได้และกำไร ในผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ผ่านมา จากความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคง บริษัทจึงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ และพอร์ตโครงสร้างธุรกิจให้มีความหลากหลายขึ้นทั้งทำเลที่ตั้งและกลุ่มลูกค้า”

ด้าน นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า การขาย 2 โครงการภายใต้บริษัทร่วมทุน 2 แห่งดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์ในการดำเนินการที่ต้องการสร้างอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงที่สุด (Maximize Return on Equity (ROE) & Internal Rate of Return (IRR) ) จากการลดระยะเวลาการถือครองและรับรู้กำไรที่สมเหตุสมผล ซึ่งโครงการร่วมทุนทั้ง 2 โครงการ ประสบความสำเร็จในการขายอย่างสูง

“นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการต่อยอดธุรกิจ ภายใต้การเป็น Strategic Partner ร่วมกันของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งจากความร่วมมือครั้งนี้จะร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มสู่การต่อยอดและการเติบโตให้กับ NOBLE และ PROUD ในอนาคต”

ขณะเดียวกันบริษัทยังทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการในบทบาทเดิม รวมถึงชื่อโครงการการก่อสร้างและการบริหารโครงการหลังการขายและการรับประกันผลงานการก่อสร้าง เพื่อให้ไม่มีผลกระทบต่อลูกค้า โดยกระบวนการขายเงินลงทุนและโอนหุ้นใน PA9 และ KK รวมถึงเงินกู้ยืมผู้ถือหุ้นบางส่วนจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วนแล้ว คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ก.ค. 2566 ทำให้บริษัทสามารถบันทึกกำไรพิเศษในช่วงไตรมาส 3/2566

ภาพรวมในปัจจุบันบริษัทมีโครงการร่วมทุนกับ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) ทั้งหมด 13 โครงการ มูลค่ารวม 34,800 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 14มิ.ย. ที่ระดับ 34.69 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ หากผลการประชุมเฟดย้ำจุดจบการขึ้นดอกเบี้ย จับตาทิศทางราคาทองคำย่อตัวลงต่อเนื่อง โฟลว์ธุรกรรมเข้าซื้อทองคำอาจกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่า

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 14มิ.ย.2566 ที่ระดับ  34.69 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.55 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซน 34.70 บาทต่อดอลลาร์ ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำเป็นปัจจัยหลัก ขณะที่จังหวะการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ก็มีส่วนช่วยกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเรามองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา อาจส่งผลต่อเนื่องมายังการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ได้บ้าง

ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัด โดยเราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจเผชิญโซนแนวต้านแรกแถว 34.70-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเรามองว่าผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจใช้จังหวะการอ่อนค่าดังกล่าวในการปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์ได้บ้างก่อนรับรู้ผลการประชุมเฟด

ทั้งนี้ หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านดังกล่าว เรามองว่า มีโอกาสที่เงินบาทอาจอ่อนค่าลงต่อเนื่องไปทดสอบโซนแนวต้าน 34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้ เนื่องจากระดับดังกล่าวเป็นโซนที่บรรดาผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่ ซึ่งภาพดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้

หากผลการประชุมเฟดไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาด เช่น เฟดอาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ในส่วน Dot Plot ใหม่ กลับมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ 1-2 ครั้งในการประชุมครั้งถัดๆ ไป

ในทางกลับกัน หากผลการประชุมเฟด เป็นไปตามที่เราคาด และ Dot Plot ย้ำจุดจบการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เราประเมินว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ โดยมีโอกาสเห็นเงินบาทแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์

 แต่ต้องจับตาทิศทางราคาทองคำ เพราะหากตลาดเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงและกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงต่อเนื่อง จนหลุดโซนแนวรับปัจจุบัน ก็อาจเห็นผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็อาจกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้

อนึ่ง เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังเผชิญความไม่แน่นอนของการเมืองไทย รวมถึงทิศทางนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.75 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมเฟดและอาจอยู่ในกรอบ 34.50-34.90 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ต่อเนื่อง หลังอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ชะลอลงตามที่ตลาดคาดหวัง ส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดคาดว่า เฟดมีโอกาสราว 94% (จาก CME FedWatch Tool) ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าว ได้หนุนให้ หุ้นสไตล์ Growth หุ้นกลุ่มเทคฯ และหุ้นธีม AI ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำโดย Nvidia +3.9%, Tesla +3.6% ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.69%

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อ +0.55% นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม (Anglo American +2.8%, Kering +1.0%) ตามความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน หลังทางการจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นลง

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคฯ และธีม AI เช่นเดียวกับในฝั่งสหรัฐฯ (ASML +1.4%) อย่างไรก็ดี แนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังเป็นปัจจัยกดดันการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป

ทางด้านตลาดบอนด์ แม้ว่า ผู้เล่นในตลาดจะต่างมองว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ จากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ที่ชะลอลงตามคาด แต่ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 3.82%

อย่างไรก็ดี เรายังคงมองว่า ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอจังหวะในการทยอยเข้าซื้อ (buy on dip) บอนด์ระยะยาว ทำให้การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ระยะยาวมีการปรับตัวขึ้นจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด หรือ การปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อการขึ้นดอกเบี้ยเฟดนั้นจะเป็นไปอย่างจำกัด

 ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะอ่อนค่าลง หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ชะลอลงตามคาด ก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นมาบ้าง ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่หนุนให้บอนด์ยีลด์ในฝั่งสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 103.3 จุด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการประชุมเฟด ซึ่งจะรับรู้ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีนี้

ส่วนในฝั่งราคาทองคำ บรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน รวมถึงการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ย่อตัวลงมาทดสอบโซน 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในช่วงที่มีการย่อตัวลงมาและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็อาจมีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมเฟด ซึ่งจะรับรู้ในช่วงเวลา 1.00 น. ของเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาในประเทศไทย โดยเราคาดว่า การชะลอตัวลงต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มเห็นผลกระทบต่อภาคการบริการ (ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของเศรษฐกิจ) ส่วนตลาดแรงงานก็ชะลอลงมากขึ้น

รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง และภาวะสินเชื่อ (Credit Condition) ที่ตึงตัวขึ้นอย่างชัดเจน จะส่งผลให้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.00-5.25% นอกจากนี้ เรายังคาดว่า เฟดอาจมีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจเพื่อให้สะท้อนแนวโน้มการชะลอลงของข้อมูลเศรษฐกิจที่ผ่านมามากขึ้น และที่สำคัญ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ใหม่ อาจยังคงสะท้อนว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.00-5.25%

ซึ่งเราประเมินว่า ควรจะเห็นจำนวนเจ้าหน้าที่เฟดที่มีมุมมองดังกล่าวมากขึ้น และจำนวนเจ้าหน้าที่เฟดที่สนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ควรจะลดลงบ้าง อย่างไรก็ดี หากผลการประชุมเป็นไปตามเราคาด แต่ Dot Plot กลับสะท้อนโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ก็อาจส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวน โดยเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น สวนทางกับที่เราคาดการณ์ได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.59-34.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ

โดยเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวเป็นกรอบ เนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามท่าทีของประธานเฟด รวมถึงสัญญาณจากผลการประชุมและ dot plots ของเฟดในคืนนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้า หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ออกมามีภาพปะปน

และสะท้อนว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอลงอย่างช้าๆ โดยแม้ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงมาที่ 4.0% YoY ต่ำตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจ reuters ซึ่งอยู่ที่ 4.1% (4.9% ในเดือนเม.ย.) แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็ยังคงปรับตัวลงอย่างช้าๆ มาที่ 5.3% เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจ reuters อยู่ที่ 5.2% (จาก 5.5% ในเดือนเม.ย.)

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.55-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติตตามจะอยู่ที่ประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ทิศทางฟันด์โฟลว์ ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ และผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ไทย VS เยอรมนี : วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2023, เทียบสถิติ 

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2023 สัปดาห์ที่สอง ที่เมืองบราซิเลีย ประเทศบราซิล จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 19 มิถุนายน 2566

โดยในสัปดาห์ที่สอง “ทัพนักตบสาวทีมชาติไทย” ทีมอันดับ 14 ของโลก จะลงสนามพบกับ เยอรมนี ทีมแกร่งจากยุโรป อันดับ 12 ของโลก

ซึ่งคู่นี้ที่ผ่านมาสถิติการพบกันต้องบอกว่าสูสีกันมาก ทั้งอันดับโลก และผลงาน เราลองไปดูผลงานที่ผ่านมา ก่อนที่จะพบกันในคืนนี้

เฮดทูเฮด 5 ครั้งหลังสุด : ไทย ชนะ 2, เยอรมนี ชนะ 3
5 ตุลาคม 2565 : ไทย แพ้ เยอรมนี 1-3 (ชิงแชมป์โลก)
12 มิถุนายน 2564 : ไทย ชนะ เยอรมนี 3-1 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
21 พฤษภาคม 2562 : ไทย ชนะ เยอรมนี 3-0 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
30 พฤษภาคม 2561 : เยอรมนี ชนะ ไทย 3-2 เซต (เนชั่นส์ ลีก)
08 มิถุนายน 2560 : เยอรมนี ชนะ ไทย 3-1 เซต (มองเทรอซ์ มาสเตอร์ส)

สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมจะลงสนามเกมแรก พบกับ เยอรมนี ในวันคืนพุธที่ 14 มิถุนายน 2566 เวลา 03.00 น. แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ช่อง 7HD

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ฮอร์โมน เมลาโทนิน รักษาโรคซึมเศร้า นอนไม่หลับ

ในภาวะที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เครียดเพราะเรื่องงาน ความรัก เงิน สุขภาพ หรือแม้กระทั่งสถานการณ์บ้านเมืองต่างๆ อาจทำให้คุณตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า หรือมีอาการแรกเริ่ม คือ นอนไม่หลับ จนต้องหันไปพึ่งยานอนหลับกันเป็นว่าเล่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่วิธีที่ดีต่อร่างกาย แต่ก็เข้าไปช่วยปรับฮอร์โมน “เมลาโทนิน” ในสมอง ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ว่าแต่ เจ้าฮอร์โมนเมลาโทนินช่วยให้เราหลับสบายขึ้นได้อย่างไร แล้วมิวิธีไหนที่จะทำให้เจ้าฮอร์โมนตัวนี้ทำงานได้อย่างแข็งขัน มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น ตาม Sanook! Health มาอ่านกันใกล้ๆ เลยค่ะ


ฮอร์โมน “เมลาโทนิน” คืออะไร

เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่จะถูกผลิตโดยต่อมไพเนียลในสมอง ขณะที่เรากำลังนอนหลับ มีหน้าที่ในการช่วยปรับนาฬิกาชีวิตของเราให้คงที่ หรือพูดง่ายๆ คือช่วยให้เราง่วงนอนตามเวลาที่เราควรจะนอน และลืมตาตื่นนอนในเวลาที่เราควรจะตื่นนั่นเอง

โดยฮอร์โมนเมลาโทนินจะเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วง 21.00-22.00 น. เราก็จะเริ่มง่วงนิดๆ แต่ถ้ายังถ่างตาต่อไปอยู่เรื่องๆ เมลาโทนินก็จะเริ่มค่อยๆ ทวีพลังมากยิ่งขึ้นในช่วง 02.00-04.00 น. หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ลดการทำงานลง จนกระทั่งช่วง 07.00-08.00 น. ก็จะหยุดทำงาน ซึ่งก็เป็นช่วงที่เราควรตื่นนอนพอดีนั่นเอง

นอกจากนี้เมลาโทนินยังถูกกระตุ้นให้ทำงานในสภาวะความมืด และจะถูกยับยั้งการทำงานในสภาวะแสงสว่างอีกด้วย เมื่อเราอยู่ในที่มืดนานๆ อย่างโรงภาพยนตร์ หรือท้องฟ้าจำลอง เราจึงง่วงไงล่ะ

ประโยชน์ของฮอร์โมนเมลาโทนิน

1. ทำให้เรานอนหลับสบาย และหลับตื่นเป็นเวลามากขึ้น
สำหรับใครที่ทำงาน หรือใช้ชีวิตไม่ปกติ หลับตื่นไม่เป็นเวลา เช่นผู้ที่ต้องทำงานเป็นกะ ผู้ที่ต้องบินไปต่างประเทศบ่อยๆ นานๆ ไม่สามารถปรับเวลานอนได้ จนมีอาการ jetlag หรือผู้ที่ทำงานโต้รุ่งบ่อยๆ ฮอร์โมนเมลาโทนินจะช่วยปรับสภาพนาฬิกาชีวิตของคุณให้เป็นปกติได้ กล่าวคือง่วงในช่วงที่ควรจะนอน และตาสว่างในช่วงที่ควรจะตื่นนั่นเอง

2. ปรับสภาพอารมณ์ให้เป็นปกติ พ้นจาภาวะซึมเศร้า
ใครก็ตามที่ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนตามปกติ พักผ่อนไม่เพียงพอ ย่อมส่งผลต่อระบบร่างกายที่ค่อยๆ รวนไปทีละส่วน หนึ่งในนั้นคือภาวะอารมณ์ซึมเศร้า ซึ่งฮอร์โมนเมลาโทนินจะช่วยปรับสภาพอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติได้ ดังจากที่จะเห็นว่าผู้คนในเมืองที่มีอากาศหนาว แสงสลัว ไม่ค่อยสดใส และมีช่วงเวลากลางคืนที่ยาวนาน มีโอกาสอยู่ในสภาวะซึมเศร้าได้ง่ายว่าคนที่อยู่ในประเทศเมืองร้อน แดดส่องสว่างไสว และช่วงกลางวันยาวนานกว่า

3. ชะลอความชราภาพ หรือแก่ช้าลง
ฮอร์โมนเมลาโทนิน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถทำปฏิกิริยาต่างๆ และทำลายเซลล์อื่นๆ ในร่างกาย เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง หลอดเลือดหัวใจขาดเลือดได้ นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของไขมันในเยื่อหุ้มเซลล์ได้ด้วย จึงช่วยชะลอความชราภาพได้

ทำอย่างไร ฮอร์โมนเมลาโทนินถึงจะทำงานได้อย่างปกติ โดยไม่ต้องใช้ยา

1. พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เป็นเวลา นอนเวลาเดิมๆ ตื่นเวลาเดิมๆ นับให้ได้อย่างต่ำ 6 ชั่วโมงต่อวัน บางทฤษฎีกล่าวว่า หากทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน สิ่งๆ นั้นจะกลายเป็นนิสัยที่เราทำได้โดยอัตโนมัติ ลองนอนและตื่นเวลาเดียวกันให้ได้ 21 วันติดดูนะคะ
2. ปิดไฟ หรือเปิดเพียงไฟสลัวๆ ขณะนอนหลับ จะช่วยทำให้ฮอร์โมนเมลาโมนินทำงานได้ดีขึ้น
3. ทานมะเขือเทศ สับปะรด ส้มและกล้วย หลังมื้อเย็น จะช่วยสร้างฮอร์โมนเมลาโทนินให้กับร่างกายได้
4. หากกำลังทานยาแก้ปวด เช่น ยาแอสไพริน หรือยาในกลุ่ม NSAIDS อยู่ เช่น ไดโครฟีแนค : โวลทาเรน ไอบูโพรเฟ่น และ พอนสแตน (ยาแก้ปวดท้องประจำเดือน) ควรทานหลังมื้ออาหารเย็นทันที อย่าทานก่อนนอน เพราะยากลุ่มนี้ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินลดลง หรือทางที่ดีควรเลี่ยงไปทานพาราเซตามอลแทน
5. งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม

นอกจากนี้หากอยากนอนหลับพักผ่อนให้สบาย แนะนำให้ออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น ดื่มน้ำให้เพียงพอ นั่งสมาธิก่อนนอน หรือฟังเพลงช้าๆ เบาๆ ก็ช่วยให้เรานอนหลับได้ดียิ่งขึ้น หลุดพ้นจากความเสี่ยงของการเป็นโรคซึมเศร้าได้อีกทางหนึ่งได้แล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” กับ “ลานีญา” แตกต่างกันอย่างไร

มีคำเตือน “เอลนีโญ” จะเกิดขึ้นกับโลกของเรา จึงชวนมาทำความรู้จัก ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” กับ “ลานีญา” แตกต่างกันอย่างไร

 3 ปีที่ผ่านมาเกิด “ปรากฏการณ์ลานีญา” มาอย่างต่อเนื่อง กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ค่าเฉลี่ยปกติของความกดอากาศที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง (mslp) และฝนรายเดือน 6 เดือน ล่วงหน้า (ก.ค.-พ.ย.66) ยังคงต้องติดตามความกดอากาศสูงจากซีกโลกใต้ ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อฝนบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้ ฤดูฝนดูจะสั้นลง ช่วงเดือน ต.ค.66 ปีนี้ ฝนหายไปเร็ว อาจจะเนื่องด้วย “ปรากฏการณ์เอลนีโญ” เริ่มแรงขึ้น ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพฝนในปีนี้

ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” กับ “ลานีญา” แตกต่างกันอย่างไร

เอลนีโญ ในภาษาสเปน คำว่าเอลนีโญ (el niño) หมายถึง เด็กชาย หากเกิดเอลนีโญ ปริมาณฝนของประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าปกติ โดยเฉพาะฤดูร้อนและต้นฤดูฝน ในขณะที่อุณหภูมิของอากาศจะสูงกว่าปกติ เฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เอลนีโญมีขนาดรุนแรง ผลกระทบดังกล่าวจะชัดเจนมากขึ้น

ลานีญา ในภาษาสเปน คำว่าลานีญา (La Niña) หมายถึง เด็กผู้หญิง ในปีลานีญา ปริมาณฝนของประเทศไทยส่วนใหญ่สูงกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนและต้นฤดูฝนเป็นระยะที่ลานีญามีผลกระทบต่อสภาวะฝนของประเทศไทยชัดเจนกว่าช่วงอื่น และพบว่าในช่วงกลางและปลายฤดูฝนลานีญามีผลกระทบต่อสภาวะฝนของประเทศไทยไม่ชัดเจน สำหรับอุณหภูมิปรากฏว่า ลานีญามีผลกระทบต่ออุณหภูมิในประเทศไทยชัดเจนกว่าฝน โดยทุกภาคของประเทศไทยมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติทุกฤดู และพบว่าลานีญาที่มีขนาดปานกลางถึงรุนแรงส่งผลให้ปริมาณฝนของประเทศไทยสูงกว่าปกติมากขึ้น ขณะที่อุณหภูมิต่ำกว่าปกติมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


10 ประโยคที่ใช้แสดงความไม่เห็นด้วย ในภาษาอังกฤษ

เมื่อคุณไม่เห็นด้วยกับใครบางคน โดยเฉพาะในที่ประชุมหรือที่ทำงาน มันมักจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดความคิดเห็นของเราออกไปโดยไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งโกรธหรือเคือง วันนี้แอดได้รวบรวม 10 ประโยคที่สามารถใช้แสดงความไม่เห็นด้วยแบบสุภาพกับคู่สนทนา ไม่มีเคืองแน่นอน ไปดูกันเลย

I’m afraid that’s not acceptable for us.
=> ฉันเกรงว่าสิ่งนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับจากเรา

I’m afraid we can’t agree with you there.
=> ฉันเกรงว่าเราไม่สามารถเห็นด้วยกับคุณได้

That’s a valid point, but…
=> นั่นก็เป็นสิ่งที่มีเหตุผล แต่…

I understand where you’re coming from, but…
=> ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดมา แต่…

We’re prepared to compromise, but…
=> เราพร้อมที่จะประนีประนอม แต่…

That’s not exactly as we see it.
=> สิ่งนี้ยังไม่ตรงตามที่เราได้เห็น

Is that your best offer?
=> นี่คือข้อเสนอที่ดีที่สุดของคุณใช่มั้ย?

I’m afraid I had something different in mind.
=> ฉันเกรงว่าจะมีบางสิ่งที่แตกต่างในความคิดนะ

I’m afraid that doesn’t work for me.
=> ฉันเกรงว่าสิ่งนั้นจะไม่ได้ผลสำหรับฉัน

If you look at it from my point of view…
=> หากคุณมองสิ่งนี้จากมุมมองของฉันนั้น…

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


SCG HOME Experience ก้าวสู่ปีที่ 15 ‘ทุกเรื่องบ้าน เป็นจริงได้’ วาระครบรอบที่ครบครันเรื่องบ้าน 15 มิ.ย. – 15ก.ค.นี้

‘ก้าวสู่ปีที่ 15 ทุกเรื่องการทำบ้าน เริ่มที่ SCG HOME Experience’ จัดงานฉลองวาระครบรอบตอกย้ำความเป็นผู้นำเรื่องการทำบ้านและที่อยู่อาศัย ด้วยความเชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุศาสตร์ และสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ตลอดจนมีสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ให้บริการลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพ ด้านผู้บริหาร ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เชิญชวนคนรักบ้านร่วมเดินทางชมความสำเร็จตลอด 14 ปีที่ชาวเอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ มุ่งมั่นและตั้งใจให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาเรื่องบ้านด้วยประสบการณ์ที่อัดแน่น ฉลองวาระครบรอบผ่านกิจกรรม ‘เปลี่ยนบ้านให้เป็นคาเฟ่ by SIRI’ พร้อมร่วมกิจกรรมสุดพิเศษกับการพูดคุยกันอย่างเปิดอกเรื่องบ้านและที่อยู่อาศัยใน Living Expert Talk ทุกวันเสาร์ เวลา 14.00-15.30 น. ตลอด 1 เดือนเต็ม กับหัวข้อสุดเทรนด์ อาทิ Better Living Better Life อยู่ดี กินดี สุขภาพดี, ทำสวนดูแลง่ายงบไม่บานปลาย, ปรับพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อเอื้อต่อการฝึก ให้เข้ากับพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง, รีโนเวตบ้าน ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ เป็นต้น

นอกจากนี้ห้ามพลาดทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-15.30 น. สำหรับสาย DIY จัด Workshop ให้ลงมือทำกันให้จุใจ ด้วยแนวคิด Upcycling Think เพื่อโลก นำของเหลือใช้กลับมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำมาทำเป็นของใช้ในบ้าน อาทิ สบู่จากกากกาแฟ, กระเป๋าจากไวนิล, จานรองแก้วจากโมเสก เป็นต้น

พร้อมต้อนรับการมาเยือนคนรักบ้านทุกท่านในงาน ‘ก้าวสู่ปีที่ 15 ทุกเรื่องการทำบ้าน เริ่มที่ SCG HOME Experience’ ในวันที่ 15 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่ 10.00-19.00 น. ณ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา

พิเศษสุดสำหรับผู้ที่มาร่วมงาน ลุ้นรับ Special Gift from SCG HOME Experience x S I R I รับภาพวาดครอบครัว by S I R I ในวัน Special Event สำหรับ 5 ท่านแรกที่ลงทะเบียนและเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้เฉพาะในงาน ลูกค้าที่ทำการช้อปสินค้าและบริการ รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท สามารถรับ Cash back สูงสุด 70,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด หรือ ผ่อน 0% นาน 3 เดือน** ลูกค้าที่สนใจอยากจะออกแบบบ้านใหม่ ต่อเติม และปรับปรุงรีโนเวทบ้าน สามารถจองลงทะเบียนปรึกษาเรื่องบ้าน ฟรีตลอดทั้งงาน

 โทร. 02-101-9922

 Line Official Account @scghomeexperience

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 14/06/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,850.0031,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,063.0031,275.0832,450.00
ทองรูปพรรณ 90%1,856.7028,147.57n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,650.4025,020.06n/a
ทองรูปพรรณ 50%928.0014,068.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%722.0010,945.52n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,138.0032,412.08n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/06/2566



ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.2535.2535.7435.2535.2535.2535.2535.2535.2535.25
แก๊สโซฮอล์ 9134.9834.9835.4434.9834.9834.9834.9834.9834.9834.98
แก๊สโซฮอล์ E2032.9432.9433.3432.9432.9432.9432.9432.9432.94
แก๊สโซฮอล์ E8533.3933.3933.39
เบนซิน 9543.0443.6143.5443.1943.04
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1642.9442.3642.3641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59


 

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า