สาระน่ารู้ประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2566

คีย์แมน “อนันดา”ดันแคมเปญ คอนโด”ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ”เจาะตลาดต่างชาติ

คีย์แมน “อนันดา” ANAN ดันแคมเปญ ‘ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ’ คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แนวรถไฟฟ้า เจาะตลาดต่างชาติ หลัง ออกแถลงการณ์  น้อมรับคำสั่งศาลฯเร่งหาทางออกให้ลูกบ้าน แอชตันอโศก 5แนวทาง ภายใน 14วัน

แม้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN  จะเจอมรสุมครั้งใหญ่ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง “แอชตันอโศก” แต่เชื่อว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้จากแนวทางแก้ไขของ “อนันดา” และจากการร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ “คีย์แมน” คนสำคัญ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ANAN  ได้ ออกแถลงการณ์  น้อมรับคำสั่งศาลฯและเร่งหาทางออกให้ลูกบ้านทันทีภายใน 14วัน หรือ ครบกำหนดวันที่23 สิงหาคม2566  ประกอบด้วย

1.ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการซื้อหรือหาที่ดินเพิ่มเติม

2.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านสำนักการโยธา กทม.ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.)

3.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. เสนอผ่านกระทรวงคมนาคม ไปยัง คณะรัฐมนตรี(ครม.)

4.ประสานเจ้าของเดิมให้ยื่นทบทวนสิทธิที่ดินทางเข้า-ออกจาก รฟม. ให้ทบทวนสิทธิที่ดินเดิมก่อนเวนคืน ควรให้สิทธิทางเข้า-ออกอย่างน้อย 12-13 เมตร เพื่อให้สามารถขึ้นอาคารสูงและขนาดใหญ่พิเศษได้

5.ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่

พาองค์กรโตไปข้างหน้า

 ขณะยุทธศาสตร์การนำอนันดาฯ เติบโตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเดินหน้าอย่างเข้มข้น  ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองไม่เสถียร  ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ ในการนี้ นายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ฐานเศรษฐกิจ”   โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้ฟังอย่าน่าสนใจว่า มีสามปรากฏการณ์ ที่ส่งผลกระทบและสร้างโอกาส  เริ่มจาก ปรากฎการณ์แรก 

“Unseen Impact”  การเมือง ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่งผล กระทบดีมานด์ไตรมาส3 ต่างรอดูสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตการณ์รุนแรงหรือไม่  ลูกค้าต่างชาติรายใหญ่ๆ ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ ชะลอออกไป ลูกค้าจีนยังไม่เปิดประเทศเต็ม100% ขณะไทยไม่มีรัฐบาลขับเคลื่อนทำให้ลูกค้าต่างชาติ “รอและก็รอ” 

ซ้ำร้ายตลาดคนไทยยังมีความเปราะบางสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 4-5ครั้ง ทำให้มีต้นทุนทั้งฝั่งซัพพลายและดีมานด์ เกิดขึ้นโดยทุก 1% ดีมานด์จะลดลง8% อัตราการผ่อนถ้าดอกเบี้ยขึ้น1% อนุมัติวงเงิน 1 ล้านบาทจะเหลือเพียง 9.2แสนบาท ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบต้นทุนโปรเจ็กต์  เพิ่มขึ้น 1-2%

ถ้าดอกเบี้ยขึ้น 1% มีผลกระทบต้นทุนโครงการประมาณ10% คอนโทรล มาจิ้น รวมแล้ว 12% จากดอกเบี้ยที่เพิ่ม 1% เพราะดอกเบี้ยขึ้นก็เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ และผู้ประกอบการ ต้องผลักให้ผู้บริโภคนี่คือเหตุปัจจัยที่คาดไม่ถึง หรือ “Unseen Impact”  ในช่วง5เดือนแรก ของปีนี้มีผลต่อไตรมาส 3 ต่อไตรมาส 4

กรุงเทพฯ เมืองอสังหาฯของโลก

 นายประเสริฐสะท้อนตัวเลข 5 เดือน (มกราคม-มิถุนายน2566) อย่างน่าสนใจว่า มีชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์กับกรมที่ดิน 13,900 ล้านบาท โต 33% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 65 ที่ 9,000ล้านมองว่า ในภาพรวมกลับโต 2% โดยไม่ติดลบเพราะ ได้กำลังซื้อต่างชาติพยุง หากการเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในปลายเดือนสิงหาคม กันยายนนี้ 

เชื่อว่า ไตรมาส 4 การกลับเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้าต่างชาติ การซื้อคอนโดมิเนียมของคนต่างชาติ ปรากฏการณ์ที่สอง “Bangkok In The Global  Property”  กรุงเทพฯเป็นเมืองอสังหาฯของโลกไปแล้ว ต่างชาติสนใจอยู่อาศัยและลงทุน ที่จะชดเชยตลาดคนไทยที่กำลังซื้อชะลอตัว

เมกะโปรเจ็กต์ พลิกโฉมกทม.

   ปรากฏการณ์ที่สาม “ Big  Change  of the Bangkok”  นายประเสริฐ มองว่ากรุงเทพฯ กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเมกะโปรเจ็กต์ ของภาคเอกชนที่กำลังเกิดขึ้น 3 ปีข้างหน้า บนถนนพระราม 4 ไม่ว่าจะเป็นวันแบงค็อก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และอีกหลายโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชน เกิดขึ้นในทำเลกลางใจเมือง

  “จะมีหลายโปรเจ็กต์บนถนนพระราม4 โปรเจ็กต์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหลังสวน ราชดำริ วิทยุ ด้วยตรงนี้จะเป็น พลิกโฉมให้กรุงเทพมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเวลาอีก 3 ปี ข้างหน้า จากการลงทุนนับหลายแสนล้านบาท”

   จุดนี้ทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนนายประเสริฐ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด “วันแบงค็อก” มีการลงทุนโรงแรม 4-5อาคารในคลัสเตอร์ เดียวกัน  จะเอาคนไทยที่ไหนไปพัก แน่นอนว่าต้องต่างชาติเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่กรุงเทพฯจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้า

“ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ”ดูดต่างชาติ

   หลังจากครึ่งปีแรกประสบความสำเร็จจากแคมเปญ ต่างๆที่นำมาสร้างสรรค์กระตุ้นกำละงซื้อแล้ว เป้าหมายครึ่งปีหลัง ในไตรมาส 3  หลัง รอดูสถานการณ์ในระดับหนึ่ง ในไตรมาสเตรียมขยับเปิดตัวโครงการใหม่ เหตุผลไตรมาส 3 บริษัท มีแคมเปญ ที่ต่างชาติเข้ามา และมีความต้องการโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่มขึ้นกว่า 30% แสดงว่าเขาต้องการซื้อและเข้าอยู่ได้เลย โดยเฉพาะตลาดจีนต้องการซื้อและหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ บริษัทจึงออกแคมเปญ  “ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ” เพื่อเข้ากับเทรนด์ต่างชาติ หลัง “ขี่คลื่น” ดีมานด์ต่างชาติครึ่งปีแรก 33% เห็นสัญญาณบวกที่ดีของกำลังซื้อต่างชาติ ในครึ่งปีหลังที่จะเข้ามาหลังการเมืองที่นิ่งอีกมาก

    “ต่างชาติต้องการอยู่เลยไม่ต้องการรอ 2-3 ปีข้างหน้า สะท้อนจากยอดโอน ต่างชาติโตจาก 5 เดือนแรกของปีที่แล้วประมาณ 33% ตลาดจีนโตประมาณ 57% ยอดโอนที่กรมที่ดินสะท้อนออกมาก็จะใช้กระแสนี้ ขี่คลื่นเอาคอนโดมิเนียมมาสร้างความแตกต่าง เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ทุกโครงการ มั่นใจว่านับจากนี้ จะสามารถทำให้ตลาดต่างชาติโตได้อีกกว่า10%

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ซีดีซี”แตกไลน์ธุกิจผุด”คริสตัล โฮม”เจาะตลาดกลุ่มไฮเอนด์

“ซีดีซี”แตกไลน์ธุกิจผุด”คริสตัล โฮม”เจาะตลาดกลุ่มไฮเอนด์ มองเทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ไม่ได้มองหาแค่กิจกรรมผ่อนคลาย แต่ต้องการกิจกรรมที่เพิ่มความพึงพอใจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นางสาวสุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต กรรมการบริษัท ลักซ์เซอรี แอท ลีฟวิง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการแตกไลน์ธุรกิจไปสู่การนำเสนอสินค้าตกแต่งห้องน้ำหรู รวมถึงบริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ดูแลงานออกแบบตกแต่ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย 

ทั้งนี้ เพื่อเจาะกลุ่มคนรักบ้านลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ตลอดจนอินทีเรีย ดีไซเนอร์ และดีเวลลอปเปอร์โครงการหรูที่มองหาอุปกรณ์และของตกแต่งดีไซน์สวย คุณภาพดี เพื่อสร้างสรรค์ห้องน้ำให้ตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความสมดุลในทุกมิติของการใช้ชีวิต ภายใต้ชื่อ “คริสตัล โฮม” (Crystal Home) เพื่อสร้างความชัดเจนระหว่างธุรกิจศูนย์การค้า และธุรกิจการจัดจําหน่ายสุขภัณฑ์ 

“เทรนด์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ไม่ได้มองหาแค่กิจกรรมที่ชวนให้ผ่อนคลาย แต่ยังต้องการกิจกรรมที่เพิ่มความพึงพอใจและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบของการสร้างความสมดุลต่างๆ ให้เกิดขึ้น เริ่มต้นจากห้องน้ำในบ้าน ซึ่งเป็นห้องที่มีการใช้งานเป็นประจำ จะต้องคำนึงถึงความสะอาด ความสะดวกสบายในการใช้งาน ตลอดจนความปลอดภัย”

นอกจากนี้ ห้องน้ำยังเป็นจุดเชื่อมระหว่างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีได้ ผ่านการออกแบบและเลือกของตกแต่งอุปกรณ์ในห้องน้ำอย่างใส่ใจ เพราะการออกแบบห้องน้ำให้มีพื้นที่จัดเก็บที่พอเพียง นอกจากจะสร้างความเป็นระเบียบที่ส่งผลดีต่อความสมดุลทางจิตใจ และทำให้มีพื้นที่เหลือทํากิจกรรมต่างๆ เช่น เป็นห้องแต่งตัว หรือใช้ตรวจสุขภาพด้วยการสังเกตุการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เป็นต้น

อย่างไรก็ดี มองว่าอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ยังช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกาย จิตใจและอารมณ์ เช่น การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ไม่เพียงเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและข้อต่อเท่านั้น แต่ยังทําให้หัวใจและปอดมีเสถียรภาพ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เสริมสร้างเนื้อเยื่อ และระบบประสาท หรือ การเลือกฝักบัวที่สามารถปรับหลายโหมด ก็ช่วยสร้างประสบการณ์การสัมผัสกับน้ำได้อย่างสนุกสนาน

นางสาวสุทธิภา ยังกล่าวอีกว่า ซีดีซีได้คัดสรรเฉพาะแบรนด์ที่เข้าถึงการออกแบบที่สะท้อนความหรูหรา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง รวมถึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพและนวัตกรรมที่ดีมารวมไว้อย่างครบครันที่ คริสตัล โฮม โดยได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Villeroy & Boch แบรนด์เซรามิกระดับตำนานอายุ 275 ปี จากเยอรมนี
 

“Villeroy & Boch เป็นแบรนด์ระดับลักซ์ชัวรี ที่มักได้รับเลือกให้นำไปใช้ในโปรเจกต์สำคัญๆ และโรงแรมหรูทั่วโลก อาทิ The Peninsula Paris, Hotel Majestic Barcelona และ อาคาร Elbphilharmonie Hamburg ที่ออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลกอย่าง Herzog & de Meuron โดยจุดเด่นของแบรนด์ คือ ดีไซน์ที่มีระดับเหนือกาลเวลา สามารถบ่งบอกสไตล์ของเจ้าของ ฟังก์ชั่นการใช้งานมาพร้อมนวัตกรรม ที่คิดค้นมาเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย เพื่อให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น ทำให้มีพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านสามารถสร้างความสุขได้ในทุกวัน”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 16ส.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 35.41 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่า หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่า ตลาดการเงินไทยยังคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองเพื่อประเมินแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลผสม

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 16ส.ค.2566 ที่ระดับ  35.41 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง เล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.39 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อได้บ้าง หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น จากความไม่มั่นใจของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่วนราคาทองคำก็ยังคงแกว่งตัวใกล้โซนแนวรับสำคัญ ทำให้ผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวได้

อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงบ้าง หลังเราพบว่า ผู้เล่นบางส่วนในตลาด โดยเฉพาะบรรดาผู้ส่งออก ต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ ขณะที่แรงขายสินทรัพย์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติก็มีแนวโน้มชะลอลง

หากการจัดตั้งรัฐบาลของไทยมีความชัดเจนมากขึ้น โดยเราประเมินโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นโซนแนวต้านแรก และโซน 35.75 บาทต่อดอลลาร์ เป็นโซนแนวต้านถัดไป นอกจากนี้ เรายังคงมองว่า เงินบาทอาจจบรอบการอ่อนค่าแถว 35.85-36.00 บาทต่อดอลลาร์ จากที่เราได้ประเมินไว้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ เรามองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.30-35.55 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานผลการประชุมเฟดล่าสุด

และมองกรอบเงินบาทในช่วง 35.20-35.70 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานผลการประชุมเฟดล่าสุด

ในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนสูง (แกว่งตัวในช่วง 35.31-35.46 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังตลาด sell on fact รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่รายงานข้อมูลตลาดบ้านสหรัฐฯ

และดัชนีภาคการผลิตที่สำรวจโดยเฟดนิวยอร์ก กลับออกมาแย่กว่าคาด อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนโดยถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟด รวมถึงความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงตลาดผันผวน

บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ท่ามกลางความกังวลของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า รายงานยอดค้าปลีกล่าสุดที่ออกมาดีกว่าคาด อาจหนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟดหรือเฟดอาจคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด กดดันให้หุ้นเทคฯ ใหญ่ต่างปรับตัวลดลง (Amazon -2.1%, Apple -1.1%)


 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร (BofA -3.2%, JPM -2.6%) หลัง Fitch Rating ส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดเครดิตเรทติ้งของธนาคารสหรัฐฯ หลายแห่งเพิ่มเติม ทำให้โดยรวม ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.16%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงกว่า -0.93% กดดันโดยแรงขายหุ้นธีม China-recovery อาทิ หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม หุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ (LVMH -1.5%, Shell -1.1%, Rio Tinto -1.3%) หลังผู้เล่นในตลาดต่างยังคงกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางรายงายข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ยังคงอ่อนแอ่ และปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง

ในฝั่งตลาดบอนด์ มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ที่ผันผวนไปมาในช่วงทยอยรับรู้รายงานยอดค้าปลีก สหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 4.16%-4.26% ก่อนที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 4.22% หลังผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือ คงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด

อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ระดับสูงกว่า 4.00% ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจ ในการทยอยเข้าซื้อ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น และเฟดอาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว และแม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสวนทางกับที่เราคาด ผลกระทบต่อบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็อาจมีอย่างจำกัด ซึ่งเราคงมองว่า risk-reward ของการทยอยซื้อในช่วงบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สูงกว่า 4.00% ยังมีความน่าสนใจและคุ้มค่าความเสี่ยง

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนหนักในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด โดยมีทั้งจังหวะอ่อนค่าเร็ว ตามแรงขายทำกำไร ลักษณะ Sell on Fact จากรายงานยอดค้าปลีกที่ดีกว่าคาด ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้รับอานิสงส์จากยอดขายสินค้าออนไลน์ Amazon Prime Day ก่อนที่เงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลังเจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ รวมถึงภาวะปิดรับความเสี่ยงในตลาดการเงิน ก็ยังคงหนุนความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย  ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 103.2 จุด (กรอบ 102.8-103.3 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ ความผันผวนของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้ส่งผลกระทบให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) เคลื่อนไหวผันผวนเช่นกัน โดยราคาทองคำมีจังหวะปรับตัวขึ้น ใกล้ระดับ 1,943 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ก่อนเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงสู่ระดับ 1,932 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะปรับฐาน และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ซึ่งจะรับรู้ในช่วงเวลาราว 1.00 น. ของเช้าวันพฤหัสฯ นี้ ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งเราคาดว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ก็อาจยังสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ แต่ก็อาจระบุว่า เฟดนั้นเข้าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ยได้เช่นกัน

นอกจากนี้ในฝั่งอังกฤษ ตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป Headline CPI ของอังกฤษ เดือนกรกฎาคม อาจชะลอลงสู่ระดับ 6.8% จากระดับ 7.9% ในเดือนก่อนหน้า

 ตามการปรับตัวลดลงของราคาพลังงาน รวมถึงมาตรการคุมราคาแก๊สและค่าไฟฟ้า แต่ทว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจชะลอลงเล็กน้อยสู่ระดับ 6.8% (จาก 6.9%) ทำให้เราประเมินว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อีก 2 ครั้ง ครั้งละ +25bps จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 5.75%

ส่วนในฝั่งไทย เรามองว่า ยังคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองต่อ เพื่อประเมินแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลผสมว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยตลาดการเงินไทยอาจกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นได้ หากการจัดตั้งรัฐบาลผสมมีความชัดเจนมากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เรื่องนี้มีเงื่อนงำ! “สองนักวิ่งสาวจีน” คล้ายผู้ชายหายหลังกฎใหม่ต้องตรวจฮอร์โมน

กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า เหลียว เหม่งซื่อ และ ตง เจิ้งหวน สองนักวิ่งสาวทีมชาติจีน ถูกสั่งแบนจากการแข่งขัน และถูกถอดสถิติการวิ่งของพวกเธอออกจาก สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF)

อย่างไรก็ตามทางฝั่งสื่อแดนมังกรบางแห่งได้ออกมายืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทั้งสองคนก็ยังมีสถิติการวิ่งอยู่ในเว็บไซต์ของสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติเหมือนเดิม เพียงแต่ทั้งคู่นั้นห่างหายจากการแข่งขันเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว

โดยแหล่งข่าวเผยว่า เหลียว เหม่งซื่อ ปัจจุบันในวัย 28 ปี เปลี่ยนสถานะกลายเป็นคุณแม่ ขณะที่ ตง เจิ้งหวน ในวัย 27 ปี ก็ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันอีกเลยเนื่องจากเบื่อหน่ายกับการฝึกซ้อม ทำให้ทั้งคู่นั้นหายไปจากวงการวิ่ง

ด้าน ไชน่าไทมส์ สื่อดังของประเทศได้เผยเบื้องหลังอีกมุมว่า ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา สมาคมกรีฑาจีน ได้ออกกฎข้อบังคับกำหนดให้ศูนย์กีฬาในทุกจังหวัดจะต้องดำเนินการตรวจฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) หากนักกีฬามีผลตรวจเกินมาตรฐานจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมแข่งขันในระดับชาติ ซึ่งนับตั้งแต่มีการออกกฎดังกล่าวสองนักวิ่งสาวก็ไม่เคยปรากฏตัวในการแข่งขันวิ่งอีกเลย

สำหรับ เหลียว เหม่งซื่อ และ ตง เจิ้งหวน สองนักวิ่งสาวจากมณฑลหูหนาน เปิดตัวในนามทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขัน วิ่งผลัด 4 x 400 เมตร รายการชิงแชมป์โลก ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2019

แน่นอนมันสร้างความแปลกใจให้กับแฟนๆ ทั่วโลก รวมถึงแฟนชาวจีน เป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกตั้งข้อสังเกตว่ารูปลักษณ์ภายนอกดูเหมือนผู้ชาย แถมน้ำเสียงทุ้มๆ ในตอนให้สัมภาษณ์นั้นก็เหมือนกับผู้ชายอีก แต่สุดท้ายเรื่องก็จบลงด้วยการที่ สมาคมกรีทาประเทศจีน ออกมายืนยันว่าทั้งคู่นั้นเป็นผู้หญิงจริงๆ ก่อนที่จะกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ไข้หวัด VS ไข้เลือดออก อาการแตกต่างกันอย่างไร?

ในช่วงที่ไข้เลือดออกกำลังระบาด บางครั้งเมื่อมีไข้ตัวร้อน เราอาจคิดว่าเป็นแค่เพียงไข้หวัดธรรมดา จนอาจทำให้กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นไข้เลือดออกก็อาจอยู่ในช่วงที่มีอาการหนักแล้ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากมีอาการหนักมากจริงๆ


อาการของไข้หวัดธรรมดา

  • มีไข้ อาจจะไข้สูง หรือต่ำ 
  • คัดจมูก 
  • เจ็บคอ 
  • ปวดศีรษะ 
  • ปวดกล้ามเนื้อ 
  • ไอ
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • อาการดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หลังรับประทานยาลดไข้ และยาลดอาการอื่นๆ


อาการของไข้เลือดออก

  • ไข้สูงลอย 2-7 วัน ไข้ขึ้นอย่างฉับพลัน และมักสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
  • ไม่มีอาการน้ำมูกไหล หรืออาการไอ
  • เบื่ออาหาร
  • อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • ผื่นขึ้นที่ผิวหนังเป็นจุดเลือดเล็กๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้
  • อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน
  • อาจถ่ายอุจจาระเป็นเลือด โดยอุจจาระเป็นสีดำ
  • มีอาการตับโต กดเจ็บ ในระยะ 3-4 วันหลังเริ่มมีอาการป่วยวันแรก


หากไม่สบาย มีไข้ ควรทำอย่างไร?

ควรสังเกตอาการของตัวเองให้ดีว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา หรือเป็นไข้เลือดออก เคยถูกยุงลายกัดหรือไม่ และหากมีไข้สูงโดยที่ไม่ลดเลยติดต่อกัน 2-3 วัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดต่อไป เพราะอาจเป็นไข้เลือดออก หรือไข้หวัดใหญ่ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมศัพท์ที่พบบ่อยมากๆๆในที่ทำงาน รู้ไว้เลย!! กันตาย กันโดนแกง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในที่ทำงาน






Accounting Manager



(n.) ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
Advantage(n.) ข้อได้เปรียบ
Advice(n.) คำแนะนำ/การเสนอแนะ
Apology(n.) คำขอโทษ
Applicant/Candidate(n.) ผู้สมัคร 
Audit(v.) ตรวจสอบ
Audit(n. /v.) ตรวจสอบบัญชี
Avoid(v.) หลีกเลี่ยง
Bookcase(n.) ตู้/ชั้นใส่หนังสือ
Budget(n.) งบประมาณ
Businessman(n.) นักธุรกิจ
Calculate(v.) คำนวณ
Calculator(n.) เครื่องคิดเลข
Calendar(n.) ปฏิทิน
Call(v.) โทร
Caller(n.) ผู้ที่โทรมาติดต่อ
Canteen(n.) โรงอาหาร
Catalogue/Catalog(n.) สมุดรายชื่อ/แค๊ตตาล็อก
CEO or Chief Executive Officer(n.) ประธานกรรมการบริหาร
Client/Customer(n.) ลูกค้า
Competitor(n.) คู่แข่ง
Concern(n.) ข้อกังวล
Conference/Meeting(n.) ประชุม
Confidential Document(n.) เอกสารลับ
Contract(n.) สัญญา
Convince(v.) โน้มน้าว/หว่านล้อม/ชักจูง
Corporate(adj.) ระดับองค์กร / เกี่ยวกับบริษัท
Co-Worker(n.) เพื่อนร่วมงาม                 
Customer Service Officer(n.) พนักงานฝ่ายบริการลูกค้า
Deal(n. /v.) ข้อตกลง/ซื้อขาย
Delay(n.) ความล่าช้า
Delete(v.) ลบ
Deliver(v.) ส่งมอบ
Desk(n.) โต๊ะ
Desk Drawer(n.) ลิ้นชักโต๊ะ
Detail(n.) รายละเอียด
Detect(v.) สืบหา
Devalue(v.) ลดค่า
Develop(v.) พัฒนา
Diagram(n.) แผนผัง
Direct Line(n.) สายตรงโทรศัพท์
Discover(v.) ค้นพบ
Donate(v.) บริจาค
Driver(n.) พนักงานขับรถ
Due(adj.) ครบกำหนด
During(Prep.) ในระหว่าง
Duty(n.) หน้าที่ความรับผิดชอบ/ภาษี
Effective(adj.) ได้ผลดี,มีประสิทธิภาพที่ดี
Efficiency(n.) ประสิทธิภาพ
Employee(n.) ลูกจ้าง
Employer(n.) ผู้ว่าจ้าง/นายจ้าง
Employment(n.) การจ้างงาน/การว่าจ้าง
Enquiry(n.) การขอข้อมูล
Equipment(n.) อุปกรณ์
Establish(v.) สร้าง/ก่อตั้ง/เปิดกิจกรรม
Estimate(n.) ค่าประมาณ
Estimate(v. /n.) ประมาณการ,ประเมิน / การตีราคา,การประมาณการ
Evaluation(n.) การประเมิน
Executive Secretary(n.) เลขานุการผู้บริหาร
Expense(n.) ค่าใช้จ่าย
Experience(n.) ประสบการณ์
Expertise(n.) ความเชี่ยวชาญ
Explain(v.) อธิบาย
Explanation(n.) คำอธิบาย
Extend(v.) ต่อ
Fire(v./n.) ไล่ออก,ไฟไหม้
Full Time(n.) การทำงานเต็มเวลา
Fund(n.) เงินทุน
Headhunter(n.) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาที่ติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่จัดหา คัดกรอง และจบด้วยการจ้างผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดมาเป็นพนักงาน
Hire(v.) จ้าง
Implement(v.) ทำให้เป็นผล/เริ่มดำเนินการ
Informal(adj.) ไม่เป็นทางการ
Install(v.) ติดตั้ง
Instruction(n.) คำสั่ง
Introduce(v.) แนะนำ
Invest(v.) ลงทุน
Invoice/Bill/Check(n.) ใบแจ้งราคา/ใบแจ้งหนี้
Liability(n.) ความน่าเชื่อถือ
Manage(v.) จัดการ,บริหาร 
Managing Director(n.) กรรมการผู้จัดการ
Meeting Minutes(n.) รายงานสรุปการประชุม
Negotiate(v.) ต่อรอง
Observe(v.) สังเกตการณ์
Offer(n. /v.) ข้อเสนอ / ยื่นข้อเสนอ
Opportunity(n.) โอกาส
Overload(v.) ใช้งานมากเกินไป
Part Time(n.) การทำงานนอกเวลา/การทำงานเป็นกะ
Performance(n.) การปฏิบัติงาน/การแสดง
Policy(n.) นโยบาย
Priority(n.) ความสำคัญ
Probation(n.) การทดลองงาน 
Prospect(n.) ลูกค้าผู้มุ่งหวัง(ลูกค้าที่ทราบแล้วว่าเราจะขาย และมีการตอบรับความสนใจประมาณหนึ่ง)
Remuneration(n.) สินน้ำใจ / เบี้ยบำเหน็จ
Schedule(n.) ตารางเวลา,กำหนดการ
Significant(adj.) มีความสำคัญ/มีนัยสำคัญ
Statistics(n.) สถิติ
Trade-off(n.) ได้บางอย่างมา แต่ต้องเสียบางอย่างแลกกับสิ่งที่ได้มา
Urgent(adj.) ด่วน / เร่งด่วน
Vacancy(n.) ตำแหน่งว่าง/ช่องว่าง
Welfare(n.) สวัสดิการ

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


รีวิว Toyota INNOVA ZENIX 2024 ใหม่ โอ้โหนั่งสบายจน Alphard ยังมองค้อน!

รีวิว Toyota INNOVA ZENIX 2024 ใหม่ พลิกโฉม MPV ตระกูล INNOVA ด้วยแพล็ตฟอร์มเดียวกับรถยนต์นั่ง พ่วงขุมพลังไฮบริดที่ทั้งแรงและประหยัด แถมห้องโดยสารยังนั่งสบายจนเผลอคิดว่าจะซื้อ Alphard ไปทำไมกัน ของจริงจะแจ๋วขนาดไหนไปติดตามได้ในบทความนี้ครับ

เชื่อว่าหลายคนเมื่อพูดถึง Toyota Innova ก็จะนึกถึงรถอเนกประสงค์แบบ MPV ที่ใช้แพล็ตฟอร์มร่วมกับกระบะ Hilux Vigo และ Revo ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เนื่องจากที่ผ่านมา INNOVA ถูกพัฒนาภายใต้โครงการ IMV (Innovative International Multi Purpose vehicle) ที่นำเอาแพล็ตฟอร์มแบบ “Body-on-frame” มาต่อยอดด้วยตัวถังที่หลากหลาย ซึ่งรถยอดนิยมอย่าง Fortuner ก็เป็นหนึ่งในนั้น

      แต่มาวันนี้ Toyota INNOVA ZENIX (โตโยต้า อินโนว่า ซีนิกซ์) ได้รับการพลิกโฉมครั้งสำคัญด้วยการเปลี่ยนไปใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA (GA-C) เช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง (Toyota Corolla Cross ก็ใช้แพล็ตฟอร์ม GA-C แต่ในเวอร์ชันของ INNOVA ZENIX ได้มีการขยายขนาดของแพล็ตฟอร์มเพื่อรองรับบอดี้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น)

      นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้มีการปรับปรุงอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนจากพวงมาลัยแบบไฮดรอลิกมาเป็นพวงมาลัยแบบไฟฟ้า (EPS) การใช้เครื่องยนต์ไฮบริดแทนที่เครื่องยนต์ดีเซลในรุ่นเดิม รวมถึงการติดตั้งระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ เหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้ INNOVA ZENIX ดูมีความเป็นรถยนต์นั่งสำหรับครอบครัวมากขึ้น หลังจากที่โฉมก่อนหน้ามักมีกลิ่นอายความเป็นรถเชิงพาณิชย์แทรกเข้ามาอยู่หน่อยๆ

      Toyota INNOVA ZENIX 2024 ใหม่ ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ

  • รุ่น 2.0 HEV Smart 1,379,000 บาท
  • รุ่น 2.0 HEV Premium ราคา 1,479,000 บาท

ภายนอก

      รูปลักษณ์ภายนอกของ INNOVA ZENIX ทั้ง 2 รุ่นย่อยแทบไม่มีความแตกต่างกัน โดยทั้งคู่ถูกติดตั้งไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED แยกไว้ต่างหากบริเวณกันชน ซึ่งจะใช้ร่วมกับไฟเลี้ยวแบบ LED

      ไล่มาทางด้านข้างจะเห็นได้ว่ามีการออกแบบด้วยเส้นสายที่ดูโค้งมนมากยิ่งขึ้น ดูหนักแน่นและบึกบึนมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ตกแต่งซุ้มล้อและชายประตูด้วยวัสดุสีดำ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และดิสก์เบรกที่ติดตั้งมาให้ทั้ง 4 ล้อตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ส่วนกระจกมองข้างยังมีไฟส่องสว่าง Welcome Lamp มาให้ด้วย

      ขณะที่ด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้ายแบบ LED พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นย่อย เพิ่มเติมด้วยระบบ Kick Activated หรือเพียงแค่พกกุญแจเอาไว้กับตัว ก็สามารถสอดเท้าเข้าไปใต้กันชนเพื่อให้ประตูเปิดออกอัตโนมัติ ซึ่งเท่าที่ทดลองก็บอกได้ว่าต้องเล็งกันดีๆ หน่อย เพราะลองสอดเท้าเข้าไปสัก 10 ครั้ง ประตูจะยอมเปิดให้สัก 2 ครั้ง กลายเป็นว่าใช้มือเปิดนั่นแหละชัวร์สุด

      เมื่อมองจากภายนอก สิ่่งเดียวที่แตกต่างกันระหว่าง 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น Premium จะเพิ่มเติมด้วยหลังคากระจก Panoramic Roof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งมีขนาดครอบคลุมพื้นที่ผู้โดยสารแถวที่ 1 และ 2 มาพร้อมกับม่านบังแสงที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน

ภายใน

      จุดขายสำคัญของ INNOVA ZENIX อยู่ที่เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat แยกอิสระออกจากกัน โดยรุ่น Smart จะเป็นเบาะธรรมดาปรับด้วยมือ ขณะที่รุ่น Premium จะได้อัปเกรดเป็นเบาะปรับไฟฟ้าทั้ง 2 ที่นั่ง พร้อมเบาะรองน่องปรับขึ้น-ลงด้วยไฟฟ้า (Ottoman) อย่างไรก็ดี การปรับเบาะเลื่อนหน้า-หลังยังคงเป็นกลไกแบบปรับด้วยมือ ไม่ใช่ไฟฟ้าแต่อย่างใด

      บริเวณเบาะแถว 2 ยังมีโต๊ะพับขนาดเล็กอยู่กึ่งกลางระหว่างเบาะทั้งสองตัว สามารถใช้วางแก้วน้ำ หรือของกระจุกกระจิก เช่น โทรศัพท์มือถือ, แว่นตา และอื่นๆ ได้

      ทั้งสองรุ่นย่อยมาพร้อมเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าเป็นแบบปรับมือ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งแถวสุดท้าย (แถวที่ 3) สามารถปรับพับแยก 50:50 พร้อมด้วยพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง โดยพนักพิงศีรษะสำหรับผู้โดยสารคนกลางสามารถถอดและเก็บไว้ในช่องเสียบบริเวณห้องเก็บสัมภาระท้ายได้

      ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ก็มีให้อย่างครบครัน เช่น พวงมาลัยมัลติฟํงก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันหน่วงเบรกอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน พร้อมระบบป้องกันหนีบ, กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น Premium) และไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร Ambient Light บริเวณเพดานที่สามารถปรับความเข้มของแสงได้ เป็นต้น

      ส่วนระบบปรับอากาศของทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับอากาศตอนหลังแยกต่างหาก ซึ่งสามารถควบคุมความแรงลมแอร์และทิศทางลมได้จากปุ่มบริเวณเบาะนั่งแถว 2 หรือจะควบคุมผ่านแผงสวิตช์แอร์ด้านหน้าก็ได้เช่นกัน โดยที่ระบบปรับอากาศตอนหลังของ INNOVA ZENIX จะใช้ตู้แอร์แยกออกมาจากด้านหน้า การันตีได้ถึงความเย็นเฉียบทั่วทั้งห้องโดยสาร ภายนอกจะร้อนแค่ไหนก็เอาอยู่

     

      Toyota INNOVA ZENIX ติดตั้งหน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ผ่านสาย USB แสดงภาพจากกล้องมองหลังได้ ทั้งยังมาพร้อมช่อง USB-A และ USB-C อย่างละ 1 ช่องบริเวณแถวหน้าสุด และช่อง USB-C อีก 2 ช่องสำหรับแถวที่ 2 ส่วนแถวที่ 3 ก็ไม่ต้องน้อยใจเพราะมีช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ เผื่อจะซื้อหัวชาร์จมาเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน

      สรุปแล้วหากเพิ่มเงิน 100,000 บาท เพื่อขยับจากรุ่น Smart เป็นรุ่น Premium จะได้อุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติม ดังนี้

  • หลังคา Panoramic Roof
  • ภายในสีทูโทน (น้ำตาล Dark Chestnut / ดำ)
  • เบาะนั่งแถว 2 แบบ Captain Seat ปรับไฟฟ้า พร้อมเบาะรองน่องไฟฟ้า
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
  • กล้องมองรอบคัน PVM

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เจเนอเรชันที่ 3 ของ Toyota INNOVA ZENIX ทั้ง 2 รุ่นย่อย ทำงานผ่านกล้องและเรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้า ประกอบด้วย 5 ฟังก์ชัน ได้แก่

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed และระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LTA
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB

     ขณะที่ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ก็มีให้ครบครัน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSM, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS, ระบบเบรก ABS / EBD / BA, สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน ESS, สัญญาณกะระยะหน้า-หลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลม เป็นต้น

เครื่องยนต์และช่วงล่าง

     Toyota INNOVA ZENIX 2024 ทั้ง 2 รุ่นย่อยติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส M20A-FXS ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 152 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 83 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบอยู่ที่ 186 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับน้ำมันทางเลือกสูงสุด E10 และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 21.3 กม./ลิตร

     ขณะที่ช่วงล่างด้านหน้ามีการปรับเปลี่ยนจากแบบ Double Wishbone เป็น McPhurson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังจากแบบอิสระ 4-link พร้อมคอยล์สปริง เป็นแบบ Torsion Beam เพื่อให้เหมาะสมกับแพล็ตฟอร์มที่เปลี่ยนไป โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อแบบไม่มีกั๊ก

การขับขี่

     การเปลี่ยนไปใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA ส่งผลให้การขับขี่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวล การซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน รวมถึงความง่ายในการควบคุมพวงมาลัย ทั้งหมดทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด

     ขณะเดียวกันอาการโคลงขณะใช้ความเร็วสูงก็ลดลงอย่างชัดเจน จากเดิมที่ Innova Crysta (Gen 2) จะรู้สึกถึงอาการโคลงที่ความเร็วสูงอยู่พอสมควร แต่เมื่อเป็น ZENIX พบว่าอาการโคลงดังกล่าวลดลงไปเยอะ ทำให้การขับขี่รู้สึกมั่นใจเพิ่มมากขึ้น จนแทบจะลืมไปว่าเรากำลังขับรถ MPV ที่มีความสูงมากกว่ารถเก๋งปกติทั่วไป

     ส่วนพละกำลังของเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ให้แรงม้ารวม 186 ตัว ก็เรียกได้ว่าเหลือเฟือทีเดียว แม้ว่าจะนั่งโดยสารกัน 4 คนพร้อมสัมภาระ ก็ยังตอบสนองในด้านอัตราเร่งได้อย่างรวดเร็วทันใจ ควบคู่ไปกับอัตราสิ้นเปลืองหน้าจอเฉลี่ยราว 14-15 กม./ลิตร บนการขับจากกรุงเทพฯ – ระยอง ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจไม่น้อย แถมยังเป็นการแก้จุดอ่อนสำหรับคนที่ไม่ชอบเครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็ไม่อยากได้รถกินจุแถมแรงน้อยเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซินล้วนอีกด้วย

     และเมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสสลับมาเป็นผู้โดยสารแถวที่ 2 ดูบ้าง ก็พบว่ามันนั่งสบายจนแทบไม่อยากให้ถึงจุดหมาย เพราะนอกจากเบาะนั่งจะถูกออกแบบรับกับสรีระได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น ช่วงล่างอันนุ่มนวลของ INNOVA ZENIX ยังช่วยเพิ่มความสบายได้สมศักดิ์ศรีแพล็ตฟอร์ม TNGA จนแอบมีความคิดเล็กๆ ว่าเราจะต้องเพิ่มเงินอีกเป็นล้านเพื่อซื้อ Alphard / Vellfire ไปทำไมกัน

     เอาจริงๆ ไม่ต้องข้ามไปถึง Alphard หรอกครับ เพราะแม้แต่คู่แข่ง (อ้อมๆ) อย่าง Kia Carnival และ Hyundai Staria ที่มีค่าตัวสูงกว่าเล็กน้อย ผู้เขียนมองว่าถ้าไม่ได้ซีเรียสในเรื่องประตูสไลด์ และจำนวนเบาะนั่งที่เพิ่มขึ้นมานั้น INNOVA ZENIX ก็ค่อนข้างกินขาดทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่, ความสบายในห้องโดยสาร แถมยังสบายใจกับความเป็นโตโยต้าที่มีศูนย์บริการทั่วทุกหนแห่ง รวมถึงความทนทานและค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย

สรุป

     Toyota INNOVA ZENIX ถือเป็นรถที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวสักคัน แม้ว่าที่ผ่านมา INNOVA จะเป็นรถที่มีภาพลักษณ์ความเป็นแท็กซี่สนามบิน หรือลิมูซีนของนายญี่ปุ่นแถวสุขุมวิทอยู่บ้าง แต่มารอบนี้ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แพล็ตฟอร์ม TNGA, ขุมพลังไฮบริดที่ทั้งแรงและประหยัด, ห้องโดยสารกว้างขวางและเบาะนั่งที่สะดวกสบาย แลกกับราคารุ่นท็อปไม่ถึง 1.5 ล้านบาท ถ้ามองข้ามในเรื่องรูปโฉมที่อาจไม่ค่อยสะดุดตานักไปได้แล้วล่ะก็ เรียกว่าคุ้มค่าน่าใช้ไม่น้อยเลยล่ะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน” ลดน้ำตาลในเลือด-ต้านมะเร็ง

นึกถึงอาหาร ขนมหวานที่มีสีม่วงอมน้ำเงินเมื่อไร หลายคนตอบได้ทันทีว่าสีสวยๆ แบบนี้มาจาก “ดอกอัญชัน” แน่นอน นอกจากจะให้สีน้ำเงินสวย เพื่อนำมาประกอบอาหาร เช่น ขนมหวานของไทยเราแล้ว ดอกอัญชันยังมีประโยชน์อีกมากมายที่คุณอาจยังไม่รู้ เพียงแค่น้ำคั้นสด หรือน้ำต้มดอกอัญชันเท่านั้น ง่ายๆ อย่างนี้นี่ล่ะ แต่ให้ผลดีต่อสุขภาพมหาศาลเลยทีเดียว

10 ประโยชน์ดีๆ จาก “ดอกอัญชัน”

  1. บำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ตาแฉะ และป้องกันโรคต้อกระจก
  2. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  3. เพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
  4. ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อนๆ
  5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้
  6. ชะลอริ้วรอย และดูแลผิวพรรณให้เต่งตึง กระชับ
  7. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด
  8. บำรุงผมให้เงางาม ดกดำ มักเป็นส่วนประกอบของยาสระผม หรือครีมบำรุงผม
  9. ช่วยสลายลิ่มเลือด
  10. ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการทานดอกอัญชัน

ดอกอัญชันมีฤทธิ์ในการสลายลิ่มเลือด จึงไม่เหมาะกับคนที่อยู่ในภาวะโลหิตจาง และไม่ควรทานอาหารที่ย้อมสีด้วยอัญชันเป็นเวลานานๆ อีกด้วย

วิธีทานก็ง่ายๆ คั้นสด ผสมน้ำดื่ม จะใส่น้ำผึ้ง หรือมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติลงไปบ้างก็ได้ แต่อย่าใส่น้ำตาลมากจนเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้น แทนที่ดอกอัญชันจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด อาจกลายเป็นเพิ่มน้ำตาลในเลือดแทน ดื่มเย็นๆ ชื่นใจมากค่ะ หรือจะลวกจิ้มกับน้ำพริกก็ไม่เลวนะจะบอกให้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 16/08/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,850.0031,950.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,063.0031,275.0832,450.00
ทองรูปพรรณ 90%1,856.7028,147.57n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,650.4025,020.06n/a
ทองรูปพรรณ 50%928.0014,068.48n/a
ทองรูปพรรณ 40%722.0010,945.52n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,138.0032,412.08n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16/08/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.5539.5540.5539.5539.5539.5539.5539.5539.5539.55
แก๊สโซฮอล์ 9139.2839.2840.2839.2839.2839.2839.2839.2839.2839.28
แก๊สโซฮอล์ E2037.2437.2438.2437.2437.2437.2437.2437.2437.24
แก๊สโซฮอล์ E8537.6937.6937.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.8448.5448.9448.9444.84
เบนซิน 9547.3448.5147.8447.4947.34
ดีเซล B731.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.9431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.7443.1447.9444.0444.0441.74
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า