สาระน่ารู้ประจำวันที่ 19 พฤษภาคม 2566

“แสนสิริ” สวนหุ้นตก โชว์ Q1 ทำกำไร 1.5พันล้าน สูงสุดในอสังหาฯ

แสนสิริ ประกาศกำไร ไตรมาสแรกทะลุ 1,582 ล้านบาท โต 423% ชูสูงสุดในอุตสาหกรรมอสังหาฯไทย ลุยเปิดตัวโปรเจ็กต์เด่นแห่งปี “นาราสิริ พหล – วัชรพล” สวนกระแสหุ้นตก หลังเลือกตั้ง

17 พฤษภาคม 2566 – เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามอง ภายใต้ไทม์ไลน์ การจัดตั้งรัฐบาล หลังผ่านพ้นการเลือกตั้ง โดย แสนสิริ หรือ หุ้น SIRI ถูกลดความน่าสนใจลงช่วงคราวจากนักลงทุน เนื่องด้วยแรงเหวี่ยงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผลประกอบการ ซึ่งเป็นผลงานไตรมาสแรกของปีนั้น แสนสิริ กลับทำได้อย่างน่าสนใจ 

โดย นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI  เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 แสนสิริมีรายได้รวมในไตรมาสแรกปี 2566 อยู่ที่ 8,505 ล้านบาท โตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ผลงานมาจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัยนำด้วยรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ที่ในไตรมาสนี้เติบโตสูงสุดถึง 217% หรือโกยรายได้ 2,717 ล้านบาท รายได้หลักมาจากโครงการเอ็กซ์ที พญาไทที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2565 ที่ผ่านมา ตามด้วยโครงการเอ็กซ์ที ห้วยขวาง, โอกะ เฮ้าส์ และเอดจ์ เซ็นทรัล พัทยานอกจากนี้ ยังมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ คือ เดอะ มูฟ บางนา

แสนสิริ เผย โครงการแนวราบขายดี แชมป์บ้านเดี่ยว

ในไตรมาสนี้ แสนสิริยังมีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์  โดยแชมป์รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, โครงการบุราสิริ วัชรพล, โครงการเศรษฐสิริ จรัญ-ปิ่นเกล้า2, โครงการเศรษฐสิริ พระราม 5 และโครงการสราญสิริ รังสิต

ส่วนรายได้จากการขายโครงการทาวน์โฮม เติบโตขึ้นถึง 104% โดยเฉพาะความสำเร็จในลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ “เดมี สาธุ 49” พร้อมกันนี้ยังสร้างผลงานในโครงการที่อยู่อาศัยแบบมิกซ์โปรดักส์ ที่รวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในโครงการเดียว ตอบรับแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัวภายใต้แบรนด์ “อณาสิริ” ที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ที่โดดเด่นต่อเนื่องในปีนี้เช่นเดียวกัน อาทิ โครงการ อณาสิริ บางใหญ่,โครงการอณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี และโครงการอณาสิริ ติวานนท์ – ศรีสมาน เป็นต้น

ส่งกำไรสูงสุดในอุตสาหกรรม 1,582 ล้านบาท ลุยเปิด นาราสิริ พหล – วัชรพล

นอกจากรายได้ที่โดดเด่นในทุกโปรดักส์แล้ว กำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยยังคงสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ประกอบกับในไตรมาสนี้ แสนสิริมีการบันทึกกำไรจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยแสนสิริมีกำไรสุทธิ 1,582 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นขึ้นถึง 423% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.6% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 5.8 ของรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2565

สำหรับไฮไลท์ของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพื่อตอกย้ำผู้นำตลาดลักซ์ชัวรีที่แสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด แสนสิริยังเตรียมเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ พหล – วัชรพล” ที่สุดของโครงการบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ในปีนี้ บนที่สุดของทำเลศักยภาพแห่งใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตาของกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่ เชื่อมต่อขยายจากถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา ในราคา 35 – 70 ล้านบาท ถ่ายทอดปรัชญาด้าน Brand Taste-Maker ลงรายละเอียดในทุกดีเทลของความเป็นฝรั่งเศส รวมถึงส่วนกลางที่มีพื้นที่มากถึง 6 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 5,100 ล้านบาท เตรียมเปิดตัววันที่ 24 – 25 มิถุนายนนี้

ปล่อยหุ้นกู้ชุดใหม่ ดึงนักลงทุน

นอกจากนี้ แสนสิริยังคงรุกเดินหน้าต่อเพื่อรองรับแผนการเติบโตในปี 2566 เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยหุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 6 เดือนอัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.00-4.10]% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.45-4.55]% ต่อปี ผ่าน 10 สถาบันการเงิน

ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาตบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง

โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1 – 2 และ 6 มิถุนายน 2566 นี้ ด้วยเงินจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแสนสิริ ที่เป็นแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้นแสนสิริยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมกัน โดยการระดมทุนเพื่อรุกเดินหน้าธุรกิจในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่คาดว่าจะทำให้แสนสิริสร้างผลประกอบการเป็น New High ได้ต่อเนื่องจากปีก่อน 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เดอะ มอลล์ ทุ่มร้อยล้านส่ง “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” บุกกรุงเทพฯตะวันออก

เดอะ มอลล์ ขยายเครือข่าย Stand Alone ทุ่มกว่า 100 ล้านส่ง “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” เจาะย่านกรุงเทพฯตะวันออก รับกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะ มอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ขยายเครือข่าย Stand Alone ไปยังย่านเศรษฐกิจสำคัญศักยภาพสูง ล่าสุดได้เปิดให้บริการกูร์เมต์ มาร์เก็ต ในรูปแบบสแตนด์อะโลน ที่ดีไซน์วิลเลจ บางนา

เพราะเล็งเห็นศักยภาพด้านกำลังซื้อของกลุ่มผู้บริโภคย่านบางนา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ โซนตะวันออก  เนื่องจากมีโครงการที่อยู่อาศัย หมู่บ้านจัดสรรระดับไฮเอนด์ โรงเรียน โรงพยาบาล อยู่โดยรอบ โดยภายในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบโครงการ มีหมู่บ้านมากกว่า 180 แห่ง มีบ้านเรือน 42,000 หลังคาเรือน

“ดีไซน์วิลเลจ บางนา มีจุดแข็งทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง ทิศเหนือติดลาดกระบัง ทิศตะวันออกติดบางเสาธง ทิศใต้ติดบางบ่อ ทิศตะวันตกติดเมืองสมุทรปราการ เขตบางนาและเขตประเวศ ภายในโครงการมีพื้นที่จอดรถกว่า 600 คัน และยังมีทางเข้าออกหลายจุดสะดวกต่อการเข้ามาใช้บริการของผู้ลูกค้า ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว”

โดยกลุ่มเป้าหมายของ กูร์เมต์ มาร์เก็ต แบ่งเป็น กลุ่มลูกค้าครอบครัวและชาวต่างชาติ ที่พักอาศัยบริเวณรอบโครงการทั้งในเขตบางพลี เขตบางนา เขตประเวศ  นอกจากนี้กูร์เมต์ มาร์เก็ต  ดีไซน์วิลเลจ บางนา ยังมีทำเลที่ตั้งใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ จึงตั้งเป้าดึงกลุ่มลูกค้า Tourist ที่ต้องการซื้อสินค้าของฝากก่อนเดินทางกลับประเทศ 

ทั้งนี้กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขา ดีไซน์วิลเลจ บางนา ถูกนำเสนอภายใต้คอนเซปท์ “The Ultimate Neighborhood Supermarket To Live Life : เพื่อนบ้านใหม่ ใกล้บ้านคุณ”  บนพื้นที่กว่า 2,500 ตร.ม. จำหน่ายสินค้ากว่า 30,000 รายการ พร้อมสตรีทฟู้ดร้านดังมากกว่า 20 ร้านค้า จากทั้ง Gourmet Market และ Gourmet Eats เน้นตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว

ไฮไลท์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขา ดีไซน์วิลเลจ บางนา  ได้แก่

• YOU HUNT WE COOK BISTRO คุณเลือกเราปรุง ในคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่พร้อมเสิร์ฟ All Day Breakfast หรือเลือกอร่อยหลายหลากไม่ว่าจะเป็น อาหารเช้า, สลัด, ซุป, ของทานเล่น, ยำ, สเต๊ก, พาสต้า และเครื่องดื่มสไตล์ Café

• MEAT & SEAFOOD เนื้อนำเข้า และอาหารทะเลสดใหม่เกรดพรีเมี่ยม พร้อมไฮไลท์วัตถุดิบพิเศษเฉพาะฤดูกาล

• FRUITS & VEGETABLES ผัก และผลไม้ สดใหม่ ส่งตรงจากฟาร์มและแหล่งผลิตที่ดีที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ผลไม้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และ ผัดสดออร์แกนิค

• SOUP & SALAD สลัด ที่มีผักและวัตถุดิบให้เลือกสรรมากมาย รวมถึงน้ำสลัด ให้คุณเลือกอร่อยได้อย่างใจ พร้อมซุปปรุงสดใหม่ เพื่อคนรักสุขภาพ

• ของดีตลาดเด่น รวมสุดยอดวัตุดิบของแห้ง ของชำ จากตลาดดังทั่วไทย อาทิ เยาวราช, สามย่าน, วโรรส, หนองมน

• Gourmet Thai สุดยอดสินค้าของฝากจากทั่วไทยที่ได้มาตรฐาน การันตีความอร่อย สดใหม่ ภายใต้บรรจุภัณฑ์สวยงาม สะท้อนความเหนือระดับของสินค้าไทย

• INTERNATIONAL GROCERY รวบรวมสินค้าอุปโภค-บริโภคแบรนด์ดัง และเครื่องปรุงอาหารจากทั่วทุกมุมโลก

• GOURMET EATS รวมหลากหลายเมนูสตรีทฟู้ดร้านดัง และร้านอินเทรนด์ ให้ได้เลือกอร่อยสไตล์ GRAB & GO อาทิ ตงเพ้ง, นายอ้วนเย็นตาโฟ, ขนมปังเจ้าเด็ดเยาวราช, SANPO, EGG ALL DAY, ชาตรามือ, CODESOM, HOLY DESSERT, SAINT E TOILE, WHITE STORY, KAMU, YEN YEN, LAB PHARMACY

นอกจากนี้ยังมีบริการอำนวยความสะดวกครบครับที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ

• บริการ Free Food Service สับ หั่น เฉาะ ตุ๋น ทอด ต้ม นึ่ง

• บริการ Gift & Wrap ที่จะช่วยคุณสร้างสรรค์กระเช้าของฝากได้ตรงใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

• บริการช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ www.GourmetMarketThailand.com

• บริการ Call to Order สั่งง่ายแค่กดโทร 02-130-0222 หรือ Add Line: @call2orderbangna

• Delivery Service สั่งสินค้าผ่านแอพพลิเคชันชั้นนำ จาก LINEMAN MART, ROBINHOOD, FOODPANDA, GRABMART

“ปัจจุบันกูร์เมต์ มาร์เก็ต Stand Alone มีทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ สาขา Terminal 21, Promenade, CDC ราชพฤกษ์, ดอนเมือง, MRT ลาดพร้าว, ดีไซน์วิลเลจ พุทธมณฑล  และสาขาล่าสุด คือ  ดีไซน์วิลเลจ บางนา  ซึ่งทุกสาขาถือว่าตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์สำคัญศักยภาพสูงของประเทศ  และให้ความสำคัญกับเรื่องไลฟ์สไตล์ในการช้อปปิ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19พ.ค.ที่ระดับ 34.40 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทยังคงมีอยู่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันทั้งจากภายในประเทศอย่างความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กล้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของไทย

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19พ.ค.2566ที่ระดับ  34.40 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.33 บาทต่อดอลลาร์

 นายพูน   พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน   ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทได้ปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว 

เราคงมองว่า ในระยะสั้น โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังคงมีอยู่ ท่ามกลางปัจจัยกดดันทั้งจากภายในประเทศอย่างความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กล้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของไทย

ส่วนปัจจัยภายนอก อย่าง เงินดอลลาร์ก็ยังได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่ หลังความเสี่ยงการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ดูจะคลี่คลายลงได้เร็วกว่าที่เราคาด (เดิมเรามองว่า เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง หากตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้) อีกทั้ง ผู้เล่นในตลาดก็เริ่มปรับมุมมอง (reprice) แนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ

ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด นอกจากนี้ การย่อตัวลงของราคาทองคำใกล้แนวรับหลัก ก็ทำให้ เราคงมองว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างก็รอทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำดังกล่าวก็อาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

อย่างไรก็ดี เรามองว่า หากปัจจัยภายในไม่ได้น่ากังวลมากนัก แรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มลดลง เนื่องจากสถานะการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของไทย โดยนักลงทุนต่างชาติได้ลดลงต่อเนื่องในปีนี้พอสมควร

ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดที่ยังคงมีมุมมองคาดว่า เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ในระยะกลางและระยะยาว ก็อาจรอจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าลงในการเพิ่มสถานะ Long THB เช่นเดียวกันกับ บรรดาผู้ส่งออกก็อาจรอจังหวะในการทยอยขายเงินดอลลาร์ ทำให้เรามองว่า เงินบาทอาจยังไม่อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ในระยะนี้

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ (ประเด็นขยายเพดานหนี้) และการเมืองไทย ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.20-34.50 บาท/ดอลลาร์

ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นกว่า +1.19%ท่ามกลางความหวังการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่มีโอกาสจะบรรลุข้อตกลงกันได้ภายในสัปดาห์หน้า

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกใหญ่ อย่าง Walmart +1.3% ที่ออกมาดีกว่าคาด กอปรกับ รายงานข้อมูลยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและต่อเนื่องก็ลดลงจากสัปดาห์ก่อน (ดีกว่าคาด) ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 พลิกกลับมาปรับตัวขึ้น +0.39% นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มยานยนต์ (Porsche +2.5%, BMW +2.4%) ตอบรับบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยง จากความหวังว่าการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ

อาจประสบความสำเร็จได้ภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป ยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน และมุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งยังคงออกมาสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัว ได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สู่ระดับ 3.65% ซึ่งเป็นการปรับตัวทะลุโซนแนวต้านแถว 3.60% ที่เราเคยประเมินไว้

 ซึ่งเรามองว่า แม้โมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังพอมีอยู่บ้าง แต่การปรับตัวขึ้นอาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ยังคงรอจังหวะในการเพิ่มสถานะถือครองบอนด์ (รอ Buy on Dip)

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตอบรับกับความหวังการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่อาจบรรลุข้อตกลงได้ภายในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ก็ยังได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มเชื่อว่า เฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยต่อได้และเฟดอาจคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานขึ้น ซึ่งล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.5 จุด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน

รวมถึงการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงกดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย.) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 1,961 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงใกล้โซนแนวรับหลักแถว 1.950 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 หลังจากหลุดโซนแนวรับช่วง 1,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเรายังคงมองว่าการปรับฐานของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา อาจหนุนให้ผู้เล่นบางส่วนทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด Jerome Powell เช่นเดียวกันกับในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดก็จะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB เช่นกัน หลังล่าสุดอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงคาดว่า ECB จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ไม่ยาก

ส่วนในฝั่งไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ อย่าง ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลอาจเป็นประเด็นที่กดดันตลาดการเงินไทยได้ในช่วงนี้ ซึ่งเรามองว่า มีโอกาสที่ปัจจัยการเมืองจะมีผลต่อตลาดไปอีกราว 2 เดือน ซึ่งความกังวลต่อการจัดตั้งรัฐบาลของไทย อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทอ่อนค่าทดสอบแนว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน ในช่วงเช้าวันนี้ (9.00 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดรอจับตาปัจจัยทางการเมืองของไทย

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด และเจ้าหน้าที่เฟดยังมีท่าทีในเชิงคุมเข้ม ซึ่งทำให้ตลาดลดทอนโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปีนี้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากความหวังว่าจะเห็นความคืบหน้าในการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.30-34.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สัญญาณฟันด์โฟลว์และทิศทางสกุลเงินเอเชีย ความคืบหน้าของการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด   

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สายปล้ำจับล็อกห้ามพลาด! “เคด” ลัดฟ้าจากอเมริกาป้องเข็มขัดหนสองที่ลุมพินี ศึก ONE 10 มิ.ย.นี้

แฟนกีฬาสายปล้ำจับล็อกต้องห้ามพลาด “เคด รูโทโล” แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) เตรียมบินลัดฟ้าจากอเมริกามาโชว์สกิลขั้นเทพป้องกันตำแหน่งครั้งที่สองกับ “ทอมมี ลังกาเคอร์” ถึงเมืองไทยในศึก ONE FIGHT NIGHT 11 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. 66

แชมป์โลกชาวมะกันเจ้าของรางวัล “นักกีฬาปล้ำจับล็อกยอดเยี่ยมประจำปี 2565” วัย 20 ปี ถือเป็นดาวรุ่งของวงการปล้ำจับล็อกระดับโลก ที่มีทั้งเทคนิคแพรวพราว มาพร้อมกับทักษะการไล่ล่าซับมิชชันคู่แข่งอย่างดุเดือด

“เคด” สร้างเสียงฮือฮาตั้งแต่ไฟต์เปิดตัว ด้วยการเอาชนะตำนานนักรัดของญี่ปุ่น “ชินยะ อาโอกิ” ก่อนไล่ซับมิชชันด้วยท่าล็อกข้อเท้า (Heel Hook) ใส่ “ยัวลิ เคอรซ์เฮฟ” ยอดฝีมือจากรัสเซีย ขึ้นแท่นราชันปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวตคนแรกในประวัติศาสตร์ ONE ในวัยเพียง 19 ปี เมื่อเดือนต.ค. 65

อีกสองเดือนต่อมา “เคด” ลงศึกป้องกันตำแหน่งครั้งแรกและฝ่ายกดดันผู้ท้าชิง “มาเทอุส กาเบรียล” นักสู้ชาวบราซิล แชมป์โลกบราซิลเลียน ยิวยิตสู IBJJF หลายสมัยได้อย่างอยู่หมัด ก่อนเป็นฝ่ายได้รับการชูมือชนะคะแนนเอกฉันท์รั้งบัลลังก์สำเร็จ

ส่วนทางด้าน “ทอมมี” จอมล็อกแดนไวกิง วัย 29 ปี เจ้าของสายดำบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) ขึ้นแท่นผู้ท้าชิงคนล่าสุดจากผลงานที่เก็บชัยใน ONE ได้ 2 ไฟต์ติดต่อกัน

โดยชัยชนะไฟต์ล่าสุดของ “ทอมมี” คือการชนะซับมิชชัน “ยัวลิ” ซึ่งเกิดขึ้นที่สนามมวยเวทีลุมพินี ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7 เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา “ทอมมี” จะกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้งในศึกใหญ่ครั้งนี้โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE เป็นเดิมพัน  

แฟนกีฬาสามารถสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“หนาวใน” จุดเริ่มโรคร้าย ผู้หญิงขี้หนาวพึงระวัง

คุณสาวๆ ควรพึงระวังอาการ “หนาวใน” ชื่ออาจฟังไม่คุ้นนัก แต่ผู้หญิงทุกวัยสามารถมีโอกาสเกิดอาการนี้ได้เมื่อเจออากาศหนาว

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาการหนาวในและการรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยไว้ ดังนี้

อาการหนาวใน คืออะไร 

อาการหนาวใน สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ไฟหลังคลอด

“ตามตำราแพทย์แผนไทยเชื่อว่า การคลอดลูกทำให้สูญเสียความร้อนในร่างกาย เสียธาตุไฟ ร่างกายขาดความสมดุล และยังสามารถเกิดในผู้สูงอายุที่กำลังจะหมดประจำเดือน หรือหมดประจำเดือนแล้ว ผู้หญิงที่ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาน้อย เป็นไข้ทับระดู มาไม่ตรงวัน ปวดประจำเดือนรุนแรง ลักษณะของประจำเดือนมีสีคล้ำ เป็นก้อน เป็นลิ่ม เป็นต้น”

เริ่มสังเกตตัวเองกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่รู้สึกหนาวง่ายและมากกว่าคนทั่วไป

นี่คืออาการเริ่มต้น บ่งบอกถึงอาการหนาวใน

“บางครั้งแค่ฝนตั้งเค้าก็เกิดอาการหนาว มือเท้าเย็น ปากเขียว มือเขียว หนาวสั่นสะท้าน เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี และเมื่อมีอาการหนาวในเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการต่างๆ ได้ เช่น ปวดหลังชาๆ ขัดข้อสะโพก มีจ้ำเขียวตามร่างกายได้ง่าย เป็นไข้ทับระดูทุกครั้งที่มีประจำเดือน มีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว

“แต่ทั้งนี้ อาการดังกล่าวยังไม่เป็นข้อสรุปที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด และมีลักษณะอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนเป็นมากก็อาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยจนถึงมดลูกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้รักษาตั้งแต่เริ่มแรก เนื่องจากไม่คิดว่าเป็นอาการของโรค”

ฟังดูน่ากลัว สำหรับอาการเล็กน้อยที่มักเกิดเป็นประจำสำหรับผู้หญิง

โดยแพทย์แผนไทยถือว่าเป็นอาการของกลุ่มมดลูกอักเสบที่ต้องรักษาด้วยการปรับสมดุลธาตุอย่างต่อเนื่องสามารถรักษาหายได้

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเผยอีกว่าสำหรับขั้นตอนการรักษาอาการหนาวในด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย เน้นการรักษาด้วยการจ่ายยาที่ช่วยปรับธาตุทั้ง 4 ให้สมดุล และจ่ายยาที่ช่วยบำรุงเลือดที่มีรสร้อนสุขุม เพื่อกระจายเลือดให้ไหลเวียนได้ดี และทำให้ไฟธาตุทำงานได้ดีขึ้น ใช้ต้มกินติดต่อกันนาน 1-3 เดือน เพื่อเป็นการปรับสมดุลให้ร่างกาย ซึ่งต้องได้รับการตรวจจากแพทย์แผนไทยอย่างละเอียด ว่าต้องปรับอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับอาการ และธาตุของคนไข้

“หากเป็นมากก็จะจ่ายยาจำพวกเบญจกุล ซึ่งในตำรับยาประกอบด้วย เหง้าขิง รากเจตมูลเพลิง ดีปลี รากช้าพลู และเถาสะค้าน ช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย และกลุ่มว่านชักมดลูก โดยอาจใช้ว่านชักมดลูก ไพล ขมิ้นอ้อย เพื่อช่วยในการดึงมดลูกกลับเข้าที่ และถ้าเป็นมากต้องใช้ทั้งต้มกินและต้มอาบด้วย”

ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ยังทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้อีกด้วย

การรักษาแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอน แต่จะใช้ขั้นตอนไหนบ้างก็ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล ดังนี้

ขั้นแรก เรียกว่า การปลูกไฟธาตุ คือ การใช้ยาร้อน ปลูกให้ธาตุไฟทำงาน เนื่องจากอาการหนาวในมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดธาตุไฟ เราจึงควรปรับสมดุลธาตุในร่างกายก่อน

ขั้นที่สอง คือ การบำรุงไฟธาตุ โดยการใช้ยารสเปรี้ยว เน้นไปที่การฟอกเลือด บำรุงเลือดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

ขั้นสุดท้าย คือ การใช้ยาร้อนที่สุดเพื่อช่วยขับโลหิตและของเสียออกจากร่างกาย เช่น เจตมูลเพลิง หรือว่านชักมดลูก เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายมีการขับของเสียเช่นประจำเดือน ออกจากร่างกายให้หมดไม่ให้มีตกค้าง ซึ่งอาจทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ได้

อาการเพียงเล็กน้อยเช่นประจำเดือนตกค้าง หากไม่สังเกตอาจนำไปสู่โรคอื่นๆ คือ ช็อกโกแลตซีสต์ หรือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (เอ็นโดเมทริโอซิส) เป็นอีกโรคหนึ่งที่ผู้หญิงในยุคปัจจุบันเป็นกันมาก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงและจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกเดือน

“การวินิจฉัยโรคช็อกโกแลตซีสต์ หากอัลตราซาวด์แล้วเห็นก้อนชัดๆ ก็จะสามารถบอกได้ทันที ซึ่งตามตำราแพทย์แผนไทย คัมภีร์ชวดารก็มีการกล่าวถึง การรักษาก้อนที่อยู่ในท้องโดยใช้เจตมูลเพลิงซึ่งมีสรรพคุณเน้นในการขับของเสีย

“ผู้หญิงเราทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเกิดก้อนในท้อง หรือที่แพทย์แผนปัจจุบันเรียกว่ากลุ่มมดลูกอักเสบ หรือกลุ่มอาการช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งทางแพทย์แผนไทยมีแนวทางป้องกัน สามารถทำได้โดยกินยาสตรีทุกเดือนก่อนมีประจำเดือน เพื่อให้มีการขับประจำเดือนซึ่งเป็นของเสียออกให้หมดจากร่างกาย ไม่ให้มีการคั่งค้างสะสม”

สำหรับยาสตรีนั้น ทางแพทย์แผนไทยแบ่งเป็นยาขับและยาบำรุง เช่น ยาประสะไพล (มีส่วนผสมของไพลเยอะ) ไฟห้ากอง (ประกอบด้วยสมุนไพรร้อน 5 ชนิด) ไฟประลัยกัลป์ (มีทั้งสมุนไพรที่มีรสร้อน และมีสรรพคุณในการบำรุงและฟอกเลือด) เป็นต้น

“ยาเหล่านี้มีการใช้แตกต่างกัน ถ้าผู้ป่วยเป็นธาตุไฟก็จะไม่จัดไฟห้ากองให้ แต่อาจจะใช้เป็นไฟประลัยกัลป์แทน เพื่อใช้ในการฟอกเลือดได้ด้วย ยาสตรีที่ยกตัวอย่างทั้ง 3 รายการ นับเป็นยาสามัญประจำบ้าน และปัจจุบันยังได้บรรจุอยู่ในบัญชียาหลัก ที่โรงพยาบาลทั่วไปมีและสามารถจ่ายให้คนไข้ได้”

สำรวจตัวเอง หากเริ่มมีอาการเล็กน้อยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาวิธีรักษาอาการและตรวจโรคอย่างละเอียด

เพื่อจะได้ดื่มด่ำอากาศหนาวอย่างมีความสุขพร้อมร่างกายที่แข็งแรง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Measure word คืออะไรพร้อมหลักการใช้

เอ๊ะ? measure words เคยได้ยินชื่อนี้คุ้นๆ ว่าแต่มันคืออะไรกันน้า จะใช่ คำแม่ใช่ เอาไว้พูดตอนที่เราเห็นด้วยกะแม่รึเปล่า แบบ ใช่ แม่ใช่ โอนมาเลยแม่ บัญชีหนูนั่นแหละแม่ ใช่ๆ ฮ่าๆ (มีใครเข้าใจมุกแอดมั้ย) คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะคะ อีกอยาก คำนี้ measure อ่านว่า เมช เช่อะ เป็นคำกริยาในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่า วัด (ที่ไม่ใช่ temple!!) หรือเป็นคำนาม ที่แปลว่า หน่วยการวัด ก็ได้ อธิบายมาแบบนี้เพื่อนๆคงทราบกันแล้วนะคะว่า measure words ที่เราจะมาเรียนกันในวันนี้คืออะไร มันคือคำที่ใช้บอกปริมาณของคำนามต่างๆนั่นเอง แอดมายด์รวบรวมมาให้เพื่อนๆได้เรียนกันถึง 4 ประเภทด้วยกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

คำบอกปริมาณของคำนามประเภทอาหาร เช่น

  • A bowl of …. ถ้วย ได้แก่ a bowl of rice, cereal, maccaroni
  • A dish/plate of …. จาน ได้แก่ a dish/plate of spaghetti
  • A pound of …. ปอนด์ ได้แก่ a pound of meat, cheese
  • A piece of …. ชิ้น ได้แก่ a piece of cake, pie
  • A can of …. กระป๋อง ได้แก่ a can of soup
  • A box of …. กล่อง ได้แก่ a box of cereal
  • A bag of …. ถุง ได้แก่ a bag of flour, rice
  • A carton of …. กล่อง ได้แก่ a carton of milk, ice cream
    (carton ส่วนใหญ่จะทำจากกระดาษลูกฟู กระดาษแข็ง ไม่ทนทานและทำมาได้จากหลายวัสดุเหมือน box) 
  • A jar of …. กระปุก ได้แก่ a jar of peanut butter, jam
  • A loaf of …. แถว ได้แก่ a loaf of bread
  • A slice of …. สไลซ์ ได้แก่ a slice of bread, pizza, cheese
  • A package of …. ห่อ ได้แก่ a package of pasta
  • A dash of …. จำนวนเล็กน้อย ได้แก่ a dash of salt, sugar, cinnamon
  • A cube of …. ก้อน ได้แก่ a cube of ice, 
  • A pack of …. ห่อ ได้แก่ a pack of gum
  • A head of …. หัว ได้แก่ a head of lettuce, cabbage
  • An ear of …. รวง ได้แก่ a ear of corn, rice, wheat, barley
  • A grain of …. เมล็ด ได้แก่ a kernel of corn, wheat
  • A stalk of …. ก้าน ได้แก่ a stalk of celery, broccoli 
  • A clove of …. กลีบ ได้แก่ a clove of garlic, ginger

คำบอกปริมาณของคำนามประเภทของเหลว เช่น

  • A teaspoon of …. ช้อนชา ได้แก่a teaspoon of medicine, salt
  • A tablespoon of …. ช้อนโต๊ะ ได้แก่ a tablespoon of vinegar, ketchup
  • A glass of …. แก้ว ได้แก่ a glass of water, wine
  • A cup of …. ถ้วย/แก้วเล็กมีหูจับ ได้แก่ a cup of coffee, tea, hot milk
  • A pint of …. ไพท์ 500 ml ได้แก่ a pint of blood, whiskey, beer
  • A quart of …. 1/4 แกลลอน ได้แก่ a quart of milk, ice cream
  • A half gallon of …. ครึ่งแกลลอน ได้แก่ a half gallon of  juice, milk, water
  • A gallon of …. แกลลอน ได้แก่ a gallon of punch, oil, petrol
  • A tank of …. ถัง ได้แก่ a tank of gas
  • A jug of …. เหยือก ได้แก่ a jug of lemonade, juice
  • A bottle of …. ขวด ได้แก่ a bottle of wine, coke, water
  • A keg of …. ถังเบียร์ ได้แก่ a keg of beer
  • A shot of …. ช็อต (แก้วเล็ก) ได้แก่ a shot of vodka
  • A drop of …. หยด ได้แก่ a drop of rain, oil, water

คำบอกปริมาณของคำนามประเภทของใช้ส่วนตัว เช่น

  • A bar of …. ก้อน ได้แก่ a bar of soap
  • A tube of …. หลอด ได้แก่ a tube of toothpaste, ointment
  • A stick of …. แท่ง ได้แก่ a stick of deodorant
  • A bottle of …. ขวด ได้แก่ a bottle of perfume
  • A roll of …. ม้วน ได้แก่ a roll of toilet paper
  • A ball of …. ก้อน ได้แก่ a ball of cotton

คำบอกปริมาณของคำนามประเภทเครื่องเขียน เช่น

  • A piece of …. แผ่น ได้แก่ a bar of paper, wood
  • A pad of …. แผ่น ได้แก่ a pad of paper
  • A roll of …. ม้วน ได้แก่ a roll of tape, wire, film, stamps
  • A stick/piece of …. แท่ง/อัน ได้แก่ a stick/piece of chalk
  • A tube of …. ขวด ได้แก่ a tube of glue, paint
  • A jar of …. เหยือก ได้แก่ a jar of paste
  • A pair of …. คู่ ได้แก่ a pair of scissors

ซึ่งคำบอกปริมาณพวกนี้ จะใช้นำหน้าคำนามต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ ที่ใหญ่มาก จะเป็นคำนามที่นับไม่ได้ (แต่ในบางกรณีก็เป็นคำนามนับได้นะคะเช่น ที่ยกตัวอย่างไป a roll of stamps เป็นแสตมป์ที่มาเป็นม้วน ม้วนละหลายดวง ในกรณีนี้ก็อย่าลืมเติม s, es หลังคำนามกันล้าา)

ถ้ามีสิ่งเดียว เราจะใส่ article a, an นำหน้าคำบอกปริมาณ เช่น

  • A tube of toothpaste
  • A bag of chips

    แต่ถ้ามีปริมาณนั้นๆมีเยอะ เราจะใส่จำนวนนำหน้า และอย่าลืม! เติม s,es ไว้ด้านหลังคำบอกปริมาณเพื่อเเสดงความเป็นพหูพจน์ด้วย เช่น 
  • Three jugs of lemonade
  • Two slices of toast

    อย่างไรก็ตาม การใช้คำบอกปริมาณพวกนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้พูดด้วยนะคะว่า เค้าต้องการเอาคำนามนั้นๆไปใส่ในภาชนะไหน ทีนี้ถ้าเพื่อนๆอยากบอกใครในภาษาอังกฤษว่า เราต้องการสิ่งนี้ในปริมาณเท่าไหร่ ก็จะไม่ต้อง งง มึน อึน กันอีกต่อไป อย่าลืมเอาไปลองฝึกใช้ในชีวิตประจำวันกัน และแน่นอนค่ะ ก่อนจบ ลองไปใส่คำบอกปริมาณให้คำนามด้านล่างกันหน่อยยยยยย สำหรับตัวแอดวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่า 
  • Exercise
  1. I’ll get a __________of matches to light the fire.
  2. Can I buy a __________of tuna and make tuna salad tonight?
  3. There are five __________ of strawberry jam on the shelf.
  4. I always bring a __________ of water to the gym.
  5. Give me two ________ of toilet paper. It’s in the cupboard.

Answer

  1. box
  2. can
  3. jars
  4. bottle
  5. rolls

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


“ถนนไฟฟ้า” แค่ขับผ่านก็ชาร์จไฟ EV กำลังจะกลายเป็นความจริง

  หนึ่งในปัญหาของเหล่าผู้ใช้รถ EV ยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในบ้านเรา เท่าที่ผมได้รับฟีดแบ็กมาจากคนรู้จักที่เริ่มซื้อรถพลังไฟฟ้ามาใช้กันแล้ว ก็คือเรื่องของสถานีชาร์จครับ เพราะหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกัน โดยเฉพาะหากต้องใช้บริการสถานนีชาร์จนอกบ้าน เนื่องจากจุดชาร์จตามสถานที่ต่าง ๆ แม้จะเริ่มมีเยอะขึ้นแต่ก็ชาร์จได้บ้างไม่ได้บ้าง

ผมเคยเขียนถึงเรื่องนี้ในหัวข้อ “ปัญหาตบตี แย่งสถานีชาร์จ EV” ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งมาถึงวันนี้ก็ยังขอย้ำคำเดิมว่าหากใครที่กำลังมีแผนซื้อรถ EV เป็นคันต่อไป เพื่อความชัวร์ ควรต้องมีจุดชาร์จของตัวเองที่บ้านที่สามารถจอดชาร์จแบบข้ามคืนได้ เพราะหากไปหวังพึ่งจุดชาร์จนอกบ้าน บอกเลยว่าคงต้องลุ้นไม่น้อยครับว่ามันจะใช้ได้หรือไม่

     นั่นทำให้นอกจากการพัฒนารถ EV แล้ว ที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วยก็คือสถานีชาร์จและแบตเตอรี่ เพราะว่าจุดอ่อนที่สุดของรถพลังไฟฟ้าก็คือการชาร์จไฟ ที่ไม่ว่าจะใช้ระบบ Quick Charge ที่เร็วแค่ไหน ก็ต้องมี 30-40 นาทีเป็นอย่างน้อย ล่าสุดที่ประเทศสวีเดนครับ เขามีการเตรียมสร้างถนนไฟฟ้า ที่สร้างขึ้นเพื่อรถ EV ได้ชาร์จไปขับไปกันเลยทีเดียว

แว่บแรกที่ผมเห็นข่าวนี้ ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว คือภาพของรถไฟฟ้าที่มีสายไฟระโยงระยางอยู่ด้านบน รวมไปถึงรถรางกรุงเทพฯ สมัยก่อนที่ใช้กำลังจากสายไฟฟ้าด้านบน ซึ่งเมื่อเข้าไปดูรายละเอียดแล้ว ยังไม่มีการยืนยันนะครับว่าจะสร้างออกมาในรูปแบบใด แต่ที่แน่ ๆ เขามีการทดลองทั้งแบบที่มีสายไฟอยู่ด้านบน และแบบฝังขดลวดที่ใต้ดินสำหรับการชาร์จแบบไร้สาย

     แนวคิดเริ่มต้นนี้ จริง ๆ แล้วมาจากเป้าหมายการลดปริมาณคาร์บอนจากการเผาไหม้ของรถบรรทุกหนัก ที่หากเป็นรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็จะก่อมลพิษมากกว่ารถทั่วไป และหากเป็นรถบรรทุกแบบ EV ก็คาดว่าต้องใช้เวลาในการชาร์จไฟมากขึ้นหลายเท่า เพราะด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น นั่นทำให้เกิดเป็นแผนที่จะสร้างทางให้ขับไปชาร์จไปทีเดียวเลย

     โดยทางสวีเดนมีแผนที่จะเปิดใช้ถนนไฟฟ้านี้เป็นที่แรกของโลกให้ได้ภายในปี 2025 ครับ ซึ่งเบื้องต้นจะทำบนเส้นทางหลวงหมายเลข E20 วิ่งจาก Hallsberg ไปยัง Örebro รวมระยะทางราว 21 กิโลเมตรก่อน แล้วค่อยต่อยอดด้วยเมกกะโปรเจกต์ ทำทางหลวง Electric Road แบบเต็มรูปแบบ ระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตรต่อไปครับ

     ส่วนรูปแบบที่จะทำออกมานั้น ก็คาดกันว่าจะให้ระบบขดลวดฝังไว้ใต้ถนน ซึ่งจะทำให้การชาร์จเป็นแบบไฟฟ้าเหนี่ยวนำ เหมือนกับการชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายแบบนั้นเลยครับ อย่างไรก็ดี รถที่วิ่งผ่านและต้องการชาร์จ ก็จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใต้ท้องรถ เพื่อให้สามารถชาร์จไฟได้ขณะขับผ่านถนนเส้นนี้

     ซึ่งหากทำได้จริง ก็น่าจะทำให้ราคาแบตเตอรี่มีโอกาสถูกลงแน่นอนครับ เพราะมีการคาดกันด้วยว่า หากระบบถนนไฟฟ้าเกิดขึ้นจริงแบบเต็มรูปแบบ ค่ายรถต่าง ๆ อาจลดขนาดแบตเตอรี่ลงได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวครับ และถือเป็นการปิดจุดอ่อนที่ต้องเสียเวลาจอดชาร์จไฟเป็นเวลานาน ๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียวครับ

     อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลยืนยืนว่าในการทดสอบนั้น ไอ้เจ้าเทคโนโลยีถนนไฟฟ้านี้ มันชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ได้ดีขนาดไหน เพราะหากใครเคยใช้ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สายที่ติดตั้งมากับรถใหม่ ๆ ยุคนี้ บางรุ่นก็ชาร์จได้ไว บางรุ่นก็แค่มีไว้เพื่อให้โฆษณาว่าที่มีออปชันนี้ติดมาด้วย เพราะกว่าจะได้สัก 1 เปอร์เซ็นต์ก็ปาเข้าไปครึ่งทางอยู่แล้วครับ (ฮ่า ๆ)

     ที่ร่ายมายาว มันคือเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นนะครับ ส่วนในบ้านเราคงยังไม่ต้องไปถึงขั้นนั้น ก่อนจะไปถนนไฟฟ้า เอาสถานีชาร์จและแอปฯ ชาร์จไฟให้เสถียรก่อนก็พอแล้วครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


11.29 Studio คืนคุณค่าของของคอนกรีตที่ไม่ใช้แล้วสู่ “Furnish Studio สตูดิโอศิลปะ” ในจังหวัดระยอง

โบว์ – ปัณฑิตา มีบุญสบาย เจ้าของสตูดิโอ Furnish Studio เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินอิสระชาวไทยเจ้าของภาพวาดสีน้ำมัน ที่ในช่วงเวลาหนึ่งทีม 11.29 Studio ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของเธอ ทีม 11.29 Studio ได้พูดถึงประสบการณ์ที่ได้รับและได้ทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเจ้าของสตูดิโอมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวศิลปินแต่รวมไปถึงเงื่อนไขของพื้นที่ด้วย

เมื่อพูดถึงสตูดิโอภาพวาดสีน้ำมัน การระบายอากาศคือสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงตามด้วยลักษณะเฉพาะที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ของสถานที่ทำให้มีผลต่อการออกแบบอย่างแน่นอน

Photographs: Beersingnoi

สิ่งที่ทางทีมได้รับมอบหมายคือสตูดิโอภาพวาดสีน้ำมันที่มีระบบระบายอากาศที่เพียงพอซึ่งจะทำให้เพิ่มสิ่งแวดล้อมที่ดีในการทำงาน การวางแผนในขั้นตอนแรกของการออกแบบ คือการมองหาพื้นที่ ทางทีมได้พิจารณาพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีสายลมพัดผ่านและได้เลือกจังหวัดระยอง เมื่อพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งไม่ปรากฏให้เห็นได้ทั่วไปในจังหวัดที่มีอาณาเขตนิคมอุตสาหกรรม การก่อสร้างและของเสียจากการผลิตจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ทีมออกแบบได้แรงบันดาลใจจากแนวคิดการสร้างประโยชน์จากส่วนประกอบที่ไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น การนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วและวัสดุในท้องถิ่นมาใช้ในการออกแบบจึงเป็นประเด็นหลักในการลดพลังงานสำหรับการขนส่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบสตูดิโอ

ในด้านสถาปัตยกรรม มีการใช้คอนกรีตสเปเซอร์ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้จากการทดสอบคอนกรีตและระแนงไม้ไผ่มาใช้เป็นผิวของอาคาร ทำให้ลมหมุนเวียนได้คล่องตัวและสามารถช่วยกรองแสงได้ดี วัสดุเหล่านี้ไม่ได้แค่บ่งบอกถึงความพิเศษเพียงเท่านั้นแต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายของโครงสร้างอีกด้วย

ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่ถูกจำกัดให้แคบลงเพื่อให้ความสำคัญกับพื้นที่เปิดโล่งเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องของการระบายอากาศที่ดีแต่รวมไปถึงการสร้างทัศนียภาพที่หลากหลายสำหรับตัวศิลปิน 11.29 studio ตั้งคำถามว่าวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมสามารถนำมาออกแบบอย่างไรได้บ้าง ทางทีมได้ทำการค้นหาความสวยและประโยชน์จากส่วนประกอบที่ไม่ใช้แล้วที่ปรากฏในพื้นที่จังหวัดระยอง พยายามหาคำตอบว่าวัสดุอะไรที่จะมีศักยภาพสูงสุด และของเสียเหล่านี้จะสามารถอยู่ในสภาพอื่นและทำหน้าที่อื่นได้หรือไม่? และทั้งหมดนำไปสู่คำตอบของการใช้คอนกรีตสเปเซอร์ในการออกแบบ

เนื่องจากเป็นประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนผู้คนจึงใช้เครื่องปรับอากาศเป็นจำนวนมากส่งผลต่อปัญหาภาวะโลกร้อน แต่ถ้าเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศหรือลดการใช้ไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อโลกมากมายขนาดไหน?

Furnish studio ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับแนวคิดเหล่านี้ การใช้คอนกรีตสเปเซอร์ไม่เพียงแต่ลดของเสียจากอุตสาหกรรม แต่งยังช่วยลดงบประมาณในการก่อสร้างและระแนงไม้ไผ่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์แนวคิดในการลดการใช้ไฟฟ้า การแกว่งเป็นวงกลมของไม้ไผ่ช่วยให้ศิลปินสามารถปรับมุมและความทึบของแสงได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งเจ้าของโครงการและสังคม

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/05/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,900.0032,000.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,066.0031,320.5632,500.00
ทองรูปพรรณ 90%1,859.4028,188.50n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,652.8025,056.45n/a
ทองรูปพรรณ 50%930.0014,098.80n/a
ทองรูปพรรณ 40%723.0010,960.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,141.0032,457.56n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19/05/2566


ปตท.

บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9534.7534.7535.2434.7534.7534.7534.7534.7534.7534.75
แก๊สโซฮอล์ 9134.4834.4834.9434.4834.4834.4834.4834.4834.4834.48
แก๊สโซฮอล์ E2032.4432.4432.8432.4432.4432.4432.4432.4432.44
แก๊สโซฮอล์ E8532.8932.8932.89
เบนซิน 9542.5442.6143.0442.6942.54
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1643.8442.6642.6641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า