สาระน่ารู้ประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2566

มรดกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คืออะไร รัฐฯให้ทายาทยื่นคำขอก่อนกำหนด

มรดกที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คืออะไร หลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทายาทที่ได้รับจัดสรรที่ดิน ยื่นคำขอรับมรดกตามกฏใหม่ เสียชีวิตก่อนวันที่ 16 กรกฏาคม 2564 ต้องยื่นคำขอในวันที่ 15 กรกฏาคม 2566

จากกรณีที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับยื่น มรดกที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 กรณีเสียชีวิตก่อนวันที่ 16 กรกฏาคม 2564  ต้องยื่นคำขอในวันที่ 15 กรกฏาคม 2566 

จากข้อมูลล่าสุด มีเกษตรกรเสียชีวิตมากกว่า 2 แสนราย แต่ปรากฏว่าทายาทที่ได้รับสิทธิ์ มรดกที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ยื่นเข้ามาเพียง 18,542 รายเท่านั้น

รู้จักมรดกที่ดิน  ส.ป.ก. 4-01

มรดกที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คือ เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินออกโดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยใช้ชื่อว่า ส.ป.ก. สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน อาจเป็นที่ว่างเปล่าราชพัสดุ หรือ ที่ดินอะไรก็ได้ที่รัฐครอบครองลิขสิทธิ์ เมื่อเห็นว่าประชาชนเดือนร้อน รัฐก็เอาที่ดินว่างเปล่ามารวบรวมดัดแบ่งแปลง แต่ยังไม่ให้ประชาชน แต่ให้ประชาชนเข้ามาทำมาหากินปลูกผัก หรือ ปลูกต้นไม้ บนที่ดินแปลงนี้

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีหลักการ ว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ถือว่าผิดกฏหมาย ประชาชนที่จะได้ ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จะต้องมีฐานะยากจนเท่านั้น ต้องแสดงหลักฐานยากจน ไม่มีโฉนดที่ดินอื่น โอนสิทธิ์ได้ไหม โอนสิทธื์ให้ทายาททำเกษตรเท่านั้น และ ทายาทต้องทำเกษตรไม่สามารถนำไปขายต่อได้ และ ทายาทผู้รับกรรมสิทธิ์มรดกที่ดิน สปก.4-01และ เซ็นต์รับรองเพื่อทำการเกษตรเท่านั้น

ลำดับทายาทที่ได้รับสิทธิ์มรดกที่ดิน ส.ป.ก.4-01 มีดังนี้

1.คู่สมรส

2. บุตร

3.หากคู่สมรสไม่มีบุตรมอบที่ดินให้ บิดา หรือ  มารดา

4. หากบิดา หรือ มารดา เสียชีวิตทั้งคู่ มอบสิทธิ์ที่ดิน  ส.ป.ก.4-01 ให้กับ พี่ หรือ น้อง

5. หลาน.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“PEACE” เดินเกมรุกเปิดตัว “CHEREA VICINITY” บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ ส่งโครงการแรก “CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์”

“PEACE” เดินเกมรุกเปิดตัว “CHEREA VICINITY” บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ ส่งโครงการแรก “CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์” เจาะทำเลย่านราชพฤกษ์ – นนทบุรี เตรียมเปิดพรีเซลเดือนกรกฎาคมนี้

“พีซแอนด์ลีฟวิ่ง” เดินเกมรุกตลาดอสังหาฯ เปิดตัวบ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ใหม่ “CHEREA VICINITY” (เฌอเรีย วิซินิตี้) ชูจุดขาย Bridging Greenery และ Flexible Lifestyle ประเดิมโครงการแรกกับ “CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์” โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมระดับพรีเมียม ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรม Modern European มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท บนทำเลทองเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์และเมืองนนทบุรี โดยโครงการมี Brand Concept คือ “เชื่อมความสุข โอบรับทุกการใช้ชีวิต” เปิดขายบ้านในราคา 4-15 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลเดือนกรกฎาคมนี้

นายประสพศักดิ์ ศิริโสภณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PEACE ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อให้ทุกโครงการของพีซแอนด์ลีฟวิ่ง ได้เติมเต็มทุกความสุขของคนในครอบครัว และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวแบรนด์บ้านและทาวน์โฮมใหม่ กับแบรนด์ “CHEREA VICINITY” (เฌอเรีย วิซินิตี้) เพื่อให้ CHEREA VICINITY เป็นแบรนด์ที่เป็นมากกว่าโครงการบ้านทั่วไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘INCLUSIVE SOCIETY CONNECTING ALL LIVINGS’ เชื่อมความสุข โอบรับทุกการใช้ชีวิต

“สำหรับแบรนด์ CHEREA VICINITY บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาความต้องการของผู้ซื้อบ้าน เพื่อนำมาออกแบบบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนได้มากยิ่งขึ้น โดยชูจุดเด่นสำคัญในเรื่อง Healthy Mind & Body และ Flexible Lifestyle ผ่านการออกแบบบ้านและพื้นที่ส่วนกลางในรูปแบบ INCLUSIVELY ACCESSIBLE มีความหลากหลาย เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และ BRIDGING GREENERY ที่มีการเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวเอาไว้ทั่วทั้งโครงการ เพื่อให้ทุกชีวิตในโครงการได้อยู่ และใกล้ชิดธรรมชาติ นำมาสู่สุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ (Healthy Mind & Body) เพราะเราเชื่อว่า ‘บ้าน’ คือ พื้นที่เก็บความทรงจำ เราจึงให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่ภายในโครงการ CHEREA VICINITY แห่งนี้

บริษัทฯ เตรียมประเดิมเปิดตัวโครงการแรกกับ โครงการ “CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์” ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมสุดพรีเมียมในสไตล์ Modern European มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ – นนทบุรี 1 เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากถนนราชพฤกษ์เข้าสู่ตัวเมืองนนทบุรี สะดวกสบายในทุกการเดินทาง พร้อมเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี, โรงเรียนเด่นหล้า, The Walk ราชพฤกษ์, Makro นครอินทร์ และ The Crystal SB ราชพฤกษ์ เป็นต้น

โครงการถูกออกแบบอย่างใส่ใจให้ทุกชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอากาศที่บริสุทธิ์ และความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว โดยผสมผสานคอนเซ็ปต์การออกแบบได้อย่างกลมกลืน ระหว่างพื้นที่สีเขียว กับการเคลื่อนไหวของแม่น้ำเจ้าพระยาที่มี movement และ curve ของคลื่นน้ำผสมอยู่ในทุกการดีไซน์บนทุกพื้นที่ของโครงการ มาพร้อมฟังก์ชันที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ความหลากหลายของทุกคนให้เชื่อมถึงกัน ได้แก่ Inclusive Panoramic Clubhouse ขนาดใหญ่, Infinity Pool ระบบเกลือ วิวสวน, Playground, CHEREA Connecting Park, Jogging Track, Co-Working Space, Panoramic Gym, ห้องโยคะ, Kids Room และยังมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. (CCTV 24 ชั่วโมง) พร้อมเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Easy Pass Access เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและสุขภาพกายใจ ทำให้ทุก ๆ วันเป็นวันพักผ่อนที่แสนพิเศษของทุกคนในครอบครัว” นายประสพศักดิ์  กล่าว

ทั้งนี้ โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์” เตรียมเปิดขายรอบพรีเซลในเดือนกรกฎาคมนี้ ณ โครงการ CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์” ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

– เว็บไซต์ https://cherea-vicinity-ratchaphruek-jetsadabodin.peaceandliving.co.th/cherea-vicinity/ หรือเบอร์โทร 097 282 2256

– เฟซบุ๊กแฟนเพจ peaceandliving หรือที่เว็บไซต์ www.peaceandliving.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21มิ.ย. ที่ระดับ 34.84 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าในระยะสั้น ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด รวมถึงแรงซื้อเงินเยนที่อ่อนค่าลง หากCPI อังกฤษยังอยู่ในระดับสูงในช่วงบ่ายวันนี้ หนุนให้เงินปอนด์ทยอยแข็งค่าขึ้นกดดันเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21 มิ.ย.2566 ที่ระดับ  34.84 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.74 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้บ้าง ตามโมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าในช่วงคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี เรายังคงมองว่า เงินบาทอาจไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจังหวะเงินบาทอ่อนค่า ในการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB และขายเงินดอลลาร์ สำหรับผู้ส่งออกบางส่วน

นอกจากนี้ ในช่วงบ่าย เงินบาทก็มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นได้ หากอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ (ตลาดรับรู้ในช่วง 13.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ยังคงอยู่ในระดับสูง หนุนให้ผู้เล่นในตลาดต่างเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของ BOE ซึ่งมุมมองดังกล่าวจะช่วยหนุนให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ทยอยแข็งค่าขึ้น

กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้บ้าง แต่ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นมาก โดยเราประเมินว่า แนวรับในระยะสั้นอาจอยู่ในโซน 34.60-34.70 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด รวมถึงแรงซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงนี้

ทั้งนี้ ควรติดตามทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด หลังล่าสุด นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย แต่ในส่วนตลาดบอนด์ยังไม่เห็นการกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทยที่ชัดเจนอย่างที่เราประเมินไว้

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.70-34.90 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง ทดสอบโซนแนวต้าน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงใกล้แนวรับ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแรงเทขายทำกำไรหลังกลับมาเปิดทำการ โดยผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะทยอยขายทำกำไรบรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ซึ่งปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Conoco Phillips -2.8%, Chevron -2.3%, ) หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลอุปสงค์ความต้องการใช้พลังงานอาจลดลง หากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ชะลอตัว

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ยังคงปรับตัวลงราว -0.59% ท่ามกลาง ความกังวลว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ของทางการจีนอาจน้อยเกินไปและอาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างเดินหน้าขายหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมและกลุ่มเหมืองแร่ (Dior -1.4%, Anglo American -4.0%) อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Defensive อาทิ หุ้นกลุ่ม Healthcare (Sanofi +3.7%, Novo Nordisk +0.7%)

ทางฝั่งตลาดบอนด์ บรรยากาศในตลาดการเงินที่ผู้เล่นต่างไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง ขณะเดียวกัน มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟดก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มกลับมาทยอยซื้อบอนด์ระยะยาว ในจังหวะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้า

ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.73% ซึ่งเราคาดว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาว อาจแกว่งตัวในกรอบ sideway เพื่อรอประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดและธนาคารกลางหลักอื่นๆ รวมถึงรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งนี้ เราคงแนะนำให้รอจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในการทยอยเข้าซื้อ (Buy on Dip)

ในส่วนตลาดค่าเงิน ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินได้ช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็มีจังหวะย่อตัวลงบ้าง หลังผู้เล่นในตลาดก็ยังไม่เชื่อว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้ง หากภาพเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัวลง

ล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แกว่งตัวใกล้ระดับ 102.5 จุด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ แม้ว่าบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะย่อตัวลงต่อเนื่องและบรรยากาศในตลาดการเงินก็อยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง แต่ทว่า ราคาทองคำกลับถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค.) ย่อตัวลงทดสอบโซนแนวรับ 1,940-1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง

ซึ่งเรามองว่าผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว โดยโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้งเฟด และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ การแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ต่อสภาคองเกรส ซึ่งประธานเฟดอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไปของเฟดได้

ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ ในเดือนพฤษภาคม จะอยู่ในระดับสูงเพียงใด โดยหากอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนพฤษภาคมอาจจะยังคงสูงถึง 8.5%  ทำให้ BOE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย +25bps สู่ระดับ 4.75% พร้อมกับส่งสัญญาณชัดเจนว่า การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องยังมีความจำเป็น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 34.83-34.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามจังหวะการอ่อนค่าของเงินหยวน ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ และ

บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ มีปัจจัยบวกจากข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐฯ เดือนพ.ค. ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด (+21.7% MoM ไปที่ระดับ 1.63 ล้านยูนิต ตลาดคาดที่ 1.39 ล้านยูนิต)

 นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนก่อนกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์นโยบายการเงินรอบครึ่งปี ของประธานธนาคารกลางต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในคืนนี้ด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 34.75-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดรอติดตามทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองของไทย และสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ล่าแต้มโอลิมปิก! “จาย-โกเมธ-ติณพัฒน์” ลุยสกอตแลนด์ “เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์”

“สองล้อ” ไม่รอช้าเดินหน้าส่งนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยประเภทต่าง ๆ ไปเก็บตัวฝึกซ้อมและแข่งขันในต่างประเทศ เพื่อเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยนักกีฬาประเภทลู่จะไปเก็บตัวที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน เพื่อเตรียมสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ด้านประเภทถนนทั้งทีมชายและทีมหญิงไปแข่งขันศึกใหญ่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและมาเลเซีย ส่วน “จาย อังค์สุธาสาวิทย์” นักปั่นประเภทลู่ พร้อมทั้ง “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ เตรียมไปแข่งขันเวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ที่สกอตแลนด์ ขณะที่ “เสธ.หมึก” เผยสมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้นักปั่นทีมชาติไทยทุกประเภทเพื่อพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้น

 “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้วางแผนส่งนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยประเภทต่าง ๆ ไปเก็บตัวฝึกซ้อมและแข่งขันในต่างประเทศ เพื่อเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยหลังจากที่ตนเองได้เดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาจักรยานประเภทลู่ทีมชาติไทยทำการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14-19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็มีโอกาสได้พบปะหารือกับผู้บริหารของสมาคมกีฬาจักรยานสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีความประทับใจในการดูแลต้อนรับนักกีฬาทีมชาติจีนเป็นอย่างดีเยี่ยมระหว่างที่เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 เมื่อวันที่ 7-13 มิถุนายน ที่จังหวัดระยอง จึงเกิดความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศ ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 พลเอกเดชา กล่าวว่า ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เชิญให้สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาประเภทลู่ทีมชาติไทยไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่เมืองชานซี ระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม ถึงวันที่ 30 สิงหาคม เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนเต็ม เพื่อเตรียมทีมเข้าแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม โดยสนามซ้อมที่เมืองชานซีเป็นเวลโลโดรมแบบปิด พื้นไม้ปาเก้ ระยะทาง 250 เมตร ซึ่งในประเทศไทยมีแต่เวลโลโดรมเปิดระยะ 333 เมตร แต่ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์จะต้องแข่งขันในเวลโลโดรมปิดระยะ 250 เมตร ดังนั้นนักกีฬาประเภทลู่ต้องหาสนามฝึกซ้อมเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์หน้านักกีฬาประเภทลู่และประเภทถนนจะยกทีมไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน จากนั้นวันที่ 5 กรกฎาคม นักกีฬาประเภทลู่จึงจะเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน

 “เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า ด้านนักกีฬาจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ขณะนี้กำลังเตรียมตัวไปแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่เมืองคาวิเต ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม ซึ่งรายการนี้มีความสำคัญมาก เพราะนักปั่นที่ได้แชมป์ในรุ่นประชาชนชาย และหญิง จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสทันที ขณะเดียวกันก็มีคะแนนสะสมให้นักปั่นที่ได้อันดับต่าง ๆ ด้วย โดยหลักเกณฑ์ที่จะคัดเลือกนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ไปโอลิมปิกเกมส์ ทางสหพันธ์จักรยานโลก (ยูซีไอ) จะให้สิทธิ์ประเทศที่มีคะแนนสะสมอยู่ใน 12 อันดับแรกของโลกทั้งชายและหญิง โดยอันดับโลกล่าสุดของประเทศไทย ทีมชายอยู่อันดับ 18 ของโลก ส่วนทีมหญิงอยู่อันดับ 17 ของโลก เราจึงต้องเร่งเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด ส่วนทีมเสือภูเขาตอนนี้เก็บตัวอยู่ที่เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

 นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ในการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาจักรยานทุกประเภท สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยท่านคณบดี รศ.ดร.ชัยพัฒน์ หล่อศิริรัตน์ ในการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยในการฝึกซ้อมของนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย โดยในช่วงที่นักปั่นประเภทถนนและประเภทลู่ไปเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ในสัปดาห์หน้า ทาง รศ.ดร.ชัยพัฒน์ ได้ส่งบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ พร้อมเครื่องที่ทันสมัยที่สุดในโลกไปทำการทดสอบร่างกายให้นักปั่นไทย พร้อมทั้งทำการวิเคราะห์สมรรถภาพของนักกีฬาแต่ละคนอย่างละเอียดเพื่อหาค่าต่าง ๆ ในเลือด เพื่อพัฒนาศักยภาพนักปั่นของไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม

 ด้าน “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท รองประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาจักรยานฯ เปิดเผยว่า สำหรับนักกีฬาประเภทถนน ท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี ให้นโยบายว่าต้องไปตระเวนแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ให้ได้มากที่สุด โดยนักปั่นทีมชายนั้นสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะส่งนักปั่นชุดใหญ่ไปแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติที่สาธารณรัฐประชาชนจีน 2 รายการใหญ่ ได้แก่ รายการ “ทัวร์ ออฟ ชิงไห่ เลค” ระหว่างวันที่ 9-16 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันระดับ 2.HC ต่อด้วยรายการ “ทัวร์ ออฟ หวงซาน” ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันระดับ 2.2 จากนั้นทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” จะไปร่วมแข่งขัน “ทัวร์ เดอ ลังกาวี” ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 23-30 กันยายน ซึ่งทุกรายการมีความสำคัญมากในการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ ล่าสุดทีมชายของไทยอยู่อันดับที่ 41 ของโลก เราจะต้องรักษาอันดับให้อยู่ใน 45 อันดับแรกของโลกจึงจะได้โควต้าไป “ปารีสเกมส์”

 “โค้ชตั้ม” กล่าวอีกว่า ส่วนนักปั่นทีมหญิงไทยอยู่อันดับ 27 ของโลก เท่ากับว่าเราได้โควตาไปแข่งขัน 1 ที่นั่งแล้ว แต่ท่านนายกสมาคมฯ ไม่เคยนิ่งนอนใจ จึงให้นโยบายให้ส่งทีมหญิงไปแข่งขันเก็นคะแนนสมเพิ่มเติม โดยเน้นรายการใหญ่อย่างการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติรายการ “ทัวร์ ออฟ ชงหมิง ไอซ์แลนด์” ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม เป็นการแข่งขันระดับ WWT หรือ Women World Tour มีคะแนนสะสมสูงมาก และเป็นรายการสุดท้ายก่อนจะตัดยอดประเทศที่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ก็ได้คว้าอันดับที่ 2 มา ได้คะแนนสะสมเป็นกอบเป็นกำ หากปีนี้สามารถทำผลงานได้ดีอันดับโลกเราน่าจะขยับสูงขึ้นกว่าอันดับที่ 27

 “ทางด้านทีมจักรยานเสือภูเขาตอนนี้กำลังเก็บตัวอยู่ที่เขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อเตรียมทีมไปแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ขณะเดียวกันทางสมาคมฯ ได้ส่ง น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า นักปั่นดาวรุ่งไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้งตระเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งยลธนันท์ก็ทำผลงานได้ดี ล่าสุดก็คว้าอันดับที่ 6 มาครอง นอกจากนี้ ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ นักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลกเช่นเดียวกัน ก็มีการพัฒนาขึ้นมากกว่าเดิม โดยโกเมธเตรียมตัวแข่งขัน เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ 2023 ที่เมืองกาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งจะมีแข่งขันครบทุกประเภท ในประเภทลู่ก็มี จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ไปแข่งขันด้วย ส่วนประเภทถนน ท่านนายกสมาคมฯ ให้ส่งนักกั่นเยาวชน นายติณพัฒน์ เมืองเดช แชมป์เอเชียรุ่นเยาวชนชายคนล่าสุดไปแข่งขัน” โค้ชวิสุทธิ์กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


วิธีสังเกต “ปัสสาวะ” สัญญาณอันตราย “โรคไต”

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในวันหนึ่ง ร่างกายของเราๆ จะต้องเผชิญกับอาการเจ็บป่วย ซึ่งอย่างน้อยก็โชคดีที่หลายๆ อาการมักมีสัญญาณเตือนที่ค่อนข้างชัดเจน เพื่อแจ้งให้เรารีบรักษาหรือดูแลตัวเองโดยด่วน

ทว่าก็ไม่ใช่ทุกโรคหรืออาการป่วย ที่จะส่งสัญญาณได้ชัดเจนและทันท่วงทีต่อการรักษา โดยเฉพาะหนึ่งในอาการที่ทางการแพทย์ยกให้เป็น “ฆาตกรเงียบ” อย่าง “โรคไต” ทั้ง 2 ชนิดอาการที่พบได้มากสุด คือ “ไตวายเฉียบพลัน” และ “ไตวายเรื้อรัง” ที่กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว ประสิทธิภาพของไตก็อาจถดถอยไปมากกว่า 70% จนส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างแก้ไขคืนมาไม่ได้

ด้วยความเป็นอวัยวะสำคัญที่แบกรับหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกาย ทำให้เมื่อไตเกิดปัญหา ประสิทธิภาพในการจัดการกับของเสียจึงจะลดลง โดยที่เห็นชัดที่สุดคงไม่พ้นของเหลวที่ถูกขับออกมา อย่าง “ปัสสาวะ” ไม่ว่าจะปริมาณที่น้อยลง หรือสีที่ผิดปกติ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะนี้ ก็นับเป็นจุดสังเกตบ่งบอกอาการของโรคไตได้ดีที่สุดเช่นกัน

วิธีสังเกต “ปัสสาวะ” สัญญาณอันตราย “โรคไต”

โรคไตวายเฉียบพลัน

  1. ปริมาณปัสสาวะที่น้อยหรือมีสีผิดปกติ มีสีน้ำล้างเนื้อ มักตรวจพบพร้อมกับค่าความดันโลหิตที่สูงผิดปกติ
  2. ปัสสาวะที่น้อยมาก แต่ไม่มีความผิดปกติ ยกเว้นถ้าตรวจพบเม็ดเลือดแดงและโปรตีนไข่ขาวปนออกมาด้วย

ผู้ป่วยอาจจะมีอาการร่วมคือเหนื่อยง่าย รู้สึกหวิวๆ หัวใจเต้นผิดจังหวะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน มีอาการบวมน้ำหรือขาดน้ำ-อย่างใดอย่างหนึ่ง มักมีสาเหตุมาจากการเกิดภาวะช็อกจากการเสียน้ำหรือเลือดปริมาณมาก มีการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ได้รับสารพิษหรือผลข้างเคียงจากยา จนทำให้ไตสูญเสียการทำงานอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือเป็นสัปดาห์

โรคไตวายเรื้อรัง

สาเหตุของโรคเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่นๆ เช่น โรคไตที่เกิดจากเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือเกาต์ ความน่ากลัวของโรคนี้คืออาการที่ไม่แสดงความผิดปกติจนกว่าการทำงานของไตจะลดลงเหลือร้อยละ 25 หรือ 1 ใน 4 ของคนปกติ ผู้ป่วยจึงเริ่มมีอาการเพลีย เหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ตัวบวม กดบุ๋ม คันตามตัว ซึ่งหากการทำงานของไตลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 ผู้ป่วยจะมีอาการเหล่านี้แสดงออกมาชัดเจนทุกราย พร้อมๆ กับเนื้อไตที่ถูกทำลายไปทีละน้อยเป็นเวลาแรมเดือน แรมปี

อาการที่สังเกตได้จากปัสสาวะ

นายแพทย์น๊อต เตชะวัฒนวรรณา แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคไต โรงพยาบาลพระรามเก้า ให้ข้อมูลว่า 

  1. ผู้ป่วยที่มีไตวายระยะเริ่มแรก ในตอนกลางคืนจะปัสสาวะบ่อยและมีสีจาง 
  2. จนที่สุดเมื่อการทำงานของไตเสื่อมลงหรือไตวาย ผู้ป่วยจะมีปัสสาวะออกน้อยมาก 

หากการทำงานของไตลดเหลือเพียงร้อยละ 25 ผู้ป่วยจะมีอาการภายนอกให้เห็นคือ ผิวหนังซีด แห้งคัน มีจ้ำเลือดเกิดขึ้นง่าย เป็นแผลหายช้า หรืออาจมีผิวหนังตกสะเก็ดดำคล้ำกว่าปกติ บางรายอาจซูบผอมเนื่องจากน้ำหนักที่ลดลง ในทางตรงกันข้ามโรคไตบางชนิดอาจทำให้ผู้ป่วยตัวบวม-ขาบวม ร่วมกับมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

ความเสียหายที่เกิดกับผู้ป่วยไตวายจะมีขึ้นทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะระบบทางเดินอาหาร ระบบกระดูกที่ไตสูญเสียหน้าที่สังเคราะห์วิตามินดี มีผลให้แคลเซียมในเลือดต่ำ เกิดภาวะกระดูกพรุน แตกหักง่าย ภูมิต้านทานโรคที่ลดต่ำลง เป็นสาเหตุให้ติดเชื้อได้ง่าย อีกทั้งอาการบวมจากโรคไตยังส่งผลให้ระบบหัวใจทำงานไม่ไหว เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ความดันโลหิตสูง หรือฮอร์โมนทำงานผิดปกติหลายด้าน จนส่งผลถึงการผลิตฮอร์โมนไปกระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้โลหิตจาง การทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ เป็นสาเหตุให้มีเลือดออกง่าย เลือดไหลไม่หยุด และมีจ้ำเลือดขึ้นตามตัวได้ง่าย

โรคไตวายยังส่งผลต่อระบบประสาท สมอง และกล้ามเนื้อ ที่จะเกิดอาการปลายประสาทเสื่อมกับผู้ป่วย ทำให้มือเท้าชา กล้ามเนื้อกระตุก อ่อนแรง เป็นตะคริว และยังทำให้ขาดสมาธิ ไม่สามารถคิดและจดจำได้เหมือนปกติ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยก็อาจมีอาการชักหมดสติ …หรือจนถึงขั้นเสียชีวิต ไม่ต่างอะไรจากการมี “ฆาตกรเงียบ” อยู่ในร่างกาย

นอกเหนือจากการสังเกตความผิดปกติจากปัสสาวะแล้ว การวินิจฉัยโรคไตในปัจจุบันยังมีการพัฒนา จนตรวจสอบได้ละเอียด รู้ได้เร็ว และช่วยให้การรักษาเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที เริ่มที่

  • วิธีการตรวจปัสสาวะ หากปัสสาวะจะมีโปรตีนไข่ขาวและเม็ดเลือดแดงปะปนมา คือการแสดงถึงภาวะที่ผิดปกติของไต
  • วิธีการตรวจเลือด ซึ่งหากไตมีภาวะผิดปกติ จะพบปริมาณของไนโตรเจน กรดยูริก (Blood Nitrogen Urea: BUN) และครีเอตินิน (Creatinine: Cr) ที่เป็นของเสียจากกล้ามเนื้อ ตกค้างในเลือดสูงกว่าปกติ จากนั้นจึงนำเลือดที่ได้มาใช้ในการประเมินค่าการทำงานของไต (Glomerular Filtration Rate: GFR) ต่อไป
  • วิธีการตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) และการเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT Scan) ร่วมกับการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะทราบได้ทันทีหากเกิดความผิดปกติขึ้นที่ไต หรือระบบทางเดินปัสสาวะ

โรคไตแต่ละประเภทย่อมมีลักษณะ และอาการบ่งบอกที่แตกต่างกันออกไป แต่กับโรคอย่างไตวายเรื้อรังนั้น ลักษณะอาการจะอยู่ในกลุ่มที่ซ่อนเร้น ค่อยๆ กำเริบโดยไม่แสดงอาการ บางครั้งแฝงมากับโรคอื่น บางครั้งตรวจพบได้โดยบังเอิญ วิธีการที่จะรู้ทันถึงตัวโรคได้ มีแค่การหมั่นสังเกตอาการ และพบแพทย์ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันไม่ให้โรคร้ายนี้กัดกินเนื้อไต …จนสายเกินจะแก้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


8 วิธี “Say No” แบบถนอมน้ำใจ

I can’t give you an answer right now, will you check back with me?

ฉันไม่สามารถให้คำตอบคุณตอนนี้ได้ ไว้ค่อยกลับมาถามอีกทีได้ไหมคะ 

คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ไม่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงแบบไร้เยื่อใย แต่จะเป็นการเลี่ยงการ Say No ตรงๆ ด้วยการขอคิดดูก่อนอีกครั้ง

I want to, but I can’t.

ฉันก็อยากทำอยู่นะ แต่ว่าฉันไม่ว่างน่ะสิ

คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ถนอมน้ำใจมาก เพราะเป็นการตอบที่แสดงให้เห็นว่าเรา อยากไป อยากทำ (I want to) ตามที่คนถามได้เอ่ยชวนเรา แต่เราไม่สะดวกที่จะทำเช่นนั้น

I’m not able to commit to that right now.

ฉันไม่สะดวกจะรับปากตอนนี้นะ

คำตอบนี้เป็นคำตอบที่ผลัดไปก่อน เลี่ยงการตอบไปก่อน เพราะอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ อาจใช้ในสถานการณ์ที่คนถามต้องการคาดคั้นเอาคำตอบ ณ ขณะนี้ แต่เราดันไม่สามารถรับปากได้ ก็สามารถใช้ประโยคนี้ได้ค่ะ

I really appreciate you asking me, but I can’t do it.

ขอบคุณที่ถามนะคะ แต่ฉันไม่สะดวกที่จะทำจริงๆ

คำตอบนี้เป็นคำตอบปฏิเสธแบบถนอมน้ำใจด้วยการมีความรู้สึกขอบคุณ แม้จะไม่มีคำว่า Thank you ในประโยค แต่ความรู้สึกขอบคุณนั้น สามารถสื่อได้ด้วยวลีที่ว่า I really appreciate ค่ะ เป็นการตอบที่แสดงให้เห็นว่า เราขอบคุณที่เอ่ยปากถามหรือเอ่ยปากชวนเรานะ แต่งานนี้เราไม่สามารถไปได้หรือร่วมได้จริงๆ

I understand you really need my help, but I’m just not able to say yes to that, I’m sorry.

ฉันเข้าใจนะคะว่าคุณต้องการความช่วยเหลือ แต่ฉันเสียใจจริงๆ ค่ะที่ไม่สามารถช่วยได้

คำตอบนี้เป็นคำตอบปฏิเสธแบบมีความเห็นอกเห็นใจคนที่มาถาม ด้วยการแสดงความเข้าใจการขอความช่วยเหลือของเขาจริงๆ แต่เราไม่สามารถช่วยได้ เพราะอาจจะนอกเหนือความสามารถของเรา แทนที่จะ Say No ห้วนๆ เราก็สามารถแสดงความเห็นใจอีกฝ่ายได้ด้วยประโยคนี้ค่ะ I understand you really need my help

I’m going to say no for now. I’ll let you know if something changes.

ตอนนี้ฉันต้องขอตอบปฏิเสธก่อนนะคะ แต่ถ้าฉันเปลี่ยนใจแล้วจะบอกอีกทีนะคะ

คำตอบนี้เป็นคำตอบปฏิเสธแบบกึ่งรับปาก กึ่งปฏิเสธ ใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการการทบทวนหรือตัดสินใจก่อนจึงจะสามารถให้คำตอบได้

I’m honored that you would ask me, but my answer is no.

ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่คุณเอ่ยชวน แต่ว่าฉันคงต้องขอปฏิเสธนะคะ

คำตอบนี้เป็นคำตอบปฏิเสธที่ควรใช้ในสถานการณ์ที่ผู้เอ่ยถามมีตำแหน่ง อายุ หรือวุฒิภาวะที่สูงกว่าเรา ซึ่งอาจจะเป็นการเอ่ยถามถึงการช่วยงาน หรือนำเสนอตำแหน่งให้เรา แต่หากเรารู้สึกไม่สะดวกใจ ก็สามารถใช้ประโยคนี้ในการปฏิเสธได้ โดยคีย์เวิร์ดของการใช้ประโยคนี้ที่ทำให้ดูสุภาพและมีมารยาท คือ I’m honored that you would ask me

No, I can’t do that, but here’s what I can do…

ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ แต่ว่าฉันทำ…นี้ได้นะคะ

คำตอบนี้เป็นคำตอบปฏิเสธที่ไม่เชิงปฏิเสธเสียทีเดียว แต่เป็นการเสนอตัวช่วยเหลือในด้านอื่นแทนค่ะ ด้วยประโยคที่ว่า but here’s what I can do………

และนี่ก็คือตัวอย่างประโยคที่ใช้ปฏิเสธแบบถนอมน้ำใจค่ะ อย่าลืมเอาไปฝึกพูดให้คล่องนะคะ คราวหน้าเมื่อต้องการจะปฏิเสธอะไร จะได้มีอะไรให้พูดมากกว่าแค่คำว่า “No” ค่ะ : )

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


ซีเมนส์ ทุ่ม 7.5 หมื่นล้านบาท สร้างเติบโตอนาคค ขับเคลื่อนนวัตกรรม

ซีเมนส์ ประกาศกลยุทธ์การลงทุน มูลค่า 2 พันล้านยูโร หรือประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท มุ่งสร้างการเติบโต ขับเคลื่อนนวัตกรรม และเพิ่มความยืดหยุ่นในอนาคต

ซีเมนส์ได้นำเสนอกลยุทธ์การลงทุน มูลค่า 2 พันล้านยูโร  หรือ ประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท  เพื่อกระตุ้นการเติบโตในอนาคต พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรม และเพิ่มความยืดหยุ่น โดยมุ่งเน้นการลงทุนหลักไปที่การเพิ่มกำลังการผลิต ห้องปฏิบัติการนวัตกรรม ศูนย์การเรียนรู้ และโรงงานใหม่ โดยซีเมนส์ประกาศสร้างโรงงานไฮเทคแห่งใหม่ในสิงคโปร์ เพื่อรองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโตอย่างมาก

นายโรแลนด์ บุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและซีอีโอของ ซีเมนส์ เอจี กล่าวว่า “เทคโนโลยีของเราตอบสนองแนวโน้มการเติบโตที่แน่นอนในอนาคต หรือ Secular Growth ที่สนับสนุนให้ลูกค้าของเราสามารถแข่งขัน สร้างความยืดหยุ่นและความยั่งยืนได้มากยิ่งขึ้น ซีเมนส์กำลังเติบโตในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ และล่าสุดเราประกาศกลยุทธ์การลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม และเพิ่มความยืดหยุ่น”

“การลงทุนนี้สนับสนุนกลยุทธ์ของเราในการผสานโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน การมุ่งเน้นการกระจายธุรกิจและธุรกิจท้องถิ่นต่อท้องถิ่น (Local-for-Local Business) การขยายฐานที่ตั้งเพิ่ม Global Presence เพื่อรองรับการเติบโตในตลาดสำคัญ”

ในปีงบประมาณ ค.ศ. 2023 ซีเมนส์ คาดว่าจะเพิ่มงบประมาณการวิจัยและพัฒนาอีกประมาณ 500 ล้านยูโร   หรือ หรือ ประมาณ 1.89 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งจะเน้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรม (Industrial Metaverse) การวิจัยและพัฒนานี้มุ่งเสริมความแข็งแกร่งในความเป็นผู้นำของซีเมนส์ในเทคโนโลยีหลักๆ ซึ่งรวมถึง Simulation, Digital Twins, Artificial Intelligence หรือ Power Electronics พร้อมสนับสนุน Siemens Xcelerator  ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิดของบริษัทฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซีเมนส์ ได้ประกาศความร่วมมือกับ Microsoft เพื่อเร่งการสร้างโค้ดสำหรับระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมโดยใช้ ChatGPT และซีเมนส์ยังกำลังทำงานร่วมกับ NVIDIA เพื่อสร้างเมตาเวิร์สภาคอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาการออกแบบ การวางแผน การผลิต และการดำเนินงานของโรงงานและโครงสร้างพื้นฐาน

กำลังการผลิตใหม่และเพิ่มเติมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซีเมนส์ได้ประกาศสร้างโรงงาน ไฮเทคแห่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะได้รับการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี Digital Twin พร้อมนวัตกรรมฮาร์ดแวร์อัจฉริยะของซีเมนส์ โดยใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านยูโร  หรือ ราว 7.5 พันล้านบาท  โรงงานแห่งใหม่ นี้จะกำหนดมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยี ดิจิทัลมาเพิ่มศักยภาพรวมถึงการใช้กระบวนการผลิตอัตโนมัติขั้นสูง และการลงทุนนี้ยังสร้างงาน มากกว่า 400 ตำแหน่ง

กลยุทธ์มุ่งเน้นทุกภูมิภาคด้วยแผนการลงทุนทั่วโลก

อีกส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรองรับธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน ซีเมนส์จะขยายโรงงานดิจิทัลในเฉิงตู เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในท้องถิ่นของจีนในแบบ in China for China ด้วยการลงทุน 140 ล้านยูโร (1.1 พันล้านหยวน) หรือ ราว 5.3 พันล้านบาท  สร้างงานใหม่ 400 ตำแหน่ง ลูกค้าในประเทศจีนของซีเมนส์จำนวนมากอยู่ในกลุ่ม Early Adopters ในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีดิจิทัลและการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นี่คือเหตุผลที่ซีเมนส์ประกาศการลงทุนในศูนย์นวัตกรรมวิจัยและพัฒนาแบบดิจิทัลแห่งใหม่ในเซินเจิ้น เพื่อเร่งการพัฒนาระบบควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ Power Electronics โดยแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิด Siemens Xcelerator เปิดตัวในประเทศจีนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022

การประกาศการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ซีเมนส์มีความมุ่งมั่นที่จะขยายการผลิตในเมือง Trutnov ในประเทศสาธารณรัฐเช็ก เพื่อขยายกำลังการผลิตของโรงงานของบริษัทฯ ที่เมือง Amberg ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่าย WEF Global Lighthouse นอกจากนี้ซีเมนส์ยังลงทุนอีก 30 ล้านยูโร  หรือ ประมาณ 1.1 พันล้านบาท  เพื่อขยายโรงงานสวิตช์เกียร์ที่ Frankfurt-Fechenheim ในประเทศเยอรมนี ขณะที่ ซีเมนส์ โมบิลิตี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ประกาศการลงทุน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  หรือ ประมาณ 7.6 พันล้านบาท  เพื่อสร้างโรงงานผลิตตู้รถไฟแห่งใหม่ในเมืองเล็กซิงตัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับรถไฟโดยสารในสหรัฐอเมริกา โดยโรงงานแห่งนี้จะสร้างงานมากกว่า 500 ตำแหน่งภายในปี ค.ศ. 2028

แผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านยูโร  หรือ ประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท และอีกประมาณ 500 ล้านยูโร  หรือ ประมาณ 1.89 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสำหรับการวิจัยและพัฒนานั้นรวมถึงการลงทุนใน ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


จากสถาปัตยกรรมสู่ไอศกรีม “ดอกไม้รุ่งอรุณ” ที่ดังไกลไปต่างแดน

เรียกว่าเป็นกระแสไวรัลมาก ๆ กับไอติมวัดอรุณฯ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอยากจะลิ้มลองรสชาติพร้อมกับถ่ายรูปไอติมลายกระเบื้องไว้อวดชาวโซเชียลว่าตนนั้นได้มาเยือนวัดอรุณราชวราราม กว่าจะกลายมาเป็นไอศกรีม “ดอกไม้รุ่งอรุณ” ต้องใช้เวลาถึง 2 ปีด้วยกันโดยเจ้าของแนวคิดไอศกรีม 3 มิติ คือ POP ICON ผู้อยู่เบื้องหลังขนมหวานสุดไวรัลนี้

ซึ่งเอกลักษณ์ของไอศกรีมวัดอรุณฯ คือรสชาติที่คงความเป็นไทย ภาพลักษณ์ที่โดดเด่น และลูกเล่นของตัวไม้ไอศกรีมที่จะมีคำคมและคติธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละไม้ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยวก็คือลวดลายกระเบื้องที่ประดับอยู่บนพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม แลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพ

พระปรางค์วัดอรุณฯ หรือ พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่แขวงวัดอรุณ
เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้ดัดแปลงมาจากศิลปะอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลจากขอม องค์พระปรางค์มีฐานกว้างและยอดแหลมเป็นลักษณะที่เรียกว่า “ทรงจอมแห” ซึ่งเป็นทรงสถาปัตยกรรมไทยในแนวดิ่ง นิยมใช้ออกแบบเจดีย์และปรางค์ หรืออาคารที่มีส่วนหัวซึ่งอยู่ในลักษณะเครื่องยอด

การสร้างพระปรางค์ได้มีการจำลองเรื่องราวของไตรภูมิพระร่วงโดยรั้วของพระปรางค์เปรียบเสมือนกำแพงของจักรวาล พื้นลานกว้างเปรียบเป็นท้องทะเลทันดร กลางทะเลมีเขาพระสุเมรุซึ่งคือองค์พระปรางค์รายล้อมด้วยปรางค์ 4 ทิศเปรียบเสมือนทวีป 4 ทวีป บริเวณฐานประดับด้วยสัตว์หิมพานต์ ถัดขึ้นไปเป็นส่วนเรือนธาตุของพระปรางค์หรือยอดเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนยอดของพระปรางค์ประดับด้วยนภศูล อาวุธของพระอินทร์มีลักษณะเป็นฝัก 9 แฉกเหนือขึ้นไปเป็นมงกุฎซึ่งรัชกาลที่ 3 นำมาจากเศียรของพระประธานในโบสถ์วัดนางนอง ย่านบางขุนเทียน

องค์พระปรางค์ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ เปลือกหอย เครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ บางส่วนถูกทำให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาประกอบกับเป็นลายดอกไม้และใบไม้ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งได้รับอิทธิพลของศิลปะการช่างแบบจีนทำให้สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและจีน

เพราะความปังของไอศกรีมดอกไม้รุ่งอรุณทำให้ตอนนี้ขายดีจนหมดเกลี้ยงแต่อย่าเพิ่งเสียใจไปเพราะทางแบรนด์ POP ICON กำลังเตรียมรีสต๊อกความอร่อยให้ทุกคนได้ลองชิมความหวานของไอศกรีมและความสวยงามของศิลปะไทยในเร็ว ๆ นี้

ภาพและข้อมูลจาก: https://www.sarakadeelite.com/arts_and_culture/book-wat-arunratchawararam

ภาพจาก: www.instagram.com/popicon.official

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/06/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,900.0032,000.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,066.0031,320.5632,500.00
ทองรูปพรรณ 90%1,859.4028,188.50n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,652.8025,056.45n/a
ทองรูปพรรณ 50%930.0014,098.80n/a
ทองรูปพรรณ 40%723.0010,960.68n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,141.0032,457.56n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/06/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.4535.4535.9435.4535.4535.4535.4535.4535.4535.45
แก๊สโซฮอล์ 9135.1835.1835.6435.1835.1835.1835.1835.1835.1835.18
แก๊สโซฮอล์ E2033.1433.1433.5433.1433.1433.1433.1433.1433.14
แก๊สโซฮอล์ E8533.5933.5933.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.9446.6446.9446.7442.94
เบนซิน 9543.2443.8143.7443.3943.24
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1642.9442.3642.3641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า