สาระน่ารู้ประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2566

ไตรมาส2พฤกษา โชว์ “อสังหาฯ -เฮลท์แคร์”ดัน  กำไร141%

“พฤกษา โฮลดิ้ง” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566 ไตรมาส2พฤกษา โชว์ “อสังหาฯ -เฮลท์แคร์”ดันกำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาท เติบโต 141% 

บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ประสบความสำเร็จจากอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยสร้างผลกำไรต่อเนื่องมากว่า30ปี จากจุดประกาย”บ้านทาวน์เฮ้าส์ราคาถูก”และผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยี “พรีคาสท์” ส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วได้เปรียบคู่แข่ง

รวมถึงขยายธุรกิจต่อเนื่องเพื่อความมั่นคง ต่อยอดธุรกิจซึ่งกันและกัน ทั้งธุรกิจอสังหาฯกับ ธุรกิจดูแลสุขภาพ หรือ เฮลท์แคร์ ที่สำคัญยังสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งไม่ค่อยเห็นนักสำหรับการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ล่าสุดได้วางยุทธศาสตร์ 5ปี สร้างรายได้ 1แสนล้านบาท นับจากปี2566

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2566  ว่า  พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH  ทำรายได้รวม 7,107 ล้านบาท เติบโต 32%  ส่งผลมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์  ทำกำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาท เติบโต 141%  เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 และในครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิ 1,690 ล้านบาท รายได้รวม 13,665 ล้านบาท  โดยราว 700 ล้านบาทเป็นรายได้จากความสำเร็จในการสวอปหุ้นบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด

ที่เป็นบริษัทย่อยของ PSH  เพื่อนำไปลงทุนในหุ้นของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL ที่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะสร้างรายได้และการเติบโตที่แข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทฯ กำไรของครึ่งปีแรกถ้าหักรายการพิเศษจากการสวอปหุ้นออก ธุรกิจหลักของกลุ่มก็ ยังคงมีกำไรครึ่งปีแรกของปี 2566 เติบโตกว่า 10% จากปี 2565

สะท้อนให้เห็นว่าปัจจุบันทางกลุ่มประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ทั้งยอดโอนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และด้านเฮลท์แคร์ ที่มีการเติบโตที่สูงขึ้น และยอดคำสั่งซื้อและติดตั้ง (Backlog) แผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำของ อินโน พรีคาสท์ ก็ทะลุกว่า 2,200 ล้านบาท สูงขึ้นเกินกว่าเท่าตัวจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 1,000 ล้านบาท อีกก้าวหนึ่งสู่ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการผลิตพรีคาสท์คาร์บอนต่ำแห่งเดียวในประเทศไทย

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มียอดขาย 4,650 ล้านบาท เติบโต 4% จากไตรมาสก่อน มียอดโอน 5,650 ล้านบาท เติบโต 11% จากไตรมาส 2 ปี 2565 เป็นรายได้จากกลุ่มสินค้าแนวราบและการโอนคอนโดมิเนียม 6 โครงการต่อเนื่องมาจากช่วงต้นปี ในครึ่งปีแรกทำยอดขายได้ 9,116 ล้านบาท ยอดโอน 11,680 ล้านบาท พร้อมเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 4,848 ล้านบาท  ซึ่งจากการเปิดตัวโครงการ “แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา” ทำยอดขายได้มากกว่า 50% ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากคนไทยและต่างชาติ

รวมถึงโครงการ “พลัมคอนโด นิวเวสต์” ย่านบางใหญ่ สามารถทำยอดจองในวันพรีเซลที่ผ่านมาได้ถึง 580 ล้านบาท ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่โดดเด่น ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสามแยกบางใหญ่เพียง 400 เมตร ในราคาที่จับต้องได้ง่ายเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก พฤกษาจึงได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท

ถือเป็นอัตราผลตอบแทนที่แข่งขันได้ในตลาด กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น วันที่ 28 ส.ค. 2566 จ่ายเงินปันผล วันที่ 8 ก.ย. 2566 และสำหรับในครึ่งปีหลังมีแผนเปิดโครงการรวม 17 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท ส่งผลให้การเปิดตัวโครงการใหม่ตลอดทั้งปีเป็นไปตามแผนเพื่อการยกระดับสินค้ากลุ่มพรีเมียมขึ้นเป็น 30% ในช่วงครึ่งปีแรก

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์  ในไตรมาส 2 ปี 2566  มีรายได้รวม 440 ล้านบาท เติบโต 117% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 รายได้รวมในครึ่งปีแรก 852 ล้านบาท โดยโรงพยาบาลวิมุตทำรายได้ที่ไม่รวมโควิดเติบโตขึ้น 77% สัดส่วนจำนวนผู้ป่วยใหม่เข้ารับการรักษากว่า 26% และได้ขยายความร่วมมือกับ “นัลลูรี่”  ผู้ให้บริการทางสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล  ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจผ่านทางแอพพลิเคชั่นที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยมอบสิทธิในการใช้บริการสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลวิมุตทุกราย ได้ใช้เป็นระยะเวลา 1 ปี  

พร้อมกับตั้งเป้ายกระดับให้ได้ตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ (HA) ในระดับ 3 ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อมอบบริการในระดับสากล และขยายบริการไปยังกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วย  และยังได้เปิดศูนย์ส่องกล้องและหน่วยเฉพาะทางการเคลื่อนไหวระบบทางเดินอาหาร รวมถึงขยายความร่วมมือระหว่างกลุ่ม   โดยโรงพยาบาลวิมุตและเทพธารินทร์ได้เตรียมความพร้อมในการจัดตั้ง Medical Academy เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และสร้างรายได้ใหม่ให้กับกลุ่ม

“นอกจากนี้ พฤกษา โฮลดิ้ง  ยังได้รับคัดเลือกเป็นบริษัทจดทะเบียนกลุ่มหลักทรัพย์ ESG 100 ประจำปี 2566 จากสถาบันไทยพัฒน์ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล และได้รับการยอมรับเรื่องความโดดเด่นด้านการจัดทำรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐาน Global Reporting Initiative ที่เน้นเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมถึงการพัฒนาทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและเฮลท์แคร์ด้วยราคาที่เข้าถึงได้สำหรับคนทุกกลุ่มด้วย” 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ถอดสูตรสำเร็จ‘เอพีไทยแลนด์’ JV ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’

ถอดสูตรสำเร็จ‘เอพีไทยแลนด์’ JV ‘มิตซูบิชิ เอสเตท’ ก้าวสู่ทศวรรษ ที่สอง ลุยต่อบิ๊กโปรเจ็กต์ คอนโดมิเนียมหรูแนวรถไฟฟ้า

การร่วมทุน (JV) ของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย กับ กลุ่มทุนข้ามชาติ ได้รับความนิยมมานาน ที่โดดเด่น  จะเป็นกลุ่มทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงและ ชำนาญการพัฒนาที่อยู่อาศัย  หนึ่งในนั้นคือ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) อสังหาฯระดับโลก จากประเทศญี่ปปุ่น ผู้ควํ่าหวอดในวงการมา 50 ปี JV กับยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาฯ ไทย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) 

ที่นายอะซึชิ นากาจิมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “มิตซูบิชิ เอสเตท” สะท้อนว่าทั้งสองบริษัทมีความลึกซึ้งเกินกว่าการร่วมทุนทางธุรกิจนั่นคือความไว้เนื้อเชื่อใจ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนท์ จำกัด โมเดลร่วมทุนสัดส่วน 51:49ส่งผลให้ ทำงานร่วมกันแน่นแฟ้นมาถึง10ปีนับตั้งแต่ปี2557

 การร่วมทุนดังกล่าว ถือเป็นรูปแบบการร่วมทุนรายแรกและรายเดียวในไทยจากผลงาน 24 โครงการคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าทั้งเปิดให้บริการปัจจุบันและรถไฟฟ้าสายใหม่  23,500 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 116,300 ล้านบาท  ตอบโจทย์ ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจที่ดี ซึ่งแตกต่างจาก JV อื่นที่ ที่จบงานเป็นรายโครงการไป และแน่นอนว่าจะมีโครงการที่พัฒนาร่วมกันอีกหลายโครงการ เพราะมองว่า กรุงเทพ มหานครยังน่าสนใจมีคนต่างจังหวัดหมุนเวียนเข้าหาแหล่งงานและเกิดความต้องการที่อยู่อาศัย รวมถึงตลาดผู้สูงอายุ

นอกจากนี้  ยังค้นพบตลาดเมืองไทยกับตลาดญี่ปุ่นที่มีจุดร่วมกันหลายอย่าง  ขณะเดียวกันศึกษาความต่างโดยเฉพาะความต้องการของลูกค้า  โดยนำสิ่งที่เป็นองค์ความรู้ทั้งหมดมาวางบนโต๊ะทำให้การทำงานร่วมกันประสบความสำเร็จ ยิ่งๆขึ้น เดิมทีอาจมีปัญหาเพราะ ความไม่เข้าใจของฝ่ายญี่ปุ่น จนฝ่ายไทยมองว่ามีความจุกจิกเกินไปแต่ในที่สุดแล้วก็ทำความเข้าใจกันได้ด้วยดี  

 สิ่งหนึ่งที่ประทับใจจากการร่วมทุนกับเอพี ไทยแลนด์คือตัดสินใจเร็วดำเนินการเร็ว รวมถึงได้เรียนรู้การนำระบบออนไลน์ดูแลลูกค้า และนำไปใช้ในบ้าน รวมถึง การพัฒนาแบบแปลนการออกแบบหลังสถานการณ์โควิด-19 สิ่งที่ ทางมิตซูบิชิเอสเตท ได้เรียนรู้จากเอพี ไทยแลนด์ และทำให้ต้องการร่วมงานกันต่อไป คือ การบอกรายละเอียดข้อเท็จจริงของขั้นตอน กระบวนการเกี่ยวกับการทำโครงการของไทยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกันไม่มีที่สิ้นสุด และสิ่งที่ดำเนินการร่วมกัน ล่าสุดปิดการขายไปแล้ว 13 โครงการ คงเหลือที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและการขาย 11 โครงการ มูลค่ารวม 55,650 ล้านบาท

ในจำนวนนี้เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมขายคิดเป็นมูลค่า 20,375 ล้านบาท โดยที่จะมีโครงการ ดิแอดเดรส สยาม-ราชเทวี มูลค่า 8,600 ล้านบาท ซึ่งมียอดขาย 40% และจะก่อสร้างแล้วเสร็จเตรียมโอนกรรมสิทธิพร้อมเปิดให้ชมห้องจริงในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ และ ริทึ่ม (RHYTHM )เจริญนคร ไอคอนิค แฟล็กชิป โครงการร่วมทุนใหม่ล่าสุดมูลค่า 4,500 ล้านบาท ต้นแบบชูเปอร์คอนโดมิเนียม ที่เตรียมเปิดตัวเดือนพฤศจิกายนนี้

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)  มองว่า ที่ผ่านมาใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจ  การทำอะไร ตรงไปตรงมา เปิดเผย ไม่มีอะไรปิดบัง เป็นสิ่งที่นำพาธุรกิจก้าวไปข้างหน้า  ยกตัวอย่าง แม้แต่การซื้อที่ดินมาในราคาเท่าใดจะโอนเข้าบริษัทราคาเท่านั้น ไม่มีบวกเพิ่มหากำไร รวมถึงการเปิดเผยระบบบัญชีที่ให้ต่างฝ่ายต่างตรวจสอบได้ ทางมิตซูเอสเตท ส่งทีมงานคลุกคลีทั้งในบริษัทและในพื้นที่ มีการถ่ายทอดงานให้ทั้งหมดเท่าที่มีความรู้ความสามารถ

 เมื่อถามว่าการ JV ถือว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่นายอนุพงษ์ ตอบว่า การทำงานไม่สามารถบอกได้ ว่าคือความสำเร็จ แต่ต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มีปัญหาต้องแก้ไข จุดไหนมีปัญหาแก้ที่นั่นพบปัญหาอุปสรรคลงมือแก้ทันที ที่สำคัญการทำงานต้องเน้นที่ถนัดเท่านั้น   

 “ทศวรรษที่ 2” หรือ 10 ปี ต่อไป นายอนุพงษ์ประเมินว่าการพัฒนาโครงการขึ้นอยู่กับที่ดิน ที่  มิตซูบิชิ เอสเตท สนใจ และพร้อมขยายแต่การหาที่ดินอยู่ที่เอพี ไทยแลนด์ จัดหาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งยอมรับว่าที่ดินยากกว่า  10 ปี แรกค่อนข้างมาก ขณะเศรษฐกิจมองว่ายังไม่ดีเท่าที่ควรเช่นกัน

 การดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จะอยู่ภายใต้แผนโรดแมป “FROM STRENGTH TO STRENGTH”หรือ “แข็งแกร่งก้าวไปต่อ” สู่การเติบโตที่ไม่สิ้นสุดโดย ชูความจริงใจ  คีย์ซักเซสดันดีลธุรกิจยั่งยืนมากกว่าเรื่องของผลตอบแทน คือแนวทางการทำธุรกิจที่เชื่อใจกันและกันในทุกมิติสำหรับ เอพีไทยแลนด์ และมิตซูบิชิเอสเตท  เพื่อขับเคลื่อนการร่วมทุนที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น หลังจากตลอด 10 ปี ได้พัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมทุนตามแนวรถไฟฟ้าใจกลางกรุงเทพฯ และมองหาที่ดินรองรับการเปิดตัวคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่องในอนาคต

  “การทำอะไร ตรงไปตรงมา เปิดเผย ไม่มีอะไรปิดบัง”  คือ สูตรสำเร็จความไว้เนื้อเชื่อใจที่นายอนุพงษ์ บอกเล่าเรื่องราวถึงที่มาที่ไปของ การทำธุรกิจร่วมทุน และจะก้าวไปสู่ ทศวรรษที่2 กับ มิตชูบิชิ เอสเตท อย่างเหนียวแน่นมั่นคงต่อไป!!!

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21ส.ค.ที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทผันผวนสูงในกรอบกว้าง จากความไม่แน่นอนสถานการณ์การเมืองไทย ส่วนเงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว sideway หรือแข็งค่าขึ้นได้ ควรระวังความผันผวนจากฝั่งตลาดการเงินจีน

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 21ส.ค.2566ที่ระดับ  35.37 บาทต่อดอลลาร์“ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดสัปดาหก่อนหน้า

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่านับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideway (แกว่งตัวในกรอบ 35.33-35.44 บาทต่อดอลลาร์) ตามการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่ไม่ได้มีทิศทางอย่างชัดเจน ทั้งนี้เงินบาทก็มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน (Higher for Longer)

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอติดตามรายงานดัชนี PMI ของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด ในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole และรอลุ้น การโหวตเลือกนายกฯ ของไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของเฟดที่เมือง Jackson Hole (ตลาดจะทยอยรับรู้ถ้อยแถลงดังกล่าวในช่วงราว 21.05 น. ของวันศุกร์ที่ 25 นี้ ตามเวลาในประเทศไทย) โดยตลาดจะรอตีความการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

หลังล่าสุด รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังคงออกมาดูดีและเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนก็ออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ จนทำให้ล่าสุดผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ รวมถึงโอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน ซึ่งมุมมองดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้หนุนให้ทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ (S&P Manufacturing & Services PMIs) เดือนสิงหาคม เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯ อาจยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 49 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว)

 ในขณะที่ภาคการบริการจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องได้ แม้การขยายตัวอาจชะลอลงบ้าง ตามผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงเงินออมส่วนเกิน (Excess Savings) ของคนอเมริกันที่ทยอยลดลง โดยดัชนี PMI ภาคการบริการอาจลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 52 จุด

▪ ฝั่งยุโรป – นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า เศรษฐกิจยุโรปยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของยูโรโซนและอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง กดดันจากผลกระทบของการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของทั้งธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงที่ผ่านมา

รวมถึงภาพเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพเศรษฐกิจอังกฤษและยูโรโซนจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น แต่เรายังคงมองว่า อัตราเงินเฟ้อของทั้งอังกฤษและยูโรโซนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับเป้าหมายของธนาคารกลาง จะส่งผลให้ BOE และ ECB มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ในปีนี้

▪ ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) ของธนาคารกลางจีน (PBOC) หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้า PBOC ได้เซอร์ไพร์สตลาดด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย MLF -15bps สู่ระดับ 2.50% ท่ามกลางรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนที่ออกมาแย่กว่าคาด

 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า PBOC อาจปรับลด LPR ประเภท 1 ปี และ 5 ปี ลงราว -15bps เช่นกัน เพื่อช่วยพยุงการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตลาดอสังหาฯ จีนที่ยังคงซบเซา อาจเพิ่มโอกาสที่ PBOC อาจลด LPR ประเภท 5 ปี ลงมากกว่า -15bps อย่างไรก็ดี ในส่วนนโยบายการเงินของธนาคารกลางอื่นๆ

ตลาดมองว่า ทั้งธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) และ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.50% และ 5.75% ตามลำดับ หลังอัตราเงินเฟ้อของทั้งสองประเทศมีแนวโน้มชะลอลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของธนาคารกลาง อนึ่ง ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ

 ตลาดจะรอจับตารายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม โดยนักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งจะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการที่ยังอยู่ในระดับ 53-54 จุด (ดัชนีสูงกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว)

ขณะที่ภาคการผลิตอาจยังคงหดตัว (ดัชนี PMI ภาคการผลิตอาจลดลงสู่ระดับ 49.5 จุด) ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีน ที่ยังมีปัญหาสินค้าคงคลัง (Inventory) อยู่ในระดับสูง

▪ ฝั่งไทย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติและความผันผวนของเงินบาทได้อย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวราว +1.2%q/q หรือ +3.0%y/y ในไตรมาสที่ 2 หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจัยกดดันอาจมาจากการค้าระหว่างประเทศที่ซบเซา รวมถึงการลงทุนที่อาจชะลอลงมากขึ้นจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลงตามคาด แต่เงินบาทก็อาจผันผวนสูงในกรอบกว้าง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไทยอาจยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าการโหวตเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จสิ้นลง

 นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนจากฝั่งตลาดการเงินจีน ที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ อนึ่ง เราประเมินแนวต้านแรกของเงินบาทแถวโซน 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกจะอยู่ในช่วง 35.20 บาทต่อดอลลาร์

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว sideway หรือแข็งค่าขึ้นได้ หากตลาดยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หรือตลาดยิ่งเชื่อว่าเฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด ซึ่งต้องจับตาทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินโลก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.00-35.75 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.50 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ต๊อด ปิติ” นำทัพมาเอซาวา เรซซิ่ง ผงาดแชมป์ “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023” ที่โอกายามา

“ต๊อด” ปิติ ภิรมย์ภักดี นักขับชาวไทยและ นาโอกิ โยโกมิโซ นักขับชาวญี่ปุ่นช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์พาทีมอาเอซาวา เรซซิ่ง คว้าชัยชนะครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังควบ เฟอร์รารี 488 จีที 3 อีโว เข้าเส้นชัยอันดับหนึ่ง ใน “จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 พาวเวอร์ บาย เอดับเบิบยูเอส” สนามที่ห้าของฤดูกาล และเป็นสนามปิดท้ายเจแปนคัพ ที่โอกายามา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบจีที แชมเปียนชิพ ระดับโลก จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 พาวเวอร์ บาย เอดับเบิลยูเอส สนามที่ห้าของฤดูกาลมาแข่งขันกันที่ โอกายามา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามความยาว 3.703 กม. ในเมืองมิมาซากะ จังหวัดโอคายามะ ประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นสนามรองสุดท้ายของจีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย 2023 และจะเป็นสนามสุดท้ายของซีรีส์เจแปนคัพ แข่งขันเรซละ 1 ชั่วโมงกับอีก 1 รอบ

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาเป็นเรซที่สองของสนามนี้ ซึ่ง เฟอร์รารี 488 จีที 3 อีโว ได้ออกสตาร์ตในอันดับที่สองโดย นาโอกิ โยโกมิโซ เป็นนักขับคนแรก และรักษาอันดับสองไว้จนกระทั่งช่วงเข้าพิตสต็อปก่อนเปลี่ยนมือให้ ปิติ ภิรมย์ภักดี รับช่วงต่อ ซึ่งนักขับชาวไทยออกนำตั้งแต่ออกจากพิตก่อนเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 31.571 วินาที ทิ้งอันดับสองถึง 2.526 วินาที

นับเป็นการคว้าชัยชนะครั้งแรกของทีมมาเอซาวา เรซซิ่ง ที่เพิ่งก่อตั้งและลงแข่งขันครั้งแรกในฤดูกาลนี้ด้วยรถเฟอร์รารี 488 จีที 3 อีโว หมายเลข 555 หลังจากก่อนหน้านี้เคยทำผลงานดีที่สุดคือการจบอันดับห้า ที่ ทวิน ริง โมเตกิ เซอร์กิต ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจบอันดับหกที่ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในเดือนเดียวกัน

อันดับสองเป็น ปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์ หมายเลข 911 ของทีมเอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต บาย แอบโซลูท เรซซิง โดยสองนักขับ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ อเลสซิโฮ พิคาริเอโล ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 1 นาที 34.097 วินาที และอันดับสาม ปอร์เช่ 911 จีที 3 อาร์ หมายเลข 4 จากทีมอาร์แอนด์บี เรซซิง ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 1 นาที 38.679 วินาที

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


7 ปัจจัยอันตราย เสี่ยง “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ”

โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นการติดเชื้อที่ ระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งได้แก่ ไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ บทบาทของกระเพาะปัสสาวะและไตนั้นคือกักเก็บของเสีย และกำจัดของเสียออกจากร่างกายตามลำดับ ของเสียเหล่านี้จะถูกกำจัดออกจากร่างกายเป็นปัสสาวะผ่านทางท่อปัสสาวะ

อาการโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้หญิง

โอกาสที่ผู้หญิงจะเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนั้นมีมากกว่าผู้ชาย นักวิทยาศาสตร์บางคนได้คาดเดาว่า ความเสี่ยงของผู้หญิงนั้นมากกว่าผู้ชายถึงสองเท่า ยิ่งไปกว่านั้น การติดเชื้อในผู้หญิง มีแนวโน้มที่กำเริบขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป การติดเชื้อมักจะเกิดขึ้นจากการที่เชื้อโรคเข้าไปสู่ระบบทางเดินปัสสาวะ ในบางกรณี การติดเชื้อนั้นอาจจะหายไปโดยที่ไม่ต้องรักษา สัญญาณที่เป็นไปได้ของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมีดังนี้

  • มีอาการปวดหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น
  • ไม่สามารถปัสสาวะได้ แม้จะรู้สึกปวดมาก
  • ปัสสาวะเล็ด
  • ปัสสาวะขุ่น เป็นสีเข้ม มีกลิ่นเหม็น หรือมีเลือด

สาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้หญิง

คุณอาจจะเคยได้ยินว่า ผู้หญิงควรเช็ดจากด้านหน้าไปทางด้านหลัง ความเชื่อนี้มีไว้เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เรื่องนี้ดูสมเหตุสมผล หากคุณพิจารณากายวิภาคของท่อปัสสาวะ ช่องคลอด และทวารหนัก ท่อปัสสาวะคือท่อที่นำปัสสาวะออกสู่นอกร่างกายนั้น อยู่ใกล้กับช่องคลอดและทวารหนัก การเช็ดจากด้านหน้าไปทางด้านหลังนั้น สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคจากช่องคลอดและทวารหนัก ไปติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ และจากท่อปัสสาวะ การติดเชื้อสามารถผ่านขึ้นไปทางกระเพาะปัสสาวะ และไปปนเปื้อนอวัยวะภายในได้ ท่อปัสสาวะของผู้หญิงนั้นสั้นกว่าของผู้ชาย ดังนั้น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคจึงสามารถเดินทางได้เร็วยิ่งกว่าผู้ชาย

นอกจากเชื้อแบคทีเรียจากทวารหนักแล้ว กิจกรรมบางอย่างยังสามารถนำเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้ นั่นก็คือ..

  1. การมีเพศสัมพันธ์

การมีเพศสัมพันธ์สามารถนำไปสู่โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ เรื่องนี้เป็นความจริงที่น่าเศร้า แต่ท่วงท่าของการมีเพศสัมพันธ์ สามารถส่งต่อเชื้อแบคทีเรีย จากช่องคลอดหรือทวารหนัก มาสู่ท่อปัสสาวะได้ เทคนิคดีๆ ที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะจากการมีเพศสัมพันธ็ก็คือ การปัสสาวะภายใน 30 นาทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยให้ความเสี่ยงลดลง

  1. อาการท้องผูกและท้องร่วง

อาการท้องผูกทำให้คุณปัสสาวะจนสุดได้ยากขึ้น ดังนั้น ปัสสาวะและเชื้อแบคทีเรียทั้งหมด ก็จะถูกกักเก็บไว้ในร่างกาย เชื้อแบคทีเรียจะเติบโตขึ้นและทำให้เกิดการติดเชื้อ

อาการท้องร่วงก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ อาการท้องร่วงนั้นสามารถทำให้อุจจาระที่เหลวนั้นกระจายไปทั่ว ทำให้เกิดโอกาสที่เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ท่อปัสสาวะได้ง่าย และวิธีป้องกันคือการเช็ดจากด้านหน้าไปยังด้านหลังนั่นเอง

  1. โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี

เมื่อน้ำตาลในเลือดของคุณเพิ่มสูงขึ้น น้ำตาลส่วนเกินนั้นจะไปอยู่ในปัสสาวะ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณเป็นโรคเบาหวานเท่านั้น การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปนั้น ไม่ทำให้คุณเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

  1. การกลั้นปัสสาวะ

หากคุณรู้สึกปวดปัสสาวะ ก็ควรที่จะปัสสาวะในทันที ยิ่งคุณกลั้นปัสสาวะนานเท่าไหร่ ยิ่งทำเชื้อแบคทีเรียอยู่ในร่างกายของคุณนานขึ้นเท่านั้น และจะยิ่งนำไปสู่การติดเชื้อได้

  1. ภาวะขาดน้ำ

การดื่มน้ำนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และหนึ่งในนั้นคือการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ยิ่งมีน้ำมากขึ้น ก็จะยิ่งปัสสาวะมากขึ้น ช่วยในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียออกจากร่างกายได้

  1. การคุมกำเนิด

ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะชี้ว่า หากคุณเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเชื้อแบคทีเรียตามปกติในช่องคลอด และเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ นอกจากนี้การคุมกำเนิดโดยใช้แผ่นไดอะแฟรม (diaphragms) และสารฆ่าอสุจิ (spermicides) ยังสามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคได้อีกด้วย

  1. ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง

การไม่เปลี่ยนแผ่นผ้าอนามัยและผ้าอนามัยแบบสอดนั้น สามารถนำไปสู่โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้อย่างง่ายๆ เชื้อแบคทีเรียสามารถเติบโตในสิ่งของเหล่านี้ได้ดี กางเกงชั้นในก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การเสียดสีกับวัสดุของกางเกงชั้นในหรือกางเกงชั้นในที่มีสายบางนั้นสามารถส่งต่อเชื้อแบคทีเรียได้ ควรสวมกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อป้องกันความชื้นที่จะทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เคล็ดลับการเรียนรู้ภาษาให้ได้อย่างรวดเร็วในวัยผู้ใหญ่

หลายคนที่เริ่มเรียนภาษาก็จะคิดว่ายิ่งเราอายุมากขึ้นเท่าไหร่เราก็จะยิ่งเรียนรู้ภาษาได้ช้าและลำบากขึ้นเท่านั้น แต่อย่าเพิ่งปักใจเชื่อมายาคติเหล่านี้ไปตลอดเลยนะคะ เพราะว่ามีคนที่เคยเรียนภาษาต่างประเทศจนใช้ได้อย่างคล่องแคล่วภายในเวลาเพียง 1-2 เดือนมาแล้ว ซึ่งเขาก็เริ่มเรียนในวัยผู้ใหญ่ รวมถึงภาษาที่เรียนก็ซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษด้วยซ้ำไป และนี่คือเคล็ดลับการเรียนภาษาของเขาค่ะ

คัดคำศัพท์ด้วยมือทุกวัน

สิ่งแรกคนที่ประสบความสำเร็จคนนี้ทำแต่เช้าก็คือการตื่นขึ้นมาแล้วก็เริ่มคัดคำศัพท์ไปหนึ่งหน้ากระดาษค่ะ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เราเรียนกันนั้น จะมีคำกริยาแบบ regular และ irregular (ผันตาม tense ต้องเปลี่ยนรูปคำ) คำเหล่านี้จำเป็นต้องจดจำให้ได้ ฉะนั้นการเจียดเวลาสักชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่งในการคัดคำศัพท์ก็จะช่วยให้จำได้ดีขึ้นค่ะ

ฟังเพลงในภาษานั้น ๆ

สิ่งที่เข้าหัวเรามากที่สุดไม่ใช่การท่องจำอย่างคร่ำเคร่งแต่เป็นสิ่งที่ผ่านหูผ่านตาเราทุกวัน ๆ ต่างหาก ดังนั้นแล้วการเลือกฟังเพลงในภาษาที่เราเรียนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการฟังฆ่าเวลาช่วงการเดินทาง หรือว่าการฟังเพื่อความบันเทิงยามว่างก็ตาม จะช่วยให้ภาษานั้น ๆ ที่เราเรียนอยู่เข้าหัวเราง่ายขึ้น และที่สำคัญคือเราจะได้เรียนรู้การออกเสียงที่ถูกต้องของคำศัพท์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ

สื่อสารกับเจ้าของภาษาเป็นประจำ

ข้อนี้อาจจะเป็นข้อจำกัดของใครหลายคน แต่เชื่อเถอะว่าการได้พูดคุยกับเจ้าของภาษาบ่อย ๆ จะช่วยให้เรามั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้นเพราะหากว่าเราพูดผิดไป คนเหล่านี้เองที่จะสามารถชี้แนะให้เราได้ ดังนั้นทักษะทางภาษาของเราก็จะโตขึ้นพรวดพราดเลยล่ะค่ะ

เขียนเรียงความง่าย ๆ วันละชิ้น

การเขียนก็เป็นทักษะที่สำคัญ หากว่าสามารถพูดหรือสื่อสารภาษานั้น ๆ ได้ในระยะเริ่มต้นแล้ว อย่าลืมที่จะเขียนบันทึกอะไรสักอย่างเกี่ยวกับภาษานั้น ๆ สั้น ๆ เพื่อที่จะได้จดจำและใช้โครงส้างประโยคให้ถูกต้อง เป็นการเรียนไวยากรณ์ไปในตัวด้วยค่ะ

เรียนรู้คำเชื่อมประโยคที่ใช้พูดในชีวิตประจำวัน

คำเชื่อมประโยคหรือที่เรียกว่า filler word ก็เป็นอีกคำศัพท์ที่จะให้ประโยชน์ ในการเรียนภาษาได้เหมือนกัน เช่นคำว่า err.. so… well… actually… เพราะว่าการใช้คำเหล่านี้ในการสนทนาเป็นการซื้อเวลาให้เรานึกคำศัพท์ในการตอบโต้กับคู่สนทนาได้ ทำให้การสนทนาลื่นไหลได้ไม่น้อยเลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


เปิดรายชื่อ 9 ประเทศใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

    ทราบหรือไม่ว่าใบขับขี่ไทยแบบ Smart Card สามารถนำไปใช้ยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนได้ถึง 9 ประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล เนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศอาเซียนในการขับขี่รถยนต์ข้ามแดนได้ มีประเทศใดบ้างไปดูกันเลย

9 ประเทศอาเซียนที่สามารถใช้ใบขับขี่ไทยได้

  1. ลาว
  2. เวียดนาม
  3. กัมพูชา
  4. เมียนมาร์
  5. มาเลเซีย
  6. อินโดนีเซีย
  7. บรูไน
  8. ฟิลิปปินส์
  9. สิงคโปร์

  ทั้งนี้ ใบขับขี่ไทยที่สามารถนำไปใช้ในประเทศที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่ระบุข้อมูลเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษด้วยเท่านั้น หากเป็นใบขับขี่แบบเก่า จะต้องดำเนินการขอรับใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดเสียก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในประเทศข้างต้นได้

      อีกทั้งเจ้าของรถที่จดทะเบียนในประเทศไทย สามารถนำรถไปใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ โดยจะต้องดำเนินการทางทะเบียนที่สำนักงานขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียน เพื่อขอรับแผ่นป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษสำหรับเข้ากลุ่มประเทศสมาชิก โดยเงื่อนไขการนำรถไปใช้ของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


5 ผลไม้ไทย ช่วยบรรเทาอาการป่วย ลดไข้ ไม่สบาย

เข้าหน้าฝนทีไร การเจ็บป่วยไม่สบายดูจะเป็นเรื่องที่หลีกหนีไม่พ้น ขณะที่หลายคนพึ่งพาการซื้อยามารับประทานเอง บ้างก็ไปพบหมอ แต่คุณจะเชื่อหรือไม่ว่าผลไม้ช่วยลดไข้ได้ด้วย นอกจากจะอร่อยแล้วยังดีต่อสุขภาพซะด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าผลไม้อะไรบ้างที่ช่วยคุณได้ในยามที่ป่วยเป็นไข้

1. ฝรั่ง สำหรับคนไทยส่วนใหญ่คงรู้จัก “ฝรั่ง” ในนามของแสลงผู้ป่วย หากรับประทานเข้าไปตอนที่เป็นไข้อาจทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า “ฝรั่ง” ไม่มีผลเสียต่อคนที่ป่วยเป็นไข้ธรรมดาอีกทั้งการรับประทานฝรั่งไม่เกิน 1-2 ลูกจะช่วยให้ไข้หายเร็วขึ้นด้วย เนื่องจากในฝรั่งจะอุดมไปด้วยวิตามันซี ช่วยลดอาการน้ำมูกไหลและปวดศีรษะ อย่างไรก็ตามในรายเป็นไข้สูงและป่วยเป็นโรคไตด้วยควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้เกิดอาการชักจนเสียชีวิตได้

2. แตงโม ผลไม้รสหวานอร่อยที่หารับประทานได้แทบจะทุกฤดูกาล โดยนอกจากแตงโมจะเป็นผลไม้ที่ให้ความสดชื่นแล้ว ยังจัดเป็นผลไม้ช่วยลดไข้ได้ เนื่องจาก 90 % ของแตงโมคือน้ำ เมื่อคนเราป่วย ร่างกายของเรามักจะขาดน้ำไปโดยปริยาย ดังนั้นการรับประทานแตงโมจึงเหมือนการเติมน้ำให้ร่างกายทำให้สดชื่น มีชีวิตชีวาแถมยังลดไข้ได้ดีอีกด้วย

3. ส้ม ส้มเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีปริมาณวิตามินและเกลือแร่สูงที่สุด โดยคนที่สูบบุหรี่หรือต้องอยู่ในที่ ๆมีคนสูบบุหรี่ที่มีความเสี่ยงเป็นหวัดและไข้ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่เป็นตัวการสำคัญที่นำไปสู่อาการอักเสบอื่น ๆ ภายในร่างกาย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยไข้ได้ง่ายต้องเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ทุกอย่าง

4. มะตูม มะตูมถือเป็นผลไม้ที่ใช้กินเล่นเพลินๆ หรือคลุกกับข้าวเหนียวก็อร่อยไปอีกแบบ โดยนอกจากความอร่อยที่พูดมาแล้ว สรรพคุณของมะตูมยังช่วยแก้ร้อนใน และขับเสมหะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังป่วยหากได้รับประทานผลไม้ช่วยลดไข้อย่างมะตูมเข้าไปจะทำให้ชุ่มคอ และลดความร้อนในร่างกายได้

5. แคนตาลูป ถือเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นโดยคนที่ป่วยเป็นไข้อุณหภูมิในร่างกายจะสูงกว่าปกติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำให้อุณหภูมิภายในต่ำลง ซึ่งการรับประทานแคนตาลูปกับน้ำตาลหรือนำมาปั่นเป็นสมูทตี้ก็เป็นวิธีที่ดีมากอีกหนึ่งวิธี โดยจากการวิจัยระบุว่าแคนตาลูปมีสารสำคัญมากมาย ทั้งโพแทสเซียม วิตามินเอ และซีที่มีมากพอๆ กับส้มเขียวหวานจึงสามารถเป็นผลไม้ช่วยลดไข้และป้องกันหวัดได้อีกด้วย

ได้รู้จักกับ 5 ผลไม้ช่วยลดไข้แล้วจะเห็นได้ว่ามีผลไม้ไทยหลายชนิดที่สามารถช่วยลดไข้ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามแม้ผลไม้เหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการไข้ได้แต่ทางที่ดีเราเองก็ควรรักษาสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที พักผ่อนให้เพียงพอและทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส เพียงเท่านี้อาการป่วยไข้ก็จะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 21/08/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a31,600.0031,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,047.0031,032.5232,200.00
ทองรูปพรรณ 90%1,842.3027,929.27n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,637.6024,826.02n/a
ทองรูปพรรณ 50%921.0013,962.36n/a
ทองรูปพรรณ 40%716.0010,854.56n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,121.0032,154.36n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21/08/2566



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9539.5539.5540.5539.5539.5539.5539.5539.5539.5539.55
แก๊สโซฮอล์ 9139.2839.2840.2839.2839.2839.2839.2839.2839.2839.28
แก๊สโซฮอล์ E2037.2437.2438.2437.2437.2437.2437.2437.2437.24
แก๊สโซฮอล์ E8537.6937.6937.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.8448.5448.9448.9444.84
เบนซิน 9547.3448.5147.8447.4947.34
ดีเซล B731.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.9431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.9431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.7443.1447.9443.5443.5441.74
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า