สาระน่ารู้ประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2566

“วีบียอนด์” ขยายฐานลูกค้าสู่เป้าหมื่นล้าน จับมือ“บิ๊กเนม”บริหารขายคอนโด

“วีบียอนด์”  ขยายฐานลูกค้าระดับบิ๊กเนม บริหารโครงการ สู่เป้าหมาย รายได้หมื่นล้าน ล่าสุด จับมือ “เอพีเอส บิซ ทาวน์”  บริหารงานขายโครงการทำเลสุขุมวิท สายสีเขียวแบริ่ง-สำโรง หลังเซ็นสัญญา ”ชาญอิสสระ” “ไอเอฟซีจี” ไปก่อนหน้านี้

นายวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด   ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งมีโมเดล ธุรกิจรูปแบบใหม่ สร้าง“แพลตฟอร์ม” เพื่อการซื้อ-ขาย-ลงทุน ที่สะดวกสบายบนโลกออนไลน์แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง สะท้อนจากการได้ร่วมงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ชั้นนำที่ให้ความไว้วางใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ล่าสุด นายวรเดช  ระบุว่า ได้ ร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท เอพีเอส บิซ ทาวน์ จำกัด ให้เป็นผู้บริหารงานขาย โครงการ Alive Sukhumvit 76 แบบ Exclusive โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 1,150 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดใหม่ Low-Rise 8 ชั้น 2 อาคาร

จุดเด่น ใกล้รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท (แบริ่ง-สำโรง) ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และทางด่วนบูรพาวิถี ใกล้ศูนย์การค้าและย่านธุรกิจ พร้อมจัดเต็มทุกฟังก์ชันและดีไซน์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Facility ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนดาดฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียงล้านกว่าบาท ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะเกิดยอดขายรวมจากโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท 

นอกจากนี้วีบียอนด์ยังเตรียมขยายความร่วมมือในการบริหารงานขายโครงการอื่นๆ ของ บริษัท เอพีเอส บิซ ทาวน์ จำกัด อีกมากมาย เพราะมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม ที่มีทำเลที่ตั้งในเขตชุมชนเมือง ใกล้ศูนย์การค้า ย่านธุรกิจ สามารถเดินทางได้สะดวก และเน้นแบบบ้านที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ผมเชื่อว่าจากความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้และในโปรเจ็กต์ต่อๆ ไปในอนาคตจะสร้างรายได้ให้วีบียอนด์อีกหลายหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน

ที่ผ่านมา วีบียอนด์ ได้รับความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย และบริษัท ไอเอฟซีจี จำกัด นายหน้าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน  สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมโอกาสในการขยายฐานธุรกิจเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสาทร ชั้น M อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาทร 

ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติหลากหลายวงการ อาทิ ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำระดับประเทศ, นักลงทุน, พันธมิตรทางธุรกิจ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนายชเยนทร์ คำนวณ ประธานกรรมการ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัทไอเอฟซีจี จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในงานนี้ด้วย โดย CEO ทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมเสวนาในหัวข้อโอกาสทางธุรกิจและประโยชน์ต่อผู้บริโภคจากความร่วมมือในครั้งนี้ จากนั้นได้มีพิธีลงนาม (MOU) ลำดับแรกระหว่าง บริษัท วี บียอนด์ 

มีธุรกิจหลักคือการเป็นโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งตอนนี้เรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็น Developer ชั้นนำมากกว่า 50 แบรนด์ มีสินค้าอสังหาฯในสต็อคให้ลูกค้าเลือกซื้อมากกว่า 300 โครงการ และมีแผนขยายธุรกิจสู่บ้านมือสองเพื่อรองรับตลาดทุก Segment พร้อมตั้งเป้าสร้าง Market share ให้ได้ 5% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ วีบียอนด์ ยังมีแผนจะขยายธุรกิจสู่กลุ่ม Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ ชูจุดเด่นด้วยระบบ AI อัจฉริยะสุดล้ำ ทั้งแพลตฟอร์ม Property mall ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ทั้งซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุน พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะ ซึ่งกำลังจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ และกลุ่มธุรกิจ Health Tech 

 วีบียอนด์ ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจด้านนี้ที่เป็นเทรนด์ในอนาคต และคาดว่าจะสร้างรายได้อย่างมหาศาล จึงได้มีการศึกษาและวิจัยการลงทุนพร้อมรุกตลาดโดยเร็วเพื่อช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย และคาดการณ์ว่าอีก 5 ปี ข้างหน้า กลุ่มบริษัทวีบียอนด์จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีรายได้ทยานแตะ10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ลุยรื้อผังเมืองรวมกทม. บูมทำเลทอง ย่านพาณิชยกรรม รอบสถานี รถไฟฟ้า สายสีส้ม

ลุยรื้อผังเมืองรวมกทม. บูมทำเลทอง ย่านพาณิชยกรรมใหม่ รอบสถานี รถไฟฟ้า “สายสีส้ม” เพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มความถี่พัฒนาคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน มิกซ์ยูส

ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงครั้งที่4  ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่ากทม.) มีแผนประกาศใช้ในราวปี2568  หลังต้องนับหนึ่งตามขั้นตอนแห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การผังเมืองพ.ศ.2562 ที่บังคับใช้แทนกฎหมายผังเมืองปี 2518  ซึ่งก่อนหน้านี้ กทม.ได้ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคลองกับการเปลี่ยนแปลง รองรับระบบรถ-ราง-เรือ

โดยกำหนดย่านพาณิชยกรรมรองชุมชนชานเมือง กระจายความเจริญในหลายพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางเข้ามากระจุกตัวในย่านศูนย์กลางเมือง สร้างปัญหาจราจรติดขัด โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก ที่ผังเมืองกำหนดให้ บริเวณสถานีปลายทาง มีนบุรี เป็นเมืองใหม่  เพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็น ย่านพาณิชยกรรม พื้นที่สีแดง รองรับการขยายตัวของเมือง ประชาชนคนรุ่นใหม่

ที่จะขยับเข้ามา ซึ่งย่านดังกล่าวจะมีทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า การพัฒนาที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียม นอกจากบ้านแนวราบหรืออาจพัฒนาเป็นศูนย์ราชการในย่านนั้นเช่นเดียวกับโซนบางขุนนนท์ไปจนถึงตลิ่งชันสามารถเนรมิตเป็นเมืองรองรับคนทำงานอยู่อาศัยชั้นดีและย่านพาณิชยกรรมขนาดย่อมได้

 กทม.ประเมินว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกมีศักยภาพสูง ตัดผ่านในย่านสำคัญของเมืองหลวง มีขีดความสามารถพาคนจำนวนมากจากชานเมืองเคลื่อนเข้าสู่ ใจกลางเมือง และรับส่งผู้โดยสารระหว่างทาง  มุ่งหน้าไปยังย่านพระราม9-รัชดาภิเษก ศูนย์กลางธุรกิจใหม่ หรือนิวซีบีดีที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หรืออาจเปลี่ยนถ่ายเส้นทางไปย่านสุขุมวิท สีลม สาทรได้ ทำให้ราคาที่ดินขยับไปไกล อยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา

จากการประเมินของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ในทำเลจุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ MRT ใต้ดินสายสีนํ้าเงิน ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และพระราม9  ส่วนราคาที่ดิน ย่านมีนบุรีสถานีปลายทาง ราคา 2 แสนบาทต่อตารางวาแนวโน้มขยับไปที่4-5แสนบาทต่อตารางวา จุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะเปิดให้บริการปี 2567 ปัจจุบันจากการสำรวจพื้นที่พบว่ามีโชว์รูมวัสดุก่อสร้าง บ้านแนวราบคอนโดมิเนียมระดับบิ๊กแบรนด์ เกิดขึ้น

ขณะเจ้าถิ่น บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เฟอร์เฟค  มีที่ดินในโซน รามคำแหง ไปทางมีนบุรี จำนวนมากมีแผนพัฒนาทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ และแนวสูง เช่นเดียวกับ บมจ.สัมมากรที่มีแผนนำแลนด์แบงก์ออกพัฒนารับรถไฟฟ้าสายสีส้ม นอกจากนี้ยังมีค่ายออริจิ้นเข้าไปปักหมุด พัฒนาคอนโดมิเนียมบริเวณสถานีมีนบุรี จุดตัดรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู

ส่วนทำเลรามคำแหง บริเวณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ที่7-8แสนบาทต่อตารางวา แต่ก่อนหน้าจะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีดีเวลลอปเปอร์ซื้อที่ดินปักหมุดรอ ตลอดแนวค่ายใหญ่ได้แก่ ค่ายศุภาลัย อนันดา เสนา ออริจิ้น พฤกษา รวมถึงค่ายริสแลนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากฮ่องกง

ส่งผลให้ทำเลดังกล่าวแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะรอบสถานีหัวหมาก และสถานีจุดตัดใหญ่ ลำสาลี ที่มีรถไฟฟ้ามาบรรจบกันมากถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม สายสีเหลืองและสายสีนํ้าตาลในอนาคต

 สำหรับ แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เชื่อมโยงการเดินทางในแนวตะวันออก-ตะวันตกของกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นจากจุดตัดทางรถไฟสายธนบุรี (สายใต้เดิม) ใกล้แยกบางขุนนนท์ กับถนนจรัญสนิทวงศ์ ลอดใต้แม่นํ้าเจ้าพระยาเข้าสู่ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ ผ่านย่านที่สำคัญในพื้นที่เมืองเก่าเขตดุสิต และเขตพระนคร ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง อย่างโรงพยาบาลศิริราช ท้องสนามหลวง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

จากนั้นเข้าสู่ย่านการค้าใจกลางเมืองบริเวณแยกประตูนํ้า แล้วมุ่งขึ้นทางเหนือเข้าสู่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการกรุงเทพ มหานครแห่งใหม่ (อาคารธานีนพรัตน์) ชุมชนประชาสงเคราะห์ ออกสู่ถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง สิ้นสุดโครงการบริเวณชานเมืองทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานครบริเวณจุดตัดถนนรามคำแหงกับถนนสุวินทวงศ์ หรือมีนบุรี รวมระยะทาง 35.9 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เน้นการขนส่งผู้โดยสารจากชานเมืองทิศตะวันออกเข้าสู่ใจกลางเมืองและย่านเมืองเก่าทางทิศตะวันตกของกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็วและจุดประกายทำเลทองแห่งใหม่ ที่น่าจับตายิ่ง ตลอดเส้นทาง

รถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นอีกความหวังของคนเดินทาง เชื่อมไปมาหาสู่กันระหว่างโซนตะวันออกกับฝั่งธนบุรี ได้อย่างไร้รอยต่อ!!!

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 26มิ.ย.ที่ระดับ 35.21 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบใหม่ ควรรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินหยวนจีน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้บ้างในจังหวะตลาดไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 26 มิ.ย.2566 ที่ระดับ  35.21 บาทต่อดอลลาร์“ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า ในช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน แต่โดยรวมยังคงแกว่งตัว sideway ในโซน 35.05-35.30 บาทต่อดอลลาร์ ตามการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมเกี่ยวกับทองคำ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น หนุนโดยความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวน และแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอติดตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และดัชนี PMI ของจีน พร้อมจับตาสถานการณ์การเมืองรัสเซียและสงครามรัสเซีย-ยูเครน อย่างใกล้ชิด

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

 ฝั่งสหรัฐฯ – ในสัปดาห์นี้ ควรรอจับตาการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่ Dot Plot ใหม่ ได้สะท้อนว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้ง และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด ต่างก็ย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE เดือนพฤษภาคม

ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ PCE อาจชะลอลงต่อเนื่องสู่ระดับ 3.8% จากระดับ 4.4% ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ก็อาจชะลอลงสู่ระดับ 4.6% และที่สำคัญอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานภาคบริการที่ไม่รวมค่าที่พักอาศัย (Core Services ex. Housing) ก็มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง ซึ่งหากสิ่งที่นักวิเคราะห์ประเมินนั้นถูกต้อง

เรามองว่า โอกาสที่เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อตาม Dot Plot ก็อาจลดลง ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินสถานการณ์ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกและการว่างงานต่อเนื่อง (Initial and Continuing Jobless Claims) ซึ่งตลาดมองว่า อาจมีแนวโน้มทยอยปรับตัวสูงขึ้น ตามภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด

 ฝั่งยุโรป – หลังจากที่ตลาดได้รับรู้อัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษที่เร่งตัวขึ้น สูงกว่าคาดในสัปดาห์ก่อน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตา อัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน อย่างใกล้ชิด โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI เดือนมิถุนายน อาจชะลอลงสู่ระดับ 5.6% จาก 6.1% ในเดือนก่อนหน้า ตามการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาพลังงาน

อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจเร่งขึ้นสู่ระดับ 5.6% จาก 5.3% ตามการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ซึ่งภาพอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องได้อีก 2 ครั้ง ในปีนี้ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว

ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามสถานการณ์การเมืองรัสเซียอย่างใกล้ชิด หลังในช่วงวันหยุดได้เกิดความวุ่นวายจากการยกกำลังพลของทหารรับจ้าง (PMC) กลุ่ม Wagner เข้าประชิดกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ก่อนที่ทางการรัสเซียจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับทางกลุ่ม Wagner

ซึ่งล่าสุดได้ทยอยถอนกำลังไปยังประเทศเบลารุส อย่างไรก็ดี สถานการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยข่าวลือที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงิน เนื่องจากความวุ่นวายของการเมืองรัสเซียอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้

 ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่า เศรษฐกิจจีนอาจยังคงฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก สะท้อนผ่านการขยายตัวในอัตราชะลอลงของภาคการบริการ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (Services PMI) เดือนมิถุนายน อาจลดลงสู่ระดับ 53.3 จุด (ดัชนีสูงกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว) ขณะที่ภาคการผลิตอาจยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอาจอยู่ที่ระดับ 49 จุด (ดัชนีต่ำกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะหดตัว)

อย่างไรก็ดี ภาพเศรษฐกิจจีนที่ดูไม่สดใส จะยิ่งหนุนโอกาสให้ทางการจีนและธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้ ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนพฤษภาคม

ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวราว +0.8%m/m (+5.2%y/y) หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของการบริโภคในประเทศที่ได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวได้ดีและตึงตัวมากขึ้น ส่วนในฝั่งเวียดนาม ตลาดจะรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนมิถุนายน อาทิ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ยอดค้าปลีก และอัตราเงินเฟ้อ CPI โดยหากเศรษฐกิจยังส่งสัญญาณชะลอลง ในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อเริ่มคุมได้ เราคาดว่า ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ก็พร้อมเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 ฝั่งไทย – ตลาดประเมินว่า ยอดการส่งออกของไทยในเดือนพฤษภาคมอาจหดตัวต่อเนื่อง -8%y/y ตามการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ (สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตของประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวลดลง)

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า แรงกดดันฝั่งอ่อนค่ายังพอมีอยู่และเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบใหม่ หลังอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35 บาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ ควรรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินหยวนจีนและค่าเงินบาทได้ (Correlation 62%) นอกจากนี้ หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้บ้างในจังหวะตลาดไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้เช่นกัน

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจยังพอได้แรงหนุน หากตลาดการเงินเผชิญความผันผวนจากความไม่แน่นอนของการเมืองในรัสเซียหรือสถานการณ์สงครามที่อาจร้อนแรงขึ้น อนึ่ง เงินดอลลาร์ก็อาจกลับมาอ่อนค่าลงได้ หากตลาดเริ่มไม่เชื่อมั่นต่อการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อ PCE และตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอลงชัดเจน

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและการปรับเปลี่ยนมุมมองไปมาของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟด ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.00-35.50 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.05-34.30 บาท/ดอลลาร์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.20-35.23 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.30 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดปลายสัปดาห์ก่อนที่ 35.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยแม้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่ยังอาจมีแรงกดดันด้านอ่อนค่าในระหว่างวันท่ามกลาง sentiment ที่อ่อนแอของสกุลเงินในภูมิภาค

นำโดย เงินหยวน ซึ่งมีปัจจัยลบจากแนวโน้มที่เปราะบางของเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ยังน่าจะมีแรงหนุนจากการทยอยส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้มของเฟด ซึ่งจะหนุนโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคมนี้  (25-26 ก.ค.) 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.10-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่สัญญาณฟันด์โฟลว์ สถานการณ์การเมือง รวมถึงทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่จะรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการส่งออก (27 มิ.ย.) และดุลบัญชีเดินสะพัด (30 มิ.ย.)
 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ส่องโปรแกรม วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เนชั่นส์ลีก 2023 พร้อมช่องถ่ายทอดสด

การแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2023 สัปดาห์ที่สาม ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม นี้

โดยผ่านมาแล้วสองสนาม “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” รั้งอันดับ 13 ของตาราง มีผลงานชนะ 2 แพ้ 6 นัด เก็บไปได้เพียงแค่ 8 คะแนน สนามนี้ต้องเก็บชัยให้ได้มากที่สุดเพื่อทำอันดับลุ้นผ่านเข้าไปเล่นรอบไฟนอลส์

ซึ่งสัปดาห์ที่สอง “นักตบสาวไทย” จะต้องพบกับคู่แข่งสุดแกร่งอย่าง เนเธอร์แลนด์, ตุรกี, ญี่ปุ่น และ บราซิล เราลองไปดูโปรแกรมกัน

โปรแกรมการแข่งขันของ วอลเลย์บอลสาวไทย ในเนชั่นส์ ลีก 2023 สัปดาห์ที่สาม

วันที่ 27 มิถุนายน 2566 : ไทย vs เนเธอร์แลนด์ เวลา 20.30 น.

วันที่ 29 มิถุนายน 2566 : ไทย vs ตุรกี เวลา 20.30 น.

วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 : ไทย vs ญี่ปุ่น เวลา 20.30 น.

วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 : ไทย vs บราซิล เวลา 20.30 น.

สำหรับแฟนๆ สามารถรับชม และเชียร์ วอลเลย์บอลหญิงไทย ในรายการ เนชั่นส์ ลีก 2023 สัปดาห์ที่สาม ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม นี้ ได้ทุกนัดผ่านทางการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD ทุกเกม

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


4 โรคร้ายรักษาได้ด้วย “มะเขือพวง”

มะเขือพวงอยู่คู่กับคนไทยเรามานาน ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงเนื้อ แกงเขียวหวาน แกงป่าหรือจะเอาไปทำน้ำพริกก็ไม่เลวนะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกแมงดา น้ำพริกกุ้งสด แค่พูดขึ้นมาก็น้ำลายสอกันแล้วล่ะสิ นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณสามารถต้านโรคต่างๆ ได้ด้วยนะ ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอะไรตาม Sanook! Health มาเลย

1. โรคเบาหวาน

มีการศึกษาวิจัยพบว่า เครื่องดื่มน้ำมะเขือพวงสามารถลดระดับอนุมูลอิสระในเลือดของหนูที่เป็นโรคเบาหวานได้ ทำให้ไขมันไม่ดี และระดับน้ำตาลในเลือดลดลง  ดังนั้นการให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานรับประทานมะเขือพวงระหว่างการรักษาจะช่วยได้มากเลยทีเดียว

2. โรคความดันโลหิตสูงและปัญหาเกล็ดเลือด

งานวิจัยในแคเมอรูนพบว่า เมื่อนำมะเขือพวงสกัดผสมแอลกอฮอล์มาทดลองกับหนู ปรากฎว่าอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตลดลง พร้อมทั้งยังสามารถหยุดการรวมตัวของเกล็ดเลือดด้วย ดังนั้งจึงช่วยให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและปัญหาเกล็ดเลือดมีอาการที่ดีขึ้นได้

3. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ในปีพ.ศ. 2551 มีงานวิจัยนำมะเขือ 11 ชนิดในประเทศไทยมาสกัดหาสารต้านอนุมูลอิสระ ผลปรากฎว่า มะเขือพวงมีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดในบรรดามะเขือทุกชนิด

4. แผลในกระเพาะอาหาร

ในปี 2551 กลุ่มวิจัยในประเทศแคเมอรูนพบว่า มะเขือพวงสามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ เพราะในมะเขือพวงมีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์และไทรเทอร์พีน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารจากแอลกอฮอล์หรือความเครียดได้

สมุนไพรของไทยเรานี่ มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้นแถมยังราคาถูก สรรพคุณก็เหลือล้นเลยทีเดียว น่าเสียดายแย่ ถ้าจะเขี่ยเจ้ามะเขือพวงอันจิ๋วนี้ออก ใครที่ไม่เคยกินหรือไม่ชอบ หันมาลองกินดูสักนิด จิ้มกับน้ำพริกกะปินี่ แซ่บอย่าบอกใครเชียว

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


คำศัพท์น่ารู้: Symptoms-อาการเจ็บป่วย

ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าฝนแล้ว ทาง DailyEnglish นำคำศัพท์เกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ (symptoms) มาฝากกันค่ะ โดยเฉพาะอาการเหล่านี้ที่มักเกิดขึ้นในหน้าร้อนที่ผ่านมา ใครเคยมีอาการเหล่านี้บ้าง ลองไปดูกันเลย

1. ache เอค แปลว่า อาการปวด เป็นการปวดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่รุนแรงมากนัก
สามารถใช้ร่วมกับส่วนอื่นๆของร่างกาย เพื่อแสดงว่าเราปวดตรงส่วนไหน เช่น ปวดหัว (headache) ปวดท้อง (stomachache) หรือถ้าใครเจ็บหัวใจก็ใช้ heartache ก็ได้นะคะ ><

2. acute อะ-คิ้วท์ แปลว่า อาการป่วยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
โดยทั่วไปแล้วจะใช้คู่กับ illness เป็น acute illness นะคะ แต่สำหรับอาการป่วยเรื้อรังต้องเป็น chronic illness

3. allergy แอล-เล่อ-จี แปลว่า โรคภูมิแพ้
อาการที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ คือการมีผื่นคัน (rash) ขึ้นตามตัวนั่นเอง

4. bloody nose บลัดดี้-โนส แปลว่า เลือดกำเดาไหล
เรียกสั้นๆว่า nosebleed ได้ค่ะ มักจะเกิดจากจมูกไปกระแทกกับของแข็ง

5. diarrhea ไดอา-เรีย แปลว่า ท้องเสีย
สาเหตุมักเกิดจากอาหารเป็นพิษ (food poisoning) หรือไม่ก็เกิดจากภูมิแพ้อาหาร (food allergy)

6. dizzy ดิซ-ซี่ แปลว่า เวียนหัว
อาการเวียนศีรษะ สามารถใช้คำว่า headache หรือ light-headed ก็ได้

7. faint เฟ้นท์ แปลว่า เป็นลม
นอกจาก faint แล้วยังใช้คำว่า pass out, blackout หรือ lose consciousness (หมดสติ) ได้ เพราะคำเหล่านี้มีความหมายเดียวกันนะ

8. fatigue ฟะ-ทิ้ก แปลว่า ความเหนื่อยล้า
สาเหตุหลักเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ (lack of sleep) และการออกกำลังกายหักโหมเกินไป (excessive physical activity)

9. rash  แร๊ช แปลว่า ผื่นคัน
เมื่อมีผื่นขึ้นจะทำให้เกิดอาการคัน (itch) จนเราต้องเกา (scratch) แต่อาจทำให้อาการแย่ลงได้

10. vomit วอ-มิท แปลว่า อาเจียน
อาการป่วยจำพวกท้องเสีย หรือวิงเวียนศีรษะอาจทำให้เกิดการอาเจียนออกมาได้

ขอเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
phlegm เฟล็ม แปลว่า เสมหะ
ไม่ถึงขั้นเป็นอาการป่วย แต่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเป็นไข้หวัด (flu)

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


สุดล้ำ! ญี่ปุ่นพัฒนา ‘เซ็นเซอร์ที่รองเท้า’ เข็มทิศนำทางผู้พิการทางสายตา

การพัฒนาเทคโนโลยีนอกจากจะต้องเร่งยกระดับไปข้างหน้าแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีที่ไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง แม้กระทั่งคนพิการด้วย ล่าสุดบริษัทสตาร์ทอัพญี่ปุ่น คิดค้นเทคโนโลยีเพื่อช่วยคนตาบอดได้เดินทางอย่างปลอดภัยมากขึ้นในทุกย่างก้าว

คนตาบอดและผู้พิการทางสายตามักอาศัยไม้เท้าและสุนัข เพื่อช่วยนำทางไปตามถนนและทางเท้า แต่บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นรายหนึ่งได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการนำทาง เอามาติดตั้งไว้ที่รองเท้าของพวกเขา

ที่ประเทศญี่ปุ่น คนตาบอดและผู้พิการทางสายตาได้รับความช่วยเหลือตามถนนหนทาง ด้วยเบรลล์บล็อกส์ (Braille blocks) ซึ่งเป็นบล็อกนูนที่ปูตามพื้นเพื่อช่วยบอกทางสำหรับคนตาบอด

ริวเฮอิ โทคุดะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่น Ashirase กล่าวว่า “อุปกรณ์นี้ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น พบเห็นได้ในทุกหนแห่งตามถนน”

พื้นผิวทางเท้าสำหรับคนตาบอดเหล่านี้เป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก เพราะช่วยนำทางผู้ใช้งานให้รับรู้ผ่านการย่างเหยียบไปที่แผ่นนำทางเหล่านี้ บริษัท Ashirase ได้ยกระดับแนวคิดนี้ให้ก้าวไปอีกขั้น โดยการนำการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสส่งต่อเข้ามาที่รองเท้า

โทคุดะ พยายามชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า “เมื่อสวมรองเท้า จะรับรู้ถึงการสัมผัสเบรลล์บล็อกส์ได้อย่างไร นี่คือจุดแรกเริ่มของเรา”

ระบบนำทางที่ติดกับรองเท้าของบริษัท Ashirase จะช่วยนำทางผู้ใช้งานด้วยการส่งแรงสั่นสะเทือน ผ่านเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวที่ติดตั้งที่รองเท้า

ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของเทคโนโลยีนี้เล่าว่า “อุปกรณ์หนึ่งชิ้นจะมีส่วนที่ส่งแรงสั่นได้ถึงสามจุด และคุณต้องใช้อุปกรณ์ทั้งสองชิ้น ติดตั้งไว้ที่รองเท้าทั้งสองข้าง”

เมื่ออุปกรณ์อัจฉริยะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันผ่านบลูทูธ ผู้ใช้งานจะป้อนข้อมูลจุดหมายปลายทาง และระบบจะกำหนดเส้นทางให้ ตัวเซ็นเซอร์จะตรวจจับทิศทางที่ผู้ใช้งานกำลังมุ่งหน้าไป และส่งสัญญาณสั่นไปที่เท้าซ้ายหรือขวาเพื่อระบุว่าให้ไปทางไหน

ความเร็วของการสั่นสะเทือนนั้นก็จะแตกต่างกันไปเช่นกัน จังหวะการสั่นของอุปกรณ์จะสอดคล้องกับระยะห่างจากหัวมุมของทางเดิน เมื่อผู้ใช้งานเดินเข้าใกล้หัวมุม การสั่นก็จะเพิ่มมากขึ้น

ผู้พัฒนาเทคโนโลยีนี้มองว่า จังหวะการสั่นจะช่วยให้คนตาบอดและผู้พิการทางสายตาไปให้ความสนใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่มีความสำคัญมากกว่า และไม่อยากให้พวกเขาต้องมาพะวงกับเรื่องของทิศทาง อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยในการนำทาง และผู้ใช้งานก็จะสามารถไปใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยแทน

และทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ในการผลักดันให้คนตาบอดและผู้พิการทางสายตามีอิสระ และสามารถดูแลตัวเองได้มากขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


SCG HOME Experience เปิดตัวทัพสถาปนิกมือฉมัง ชู ‘สถาปัตย์ฮวงจุ้ย’ รุกตลาด รับแนวโน้มสายมูเติบโตต่อเนื่อง มูลค่าตลาดเฉียด 1 พันล้านบาท พร้อมเฟ้นหานิวเจน ประกวดแบบบ้านสู่แบบจริงในงาน Open House 2023

เอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ พร้อมเปิดบ้านในงาน Open House : Living Design Studio ยกทัพสถาปนิก ดรีมทีมเปิดตัวให้บริการงานออกแบบบ้านครบวงจร เน้น SMART ECO CARE ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ พร้อมดันความเชี่ยวชาญด้าน ‘สถาปัตย์ฮวงจุ้ย’ ลุยตลาดรับเทรนด์สายมู หนุนโอกาสเติบโตจากมาร์เก็ตแคปเกือบพันล้านบาท เดินเกมเฟ้นหาดาวเด่นสถาปนิกหน้าใหม่ Young Designer Award 2023 ประกวดแบบบ้านใช้งานได้จริง ยกระดับนักศึกษาสู่มืออาชีพ

ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า SCG HOME Experience Open House 2023 ได้ทำการเปิดตัวทีมสถาปนิก Living Design Studio อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่มาปรึกษาและขอข้อแนะนำที่ถูกต้อง ตรงใจ โดยเน้นตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเจ้าของบ้านในคอนเซปต์ Smart Eco Care สอดรับแนวโน้มตลาดปัจจุบันที่ให้ความสำคัญในการออกแบบตอบโจทย์ฟังชันการอยู่อาศัยมากขึ้น อาทิ การทำบ้านแบบสมาร์ทโฮมในยุคดิจิทัลด้วยการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่รองรับการใช้ชีวิตที่ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น การประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วยการติดระบบหลังคาโซลาร์ ความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะสำหรับสมาชิกในครอบครัว นอกจากจะให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุในครอบครัวแล้ว ปัจจุบันลูกค้าคำนึงยังถึงเรื่อง Well-being มากขึ้น เป็นต้น

สำหรับทีมสถาปนิก SCG Living Design Studio มีความเชี่ยวชาญ สามารถถอดรหัสเรื่องบ้านให้ลูกค้าได้อย่างลงตัวตั้งแต่การอยู่อาศัยคนเดียว ครอบครัวเดี่ยว ครอบครัวขยาย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โดยบริการดังกล่าวจะเป็นส่วนเสริมธุรกิจของ SCG HOME Experience ซึ่งจะแตกต่างจากบริษัทสถาปนิก เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเจ้าของบ้านและที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ขณะที่กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างด้านการดีไซน์บ้าน บริษัทได้นำ ‘การออกแบบเชิงสถาปัตย์ฮวงจุ้ย’ ขยายธุรกิจแก่บริษัท เป็นการเติมเต็มความต้องการของลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันตลาดด้านความเชื่อ เป็นเทรนด์ที่คนทุกเพศทุกวัยหันมาให้ความสำคัญ ประกอบกับเรื่องฮวงจุ้ยบ้านเป็นของคู่กันกับเจ้าของบ้าน ซึ่งเมื่อนำมาผนวกกับงานสถาปัตย์นับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ในตลาดมีคู่แข่งน้อยราย จึงเป็นโอกาสสำคัญของ SCG HOME Experience ในการเป็นผู้นำด้านสถาปัตย์ฮวงจุ้ย ซึ่งทีมสถาปนิกของบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ผสานกับองค์ความรู้พื้นฐานด้านฮวงจุ้ยที่สามารถออกแบบบ้านได้ถูกหลักและสร้างความสบายใจให้แก่ลูกค้า จึงทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี

ทั้งนี้จากการทดลองตลาด พบว่ามีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์มูลค่าตลาดสถาปัตย์ฮวงจุ้ยในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 900 ล้านบาท คาดว่าจำนวนลูกค้าที่จะใช้บริการออกแบบบ้านทั้งบ้านใหม่และรีโนเวทจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% โดยเป็นกลุ่มงานรีโนเวทเป็นกลุ่มหลัก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ ยอดฮวงจุ้ย ซินแสพรภพ ปองทอง ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันให้ผู้ที่สนใจสามารถดูฮวงจุ้ยเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ซึ่งลูกค้าที่สนใจแต่ไม่มีซินแสสามารถใช้บริการร่วมกันกับบริการออกแบบได้

เจือ คุปติทัฬหิ สถาปนิกอาวุโส Living Experience Designer บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มการออกแบบและตกแต่งบ้านในปี 2023 พบว่าเจ้าของบ้านให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่จะเลือกโซลูชันที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยวัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือมีส่วนช่วยด้านการประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เจ้าของบ้านให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นและเอสซีจีมีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และสามารถนำมาประยุกต์ในการออกแบบได้

ขณะที่การออกแบบเจ้าของบ้านเริ่มให้ความสำคัญกับทุกคนในบ้าน อาทิ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และสัตว์เลี้ยง โดยใช้หลัก Intergeneration เพื่อการออกแบบให้ลงตัว อีกทั้งยังใส่ใจเรื่อความปลอดภัยในการใช้งานเป็นส่วนประกอบ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ควรเป็นมุม ลดความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ เป็นต้น และปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือการนำเทคโนโลยีมามีส่วนช่วยสร้างความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยแบบ Smart Home รองรับความต้องการอย่างลงตัว

นอกจากนี้บริษัทได้ทำการจัดประกวดแบบบ้านผ่านโครงการ ‘SCG HOME Experience Young Design Award 2023’ เพื่อเฟ้นหานักออกแบบหน้าใหม่กลุ่มนิวเจนสถาปัตย์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ที่ส่งผลงานเข้าประกวด เพื่อผลักดันสู่ความเป็นมืออาชีพในอนาคต ผ่าน 2 โจทย์หลัก บ้านเล็กในเมืองใหญ่ (Unity series) กลุ่มมีเน้นบ้านที่มีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เนื้อที่ไม่เยอะ แต่ฟังก์ชันต้องครบ กับบ้านหลังใหญ่อยู่สบาย บางบ้านจะเป็นครอบครัวขยายที่ต้องการพื้นที่เป็นส่วนตัว โดยการปลูกบ้านอีกหลังในพื้นที่เดิม หรืออาจจะมีการซื้อพื้นที่อยู่แล้ว เป็นบ้านหลังที่ 2 เน้นการผ่อนคลายพร้อมต่อยอดสู่แบบบ้านสำเร็จรูป และแบบก่อสร้าง วางจำหน่ายจริงสำหรับลูกค้า

ทั้งนี้ร่วมชมวิวัฒนาการงานออกแบบบ้านโดยสถาปนิก SCG Living Design Studio และผลงานออกแบบบ้านของนิสิต นักศึกษาทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้ที่งาน ‘Open House : Living Design Studio’ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา

สำหรับผู้ที่สนใจออกแบบบ้าน สามารถเข้าปรึกษาบริการออกแบบบ้านฟรี พร้อมรับส่วนลดค่าสำรวจหน้างานก่อนออกแบบ 50% และรับบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 60,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด) พิเศษ รับแบบบ้าน 9 แบบสุดฮิตฟรี

ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 26/06/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,050.0032,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,076.0031,472.1632,650.00
ทองรูปพรรณ 90%1,868.4028,324.94n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,660.8025,177.73n/a
ทองรูปพรรณ 50%934.0014,159.44n/a
ทองรูปพรรณ 40%727.0011,021.32n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,151.0032,609.16n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/06/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.4535.4535.9435.4535.4535.4535.4535.4535.4535.45
แก๊สโซฮอล์ 9135.1835.1835.6435.1835.1835.1835.1835.1835.1835.18
แก๊สโซฮอล์ E2033.1433.1433.5433.1433.1433.1433.1433.1433.14
แก๊สโซฮอล์ E8533.5933.5933.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม42.9446.6446.9446.7442.94
เบนซิน 9543.2443.8143.7443.3943.24
ดีเซล B731.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล31.9431.9432.4431.9431.9431.9431.9431.9431.9431.94
ดีเซล B2031.9431.9432.4431.9431.9431.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.0641.1642.9442.3642.3641.06
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า