เปิดโครงการใหม่ “ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต” บ้านไซซ์ใหญ่ เริ่ม 4.89 ล้าน
ศุภาลัย เดินหน้าเจาะดีมานด์โครงการอสังหาฯ แนวราบจังหวัดภูเก็ต เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต” บ้านแบบใหม่เป็นที่แรก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง เดินทางสะดวกใกล้ Phuket Old Town เพียง 9 นาที จำนวน 76 ครอบครัว ราคาพิเศษเริ่ม 4.89 ล้านบาท จัดงาน Grand Opening 1 – 2 ก.ค. นี้
วันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายชวกร เพ็ชรสลับแก้ว ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานโครงการภูมิภาค 3 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลัง 2566 ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
โดยโครงการแนวราบของศุภาลัย สามารถเติบโตได้ดีจากกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ เนื่องจากลูกค้ามีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้างและฟังก์ชันครบครัน บนทำเลที่เดินทางสะดวก
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ “ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต” จุดเด่นทำเลใกล้เมืองภูเก็ต เชื่อมต่อกับทำเลอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยกับการเริ่มต้นครอบครัวหรือขยายครอบครัว
ที่ตั้งโครงการ ทำเลทองเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก บนถนนรัษฎานุสรณ์ ห่างจากถนนเทพกระษัตรีเพียง 2 กิโลเมตร เชื่อมต่อถนนดำรง ถนนอำเภอ และถนนพังงา
เข้าเมืองภูเก็ตได้อย่างสะดวกเพียง 9 นาที สามารถไปยังใจกลาง Phuket Old Town ได้ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยแหล่งช้อป-ชิม-ชิล อาทิ Phuket Old Town ถนนคนเดินหลาดใหญ่ บิ๊กซี มาร์เก็ต
ใกล้โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษา อาทิ รพ.มิชชั่นภูเก็ต รพ.วชิระภูเก็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รร.สตรีภูเก็ต เป็นต้น
รายละเอียด “ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต” บนพื้นที่ 14 ไร่ มูลค่าโครงการ 416 ล้านบาท พบกับแบบบ้าน 6 แบบ ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 76 ครอบครัว ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท
แบ่งเป็น “บ้านเดี่ยว” ดีไซน์ใหม่สไตล์โมเดิร์น ออกแบบรองรับทุกคนในครอบครัว และสเปซส่วนตัวให้ได้พักผ่อน พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 133 – 213 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 3 – 4 ห้องนอน 1-2 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ
ทั้งนี้ มีแบบบ้านใหม่ที่เปิดตัวโครงการแรกในจังหวัดภูเก็ต “บ้านเดี่ยว แบบศุภนลิน และ แบบศุภลักษณ์” เหมาะสำหรับการเริ่มต้นชีวิตครอบครัว พื้นที่ใช้สอย 133 – 150 ตารางเมตร ฟังก์ชันครบครัน
ทุกพื้นที่ภายในบ้านเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว มาพร้อม Master Bedroom ขนาดใหญ่ และห้องน้ำส่วนตัว
“บ้านแฝด” ฟังก์ชันการใช้งานเทียบเท่าบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 128 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ ให้ความรู้สึกโล่งโปร่ง จัดสรรพื้นที่ให้ตอบรับการใช้งานจริงและคุ้มค่า
โดยทุกแบบบ้านได้รับการออกแบบและเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและประหยัดพลังงาน ยกระดับการใช้ชีวิตให้สะดวกและง่ายขึ้นด้วย Home Automation & Security
เติมเต็มบรรยากาศแห่งการพักผ่อนด้วยพื้นที่ธรรมชาติของสวนสาธารณะ พร้อมสนามเด็กเล่น อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ภายในโครงการ และเข้า – ออกอัตโนมัติ ด้วยระบบ Bluetooth
โดยบริษัทจัดอีเวนต์แกรนด์โอเพนนิ่ง วันที่ 1-2 ก.ค. 2566 นี้ ลูกค้ารับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้จองในงานและของเเถมแบบจัดเต็ม ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bit.ly/3QaiJaU
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
คอตโต้ เซ็ตเทรนด์ Mix & Match น้อยแต่มาก แต่งบ้านสไตล์ลักเซอรี่
เอสซีจี เซรามิกส์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์กระเบื้อง “คอตโต้ อิตาเลีย คอลเลคชั่นใหม่ เติมเต็มความเรียบหรู พร้อมสัมผัสถึงธรรมชาติอย่างมีระดับ
วันที่ 29 มิถุนายน 2566 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เทรนด์การใช้กระเบื้องตกแต่งบ้านแห่งยุค ต้องนับรวม Luxury Style ซึ่งเป็นสไตล์การตกแต่งที่มีการจัดวางองค์ประกอบอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุอย่างกระเบื้องปกปิดพื้นผิว และผนังภายในบ้าน ที่มักจะเลือกใช้กระเบื้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อลดรอยต่อของกระเบื้อง เน้นดีไซน์ ที่ช่วยขับความโดดเด่นให้พื้นที่พักอาศัยสวยงาม
ผสมผสานกับการเลือกใช้โทนสีที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก อาทิ โทนสีขาว ดำ หรือเอิร์ธโทน เลือกการผสมผสานกับความมันวาวของโลหะ หรือเพิ่มความอบอุ่นให้ความหรูด้วยงานไม้ และเติมเต็มความละมุนด้วยงานผ้า
พร้อมเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ และสามารถใช้งานได้จริงมากกว่าจำนวน ที่อาจส่งผลให้พื้นที่ดูแน่นขนัดโดยไม่จำเป็น
โดย COTTO Italia Collection คอลเลคชั่นกระเบื้องที่มีนวัตกรรมการผลิตจากประเทศอิตาลี คุณสมบัติของกระเบื้องพอร์ซเลนขนาดแผ่นใหญ่พิเศษ ทำให้ดูสวยงามแบบไร้รอยต่อ
มีความแข็งแรงทนทาน ด้วยความหนา 6 และ 12 มิลลิเมตร เหมาะกับงานปูพื้นและผนัง ให้ความหรูหรามีเสน่ห์น่าหลงใหลด้วยลวดลายอันหลากหลายของลายหินอ่อน ลายหินธรรมชาติ
วันนี้ คอตโต้แนะนำ Heritage Luxe Series ลวดลายหินอ่อนที่สวยสง่างาม และเฉดสีที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนภาพวาดธรรมชาติ มีให้เลือก 3 ดีไซน์ ดังนี้
1.“Heritage Emerald” จากความงดงามของแลนด์สเคป ที่ปกคลุมไปด้วยพื้นหญ้าตามเนินเขาลูกคลื่นของไอร์แลนด์ ที่ได้นำมาถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์
ลวดลายของสายแร่สีน้ำตาลและสีขาวรวมกัน บนพื้นผิวดูเหมือนสีเขียวมรกต ที่ไล่เฉดสีตั้งแต่สีเข้มไปจนถึงถึงสีเขียวอ่อน
เพิ่มความหรูด้วยผิวหน้า Glossy ให้ดูวาววับ ขับพื้นที่ให้ดูงามสง่า แต่สดชื่นแบบไร้รอยต่อด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 120×240 cm. ได้อย่างน่าอัศจรรย์
2.”Heritage Cloud” งานดีไซน์ที่สอดรับแนวคิดความหรูหรา แบบเรียบง่ายกับสีเทา สุดคลาสิก การผสมผสานงานกราฟิกกับสี ขับพื้นผิวให้ดูโดดเด่นด้วยลายเส้นสีเทาที่แตกต่างกัน
กราฟิกนี้สามารถจับคู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับวัสดุสีโทนร้อนและสีเย็น ทำให้ลวดลายดูสวยบางเบาเหมือนปุยเมฆ พื้นห้องดูสวยงามแบบไร้รอยต่อด้วยกระเบื้องไซส์พิเศษ 120 x 120 cm.
เพิ่มความสวยเนียนของพื้นผิวด้วย Comfort Surface ที่มีค่า R10 ตอบสนองวิถีชีวิตแบบเรียบหรู ตามสไตล์ ลักเซอรี่ แนวใหม่ ที่อิงแอบโทนอบอุ่น ละมุนละไมแบบแพง ๆ ได้ดีทีเดียว
3.”Heritage Aqua” งานดีไซน์พื้นผิวที่เกิดจากการตัดกันของเฉดสี ระหว่างสีฟ้าอมเขียว ผสมผสานด้วยเส้นสีส้มที่ละเอียดอ่อนอยู่บนพื้นสีขาวเงางาม
สร้างเส้นสีและลวดลายให้สวยงามราวกับภาพศิลปะขนาดใหญ่ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์บนกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 120×240 cm.
ทั้งนี้ Heritage Luxe Series เป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่พิเศษ ที่ดีไซน์เนอร์ผสมผสานกราฟิกดีไซน์กับสีสัน สะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติในมิติต่างๆ
ผ่านนวัตกรรมการผลิตและเทคโนโลยีอันทันสมัย บ่งบอกความงดงามได้อย่างชัดเจน ช่วยขับให้พื้นที่บริเวณที่ตกแต่งดูงดงาม หรูหรา ส่งผลให้นักตกแต่งบ้านสามารถเลือกนำไปใช้ตกแต่งได้ตามจินตนาการ
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
“STARK”เทรดวันสุดท้ายวันนี้ ( 30 มิ.ย.) ตลท.เตรียมขึ้น SP 1 ก.ค.66
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือน “หุ้น STARK” เทรดวันสุดท้าย 30 มิ.ย.นี้ และจะขึ้นเครื่องหมาย SP 1 ก.ค.66 เหตุเข้าข่ายถูกเพิกถอน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า วันนี้ (30 มิ.ย.2566) เป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของหลักทรัพย์ “STARK” ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไปควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน หรือตัดสินใจใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะผู้ถือหุ้นของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เนื่องจากกรณีเปิดซื้อขายชั่วคราวของหุ้น STARK
ทั้งนี้ ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ STARK อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2566 ไปจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน จากเหตุส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และดำเนินการให้บริษัทมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ประมวลภาพแฟนลูกยางไทยแน่นสังเวียน, “พิธา” เกาะติดขอบสนาม, ไทย แพ้ แต่เชียร์สนุกเร้าใจ
ประมวลภาพ การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2023 สัปดาห์ที่ 3 ประจำวันพฤหัสบดี 29 มิถุนายน 2566 ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
แม้ว่าผลการแข่งขัน ตุรกี ที่มาดีกว่า เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้ 3-0 เซต 25-15, 25-15 และ 25-20
แต่ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งช่วงก่อนแข่ง และหลังแข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมเมื่อวานมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เดินทางเข้ามาชมและเชียร์อย่างสุดมัน
สำหรับโปรแกรมต่อไปของทีมตบลูกยางสาวไทย จะลงสนามพบกับ ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 7 ของโลก ในวันที่ 1 กรกฎาคม ในเวลา 20.30 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
วิธีออกกำลังกายฟิตหุ่นเป็นคนใหม่ใน 7 วัน
โปรแกรมออกกำลังกายที่ Tonkit360 นำมาฝากในวันนี้ เป็นท่าบอดี้เวทที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 6 ท่า ได้แก่ Squat, Jumping Jack, Tricep Dip, Push-Up, Lunge และ Plank
โดยเว็บไซต์ jillconyers.com แนะนำว่าโปรแกรมดังกล่าวควรออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน หรือวันเว้นวัน และสามารถปรับความเข้มข้น ระยะเวลาพักได้ตามระดับความฟิตของร่างกาย
ส่วนอีก 2 วันให้เปลี่ยนไปออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อาทิ วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน เพื่อเน้นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อหัวใจและปอด
สำหรับโปรแกรมออกกำลังกายทั้ง 6 ท่า มีดังนี้
- อบอุ่นร่างกาย 5-10 นาที
- Squat 12 ครั้ง จำนวน 10 เซ็ต
- Jumping Jack 30 ครั้ง
- Tricep Dip 10-12 ครั้ง
- Push-Up 10-12 ครั้ง
- Lunge ข้างละ 20 ครั้ง
- Plank 30-60 วินาที
- Cool Down และยืดกล้ามเนื้อ
- เมื่อทำครบทั้ง 6 ท่าแล้ว ให้พัก 30 วินาที และให้ทำซ้ำ โดยทำทั้งหมด 3 ครั้ง
Squat 12 ครั้ง จำนวน 10 เซ็ต
ยืนแยกเท้าออกจากกันความกว้างเท่ากับไหล่ โดยให้ลงน้ำหนักที่ส้นเท้า เกร็งหน้าท้องในระหว่างย่อตัวทำท่า Squat ระวังให้หลังตรงไม่แอ่น ย่อตัวจนต้นขาขนานกับพื้น จากนั้นให้หายใจออก เกร็งบั้นท้าย ก่อนเหยียดขาในท่ายืนตรง ซึ่งท่านี้จะช่วยในการกระชับกล้ามเนื้อสะโพก และกล้ามเนื้อหลังต้นขา
Jumping Jack 30 ครั้ง
ยืนให้เท้าชิดกันและวางมือลงข้าง ๆ จากนั้นกระโดดตบ และกลับมายืนในตำแหน่งเดิม โดยให้ทำเร็ว ๆ จำนวน 30 ครั้ง ซึ่งท่านี้จะช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ และช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
Tricep Dip 10-12 ครั้ง
ยืนหันหลังให้ม้านั่งหรือเก้าอี้ วางฝ่ามือไว้ที่ขอบด้านหน้าของม้านั่ง งอขาให้ส้นเท้าติดพื้น และแยกขาให้ความกว้างเท่ากับลำตัว จากนั้นค่อย ๆ งอข้อศอก หย่อนลำตัว จนต้นแขนขนานกับพื้น จากนั้นให้หายใจออก และยืดแขนกลับมาท่าเริ่มต้น ซึ่งท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อหลังแขน
Push-Up 10-12 ครั้ง
นอนคว่ำเพื่อเตรียมทำท่าวิดพื้น โดยให้ขาชิดกัน วางฝ่ามือไว้ด้านข้างหน้าออก จากนั้นงอข้อศอกให้ทำมุม 90 องศา เกร็งหน้าท้อง หายใจออก และดันลำตัวขึ้นจนแขนเหยียดตรง หลังตั้งตรง ซึ่งท่านี้จะได้ทั้งหน้าอก ไหล่ กล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อหลังแขน
Lunge ข้างละ 20 ครั้ง
ก้าวขาขวาไปข้างหน้า งอเข่าทั้งสองข้างและย่อตัวลงให้ต้นขาขวาขนานกับพื้น ส่วนเข้าซ้ายลอยเหนือพื้น หรือต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นหายใจออกและดันตัวกลับไปอยู่ในท่าเริ่มต้น และให้ทำซ้ำโดยสลับข้่าง ซึ่งท่านี้จะได้ทั้งต้นขา กล้ามเนื้อบริเวณสะโพก และน่อง
Plank 30-60 วินาที
เริ่มด้วยท่าวิดพื้น แต่ให้เปลี่ยนตำแหน่งการวางฝ่ามือ จากที่วางอยู่ข้างหน้าอกให้มาไว้ที่ใต้ไหล่แทน จากนั้นยืดแขนให้ตรง ส่วนขาให้เหยียดตรงเท้าชิดกัน และพยายามทรงตัวอยู่บนฝ่ามือและฝ่าเท้าให้ได้ 30-60 วินาที ซึ่งท่านี้จะได้ทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง หลังส่วนล่าง หน้าอก และไหล่
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
4 วิธีพูดถึงอนาคต เป็นภาษาอังกฤษ
วิธีที่ 1 พูดถึงอนาคตโดยใช้ will
ปกติแล้วเราจะใช้ will ในการพูดถึงอนาคตทั่วไปความแน่นอนยังมีไม่มาก อาจทำหรือไม่ทำก็ได้
เช่น She will be on the train tomorrow. (เธอจะอยู่บนรถไฟพรุ่งนี้)
แบบนี้ยังไม่มีความแน่นอน คือเหมือนรู้ว่าเธอน่าจะอยู่บนรถไฟพรุ่งนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่แน่ใจ 100
ถ้าจะให้เจาะจงกว่านี้คือ เป็นสิ่งที่เราตัดสินใจที่จะทำ หรือกะจะทำ
เช่น ตอนเราเดินขึ้นบันไดเห็นฝรั่งคนหนึ่งถือของมาพะรุงพะรัง เราอยากช่วยเข้าเราก็จะพูดว่า
“Come on. I will carry it for you” (มาสิ ฉันจะถือให้คุณ)
เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์มาก่อน เห็นปุ๊ปก็ตัดสินใจเดี๋ยวนั้นว่าจะช่วยเขาถือของ
หรือ I will phone you tomorrow. (ฉันจะโทรหาคุณพรุ่งนี้)
ก็แสดงให้เห็นว่าฉันกะจะโทรหาเธอพรุ่งนี้ แต่ความแน่นอน เราตัดสินใจ ณ ตอนนั้น
วิธีที่ 2 พูดถึงอนาคตโดยใช้ V. to be + going to V.
วิธีนี้จะเป็นการพูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เหมือนเป็นสิ่งที่ตัดสินใจ หรือวางแผนว่าจะทำอยู่แล้ว
เช่น I am going to buy some fruit next week. (ฉันจะไปซื้อผลไม้อาทิตย์หน้า ซึ่งเป็นการ
วางแผน มีความเป็นไปได้สูง ชนิดที่ว่า พรุ่งนี้ถ้าเธอไปเดินๆแถวตลาดจะเจอฉันเดินซื้อผลไม้อยู่แน่ๆ)
Sarah is going to sell her dress. (ซาร่าจะขายชุดเดรสของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอวางแผนไว้
แล้วว่าจะทำแน่ๆ 100%)
นอกจากนี้ going to จะใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ แบบมีหลักฐาน หรือร่องรอบให้เห็นชัดเจน
เช่น ถ้าอยู่ๆเราเห็นเมฆลอยทะมึนๆมาเราก็สามารถพูดได้ว่า “It is going to rain” (ฝนกำลังจะตกเพราะเราเห็นเมฆตั้งเค้ามาแล้ว)
หรือ เรามีนัดตอน 8 โมงเช้า แต่เพราะมัวเขียนคิ้วไม่ได้รูปเสียที ดูนาฬิกาอีกทีก็ตกใจเพราะตอนนี้ 7.50 แล้ว เราก็สามารถตะโกนออกมาด้วยความตกใจได้ว่า “I’m going to be late” (ฉันกำลังจะสายแล้ว เห็นหลักฐานทนโท่ว่ายังเขียนคิ้วได้ข้างเดียว แล้วตอนนี้เหลืออีกสิบนาทีกว่าจะเดินทางถึงที่นัดอีก สายแน่ๆ)
วิธีที่ 3 พูดถึงอนาคตโดยใช้ Present Continuous
บางคนอาจคุ้นเคยแค่ว่า Tense นี้ใช้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดถึงไม่ใช่เหรอ ความจริงแล้วไวยากรณ์นี้จะใช้พูดถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดในเร็วๆนี้ได้เหมือนกันค่ะ เพียงแต่เรื่องระยะเวลาจะหมายถึงในช่วงเวลาใกล้ๆนี้ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นช่วงนี้ ถ้าเป็นสิ่งที่วางแผนในระยะยาวว่ากว่าจะเกิดอีกนานจะไม่นิยมใช้ Present Continuous ในการบอก อีกอย่างที่สังเกตได้ง่ายก็คือมักมีคำบอกเวลาแนบมาด้วย อย่าง next week, tomorrow, this morning เพื่อกันความสับสน
เช่น We are having dinner next week.
(ประโยคนี้ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทานข้าวเย็นในอาทิตย์หน้า แต่หมายถึง เราจะทานข้าวเย็นด้วยกันในอาทิตย์หน้า)
Are you meeting with George this evening?
(ประโยคนี้ไม่ได้หมายถึงคุณกำลังมีประชุมกับจอร์จเย็นนี้รึเปล่า แต่ถามว่า เย็นนี้คุณจะไปประชุมกับจอร์จใช่มั้ย)
ลองอ่าน: หลักการใช้ Present Continuous Tense ฉบับเข้าใจง่าย
วิธีที่ 4 พูดถึงอนาคตโดยใช้ Present Simple
อันนี้บางคนอาจจะงงตาแตกไปเลยว่า อ้าว เฮ้ยเอามาใช้พูดถึงอนาคตได้ยังไงกันไอ้ Tense นี้ จริงๆแล้วการนำ Present Simple มาใช้พูดเรื่องอนาคตนี้ก็มีข้อจำกัดที่ใช้เฉพาะบางกรณีเท่านั้นนะคะ ซึ่งกรณีนี้ที่จะพูดถึงกรณีเดียวก็คือเรื่องของสิ่งที่เป็นตารางเวลาแน่นอน เช่นพวก ตารางเวลาของรถเมล์ เครื่องบิน รถไฟ หนัง คอนเสิร์ต อะไรพวกนี้ เราจะใช้ Present Simple ทั้งสิ้น
เช่น The train arrives at 1.30 P.M. (รถไฟจะมาถึงเวลาบ่ายโมงครึ่ง)
The musical starts at 8 o’clock. (ละครเวทีจะเริ่มเวลาแปดโมง)
What time does your flight depart? (เที่ยวบินของคุณจะออกจากสนามบินกี่โมง)
ลองอ่าน: หลักการใช้ Present Simple Tense ฉบับเข้าใจง่าย
เป็นอย่างไรบ้างคะ บอกแล้วว่าการพูดถึงอนาคตไม่ใช่จะใช้เพียงแค่ will กับ going to เท่านั้น ถ้าเวลาเปลี่ยน ความแน่นอนมากน้อย เราก็ต้องใช้วิธีแตกต่างกันไปแล้วแต่ความเหมาะสม หลังจากนี้เวลาเราจะพูดถึงอะไรที่เกี่ยวกับอนาคตหรือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ลองสังเกตดูนะคะว่าจะใช้วิธีไหน ค่อยๆทดลองใช้กันไป ไม่นานก็จะเคยชินไปเอง แล้วใช้ได้โดยอัตโนมัติแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th
การปิดมือถือวันละ 5 นาที! ลดความเสี่ยงถูกโจมตีทางไซเบอร์
นานเท่าไรแล้วที่คุณไม่ได้กดปิดโทรศัพท์มือถือของคุณ! โดยเฉพาะคนที่อาศัยใช้ฟังก์ชันนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟน ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าคุณไม่ได้ปิดโทรศัพท์ของตัวเองเลยตลอดทั้งปี (ถ้าเครื่องไม่ได้ค้างหรือขัดข้องอะไร) เพราะคุณมีความต้องการใช้สมาร์ตโฟนวันละ 24 ชั่วโมง ลากยาวไปตลอด 365 วัน คุณแอบเกรงว่านาฬิกาปลุกจะไม่ทำงาน หากเครื่องโทรศัพท์ถูกปิดอยู่ และจะเกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อต้องตื่นเช้าไปทำงาน
อย่างไรก็ดี คุณอาจไม่ทราบว่าการปิดโทรศัพท์มือถือเพียงวันละ 5 นาทีเท่านั้นมีประโยชน์มหาศาล ไม่ใช่เพราะให้เหลือเวลาของการใช้งานโทรศัพท์อยู่ที่วันละ 23 ชั่วโมง 55 นาที แต่…มัน “ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้” โดยคำแนะนำถูกกล่าวถึงโดย แอนโทนี อัลบาเนซี (Anthony Albanese) นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ในระหว่างการประกาศแต่งตั้งหัวหน้าหน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์คนแรกของออสเตรเลีย
การโจมตีทางไซเบอร์คืออะไร
ข้อมูลจาก Microsoft ระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ คือ ความพยายามที่จะเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต และขโมย แก้ไข หรือทำลายข้อมูล ดังนั้น การโจมตีทางไซเบอร์จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเสียหาย เข้าควบคุม หรือเข้าถึงเอกสารและระบบที่สำคัญภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทั้งของธุรกิจและของส่วนบุคคล มีจุดประสงค์ทางการเมือง อาชญากรรม หรือทำลายหรือเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับ
ซึ่งการโจมตีทางไซเบอร์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ที่เราคุ้นเคยกันดีก็น่าจะเป็น “ไวรัสคอมพิวเตอร์” โดยจริง ๆ แล้ว ไวรัสคอมพิวเตอร์ก็เป็นเพียงมัลแวร์ (Malware) ประเภทหนึ่งที่ใช้สำหรับโจมตีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เท่านั้น ยังมีมัลแวร์อื่น ๆ อย่าง Worm (หนอน), Ransomware (แรนซัมแวร์), Spyware (สปายแวร์) ทั้งหมดนี้สามารถแฝงตัวมากับอีเมลของเราได้ และยังรวมถึงยังมีรูปแบบการโจมตีแบบอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น ฟิชชิง (Phishing) เว็บไซต์ปลอม (DNS Spoofing or Poisoning) หรือการคาดเดารหัสผ่าน (Password Attack) เป็นต้น
เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราอย่างแยกไม่ออก และเราก็ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไว้มากมาย ทำให้พื้นที่เก็บข้อมูลมือถือได้กลายเป็นเป้าหมายสูงสุดสำหรับแฮกเกอร์ที่ต้องการขโมยข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ และภาพถ่าย ตลอดจนติดตามตำแหน่งของผู้ใช้ หรือแม้แต่การแอบเปิดกล้องถ่ายวิดีโอและเปิดไมโครโฟนบันทึกเสียงของพวกเราด้วย
ปิดมือถือแค่วันละ 5 นาที หรืออย่างน้อย ๆ ก็ควรรีบูตสัปดาห์ละครั้ง
นายกรัฐมนตรีแห่งออสเตรเลีย ได้แนะนำวิธีการง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวันนั่นคือ ปิดโทรศัพท์ทุกวัน เป็นเวลาเพียง 5 นาที นั่นหมายความว่าเราจะทำมันตอนไหนก็ได้ ทำระหว่างแปรงฟันก่อนเข้านอนยังได้เลย! ซึ่งคำแนะนำนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็เห็นด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีมีแนวคิดที่ให้ออกจากการใช้แอปพลิเคชันเป็นระยะ ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์มือถือ แต่การรีบูตเครื่องโทรศัพท์จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป
สาเหตุก็คือ เมื่อแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์หรือเครือข่ายของเราด้วยมัลแวร์ มัลแวร์บางส่วนไม่ได้ฝังอยู่ในหน่วยความจำระบบปฏิบัติการ แต่จะรันอยู่ในหน่วยความจำของโทรศัพท์เสียมากกว่า ซึ่งเมื่อเราบูตเครื่องใหม่ มัลแวร์เหล่านี้จะหายไปด้วย หรืออย่างน้อยที่สุด การรีบูตเครื่องก็รบกวนการทำงานของมัลแวร์ เป็นเหตุให้แฮกเกอร์เข้าถึงอุปกรณ์ของเราได้ลำบากขึ้น ทว่าด้วยพฤติกรรมของคนเราที่ไม่ค่อยปิดโทรศัพท์ มัลแวร์จึงทำงานได้สบาย ๆ
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2020 สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NSA) ก็เคยรับรองคำแนะนำนี้ โดยแนะนำให้รีบูตเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการโดนแฮก จากนั้นในปี 2021 Angus King วุฒิสมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ก็เคยออกมาบอกว่าเขาปฏิบัติตามเคล็ดลับนี้จนมันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของเขาแล้ว หลังจากที่ NSA เผยแพร่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยดังกล่าว
แม้ว่าการรีบูตเครื่องโทรศัพท์เป็นประจำจะไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีจากเหล่าแฮกเกอร์ได้ถาวร แต่ก็ทำให้แฮกเกอร์ที่เชี่ยวชาญที่สุดต้องทำงานหนักขึ้นแน่นอนในการพยายามเข้าถึงและขโมยข้อมูลจากโทรศัพท์
นอกจากนี้ Dr. Priyadarsi Nanda อาจารย์อาวุโสที่ University of Technology Sydney ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก็เห็นด้วยกับคำแนะนำนี้ เขากล่าวว่าการรีบูตเครื่องโทรศัพท์เป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีทางไซเบอร์ลงได้ เนื่องจากมันเป็นการบังคับปิดแอปพลิเคชันและกระบวนการต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่บนพื้นหลังของโทรศัพท์ ที่อาจจะกำลังติดตามผู้ใช้งานหรือรวบรวมข้อมูลอย่างมุ่งร้าย เพราะผู้ใช้งานจำนวนมากมักไม่รู้ว่ามีแอปพลิเคชันอะไรบ้างที่ทำงานบนพื้นหลัง และอาจมีกระบวนการอื่นที่เป็นอันตรายที่กำลังทำงานอยู่บนอุปกรณ์ที่ถูกบุกรุกด้วย กระบวนการเหล่านี้สามารถหยุดได้ด้วยการปิดโทรศัพท์
แม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ ที่โทรศัพท์ปิดอยู่ก็ตาม และอาจปกป้องมือถือของเราได้ไม่เต็มที่ แต่มันต้องทำให้แฮกเกอร์ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะการปิดเครื่องทำให้อะไรต่ออะไรมันยากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงสนับสนุนคำแนะนำเรื่องการรีบูตเครื่องโทรศัพท์เป็นประจำ ส่วน Dr. Arash Shaghaghi อาจารย์อาวุโสด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์จาก University of New South Wales ก็กล่าวว่าการรีบูตเครื่องทุกวันเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับ “กระตุ้นให้ผู้ใช้มีสุขอนามัยทางไซเบอร์ที่ดี” เพราะการตัดการเชื่อมต่อสามารถลดความเสี่ยงได้ ตราบใดที่เราไม่ได้ถูกขโมยรหัสผ่าน หรือเมื่ออุปกรณ์ของเราไม่ได้ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ถาวร
ข้อแนะนำในการป้องกันการติดมัลแวร์และรับสปายแวร์ลงอุปกรณ์
สำหรับมัลแวร์ประเภทสปายแวร์ (และไวรัสอื่น ๆ) สิ่งที่เราทำได้มากที่สุด คือ การป้องกันตนเองไม่ให้ไปรับเอามัลแวร์มาติดอุปกรณ์โดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเรามีโอกาสเสี่ยงสูงเป็นปกติจากการใช้งานออนไลน์และอินเทอร์เน็ตอยู่แล้วก็ตาม สามารถทำได้ดังนี้
- อัปเดตระบบปฏิบัติการบนสมาร์ตโฟนหรือเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ที่สุดอยู่เสมอ เพราะว่าระบบที่ปรับปรุงใหม่จะมีการพัฒนาระบบป้องกันที่ดีขึ้นกว่าเดิม
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ (Anti-malware) หรือโปรแกรมตรวจสอบสปายแวร์บนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน
- สำหรับคอมพิวเตอร์ ต้องระมัดระวังการใช้งานอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลาย เช่น แฟลชไดร์ฟ (USB) เป็นต้น ควรทำสแกนไวรัสทุกครั้งก่อนใช้งาน
- สำหรับสมาร์ตโฟน ให้พยายามรีสตาร์ต ปิดและเปิดเครื่องบ่อย ๆ หรือทุกวัน มีข้อมูลการวิจัยของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และ Citizen Lab พบว่าสปายแวร์เพกาซัส จะทำงานได้ยุ่งยากขึ้นทุกครั้งที่มีการรีสตาร์ตเครื่อง
- ไม่คลิกข้อความที่แสดงโฆษณาหรือหน้าต่าง pop-up ปลอม (Adware) บนเว็บไซต์ที่เข้าชม รวมถึงลิงก์น่าสงสัยต่าง ๆ เพราะจะเป็นการเริ่มดาวน์โหลดมัลแวร์ อย่างเพกาซัส แม้จะเป็นสปายแวร์ประเภท Zero-click (โจมตีได้แม้ไม่กดลิงก์อะไรเลย) แต่ถ้าหากมีการคลิกเกิดขึ้น สปายแวร์พวกนี้ก็จะเข้าถึงอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้นไปอีก
- ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม แอปพลิเคชัน หรือไฟล์ต่าง ๆ จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ เสี่ยงต่อการมีมัลแวร์แฝงอยู่
- หลีกเลี่ยงการเปิดอีเมลและไฟล์แนบที่ต้องสงสัย ที่ส่งมาจากอีเมลที่เราไม่รู้จัก ตรวจสอบทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดหรือเปิดไฟล์ขึ้นมา
- การใช้ VPN หรือการ Proxy จากโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาฟรีอาจไม่ปลอดภัย คำแนะนำคือ ควรใช้ VPN ที่ต้องจ่ายค่าบริการ เนื่องจากการใช้ VPN จะช่วยให้การท่องอินเทอร์เน็ตของเราไม่สามารถระบุตำแหน่งหรือสถานที่หรือตัวตนได้
- หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบที่ให้บริการสาธารณะ โดยเฉพาะกับผู้ให้บริการที่เราไม่รู้จัก มีโอกาสที่สปายแวร์จะเชื่อมสู่อุปกรณ์ได้จากการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
การระวังภัย Phishing เริ่มต้นได้ที่ตัวเรา
สำหรับวิธีเบื้องต้นที่ง่ายและเบสิกที่สุด ที่นักท่องอินเทอร์เน็ตอย่างเรา ๆ ควรทราบเพื่อป้องกันตัวเองและทรัพย์สินจากภัยออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ คือ ต้องรู้ว่ามิจฉาชีพจะเข้าถึงอุปกรณ์ของเราได้ก็ต่อเมื่อเราไปกดลิงก์เพื่อกรอกข้อมูลหรือติดตั้งอะไรบางอย่างไว้ในอุปกรณ์ (ซึ่งอาจจะไม่รู้ตัว) ดังนั้น วิธีป้องกันง่าย ๆ จึงมีดังนี้
- อย่าคลิกลิงก์ URL หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักหรือน่าสงสัยเด็ดขาด หากเป็นข้อความ SMS หรืออีเมล คุณสามารถเปิดอ่านเพื่อเช็กได้ว่าคือข้อความนั้นคืออะไร ใครส่งมา แต่ห้ามคลิกลิงก์ที่แนบมาโดยเด็ดขาด หากไม่แน่ใจว่าเป็นลิงก์ปลอมหรือไม่ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินมาตรการที่ให้สถาบันการเงินงดการส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล และงดส่งลิงก์ขอข้อมูลสำคัญ ทำให้หลังจากนี้หากมีลิงก์แนบมากับข้อความหรืออีเมล ก็สามารถสันนิษฐานได้เลยว่ามาจากมิจฉาชีพ
- ถึงแม้จะรู้จักแหล่งที่มา แต่ต้องเช็กให้ดีอีกครั้งว่าข้อความหรืออีเมลดังกล่าวถูกส่งจากแหล่งที่มานั้นจริงหรือไม่ จะกรอกข้อมูลอะไรลงไปในเว็บไซต์ดูให้ดีเสียก่อน บางทีอาจมีตัวหนังสือที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต้องใช้ทักษะการจับผิดเข้ามาช่วย อย่าด่วนทำธุรกรรมใด ๆ โดยไม่เช็กให้รอบคอบ ตรวจสอบการทำธุรกรรมออนไลน์ทุกครั้ง ว่าทำผ่านเว็บไซต์ที่ปลอดภัย โดย URL จะต้องขึ้นต้นด้วย https:// แทนที่จะเป็น http:// และต้องมีไอคอนแม่กุญแจอยู่ทางด้านซ้ายของแถบ URL ด้วย หรือยอมเสียเวลานิดหน่อยเพื่อติดต่อหน่วยงานนั้น ๆ โดยตรงเลยดีกว่า
- การตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือ ให้นำรายละเอียดต่าง ๆ ของ URL หรือชื่อไฟล์ไปสืบค้นใน GOOGLE ดูก่อนก็ได้ หากมีการใช้ลิงก์ชื่อนี้หรือชื่อไฟล์นี้หลอกลวงผู้อื่นมาแล้ว มักจะมีคนมาอัปเดตข้อมูลความเลวร้ายเอาไว้
- อย่าโลภอยากได้นั่นนี่จากข้อความโฆษณาที่อ้างว่าจะให้เงิน ให้รางวัล หรือส่วนลดฟรี อย่าเห็นแก่ของฟรีมูลค่าไม่กี่บาท จำไว้ว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” เพราะข้อมูลต่าง ๆ ของเรามีค่ามากกว่านั้นมาก หากมิจฉาชีพได้ไป มันจะกลายเป็นขุมทรัพย์ที่ใช้หากินได้ไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- สำคัญที่สุดคือ “มีสติ” เตือนตัวเองเสมอว่าทุกวันนี้มิจฉาชีพหากินกันง่าย ๆ แต่เงินที่เราหามานั้นมันยาก ยอมเสียเวลาเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อความ อีเมล และลิงก์ก่อนทุกครั้ง อย่าด่วน อย่าเร่ง อย่ารีบ อย่าใจร้อน อย่าสะเพร่าอ่านไม่ละเอียด อย่าใช้ทางลัด และอย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ แม้ว่ามันจะยุ่งยากกว่า แต่ตรวจสอบไปที่หน่วยงานนั้น ๆ โดยตรงจะปลอดภัยที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“140 Wireless” สำนักงานระดับเฟิร์สคลาสกับการออกแบบที่ล้ำสมัย
140 Wireless เป็นตึกสำนักงานอัจฉริยะแนวใหม่ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยสูง 22 ชั้น จากบริษัท เคี่ยนหงวน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีการเลือกใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและล้ำสมัยจากการออกแบบของ Plan Architect
สำนักงานระดับเฟิร์สคลาส
ตึก 140 Wireless ถูกออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรและบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุถัดจากสวนลุมพินีซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานคร (CBD) เรียกว่าตึก 140 ไวร์เลสนั้นตั้งอยู่ในทำเลทองเลยก็ว่าได้เพราะไม่ใช่แค่อยู่ใจกลางเมืองเพียงเท่านั้น แต่ยังอยู่ติดกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เมื่อธรรมชาติรายล้อมก็จะช่วยส่งผลให้พื้นที่สำนักงานมีบรรยากาศที่ดีขึ้น
การออกแบบที่รับมือกับความร้อน
เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้น สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ของไทยจึงต้องเผชิญกับแสงแดดและฝนเกือบตลอดทั้งปี การออกแบบอาคารต้องคำนึงถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้น จึงเลือกใช้ครีบอะลูมิเนียมแบบกว้างเพื่อเป็นทางเลือกแทนที่จะใช้กระจกที่มีประสิทธิภาพสูงในการห่อหุ้มอาคาร เชิงเทินทำให้สามารถช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนที่จะเข้าสู่พื้นที่สำนักงานได้ สามารถทำความสะอาดและบำรุงรักษากระจกโดยใช้พื้นที่ตรงช่องว่างระหว่างครีบแนวตั้งกับกระจก
พื้นที่ยืดหยุ่นพร้อมโอบล้อมด้วยทัศนียภาพที่ยอดยเยี่ยม
ในส่วนของตัวระบบอาคารมีการติดตั้งแกนลิฟต์ไว้ที่ด้านหลังของอาคารพร้อมกับบันไดมีทางเดินคั่นระหว่างห้องสุขาและพื้นที่เช่า โดยแต่ละพื้นที่มีขนาดที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้เช่าที่มีความต้องการขนาดต่าง ๆ มีหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้ทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมของสวนลุมพินีและเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ และพื้นที่สำนักงานถูกจัดให้หันหน้าออกสู่ภายนอกเพื่อให้สามารถเห็นภาพวิวได้ชัดเจน
ไม่ใช่แค่สำนักงานแต่เป็นอาคารที่ช่วยส่งเสริมศิลปะ
อาคารแห่งนี้ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมมากมาย โดยแบ่งพื้นที่ชั้นล่างเป็น The Met Store ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลคชั่นจากพิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์ก ร้านกิฟต์ช็อปจำหน่ายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับศิลปะ ส่วนชั้นสองจัดเป็น Piano Museum พิพิธภัณฑ์เปียโน นำเสนอคอลเลคชั่นเปียโนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และ Art Spaces
รูปทรงอาคารลาดเอียงด้านบนเป็นไปตามข้อกำหนดกรุงเทพมหานคร แต่รูปทรงสามเหลี่ยมด้านบนยังให้รูปทรงสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์เป็นจุดสังเกตเมื่อมองจากถนนหรือแม้แต่จากสวนสาธารณะ โครงการนี้ยังมียูนิตเพนต์เฮาส์พร้อมสระว่ายน้ำอยู่ด้านบนจากยูนิต
อาคารมิกซ์ยูสใจกลางเมืองอย่าง 140 Wireless สร้างเสร็จในปี 2021 ซึ่งถือเป็นอาคารสำนักงานระดับเฟิร์สคลาสที่มีความน่าสนใจอย่างมากทั้งเรื่องของรูปทรงสถาปัตยกรรมที่มีการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงทัศนียภาพของเมืองและการเลือกใช้วัสดุที่ตอบโจทย์สภาพอากาศของประเทศได้เป็นอย่างดี การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานและครองความสวยงามของตัวอาคารได้นานขึ้น
Architect: Plan Architect
Photographs: Panoramic Studio
Manufacture: TOA, Thaisoung, WILLY
Lead Architects: Chayothorn Songtirapunya, Jittinun Jithpratuck, Sira Anukulprayoch
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 30/06/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,050.00 | 32,150.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,076.00 | 31,472.16 | 32,650.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,868.40 | 28,324.94 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,660.80 | 25,177.73 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 934.00 | 14,159.44 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 727.00 | 11,021.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,151.00 | 32,609.16 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30/06/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 35.15 | 35.15 | 35.64 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 | 35.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 34.88 | 34.88 | 35.34 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 | 34.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 32.84 | 32.84 | 33.24 | 32.84 | 32.84 | – | 32.84 | 32.84 | 32.84 | 32.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.29 | 33.29 | – | – | – | – | – | – | – | 33.29 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 42.64 | 46.34 | 46.94 | 46.44 | – | – | – | – | – | 42.64 |
เบนซิน 95 | 42.94 | – | – | – | 43.81 | – | 43.44 | 43.09 | – | 42.94 |
ดีเซล B7 | 31.94 | 31.94 | 32.44 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล | 31.94 | 31.94 | 32.44 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
ดีเซล B20 | 31.94 | 31.94 | 32.44 | – | 31.94 | – | 31.94 | – | – | 31.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 41.06 | 41.16 | 42.94 | 42.36 | 42.36 | – | – | – | – | 41.06 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |