อนันดาฯ พอใจยอดขายตามเป้า เดินหน้า “เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์” หนุนรายได้
บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ยอดขายและยอดโอนฯ เติบโต 13% และ 7% พร้อมโชว์ 5 โครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเตรียมรับรู้เป็นรายได้เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน เร่งเดินหน้าเปิดโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ 2 แห่ง ในปีนี้
ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 2 เป็นไตรมาสที่มีความท้าทายเป็นอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 บ้านเมืองอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบทั้งต่อเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม แต่อนันดายังคงสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจด้วยยอดขาย 4,918 ล้านบาท ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 28% และเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า 13% ด้านยอดโอนมีจำนวน 3,767 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% และเติบโต 7% จากไตรมาสก่อนหน้า Core EBITDA* ในไตรมาสที่ 2 มีจำนวน 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสแรก แบ็คล็อกหรือยอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 มีจำนวนกว่า 28,500 ล้านบาท รองรับการโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า ขณะที่บริษัทมีแบ็คล็อกรองรับการโอนในช่วงครึ่งปีหลังแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 78% ของเป้าหมายยอดโอน
ในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนถึง 5 โครงการ ที่จะรอรับรู้เป็นรายได้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ยอดโอนบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ในปี 2563 ได้แก่ โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 โครงการ ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ โครงการ ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร ขณะที่โครงการเอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ ได้มีการสร้างเสร็จและจะเริ่มโอนเร็วกว่ากำหนดจากไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่ 3 ซึ่งทั้ง 5 โครงการมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 21,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ที่จะเข้ามาช่วยสร้างรายได้ประจำของบริษัทให้ยั่งยืนต่อไป และพร้อมที่จะเปิดดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้อีก 2 โครงการ คือ SOMERSET RAMA9 และ LYF SUKHUMVIT 8 เพื่อขานรับมาตรการกระตุ้นของภาคการท่องเที่ยวจากภาครัฐ และสอดคล้องกับความรู้สึกของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งสองโครงการมีกำหนดการ Soft Opening ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี”อนันดา” พอใจตามเป้า
เดินหน้าเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ สร้างรายได้ประจำที่ยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ออริจิ้น กำไรแกร่ง 707 ล้านบาท ขยับขึ้นแท่น TOP 3 อสังหาฯ
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขยับขึ้นแท่น TOP 3 อสังหาฯ หลังโชว์กำไรไตรมาส 2 กว่า 707 ล้านบาท พร้อมมั่นใจแผน Origin Next Normal ในตลาดสมาร์ทคอนโด และแบรนด์ใหม่แนวราบ หนุนภาพรวมทั้งปีเติบโตตามเป้า
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,292 ล้านบาท (Non-JV) ตามการเติบโตของยอดโอนที่ทำได้ 3,088 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น QoQ 58% และ19% ตามลำดับ หลังกวาดยอดโอนรวมไปกว่า 3,832 ล้านบาท โดยเป็นโครงการ Non-JV 3,088 ล้านบาท และโอนต่อเนื่องโครงการ JV จากไตรมาสแรกอีกกว่า 743 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทก้าวสู่ 1 ใน 3 ผู้นำ หรือ “TOP3” ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย
พร้อมกันนี้ บริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรไว้ได้ในระดับสูง โดยอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 21.5% หลังบริหารจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการปรับกลยุทธ์ เน้นการตลาดเชิงรุกผ่านแพลทฟอร์มออนไลน์ และแคมเปญ Everyone Can Sell โดย SG&A ปรับลดลงเหลือประมาณ 12.7% จาก 19.7% ในไตรมาสก่อนหน้า ท่ามกลางตลาดที่ได้มีการปรับกลยุทธ์หันมาแข่งขันด้านราคากันอย่างรุนแรง
นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2563 มั่นใจเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งการเดินหน้ากลยุทธ์ Origin Next Normal ต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจสมาร์ทคอนโด, การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ทั้งด้าน Reaching Solution และ Living Solution พร้อมเปิดตัวบ้านจัดสรร 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ เบลกราเวีย (BELGRAVIA) เจาะตลาดระดับลักชัวรี่ และไบรตัน (BRIGHTON) เจาะตลาด Gen Y-Z ขยายเซ็กเมนท์ใหม่ๆ ขณะเดียวกัน มีโครงการรอเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังอีกกว่า 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,700 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ ทั้งโครงการบ้านจัดสรร และโครงการ Non-JV พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในครึ่งหลังของปี เพิ่มอีก 10 โครงการ และยังมีโครงการ JV ที่จะสร้างเสร็จใหม่ พร้อมทยอยโอนอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (KnightsBridge Prime Onnut) เริ่มทยอยโอนในไตรมาส 3/2563 และโครงการไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน (KnightsBridge Space Ratchayothin) เริ่มทยอยโอนในไตรมาส 4/2563 มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 17,100 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการ JV มียอดรอรับรู้รายได้ (แบ็คล็อก) รออยู่แล้วถึงกว่า 90% ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2563 บริษัทมั่นใจการเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ยอดโอน 14,000 ล้านบาท และรายได้รวม 16,000 ล้านบาท
“ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ครึ่งปีแรกของปี 2563 ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายมากสำหรับทุกองค์กร แต่ด้วยจุดแข็งของออริจิ้นที่ปลูกฝังแนวคิดแบบ Disruptor Mindset ให้แก่พนักงานทุกคน เราพยายามคิดให้มากกว่า คิดให้ละเอียดกว่า และคิดให้แปลกใหม่กว่า หรือ Think Beyond ทำให้เราจึงยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วสามารถก้าวผ่านทุกสถานการณ์ มีกลยุทธ์ มีโซลูชั่นใหม่ๆ ตอบโจทย์ตลาดเชิงรุก ขณะเดียวกันเรายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 ยังคงเติบโตโดดเด่น” นายพีระพงศ์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กู้ชีพเอสเอ็มอี บสย.ควัก2หมื่นล้านช่วยค้ำประกัน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บสย. เร่งทำข้อตกลงกับสถาบันการเงินที่ต้องการปล่อยกู้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจริง ๆ เพื่อช่วยให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ โดย บสย. ใช้เงินของตัวเองวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ในการค้ำประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีที่มาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
โดยขณะนี้มีสถาบันการเงิน 3 แห่ง ที่ได้ทำข้อตกลงกับ บสย. แล้ว คือ ธนาคารออมสิน ขอวงเงินค้ำประกัน 5 พันล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ ขอวงเงินค้ำประกัน 2 พันล้านบาท และ ธนาคารกรุงไทย ขอวงเงินค้ำประกัน 1 พันล้านบาท ซึ่งการค้ำประกันของ บสย. ทุก 1 เท่า จะทำให้สถาบันการเงินไปปล่อยกู้ได้ 1.5 เท่า
“วงเงินค้ำประกัน 2 หมื่นล้านบาท บสย. จะร่วมมือกับสถาบันการเงินที่จะดำเนินการปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโควิด-19จริง ๆ และต้องการเงินทุนหมุนเวียน เพื่อให้ยังประคองธุรกิจให้อยู่รอดไปได้” นายรักษ์ กล่าว
นายรักษ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ผ่านมาสถาบันการเงินและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ติดกับดักสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) และ ค่าธรรมเนียมถูก ซึ่งทำให้เอสเอ็มอีส่วนมากเข้าไม่ถึงสินเชื่อ ทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง จนในที่สุดมีปัญหาการดำเนินงาน เป็นหนี้เสียกับสถาบันการเงิน ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจมากขึ้น
“ตอนนี้ บสย. ไม่เป็นห่วงเรื่องหนี้เสีย แต่เป็นห่วงหนี้ที่กำลังจะเป็นหนี้เสีย ที่มีอีกจำนวนหลายแสนล้านบาท หากสถาบันการเงินไม่เร่งช่วยปล่อยกู้ช่วยเอสเอ็มอี ผลสุดท้ายจะทำให้หนี้เสียของสถาบันการเงินมากขึ้น ถึงเวลาที่สถาบันการเงินต้องปล่อยกู้ช่วยผู้ประกอบการ ส่วนเอสเอ็มอีก็ต้องปรับตัวเองให้มีประสิทธิภาพ เพราะหากไม่ปรับตัวเองให้ได้สินเชื่อไม่ว่าดอกเบี้ยจะแพงหรือถูก สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี” นายรักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ บสย. ยังมีวงเงินค้ำประกันของโครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีค่า (PGS8) เหลืออีก 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรอนายปรีดี ดาวฉาย รมว.การคลัง คนใหม่เห็นชอบเรื่องการปรับเงื่อนไขการค้ำประกัน เหมือนกับวงเงินค้ำประกัน 2 หมื่นล้านบาท ที่ บสย. ดำเนินการอยู่ เพราะของเดิมเป็นการค้ำประกันหมู่ มีสถาบันการเงินจำนวนมากได้วงเงินค้ำประกันไปแล้ว แต่ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ ทำให้ไม่เกิดประโยชน์
สำหรับ PGS9 จะต้องรองบประมาณปี 2564 ผ่านก่อน จึงเสนอให้ รมว.การคลัง เห็นชอบ ว่ากำหนดวงเงินดำเนินการเท่าไร เพราะการดำเนินการต้องใช้เงินงบประมาณชดเชยให้กับ บสย.
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
แตก 1 “บาร์เซโลนา” ยืนยันพบผู้เล่นติดเชื้อโควิด-19
บาร์เซโลนา ยอดทีมแห่ง ลา ลีกา สเปน เผยผลการตรวจโรคโควิด-19 ครั้งล่าสุด ก่อนออกมายืนยันว่ามีนักเตะในทีม 1 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อ
วันที่ 12 ส.ค. 63 บาร์เซโลนา รองแชมป์ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลล่าสุด แถลงยืนยันว่า มีผู้เล่นในทีม 1 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 จากผลการตรวจครั้งล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนักเตะ 9 คนที่มารายงานตัว ก่อนเริ่มการฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นในวันนี้ เพื่อเตรียมทีมสู้ศึกฤดูกาลใหม่
ทั้งนี้ บาร์ซา ไม่ได้ระบุชื่อผู้เล่นที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยเปิดเผยเพียงแค่ว่านักเตะไม่แสดงอาการผิดปกติ สภาพร่างกายยังแข็งแรงดี และได้แยกไปกักตัวที่บ้านแล้ว
ขณะที่สโมสรก็รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้หน่วยงานด้านกีฬาและหน่วยงานด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้ว ส่วนทุกคนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับนักเตะที่ติดเชื้อก็ได้มีการติดตามตัวให้มารับการตรวจโควิด-19 ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บาร์ซา ยืนยันว่าไม่มีผู้เล่นคนใดในทีมชุดใหญ่ที่สัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เพื่อเตรียมลงสนามพบ บาเยิร์น มิวนิก ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีม ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้
ก่อนหน้านี้ แอตเลติโก มาดริด ทีมร่วมศึกลา ลีกา สเปน ก็เพิ่งพบผู้เล่นที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก 2 ราย ก่อนมีการเปิดเผยชื่อในภายหลังว่าเป็น ซิเม เวอร์ซัลจ์โก และ อังเคล กอร์เรอา ซึ่งทั้งคู่จะพลาดการลงเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีม ที่จะพบ แอร์เบ ไลป์ซิก ในวันพรุ่งนี้ (13 สิงหาคม 2563) ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ และสตาฟฟ์โค้ชของทีม “ตราหมี” มีผลตรวจเป็นลบ จึงสามารถลงสนามในเกมนี้ได้
ขณะที่ บาเลนเซีย ก็เพิ่งแถลงเมื่อวานนี้ (11 สิงหาคม 2563) ว่า พบผู้ติดเชื้อ 2 รายในกลุ่มทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและผู้ที่ทำงานร่วมกัน ก่อนเริ่มโปรแกรมปรีซีซั่นในวันนี้ เพื่อเตรียมทีมสู้ศึกฤดูกาลใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
รัสเซียเฉลยเบื้องหลัง พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ไว
รัสเซียเฉลยเบื้องหลังพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ไว ต่อยอดจากวัคซีนต้านไวรัสอีโบลา และวัคซีนป้องกันโรค MERS
นายคิริล ดมิทริฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกองทุนความมั่งคั่ง RDIF ของรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กล่าวว่า รัสเซียได้พัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการต่อยอดจากวัคซีนต้านไวรัสอีโบลา และวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ MERS
นายดมิทริฟกล่าวว่า การพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสอีโบลา และวัคซีนป้องกันโรค MERS ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ช่วยให้รัสเซียสร้างวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
“เราโชคดีที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีความใกล้เคียงกับไวรัส MERS ทำให้เราสามารถพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โดยต่อยอดจากวัคซีน MERS” นายดมิทริฟกล่าว
RDIF แถลงว่า รัสเซียจะเริ่มการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเดือนหน้า โดยขณะนี้รัสเซียได้รับคำสั่งซื้อวัคซีนกว่า 1 พันล้านโดสจาก 20 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ รัสเซียจะผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวนมากกว่า 500 ล้านโดสต่อปีใน 5 ประเทศ และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นอีก
นายดมิทริฟยืนยันว่า วัคซีนดังกล่าวจะสามารถนำออกสู่ตลาดได้ภายในเดือนพ.ย.
“เราจะสามารถส่งมอบวัคซีนไปยังประเทศของคุณภายในเดือนพ.ย./ธ.ค. ถ้าเราได้รับการอนุมัติจากผู้ควบคุมกฎระเบียบ แต่สำหรับผู้ที่ยังมีความเคลือบแคลงใจต่อวัคซีนดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับมัน และเราขออวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนของตนเอง” นายดมิทริฟกล่าว
ทั้งนี้ หลายฝ่ายแสดงความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการที่รัสเซียสามารถพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว โดยได้รับการจดทะเบียนเมื่อวานนี้ ขณะที่วัคซีนดังกล่าวใช้เวลาทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ไม่ถึง 2 เดือน และยังไม่มีการทดลองในเฟส 3 ขณะที่การทดลองทางคลินิกประสบความสำเร็จเพียง 10%
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้ จากสถานการณ์ COVID-19
ตอนนี้คงไม่มีข่าวไหนสำคัญและมีผลกระทบใกล้ตัวเรามากที่สุดเท่ากับสถานการณ์ ไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ไวรัสตัวใหม่ที่กำลังส่งผลกระทบกับสุขภาพและกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกอยู่ตอนนี้
และสำหรับน้องๆ เพื่อนๆ คนไหนที่ได้ยินข่าวหรือข้อมูลจากทางการ คงมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับโรคนี้มาให้ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ บางคำก็พอรู้จักกันบ้าง แต่หลายคำก็เป็นศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
บทความนี้เราจึงอยากมาช่วยให้ทุกคนได้รับฟังข่าวสารหรืออยากเรียนรู้คำศัพท์ที่น่าสนใจในสถานการณ์ที่โรค COVID-19 กำลังระบาด พี่ๆ AdmissionPremium ได้รวบรวม ศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้ จากสถานการณ์ COVID-19 มาไว้ให้ทุกคนได้เรียนรู้กันแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าจะมีคำไหนที่ได้ยินบ่อยๆ และเราควรจำได้บ้าง
Infection (n.) – การติดเชื้อ
Epidemic (n., Adj.) – โรคระบาด
Contract (v.) – ติดเชื้อ
Contagion (n.) – การแพร่กระจาย, การติดต่อ
Spread (v.,n.) – กระจาย
Prevention (n.) – การป้องกัน, การยับยั้ง
Lock down (v.) – ปิดเมือง, จำกัดอาณาเขต
Transmission (n.) – การส่งต่อเชื้อโรค
Local transmission (n.) – การแพร่ระบาดในประเทศ
Global Pandemic (n.) – การระบาดใหญ่ทั่วโลก
Announce (v.) – ประกาศ
Treatment (n.) – การรักษา
Human Contact (n.) – การติดต่อจากมนุษย์
Disease (n.) – การเจ็บป่วย, โรค
Symptom (n.) – อาการ
Panic (n, Adj.) – ตื่นตกใจ
Pneumonia (n.) – โรคปอดบวม
Isolation (n.) – การแยกกัก (ใช้กับคนป่วยที่ตรวจพบหรือมีอาการ ต้องเข้าห้องความดันลบ)
Quarantine (v.) – กักกัน (ในกรณีนี้ใช้กับคนที่ยังไม่ป่วย แต่มีความเสี่ยง และใกล้ชิดคนป่วย)
ขอบคุณข้อมูลจาก admissionpremium.com
เกาหลีใต้จ่อสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรก
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ประกาศแผนระดับชาติประจำปี 2021-2025 โดยหนึ่งในนั้นคือ การสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินภายในปีหน้า และจะจัดซื้อเครื่องบินขับไล่จากสหรัฐมาประจำการบนเรือด้วย หลังจากที่เคยเกริ่นๆ ไว้เมื่อปีที่แล้วว่าสนใจเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบิน
ทางการเปิดเผยว่า เรือบรรทุกเครื่องบินจะมีขนาด 30,000 ตัน สามารถบรรทุกทั้งทหารและยุทโธปกรณ์ เพื่อให้กองทัพปราบปรามภัยคุกคาม รวมทั้งขนกองกำลังและอาวุธไปยังพื้นที่พิพาทในทะเล ขณะที่เครื่องบินรบที่จะประจำการนั้นต้องขึ้นลงในแนวดิ่งได้
มีการคาดการณ์กันว่าเกาหลีใต้จะซื้อเครื่องบินรบ F-35B จากสหรัฐซึ่งเหมาะกับเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็ก และเป็นเพียงรุ่นเดียวในโลกที่ขึ้นบินได้ในระยะสั้นและขึ้นลงในแนวดิ่งตามที่เกาหลีใต้ต้องการ โดยในแปซิฟิกนั้นมีเพียงสหรัฐและญี่ปุ่นเท่านั้นที่นำเครื่องบินรบรุ่น F-35B มาประจำการ
โดยเมื่อปลายปี 2018 ญี่ปุ่นประกาศปรับเปลี่ยนเรือพิฆาตบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อิซุมิให้บรรทุกเครื่องบินรบ F-35B ซึ่งถือเป็นท่าทีที่สำคัญ เนื่องจากญี่ปุ่นไม่ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินออกสู่ท้องทะเลมาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ดี แม้ว่าทางการเกาหลีใต้จะไม่ได้พูดถึงค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ แต่ทางการสหรัฐรายงานราคาของเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกยูเอสเอส อเมริกา (USS America) ซึ่งใหญ่กว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่เกาหลีใต้จะสร้างราว 25-30% ว่าอยู่ที่ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และเครื่องบินรบ F-35B สนนราคาลำละ 122 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้วยเหตุนี้จึงมีการตั้งคำถามว่า การลงทุนครั้งนี้จะคุ้มค่าสำหรับเกาหลีใต้หรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
กำจัดดอย สรรพคุณและประโยชน์ของต้นกำจัดดอย 6 ข้อ
กำจัดดอย
กำจัดดอย ชื่อวิทยาศาสตร์ Zanthoxylum acanthopodium DC. จัดอยู่ในวงศ์ส้ม (RUTACEAE)[1]
สมุนไพรกำจัดดอย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หมักก้ากดอยสุเทพ (ภาคเหนือ), มะเคะ พะเคะ (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), ลำข่วง (ลั้วะ), มะข่วง เป็นต้น[2]
ลักษณะของกำจัดดอย
- ต้นกำจัดดอย จัดเป็นพรรณไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นได้ถึง 5 เมตร ตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลม[1]
- ใบกำจัดดอย ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปใบหอกหรือรูปวงรีแกมใบหอก ขอบใบหยักโค้ง ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร ก้านใบเป็นสีแดงมีขน[1]
- ดอกกำจัดดอย ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ ดอกย่อยมีหลายดอก ก้านดอกสั้น กลีบดอกเป็นสีแดงเข้ม[1]
- ผลกำจัดดอย ผลเป็นผลแห้งและแตกได้ ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม[1]
สรรพคุณของกำจัดดอย
- เปลือกต้น ใช้ขูดอุดฟันเป็นยาแก้ปวดฟัน [1] ส่วนอีกข้อมูลระบุให้นำมาอมเป็นยาแก้ปวดฟัน ซึ่งจะมีฤทธิ์เหมือนยาชา (เปลือกต้น)[2]
- ยาพื้นบ้านล้านนาจะใช้เมล็ดกำจัดดอยนำมาตำ ต้ม หรือตุ๋นกับไก่ ใช้ดื่มแต่น้ำ เป็นยาแก้สุกใส (เมล็ด)[1]
- ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า สมุนไพรกำจัดดอยนอกจากจะใช้เป็นยาแก้สุกใสแล้ว ยังใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้อีกด้วย (วงศ์สถิตย์และคณะ, 2539)
ประโยชน์ของกำจัดดอย
- ผลใช้ในการประกอบอาหาร เช่น ใส่ลาบ มีรสชาติคล้ายมะแขว่น[2]
- ใช้เป็นยาเบื่อปลาให้เมา ด้วยการใช้เมล็ดกำจัดดอยประมาณ 2 กิโลกรัม นำมาตำคลุกขี้เถ้า แล้วนำไปใช้เบื่อปลา เนื้อปลาจะไม่มีพิษ[1] ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า ให้ใช้เปลือกต้นนำมาตำแล้วแช่ในลำธารเพื่อเบื่อปลา แต่ต้องใช้ในปริมาณมาก จึงจะทำให้ปลามีอาการเมา[2]
- ชาวลั้วะจะใช้เนื้อไม้นำไปเผาถ่านตำผสมกับดินปืน[2]
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,300.00 | 28,400.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,833.00 | 27,788.28 | 28,900.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,649.70 | 25,009.45 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,466.40 | 22,230.62 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 825.00 | 12,507.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 642.00 | 9,732.72 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,899.00 | 28,788.84 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/08/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.65 | 21.65 | 21.95 | 21.65 | 21.95 | 21.65 | 21.65 | 21.65 | 21.65 | 21.65 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.38 | 21.38 | 21.68 | 21.38 | 21.68 | 21.38 | 21.38 | 21.38 | 21.38 | 21.38 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.14 | 20.14 | 20.44 | 20.14 | 20.44 | – | 20.14 | 20.14 | 20.14 | 20.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.04 | 18.04 | – | – | – | – | – | – | – | – |
เบนซิน 95 | 29.06 | – | – | – | 29.81 | – | 29.56 | 29.06 | – | 29.06 |
ดีเซล | 22.29 | 22.29 | 22.59 | 22.29 | 22.59 | 22.29 | 22.29 | 22.29 | 22.29 | 22.29 |
ดีเซล B10 | 19.29 | 19.29 | 19.59 | 19.29 | 19.59 | 19.29 | 19.29 | 19.29 | 19.29 | 19.29 |
ดีเซล B20 | 19.04 | 19.04 | 19.34 | 19.04 | 19.34 | – | 19.04 | 19.04 | – | 19.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.74 | 26.76 | 29.04 | 28.74 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |