สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 29 มีนาคม 2564

คมนาคมสู้ ลุยเทอร์มินัลตัดแปะ

คมนาคมสู้ ลุยเทอร์มินัลตัดแปะ

“คมนาคม” ลั่น ครม.ไม่ได้มีคำสั่งให้ทำตามข้อเสนอป.ป.ช.ดันต่อ เทอร์มินัล 2 ตัดแปะพ่วงอาคารตะวันออก-ตก รวม 6 หมื่นล้าน ไม่สนเสียงค้าน

ความดื้อดึงของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน)หรือทอท.กับการผลักดันโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion)มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท ส่งกลิ่นโชย ถึงความผิดปกติมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่กลุ่มนักวิชาการและ 12 องค์กรวิชาชีพนำโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ออกโรงคัดค้านจนเป็นที่มาของ“เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ” ไม่ได้ศึกษาเพียงแค่รอเวลาพัฒนาไปพร้อมกับอาคารด้านทิศตะวันออกและตะวันตกตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2553 แต่ที่จับพิรุธได้เพราะทอท.ยืนยันจะก่อสร้างเปิดให้บริการอาคารด้านทิศเหนือก่อนซึ่งนำมาซึ่งการคัดค้านขณะเดียวกันสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)  ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงานป.ป.ช.) มีข้อท้วงติงมาโดยตลอด เพราะ อาจเป็นไปได้ว่า เมื่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือแล้วเสร็จ ทอท.อาจไม่ก่อสร้างอาคาร ด้านตะวันออก-ตะวันตกและทิศใต้ ติดถนนบางนา-ตราดและทางด่วนบูรพาวถี ตามแผนแม่บทก็เป็นได้   

ครม.ฟังเสียงป.ป.ช. 

เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาสู่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่23 มีนาคม 2564 รับทราบข้อเสนอ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและสำนักงานป.ช.ช.อาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือของท่าอากาศสุวรรณภูมิหรือเทอร์มินัล 2 ตัดแปะพร้อม เสนอ ทอท.  เร่งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกตามมติครม. เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2553   และอาคารด้านทิศตะวันตกในคราวเดียวกันด้วย เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 75 ล้านคน ต่อปีขณะเดียวกันยังให้ทอท. ดำเนินการตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน 

ปลายทาง  “เทอร์มินัล2”

ย้อนรอยจุดหมายปลายทาง  เทอร์มินอล 2 ตัดแปะ  นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า  กระทรวงคมนาคมต้องเพิ่มวงเงินลงทุนอีก 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อก่อสร้าง เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ มองว่าค่อนข้างสูง เกินจำเป็น อีกทั้งยังต้องเพิ่มงบประมาณ สร้างทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี 2 ชั้น 3.75 หมื่นล้านบาท แก้ปัญหาจราจร ทั้งที่ฝั่งบางนา-ตราดมีความพร้อมอยู่แล้ว ที่สำคัญมากไปกว่านั้นโครงการนี้ยังไปสนับสนุน แผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ 732 ไร่ ในโครงการ ซิตี้แอร์พอร์ต ที่ทอท. มีแผนเปิดสัมปทาน คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า   ซึ่งจะมีนักลงทุนรายใหญ่รายเดิมรับสัมปทานและเทอร์มินัล2 ตัดแปะนี้ ยัง ไปเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง ที่วิ่งไปสนามบินอู่ตะเภาอีกด้วยขณะปมปัญหารีรอสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนตะวันออกและตะวันตกเพราะต้องรื้อร้านอาหารซิตี้การ์เด้นท์ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์และพื้นที่ ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าไร้คนขับรับส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน

ยันสร้างเทอร์มินัล 2 

ทันทีที่ ออกนอกห้องประชุมครม. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้สัมภาษณ์ว่า  ได้รายงานในที่ประชุม ครม.วันนี้ว่า จะดำเนินการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อม กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ  กระทรวงคมนาคมพร้อมรับฟังทุกความเห็น แต่มองว่าความเห็นของ ป.ป.ช.ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่กระทรวง จะดำเนินการ สะท้อนว่า กระทรวงคมนาคม เดิมเกมขัดแย้ง กับป.ป.ช., มติครม.ตลอดจน ข้อเสนอแนะสภาพัฒน์ มีความสุ่มเสี่ยงสูงถึงขั้นอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย 

 อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม  อธิบาย กรณีป.ป.ช. มีข้อเสนอพิจารณาเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ป.ป.ช.มีข้อแนะนำให้ขยายเทอร์มินัล 1 ก่อน ในส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก เพราะปัจจุบันมีความพร้อมด้านการออกแบบแล้ว ในส่วนของกระทรวงฯ ได้รับฟังความเห็นดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงให้ ครม.รับฟังถึงความคืบหน้าที่ ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการทบทวนแผนพัฒนา ขอความเห็นจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(ไออาต้า) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)

ไม่สั่งทำตามป.ป.ช.

ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีคำสั่งให้ทำตามข้อเสนอ ป.ป.ช. เพียงแต่ให้เรารับฟังความเห็น ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงไปว่าเรามีแผนจะสร้างเกตเวย์ด้านการบิน ที่รองรับผู้โดยสารรวมถึง 200 ล้านคนต่อปี โดย ทอท.ในฐานะผู้ลงทุน ก็มีความพร้อมที่จะทำทั้ง 3 โครงการในสุวรรณภูมิ ทั้งขยายอาคารด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ ปัจจุบันกระทรวงฯ มองว่ายังไม่ควรสรุปว่าจะดำเนินการสร้างส่วนใดก่อนหรือหลัง เพราะขั้นตอนขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างรอความเห็นจากไออาต้า และไอเคโอ ที่กำลังทบทวนโครงการ ความเหมาะสม และปริมาณผู้โดยสาร หากการทบทวนแล้วเสร็จ จึงจะเสนอไปยัง สภาพัฒน์ในการพิจารณาการลงทุน โครงการใดที่มีความพร้อมก่อน ก็จะดำเนินการจัดหาเอกชนก่อสร้างทันที เพราะ ทอท.มีงบประมาณเพียงพอที่จะลงทุน รวม 3 โครงการราว 6 หมื่นล้านบาท

ทอท.รอมติครม.

นายกีรติ  กิจมานะวัฒน์  รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและก่อสร้าง)  ทอท. กล่าวว่า หลังจากป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือข้อเสนอแนะในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อที่ประชุมครม. ขณะนี้ทอท.ยังไม่เห็นข้อสรุปจากมติที่ประชุมครม. คาดว่าจะส่งเรื่องมาที่ทอท.ประมาณ 5 วัน จากนั้นจะนำความคิดเห็นหน่วยงานต่างๆที่เสนอแนะมาประกอบเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกลางเดือนเมษายนนี้ และเสนอต่อสภาพัฒน์ และครม.ตามลำดับ

6 หมื่นล้าน 3 โครงการ

แผนลงทุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมี 3 โครงการวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท 1.อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expqnsion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบ 7,830 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร 2. อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (West Expantion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบ 7,830 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร และ 3. ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expantion) รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปีและขยายได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี งบ 41,260 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 348,000 ตารางเมตรเป็นต้น 

นอกจากนี้ยังพัฒนารันเวย์ 3 เพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบิน จาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 90 เที่ยวบินต่อชั่วโมง 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เบอร์ใหญ่รับสร้างบ้าน ชิงลูกค้าธุรกิจพันล้าน 

เบอร์ใหญ่รับสร้างบ้าน ชิงลูกค้าธุรกิจพันล้าน 

ตลาดรับสร้างบ้านแข็ง ทนพิษเศรษฐกิจ 3 เดือนแรกแนวโน้มดี ขาใหญ่ ส้มหล่น หลังลูกค้าหวั่น ผู้รับเหมา-บริษัทโนเนม ทิ้งงาน แห่วิ่งหาบริษัทดังเชื่อถือได้  ส่งยอดขาย แลนดี้โฮม-ซีคอน พุ่งสวนกระแสโควิด เดินหน้าชิงเค้ก ลูกค้าเศรษฐี เงินเย็น เจ้าของธุรกิจพันล้าน-แพทย์ งัดที่ดิน สั่งปลูกสร้างบ้านหรูหลังใหญ่ 10-15 ล้านอัพ  แข่งเดือดกลยุทธ์บริการครบวงจร-นวัตกรรม Health & Hygiene

ตลาดบ้านสร้างเอง ซึ่งมีมูลค่าต่อปีราว  2 แสนล้านบาท โดยพื้นที่ กทม.- ปริมณฑล มักถูกผลักดันโดยยอดขายที่เกิดขึ้นจากบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็ก-รายใหญ่ ขณะต่างจังหวัด เติบโตมหาศาล ผ่านผู้รับเหมามากรายนั้น พบที่ผ่านมา ตลาดเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากลูกค้าผู้ปลูกสร้างบ้าน ส่วนใหญ่มีที่ดินเป็นของตนเอง  วางแผนทางการเงินล่วงหน้าเป็นเวลานาน และมีสินทรัพย์กู้ค้ำง่าย ทำให้แม้แต่ในปีวิกฤติ 2563 ซึ่งเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ตลาดยังไปต่อได้ 

ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน เมื่อปี 2563 มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท (ตัวเลขจาก 2 สมาคมหลัก) ที่เกิดขึ้น แม้มีการยกเลิกจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2020 ไปถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังไร้ซึ่ง มาตรการกระตุ้นสนับสนุนจากรัฐ ต่างจากตลาดโครงการที่อยู่อาศัยหลัก โดยเกิดภาพตลาดชะลอตัวราว 5% เท่านั้น 

ขณะปีนี้ งานแรกของปี “รับสร้างบ้าน FOCUS 2021” ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา พบตลอดงาน 5 วัน มีจองปลูกสร้างบ้านทะลุเป้า 2.1 พันล้านบาท และอีกแง่ความน่าสนใจ คือ พบบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนมากถึง 38% ไม่ต่างจากบ้านระดับราคา 10-20 ล้านบาท ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ได้สะท้อนว่า ลูกค้าของตลาดรับสร้างบ้าน มีกำลังซื้อสูง ทนทานต่อสภาพเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ 

เปิดศึก 2 เบอร์ใหญ่ บริษัทรับสร้างบ้าน

ด้านเบอร์ใหญ่ของตลาดกทม.-ปริมณฑล อย่างบริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด โดยนางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เผย ช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโตสวนกระแสโควิด 15% อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ขณะปีนี้ คาดว่า จากกำลังซื้อและความต้องการ ยิ่งในเฉพาะสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลให้ลูกค้าพิจารณาบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ มากกว่ารายย่อย จะทำให้บริษัทเติบโตได้อีกราว 15% ที่ 2.4 พันล้านบาท โดยเฉพาะยอดขายที่มาจาก ตลาดกทม. ผ่าน 3 แบรนด์แบบบ้าน Trendy Home (บ้านหลังเล็ก ราคา 2-5 ล้านบาท), Landy Home (บ้านขนาดกลาง ราคา 5 -15 ล้านบาท) และ Landy Grand (บ้านขนาดใหญ่ ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป) 

อย่างไรก็ตาม คาดเซ็กเมนต์ที่จะเป็นตัวผลักดันยอดขายได้ดี คือ ตลาดบ้านหรู หลังใหญ่ ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป (Landy Grand)  ซึ่งมีอัตราการเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี แม้เศรษฐกิจไม่ดี โดยบริษัทจะขยับจากตลาดระดับกลาง-บน รุกตลาดไฮเอนด์มากขึ้น 

ล่าสุดนำร่องทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ “เซลล์ แกลอรี่ แลนดี้ แกรนด์ แฟล็กชิฟ สโตร์” สำหรับการเจาะกลุ่มนิชมาร์เก็ต กลุ่ม B+ ถึง A ย่านราชพฤกษ์ ฝั่งธนบุรี หลังมองว่า เป็นพื้นที่ ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มเจ้าของโรงงาน นักธุรกิจรายได้หลักพันล้านบาท หนาแน่น รายล้อมไปด้วยเศรษฐี โครงการบ้านหรูตลอดแนว 2 ฝั่งถนน 

อีกทั้งพบ ย่านดังกล่าว มีที่ดินว่างเปล่าแปลงใหญ่หลายแห่ง ราคาไม่สูงมาก รองรับ ซึ่งการบริการที่ครบวงจร และมีแบบบ้านมากกว่า 10 แบบ จะกระตุ้นความต้องการลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้ ตั้งเป้ายอดขายจากสาขานี้ 300-400 ล้าน และอยู่ระหว่างลงทุนขยายสาขาที่ลาดพร้าวอีก 20 ล้านบาท

“ปีนี้คาดจะกินแชร์บริษัทรายย่อยได้มากขึ้น จากความไม่มั่นใจของลูกค้า เพราะโควิดทำให้ รับเหมาเสี่ยงปิดตัวลง ขณะแลนดี้ โฮม มีทุนจดทะเบียนสูง ลูกค้าให้ความเชื่อใจ เป็นโอกาสทางธุรกิจ ส่วนกลยุทธ์ นอกจากแบบบ้านหรู เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม นวัตกรรม CAP+ อากาศบริสุทธิ์ กรองฝุ่น เชื้อโรค ในยุคโควิด จะเป็นจุดขายของบริษัท” 

อีกเบอร์ใหญ่ของตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน 60 ปี รายแรกของไทย อย่างบริษัท ซีคอน จำกัด โดยนายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจ แม้ปีที่ผ่านมาตลาดรวมชะลอตัวลง จากงานแฟร์และอีเว้นท์ไม่สามารถจัดขึ้นได้ แต่เชื่อมั่นว่า ปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านยังเติบโตได้ต่อ โดยเฉพาะบ้านขนาดใหญ่ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป หลังจากปีที่ผ่านมา สัดส่วนยอดขายของบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมเป็นพอร์ตราว 30% เท่านั้น แต่ปัจจุบันบ้านแพงเข้ามาแทนที่กลุ่มบ้านหลังเล็ก 2-4 ล้านบาท ที่หายไปจากตลาด เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 60% โดยลูกค้ากำลังซื้อสูงยุคโควิด มีหลากหลายอาชีพ แต่ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มแพทย์ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดการระบาดของโรค บางรายมีอายุไม่ถึง 40 ปี แต่สามารถปลูกสร้างบ้านหลัก 10 ล้านบาทได้ 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดรับสร้างบ้าน เปรียบเหมือนเรดโอเชี่ยน การแข่งขันรุนแรง บริษัท จึงแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในบลูโอเชี่ยน ที่มีโอกาสและการแข่งขันน้อยกว่าในกลุ่มบ้านราคาแพง ในลักษณะเข้าไปรับช่วงต่อจากงานออกแบบของสถาปนิก หรือ ออกแบบและสร้างบ้านฟรีสไตล์ ตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นอกจากแบบบ้านที่มี ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่ Seacon ID เนื่องจากที่ผ่านมาลุกค้ามีความต้องการสูง เป็นการควบทั้งออกแบบและก่อสร้างครบวงจร โดยตั้งยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นจากส่วนนี้ราว 200 ล้านบาท ภายใต้เป้ายอดจองสร้างปีนี้ 1.7 พันล้านบาท 

“ตลาดรับสร้างบ้าน จัดเป็นอสังหาฯ ที่คนต้องการสร้างความมั่นคงให้ชีวิต ฉะนั้นความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เราอยู่มานาน ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ยิ่งในยุคที่ลูกค้ากังวลการทิ้งงาน ยิ่งเป็นโอกาส อาศัยจุดแข็ง รับประกันโครงสร้าง 20 ปี มั่นคง แข็งแรง เซกเม้นท์บ้านใหญ่แม้กำไรน้อย แต่มูลค่าสูง ทดแทนกลุ่มลูกค้าลูกจ้างประจำ บ้านหลังเล็กที่หายไปจากตลาดได้ดี”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กรุงไทย ออกตราสารเสริมแกร่งกองทุนชั้นที่ 1

กรุงไทย ออกตราสารเสริมแกร่งกองทุนชั้นที่ 1

กรุงไทย ออกตราสารการเงิน 600 ล้านดอลลาร์ เสริมแกร่งกองทุนชั้นที่ 1 สถาบันต่างประเทศสนใจกว่า 3.8 เท่า

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ธนาคารประสบความสำเร็จ ในการออกตราสารทางการเงินที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) ตามหลักเกณฑ์ Basel III มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี โดยเป็นตราสารด้อยสิทธิไม่มีกำหนดชำระคืน ธนาคารสามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดเมื่อตราสารมีอายุครบ 5 ปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศ โดยตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ Ba3 โดย Moody’s และมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายตราสาร ได้แก่ Citigroup, HSBC, Bank of America Securities และ Standard Chartered

ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะถูกนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยการออกตราสารAdditional Tier 1 ของธนาคารในครั้งนี้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างทางการเงินของธนาคารในระยะยาว เทียบเคียงกับธนาคารคู่เทียบอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การออกและเสนอขายตราสารในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเป็นอย่างดี แม้สภาวะตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศในช่วงเดือนมีนาคมจะอยู่ท่ามกลางความผันผวน อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีการประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงธนาคารไม่ได้ออกระดมทุนในตลาดทุนต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้การออกตราสารหนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

โดยในครั้งนี้ มีผู้ลงทุนแสดงความสนใจลงทุนในตราสารของธนาคารกว่า 3.8 เท่าของมูลค่าที่ออกในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพและลงทุนระยะยาวจากทั่วโลกจำนวน 155 ราย แบ่งตามภูมิภาคเป็นนักลงทุนในทวีปเอเชีย 74% นักลงทุนในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 16% นักลงทุนจากสหรัฐอเมริกาและอื่น ๆ อีก 10% และแบ่งตามประเภทนักลงทุน เป็นประเภทบริษัทบริหารเงินลงทุน 87% ที่เหลือเป็น private banks บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ และธนาคารพาณิชย์

อนึ่ง อัตราดอกเบี้ยของตราสารที่ 4.40% ถือเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับตราสารประเภทเดียวกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ของไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“ณภัทร” โชว์ฟอร์มโหดล้ม “ณัฐนิดา” 2-0 เซต หวดคัดเทนนิสทีมชาติไทย

“ณภัทร นิรันดร” มือวาง 13 ของรายการ โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงไล่หวดเอาชนะ “ณัฐนิดา หลวงแนม” มือวาง 1 ของรายการ 2-0 เซต ด้วยคะแนน 6-3, 6-4 ในศึกคัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทย

วันที่ 29 มี.ค. 64 การแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทย ประจำปี 2564 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เป็นรอบ 16 คนสุดท้าย ซึ่งมีการแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 4 กลุ่ม (เหมือนกันทั้งชายและหญิง) กลุ่มละ 4 คน แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม เพื่อคัดเอาอันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่ม เข้าไปเล่นรอบ 8 คนสุดท้ายต่อไป

คู่ไฮไลท์ ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่ม เอ นัดแรก เป็นการพบกันระหว่าง “จูน” ณัฐนิดา หลวงแนม นักหวดจอมเก๋า มือวาง 1 ของรายการ และ ไหม ณภัทร นิรันดร ดาวรุ่งวัย 18 ปี มือวาง 13 ของรายการ ซึ่งเป็นบุตรสาวของ พิมพิสมัย กันสุทธิ อดีตนักเทนนิสหญิงทีมชาติไทย และปรากฏว่า ณภัทร โชว์ฟอร์มการเล่นได้ดี ตีได้เหนียวแน่น ยิงวินเนอร์ลูกงามๆ ได้หลายครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ 2-0 เซต 6-3, 6-4 เก็บ 2 คะแนนได้สำเร็จ ส่วน ณัฐนิดา ได้ 1 คะแนน สำหรับนัดต่อไป ไหม ณภัทร จะพบ วรรษชล สวัสดี ที่เฉือนชนะ อัญชิสา ฉันทะ 2-1 เซต 3-6, 7-6 (8) และ 6-3

ด้านชายเดี่ยว กลุ่ม ดี นัดแรก “ก็อต” กฤติน โกยกุล มือวาง 4 ของรายการ พบกับ “จูเนียร์” วิชยา ตรงเจริญชัยกุล ที่รอบนี้ถูกจัดให้เป็นมือวาง 9 ของรายการ และปรากฏว่า คู่นี้ต้องออกแรงหวดกันถึง 3 เซต หลังจากเสมอ 1-1 และเป็น กฤติน ที่คว้าชัยในเซตสาม ทำให้เฉือนชนะไป 2-1 เซต 6-3, 1-6 และ 6-3 เก็บไป 2 คะแนน ส่วน วิชยา ได้ 1 คะแนน โดยนัดต่อไป กฤติน จะพบกับ กิติรัตน์ เกิดลาภี ที่เอาชนะพี่ชาย พงศภัค เกิดลาภี มาได้ 2-1 เซต 2-6, 6-4 และ 6-4

ขณะที่ กลุ่ม ซี “เมฆ” จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ วัย 24 ปี ที่เคยติดทีมชาติมาแล้ว พบรุ่นน้องดาวรุ่ง “แม็กซิ” แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ นักหวดลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 16 ปี และปรากฏว่าคู่นี้ก็ต้องเล่น 3 เซตเช่นกัน ก่อนที่ แม็กซิมัส จะเป็นผู้คว้าชัยในเซตสุดท้าย ซึ่งชนะแบบไม่เสียเกม ซึ่งทำให้เฉือนเอาชนะไป 2-1 เซต 6-4, 6-7 (4) และ 6-0 แม็กซิมัส คว้า 2 คะแนนแรกได้สำเร็จ ส่วน จิรัฏฐ์ ได้ 1 คะแนน ส่วนการเล่นนัดต่อไป แม็กซิมัส จะพบกับ ฐานทัพ สุขสำราญ มือวาง 3 ที่ชนะ กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส 2-0 เซต 6-1, 6-4

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ประเภทหญิงเดี่ยว แบ่งกลุ่มรอบสอง พบกันหมด นัดแรก กลุ่ม บี มนัญชญา สว่างแก้ว (มือวาง2) ชนะ เวียร่า ดีเพิ่ม 6-1, 6-1 พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช ชนะ ธมจันทร์ มอมขุนทด 6-4, 6-3 /กลุ่ม ซี ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต (มือวาง3) ชนะ ณัฐพัชร์ ผิวบางรักษ์ 6-0, 6-1 ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ ชนะ กมลวรรณ บัวแย้ม 6-3, 6-4 /กลุ่ม ดี พัชรินทร์ ชีพชาญเดช (มือวาง4) ชนะ ญาตาวี ฉิมฉ่ำ 7-5, 5-7, 6-1 ลัลนา ธาราฤดี ชนะ พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ 6-1, 6-2

ประเภทชายเดี่ยว แบ่งกลุ่มรอบสอง พบกันหมด นัดแรก กลุ่ม บี พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ (มือวาง2) ชนะ ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ 6-4, 6-2 คงทรัพย์ คงคา ชนะ ธนเพชร ฉันทะ 7-6(5), 4-6, 7-5 /กลุ่ม เอ กษิดิศ สำเร็จ (มือวาง1) ชนะ ยุทธนา เจริญผล 7-5, 6-3, ธีรดนย์ ต่อตระกูล ชนะ ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ 6-4, 6-3

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


7 สัญญาณอันตราย เหนื่อยล้าจนไม่ไหวทั้งกายและใจ

7 สัญญาณอันตราย เหนื่อยล้าจนไม่ไหวทั้งกายและใจ

ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่ข้างในไม่ไหวแล้ว หรือใจน่ะเศร้าแต่ก็ยังฝืนยิ้มฝืนหัวเราะไป อยากจะบอกว่าอย่าฝืนเลยถ้ารู้สึกเศร้า ก็ปลดปล่อยมันออกมา ไม่ต้องทนหรือเก็บมันเอาไว้ไม่ว่าจะเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว เรื่องเรียน เรื่องงาน ถ้าเก็บเอาไว้ก็มีแต่จะทำร้ายตัวเอง และร่างกายก็จะแสดงออกด้วยอาการแปลก ที่คุณเองก็จะสังเกตได้ว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม ลองมาสำรวจกันไหมว่าคุณมีครบทั้ง 7 อาการเลยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรีบดูแลตัวเอง และหัวใจของคุณเองแบบด่วนๆ เลย

  1. อารมณ์เสียบ่อยเกินไป

ถ้าคุณต้องอยู่กับความเศร้าเป็นเวลานานๆ สภาพจิตใจของคุณจะไม่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับเรื่องราวที่ซับซ้อนในชีวิตได้ ความอดทนคุณจะต่ำลง และคุณจะรู้สึกท้อใจได้โดยง่าย นั่นคือความผิดปกติทางอารมณ์อันมาจากความเศร้าที่เกาะกินอยู่ในใจคุณนานเกินไป มันเหมือนกับคุณแบกรับภาระอันหนักอื้งเอาไว้บนสองบ่า พอเจอฟางเส้นสุดท้ายอารมณ์ของคุณก็พร้อมที่จะปริแตกลงมาทันที

  1. คุณรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด

เวลาที่ความเศร้าเกาะกุมจิตใจคุณ แม้ว่าจะไม่มีงานให้ทำมากนักแต่ทำไมคุณรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างรอบตัวดูจะไม่เหมือนปกติธรรมดาที่เคยเป็น คุณพยายามที่จะเรียกความรู้สึกตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ก็ทำได้ยากเต็มที และที่สำคัญคุณรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด นั่นเป็นเพราะความเศร้าอยู่กับคุณนานเกินไป และมันค่อยๆ กัดกินความรู้สึกของคุณไปช้าๆ จนทำให้คุณรู้สึกว่าเรื่องราวรอบตัวนั่นแสนน่าเบื่อจนทำให้คุณไม่มีพลังจะทำอะไรต่อได้

  1. พูดจาช้าลง

เมื่อคุณอยู่กับความเศร้า คุณจะไม่รู้สึกอยากพูดคุยกับใคร และทำให้คุณเบื่อหน่ายที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น เมื่อต้องเริ่มบทสนทนากับใครคุณจะตอบเขาได้ช้าลงกว่าปกติ และคุณจะรู้สึกได้ว่าคุณไม่สนุกไปกับบทสนทนา ที่ครั้งหนึ่งคุณเคยเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณต้องเผชิญหน้ากับความเศร้า ทำให้คุณยังไม่อยากพูดอะไรกับใคร คุณต้องการเวลา เพื่อเยียวยาสถานการณ์ในชีวิตให้ดีขึ้น

  1. คุณรู้สึกปวดหลัง

กระดูกสันหลังก็เหมือนโครงสร้างหลักของร่างกายที่ต้องคอยรองรับ พฤติกรรมและความรู้สึกทางอารมณ์ของคุณ เมื่อคุณมีความรู้สึกเศร้า ความรู้สึกกดดันจะถูกส่งไปที่กระดูกสันหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหลัง หรือมีอาการปวดหลังเรื้อรัง อาการจะเริ่มที่ละนิดจากส่วนท้ายของหลัง ก่อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงช่วงไหล่และคอ

  1. มีปัญหาเรื่องการนอน

การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอน และถ้าคุณมีเรื่องให้ทุกข์ใจการนอนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกลับมาพลังเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าคุณต้องเจอเรื่องที่เศร้าใจ และต้องอยู่กับมันเป็นเวลานานๆ ปัญหาเรื่องการนอนจะเป็นปัญหาหลักที่คุณต้องเผชิญ หรือถึงจะนอนหลับได้ตามปกติก็เป็นการนอนที่ไม่ดีพอ และทำให้คุณรู้สึกเหมือนไม่ได้พักผ่อนเมื่อตื่นขึ้มา

  1. คุณรู้สึกปวดหัวตลอดเวลา

ความรู้สึกปวดหัวแทบจะเป็นสัญญาณแรกๆ สำหรับคนที่ต้องเจอเรื่องเศร้าและต้องยุ่กับเรื่องดังกล่าวเป็นเวลานานๆ เมื่อใจเราเศร้า จะส่งผลกระทับไปยังความรู้สึกนึกคิดของคุณ ทำให้คุณไม่รู้สึกมีความสุขเลย คุณอาจจะเริ่มมีอาการปวดหัวจากต้นคอ แล้วค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ และถ้าคุณยังคงปล่อยให้ใจจมอยู่กับความเศร้านานขึ้นเรื่อยๆ นอกจากปวดหัวแล้วคุณจะมีผมร่วงตามมา

  1. จากที่เคยเดินกระฉับกระเฉงคุณจะกลายเป็นคนที่เดินช้าลงและลากเท้าไปเรื่อยๆ

ลองนึกถึงเวลาที่ใจคุณเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ ความรู้สึกกระฉับกระเฉงของคุณจะลดลงทันที สิ่งหนึ่งที่สังกตได้ชัดเจนเวลาที่คุณรู้สึกเศร้า คุณจะเดินลากเท้าไปอย่างช้า ไม่ใช่การเดินแบบปกติที่คุณเคยทำเป็นประจำ เมื่อเป็นเช่นนั้นคุณต้องรีบหาสาเหตุที่แท้จริงของความรู้สึกเศร้าที่เกาะอยู่ในอารมณ์ของคุณเอง และจงอย่าได้รู้สึกอายที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง

 ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

หลักการใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ ( A – Z ) ในภาษาอังกฤษ

เพื่อนๆ คุ้นชินกับการแต่งประโยคภาษาอังกฤษกันอยู่แล้ว รวมถึงน่าจะเข้าใจในเรื่องของการใช้ตัวพิมพ์ ตัวพิมพ์เล็กกันมาบ้าง หลักๆ มักจะอยู่ตัวแรกของประโยค แล้วนอกจากนี้ล่ะ…ตัวพิมพ์ใหญ่สามารถไปอยู่ที่ไหนของประโยคได้บ้าง มาทำความเข้าใจหลักการใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษกันหน่อย แล้วจะได้นำเอาไปใช้ในการเขียนให้ถูกต้องสวยงาม น่าประทับใจ

คำแรกของประโยค

เมื่อขึ้นต้นประโยคในภาษาอังกฤษ คำแรกที่ขึ้นต้น ต้องเป็นตัวอักษรตัวใหญ่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นประโยคปฏิเสธหรือบอกเล่า เช่น

How do you do?  (สบายดีไหมคะ)

สรรพนาม “I” และชื่อคน

สรรพนามบุรุษที่ 1 แทนตัวเราคือ “I” ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประโยคก็ต้องเป็นตัวใหญ่เสมอ ทั้งนี้ชื่อคนก็เช่นกัน ที่อักษรตัวแรกของชื่อหรือนามสกุลของเขา ต้องเป็นตัวอักษรตัวใหญ่เช่นกัน เช่น

How do I live without you?  (ฉันจะอยู่อย่างไรหากปราศจากเธอ)

ชื่อสถานที่เฉพาะ

I was born in Bangkok. (ฉันเกิดที่กรุงเทพฯ)

เดือน วัน วันเทศกาลต่างๆ

วันในสัปดาห์ทั้งเจ็ดวัน และเดือนทั้งสิบสองเดือน รวมถึงวันเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่ เช่น

She arrived on Sunday. (เธอมาถึงเมื่อวันอาทิตย์)

ตำแหน่งของบุคคล

ตำแหน่งต่าง ๆ ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งทางหน้าที่การงาน หรือการศึกษาต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ เช่น

He is Captain Smith. (เขาคือกัปตันสมิธ)

ชื่อหนังสือ บทความและภาพยนตร์ เช่น

Harry Potter was written by J.K. Rowling. 

(หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ เขียนขึ้นโดย เจ. เค. โรลลิ่ง)

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th

BAANDY สตาร์ทอัพกาฬสินธุ์ เปิดแอพ ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้าง

BAANDY สตาร์ทอัพกาฬสินธุ์ เปิดแอพ ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้าง

Start Up เมืองกาฬสินธุ์  เปิดตัว BAANDY (บานดี้) แอพพลิเคชัน ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่ง นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อ เจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา ร้านค้า ผู้ให้บริการ หวังช่วยผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รับมือธุรกิจชะลอตัว ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท 

นายณัฏฐ์นวัต พันธุกรกวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ บานดี้ จำกัด กลุ่มบริษัท Start Up แห่งเมืองกาฬสินธุ์ ผู้พัฒนา BAANDY แอพพลิเคชัน เปิดเผยว่า ร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในปัจจุบัน มีครอบคลุมพื้นที่ในประเทศไทย จำนวนประมาณ 13,000 ราย แบ่งตามลักษณะการจำหน่ายและรูปแบบการให้บริการเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ (Modern Trade) และกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างดั้งเดิม (Traditional trade)

BAANDY สตาร์ทอัพกาฬสินธุ์ เปิดแอพ ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้าง

โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มวัสดุก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการหดตัวของภาวะเศรษฐกิจที่มาพร้อมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดมีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัว พัฒนารูปแบบร้านค้าและการขยายช่องทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทมองเห็นโอกาส จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ต้องการความรวดเร็ว -สะดวกสบาย ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ประกอบกับประสบการณ์ในการคลุกคลีกับกลุ่มร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างมายาวนาน จึงมีความเข้าใจในพฤติกรรมการเลือกซื้อและปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างของผู้บริโภค จึงริเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลงวงการค้าขายวัสดุก่อสร้าง แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่มีการค้าขายอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้การออกแบบแอพพลิเคชันมีไอเดียจากการผสาน ประสบการณ์ ความต้องการ และพฤติกรรมจากกลุ่มผู้ขายและผู้บริโภคสองส่วนเข้าด้วยกัน เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายวัสดุก่อสร้าง “บานดี้” (BAANDY Marketplace Platform) ที่พัฒนาโดยคนไทย”นายณัฏฐ์นวัต กล่าว

BAANDY แพลตฟอร์มการซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ให้บริการทั้ง www.baandy.com และแอพพลิเคชัน แบบออมนิ (Omni Shopping) ที่ผสานการซื้อขายออนไลน์และออฟไลน์ (ร้านค้าวัสดุก่อสร้างใกล้บ้าน) เข้าด้วยกัน ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางเชื่อมต่อระหว่าง เจ้าของบ้าน ร้านค้า ผู้ให้บริการ เป็นศูนย์รวมในการตอบสนองความต้องการเรื่องบ้านได้อย่างครบครัน รวมทั้งบริการช่างฝีมือ ที่เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างซ่อมแซม และบริการติดตั้งครบวงจร มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ช่วยในการวิเคราะห์และทำการตลาดให้กับร้านค้า ยกระดับวงการวัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้านให้เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

สำหรับในช่วง 1-2 ปีแรก บริษัทใช้งบประมาณราว 20-30 ล้านบาท สำหรับพัฒนาระบบ บริหารจัดการ รวมถึงทำการตลาด การประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้เปิดให้ร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ เข้ามาลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมีกระแสการตอบรับที่ดี และบริษัทตั้งเป้าหมายในปีนี้ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เข้าร่วมเปิดร้านค้าไม่ต่ำกว่า 3,000 ร้านค้า โดยตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ไว้ไมต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

 “ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทเดินสายให้ข้อมูล และมีร้านค้าร่วมเปิดร้านค้าใน BAANDY App กว่า 400ร้านค้า โดยส่วนใหญ่เป็นร้านค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังเดินสายอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเปิดร้านค้าและเพิ่มสินค้าในแต่ละร้านให้ครอบคลุมที่สุด

ถือเป็นความท้าทายของบริษัท เนื่องจากทั้งร้านค้าและผู้บริโภคแม้ว่าจะยอมรับช่องทางการซื้อขายออนไลน์ แต่ยังไม่คุ้นชินกับช่องทางนี้ ซึ่งบริษัทมีกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงดูดผู้ซื้อผู้ขายให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด โดยการรวบรวมผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายในราคาที่ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่าในการซื้อ พร้อมทั้งกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า จัดเตรียมโปรโมชั่นที่น่าสนใจไว้มากมาย อีกทั้งบริการการจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วโดยร้านค้าวัสดุก่อสร้างในแต่ละพื้นที่ และผู้นำด้านการจัดส่งสินค้า เช่น ไปรษณีย์ไทย Best Express J&T Express และอื่นๆ พร้อมทั้งมีแผนกลูกค้าสัมพันธ์หรือ CRM ที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ร้านค้าและผู้บริโภค” นายณัฏฐ์นวัต กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เปลือกส้มและมะนาว กับประโยชน์น่ารู้คู่บ้าน

เปลือกส้มและมะนาว กับประโยชน์น่ารู้คู่บ้าน

เปลือกส้มและมะนาว กับประโยชน์น่ารู้คู่บ้าน
            ประโยชน์ของเปลือกส้มและเปลือกมะนาว ที่สามารถเอามาใช้ในบ้านได้ อยากรู้ว่าเปลือกส้มและเปลือกมะนาวมีประโยชน์อะไรบ้าง มาอ่านกัน
            ผลไม้บางชนิดที่มีเปลือก เวลาจะรับประทานก็ต้องปอกเปลือกทิ้งก่อน เพื่อให้รับประทานได้อย่างสะดวก แต่เปลือกที่ปอกออกไปนั้นอย่าเพิ่งนำไปทิ้งนะคะ เพราะยังนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีก โดยเฉพาะเปลือกผลไม้ประเภทส้มและมะนาว ว่าแต่จะนำไปทำประโยชน์อะไรได้อีกบ้าง ลองไปดูกันเลยค่ะ
            เปลือกของส้ม ส้มโอ มะนาว และผลไม้ตระกูลไซตรัส ที่ถูกปอกออกมาแล้ว ก่อนที่จะนำไปทำประโยชน์อย่างอื่นต่อไปนั้น ควรมีการทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการล้างสารเคมี หรือคราบต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนผิวเปลือกออกไปให้หมด จากนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดังนี้
 เปลือกมะนาว
             ใช้ขัดถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเวลาอาบน้ำ ช่วยขจัดคราบไคล ทำให้ร่างกายสะอาด หอมสดชื่น
             ใส่เปลือกมะนาวลงในน้ำชา เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยขึ้น
             ใช้ใส่ในไก่ย่าง เพื่อเพิ่มกลิ่น และรสชาติให้น่ารับประทาน
เปลือกส้ม
 
             ใช้เพิ่มความนุ่มนวลให้น้ำตาลทรายแดง โดยนำไปใส่ไว้ในโหลน้ำตาลทรายแดง
             ใช้เป็นเครื่องปรุงในเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล
             ใช้ทำแยม นอกจากเนื้อส้มแล้วเปลือกส้มก็ยังนำไปทำเป็นแยมได้อีก
             เพิ่มความสดชื่นให้ถุงเท้า ชุดชั้นใน โดยทำให้แห้ง แล้วบรรจุใส่ในซองหรือถุง เจาะรูให้ระบายกลิ่นออกมา แล้วนำไปวางไว้ตามตู้, ลิ้นชัก
             ใช้ทำเป็นปุ๋ยได้ โดยนำไปวางกองกันไว้ตามบริเวณต้นไม้ แล้วปล่อยให้ย่อยสลายลงดินไปเอง
             นำไปขัดถูพื้นรองเท้า เพื่อขจัดคราบน้ำมันต่าง ๆ
             ใช้ถูที่ผิวกาย เพื่อไล่แมลงที่มารบกวนในตอนกลางคืนได้
เปลือกส้มโอ
 
             นำเปลือกส้มโอที่ผ่านการต้มแล้ว มาใช้ขัดถูภาชนะประเภทอะลูมิเนียม เช่น ตะหลิว ทัพพี จะทำให้ภาชนะเหล่านี้เงางามเหมือนใหม่
             ใช้กลั่นทำเป็นน้ำหอม
             นำมาทำแยม หรือขนม
            เปลือกส้ม และเปลือกมะนาว ที่เกือบจะโยนทิ้งกลายเป็นขยะไปแล้วนั้น ยังนำกลับมาสร้างประโยชน์ได้อีกมากมาย ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ เพราะทำได้เองแบบง่าย ๆ แถมช่วยประหยัดเงินได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก kapook.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 25,500.00 25,600.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,652.00 25,044.32 26,100.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,486.80 22,539.89 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,321.60 20,035.46 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 743.00 11,263.88 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 578.00 8,762.48 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,712.00 25,953.92 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 29/03/2564

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15 26.15
แก๊สโซฮอล์ 91 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88 25.88
แก๊สโซฮอล์ E20 24.64 24.64 24.64 24.64 24.64 24.64 24.64 24.64 24.64
แก๊สโซฮอล์ E85 20.79 20.79 20.79
เบนซิน 95 33.56 34.01 34.06 33.56 33.56
ดีเซล B7 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19
ดีเซล 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19 23.19
ดีเซล B20 22.94 22.94 23.14 22.94 22.94 22.94 22.94
ดีเซลพรีเมี่ยม 30.86 30.96 32.64 32.26 30.86
แก๊ส NGV 13.43 13.43 13.43
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า