สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 06 พฤษภาคม 2564

เขย่าวงการเช่า คอนโดไทย เปิด ‘เช่าคอนโด’ ด้วย Crypto

เขย่าวงการเช่า คอนโดไทย  เปิด 'เช่าคอนโด' ด้วย Crypto

ตลาดเงินดิจิทัลร้อนแรง บริษัท คอนโดไทย จำกัด หรือ https://www.condothai.co.th เอเยนซี่รายแรก ประกาศเพิ่มช่องทางการชำระเงินในการเช่าคอนโด และการซื้อขายคอนโด ทุกห้อง ทุกโครงการ ทั่วประเทศไทย ผ่าน Cryptocurrency

นายศักดิ์สิทธิ์ เลิศไฝ่คุณธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนโดไทย จำกัด กล่าวว่า Condothai ได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรูปแบบการใช้ชีวิต จากรูปแบบเดิมปรับเปลี่ยนเข้าสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ทาง Condothai จึงได้พัฒนาช่องทางการชำระเงินเพิ่มเติม จากเดิมสามารถชำระด้วยเงินสด หรือ บัตรเครดิต เท่านั้น เพิ่มให้สามารถรับชำระเงินโดยเป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) มาใช้ในการชำระเงินสำหรับการเช่าและการซื้อขายคอนโด ทุกห้อง ทุกโครงการ ทั่วประเทศไทย ในแพลทฟอร์ม Condothai

เขย่าวงการเช่า คอนโดไทย  เปิด 'เช่าคอนโด' ด้วย Crypto

เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในแง่ของการชำระเงิน เป็นการตอบโจทย์กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโทฯ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯที่เป็นการปรับตัวสู่สังคมแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี

‘ ปัจจุบันห้องในระบบของ Condothai มีมากกว่า 37,000 ห้อง ที่สามารถชำระเงินผ่านคริปโทเคอเรนซี ซึ่งถือเป็นรายแรกของวงการการเช่าและการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ของไทย เพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยให้กับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่มากขึ้น ‘ 

จากสถิติในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า ตลาดคริปโทฯ ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ มูลค่าของเหรียญ Bitcoin : BTC ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดที่เกิน 2,000,000 บาท ต่อ 1 เหรียญ BTC เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า วิถีการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ได้เปลี่ยนไป ยอมรับในสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดย Condothai เปิดรับสกุลคริปโทฯทั้งหมด 5 สกุล ประกอบด้วย
1.    Bitcoin : BTC
2.    Ethereum : ETH
3.    Tether : USDT
4.    Binance Coin : BNB 
5.    Binance USD : BUSD

ทั้งนี้ ถือเป็นนการเพิ่มโอกาสในการในการเช่าคอนโด และการซื้อขายคอนโดในแพลทฟอร์ม Condothai ด้วยการชำระเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมี 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
            1. เลือกห้องที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ
            2. นัดหมายเพื่อชมห้อง และต่อรองราคา
            3. ชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) 
            4. แลกเปลี่ยนเป็นเงินสด
            5. ทำสัญญาพร้อมเข้าอยู่
 

“เทคโนโลยี และนวัตกรรมในปัจจุบันส่งผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ทาง Condothai ไม่ได้หยุดนิ่งในการพัฒนา และคัดสรรสิ่งใหม่ๆ มาเพื่อตอบโจทย์วิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจ และเกิดความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าคนสำคัญของเรา” นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส ‘ตลาดวิลล่า’ ภูเก็ต ฟื้นตัว

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส 'ตลาดวิลล่า' ภูเก็ต ฟื้นตัว

ซีบีอาร์อี เผย ความต้องการสะสม ของคนไทยและต่างชาติ รอขับเคลื่อน ตลาดวิลล่า ระดับราคา 90 ล้านบาทขึ้นไป ในจังหวัด ภูเก็ต มีโอกาสฟื้นตัวในปี 2564 ขณะนโยบายรัฐ คือ ใบเบิกทาง

5 พฤษภาคม 2564 – แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงซบเซาเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย แต่ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก พบว่ามีตลาดที่ยังมีความเคลื่อนไหวของการซื้อขายอยู่โดยกลุ่มลูกค้าระดับบน สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับวิลล่าหรูเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมาจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ  

ทั้งนี้ เพราะซัพพลายของวิลล่าระดับบนยังคงมีจำนวนจำกัด จากการชะลอเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการและที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาวิลล่าหรูเหลืออยู่ไม่มาก    นอกจากนี้ มาตรการล่าสุดของรัฐบาลสำหรับโครงการนำร่อง ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ซึ่งจะเริ่มเดือนกรกฎาคมนี้ อาจจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ภูเก็ตฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปี 2564

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส 'ตลาดวิลล่า' ภูเก็ต ฟื้นตัว

นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายบ้านพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ภูเก็ต กล่าวว่า “ความต้องการวิลล่าระดับหรูที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจาก 2 ส่วนหลัก  กลุ่มแรกคือผู้ซื้อในต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง หรือบ้านพักในวัยเกษียณ ในพื้นที่เขตร้อนหลังการแพร่ระบาดจบลง โดยลูกค้ากลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและตลาดภูเก็ตอยู่แล้ว  

ส่วนกลุ่มที่สอง คือ ผู้ซื้อในประเทศที่เป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศหรูทั้งเพื่อการเข้าพักอาศัยเองและเพื่อการลงทุน    จากการที่ตลาดภูเก็ตเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงเวลาของการเป็นตลาดของผู้ซื้ออย่างไม่ได้คาดคิดได้กระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals – HNWIs) เหล่านี้มองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวที่มีความคุ้มค่า  ซึ่งภูเก็ตเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมาตลอดหลายสิบปี”

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส 'ตลาดวิลล่า' ภูเก็ต ฟื้นตัว

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี รายงานว่า จากการประกาศเคอร์ฟิวและข้อกำหนดอื่นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ทำให้โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบางส่วนได้รับผลกระทบ  โดยมีวิลล่าเพียง 5 หลังเท่านั้นที่แล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ทำให้วิลล่าในตลาดภูเก็ตมีทั้งสิ้นเกือบ 4,300 หลัง    

สำหรับตลาดวิลล่าหรูซึ่งมีราคามากกว่า 90 ล้านบาทต่อหลังนั้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2563 มีวิลล่าหรูทั้งหมด 320 หลัง โดยในปี 2564 จะมีเพียง 7 หลังที่จะแล้วเสร็จ และไม่มีซัพลลายใหม่ในปี 2565   ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ซัพพลายของวิลล่าหรูในภูเก็ตจะมีจำนวนจำกัดอย่างมากในช่วงอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ และที่ดินในภูเก็ตที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาเป็นวิลล่าหรูระดับบนสุดของตลาดกำลังกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยาก  

 “ภูเก็ตยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของไทยทั้งสำหรับการท่องเที่ยวและสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากตลาดวิลล่าในไทยสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ โดยขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเรื่องทำเลที่ตั้งของแต่ละคน   
 

ซีบีอาร์อีเชื่อว่าหากนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาจากมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐ ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมายังภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ควบคู่ไปกับการกระจายวัคซีนที่มีผลสำเร็จ และการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การระบาดระลอกที่สามอยู่ในระดับที่ควบคุมได้  

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส 'ตลาดวิลล่า' ภูเก็ต ฟื้นตัว

 

ตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตก็จะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปีนี้  ซึ่งในด้านหนึ่งก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองหรืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้   เพราะในปัจจุบันในตลาดวิลล่าภูเก็ตยังมีซัพพลายที่ดี มีราคาที่ยืดหยุ่น และมีตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งอาจหาไม่ได้เมื่อสถานการณ์ตลาดกลับสู่สภาวะปกติ” นางสาวประกายเพชรกล่าวสรุป ‘

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กนง.คงดอกเบี้ย0.5% อุ้มเศรษฐกิจจากพิษโควิดรอบ 3

กนง.คงดอกเบี้ย0.5% อุ้มเศรษฐกิจจากพิษโควิดรอบ 3

มติเป็นเอกฉันท์ กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% อุ้มเศรษฐกิจจากพิษโควิดรอบ 3

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 พ.ค. 2564 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% ต่อปี โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงมากจากการระบาดของโควิด-19 รอบ 3 ซึ่งส่งผลกระทบการใช้จ่ายในประเทศและแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ โจทย์สำคัญของเศรษฐกิจในปัจจุบันคือการจัดหาและกระจายวัคซีนให้ทันการ ขณะที่มาตรการด้านการเงินต้องเร่งกระจายสภาพคล่องไปยังภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการสินเชื่อ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่จะช่วยเหลือได้ตรงจุดมากกว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายที่ปัจจุบันอยู่ระดับต่ำ และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


“บาร์ตี” ฟอร์มเฉียบ ปราบ “ควิโตวา” ลิ่วรอบรองฯ เทนนิสมาดริด โอเพ่น

"บาร์ตี" ฟอร์มเฉียบ ปราบ "ควิโตวา" ลิ่วรอบรองฯ เทนนิสมาดริด โอเพ่น

แอชลีย์ บาร์ตี นักหวดมือ 1 ของโลก เอาชนะ เปตรา ตวิโตวา ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึกเทนนิส มูตัว มาดริด โอเพ่น 2021 ได้สำเร็จ

ประเภทหญิงเดี่ยว คู่ที่น่าสนใจ แอชลีย์ บาร์ตี มือ 1 ของโลกและมือ 1 ของรายการจากออสเตรเลีย ลงสนามพบกับ เปตรา ควิโตวา มือ 9 ของรายการจากสาธารณรัฐเช็ก

ผลปรากฏว่า แอชลีย์ บาร์ตี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เบียดเอาชนะ เปตรา ควิโตวา ไปได้ 2-1 เซต 6-1, 3-6 และ 6-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ พอลลา บาโดซา จากสเปน ที่พลิกล็อกเอาชนะ เบลินดา เบนซิซ มือ 8 ของรายการจากสวิตเซอร์แลนด์ มาได้ 2 เซตรวด 6-4 และ 7-5

ผลคู่อื่นที่แข่งจบแล้ว

อนาสตาเซีย พาพลิวเชนโควา (รัสเซีย) ชนะ คาโรลิน่า มูโชวา (เช็ก) 2-0 เซต 7-6 (7-4), 7-6 (7-2)

อารีนา ซาบาเลนกา (เบลารุส, มือ 5) ชนะ อลิส เมอร์เทนส์ (เบลเยียม, มือ 13) ที่ขอถอนตัวระหว่างเซตที่ 2

ประเภทชายเดี่ยว รอบสอง คู่ที่น่าสนใจ

– ดีเอโก ชวาร์ซแมน (อาร์เจนตินา, มือ 7) แพ้ อัสลาน คารัตเซฟ (รัสเซีย) 1-2 เซต 6-2, 4-6, 1-6

-เคอิ นิชิโคริ (ญี่ปุ่น) แพ้ อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ (เยอรมัน, มือ 5) 0-2 เซต 3-6 และ 2-6

ราฟาเอล นาดาล (สเปน,มือ 1) ชนะ คาร์ลอส อัลคาเรซ (สเปน) 2-0 เซต 6-1 และ 6-2

– เบอร์นัวต์ แปร์ (ฝรั่งเศส) แพ้ สเตฟานอส ซิสซิปาส (กรีซ, มือ 4) 0-2 เซต 1-6 และ 2-6

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


รู้จักภาวะ ISRR ความเครียดหลังรับ “วัคซีนโควิด-19” สาเหตุอาการชา-อ่อนแรง

รู้จักภาวะ ISRR ความเครียดหลังรับ “วัคซีนโควิด-19” สาเหตุอาการชา-อ่อนแรง

นอกจากอาการ Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมองที่อาจพบได้ในผู้รับวัคซีนโควิด-19 บางคนแล้ว หากผู้รับวัคซีนมีความเครียดสูง อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังรับวัคซีนได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง WHO หรือองค์การอนามัยโลกระบุภาวะนี้ว่า Immunization Stress-Related Response (ISRR)

รู้จัก ISRR ภาวะเครียดหลังรับวัคซีน

ศ.ดร.นพ.วิปร วิประกษิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า อาการไม่พึงประสงค์ แบ่งออกเป็นเฉพาะที่ และเป็นระบบ บางคนมีไข้ต่ำๆ มีอาการอ่อนเพลีย ง่วง เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้ แต่ปฏิกิริยาที่เป็นข่าวและทำให้หลายๆ ท่านกังวลใจ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเครียดตอบสนองต่อการฉีดวัคซีน หรือที่เรียกว่า Immunization Stress Related Response หรือ ISRR ซึ่งเกิดขึ้นเพราะมนุษย์แต่ละคนแตกต่างกัน คนบางคนเมื่อมีความเครียดในการฉีดวัคซีน ก็จะกระตุ้นระบบภายในร่างกาย ระบบสำคัญจะเกี่ยวข้องกับ Stress ฮอร์โมนทั้งหลาย กระตุ้นระบบประสาท ทำให้หลอดเลือดมีการหดตัว ซึ่งผู้รับวัคซีนไม่ได้แกล้งทำ เหมือนกรณีบางคนพูดในที่สาธารณะเป็นลมก็มี

สาเหตุของภาวะ ISRR

ข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้รับวัคซีนอยู่ในภาวะ ISRR อาจมาจากภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ ไปจนถึงอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นก่อนเข้ารับวัคซีน

อาการ ISRR ที่พบได้หลังฉีดวัคซีน

อาการ ISRR อาจเกิดขึ้นได้หลังรับวัคซีนได้ 5-30 นาที และอาจเป็นชั่วคราวหรือหายได้เป็นปกติภายใน 1-3 วัน มักเกิดเป็นกลุ่มก้อน และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัคซีน และทุกรุ่นการผลิต

อาการ ISRR ที่อาจพบได้มีหลากหลายแบบ ดังนี้

  • ชา
  • อ่อนแรง
  • คลื่นไส้
  • วิงเวียน
  • เป็นลม
  • ตาพร่ามัว
  • พูดไม่ชัด
  • เกร็ง
เป็นต้น

ISRR หรือ Stroke?

ในกรณีที่ผู้รับวัคซีนมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว อาจต้องให้แพทย์ตรวจเช็กอย่างละเอียดว่าเป็นอาการ ISRR ความเครียดหลังรับวัคซีน หรือเป็น Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมอง ในบางรายมีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง แต่ไม่ได้เป็นโรคหลอดเลือดสมองจริงๆ เมื่อเข้ารับการตรวจเอกซ์เรย์ หรือ MRI สมอง และการตรวจอื่นๆ พบว่า ปกติ

ในช่วงที่มีอาการแรกๆ อาจยังแยกไม่ได้ว่าเป็นภาวะ ISRR หรือเป็นอาการเจ็บป่วยเป็นโรคจริง หากแพทย์พบความผิดปกติ อาการตรงกับโรคหลอดเลือดสมอง จะให้การรักษาตามระบบบริการทางด่วนของโรคหลอดเลือดสมอง หากไม่พบความผิดปกติ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น และหายได้เอง

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคหรือไม่?

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ถือเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรได้รับวัคซีน และกินยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด โดยผู้ป่วยโรคนี้ไม่เป็นข้อห้ามของการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด

ถ้ามีอาการ ISRR ในเข็มแรก ควรฉีดเข็มที่ 2 หรือไม่?

แพทย์จะพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ว่าควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 หรือไม่ หากมีความพร้อมทั้งร่างกาย และจิตใจ สามารถรับวัคซีนชนิดเดิมเป็นเข็มที่ 2 ได้ หรืออาจพิจารณาเปลี่ยนชนิดวัคซีน หรือเลื่อนการฉีดวัคซีนครั้งต่อไปออกไปก่อนได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


17 วิธีการทักทายเป็นภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ในทุกระดับภาษา

ทักทายภาษาอังกฤษ

ไม่มีไครไม่รู้จัก “hello” และ “how are you” หรอกใช่มั้ย

แต่เราก็คงไม่พูด “สวัสดี สบายดีมั้ย?” ทุกครั้งที่เจอกันหรอก–ใช่มั้ย

ในภาษาอังกฤษมีคำทักทายและสำนวนเริ่มต้นมากมายให้คุณได้เลือกใช้ในแต่ละสถานการณ์ที่ต่างกัน

คำทักทายเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถทักทายได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และสามารถเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถามที่ตรงประเด็น แสดงความรู้สึกของคุณได้ตรงจุดและดูจริงใจมากขึ้นด้วย

ไปเรียนรู้คำทักทายในภาษาอังกฤษทั้งแบบเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ และคำสแลงกวน ๆ ที่ผู้คนทั่วโลกใช้ทักทายกัน ไม่ว่าคุณจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นแค่ภาษาที่สอง หรือจะเป็นมืออาชีพด้านภาษาอังกฤษเชิงธรุกิจ เรารวบรวมทุกอย่างไว้ให้คุณแล้วในบทความนี้

ประโยคทักทายทั่ว ๆ ไปในภาษาอังกฤษ

คนที่พูดภาษาอังกฤษมักทักทายกันแบบเป็นกันเองด้วยประโยคธรรมดาทั่ว ๆ ไป คุณสามารถเริ่มต้นบทสนทนากับเพื่อน ๆ  ครอบครัว หรือแม้แต่กับผู้คนที่คุณพบเจอในชีวิตประจำวันปกติด้วยประโยคทักทายง่าย ๆ เหล่านี้

จะทำอย่างไรถ้าในชีวิตประจำวันของคุณไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ? คุณจะฝึกสำนวนเหล่านี้ได้อย่างไร?

FluentU คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ใช้กันจริง ๆ ในชีวิตทุกวันนี้  FluentU นำเสนอด้วยวิดีโอภาษาอังกฤษที่สามารถพูดได้ว่าเป็น real-world English videos อย่างแท้จริง แพลตฟอร์มของ FluentU จะเปลี่ยนภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอ ทอล์คโชว์ และวิดีโออื่น ๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาให้กับคุณ

คำบรรยายในทุกวิดีโอจะสามารถสื่อสารได้สองทิศทาง เพียงคุณคลิกที่คำในคำบรรยาย ความหมายของคำนั้นจะปรากฏขึ้นและมีการอ่านออกเสียงคำนั้นให้คุณได้ฟัง นอกจากนี้ยังมีบัตรคำศัพท์พร้อมแบบฝึกหัดเพื่อให้คุณสามารถจดจำคำต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

1. Hey, Hey man หรือ Hi

“hey” และ “hi” เป็นคำทักทายที่ถูกใช้แทนคำว่า “hello” ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มวัยรุ่น คุณสามารถใช้คำว่า “hi” ในบริบทที่เป็นกันเองได้ทุกสถานการณ์ แต่สำหรับคำว่า “hey” เราใช้เพื่อทักทายคนที่รู้จักกันแล้วเท่านั้น ถ้าคุณเผลอ “hey” กับคนแปลกหน้า เขาหรือเธออาจสับสนว่าเคยเจอหน้าอีตานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่!?  แต่หากเพื่อนของคุณเป็นผู้ชายคุณยังเติมท้าย “hey” ด้วยคำว่า “man” ได้อีก บางครั้งเราก็ใช้ “hey man” กับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าด้วยเหมือนกัน แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องสนิทสนมกับเธอเป็นอย่างดี โปรดจำไว้ว่า “hey” อาจไม่ใช่ “hello” เสมอไป เพราะบางครั้งเราใช้ “hey” แค่เพื่อเรียกความสนใจจากใครบางคน

2. How’s it going? หรือ How are you doing?

“How are you?” เป็นคำทักทายที่ใช้กันในบริบททั่ว ๆ ไป แต่ถ้าคุณอยากให้สุภาพเป็นพิเศษในความหมายที่ไม่ต่างกับ “how are you” คุณสามารถทักทายด้วยสองคำถามนี้ “how’s it going?” หรือ “how are you doing?” ซึ่งโดยปกติคำว่า “going” มักจะถูกทอนเสียงให้สั้นลงเป็น “go-in” หากมีใครทักทายคุณด้วยสองคำถามนี้คุณสามารถตอบกลับไปว่า “it’s going well” หรือ “I’m doing well” ซึ่งขึ้นอยู่กับคำถาม แต่ก็อีกนั่นแหละคนส่วนใหญ่มักจะตอบกันว่า “good” แม้มันจะไม่ถูกหลักไวยากรณ์ก็ตาม  มันก็เหมือนกับการถูกถามด้วย “how are you?” แล้วคุณต่อท้ายคำตอบด้วยการถามกลับไปว่า “and you?” นั่นแหละ!

3. What’s up?, What’s new? หรือ What’s going on?

สามสำนวนนี้คือ “how are you?” แบบเป็นกันเอง ซึ่งโดยปกติเราใช้มันเพื่อทักทายคนที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่มักตอบว่า “nothing” หรือ “not much” แต่ถ้าคุณอยากเจรจาพาทีด้วยสักหน่อย คุณก็อาจอธิบายสั้น ๆ ได้ว่ามีอะไรใหม่หรือมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นกับคุณบ้าง ก่อนที่จะปิดท้ายบทสนทนาด้วยคำถามว่า “what about you?”

4. How’s everything ?How are things? หรือ How’s life?

นี่ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ “how are you?” ในบริบทที่ไม่เป็นทางการสำหรับคนที่รู้จักกันมาก่อนแล้ว ต่างกันก็แค่คำถามพวกนี้คุณอาจจะตอบว่า “good” หรือ “not bad” หรืออะไรทำนองนั้น และอีกเช่นกันคุณอาจจะอยากแชร์อะไรดี ๆ ไปสั้น ๆ แล้วปิดด้วย “what about you?” หรือ…สำนวนอื่นบ้างก็ได้!

5. How’s your day? หรือ How’s your day going?

คำถามเหล่านี้คือ “how are you?” เช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่หมายถึงตอนนี้เป็นอย่างไรแต่หมายถึงวันนี้เป็นอย่างไร เราใช้สองคำถามนี้เพื่อทักทายคนที่เราเจอกันอยู่เป็นประจำ เช่น คุณเจอเพื่อนร่วมงานคุณตอนบ่ายคุณอาจทักทายว่า “how’s your day going?” หรือทุกเย็นที่คุณแวะร้านขายของชำคุณอาจทักทายแคชเชียร์ว่า “how’s your days?” เป็นต้น  แม้ “It’s going well” จะเป็นคำตอบรับที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่หลายคนก็ตอบว่า “fine”, “good” หรือ “alright” และอันที่จริงคุณจะสังเกตเห็นว่า “good”, “fine” และ “not bad” ยังเป็นคำตอบรับครอบจักรวาลที่เราใช้กันเกือบทุกคำทักทายอีกด้วย

หากคุณเจอเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัวที่ห่างกันไปสักพักหนึ่ง คุณจะสวมกอดพวกเขาและทักทายซึ่งกันและกันด้วยสองสำนวนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่นาน ๆ เจอกันที คุณสามารถใช้สองสำนวนนี้พร้อมกับจับมือกันหรือโอบกอดกัน ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน

7. Long time no see หรือ It’s been a while

คำทักทายที่ไม่เป็นทางการเหล่านี้ จะใช้เมื่อคุณไม่ได้เจอใครเป็นระยะเวลานาน ๆ และนานกว่าในข้อที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังเอิญเจอกัน แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่านานล่ะ?–นั่นก็ขึ้นอยู่กับความถี่ที่คุณเจอกันเป็นปกติ เช่น ปกติคุณเจอกันทุกสัปดาห์ แต่อยู่ ๆ เขาก็หายหน้าไปสัก 2-3 เดือนหรือมากกว่า เมื่อคุณเจอกันคุณสามารถทักทายด้วยหนึ่งในสองสำนวนนี้ได้ โดยทั่วไปสองสำนวนนี้จะไม่พูดกันลอย ๆ แต่จะตามด้วยคำถามเช่น “how are you?” “how have you been?” หรือ “what’s new?”

คำทักทายทางธุรกิจและคำทักทายอย่างเป็นทางการ

เป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นด้วยการกล่าวคำทักทายอย่างเป็นทางการในสถานการณ์ทางธุรกิจ แล้วคอยฟังว่าคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจของคุณจะทักทายคุณอย่างไร คุณควรรอจนกว่าจะมีคนพูดกับคุณด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการก่อน แล้วคุณจึงจะเริ่มใช้ภาษาที่ดูเป็นกันเองมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเมื่อคุณได้รู้จักกันไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามการทักทายผู้ที่อาวุโสกว่าก็ควรใช้คำทักทายที่เป็นทางการจะดีที่สุด

8. Good morningGood afternoon หรือ Good evening

คำทักทายเหล่านี้เป็นวิธีที่เป็นทางการในการพูดว่า “hello” ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน แต่โปรดจำไว้ว่า “good night” คือคำว่า “good bye” ดังนั้นหากคุณเจอใครตอนกลางคืนอย่าเผลอใช้คำว่า “good night” แต่ให้ใช้ “good evening” แทน  สำหรับคำว่า “good morning” สามารถทำให้ดูเป็นกันเองมากขึ้นโดยใช้แค่คำว่า “morning” เฉย ๆ  และคุณยังสามารถใช้แค่ “afternoon” หรือ “evening” ได้เช่นกันแต่มันไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

9. It’s nice to meet you หรือ Pleased to meet you

นี่เป็นคำทักทายที่เป็นทางการและมีความสุภาพมาก คุณสามารถแสดงมารยาทกับใครบางคนเมื่อคุณพบเขาหรือเธอเป็นครั้งแรกด้วยคำทักทายเหล่านี้  ขอย้ำว่า ใช้ทักทายเขาหรือเธอในครั้งแรก ที่เจอกันเท่านั้น และในครั้งต่อไปคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณยังจำเขาหรือเธอได้โดยใช้ประโยคนี้ “it’s nice to see you again”

10. How have you been?

หากคุณเจอคนรู้จักแล้วเขาทักทายคุณว่า “how have you been?” นั่นหมายถึง เขาต้องการทราบว่าคุณยังสบายดีอยู่ใช่ไหมนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

คำทักทายนี้มีความเป็นทางการสูงมาก จนแทบจะไม่มีใครใช้กัน แต่ก็ยังใช้กันอยู่บ้างในกลุ่มผู้ใหญ่ การตอบรับที่เหมาะสมสำหรับคำถามนี้คือ “I’m doing well” แต่ที่ดูเหมือนจะแปลกไปสักหน่อยก็คือ บางคนมักตอบกลับไปว่า “how do you do?” หลังจากโดนถาม!

คำสแลงที่ผู้คนใช้ทักทายกัน

คำสแลงควรใช้กับคนที่คุณรู้จักเป็นอย่างดีและรู้สึกสนิทสนมด้วยมาก ๆ เท่านั้น พึงระลึกเสมอว่าคำสแลงเป็นภาษาประจำถิ่น ซึ่งนั่นหมายถึงออสเตรเลียนสแลง อาจจะแสลง หูในอเมริกา–อะไรประมาณนั้น!  ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดคุณจำเป็นต้องเรียนรู้ศัพท์สแลงของท้องถิ่นนั้น เพราะความหมายอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ตัวอย่างพวกนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้

12. Yo!

การทักทายกวน ๆ นี้ใช้กันติดปากมากในอเมริกาโดยเริ่มมาจากกลุ่ม hip-hop ยุค 90  และทุกวันนี้มันมักใช้แบบติดตลกในกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันมาก ๆ  จำไว้ว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่คุณจะ Yo! ใส่ใครหากคุณไปเจรจาธุรกิจกับเขา

13. Are you OK?You alright? หรือ Alright mate?

คำทักทายสั้น ๆ ง่าย ๆ นี้เป็นการสื่อความหมายผสมกันของทั้ง “hello” และ “how are you” และนิยมใช้กันในประเทศอังกฤษ คุณสามารถตอบรับด้วยคำว่า “yeah, fine” หรือที่ง่ายกว่าก็ “alright”

14. Howdy!

นี่เป็นคำย่ออย่างไม่เป็นทางการของคำว่า “how do you do?” บางที่ในแคนาดาและสหรัฐมักชอบใช้คำนี้ แต่หากคุณ “howdy” ในที่อื่น ๆ คุณอาจจะถูกมองว่าเป็นคาวบอยหรือไม่ก็ตัวตลก–เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

15. Sup? หรือ Whazzup?

นี่เป็นคำย่อของ “what’s up?” ซึ่งใช้กันทั่วไปในหมู่วัยรุ่น เช่นเดียวกับ “what’s up?” คุณสามารถตอบกลับไปว่า “nothing” หรือ “not much”

G’day ย่อมาจากคำทักทายของออสเตรเลียว่า “good day” คำทักทายของออสเตรเลียมักจะโดนทอนให้สั้นแบบนี้ เช่น “ya” ใช้แทน “you” ดังนั้น “how are ya?” ก็คือ “how are you?”  ส่วน “how are ya going?” โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับ “how’s it going?” หรือ “how are you doing?” นั่นเอง

17. Hiya!

ภาคขยายของ Hiya! ก็คือ “how are you?” ซึ่งใช้กันทั่วไปในบางพื้นที่ของอังกฤษ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ด้วยคำตอบจริง ๆ หรอก–แค่ “hey!” กลับไปก็พอ

ขอบคุณข้อมูลจาก fluentu.com


4 เทคนิค มัดใจลูกค้าด้วยบริการแม้จากระยะทางไกล

4 เทคนิค มัดใจลูกค้าด้วยบริการแม้จากระยะทางไกล

Infobip แนะทักษะแห่งยุคดิจิทัล  4 เทคนิค มัดใจลูกค้าด้วยบริการที่เหนือระดับ แม้จากระยะทางไกล

การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เป็นข้อกำหนดหลักที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ในการที่จะช่วยรักษาลูกค้าให้กลับมาใช้บริการ สร้างความพึงพอใจ กระตุ้นการขายจากสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง (cross-selling) และเพิ่มยอดขายปัจจุบัน (up-selling) ให้แก่ธุรกิจได้ ดังนั้นบริษัท ไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ จำเป็นต้องมีการจัดการเชิงรุกและลงทุนด้านการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อที่จะขับเคลื่อนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คนเราเน้นการเพิ่มระยะห่างและลดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันนี้ได้

4 เทคนิค มัดใจลูกค้าด้วยบริการแม้จากระยะทางไกล

ไม่ว่าคุณจะชอบใจหรือไม่ก็ตาม คุณก็หลีกหนีความจริงไม่ได้ว่า เทคโนโลยีดิจิทัล ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันและคืบคลานเข้าไปในวัฒนธรรมการทำงานทั่วโลกเสียแล้ว ประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน ที่การบริการที่มุ่งสนองความต้องการของลูกค้าแบบทันใจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce platforms) เช่น แกร็บ ไลน์แมน ลาซาด้า และ ช้อปปี้  ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและใช้งานแพร่หลายในทุกภาคส่วน ดังนั้นการมีพนักงานที่รู้วิธีจัดการกับความพึงพอใจของลูกค้าและใช้เครื่องมือสื่อสารออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของบริษัท

ผลการสำรวจล่าสุด จาก Infobip พบว่า ประโยชน์หลักของการใช้รูปแบบการทำงานทางไกลและการใช้ทักษะเชิงดิจิทัล มาจากการเปลี่ยนสู่รูปแบบการทำงานจากที่บ้านได้อย่างราบรื่น (54%) และการมีความสามารถในการรับมือกับความต้องการด้านปริมาณงานได้ดีขึ้น (51%)

วันนี้ เรานำเสนอ 4 เทคนิค จาก Infobip ที่จะช่วยเสริมการบริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอ ในทุกที่ ทุกเวลา เพื่อให้คุณและธุรกิจของคุณมีชัยเหนือใคร

1)           รู้ลึก ช่องทางที่ลูกค้าเลือกใช้

คุณคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดของการรับมือกับการสื่อสารและการดูแลลูกค้าคืออะไร? แน่นอนว่าคำตอบคือ การเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางที่พวกเขาชื่นชอบและใช้บ่อยครั้งที่สุดนั่นเอง รายงานจาก Infobip พบว่า บริษัทธุรกิจในประเทศไทยบริหารการดูแลลูกค้าส่วนใหญ่ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram (78%), อีเมล (67%), โทรศัพท์สายด่วน Call Centre (51%), ตอบคำถามผ่านเว็บไซต์ (41%), Whatsapp Business (29%) และ Viber (19%)

ดังนั้น บริษัทต้องไม่เพียงลงทุนในหลากหลายช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมกับตลาดกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น แต่รวมถึงการสรรหาวิธีต่าง ๆ ที่สามารถช่วยในการตอบสนองต่อความต้องการด้านการสื่อสารที่สะดวกที่สุดให้แก่ลูกค้าด้วย ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

2)           ใช้วิธีง่าย ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น

เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินงานของธุรกิจยังเป็นรูปแบบทำงานจากทางไกล ดังนั้นธุรกิจอาจประสบปัญหาด้านการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (CX) โดยในประเทศไทยเราพบว่า กว่าครึ่งของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามให้ความเห็นว่า การเพิ่มขึ้นของช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า การบริหารช่องทางใหม่ ๆ และความไม่คุ้นเคยกับช่องทางใหม่ ๆ คือสองความท้าทายหลักที่พวกเขาเผชิญจากการทำงานแบบทางไกลและการจัดการปัญหาเรื่องการให้บริการลูกค้า ผลลัพธ์ที่ได้นี้แสดงให้เห็นว่า ต่อไปนี้ประเด็นหลักที่เราต้องคำนึงถึง คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิคและการพัฒนาทักษะสำหรับเทคโนโลยีที่จำเป็นให้แก่พนักงาน

และจะเป็นการดีกว่าไหม หากบริษัทสามารถเลือกเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช่ ที่จะช่วยเปลี่ยนและพัฒนาพนักงานด้านการดูแลลูกค้าได้? จริงอยู่ที่วิธีแก้ปัญหาด้านการให้บริการลูกค้าที่สามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าไปให้บริการและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้สะดวกขึ้นนั้นมีอยู่มากมาย แต่หากคุณต้องการลงทุนด้านนี้ระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ด้วยแล้วล่ะก็ กลยุทธ์เสริมสร้างการสื่อสารและเชื่อมโยงระหว่างหลายช่องทางแบบ omnichannel เป็นวิธีที่คุณไม่ควรพลาด ดูตัวอย่างง่าย ๆ จาก Conversations ศูนย์ Contact Centre ออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์ของ Infobip ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและตัวแทนผ่านหลายช่องทางที่เชื่อมต่อกันแบบ Omnichannel ภายในพื้นที่ทำงานเดียวกันแบบเรียบง่ายและราบรื่น

3)           เสริมสร้างทักษะและความรู้ทางดิจิทัลให้แก่พนักงาน

การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทจึงควรให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาพนักงานด้านการดูแลลูกค้าสำหรับการทำงานทางไกล – เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นเมื่อเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึง ซึ่งสามารถทำได้ผ่านระบบฝึกอบรมออนไลน์ด้านการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า หรือ CX Software ที่จะช่วยให้พนักงานจัดการกับความต้องการของลูกค้าจากทางไกลได้โดยรวมรวบผ่านระบบเดียว

การฝึกอบรมนี้เป็นจุดสำคัญมากสำหรับประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งที่แสดงความคิดเห็นว่า การฝึกอบรมพนักงาน (56%) การเตรียมความพร้อมสำหรับระบบใหม่ (51.67%) และการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากระบบเดิม (55%) เป็นข้อพิจารณาหลักเมื่อนำระบบการดูแลลูกค้าแบบดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ และหากบริษัทสามารถสร้างทักษะที่จำเป็นให้แก่พนักงาน เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน และฝึกอบรมให้สามารถใช้ระบบการดูแลลูกค้าแบบดิจิทัลใด้อย่างคล่องแคล่วและเต็มรูปแบบ จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับการดูแลและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าของบริษัทในประเทศไทยอย่างแน่นอน

4)           ชูความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ในทุกจุดสัมผัสดิจิทัล

เนื่องจากปัจจุบันมีการเคลื่อนย้ายแพลตฟอร์มการให้บริการลูกค้าและบริการหลังการขายไปสู่ออนไลน์อย่างรวดเร็ว ดังนั้นประเด็นเรื่องความปลอดภัยจึงกลายเป็นจุดสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้การบริการลูกค้าบางประเภทต้องอาศัยการป้อนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อสามารถให้บริการได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Infobip พบว่า 20% ของลูกค้าจะไม่ตัดสินใจซื้อหากพวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยกับการให้ข้อมูลส่วนตัว ดังนั้น การย้ำให้ลูกค้ามั่นใจโดยใช้มาตรการป้องกันข้อมูลต่าง ๆ เช่น การใช้การยืนยัน 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication (2FA)) และการใช้เทคโนโลยีระบุตัวตนแบบ Biometrics จึงนับเป็นส่วนสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของระบบ Customer Service แบบอัตโนมัติ

โดยรวมๆแล้ว การใช้เครื่องมือใหม่ๆมาใช้ และการเสริมทักษะทางดิจิทัลอาจนำไปสู่ความท้าทายภายในบริษัทอื่น ๆ อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องการจัดการพนักงานและการปรับระบบการทำงาน แต่เราก็หลีกหนีความจริงไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคแห่งดิจิทัลนั้นมาถึงแล้วและจะอยู่กับเราต่อไปอย่างแน่นอน ดังนั้นบริษัทควรใช้โอกาสนี้เพื่อพัฒนา เติบโต และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการดูแลลูกค้า และมุ่งเป้าในการสร้างประสบการณ์ที่ดีในรูปแบบดิจิทัลให้แก่ลูกค้า ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในประเทศ แต่ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ที่จะเข้ามาถึงเราได้ ในเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสมัยดิจิทัลแห่งนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ผักหวานป่า ดี มีประโยชน์ สารอาหารสูงปรี๊ดดดดด

“ผักหวานป่า” หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Melientha suavis Pierre เป็นพืชในวงศ์ Opiliaceae มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง อายุยืน โดยใบมีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ใบอ่อนมีสีเขียวปนเหลือง รูปร่างแคบรี ปลายใบแหลม ใบแก่เต็มที่มีลักษณะคล้ายรูปไข่และสีเขียวเข้ม ช่อดอกของผักหวานป่าคล้ายกับช่อดอกมะม่วงหรือลำไย ผลของต้นเป็นผลเดี่ยวและติดกันเป็นพวงเหมือนมะไฟ เมื่อผลแก่เต็มที่จะมีสีเหลืองอมส้ม ทั้งนี้ ส่วนของต้นที่คนมักนิยมนำมารับประทานได้แก่ ส่วนของยอด ใบอ่อนและช่อผลอ่อน ๆ ส่วนผลที่แก่เต็มที่นั้นก็สามารถนำเมล็ดมารับประทานได้เหมือนเมล็ดขนุน

“ผักหวานป่า” เป็นผักที่สามารถเก็บได้เฉพาะฤดูเท่านั้น โดยจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ก็ยังอาจมีประปรายบ้างในช่วงนอกฤดู แต่จะมีราคาสูง เหตุผลที่ทำให้ผักชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมก็เพราะผักหวานป่ามีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยบำรุงร่างกาย และยังมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง แก้ท้องผูก ชะลอความแก่ชรา และที่สำคัญคือมีรสชาติอร่อย

ผักหวานป่า สรรพคุณทางยาเริ่ดอย่าบอกใคร

ด้านสรรพคุณทางยา ผักหวานป่าถูกนำมาใช้เป็นยาแพทย์แผนไทยกันมาช้านาน โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำรากและใบมาใช้รักษาโรค อาทิ รักษาแผล บรรเทาอาการปวดในข้อ แก้ปวดหัว แก้ปวดท้อง ฤทธิ์เย็นที่มีในรากของผักหวานป่า ก็สามารถนำมาถอนพิษ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษไข้ และบรรเทาอาการน้ำดีพิการได้ ส่วนยางของต้นก็นิยมนำมาใช้เป็นยากวาดคอเด็ก และแก้ลิ้นเป็นฝ้าขาว

ส่วนในเรื่องการบำรุงร่างกาย ผักหวานป่าก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เริ่มกันที่แคลเซียมและฟอสฟอรัสในผักหวานป่าสามารถช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทำให้กระดูกไม่เปราะหักง่าย ส่งผลให้การยืดหดของกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งวิตามินซีก็สูง ป้องกันสารอนุมูลอิสระมาทำลายเซลล์ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากแสงแดด และช่วยไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย

ขณะที่เบต้าแคโรทีนที่มีมากในผักหวานป่าก็ยังดีต่อสายตา ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงตาบอดกลางคืน พ่วงด้วยวิตามินบี 2 ที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ปิดท้ายด้วยไฟเบอร์ที่มีในปริมาณค่อนข้างสูง ทำให้ผักหวานป่ามีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ยิ่งใครที่มีอาการท้องผูกบ่อย ๆ หากรับประทานผักหวานเป็นประจำ จะทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้น

เรามาปลูกผักหวานป่า ไว้กินเอง และสร้างรายได้เสริมกันแบบเก๋เก๋ดีกว่าจ้า

วัสดุ-อุปกรณ์ช่วยปลูก
1.เมล็ดผักหวานป่าที่งอกแล้ว ขนาดเท่าถั่วงอก (จากการแช่น้ำ และนำไปเพาะในถาดเพาะหรือวัสดุอื่น ๆ )
2.ค้อน
3.แท่งเหล็กเส้นรอบวงขนาดไม่เกิน 3 ซม.
4.ขวดพลาสติกตัดทะลุ สำหรับครอบ
5.ผ้าตาข่าย

วิธีการปลูก
1.เมื่อเมล็ดผักหวานป่างอกขึ้นในถุงเพาะตามปกติ มีขนาดเท่ากุ้งขดตัว หรือ มีรากออกมาเท่าถั่วงอก ให้ดึงเมล็ดผักหวานป่าขึ้นมาจากถุงเพาะ
2.ใช้ค้อนตอกแท่งเหล็กที่เตรียมไว้ ให้ลึกประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แล้วหย่อนเมล็ดผักหวานป่าลงไป ให้รากจมดิน ถมดินกลบทับให้แน่น นำเศษใบไม้มาปกรอบ แล้วใช้แก้วพลาสติกครอบทับไว้
3.หาไม้ไผ่มาปัก เป็น 3 มุม แล้วใช้ตาข่ายหุ้มให้รอบ เป็นอันเสร็จ ปล่อยไปโตตามธรรมชาติ
4.วิธีนี้เป็นการปลูกเลียนแบบธรรมชาติ ที่ผักหวานป่าขึ้นตามป่าเขาโดยอาศัยน้ำฝนและไม่มีใครให้ปุ๋ย ก็ยังโตได้ตามปกติ แบบนี้ก็เช่นกัน ปลูกเสร็จแล้วก็ปล่อยได้ทันที ให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ เมื่อต้นผักหวานโตพ้นแก้วพลาสติก จึงค่อยเปิดผ้าแล้วปล่อยให้เจริญเติบโตต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก rakbankerd.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 90% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 80% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 50% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 40% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a n/a n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 06/05/2564

ราคาน้ํามัน ปตท
ปตท.
ราคาน้ํามัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 27.25 27.25 27.55 27.25 27.25 27.25 27.25 27.25 27.25 27.25
แก๊สโซฮอล์ 91 26.98 26.98 27.28 26.98 26.98 26.98 26.98 26.98 26.98 26.98
แก๊สโซฮอล์ E20 25.74 25.74 26.04 25.74 25.74 25.74 25.74 25.74 25.74
แก๊สโซฮอล์ E85 21.49 21.49 21.49
เบนซิน 95 34.66 35.11 35.16 34.66 34.66
ดีเซล B7 27.09 27.09 27.39 27.09 27.09 27.09 27.09 27.09 27.09 27.09
ดีเซล 24.09 24.09 24.39 24.09 24.09 24.09 24.09 24.09 24.09 24.09
ดีเซล B20 23.84 23.84 24.34 23.84 23.84 23.84 23.84
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.76 31.86 33.84 33.16 31.76
แก๊ส NGV 13.49 13.49 13.49
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า