สาระน่ารู้ประจำวันที่ 05 มีนาคม 2567

เฟรเซอร์สฯพลิกโฉมสาทร สแควร์–ปาร์คเวนเชอร์ดึงผู้เช่าก่อนซัพพลายล้นตลาด

เฟรเซอร์สฯรับมือซัพพลายล้นตลาดอาคารสำนักงานปรับโฉม สาทร สแควร์ – ปาร์คเวนเชอร์ ผ่านโครงการ Asset Enhancement Initiative (AEI)ตอกย้ำอาคารสำนักงานเกรด A

นายวิทวัส คุตตะเทพ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เผยถึงโครงการยกระดับคุณภาพอาคาร หรือ Asset Enhancement Initiative (AEI) ว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม

 โดยยึดถือแนวคิด AEI ตามแนวทางการดำเนินงานของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีประสบการณ์การบริหารสินทรัพย์ทั่วโลก โดยการขับเคลื่อนโครงการ AEI เพื่อปรับโฉมโครงการสาทร สแควร์ – ปาร์คเวนเชอร์ ทั้ง2แห่งพร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคารและเพิ่มประสิทธิภาพของอาคารให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าองค์กรชั้นนำมองหา

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันท่ามกลางสภาวะตลาดอาคารสำนักงานในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2567 – 2569จะมีซัพพลายพื้นที่อาคารสำนักงานเติมเข้ามาในตลาดอีก 1.8 ล้านตารางเมตร

สำหรับโครงการ AEI ที่อาคารสำนักงานทั้ง 2 แห่งนี้ครอบคลุมการอัปเกรดในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ โดยมีการนำเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะที่ล้ำสมัยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอาคารและผู้ใช้อาคาร เมื่อแล้วเสร็จจะได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ จุดบริการตนเองในการลงทะเบียนเข้าอาคารสำนักงาน (Self check-in kiosks) อาคารจอดรถระบบอัจฉริยะ ที่อำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วให้กับผู้ใช้อาคาร 

ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ในการเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อส่งเสริมด้านความปลอดภัย และการติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร Indoor Air Quality (IAQ)  นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนของทั้ง 2 อาคาร โดยการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดการใช้พลังงานมาใช้เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดไฟประหยัดพลังงานและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สร้างพลังสะอาดภายในอาคาร บริษัทฯ ยังคำนึงถึงการสร้างบรรยากาศโดยรวมให้ทันสมัย ปลอดโปร่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพของพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น

จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมี.ค.สำหรับอาคารสาทรสแควร์ และ เดือนเม.ย.ในส่วนของอาคารปาร์คเวนเชอร์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.-ต.ค. 2567 ตามลำดับ

โครงการ AEI ที่อาคารสาทร สแควร์ และปาร์คเวนเชอร์เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของบริษัทฯ  ในการเป็นผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ที่คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลักเพื่อส่งมอบการบริการที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การใช้นวัตกรรมในการออกแบบอาคาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารที่ล้ำสมัย ไปจนถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ มุ่งมั่นในการรักษามาตรฐาน คุณภาพ ส่งมอบพื้นที่พร้อมเซอร์วิสโซลูชันอย่างครบครันและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานทุกกลุ่ม หรือ Space-as-a-Service เพื่อตอกย้ำการเป็น Real Estate as a Service brand ในประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


5ปัจจัยในการเลือกซื้อคอนโดปล่อยเช่า

“แอล ดับเบิลยู เอสฯ” แนะ 5 ปัจจัยในการเลือกซื้อคอนโดปล่อยเช่าตอบโจทย์พฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ที่นิยมเช่ามากกว่าซื้อ

ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือแอล ดับเบิลยู เอสกล่าวถึงแนวโน้มการซื้อที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ว่า  จากผลการสำรวจพฤติกรรมการอยู่อาศัยในอาคารชุดพักอาศัยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาของทีมวิจัยด้านงานบริการ (Service  Design Center: SDC) ของแอล ดับเบิลยู เอส พบกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y & Gen Z (First Jobber) ในปัจจุบันมีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าการซื้อโดยผลการสำรวจพบว่า คนในกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็นผู้เช่ากว่า 50% และมีกำลังจ่ายค่าเช่าเฉลี่ย 6,000-10,000 บาท/เดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 20,000-40,000 บาท

 เนื่องจากคนในกลุ่มนี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิต ที่มีแนวโน้มอยู่คนเดียวมากขึ้น และชอบที่อยู่อาศัยที่มีความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยี่ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบผสมผสาน(Hybrid Work) มีความยืดหยุ่น(Flexible) ในการทำงานและการใช้ชีวิต ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการภาระค่าใช้จ่ายที่สูง ที่จะกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน การเช่าจึงตอบโจทย์มากกว่าการซื้อที่อยู่อาศัยที่ปัจจุบันมีระดับราคาที่สูงขึ้นตามภาวะของราคาที่ดิน และต้นทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น 

จากรายงานการวิจัยของ แอล ดับเบิลยู เอส พบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2566 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.49 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 24% จากราคาเฉลี่ยที่ 4.43 ล้านบาทต่อหน่วยในปี 2565  ราคาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น สูงกว่าความสามารถในการซื้อของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ทำให้คนกลุ่มนี้เลือกที่จะเช่ามากกว่าที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนซึ่งปัจจุบันมากกว่า  65% ของผู้ซื้อเพื่อการลงทุนเป็นกลุ่มคนใน Gen X และ Baby Boomer ในการเลือกซื้ออาคารชุดพักอาศัยเพื่อการลงทุนสร้างรายได้จากการเช่า ที่ให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 4-6% ขึ้นอยู่กับทำเล

  
จากพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้เช่าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้เช่าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก สามารถตอบสนองกับความต้องการอยู่อาศัยเพียงลำพัง ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและเทคโนโลยี่ การเลือกซื้อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะอาคารชุดพักอาศัยสำหรับกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นนักลงทุนจึงควรจะคำนึงถึงความต้องการของผู้เช่า จากผลการสำรวจพฤติกรรมของผู้เช่าของ แอล ดับเบิลยู เอส พบว่า มี 5 ปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนาและการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการปล่อยเช่าที่ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้เช่า ดังต่อไปนี้

1. ทำเลที่มีศักยภาพ  
เป็นปัจจัยแรกที่นักลงทุนต้องพิจารณาและประเมินให้ดีเพราะเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดมูลค่าของอาคารชุดควรเลือกลงทุนอาคารชุดในทำเลที่มีศักยภาพตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่ม Gen Y & Gen Z โดยเฉพาะใกล้แนวรถไฟฟ้า และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และจากการสำรวจของ แอล ดับเบิลยู เอส พบว่า พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยกว่า 90% พิจารณาเลือกที่อยู่อาศัยจากความสะดวกในการเดินทางไป-กลับสถานที่ทำงาน/สถานศึกษา ไม่เกิน 5 กิโลเมตร หรือเดินทางไม่เกิน 20 นาที และกรณีเมื่อเช่าแล้ว จะเป็นการเช่าระยะยาวไม่เปลี่ยนที่อยู่อาศัย เนื่องจากความเคยชินในพื้นที่นั้นๆ  
 
2. ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทบริหารอาคารมืออาชีพ  
ควรเลือกอาคารชุดของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าเชื่อถือเป็นที่รู้จักในตลาด และมีแนวคิดในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง การอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน รวมถึงการให้บริการหลังการขายต่างๆ ผ่านช่องทางเทคโนโลยี่และทีมงานบริษัทบริหารอาคารที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง สามารถเพิ่มมูลค่า (Value Added) ในโครงการเป็นอย่างดี จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และทำให้ปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น  
  
3. การพัฒนาห้องชุดแบบSMART LIVING

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในพื้นที่ส่วนกลาง  จากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญต่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย โดยมากกว่า 50% ต้องการอุปกรณ์ IoT ที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในที่พักได้ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ความต้องการคนรุ่นใหม่ คือ CO -WORKING SPACE พร้อม WIFI รองรับการทำงานแบบ HYBRID WORK มีทั้งแบบนั่งคนเดียว และแบบกลุ่ม, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ตู้บริการอัตโนมัติ และควรเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และช่วยดึงดูดกลุ่มผู้เช่ามากขึ้น พร้อมปรับราคาค่าเช่าให้สูงขึ้นได้  
 

4. นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ  

ควรเลือกใช้บริการกับผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการจัดการการเช่า หรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมืออาชีพให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การตลาด คัดกรองผู้เช่าที่มีศักยภาพได้ และปล่อยเช่าได้อย่างรวดเร็ว จากผลการสำรวจของแอล ดับเบิลยู เอส พบว่า  48% ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าเรื่องการหาช่างซ่อมแซม/ติดตั้งอุปกรณ์เป็นเรื่องยุ่งยากของผู้อยู่อาศัยในอาคารชุด ถัดมา 44%คือ การขนย้ายสิ่งของ เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดและต้องการผู้ช่วยเหลือ ดังนั้นการมีผู้ช่วยมืออาชีพอำนวยความสะดวกดูแลประสานงานแทนนักลงทุนได้ ตั้งแต่วัน CHECK-IN จนถึงวัน CHECK-OUT เป็นอีกเรื่องที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม 
 
5. บริการพิเศษสำหรับผู้เช่า  

นอกเหนือจากการตกแต่งและดูแลรักษาห้องปล่อยเช่าให้อยู่ในสภาพดีน่าอยู่แล้ว นักลงทุนควรจัดให้มีบริการพิเศษระหว่างการเช่า เช่น บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายล้างแอร์ ทุก 6 เดือน มีแม่บ้านทำความสะอาด 1 ครั้งภายในระยะสัญญาเช่า 12 เดือน นอกจากได้ความพึงพอใจจากผู้เช่าแล้วยังเป็นการดูแลรักษาห้องได้อีกทาง เสนอสิ่งจูงใจในการต่ออายุสัญญาเช่า เช่น ส่วนลดค่าเช่าหรือที่จอดรถฟรี จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เช่าปัจจุบันต่ออายุสัญญาเช่าได้ หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการหาผู้เช่ารายใหม่ทุกปี  

“5 ปัจจัยที่กล่าวถึงเป็นทางเลือกสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดพักอาศัย ที่ทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯ และผู้ซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนต้องคำนึงถึง” 

จากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่เราเรียกว่า Generation Rent เป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการเช่ามากกว่าซื้อ ดังนั้นการพัฒนาโครงการเพื่อขายให้นักลงทุนเพื่อปล่อยเช่า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของทั้งผู้ลงทุนและผู้เช่า

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 5มี.ค. “แข็งค่า”ที่ระดับ 35.74 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจแข็งค่าได้จำกัด หากผู้เล่นบางส่วนทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ และเงินเยนมองกรอบวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.95 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 5มี.ค. 2567ที่ระดับ  35.74 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.82 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า  แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงประเมินว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways down อย่างไรก็ดี การปรับตัวแข็งค่าสู่โซนแนวรับ 35.70-35.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงคืนที่ผ่านมา

อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ รวมถึงสกุลเงินต่างประเทศอย่างเงินเยนญี่ปุ่น JPY (ที่ช่วงนี้ได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทพอสมควร) ส่งผลให้ การปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทอาจเป็นไปอย่างจำกัดได้

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ดัชนี ISM ภาคการบริการ เพราะหากออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มลังเลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด หรือ ไม่ หรือ

ผู้เล่นในตลาดอาจมองว่า เฟดจะเลื่อนการลดดอกเบี้ยไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น และกดดันให้ ราคาทองคำที่เพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ ปรับตัวลงแรงได้

ซึ่งในกรณีดังกล่าว เงินบาทก็จะยิ่งเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการปรับฐานของราคาทองคำ จนมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้

เรายังขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.95 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 35.73-35.87 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำนั้นได้ส่งผลให้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำ และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนที่ช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อรอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส และรอลุ้นผลการเลือกตั้งขั้นต้น (Primaries) ในหลายรัฐ (Super Tuesday) เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันในการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งใหญ่ปีนี้

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะ ยอดการจ้างงาน ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.12%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.03% ตามแรงขายทำกำไร หลังดัชนี STOXX600 ได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้า ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนจากบรรดาหุ้นธีม AI/Semiconductor ที่ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นำโดย ASML +2.2% 

ในฝั่งตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 4.20% หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด

โดยเฉพาะ การแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่รีบปรับสถานะถือครองที่ชัดเจน อนึ่ง เราประเมินว่า หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 เช่น ยอดการจ้างงานออกมาแย่กว่าคาด อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงเชื่อมั่นว่า เฟดจะสามารถทยอยลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้ง ตาม Dot Plot ล่าสุด ทำให้ การปรับตัวขึ้นต่อของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เช่น ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4.50% อาจเกิดขึ้นได้ยาก และ

ถ้าจะเกิดขึ้นได้นั้นอาจต้องอาศัยมุมมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 3 ครั้ง หรือ ไม่ลดดอกเบี้ยลงเลย ดังนั้น Risk-Reward ของการเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวก็ยังคุ้มค่าอยู่ ทำให้เราคงมองว่า นักลงทุนสามารถทยอยเพิ่มสถานะการลงทุนได้ หรือนักลงทุนอาจรอจังหวะ Buy on Dip ก็ได้เช่นกัน

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ sideways โดยเงินดอลลาร์เผชิญกดดันอยู่บ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร (EUR) หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Confidence) นั้นออกมาดีกว่าคาด

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดก็อาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองเงินดอลลาร์มากนัก จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 103.8 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 103.7-104 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ กอปรกับแรงซื้อตามโมเมนตัมของผู้เล่นในตลาด ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำจุดสูงสุดใหม่ของปีนี้ ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ โดย ISM (Services PMI) เดือนกุมภาพันธ์ พร้อมกันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไปของเฟด และรอลุ้นผลการเลือกตั้งขั้นต้น (Primaries) ในหลายรัฐ หรือ ที่เรียกว่า Super Tuesday เพื่อหาตัวแทนพรรครีพับลิกันในการท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนี้

ส่วนในฝั่งไทย เราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป Headline CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ -0.70% (ตลาดคาด -0.80%) หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานเป็นหลัก ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ที่ไม่รวมผลของราคาพลังงานและอาหารสด อาจอยู่ที่ระดับ 0.50% ตามการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ใส่เกียร์หมาของแทร่! หนุ่มคว้าแชมป์มาราธอนเพราะโดนเจ้าตูบวิ่งไล่งับ 

หากใครเคยวิ่งมาราธอน ก็น่าจะรู้กันดีว่านอกเหนือจากความเร็วในการวิ่งแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างนั่นก็คือการรักษาระดับความเร็วของตัวเองให้คงที่อยู่ตลอดเส้นทาง

อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันมาราธอน Open Cross Country Tour ในประเทศเวียดนามเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นทำให้นักวิ่งอย่าง Nguyen Trung Cuong ไม่สามารถรักษาระดับความเร็วของตัวเองได้ แต่กลับต้องสปีดให้เร็วขึ้นกว่าเดิม

หลังในช่วงท้ายของการแข่งขัน Nguyen Trung Cuong ถูกหมาบนถนนแถว ๆ นั้นไล่กวด ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องสปีดสุดใจขาดดิ้นเพื่อไม่ให้เจ้าหมาตัวดังกล่าวถึงตัวของเขาได้

ซึ่งสุดท้ายแล้ว Nguyen Trung Cuong น่าจะต้องขอบคุณหมาตัวที่วิ่งไล่เขา เพราะมันทำให้เขาสปีดเร็วขึ้นจนเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 47 นาที 38 วินาที คว้าแชมป์รายการ Open Cross Country Tour ไปครอง

“เส้นทางวิ่งวันนี้ค่อนข้างดีเลยนะ แต่มันมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นนิดหน่อย ผมโดนหมาไล่กวดผม จนทำให้ระดับความเร็วของผมจาก 3:20 กลายเป็นต่ำกว่า 3 เลยล่ะ และจากนั้นผมก็เข้าเส้นชัยในเวลา 47 นาที 38 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่ดีเลยทีเดียว”

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รู้จักโรค LD แพทย์ห่วงเด็กไทยเข้ารักษาน้อยมาก

LD ย่อมาจากคำว่า learning disorder หรือในภาษาไทยใช้ชื่อว่า โรคการเรียนรู้บกพร่อง เป็นความผิดปกติของกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงออกทางด้านการอ่าน การเขียนสะกดคำ การคำนวณและเหตุผลเชิงคณิตศาสตร์ เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง ทำให้ผลการเรียนของเด็กต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง โดยที่เด็กมีสติปัญญาอยู่ในระดับปกติและมีความสามารถด้านอื่นๆปกติดี

แม้ในปัจจุบันความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเด็ก LD (Learning Disorder) หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ในประเทศไทยจะขยายวงกว้างมากขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ ยังมีผู้ปกครองและคุณครูจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด คิดว่าเด็ก LD ที่มีปัญหาด้านการอ่าน การเขียน การคำนวณ หรืออาจมีพฤติกรรมไม่สนใจและไม่มีสมาธิในการเรียน ทำงานช้าและไม่เสร็จ เป็นเด็กดื้อ เกเร Learning disorders หรือ Learning disabilities ทำให้เด็กไม่ได้รับการส่งเสริมทักษะเรียนรู้ที่ดีพอ จนอาจนำไปสู่การสร้างปัญหาต่าง ๆ ตามมาในอนาคตได้ง่าย ทั้งที่เด็ก LD หลายคนมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวเอง และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพในอนาคต หากได้รับการพัฒนาที่ตรงจุดและเหมาะสม

โรคการเรียนรู้บกพร่อง หรือ แอลดี แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่

1.ความบกพร่องด้านการอ่าน

ความบกพร่องด้านการอ่านเป็นปัญหาที่พบได้มากที่สุดของเด็ก LD ทั้งหมด เด็กมีความบกพร่องในการจดจำ พยัญชนะ สระ และขาดทักษะในการสะกดคำ จึงอ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านช้า อ่านออกเสียงไม่ชัด ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้ อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ จับใจความเรื่องที่อ่านไม่ได้ ทำให้เด็กกลุ่มนี้มีความสามารถในการอ่านหนังสือต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

2.ความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ

ความบกพร่องด้านนี้ส่วนใหญ่จะพบร่วมกับความบกพร่องด้านการอ่าน เด็กมีความบกพร่องในการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง บางครั้งเรียงลำดับอักษรผิด จึงเขียนหนังสือและสะกดคำผิด ทำให้ไม่สามารถแสดงออก ผ่านการเขียนได้ตามระดับชั้นเรียน เด็กกลุ่มนี้จึงมีความสามารถในการเขียนสะกดคำต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

3.ความบกพร่องด้านคณิตศาสตร์

เด็กขาดทักษะและความเข้าใจค่าของตัวเลข การนับจำนวน การจำสูตรคูณ การใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ จึงไม่สามารถคำนวณคำตอบจากการบวก ลบ คูณ หาร ตามกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ได้ เด็กกลุ่มนี้จึงมีความสามารถในการคิดคำนวณ ต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

อะไรคือสาเหตุของโรค LD ?

  • การทำงานของสมองบางตำแหน่งบกพร่อง โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการใช้ภาษา
  • กรรมพันธุ์ มีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องมีปัญหาเดียวกัน
  • ความผิดปกติของโครโมโซม

แพทย์สามารถวินิจฉัยเด็ก LD ได้อย่างไร?

การรวบรวมประวัติการเรียนและพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของเด็กแต่ละด้านเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบการวินิจฉัย รวมทั้งรายงานจากครูประจำชั้น การทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียน เด็ก LD จะมีความสามารถในการเรียนรู้ต่ำกว่าเพื่อนนักเรียนในชั้นอย่างชัดเจนและเป็นปัญหาที่กระทบต่อการเรียนอย่างต่อเนื่อง  เด็ก LD มีปัญหาทางจิตเวชอื่นๆ ที่พบร่วมกันได้ถึงร้อยละ 40 – 50 เช่น โรคสมาธิสั้น ความบกพร่องด้านภาษาและการสื่อสาร ปัญหาการประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อมือและสายตา  

ตัวเลขสถิติทั่วโลกตรงกันว่า 5% ของเด็กชั้นประถมเป็นโรค LD ถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อย โดยจะพบแบบรุนแรง 1-2% ส่วนที่เหลือ 3% เป็นแบบไม่รุนแรงสามารถช่วยตัวเองได้ ทั้งนี้ พบว่าเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงเป็น LD มีตัวเลขใกล้เคียงกัน แต่เด็กผู้ชายมักถูกส่งมาพบแพทย์มากกว่า เนื่องจากมีพฤติกรรมดื้อและซน ในขณะที่เด็กผู้หญิงมักจะเรียบร้อย ไม่ค่อยแสดงออก ส่วนโรคร่วมอย่างสมาธิสั้นจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงอย่างชัดเจน  

สิ่งที่น่ากังวลสำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยคือ พบว่ามีเด็ก LD เข้าสู่ระบบการช่วยเหลือของโรงพยาบาลจำนวนน้อยมาก เนื่องจากผู้ปกครองบางคนต้องทำงาน ไม่มีเวลา หรือบางคนมองว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ทั้งที่เด็กหลายคนมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัวเอง และเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพในอนาคต หากได้รับการพัฒนาที่ตรงจุดและเหมาะสม โดยการช่วยเหลือหากเริ่มตั้งแต่ยิ่งเล็กยิ่งดี

กระตุ้นทุกฝ่ายต้องพร้อมใจกันช่วยแก้ปัญหา

อันดับแรกคือ พ่อแม่ต้องเปิดใจ เพราะลูกเป็นโรคต้องการความช่วยเหลือ ไม่ได้เกเรหรือขี้เกียจ การหลบเลี่ยงเป็นผลที่ปลายเหตุ โดยกระบวนการรักษาจะแนะนำทั้งผู้ปกครอง ลูก และโรงเรียนตัวอย่างเช่น  โรงเรียนควรจัดทำแผนการเรียนรายบุคคลให้สอดคล้องกับระดับความบกพร่องของเด็กแต่ละด้าน โดยทำความเข้าใจกับครูถึงปัญหาและความบกพร่องของเด็ก เน้นการสอนเสริมในทักษะที่บกพร่อง เช่น การสะกดคำ อ่าน เขียน สอนเป็นกลุ่มย่อยหรือตัวต่อตัว ครั้งละ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 4-5 วัน การช่วยอ่านบทเรียนให้ฟัง เพื่อให้เด็กได้เนื้อหา ความรู้ ได้เร็วขึ้น การให้เวลาในการทำสอบเพิ่มขึ้น เพื่อให้เด็กมีเวลาเพียงพอในการ อ่านโจทย์ และเขียนตอบ จะช่วยให้เด็กเรียนได้ดีขึ้น และควรส่งเสริมทักษะด้านอื่นๆ ที่เด็กสนใจ เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ เพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

“ทั้งนี้ เด็ก LD ต้องการความช่วยเหลือตั้งแต่วัยเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้เชื่อว่าเขาทำได้ ไม่ได้เป็นคนล้มเหลว รวมถึงหาความสามารถพิเศษร่วมไปด้วยและต้องมีการฝึกฝน ที่สำคัญพ่อแม่ต้องมีทีมช่วยเหลือที่เข้มแข็ง คุณครูต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ดี เพื่อคัดกรองและประเมินเด็ก โดยรวมคือทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกัน ตั้งแต่ระดับครอบครัว โรงเรียน และผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยเหลือเด็ก เพื่อให้ได้รับการพัฒนาที่ตรงจุดและเหมาะสม” รศ.นพ.มนัท สูงประสิทธิ์ จิตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านจิตเวช BMHH หรือ  Bangkok Mental Health Hospital

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


past continuous ไม่ยากอย่างที่คิด พร้อมวิธีแยกฉบับเข้าใจง่าย

การเรียน Grammar เป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนรู้สึกท้อในการเรียนภาษาได้ เพราะมีหลักการที่ค่อนข้างเยอะ และหากไม่ทำความเข้าใจพื้นฐานให้ดีก่อน อาจจะทำให้เข้าใจในภาษา หรือโครงสร้างได้ยาก และแน่นอนว่าแม้จะเข้าใจยาก แต่การเรียน 12 Tense เป็นเรื่องที่ผู้เริ่มต้นทุกคนจำเป็นต้องเรียน วันนี้เราจะพามาทำความรู้จัก Past Continuous หนึ่งใน Tense ที่หากไม่ทำความเข้าใจโครงสร้างให้ดี อาจทำให้ผู้เรียนสับสนได้

โครงสร้างประโยค

Past Continuous Tense เป็นการอธิบายเหตุการณ์ที่ ‘กำลัง’ เกิดขึ้นในอดีต และเน้นย้ำความต่อเนื่องของเหตุการณ์ มักจะใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตโดยดำเนินมาสักพักหนึ่ง และใช้ในกรณีที่มี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต โดยจะมีโครงสร้าง ดังนี้

ประโยคบอกเล่า

“Subject + was,were + V.ing”

ตัวอย่างประโยค >> He was playing tennis yesterday.

ประโยคปฏิเสธ

“Subject + was,were not + V.ing”

ตัวอย่างประโยค >> He was not playing football yesterday.

ประโยคคำถาม

“Was,Were + subject + V.ing?”

ตัวอย่างประโยค >> Was he playing football yesterday?

รูปแบบคำตอบ >> Yes, I was./No, I wasn’t.

หลักการใช้ Past Continuous Tense

ก่อนที่จะไปดูหลักการใช้ มาทบทวนหลักการใช้ Was / Were กันก่อน นั่นคือ

I, He, She, It, A cat (ประธานเอกพจน์) : “was”

You, We, They, Dogs (ประธานพหูพจน์) : “were”

1.เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต

สามารถดูได้จากคำบอกเวลา ซึ่งจะต้องเจาะจงอย่างมาก เช่น

  • Yesterday (เมื่อวาน)
  • Last night  (เมื่อคืน)
  • At 10 o’clock (10 นาฬิกา)
  • At 10 a.m. yesterday (10.00 นาฬิกา เมื่อวาน)
  • At 11 p.m. last night (23.00 นาฬิกา เมื่อคืน)

ตัวอย่างประโยค >> “At 9 p.m. last night, I was reading a book.” 

(เมื่อคืนตอน 3 ทุ่ม ฉันกำลังอ่านหนังสือ)

2.เหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีต และมีอีกเหตุการณ์เข้ามาแทรก

  • เหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ใช้ Past Continuous (Subject + was,were + V.ing)
  • เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรกใช้ Past Simple (Subject + V.2)
  • คำเชื่อมที่มักจะใช้ ได้แก่ While (ขณะที่) / As (ขณะที่) / When (เมื่อ)

ตัวอย่างประโยค >> “While I was sleeping, the phone rang.” (ขณะที่ฉันหลับ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น)

เทคนิคการจำง่าย ๆ 

  • While / As + V.ing เสมอ
  • When / Before + V.2 แต่บางทีก็สามารถใช้กับ V.1 ก็ได้ ต้องดูจากบริบท หรือประโยคใกล้เคียงว่าเป็นอดีตหรือปัจจุบัน

3.เหตุการณ์ที่กำลังเกิดไปพร้อมกัน

  • โครงสร้าง “Subject + was,were + V.ing” ทั้ง 2 เหตุการณ์
  • คำเชื่อมมักจะใช้ While (ขณะที่) / As (ขณะที่)

ตัวอย่างประโยค >> “I was reading a book while my sisters were playing video games.”

(ขณะที่ฉันทำการบ้านอยู่ น้องสาวของฉันก็กำลังเล่มเกม)

ตัวอย่างกริยาที่ใช้กับ Past Continuous ไม่ได้

กริยาที่ใช้แสดงความรู้สึก 

  • believe เชื่อว่า
  • love  รัก
  • feel รู้สึก
  • suppose  สมมติว่า
  • hate  เกลียด
  • remember  จำได้
  • like  ชอบ
  • dislike  ไม่ชอบ
  • think  คิดว่า

กริยาที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5

  • appear  ปรากฏ
  • hear  ได้ยิน
  • look  ดูเหมือนว่า
  • seem  ดูเหมือนว่า
  • smell  ได้กลิ่น
  • taste  รู้รส

กริยาที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ

  • have มี
  • own  ของ
  • belong เป็นของ

บทสรุป

การเรียนภาษาอังกฤษให้เข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำโจทย์ หรือบททดสอบต่าง ๆ และหมั่นทบทวนอย่างสม่ำเสมอ เพราะต่อให้เราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้มากแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่ทบทวน แล้วเมื่อถึงสถานการณ์ที่จะต้องใช้ อาจจะทำให้คุณนึกไม่ออกก็ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


เปิดโผ “Apple” ล้างสต็อก จาก Studio 7 ในงาน Commart เริ่ม 7 มีนาคม นี้

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันแล้วที่งาน Commart Comtech จะเริ่มขึ้นในวันที่ 7 – 10 มีนาคม นี้ หลายๆ ค่ายก็เริ่มจะเข็นสินค้า IT มาลดราคาแบบฉ่ำๆ รับเดือนมีนาคม สำหรับรอบนี้เอาใจคอ Apple กับการลดล้างสต็อกของสินค้ากลุ่ม Apple ของบูธ Studio 7 ว่าจะเจออะไรบ้าง

  • iPhone 14 Pro Max ลดเหลือ 30,900 บาท
  • iPhone 12 64GB ลดเหลือ 11,500 บาท
  • iPad Air Wi-Fi 64GB ลดเหลือ 21,500 บาท
  • Apple Watch Series 8 ลดเหลือ 8,900 บาท
  • MacBook Pro 13 นิ้ว ลดเหลือ 29,900 บาท

หมายเหตุ : สินค้าทั้งหมดเป็น Demo ซึ่งผ่านการใช้งานมาบ้างแล้วจะต้องเช็คให้ดีก่อนพากลับบ้านครับ

นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มจากทางบูธ Studio 7 แต่ในงานจริงจะเป็นอย่างไร อย่าลืมไปช้อปปิงจริงที่งาน Commart Comtech ที่จะจัดระหว่างวันที่ 7 – 10 มีนาคม ที่ไบเทค บางนา ที่เดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ผลไม้ 6 ชนิดกินลดหน้าท้องได้ คุมน้ำหนักก็เริ่ด

แน่นอนว่าสาวๆ ที่กำลังมุ่งมั่นไปกับการลดน้ำหนัก จะต้องใส่ใจในเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะการเลือกกินผลไม้แต่ละชนิด เพราะไม่ใช่ว่าผลไม้ทุกชนิดจะสามารถลดน้ำหนักได้ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้น้ำหนักเพิ่มโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ที่กินนั้นมีสูงเกินไป ดังนั้นสาวๆ ที่กำลังอยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนักหรืออยากลดหน้าท้องให้ได้ผล แนะนำให้กินผลไม้ 6 ชนิดดังนี้ ผลไม้ 6 ชนิดช่วยลดหน้าท้องได้

ผลไม้ 6 ชนิดช่วยลดหน้าท้อง

1.สับปะรด

สับปะรด อุดมด้วยสารอาหารจำพวกแร่ธาตุ ใยอาหาร วิตามิน และไฟโตนิวเทรียนท์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สาวๆ คนไหนที่ชอบกินอาหารจำพวกไขมันสูง แนะนำให้กินสับปะรดตามหลัง จะช่วยสลายไขมันได้บางส่วน อีกทั้งปริมาณไฟเบอร์หรือใยอาหารที่อุดมอยู่ในสับปะรดที่มีจำนวนมากนั้น ยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดีอีกด้วย

2.แอปเปิ้ล

แอปเปิล อุดมด้วยน้ำ วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และแคโรทีน โดยปริมาณแอปเปิลจำนวน 1 ลูก ช่วยส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในแอปเปิลยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น พร้อมทั้งช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด ที่สำคัญจากการศึกษาอื่นๆ ยังมีการยืนยันด้วยอีกว่า การกินแอปเปิลนั้น มีส่วนช่วยทำให้ผู้หญิงที่มีน้ำหนักมากสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายมากขึ้น

3.โกจิเบอร์รี

โกจิเบอร์รี อุดมด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และแคโรทีนอยด์เป็นจำนวนมาก โดยสารอาหารเหล่านี้สามารถลดคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี อีกทั้งยังช่วยบำรุงการทำงานของหัวใจ ช่วยลดรอบเอว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.อะโวคาโด

อะโวคาโด อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร โดยปริมาณที่แนะนำให้สาวๆ กินในแต่ละวันคือ 1/2 หรือ 1 ผล จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มง่าย แถมยังสามารถลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ช่วยรักษาน้ำหนัก และช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง

5.มะนาว

มะนาว อุดมด้วยวิตามินซีสูง โดยสารอาหารชนิดนี้ถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกายอย่างมาก ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือ สารสกัดจากเปลือกมะนาวยังมีส่วนช่วยลดการสะสมของไขมันในหนูทดลอง อีกทั้งน้ำมะนาวยังช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด และเมื่อสาวๆ บริโภคมะนาวเป็นประจำก็ย่อมช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลได้

6.ส้มโอ

ส้มโอ อุดมด้วยวิตามินซีและใยอาหารเป็นจำนวนมาก ซึ่งการกินส้มโอไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องของการลดหน้าท้องหรือช่วยควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยลดไขมันในเลือด ความดันโลหิต และลดการอักเสบได้เป็นอย่างดี

สาวๆ ที่อยากเอาจริงเอาจังกับการลดหน้าท้อง แนะนำให้กินผลไม้เหล่านี้กันค่ะ นอกจากจะหามากินได้ง่ายและมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังให้สารอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 05/03/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a35,700.0035,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,312.0035,049.9236,300.00
ทองรูปพรรณ 90%2,080.8031,544.93n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,849.6028,039.94n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,040.0015,766.40n/a
ทองรูปพรรณ 40%809.0012,264.44n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,396.0036,323.36n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 05/03/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.1538.1538.4538.1538.1538.1538.1538.1538.1538.15
แก๊สโซฮอล์ 9136.3836.3836.8836.3836.3836.3836.3836.3836.3836.38
แก๊สโซฮอล์ E2036.0436.0436.5836.0436.0436.0436.0436.0436.04
แก๊สโซฮอล์ E8535.7935.7935.79
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม45.8449.4449.4449.4445.84
เบนซิน 9546.0447.2146.5446.1946.04
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า