สาระน่ารู้ประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567

‘พฤกษา’ผวาหนี้พุ่งเร่งกระจายเสี่ยงร่วมทุนสร้างรายได้ประจำ

ภาพรวมเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตต่ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น! ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ “พฤกษา” เดินหน้าเคลื่อนธุรกิจผ่านกลยุทธ์ “Ready to Thrive” รับมือรีเจกต์เรตพุ่ง ปรับพอร์ตรุกเซกเมนต์กลาง-บน ลดสัดส่วนสินค้าต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีปัญหา

  • พฤกษา เปิดแผนปี 2567 รุกโครงการใหม่ 30 โครงการมูลค่า2.9หมื่นล้าน
  • ปรับพอร์ตรุกเซกเมนต์กลาง -บนบ้านเน้นแนวราบ ร่วมทุยพันธมิตรลดความเสี่ยงพร้อมสร้างรายได้ประจำ

อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเพิ่มสินค้าในกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บนมากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนสินค้ากลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท 70% วางแผนปรับลดให้เหลือราว 40% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมากขึ้น 

ช่วงปีที่ผ่านมาทางกลุ่มก็ได้มีการปรับโครงสร้างและโมเดลธุรกิจหลายอย่าง ได้นำบริการด้านสุขภาพจากเครือวิมุต ผนวกกับเทคโนโลยีระบบสมาร์ตโฮมจากแอปพลิเคชัน MyHuas นำเข้ามาปรับใช้ในการออกแบบโครงการ เพื่อเสริมความแข่งแกร่งของธุรกิจหลัก

ด้วยการแยกกลุ่มธุรกิจออกมาอีก 4 ธุรกิจได้แก่ ประกอบด้วย

1.ธุรกิจเฮลท์แคร์ ครอบคลุมบริการทางสุขภาพตั้งแต่โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ มีการสร้างความร่วมมือและการลงทุนใหม่ เช่น การลงทุน เข้าถือหุ้น 25% ในบริษัท เค.พี.เอ็น ซีเนียร์ ฮอสปิตัล กรุ๊ป เตรียมขยายการบริการเนอร์สซิ่งโฮม ตั้งเป้าขยาย 600 เตียงภายใน 3 ปี กลุ่มยังมีแผนลงทุน 3,500 ล้านบาท ขยายโรงพยาบาลเฉพาะทางที่สุขุมวิท ขยายเตียงที่โรงพยาบาลวิมุตเป็น 150 เตียง พร้อมเติบโตสู่เป้า 2,300 ล้านบาทในปี 2567

รุกอีคอมเมิร์ซเสริมแกร่ง

2. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ในเครือพฤกษา ตั้งเป้าโต 5เท่าในปี 2567 และหวังสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี จะนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน MyHaus เพื่อเป็นศูนย์กลางที่จะดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน และอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกบ้านและนิติบุคคล

ด้วยระบบ ควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดูแลได้ทั้งบ้านด้วยแอปพลิเคชันเดียว, Visitor Management ระบบคัดครองผู้มาเยือน, Facility Booking ระบบจองสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในโครงการ, Repair Management ระบบแจ้งซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้สำนักงานนิติบุคคลติดต่อนัดเวลาช่างเข้าซ่อมอย่างมีระเบียบ

รวมไปถึงระบบ Community ที่จะสร้างพื้นที่ให้ลูกบ้านสื่อสารกันได้ ซึ่งได้เตรียมพร้อมที่จะรองรับ การให้บริการแก่ลูกค้าจากกลุ่มเรียลเอสตทของพฤกษา ไปจนถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Clickzy.com (คลิกซิ) ที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ให้เลือกช้อปสินค้าที่เกี่ยวกับบ้าน บริการตกแต่งภายในจาก Zdecor และสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์

ขยายธุรกิจใหม่สร้างรายได้เพิ่ม

3.กลุ่มหน่วยธุรกิจใหม่ ที่แยกออกมาเพื่อรองรับการเติบโต เปิดโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจพรีคาสท์ จากความประสบความสำเร็จจากการแลกหุ้น ร่วมกับ บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL เพื่อเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ “อินโน พรีคาสท์” เพิ่มโอกาสในการจำหน่ายแผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำ ทำยอดคำสั่งซื้อและติดตั้ง (Backlog) ทั้งจากพฤกษาและลูกค้ารายอื่น ๆ สูงขึ้นทะลุเป้าหมายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาทตั้งเป้ารายได้โต 50% สู่ 3,500 ล้านบาท ในปี 2567

ล่าสุดได้ธุรกิจรับก่อสร้างสำหรับอาคารที่พักอาศัย ภายใต้“อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น” ตั้งเป้าปี 2567 จะสร้างรายได้ 5,600 ล้านบาท จากพฤกษาและลูกค้ารายอื่นนอกจากกลุ่ม มุ่งสู่ความเป็นบริษัทรับก่อสร้างบ้านแนวราบที่ใหญ่ที่สุดในไทย

ตั้งกองทุนขยายการลงทุน

และ 4.การลงทุนเพื่อรองรับการขยายห่วงโซ่ธุรกิจ ขยายการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์ และ อสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพด้วยการร่วมมือกับ 2 บริษัทจากสิงคโปร์และไต้หวันจัดตั้งกองทุน “CapitaLand SEA Logistics Fund” มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการคลังจัดเก็บและกระจายสินค้าให้บริการครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการลงทุนในกองทุน CapitalLand Wellness Fund (C-Well) มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 72,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ

อุเทน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพฤกษารีโมเดลธุรกิจเพื่อเดินหน้าตามกลยุทธ์  Ready To Thrive ได้รับจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ 1. ประโยชน์จากการจัดซื้อจ้างในครั้งละจำนวนมาก การขนส่ง 2.เพิ่มโอกาสในการขายข้ามกลุ่มสินค้า (Cross-Selling) ที่รองรับความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิตและ 3.สร้างรายได้เพิ่มเติม จากสินค้าและบริการต่างๆ ที่หลากหลาย ตั้งเป้าในอนาคต เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำเป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่9% ทั้งนี้ในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มรวม 28,000 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่มูลค่า29,000 ล้าน

ส่วนการร่วมทุนกับ 3 บริษัทในเครือ “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” ได้แก่ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด หรือ PARK และ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เพื่อก่อสร้างและพัฒนา 3 โครงการโรงแรม-คอนโด-บ้านเดี่ยวมูลค่า8,700ล้าน ถือกลยุทธ์ Win-Win ที่สร้างประโยชน์สูงสุด จากการนำทรัพยากรและที่ดินของทั้ง2บริษัทที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาโครงการ แชร์เทคโนโลยีและโนว์ฮาวร่วมกัน ในปีนี้อาจมีความร่วมมืออื่นๆอีก

ผุด 30 โครงการมูลค่า2.9หมื่นล้าน

ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายที่ 27,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดโอน 25,500 ล้านบาท จากการเปิด 30 โครงการใหม่ เป็นบ้านเดี่ยว 10 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า29,000 ล้านบาท โดยมีที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ที่จะแปลงเป็นรายได้มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

การเปิดตัวโครงการใหม่ส่วนหนึ่งเลื่อนมาจากปีก่อน โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ ปรับราคาลงมาเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อ แบรนด์ “บ้านกรีนเฮ้าส์” รวมทั้งการเพิ่มสินค้าในกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์ระดับกลาง – สูง พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนด์ The Palm ราคามากกว่า 30 ล้านบาท

Re-Stock Landbank

ในปี 2567 ตั้งเป้าในการ Re-Stock Landbank ด้วยงบ 10,500 ล้านบาท เพื่อมาต่อยอดการขยาย มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อจะคงสัดส่วนการพัฒนาตามกลุ่มลูกค้าราคาบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาทให้ไม่เกิน 40% และมากกว่า 7 ล้านบาทให้มากกว่า 30%

นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ ที่จะแปลงเป็นรายได้ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยวางแผนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอด้วยการเพิ่มสินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์ระดับกลาง – สูง พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนด์ The Palm สู่ราคามากกว่า30ล้านบาทที่นำความร่วมมือจากธุรกิจเฮลท์แคร์ในเครือสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมมุ่งบริหารสินทรัพย์ที่มีในมือ โดยในปี 2567 ตั้งเป้าในการ Re-Stock Landbank ด้วยงบ 10,500 ล้านบาท

เร่งลงทุนดันธุรกิจสุขภาพเสริมแกร่ง

นพ.พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ เปิดบริการสำหรับผู้สูงอายุระบบการดูแลระยะยาว (Long–term care) ร่วมมือกับ เค.พี.เอ็น ซีเนียร์ ฮอสปิตัล กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและเป็นโซลูชั่นในการดูแลผู้สูงอายุจากเดิมมีจำนวน 59 เตียงเพิ่มขึ้น 600เตียงใน3 ปี ถือเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ รวมการเปิดตัวโรงพยาบาลเฉพาะทางเพิ่มขึ้น เริ่มจากโรคกระดูกและข้อ

นอกจากนี้มีแผนการรีแบรนด์โรงพยาบาลเทพธารินทร์ ให้เป็น “โรงพยาบาลวิมุต เทพธารินทร์” พร้อมเปิดตัวในช่วงเดือนเม.ย. พร้อมขยายบริการไปยังกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับปี 2567 กลุ่มวิมุตตั้งเป้ารายได้ที่ 2,300 ล้านบาท พร้อมทั้งสร้างโรงพยาบาลวิมุต ทำเลสุขุมวิทและย่านฝั่งธนบุรี

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ซี.พี.แลนด์สร้างประวัติศาสตร์ปิดการขายลักซ์ริวา เรสซิเดนเซสเฟสแรก

ซี.พี.แลนด์ประกาศปิดการขายเฟสแรกโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส” นครศรีธรรมราชราคาเริ่มต้น 12 – 20 ล้านหลังเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในท้องถิ่นสำเร็จพร้อมพัฒนาเฟสต่อไป

นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND เปิดเผยว่า  บริษัทสามารถประกาศปิดการขาย (Sold Out)โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ภายใต้แบรนด์ “ลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส” จ. นครศรีธรรมราช เฟสแรกทันทีจากมีผู้สนใจซื้อโครงการเกินเป้าหมายถือว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญทางซี.พี. แลนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง (High-Net-Worth Individuals)

กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ประสบความสำเร็จ หรือ Local Achiever และกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรีภูมิภาค ซึ่งถือเป็นการวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย  มีการออกแบบดีไซน์บ้านแนวใหม่ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า และเป็นการสร้างสังคมคุณภาพของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
 

จุดแข็งของลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส( LUXRIVA RESIDENCES)ในจ. นครศรีธรรมราช คือการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่ได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายใต้มาตรฐานการทำงานและก่อสร้างของบริษัท ที่มีการรับประกันโครงสร้างถึง 10 ปี ตลอดจนการออกแบบโครงการที่ชูดีไซน์การออกแบบโมเดิร์น ผสมผสานเอกลักษณ์ระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทย และ วัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคใต้

โดยนำศิลปินนักออกแบบระดับประเทศ ร่วมนำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้เข้ากับความร่วมสมัย พร้อมประยุกต์ดีไซน์ในส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากับสภาพอากาศในประเทศเขตร้อนชื้น ทำให้ผู้พักอาศัยมีสภาวะความเป็นอยู่ที่สบายที่สุด เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางของแดด ลม ฝน ความปลอดโปร่ง ส่งผลให้กระแสลมพัดผ่านง่าย ทำให้ความร้อนในอากาศถูกระบายออกได้ดี ทำให้ผู้พักอาศัยผ่อนคลายสัมผัสความรู้สึกร่มเย็น ความสุขในการอยู่บ้าน

การเปิดตลาดใหม่บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีของลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส ในจ.นครศรีธรรมราชราคาเริ่มต้น 12 – 20 ล้านบาทถือเป็นความท้าทายและมิติใหม่ของ ซี.พี. แลนด์ที่เจาะฐานลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงในระดับภูมิภาค ด้วยการเลือกจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นที่แรก เนื่องจากจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เศรษฐกิจ และระดับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ หรือ GPP อยู่ในระดับที่สูงเป็นอันดับต้นๆของภาคใต้ ตลอดจน ซี.พี. แลนด์มีที่ดินรอการพัฒนาอยู่แล้ว และเป็นทำเลศักยภาพที่เอื้อต่อการลงทุน เป็นมิกซ์ยูส (Mixed-Use) บน ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช  มีทั้งห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สำนักงาน CP Tower และโรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช ตลอดจนสิ่งอำนวยสะดวกครบครันต่อการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ

พร้อมตอกย้ำถึงจุดเด่นของลักซ์ริวา เรสซิเดนเซส ที่มีเพดานบ้านสูง (Double Volume) บริเวณ Living Area ทุกหลัง อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทสะดวก ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย กว้างขวาง และโดดเด่น ใช้โถสุขภัณฑ์แบบ Smart Toilet ที่จอดรถกว้างสามารถจอดได้สะดวก รวมถึงการดูแลหลังการขายจาก Welcome Home Club By CP LAND หน่วยงานด้านลูกค้าสัมพันธ์ที่ให้การบริการงานรับประกัน และดูแลสุขภาพบ้านของคุณอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่วันแรก ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเอ็กซ์คลูซีฟระดับภูมิภาคทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างเหนือระดับ และเตรียมพบกับเฟสต่อไปในเร็วๆนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 20ก.พ. ที่ระดับ 36.10 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่า แม้จะผันผวนอ่อนค่าลง จากปัจจัยกดดันทั้งดอลลาร์ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำราคาน้ำมันดิบ วันนี้ตลาดรอลุ้น แนวโน้มดอกเบี้ยของ 3ธนาคารกลางหลัก “จีน อังกฤษ ยุโรป” อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินหยวน เงินปอนด์และเงินยูโร

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 20ก.พ. 2567ที่ระดับ  36.10 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.03 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง หลังเงินดอลลาร์กลับมารีบาวด์แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกัน โฟลว์ธุรกรรมเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ

รวมถึงน้ำมันดิบ ก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ หากภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ดี ซึ่งเราคาดว่าทิศทางราคาน้ำมันดิบก็อาจขึ้นกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

นอกจากนี้ รายงาน GDP ไตรมาส 4 ปี 2023 ของไทย ที่ออกมาแย่กว่าคาด ก็ยังคงทำให้บรรดานักวิเคราะห์ต่างชาติต่างคาดหวังว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ในปีนี้ ซึ่งมุมมองดังกล่าวก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง แต่โดยรวม

เรายังคงประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาท นั้นเริ่มแผ่วลงบ้าง (สอดคล้องกับสัญญาณเชิงเทคนิคัลที่เราได้ประเมินก่อนหน้า) ทำให้แม้เงินบาทจะผันผวนอ่อนค่าลง แต่ก็อาจยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนการแข็งค่า ทำให้แม้เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าขึ้น ก็อาจยังติดโซนแนวรับ 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม

เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และ

นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.20 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 35.98-36.12 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวลงของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน เราประเมินว่า การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ ก็อาจมีส่วนกดดันเงินบาทให้ผันผวนอ่อนค่าได้ ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อน้ำมันดิบ

 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด President’s Day ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ Nvidia ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควร ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาอาจเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรได้บ้าง โดยล่าสุด สัญญาฟิวเจอร์สดัชนี S&P500 เช้านี้ย่อตัวลงเล็กน้อย -0.20%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้น +0.16% ตามการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่ม Healthcare เป็นหลัก นำโดย AstraZeneca +3.2% ยารักษามะเร็งปอดของบริษัทได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปกลับปรับตัวขึ้นไม่ได้มากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดก็เริ่มกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ท่ามกลางการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของรัฐบาลฝรั่งเศส รวมถึงการเตือนภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากธนาคารกลางเยอรมนี

ในฝั่งตลาดบอนด์ เราประเมินว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจแกว่งตัวแถวโซน 4.30% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ในโซนเหนือกว่า 4.20% ถือเป็นระดับที่น่าสนใจ

 และนักลงทุนสามารถทยอยเพิ่มสถานะการลงทุนได้ หรือนักลงทุนอาจรอจังหวะ Buy on Dip ก็ได้เช่นกัน โดย นักลงทุนอาจใช้กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือ ETF อย่าง IEF (iShares 7-10 Year Treasury Bond ETF) รวมถึงตราสารที่มี IEF เป็น underlying เพื่อเป็น proxy ในการลงทุนตามมุมมองดังกล่าวได้

ทางด้านตลาดค่าเงิน แม้ว่าตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ จะปิดทำการ ทำให้ปริมาณธุรกรรมในตลาดอาจเบาบางลงบ้าง แต่เงินดอลลาร์ก็เคลื่อนไหวผันผวนแข็งค่าขึ้นบ้าง โดยยังมีธีม US Exceptionalism เป็นปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ที่กดดันสกุลเงินฝั่งยุโรป

ทั้งเงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.3 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.2-104.4 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ย่อตัวลงและแกว่งตัวแถว 2,020-2,030 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นอกจากนี้ การย่อตัวลงของราคาทองคำก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง

 สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอาจมีไม่มากนัก ทว่า ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจหรือไม่ หลังล่าสุด PBOC ได้คงอัตราดอกเบี้ย MLF-1y ไว้ที่ระดับ 2.50% เพื่อช่วยลดทอนแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าที่อาจเกิดขึ้นกับเงินหยวนจีน (CNY) 

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก ทั้ง ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงิน ซึ่งการปรับมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ BOE และ ECB อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) และเงินยูโร (EUR) ในช่วงนี้ได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.10-36.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (8.50 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดย sentiment ของเงินบาทยังโน้มไปในด้านอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วน เนื่องจากตลาดกลับมารอติดตามบันทึกการประชุมเฟดที่จะเปิดเผยออกมาช่วงกลางสัปดาห์นี้ 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ ระดับ 36.00-36.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ การเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนหลังธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ระยะ 5 ปีลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สาวโคราช ย้ำแค้น ไดมอนด์ฟู้ดอีกครั้ง ผงาดดับเบิ้ลแชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก

นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ผงาดแชมป์วอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2023-24 ทั้งทีมชาย และ ทีมหญิง โดยทีมชาย เฉือนไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ 3-2 เซต ส่วนทีมหญิง ย้ำแค้น ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ ได้อีกครั้ง 3 เซตรวด

การแข่งวันวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2023-24 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.67 เป็นการแข่งขันในประเภททีมหญิง รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี พบกับ ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ ซึ่งเป็นการรีแมตช์คู่ชิงชนะเลิศเมื่อซีซั่นที่แล้ว 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี ส่งผู้เล่น 6 คนแรก ประกอบไปด้วย “เอ้” สิรมา มานะกิจ , “อร” อรอุมา สิทธิรักษ์ , “ออมสิน” ศศิภาพร จันทวิสูตร , บริอานา โฮลแมน , เซลีน โดมิงโก , “เดียร์” จรัลพร บรรดาศักดิ์ , และ อิโนอุเอะ โคโตเอะ 

ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ  ส่งผู้เล่น 6 คนแรก ประกอบไปด้วย อนาสตาเซีย บูร์บาโนวา , “ดาว” กัตติกา แก้วพิน, “นุกนิก” ณัฏฐณิชา ใจแสน , “นุช” สุทัตตา เชื้อวู้หลิม , “ทิพย์” แก้วกัลยา กมุลทะลา และ “แบม” จิดาภา นาหัวหนอง 

ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ  ส่งผู้เล่น 6 คนแรก ประกอบไปด้วย อนาสตาเซีย บูร์บาโนวา , “ดาว” กัตติกา แก้วพิน, “นุกนิก” ณัฏฐณิชา ใจแสน , “นุช” สุทัตตา เชื้อวู้หลิม , “ทิพย์” แก้วกัลยา กมุลทะลา และ “แบม” จิดาภา นาหัวหนอง 

เซตแรก นครราชสีมา เปิดเกมได้ดีกว่า ใช้บอลหนักและ บอลรับที่เหนียวแน่นในการเข้าทำนำ 8-5 จากนั้นโคราชเป็นฝ่ายคุมเกมได้เหนือชั้นกว่านำห่าง 11-6 แล้ว โคราช ก็เล่นบอลตบอย่างหนักกว่ามาปิดเซตแรกไปได้ที่ 25-18  

เซตสอง โคราชก็ยังเริ่มเกมได้ดีกว่าอาศัยบอลหนักจาก “ออมสิน” ศศิภาพร นำ 4-2 โคราช เปลี่ยนเสิร์ฟได้ยอดเยี่ยม และเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่น ขึ้นนำ 12-7 จากนั้นโคราชเปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่องหนีห่างไปเป็น  17-9  ในช่วงปลายเซตสอง โคราช เล่นในรูปแบบเดิมมาปิดเซตนี้ไปได้ที่ 25-17

เซตสาม ไดมอนด์ ฟู้ด แก้เกมมาอย่างดีลงมาเล่นอย่างสนุกสูสีเสมอกัน 8-8 แต่จากนั้นเกมกลับมาเป็นฝั่งโคราชที่คุมเกมบุกและเล่นได้อย่างดุดันกว่านำ 21-15 แล้วเป็นนครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี มาปิดแมตช์ไปได้ที่ 25-18 ทำให้เอาชนะไปได้ 3 เซตรวด คว้าแชมป์วอลเลย์บอลหญิงไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2023-24 ไปครองเป็นสมัยที่ 6 ส่วน ไดมอนด์ ฟู้ด ไฟน์เชฟ ได้รองแชมป์ไปครองเป็นครั้งที่ 2 

ส่วนผลการแข่งขันในประเภททีมชาย นครราชสีมา คิวมิน ซี วีซี ก็เอาชนะ ไดมอนด์ ฟู้ด-ไฟน์เชฟไปอย่างสุดมันส์ 3-2 เซต 16-25,25-21,25-11,21-25,15-6 คว้าแชมป์ในประเภททีมชายเป็นสมัยที่ 9  

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


ระดับสีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ฟ้า-เขียว-เหลือง-ส้ม-แดง บอกอะไรเราบ้าง?

ช่วงนี้แอปพลิเคชั่นที่ฮอตที่สุด คงหนีไม่พ้น แอปวัดระดับฝุ่นละอองในอากาศ ที่มีให้เลือกใช้มากมาย แต่ที่เป็นที่นิยมในบ้านเรา คือ Air4Thai และ AirVisual ที่มีการแบ่งระดับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศด้วยสี เมื่อเห็นสีส้มสีแดง ให้เราใส่หน้ากาก N95 ทุกครั้งที่ออกจากบ้านทันที

แต่จริงๆ แล้วระดับสีของค่าฝุ่นละออง บอกอะไรเราได้มากกว่านั้น

ระดับสีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ฟ้า-เขียว-เหลือง-ส้ม-แดง บอกอะไรเราบ้าง?

พื้นที่สีเหลือง สถานการณ์อยู่ในระดับปานกลาง

บุคคล: คนทั่วไป สามารถออกไปกลางแจ้งได้ ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ หากเป็นอาชีพที่ต้องออกไปกลางแจ้งเป็นเวลานานพิจารณาใส่หน้ากากป้องกัน ทั้งนี้ควรมีช่วงที่กลับไปพักในอาคารที่มีการระบายอากาศดีหรือมีเครื่องปรับอากาศเป็นระยะๆ

คนกลุ่มเสี่ยง ควรปรับเวลาในการออกไปกลางแจ้ง และหากต้องออกไปกลางแจ้งควรใส่หน้ากากป้องกัน

สถานที่: บ้าน สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างห้องได้ ถ้าไม่มีคนกลุ่มเสี่ยงอยู่ในห้อง แต่ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ตลอด

โรงเรียนหรือหน่วยงาน พิจารณาปรับเวลาเข้าและเลิก ลดกิจกรรมกลางแจ้ง

สิ่งแวดล้อม: ยานพาหนะ สามารถเข้ามาได้ในพื้นที่ตามปกติ

ควรปลูกต้นไม้เพิ่ม โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบมาก ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก หรือไม้พุ่มบางชนิด เช่น เล็บมือนาง กะทกรก ใบระบาด เครือออน คริสตินาและไทรเกาหลี

เวลา: ปริมาณ PM2.5 มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา โดยมีระดับสูงขึ้นในช่วงเช้าและเย็น และจะมีระดับลดลงในช่วงกลางวัน ควรมีการติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ

พื้นที่สีส้ม สถานการณ์อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

บุคคล: คนทั่วไป ควรปรับเวลาในการออกไปกลางแจ้ง ลดการออกกำลังกายกลางแจ้ง หากเป็นอาชีพที่ต้องออกไปกลางแจ้งเป็นเวลานานควรใส่หน้ากากป้องกัน ทั้งนี้ควรมีช่วงที่กลับไปพักในอาคารที่มีการระบายอากาศดีหรือมีเครื่องปรับอากาศเป็นระยะ ๆ

คนกลุ่มเสี่ยง ลดเวลาในการออกไปกลางแจ้ง และหากต้องออกไปกลางแจ้งควรใส่หน้ากากป้องกัน

สถานที่:  บ้าน ไม่ควรเปิดประตูหรือหน้าต่างห้อง หากมีเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศสามารถใช้ได้

โรงเรียนหรือหน่วยงาน ลดเวลาเรียนหรือทำงาน งดกิจกรรมกลางแจ้ง

สิ่งแวดล้อม: ยานพาหนะ สามารถเข้ามาได้ในพื้นที่ตามปกติ

หลีกเลี่ยงการเผาขยะ

ควรปลูกต้นไม้เพิ่ม โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบมาก ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก หรือไม้พุ่มบางชนิด เช่น เล็บมือนาง กะทกรก ใบระบาด เครือออน คริสตินาและไทรเกาหลี

เวลา: ปริมาณ PM2.5 มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา โดยมีระดับสูงขึ้นในช่วงเช้าและเย็น และจะมีระดับลดลงในช่วงกลางวัน ควรมีการติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ

พื้นที่สีแดง สถานการณ์อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

บุคคล: คนทั่วไป ลดเวลาในการออกไปกลางแจ้ง งดออกกำลังกายกลางแจ้ง หากเป็นอาชีพที่ต้องออกไปกลางแจ้งเป็นเวลานานควรใส่หน้ากากป้องกัน ทั้งนี้ควรมีช่วงที่กลับไปพักในอาคารที่มีการระบายอากาศดีหรือมีเครื่องปรับอากาศเป็นระยะๆ

คนกลุ่มเสี่ยง งดการออกไปกลางแจ้ง และหากต้องออกไปกลางแจ้งควรใส่หน้ากากป้องกัน

สถานที่:  บ้าน ไม่ควรเปิดประตูหรือหน้าต่างห้อง หากมีเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศสามารถใช้ได้

โรงเรียนหรือหน่วยงาน ควรปิดเรียนหรือหยุดทำงาน

สิ่งแวดล้อม: ยานพาหนะ ลดจำนวนพาหนะที่เข้าสู่พื้นที่ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล จัดการจราจรให้คล่องตัว

งดการเผาขยะ

ควรปลูกต้นไม้เพิ่ม โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบมาก ไม้เลื้อย ไม้ล้มลุก หรือไม้พุ่มบางชนิด เช่น เล็บมือนาง กะทกรก ใบระบาด เครือออน คริสตินาและไทรเกาหลี

เวลา: ปริมาณ PM2.5 มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา โดยมีระดับสูงขึ้นในช่วงเช้าและเย็น และจะมีระดับลดลงในช่วงกลางวัน ควรมีการติดตามสถานการณ์เป็นระยะๆ

ส่วนสีฟ้า และเขียว บ่งบอกว่าเป็นเขตที่มีอากาศดี ปริมาณของฝุ่นน้อยถึงน้อยมาก ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ต้องใส่หน้ากากเมื่อออกจากบ้าน

ช่วงนี้สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ขอให้อัปเดตแอปพลิเคชั่นเพื่อเช็กสภาพอากาศทุกวัน ติดหน้ากาก N95 เอาไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ออกกำลังกาย หรือหากจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่กลางแจ้งที่มีฝุ่นเยอะ เช่น ริมถนน เป็นเวลานาน อย่าลืมสวมหน้ากาก N95 ตลอดเวลาด้วย หากรู้สึกหายใจไม่สะดวกเหมือนจะเป็นลม ควรรีบเข้าพักในอาคารที่ปิดประตูหน้าต่าง แล้วถอดหน้ากากหายใจให้สะดวกทั่วท้อง สุดท้าย หากมีปัญหากับการสวมหน้ากาก N95 ควรปรึกษาแพทย์ใกล้บ้านเพื่อหาวิธีป้องกันที่เหมาะสมต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมแอปเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ให้เข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาษาอังกฤษในสังคมไทยในปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก หลายๆ คนคงจะเริ่มสนใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษกันมากขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ต้องทำแบบไหน รวมถึงถ้าต้องการเรียนด้วยตัวเอง จะมีแอปเรียนภาษาอังกฤษแอปไหนที่เราสามารถฝึกได้บ้าง เราจะมากล่าวกันในบทความนี้

การฝึกทักษะในการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษ

            – การฟัง (Listening)  สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การฟังซ้ำ ๆ ฟังบ่อยๆ เมื่อเราเริ่มที่จะคุ้นเคยกับสิ่งที่ฟังแล้ว เราถึงจะค่อย ๆ เพิ่มระดับความยาก โดยไล่จากง่ายไปถึงยาก อาจจะเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ ที่พบเจอบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน แต่จะต้องฝึกฟังอย่างสม่ำเสมอ

– การพูด (Speaking) สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อจากการฟังคือการพูด การพูดตามสิ่งที่ได้ฟังนั้น จะช่วยให้เราสามารถจดจำวิธีการออกเสียงได้ดีกว่าการฟังเฉย ๆ หากเราฝึก ทบทวนบ่อยๆ

– การอ่าน (Reading) การอ่านจะทำให้เราได้เจอกับคำศัพท์ และรูปแบบโครงสร้างประโยคหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทำให้เราจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น การฝึกอ่านออกเสียงคือวิธีที่ดีที่สุด

– การเขียน (Writing) สิ่งแรกที่ต้องทำหากต้องการพัฒนาทักษะการเขียนคือ การเขียนไดอารี่ วิธีนี้ช่วยให้คุ้นเคยกับการเขียน เพราะเราจะต้องใช้ความจำและความคุ้นชินกับคำศัพท์ รูปแบบโครงสร้างประโยคต่าง ๆ ที่เราเคยพบเจอจากการฟัง หรือการอ่าน

เทคนิคในการเรียนภาษาอังกฤษ

การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองนั้นจะต้องมีวินัยในการฝึกฝนและทบทวนบ่อย ๆ การจดบันทึกเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการจดจำคำศัพท์ การพูดคุยกับเจ้าของภาษาจะช่วยพัฒนาทักษะการพูดของเราได้ดีที่สุด เพราะเราจะได้สำเนียงจากเจ้าของภาษาโดยตรง การดูภาพยนตร์ ฟังเพลงหรือเล่นเกมที่มีภาษาอังกฤษก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการพัฒนาทักษะได้ดีมากที่สุด

รวมแอปเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

1.Speak – Practice Your English เป็นแอปพลิเคชั่นที่จะเข้ามาช่วยฝึกฝนในเรื่องสำเนียงการพูดเหมือนกับได้ฝึกกับเจ้าของภาษาโดยตรง โดยแอปพลิเคชั่นตัวนี้จะให้เราสวมบทบาทเป็นตัวละครต่าง ๆ ไว้ฝึกโต้ตอบกับคู่สนทนา ช่วยพัฒนาสำเนียงการพูดและเรียนรู้คำศัพท์ไปพร้อม ๆ กัน แอปพลิเคชั่นเหมาะสำหรับบุคคลที่จะเริ่มฝึกฝนในเรื่องการอ่าน การฟัง การพูดภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เด็กประถมจนถึงผู้ใหญ่ สามารถดาวน์โหลดใน App store เท่านั้น

2. Duolingo แอปพลิเคชั่นนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นฝึกภาษา โดยแอปพลิเคชั่นตัวนี้สามารถพัฒนาทักษะได้ทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียน จะเริ่มตั้งแต่พื้นฐานจนไปถึงระดับกลาง ถ่ายทอดด้วยวิดีโอสั้น ๆ ในรูปแบบ Vlogger และ Youtuber โดยเจ้าของภาษา ตัวแอปพลิเคชั่นจะออกแบบมาเหมือนเรากำลังเล่นเกม มีการทดสอบเพื่อเพิ่มระดับ มีระบบเก็บคะแนน เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัน ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

3. Cake แอปพลิเคชั่นนี้มีบทเรียนหลายระดับตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับสูง สามารถพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียน โดยจะเน้นเรื่องคำศัพท์ วลีและสำนวนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีระบบมินิเกมให้ได้เล่นต่อคำ หรือนำคำมาเรียงกันเพื่อสร้างประโยค สามารถตั้งเป้าหมายในการเรียน กำหนดระยะเวลาได้ เป็นอีกแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจอีกอันหนึ่ง สามารถดาว์นโหลดทั้งใน App Store และ Play Store

4. Lyrics Training แอปพลิเคชั่นนี้ใช้เพลงเป็นสื่อการสอน นอกจากจะได้ฝึกภาษาแล้วยังได้ความเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี โดยภายในแอปพลิเคชั่นนั้นมี่ทั้งเพลงเก่าและเพลงใหม่ รวมถึงตัวอย่างภาพยนตร์ให้ฝึกฝนอีกด้วย ทั้งยังสามารถเลือกระดับที่ต้องการจะฝึกได้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ สามารถดาว์นโหลดทั้งใน App Store และ Play Store

5. Memrise แอปพลิเคชั่นนี้เน้นการท่องจำเป็นหลัก โดยเรียนผ่านวิดีโอจากตัวของเจ้าของภาษาเอง มีตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง สามารถตั้งเป้าหมายในการเรียนในแต่ละวันเองได้ สามารถเลือกที่จะทบทวนบทเรียนซ้ำได้ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ สามารถดาว์นโหลดทั้งใน App Store และ Play Store

6. Drops แอปพลิเคชั่นนี้ช่วยให้เราจัดการเวลาในการเรียนได้ด้วยตัวเอง เน้นความจำและการฟัง พร้อมมีภาพประกอบเป็นสื่อในการเรียน นอกจากนั้นยังมีเกมให้เล่นเพื่อทบทวนบทเรียน สามารถตั้งเวลาและกำหนดเวลาเรียนเองได้ พร้อมบันทึกสถิติในการเรียนเพื่อให้เราทราบว่าได้ผ่านบทเรียนใดบ้างแล้ว เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือมีเวลาน้อย เพราะตัวแอปพลิเคชั่นจะแนะนำให้เราเรียนขั้นต่ำวันละ 5 นาทีเท่านั้น สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

7. Hello English: Learn English แอปพลิเคชั่นนี้ได้รับการยอมรับจาก Google Play ตัวแอปพลิเคชั่นจะมีการสวมบทบาทเป็นตัวละครต่าง ๆ และมีการจำลองสถานการณ์ที่เราจะต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ช่วยเพิ่มทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ทำให้มั่นใจมากขึ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

8. LearnEnglish GREAT Video แอปพลิเคชั่นนี้ช่วยพัฒนาทักษะในด้านการฟังและการอ่าน เพราะแอปพลิเคชั่นนี้จะมีวิดีโอภาษาอังกฤษให้ได้ฝึกฝน มีซับไตเติ้ลให้อ่านและได้ฟังสำเนียงจากเจ้าของภาษา เป็นช่องทางในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษง่าย ๆ เหมาะกับทุกวัย สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

9. Murphy’s English Grammar in Use แอปพลิเคชั่นนี้เน้นในเรื่องของหลักไวยากรณ์เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานในเรื่องของหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงขั้นสูง สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

10. Urban Dictionary แอปพลิเคชั่นนี้ช่วยในเรื่องของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยเป็นดิกชันนารีแบบอังกฤษแปลอังกฤษเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง เป็นช่วยให้เราเข้าใจคำสแลงหรือสำนวนภาษาอังกฤษที่ไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทย แอปพลิเคชั่นนี้เปิดให้เราสามารถแก้ไขคำแปลได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเราจะต้องดูรูปประโยคด้วยว่าสื่อถึงเหตุการณ์แบบไหน สามารถดาวน์โหลดทั้งใน App Store และ Play Store

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


อยู่กันยาวๆ Google เพิ่มระยะอัปเกรด Chromebook นานสุด 10 ปี!

Google ได้มีการออกประกาศเพิ่มระยะการ Support Software ของระบบปฏิบัติการ Chromebook นานสุดที่ 10 ปีแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งที่ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้งานเพื่อให้ใช้งานได้ยาวๆ กันไป

โดยการออกมาประกาศเรื่องการสนับสนุนซอฟต์แวร์นานสุดที่ 10 ปี จะเริ่มกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Chromebook ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2021 โดยจะได้อัปเดตไปจนถึง 10 ปี ตราบใดที่ยังมีการใช้งาอย่างต่อเนื่อง โดยการอัปเดตนี้จะทำให้คุณสมบัติใหม่ๆ ใน Chromebook ของรุ่นเดิมก็จะได้อัปเดตไปด้วย

ทั้งนี้ Google ก็ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรตั้งแต่ Software, Hardware เพื่อให้ทั้งหมดเข้ากัน รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย และทั้งนี้ Chromebook ได้รับความนิยมในภาคการศึกษาในโรงหลายๆ แห่งโดยคิดว่าเป็นประมาณ 80% ของทั้งหมด และการซ่อมแซมที่ผ่านมาก็สามารถทำได้ง่ายมากขึ้น

ทั้งนี้ Google ยังตั้งเป้าว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากขึ้นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“โปรตีนจากพืช-จากสัตว์” มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร?

หลายๆ คนที่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เริ่มสนใจอาหารที่มาจากพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ โปรตีนจากพืชจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การรับประทานโปรตีนจากพืชเพียงอย่างเดียวเหมือนผู้ที่กินมังสวิรัติ หรือกินเจ จะส่งผลดีหรือผลเสียอย่างไรต่อร่างกายบ้าง และแตกต่างจากการกินโปรตีนจากสัตว์อย่างไร

ข้อดี ข้อเสีย ระหว่างโปรตันจากเนื้อสัตว์ และ โปรตีนจากพืช

ข้อดีของโปรตีนจากพืช

จากข้อมูลของ World Cancer Research Fund การไม่บริโภคเนื้อสัตว์ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 35% ขณะเดียวกัน การกินมังสวิรัติและกินเจอย่างเคร่งครัด ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้นการรับประทานโปรตีนจากพืชจึงช่วยลดความเสี่ยงโรคอันตรายต่างๆ เหล่านี้ได้

โปรตีนจากพืช ที่พบได้ในถั่วและธัญพืชต่างๆ อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ถือเป็นโปรตีนสะอาดไม่ก่อให้เกิดโรคภัย เพราะมีพฤกษเคมีที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้โปรตีนจากพืชยังย่อยง่ายดูดซึมง่าย แคลอรี่น้อยกว่าโปรตีนสัตว์ ไขมันดีมีมากกว่าโปรตีนสัตว์ ไม่มีโคเลสเตอรอล ที่สำคัญยังช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย


ข้อเสียของโปรตีนจากพืช

โปรตีนที่มากับพืช ส่วนใหญ่จะไม่ได้มาพร้อมกับกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วนเท่าเนื้อสัตว์ มีเพียงถั่วเหลืองที่ถือว่ามีโปรตีนสมบูรณ์ที่มาพร้อมกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการครบที่สุดในบรรดาพืชที่มีโปรตีนทั้งหมด นอกจากนี้การรับประทานพืชที่มีโปรตีนให้ได้ปริมาณที่เท่ากับการได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ จำเป็นจะต้องรับประทานโปรตีนจากพืชให้มากเพียงพอ ถึงจะทดแทนในส่วนของโปรตีนที่ต้องการได้รับในแต่ละวันได้

อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากพืชไม่ได้ส่งผลเสียหรืออันตรายใดๆ ต่อร่างกาย เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าได้รับโปรตีนจากพืชอย่างเพียงพอในแต่ละวัน เพราะข้อมูลจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ผู้ที่ได้รับโปรตีนในร่างกายไม่เพียงพอ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายอ่อนเพลียไม่สดชื่น ภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย แผลหายช้า ผิวหนังไม่แข็งแรง และระบบฮอร์โมน เอนไซม์ ทำงานผิดปกติ จนถึงขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เมื่อขาดโปรตีนที่เพียงพอในระยะยาว


ข้อดีของโปรตีนจากสัตว์

เนื้อสัตว์ ประกอบไปด้วยสารอาหารมากมายที่นอกเหนือไปจากโปรตีนที่เป็นสัดส่วนของสารอาหารที่มากที่สุด โดยเรียกว่าเป็น “โปรตีนสมบูรณ์” เพราะเป็นโปรตีนที่มาพร้อมกับกรดอะมิโน 9 ชนิด ได้แก่ ฮีสทิดีน (histidine) ไอโซลิวซีน (isoleucine) ลิวซีน (leucine) ไลซีน (lysine) เมไธโอนีน (methionine) ฟีนิละลานีน (phenylalanine) ธรีโอนีน (threonine) ทริปโทแฟน (tryptophan) และวาลีน (valine) ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า เนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนที่มีกรดอะมิโนและคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์กว่าโปรตีนจากพืช


ข้อเสียของโปรตีนจากสัตว์

แม้ว่าคุณค่าทางสารอาหารจะมากกว่า แต่โปรตีนจากสัตว์มีข้อควรระวัง เพราะมักมาพร้อมกับไขมันและคอเรสเตอรอล ที่หากรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจเสี่ยงโรคอันตรายต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันพอกตับ เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกกินเนื้อสัตว์ที่มีปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอลน้อย เช่น อกไก่ สันในไก่ลอกหนัง เนื้อปลาลอกหนัง รวมถึงไข่ก็เป็นแหล่งโปรตีนจากสัตว์ที่สำคัญต่อร่างกายเช่นกัน แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 2 ฟอง หรือผู้ที่กำลังควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกาย อาจลดการรับประทานไข่แดงได้ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพิ่มเติมว่าสามารถรับประทานได้มากน้อยแค่ไหน

สรุปว่า โปรตีนจากพืชดีต่อร่างกาย แม้ว่าจะมีสารอาหารไม่ครบสมบูรณ์เท่าโปรตีนจากสัตว์ แต่ก็สามารถรับประทานได้ เพราะยังสามารถเลือกรับประทานนม ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมอื่นๆ ได้อยู่ (ยกเว้นผู้ที่กินเจ) และต้องมั่นใจว่ารับประทานอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ส่วนโปรตีนจากสัตว์ให้คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ต้องระมัดระวังสารอาหารอื่นๆ อย่างไขมันและคอเลสเตอรอลที่อาจแฝงตัวมาด้วยกันกับเนื้อสัตว์ด้วย จึงควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ เพื่อลดเสี่ยงโรคอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ อย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์อย่างแท้จริง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 20/02/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a34,350.0034,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,225.0033,731.0034,950.00
ทองรูปพรรณ 90%2,002.5030,357.90n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,780.0026,984.80n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,001.0015,175.16n/a
ทองรูปพรรณ 40%779.0011,809.64n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,306.0034,958.96n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 20/02/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.0538.0538.3538.0538.0538.0538.0538.0538.0538.05
แก๊สโซฮอล์ 9136.2836.2836.7836.2836.2836.2836.2836.2836.2836.28
แก๊สโซฮอล์ E2035.9435.9436.4435.9435.9435.9435.9435.9435.94
แก๊สโซฮอล์ E8535.6935.6935.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม45.4449.4449.4449.4445.44
เบนซิน 9545.9447.1146.4446.0945.94
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า