สาระน่ารู้ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567

จับตาผังเมืองใหม่เปลี่ยนเกมอสังหาฯทุบคอนโดแนวส่วนต่อขยายบ้านแข่งเดือด!

จับตาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (กทม.) ฉบับปรับปรุงครั้งที่4 พลิกเกมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งตลาดคอนโดมิเนียม และแนวราบ ขณะที่ตัวแปรสำคัญอย่าง “ราคาที่ดินในเมือง” ยังคงพุ่งทะยาน สวนทางกำลังซื้อชะลอตัว

วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ปี 2567 ยังคงไม่สดใส จากปัจจัยลบสำคัญ หนี้ครัวเรือนสูง ลูกค้ากู้ยาก หุ้นกู้ขายยาก ส่งผลกระทบต่อซัพพลายและดีมานด์ในตลาดระดับกลาง -ล่าง ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ระดมทุนยากขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดอสังหาฯ เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการลดลง กำลังซื้อหดตัว 

ขณะที่ จุดเปลี่ยนสำคัญ! ที่ทำให้ตลาดกลับมาดีขึ้น คือ “ผังเมืองฉบับใหม่” ที่จะประกาศในปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 ทำให้สามารถพัฒนาโครงการได้มากขึ้น หลังสีผังเมืองเปลี่ยน ขณะเดียวกัน รถไฟฟ้าเปิดให้บริการครบ 10 สาย ทำให้โครงการแนวราบได้รับอานิสงส์จากการที่ลูกค้าสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกขึ้น

“ผังเมืองใหม่ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้คนที่มีกำลังซื้อจำกัดสามารถซื้อบ้านที่มีพื้นที่กว้างขึ้น ในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝดในราคาใกล้เคียงกับการซื้อคอนโดในเมือง มีพื้นที่จำกัด รวมถึงคอนโดแนวส่วนต่อขยาย ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หันมาพัฒนาโครงการแนวราบนอกเมืองมากขึ้นเกาะส่วนต่อขยาย”

ขณะเดียวกัน มีเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ อาทิ โครงการวัน แบงค็อก ที่จะเปิดตัวเฟสแรกในปีนี้ และ โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค กำหนดแล้วเสร็จปี 2568 รวมทั้งโครงการใหม่ในกลุ่มเซ็นทรัล จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดเกิดความคึกคักมากขึ้น ทำให้ภาพรวมอสังหาฯ ปีนี้เติบโต การฟื้นตัวเศรษฐกิจท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐที่ขยายไปจนถึงปลายปี 2567 รวมทั้งความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในทำเลใจกลางเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ  อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง

ดังนั้น ในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการแนวราบ จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 6,290 ล้านบาท ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,410 ล้านบาท  แนวราบทั้งหมดโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แทนที่จะลงทุนพัฒนาโครงการคอนโด 

“คอนโดของเพอร์เฟค เป็นกลุ่มระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จึงได้รับผลกระทบจากปัญหาการกู้ไม่ผ่านสูง เพราะลูกค้ากลุ่มนี้กำลังซื้ออ่อนแอ จึงหันมาพัฒนาโครงการแนวราบในกลุ่มที่มีกำลังซื้อแทน”

วสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ กล่าวเสริมว่า ปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค วางเป้าขายอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 12,000 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพและกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ในเซ็กเมนต์ระดับกลางจนถึงลักชัวรี ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ จำนวน 163 ยูนิต มูลค่า 2,140 ล้านบาท

โครงการบ้านเดี่ยว เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์ 346 จำนวน141 ยูนิตมูลค่า 1,700 ล้านบาท โครงการโมดิ วิลล่า 2 บางใหญ่ จำนวน 389 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท โครงการอาคารพาณิชย์ จำนวน 32 ยูนิต มูลค่า 210 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด โมดิ วิลล่า สถานีคูคต จำนวน 175 ยูนิต มูลค่า 940 ล้านบาท โครงการวาวิล่า กรุงเทพกรีฑา จำนวน 38 ยูนิต มูลค่า 840 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวเพอร์เฟค เพลส กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า จำนวน 66 ยูนิต มูลค่า 670 ล้านบาท

ธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2567 แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ “บ้านลักชัวรี” เป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีสัดส่วนน้อยแต่กลับเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 

โดยปีนี้บริษัทมีแผนขยายพอร์ตสินค้าแนวราบระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มขึ้น 56% จากสัดส่วนยอดขายปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือโครงการ ศุภาลัย ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่-มอเตอร์เวย์ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ หน้ากว้าง บนพื้นที่โครงการกว่า 10 ไร่ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวน 41 ครอบครัวเท่านั้น

การพัฒนาแบรนด์แนวราบใหม่ “ไพร์ม วิลล่า” เป็นบ้านระดับไฮเอนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าระดับบนที่มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ชัดเจน มองหาบ้านหลังใหญ่ มีพื้นที่กว้าง ฟังก์ชันครบ สามารถอยู่แบบครอบครัวเดี่ยวจนถึงครอบครัวใหญ่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


‘เพอร์เฟค’กร้าวลดหนี้1.1หมื่นล้านใน3ปี เปิด7โครงการมูลค่า7.7พันล้าน

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เผยแผนปี67 โฟกัสความแข็งแกร่งด้านการเงิน ลดภาระหนี้1.1หมื่นล้านใน 3 ปี เล็งเปิด 7 โครงการใหม่มูลค่า7.7พันล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย2หมื่นล้านรายได้1.8หมื่นล้าน

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) แถลงถึงแผนธุรกิจปี 2567 ว่า บริษัทมุ่งเน้นการจัดการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ลดภาระหนี้ พัฒนาสินค้ารูปแบบใหม่ และการดำเนินงานเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 9,750 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,540 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 4,460 ล้านบาท และโรงแรม 3,250 ล้านบาท ขณะที่รายได้ปีนี้ตั้งไว้ที่ 18,000 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 8,600 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2,380 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 3,770 ล้านบาท และโรงแรม 3,250 ล้านบาท

“ปีนี้กลุ่มบริษัทยังมีนโยบายสร้างความมั่นคงด้านการเงิน ให้ความสำคัญกับการลดภาระหนี้มากกว่าการขยายตัว ตั้งเป้าลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทให้ลงไปอยู่ที่ระดับ 1 เท่าภายในสิ้นปีนี้ ”

โดยปีนี้มีแผนลดภาระหนี้ของ พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค 2,000 ล้านบาท แกรนด์ แอสเสทฯ 5,000 ล้านบาท รวมเป็น 7,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและขายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม นอกจากนี้ยังมีแผนลดภาระหนี้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ใน 2 ปีข้างหน้าอีกปีละ 2,000 ล้านบาท จากการขายที่ดินและเงินคืนจากบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงรวม 11,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี

ในส่วนโครงการร่วมทุน ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีการร่วมทุนกับ 3 บริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ เป็นมูลค่าโครงการรวม 28,120 ล้านบาท มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากโครงการร่วมทุนเติบโตอีก 24% ขณะที่ธุรกิจโรงแรมปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากปีก่อนถึง 54%

ซึ่งมีปัจจัยบวกหลักคือสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับสู่ภาวะปกติ และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงงานประชุมต่างชาติ โดยโรงแรมทั้ง 5 แห่งของบริษัท มีอัตราเข้าพักและราคาเฉลี่ยต่อห้องสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสามารถสร้างกำไรจากการบริหารงานได้สูงกว่าปี 2565 อยู่ที่ 152% อีกทั้งมากกว่าปี 2562 ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ถึง 10% สำหรับปี 2567 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 22% กำไรขั้นต้นเติบโต 36% จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

นายวสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค วางเป้าขายอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 12,000 ล้าน มีแผนเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 7,700 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 6,290 ล้านบาท ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,410 ล้านบาท เป็นแนวราบทั้งหมดโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน 

โครงการไฮไลท์ได้แก่ “เพอร์เฟค เพลส ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์” ซึ่งเป็นการกลับมาสานต่อความสำเร็จของแบรนด์เพอร์เฟค เพลส ในโซนกรุงเทพตะวันตก ทำเลที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและได้รับการตอบรับอย่างดีมากว่า 20 ปี

 “วาวิล่า” โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นจับกลุ่มลักซ์ชัวรี่เพิ่มเติมในทำเลกรุงเทพกรีฑา และยังมีการขยายโครงการในทำเลใหม่ ได้แก่ “โมดิ วิลล่า สถานีคูคต” เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

บริษัทยังเน้นการพัฒนารูปแบบสินค้าทั้งบ้านเดี่ยวในโครงการเพอร์เฟค เพลส และ เพอร์เฟค พาร์ค ที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ เพิ่มฟังก์ชั่นและขยายพื้นที่ใช้สอย  รวมถึงการกลับมารุกตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้นอีกครั้ง ด้วย “เดอะ เมทโทร” ทาวน์โฮมที่ปรับโฉมใหม่ให้สวยงามเรียบง่ายในสไตล์มินิมอลลิสต์  


พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ยังเดินหน้าสู่ความยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Go Green” ผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่ 1. Clean Energy การใช้พลังงานสะอาดทั้งในระดับโครงการและในบ้าน ทั้งการติดตั้งโซลาร์รูฟบนอาคารสโมสร สำนักงานขาย และบ้านในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ และ เลค เลเจ้นด์ ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับบ้านเดี่ยวสร้างใหม่ในโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ, เลค เลเจ้นด์ และวาวิล่า และติดตั้งระบบที่รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Ready) สำหรับบ้านเดี่ยวโครงการเพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค และโมดิ วิลล่า

2. Water Saving การพัฒนาโครงการที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่ให้มีความโดดเด่น  ควบคู่ไปกับการดูแลแหล่งน้ำและทะเลสาบภายในโครงการอย่างดี ทั้งการจัดการคุณภาพน้ำและหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ประโยชน์

3. Materials & Process การให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบให้ลดการใช้พลังงาน และเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้บริษัทมีส่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และ 4. Good Health & Well-Being ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย โดยปีนี้จะเปิดคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่รูปแบบใหม่ในทำเลกรุงเทพกรีฑา เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัยในโครงการ

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 28ก.พ. ที่ระดับ 35.89 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways downนักลงทุนต่างชาติเริ่มอาศัยจังหวะการแข็งค่าขึ้นทยอยขายทำกำไรทั้งหุ้นและบอนด์ กดดันให้เงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าต่อเนื่อง

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 28ก.พ. 2567 ที่ระดับ  35.89 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  35.84 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรายังคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways down หลังปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ทยอยแผ่วลง อย่างไรก็ดี เงินบาทก็อาจมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าได้บ้างในช่วงระหว่างวัน จากโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน

หรือแม้กระทั่งโฟลว์ซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลังเงินเยนญี่ปุ่นได้อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทพอสมควรในช่วงนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติก็อาจเริ่มอาศัยจังหวะการแข็งค่าขึ้นบ้างของเงินบาทในการทยอยขายทำกำไรทั้งหุ้นและบอนด์ กดดันให้เงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ง่ายนัก หากยังไม่มีปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจน

เรายังคงประเมินว่า เงินบาทอาจมีโซนแนวรับแถว 35.80 บาทต่อดอลลาร์ แต่หากเงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจนและแข็งค่าหลุดแนวรับดังกล่าว ก็อาจเปิดโอกาสให้เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องทดสอบโซน 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเรามองว่า โอกาสเกิดภาพดังกล่าวในระยะสั้นยังมีไม่มากนัก และอาจต้องรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

รวมถึงรอลุ้นรายงานยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ที่ต้องออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน จนทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่า 3 ครั้ง ที่ระบุไว้ใน Dot Plot ขณะที่โซนแนวต้านยังคงเป็นช่วง 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ที่เป็นแนวต้านเชิงจิตวิทยาในช่วงนี้

เราขอเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา (มองจากกรอบเงินบาทรายสัปดาห์) อย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.00 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย (แกว่งตัวในช่วง 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยจังหวะการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย จนทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดเชื่อว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง ตามที่เฟดได้ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด

ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด ทั้งยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดย Conference Board ต่างออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด อนึ่ง การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็มีส่วนกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงใกล้โซนแนวรับอีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนต่างเข้าซื้อทองคำในจังหวะดังกล่าวบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำดังกล่าวก็มีส่วนกดดันเงินบาท

 ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม หลังในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นร้อนแรง หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ อีกทั้งผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE พร้อมจับตาสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.17%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้น +0.18% หนุนโดยความหวังของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีโอกาสเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่งผลให้บรรดาหุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth ต่างปรับตัวขึ้น อาทิ ASML +1.1%

นอกจากนี้ ความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังได้ช่วยให้บรรดาหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม ยานยนต์และเหมืองแร่ ต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปก็เผชิญแรงกดดันบ้าง จากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่ม Healthcare โดยเฉพาะ Novo Nordisk -1.2% หลังบริษัทยาในสหรัฐฯ ได้รายงานผลการทดลองยาที่สามารถลดน้ำหนักได้ดีและอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของยาจาก Novo Nordisk

ในฝั่งตลาดบอนด์ ท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย กอปรกับบรรยากาศโดยรวมในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 4.30% อีกครั้ง แต่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด เริ่มออกมาแย่กว่าคาด

ทั้งนี้ เราประเมินว่า การปรับตัวขึ้นต่อของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นั้น อาจเป็นไปอย่างจำกัด หลังมุมมองของผู้เล่นในตลาดนั้นเหมือนกับสิ่งที่เฟดประเมินไว้ใน Dot Plot ทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4.50% ได้นั้น อาจต้องอาศัยมุมมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 3 ครั้ง หรือ

ไม่ลดดอกเบี้ยลงเลย ซึ่งเราประเมินว่า โอกาสเกิดภาพดังกล่าวมีน้อยมากในปัจจุบัน ดังนั้น Risk-Reward ของการเข้าซื้อบอนด์ระยะยาวก็ยังคุ้มค่าอยู่ ทำให้เราคงมองว่า นักลงทุนสามารถทยอยเพิ่มสถานะการลงทุนได้ หรือนักลงทุนอาจรอจังหวะ Buy on Dip ก็ได้เช่นกัน

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์มีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ แต่โดยรวมเงินดอลลาร์ก็ยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้และเผชิญการลดสถานะ Long USD ของผู้เล่นในตลาดเพิ่มเติม จากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดและรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 103.8 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 103.6-103.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี  รวมถึงภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ย่อตัวลงสู่โซน 2,030-2,040 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ซึ่งในช่วงโซนราคาดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ยังคงทยอยเข้าซื้อทองคำอยู่บ้างและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาทิ คาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2023 ครั้งที่ 2 รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสฯ

ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.84-35.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.10 น.) อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 35.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ

ทั้งนี้ เงินบาทกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แต่อาจจะมีโอกาสขยับอ่อนค่าลงในระหว่างวัน (หลังขยับแข็งค่าขึ้นมากวานนี้) โดยเฉพาะจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงใกล้สิ้นเดือนของฝั่งผู้นำเข้า ขณะที่แรงขายเงินดอลลาร์ฯ เริ่มชะลอลง และตลาดกลับมารอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยเปิดเผยออกมาในสัปดาห์นี้ อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ในคืนนี้ และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE/Core PCE Price Indices เดือนม.ค. 
 
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 35.75-35.95 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ ทิศทางเงินลงทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 (ครั้งที่ 2) ของสหรัฐฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


AOT เชิญร่วมเปิดประสบการณ์ เดิน-วิ่งการกุศล “THE 3rd RUNWAY SUVARNABHUMI CHARITY RUN”

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล “THE 3rd RUNWAY SUVARNABHUMI CHARITY RUN” บนทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ณ ทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ.

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT ได้จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศล “THE 3rd RUNWAY SUVARNABHUMI CHARITY RUN” บนทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ.เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ความสำเร็จของการดำเนินโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ. โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร เพื่อช่วยเหลือสังคมด้านสาธารณสุขและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีสุขอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงและเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับทางวิ่ง (Runway) คือ พื้นที่สนามบินที่จัดเตรียมไว้สำหรับการขึ้นลงของเครื่องบิน ปัจจุบัน ทสภ.มีทางวิ่งจำนวน 2 เส้น ทางวิ่งเส้นที่ 1 อยู่ทางทิศตะวันตกของ ทสภ.และทางวิ่งเส้นที่ 2 อยู่ทางทิศตะวันออกของ ทสภ. มีระยะห่างกันประมาณ 2,200 เมตร อากาศยานสามารถบินขึ้น-ลงได้พร้อมกันทั้ง 2 ทางวิ่ง

อย่างไรก็ตาม จากการที่ ทสภ.มีความจำเป็นต้องปิดซ่อมทางวิ่งทิศตะวันออกเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา พบว่ามีผลกระทบต่อขีดความสามารถของทางวิ่ง โดยลดลงเหลือเพียง 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ในขณะที่ชั่วโมงเร่งด่วนมีจำนวนเที่ยวบินขึ้น-ลงมากถึง 50 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบินและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น AOT จึงมีโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ.ตั้งแต่ปี 2563 มีความกว้าง 60 เมตร และความยาว 4,000 เมตร ขนานไปกับทางวิ่งเส้นที่ 1 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ.ให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มจาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และคาดว่าทางวิ่งฯ จะเปิดให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2567 จึงถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงความสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ และแสดงความพร้อมของ ทสภ.ในการรองรับผู้โดยสารและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกให้ได้รับความสะดวกสบายอันจะนำมาสู่การฟื้นฟูทางด้านอุตสาหกรรมการบิน และการท่องเที่ยว รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป

กิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) ของ AOT ที่จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการออกกำลังกาย ดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยให้แข็งแรง และยังเป็นโอกาสในการช่วยเหลือสังคมร่วมกัน THE 3rd RUNWAY SUVARNABHUMI CHARITY RUN จะเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม สามารถเดินวิ่งบนทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ. ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของท่าอากาศยานระดับโลกในวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ณ ทางวิ่งเส้นที่ 3 ทสภ. โดยกิจกรรมแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภท Mini Marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร ค่าสมัคร 800 บาท, ประเภท Fun run ระยะทาง 5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 600 บาท และประเภท VIP ระยะทาง 1 กิโลเมตร ค่าสมัคร 1,000 บาท ซึ่งผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับ 1. เสื้อที่ระลึกตามระยะทาง
2. หมายเลขแข่งขัน (BIB) 3. เหรียญรางวัลเมื่อเข้าเส้นชัย 4. ระบบ Timing Chip ทุกระยะ 5. อาหารและเครื่องดื่มหลังเส้นชัย

สำหรับไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะได้ถ่ายรูปกับเครื่องบินในระยะใกล้ และได้ร่วมกิจกรรมเดินวิ่งใกล้ชิดกับศิลปิน ดารา ทั้ง แอน ทองประสม, เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์, ดีเจพุฒ, พุฒิชัย เกษตรสิน, หญิง รฐา โพธิ์งาม, หมอเมย์ พญ.สมิตตา สังขะโพธิ์ และ เหล่า INFLUENCER อีกมากมาย ซึ่งเมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับภาพแห่งความประทับที่สามารถโหลดได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

“ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และช่วยเหลือสังคมไปด้วยกัน” กับกิจกรรมเดินวิ่งการกุศล THE 3rd RUNWAY SUVARNABHUMI CHARITY RUN ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 3 มีนาคม 2567 เวลา 23:59 น. ที่ Link รับสมัคร https://race.thai.run/the3rdrunway ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/the3rdrunwaysuvarnabhumicharityrun

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประโยชน์ของ “ควินัว” และผลข้างเคียงในการรับประทานควินัวมากเกินไป

ควินัว จัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดธัญพืชที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “ซูเปอร์ฟู้ด” หรือสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่คนรักสุขภาพหันมารับประทานกันมากมาย ควินัวเป็นธัญพืชที่มีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่บ้าง แต่หากปรุงอย่างถูกวิธีก็จะช่วยดึงรสชาติและกลิ่นอ่อนๆ พร้อมทั้งเสริมรสชาติด้วยการปรุงรสเพิ่มจนสามารถให้รสชาติอร่อยกลมกล่อมพร้อมประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังรับประทานควินัวที่ผู้ที่รับประทานเป็นประจำควรทราบไว้

ประโยชน์ของควินัว

  1. ควินัวมีโปรตีนสูง
    สำหรับสายสุขภาพที่กินเจหรือกินมังสวิรัติ สามารถเลือกกินควินัวเพื่อเสริมโปรตีนให้กับร่างกายแทนเนื้อสัตว์ได้
  2. ควินัวไม่มีกลูเตน
    ในอาหารจำพวกแป้งหลายอย่างมักมีโปรตีนที่เรียก “กลูเตน” รวมอยู่ด้วย หลายคนมีอาการแพ้กลูเตน แต่สำหรับควินัว เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน เพราะเป็นโปรตีนที่ดีต่อร่างกายโดยปราศจากกลูเตนนั่นเอง
  3. ควินัวอาจช่วยลดน้ำหนักได้
    โปรตีนที่มีอยู่มากในควินัว เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลดน้ำหนัก ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ลดความหิว เพราะกินแล้วอิ่ม อยู่ท้อง และอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
  4. ควินัวสามารถลดไขมันในเลือด
    มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานควินัววันละ 50 กรัมติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ อาจช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และไขมันไตรกลีเซอไรด์ด้วย อย่างไรก็ตาม ระดับไขมันต่างๆ ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการรับประทานควินัวอาจไปลดระดับของไขมันคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีอีกด้วย ดังนั้นควรจำกัดปริมาณกับกินไม่ให้มากเกินไป
  5. ควินัวลดความเสี่ยงท้องผูก
    ควินัวเป็นธัญพืชที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการท้องผูกได้
  6. ควินัวควบคุมน้ำตาลในเลือด
    มีงานวิจัยพบว่า ควินัวสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 จากคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดได้
  7. ควินัวต้านการอักเสบในร่างกาย
    ควินัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซูเปอร์ฟู้ดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยต่อต้านการอักเสบในร่างกายได้ งานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่าสารซาโปนิน (Saponin) ในควินัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ในร่างกายได้ถึง 25-90%

ผลข้างเคียงในการรับประทานควินัว

ในปัจจุบันแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจนว่าควินัวส่งผลเสียต่อร่างกายบ้างหรือไม่ แต่การรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในแง่ของการได้รับ สารไฟเตต (Phytates) มากเกินไป โดยสารไฟเตตในควินัวอาจยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญบางชนิดอย่างธาตุเหล็กและสังกะสีได้ นอกจากนี้ การรับประทานควินัวอาจมีส่วนทำให้แร่ธาตุต่างๆ รวมตัวกันจนเกิดเป็นนิ่วในไตได้

สำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่ให้นมบุตร ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุถึงด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพได้อย่างแน่ชัด ดังนั้น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรก็ควรรับประทานธัญพืชชนิดนี้ด้วยความระมัดระวัง 

คนที่มีอาการภูมิแพ้ หากกินแล้วมีอาการแพ้ เช่น ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม ผื่นขึ้น ฯลฯ อาจมีความเป็นไปได้ว่าจะแพ้ควินัว หรือแพ้สารเคมีที่อาจตกค้างอยู่ในควินัว ดังนั้นจึงควรหยุดรับประทานแล้วปรึกษาแพทย์

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


20 อันดับคำค้นยอดนิยม “ตลอดปี 2023” หนัง แปล บอล ติดท็อป 3

นอกจากเว็บไซต์ที่มีทั้งหมด 20 ดันดับที่คนไทยชอบเข้าที่สุดแล้ว ล่าสุดยังมีการเปิดเผยเรื่องของคำค้นหาที่ We Are Social ได้รวมและจดสถิติจาก Google มีดังนี้

  1. แปล
  2. หนัง
  3. ผล บอล
  4. แปล ภาษา
  5. บ้าน บอล
  6. บอล สด
  7. บ้าน ผล บอล
  8. ผลบอล สด
  9. ตรวจ หวย
  10. เพลง
  11. YouTube
  12. สภาพ อากาศ
  13. Facebook
  14. หี
  15. บอล วัน นี้
  16. ดู หนัง
  17. ดู บอล
  18. Google
  19. เกม

เรียกได้ว่าคำค้นหาที่คนไทยคนอาจจจะไปเน้นที่ผลบอล ตรวจหวย การแปลภาษา ซึ่งเป็นข้อความที่ใกล้ตัว แต่อาจจะมีกแปลกประหลาดอยู่ที่คำว่า “หี” นั่นเอง ทั้งนี้ใน Thailand Digital Stat Insight 2024

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


บทสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐานในร้านอาหาร รู้ไว้ ได้ใช้แน่ ๆ

บทสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐานในร้านอาหาร เป็นบทสนทนาขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต้องเรียนรู้ หากทำงานในร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย ร้านอาหารนานาชาติ หรือแม้กระทั่งเป็นลูกค้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่อาศัยหรือท่องเที่ยวต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่มีโอกาสได้ใช้ เมื่อต้องพบปะและสื่อสารกับชาวต่างชาติ ฉะนั้น การเตรียมตัวและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ทำให้ไม่พลาดโอกาสในการเข้าทำงาน รวมทั้งได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย ไปทั่วโลกได้อย่างไม่อดตายแน่นอน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำบทสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในร้านอาหารง่าย ๆ และใช้ได้จริง ดังนี้

  • ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับผู้เสิร์ฟอาหารและรับออเดอร์อาหาร

How many people today/tonight?

(กี่ท่านคะ/ครับ)

Your table is ready. Could you follow me, please?

(โต๊ะสำหรับคุณพร้อมแล้ว เชิญตามมาทางนี้ค่ะ/ครับ)

Please be seated.

(เชิญนั่งได้เลยค่ะ/ครับ)

What would you like? Would you like to see the menu?

(คุณจะทานอะไรดี ต้องการดูเมนูอาหารไหมคะ/ครับ)

Which beverage do you want to have?

(คุณต้องการรับเครื่องดื่มแบบไหนคะ/ครับ)

Would you like some fruit or dessert?

(คุณต้องการรับผลไม้หรือของหวานไหมคะ/ครับ)

I will be back for your order in a moment.

อีกสักครู่ฉันจะมารับออเดอร์นะคะ/ครับ

Would you like to order now? / What would you like to have?

(คุณพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ/ครับ)

I am very sorry for your wait; I will check it for you right away.

(ขอโทษที่ต้องทำให้รอนะคะ/ครับ เดี๋ยวจะไปเช็กให้ค่ะ/ครับ)

How was your meal?

(อาหารเป็นอย่างไรบ้างคะ/ครับ)

Thank you, please come back again.

(ขอบคุณค่ะ/ครับ กรุณากลับมาที่ร้านอีกนะคะ/ครับ)

  • ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับพนักงานต้อนรับ รับโทรศัพท์

Good evening, this is (restaurant name).

(สวัสดีค่ะ ร้าน….ค่ะ/ครับ)

Have you got a reservation?

(คุณได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ/ครับ)

Who is the reservation for?

(ใช้ชื่ออะไรจองโต๊ะคะ/ครับ)

Hi, would you like to have here or take away?

(สวัสดีค่ะ/ครับ จะทานที่นี่ หรือซื้อกลับดีคะ/ครับ)

What would you like today?

(จะรับ/ต้องการอะไรคะ/ครับ)

What time and date would you like to make your reservation?

(จะจองโต๊ะเวลาและวันไหนดีคะ)

How many people and children please?

(มากี่ท่านและมีเด็กมาด้วยหรือเปล่าคะ/ครับ)

I am sorry the restaurant is full now.

เสียใจด้วยค่ะ/ครับคุณ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ/ครับ

Can I have your name, contact number and your address please?

(รบกวนขอทราบชื่อ เบอร์ติดต่อกลับ และที่อยู่ด้วยค่ะ/ครับ)

Pick up or delivery please?

(จะมารับอาหารเองหรือจะให้ไปส่งดีคะ/ครับ)

May I repeat your order back please to make sure I have everything.

(ขอรบกวนทวนรายการอาหารหน่อยนะคะ/ครับ เพื่อให้แน่ใจว่าครบถ้วนตามสั่ง)

Thank you for that, that should take around 20 minutes.

(ขอบคุณค่ะ/ครับ น่าจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ/ครับ)

  • ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับพนักงานรับจ่ายเงิน

Excuse me, here is your bill.

(นี่บิลของคุณค่ะ/ครับ)

Sorry, we do not do split billing.

(ต้องขอโทษด้วยนะคะ/ครับ ทางร้านไม่สามารถแยกบิลจ่ายได้นะคะ/ครับ)

How would you like to pay? by cash or card?

(ต้องการจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิตดีคะ/ครับ)

Here is your change and your receipt. Thank you.

(นี่เงินทอนและใบเสร็จ ขอบคุณค่ะ/ครับ)

  • ตัวอย่างบทสนทนาสำหรับลูกค้า

I would like to make a reservation.

(ฉันต้องการจองโต๊ะ)

Do you have any tables available?

(มีโต๊ะว่างไหมคะ/ครับ)

I have got a reservation.

(ฉันจองโต๊ะไว้แล้วค่ะ/ครับ)

A table for…please.

(ขอโต๊ะสำหรับ….คนค่ะ/ครับ)

Could I see the menu, please?

(ขอดูเมนูค่ะ/ครับ)

What tasty dishes do you have? /Would you recommend something?

(มีอาหารอะไรอร่อยแนะนำบ้างคะ/ครับ)

I would like to make an order please.

(ต้องการสั่งอาหารค่ะ/ครับ)

Can I have…please?

(ขอสั่ง…ค่ะ/ครับ)

I have not got the food that I ordered yet.

(ยังไม่ได้รับอาหารที่สั่งไปเลยค่ะ/ครับ)

I want to take it home. Could you please wrap it for me?

(ฉันต้องการนำอาหารกลับบ้าน กรุณาห่อให้หน่อยได้ไหม)

May I have the bill, please?

(เก็บเงินด้วยค่ะ/ครับ)

Do you accept credit cards or cash?

(รับบัตรเครดิตหรือเงินสดคะ/ครับ)

Thank you, that was delicious.

(ขอบคุณค่ะ/ครับ อาหารอร่อยมาก)

ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com


อยุธยาเปิดตัว “ตบนะ” เครื่องดื่มจากผักตบชวา พร้อมสอน ฟรี !

ผักตบชวาว่า

“PROJECT : 4 เครื่องดื่ม

ศูนย์ฝึกมีชีวิต ร่วมกับ บริษัทฯเถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมสร้างแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้จากผักตบชวา แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ทางศูนย์ฝึกมีชีวิต จึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถซื้อหาในราคาที่จับต้องได้ ภายใต้แบรนด์ “ตบนะ” ผักตบชวาแปรรูปชนิดผง ชงทานเป็นเครื่องดื่ม หอม อร่อย มีคลอโรฟิลล์ และไฟเบอร์สูง ผลิตจากผักตบชวา เก็บจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่สะอาดปราศจากสารตกค้าง ตรวจค่าโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ครูขอขอบพระคุณทุกโอกาสสำคัญที่มอบให้ชุมชนค่ะ”

นอกจากนี้ยังมีการเปิดอบรมอาชีพฟรีให้กับผู้สนใจในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้อีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ศูนย์ฝึกมีชีวิต กศน.อำเภอภาชี ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ นวนคร จังหวัดปทุมธานี จัดอบรมวิชาของแผ่นดิน มหัศจรรย์ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชน หลักสูตร “บะหมี่หยกชวา” สนใจฝึกอาชีพฟรี ในวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 onsite ณ ห้องอบรมคลาดเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่เวลา 09.30-12.30 น.ลงทะเบียนเรียนรู้ได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/02/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a34,450.0034,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,232.0033,837.1235,050.00
ทองรูปพรรณ 90%2,008.8030,453.41n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,785.6027,069.70n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,004.0015,220.64n/a
ทองรูปพรรณ 40%781.0011,839.96n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,313.0035,065.08n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/02/2567


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9538.0538.0538.5538.0538.0538.0538.0538.0538.0538.05
แก๊สโซฮอล์ 9136.2836.2836.7836.2836.2836.2836.2836.2836.2836.28
แก๊สโซฮอล์ E2035.9435.9436.4435.9435.9435.9435.9435.9435.94
แก๊สโซฮอล์ E8535.6935.6935.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม45.4449.4449.4449.4445.44
เบนซิน 9545.9447.1146.4446.0945.94
ดีเซล B729.9429.9430.4429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม41.5443.6444.8443.6443.6441.54
แก๊ส NGV19.5919.5919.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า