สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 02 ตุลาคม 2563

ทุบตึกเก่าพลิก”บางกะปิ” เมืองสกายวอล์กรับรถไฟฟ้า

สายสีเหลือง ถึงไทย ขุมทอง รถไฟฟ้า  3 สาย บูม บางกะปิ- ลำสาลี   แห่ซื้อขายทุบตึกเก่า  พัฒนาพื้นที่ รอบสถานี  TOD   เนรมิตเมืองช็อปปิ้งแหล่งงาน นอกจากที่อยู่อาศัย  กทม- นิด้าร่วมศึกษา เป็นโชนแห่งการเดิน ลาก สกายวอล์ก จากแยกบางกะปิยาวถึงแยกเสรีไทย สร้าง งานสร้างอาชีพให้คนพื้นที่  

แยกบางกะปิ กำลังพลิกเปลี่ยนกลายเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายรถไฟฟ้า เชื่อมเข้าพื้นที่มากถึง 3-4 สาย  สายสีเหลือง สายสีส้ม สายสีน้ำตาล สายสีแดงแอร์พอร์ต ลิงก์    ส่งผลให้สำนักการวางผังและพัฒนาเมืองกรุงเทพมหานครกำหนดให้เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องการพัฒนาเมืองหรือ  “TOD หรือ Transit Oriented Development” อันดับแรก เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสร้างแหล่งงานสร้างอาชีพ เนรมิตกิจกรรม สร้างรายได้แหล่งช็อปปิ้งให้กับชุมชนดึงคนเข้าพื้นที่ ไม่เพียงแต่กำหนดให้เป็นย่านอยู่อาศัยหรือเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น แต่อนาคต ย่านบางกะปิ-ลำสาลี  จะกลายเป็นศูนย์กลางย่านพาณิชยกรรมชานเมืองโซนตะวันออกของกทม.ชุมทาง รถไฟฟ้า  มากที่สุดแห่งหนึ่ง  

เนื่องจาก  บางกะปิ  เป็น ชุมชนใหญ่ย่านค้าขายดั่งเดิม ที่เต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ตึกแถว บ้านเก่าแก่  นับ100 หลัง แต่วันนี้ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีหลือง ( ลาดพร้าว-สำโรง)  ก่อสร้างคืบหน้าไปมาก และ ขบวนรถ  เดินทาง จากประเทศจีน เข้ามาถึงประเทศไทย ตึกแถวที่ว่า เริ่มบางตาและ ทยอยหายไป กลายเป็น ความแปลกใหม่     เกิดการพัฒนา  ตึกสูง  อย่างคอนโดมิเนียม โชว์รูม 

เช่นเดียวกับ เส้นทางรามคำแหง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก(ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง   มีการประกาศขายตึกแถวเก่าบริเวณ มหาวิทยาลัย รามคำแหง  และตลอดแนว ที่  ระบุว่ามีทั้งนายทุนมากว้านซื้อ พัฒนาเป็นสถาบันติว หอพัก คอนโดมิเนียม โรงแรม  ขณะศูนย์การค้า  เดิมได้มีการปรับปรุง  พัฒนา  ให้สอดรับกับการเดินทาง ดึงดูดผู้คนเข้า  ช็อปปิ้ง อย่างเดอะมอลล์  ทั้งสองฝากฝั่ง ของถนนรามคำแหง เป็นต้น

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีส้มจะ วิ่งมาจาก ถนนรัชดาฯ พระราม 9 เลี้ยวเข้าสุ่ถนน รามคำแหง มุ่งหน้า สู่ จุดตัดสำคัญ ที่สถานี ลำลาลี ย่านบางกะปิ  ปัจุบัน สร้างความคึกคักให้กับพื้นที่ มีความเจริญเข้ามารอ จากการประกาศปักหมุด โครงการใหญ่ๆ  ขณะเดียวกันในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล( แคราย-มีนบุรี )  วิ่งมาจากถนนนวมินทร์  มาจ่อที่ แยกบางกะปิ  ส่งผลให้รัศมี 800เมตรจากกึงกลาง สถานีร่วมกลายเป็นย่านพัฒนาผสมผสาน ได้ทุกประเภทนอกจากที่อยู่อาศัย 

ด้วยศักยภาพ ที่มีสูง ต่อการ พัฒนา เชิงพาณิชย์   สำหรับ ย่านบางกะปิ  กทม. ได้ร่วมกับ  เอกชนในพื้นที่ ตลอดจน สถาบันการศึกษาอย่าง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า กำหนดการพัฒนากระชับพื้นที่  ให้ เป็นย่านคนเดิน เท้า  ด้วยสกายวอล์กยาวตั้งแต่ แยก บางกะปิเชื่อมลำสาลี มุ่งหน้าไปยังแยกเสรีไทย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะที่ผสมผสานปลุกพื้นที่บางกะปิ เป็นย่าน ช็อปปิ้ง แหล่งงานโรงแรมส่งผลให้  พื้นที่ใกล้เคียงได้อานิงค์

เมื่อกระชับรวมกับแยกพัฒนาการ-หัวหมาก ที่เอกชนในพื้นที่มีเป้าหมาย ลงทุนสกายวอล์ก เชื่อมพื้นที่ให้เหมือนกับ สยามสแควร์จะสนับสนุนให้ 2พื้นที่โชนตะวันออกของกทม. กลายเป็นฮับการเดินทาง จุดนัดพบ ศูนย์การจับจ่าย  จุด ส่งต่อผู้โดยสาร ทั้งจาก  “ล้อ-ราง –เรือ” ไปยังพื้นที่อื่นได้อย่างสะดวก

แหล่งข่าวกทม.ยืนยันว่า แยกบางกะปิ มีรถไฟฟ้า เชื่อม 8 เส้นทางทั้งขาเข้าและขาออก อาทิ สายสีส้มวิ่งผ่านรามคำแหง ขาเข้า ให้นับ1เส้นทาง สายสีส้มสิ่งออกจากรามคำแหง ให้นับอีก 1เส้นทาง เช่นเดียวกับ สายอื่นๆเป็นต้นขณะราคาที่ดิน ขยับสูงต่อเนื่องจาก 1-2แสน บาทต่อตารางวาขยับเป็น 5-6แสนบาทต่อตารางวาและแนวโน้ม ไม่ต่างจาก กรุงเทพชั้นในในอนาคต  จากกรณีมี นักลงทุนตุนที่ดิน พร้อมพัฒนาในอนาคต สร้างความมั่งคั่งให้กับพื้นที่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“SENA” แตกแบรนด์ “เสนา คิทท์” ลุยคอนโดต่ำล้านเจาะตลาดวัยทำงาน

“เสนา” ลุยโปรเจกต์คอนโดต่ำล้าน แตกแบรนด์ใหม่ เจาะเรียลดีมานด์กลุ่มวัยทำงาน

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 (Covid-19) สิ่งหนึ่งที่เป็นบทเรียนสอนให้ทุกคนได้เรียนรู้ ก็คือ ควรสร้างความแน่นอนให้กับชีวิต และสิ่งแรกที่ต้องลงทุน คือ การมีที่อยู่อาศัยเป็นตัวเอง ซึ่งทำให้ทางเสนา เล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด และต้องการสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง รวมถึงลูกค้ากลุ่มวัยทำงาน หรือ first jobber อายุ 25-30 ปี รายได้เฉลี่ย 15,000 บาท ที่ต้องการซื้อคอนโดเป็นสินทรัพย์แรกของชีวิต และลูกค้าที่ต้องการบริหารจัดการเงินออมเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการออมเงินในแบงค์ที่ไห้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งมองว่าการลงทุนในอสังหาฯ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

 ทั้งนี้ ปี 63 นอกจากทางเสนาจะเน้นโครงการแนบราบแล้ว ยังหันมาโฟกัสคอนโดฯต่ำล้าน ภายใต้แบรนด์คอนโดน้องใหม่ “เสนา คิทท์” เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่แท้จริง และมองว่ายังมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเสนาเปิดขายคอนโดต่ำล้านไปแล้วทั้งหมด 8 โครงการ รวมมูลค่า 2,376 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวในครึ่งปีแรก 2563 จำนวน  4 โครงการ ประกอบด้วย 1. เดอะ คิทท์ รังสิต – ติวานนท์ 2. เดอะ คิทท์ ไลท์ บางกระดี – ติวานนท์ 3. เดอะ คิทท์ พลัส พหลโยธิน – คูคต และ 4.เสนา คิทท์ เพชรเกษม – สาย 7 และในครึ่งปีหลังเตรียมเปิดเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 โครงการ ได้แก่ เสนา คิทท์ เทพารักษ์-บางบ่อ และอีก 2 ทำเลที่เตรียมเปิดขายเร็ว ๆ นี้

 “ปี 63 ถือเป็นปีที่หนักหน่วงของเศรษฐกิจไทยที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนเป็นกลายเป็นวิกฤตที่ประเทศไทยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านช่วงเวลาต่ำสุดไปแล้ว แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาฟื้นตัว ซึ่งไม่ใช่ในระยะเร็ว ๆ นี้ อย่างแน่นอน อาจจะกินเวลานานถึง 3 ปีเป็นอย่างน้อย แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ทางศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBEIC) ได้มีการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จากเดิมที่จะติดลบ 5.3% ขยายเป็นติดลบ 8.3% โดยส่วนตัวคาดว่าอาจจะติดลบถึง 10% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ และเหตุปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยนั้น มาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กระทบเป็นวงกว้างทุกภาคอุตสาหกรรม รวมถึงผลกระทบต่อการจ้างงาน และรายได้มีแนวโน้มลดลง”

นายสัมมา คีตสิน กรรมการและกรรมการอิสระ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพและปริมณฑล (ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม) พบว่าคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563  มีจำนวน 8,792 ยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ที่มีจำนวน 66,367 ยูนิต ในด้านประเภทและราคาที่เปิดขายใหม่เหลือขายสะสมในช่วงครึ่งแรกปี 2563 ส่วนใหญ่เหลือขายสะสม มีจำนวน 6,076 ยูนิต โดยระดับราคา 1-3 ล้านบาทเหลือขายมากที่สุด
 ขณะที่ระดับราคาต่ำล้านบาทเหลือขายเพียง 221 ยูนิต โดยเมื่อเทียบกับรายได้ประชากรไทยแล้ว นับว่าคนไทยมีรายได้ที่ไม่สูงมากหรือมีรายได้ต่อครัวเรือนค่อนข้างต่ำ อีกทั้งยังมีภาระหนี้สินต่างๆ ที่มาผูกมัดตัวเองยิ่งขึ้นไปอีกทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยระดับกลาง – บนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
 

สำหรับโครงการ เสนา คิทท์ เทพารักษ์ – บางบ่อ หนึ่งเดียวย่านเทพารักษ์-บางบ่อ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สไตล์ยุโรป สูง 5 ชั้น จำนวน 6 อาคาร จำนวน 328 ยูนิต เหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือ ลงทุนเพื่ออนาคต โดยมีห้องพักให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 38 ตร.ม. โดดเด่นในความแตกต่างของการดีไซน์และตอบสนองทุกความต้องการ ภายในห้องออกแบบฟังก์ชั่นกว้างขวางพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ตอบโจทย์การพักอาศัยอย่างแท้จริง กั้นห้องนอน ห้องรับแขก และห้องครัวเป็นสัดส่วนสามารถลิงค์กับไลฟ์สไตล์ได้ลงตัว
 

“ล่าสุด หลังจากเปิดรอบ VIP เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถปิดยอดขายเฟสแรก 3 อาคาร (158 ยูนิต) คิดเป็นมูลค่า 126 ล้านบาท และเตรียมพรีเซลล์อย่างเป็นทางการ วันที่ 3 – 4 ตุลาคมนี้  พร้อมพบโปรโมชั่นพิเศษ เริ่มเพียง 779,000 บาท ผ่อนเบา ๆ 1,900 บาท”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ทรีนีตี้” มองหุ้นเดือน ต.ค.ผันผวน หลังตลาดหลักทรัพย์กลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตหุ้นปกติ

"ทรีนีตี้” มองหุ้นเดือน ต.ค.ผันผวน หลังตลาดหลักทรัพย์กลับมาใช้เกณฑ์ชอร์ตหุ้นปกติ

หลักทรัพย์ ทรีนิตี้ ประเมินดัชนีหุ้นเดือนต.ค. ผันผวนรุนแรงขึ้น แถมเจอบททดสอบสำคัญกับผลประกอบการไตรมาส 3 ชี้หุ้นเกี่ยวข้องการท่องเที่ยว-การบริโภคภายใน มีความเสี่ยงสูง

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผย ถึงทิศทางการลงทุนเดือน ต.ค.ว่า โดยภาพรวมมองกรอบการแกว่งตัวของดัชนีที่ 1,190-1,270 จุด อิงค่าพี/อีล่วงหน้าระหว่าง 15.7-16.8 เท่า ภายใต้สมมุติฐานอัตรากำไรสุทธิของตลาด(EPS) จะไม่ถูกปรับลดลงอีกอย่างสำคัญ ประเมินดัชนีตลาดหุ้นในเดือนนี้จะมีความผันผวนรุนแรงขึ้น จากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์กลับมาใช้เกณฑ์ปกติในการชอร์ตเซลหุ้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

และที่สำคัญ ดัชนียังเตรียมเจอบททดสอบจากการเตรียมเข้าสู่ช่วงของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งทางทรีนีตี้ ประเมินว่ามีโอกาสสร้างความผิดหวังให้กับตลาดได้ ทั้งในแง่ของงบฯไตรมาส 3 เอง และแนวโน้มกำไรปีหน้าที่นักวิเคราะห์อาจต้องมีการหั่นลง ซึ่งจะนำมาสู่การปรับลดประมาณการ EPS ของตลาดครั้งใหม่ได้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการหมดอายุมาตรการพักชำระหนี้ของธปท. ซึ่งอาจเป็นการสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการรวมไปถึงประชาชนในประเทศมากยิ่งขึ้นได้

สำหรับปัจจัยภายนอกนั้น คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเข้าสู่ช่วงของการแกว่งตัวผันผวนมากขึ้น เมื่อเข้าใกล้กับช่วงของการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย.เนื่องจากเป็นการเลือกตั้ง ที่ผลลัพธ์นั้นยังประเมินได้ยาก

โดยประเมินกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเป็นเป้าหมายของการถูกชอร์ตเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากเป็นกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นน่าผิดหวัง แถมยังซื้อขายด้วย Valuation ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม โรงแรม สนามบิน ค้าปลีก สื่อสาร เป็นต้น

ล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนส.ค.พบว่าโมเมนตัมของการฟื้นตัวเริ่มอ่อนแรงลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคภายในประเทศ ที่หดตัวมากขึ้น หลังผ่านพ้นจุดสูงสุดของ Pent up demand ไปแล้วในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเลือกลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กยังคงเป็นทางเลือกที่ดีในภาวะปัจจุบัน เนื่องจากมีปัจจัยหนุนหลายด้าน ทั้งจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสมเหตุสมผล อัตราการเติบโตของกำไรที่จูงใจ โมเมนตัมการปรับประมาณกำไรที่แข็งแกร่ง และสภาพคล่องของนักลงทุนทั่วไปที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ล่าสุดธปท.รายงานตัวเลขฐานเงินอย่างกว้างประจำเดือนส.ค.พบเติบโตสูงในระดับ 10.6% มองเป็นปัจจัยหนุนระดับการมีส่วนร่วมของนักลงทุนทั่วไป ซึ่งถือเป็นอานิสงส์ทางอ้อมต่อหุ้นขนาดกลาง-เล็กต่อไป

“ตราบใดที่ SET Index ยังลงไปไม่ถึงระดับ 1,200 จุดหรือต่ำกว่า หุ้นขนาดกลาง-เล็กจะยังคงปรับตัว Outperform ตลาดได้ต่อไป ดังนั้น หากจะต้องเลือกหุ้นลงทุนในช่วงนี้ ทางทรีนีตี้จึงเลือกหุ้นที่อยู่นอกเหนือดัชนี SET50 ทั้งหมด และต้องเป็นหุ้นที่ 1. ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมามีการถูกปรับประมาณการขึ้น 2. มี Forward PE ปี 2021E ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง และ 3. เป็นหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรเฉลี่ยในช่วงปี 2020-21 เป็นบวก

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


จับสลากแชมเปี้ยนส์ลีกฮือฮา! โรนัลโด้ ฟัด เมสซี, หงส์ลูบปาก, ผีงานโหด ร่วมกลุ่ม PSG, ไลป์ซิก

จับสลากแชมเปี้ยนส์ลีกฮือฮา! โรนัลโด้ ฟัด เมสซี, หงส์ลูบปาก, ผีงานโหด ร่วมกลุ่ม PSG, ไลป์ซิก

ผลการจับสลากฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม สุดฮือฮา เมื่อ ยูเวนตุส โคจรมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ บาร์เซโลนา ในการจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2020/21 เมื่อคืนที่ผ่านมา

ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อยู่ร่วมกลุ่มกับ อาแจ็กซ์, อตาลันต้า และ มิดเทิลแลนด์

ส่วน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอกับงานช้างเมื่อต้องเจอทั้ง  ปารีส แซงต์-แชร์กแมง , แอร์เบ ไลป์ซิก และ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์

ขณะที่ เชลซี เจองานไม่หนักมาก เมื่อได้ร่วมกลุ่มกับ เซบียา , คราสโนดาร์ และ แรนส์ เริ่มแข่งขัน 20 ตุลาคม นี้  ส่วนรอบชิงจะมีขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2021 ที่ อตาเติร์ค สเตเดี้ยม อิสตันบูล ประเทศตุรกี

ddd1

สรุปผลการจับสลาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่ม เอ :
– บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี),
– แอตเลติโก มาดริด (สเปน)
– เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย)
– โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย)

กลุ่ม บี :  
– เรอัล มาดริด (สเปน)
– ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน)
– อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
– โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมนี)

กลุ่ม ซี :
– เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
– แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
– โอลิมเปียกอส (กรีซ)
– โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม ดี :
–  ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
–  อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)
–  อตาลันต้า (อิตาลี)
–  มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก)

กลุ่ม อี :
– เซบีย่า (สเปน)
– เชลซี (อังกฤษ)
– คราสโนดาร์ (รัสเซีย)
– แรนส์ (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม เอฟ :
– เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก (รัสเซีย)
– โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี)
– ลาซิโอ (อิตาลี)
– คลับ บรูช (เบลเยียม)

กลุ่ม จี :
– ยูเวนตุส (อิตาลี)
– บาร์เซโลน่า (สเปน)
– ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)
– เฟเรนช์วารอส (ฮังการี)

กลุ่ม เอช :
– ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
– แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี)
– อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี)

ทั้งนี้ การแข่งขันนัดแรกจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคมนี้โดยนัดชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2021 ที่ อตาเติร์ค สเตเดี้ยม อิสตันบูล ประเทศตุรกี

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ตะลึง!! ผลการทดลอง บุหรี่มวนเดียวยังขนาดนี้ ใครยังสูบบุหรี่ที่บ้าน ชวนคลิกอ่าน ที่นี่

จริงหรือไม่? ขนาดออกไปสูบบุหรี่หน้าบ้าน หลังบ้าน หรือริมระเบียง เพราะไม่อยากให้ควันบุหรี่ทำร้ายคนที่อยู่ในบ้าน แต่พวกเขาก็ได้รับอันตรายอยู่ดี

คำตอบคือ “จริง” แต่พูดแค่นี้ อย่าเพิ่งรีบเชื่อ เราจะพิสูจน์ให้เห็น โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ให้ยืมเครื่องวัดค่าฝุ่น ที่สามารถตรวจจับ PM 2.5 และอนุภาคของควันบุหรี่ได้

ก่อนอื่นเลย เราสงสัยว่า ควันบุหรี่มวนเดียวจะสร้างฝุ่นแค่ไหน เลยลองจุดบุหรี่แล้วนำไปวางไว้บริเวณเครื่องวัด พบว่า ตัวเลขบนหน้าจอพุ่งทะลุ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอย่างรวดเร็ว! …ทั้งที่อากาศปลอดภัยต้องมีค่าไม่เกิน 50

จากนั้นเราลองวางเครื่องวัดไว้ในห้องที่ก่อนหน้านั้นได้เปิดเครื่องฟอกอากาศเพื่อปรับให้สภาพอากาศอยู่ในระดับปกติ และให้มีคนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงด้านนอก โดยแง้มประตูไว้เล็กน้อย

ผลการตรวจของเครื่องพบว่า ค่าฝุ่นอันตรายค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาทีละน้อย จนเกิน 50 ในที่สุด

แสดงว่า ควันบุหรี่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในห้องได้

ถัดไป อยากรู้ว่า อนุภาคอันตรายของบุหรี่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมนานแค่ไหน โดยครั้งแรกลองจุดบุหรี่หนึ่งมวนในห้องปิด และครั้งที่สอง ลองจุดบุหรี่หนึ่งมวนในห้องที่เปิดประตูสองบานทิ้งไว้ให้อากาศระบาย

เราพบว่า ในห้องปิด ค่าฝุ่นจะลดลงช้ามาก แม้ว่าเวลาผ่านไปเกินกว่าชั่วโมง ค่าฝุ่นก็ยังไม่ลงมาสู่ระดับปกติ ขณะที่การเปิดประตูสองบาน ยังต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง กว่าค่าฝุ่นจะลดลงต่ำกว่าระดับอันตราย

ในประเด็นนี้ เรายังได้ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ มาช่วยอธิบายเพิ่มเติมว่า

“ควันบุหรี่สามารถลอยได้ไกล และกระจายไปในอากาศ ที่ไหนอากาศไปถึง สารเคมีที่มีอยู่ในควันบุหรี่ก็จะไปด้วย ส่วนตัวควันบุหรี่จะมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นไอระเหย อีกส่วนเป็นอนุภาคใหญ่กว่าที่จะตกค้างในบริเวณนั้น ดังนั้นห้องไหนที่มีการสูบบุหรี่ พอเราเข้าไป แม้จะไม่มีใครแล้ว แต่เราก็จะได้กลิ่นบุหรี่ เพราะสารเคมีตกค้างอยู่”

ส่วนใครที่ไม่แน่ใจว่า ควันบุหรี่มีอันตรายขนาดไหน ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบ ได้เตือนไว้ว่า

“ควันบุหรี่มีสารเคมีกว่า 7,000 ชนิด เป็นสารพิษ 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งกว่า 70 ชนิด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว…ระยะสั้น สารเคมีในบุหรี่เมื่อเจอกับความชื้นของร่างกายจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกรด ทำให้ระคายเคืองตาถ้าควันเข้าตา และทำให้เนื้อปอดอักเสบ ส่วนผลกระทบระยะยาวก็คือเป็นต้นเหตุของโรคอันตรายต่าง ๆ สารพัด เช่น โรคปอด โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง”

จากการทดลองและคำยืนยันของคุณหมอ เราจึงเชื่อว่า บุหรี่อันตรายกว่าที่คิด ไม่ว่าจะสูบที่ไหน เพราะควันบุหรี่ทั้งลอยไกล ทะลุทะลวง และอึดทน ดังนั้นเพื่อสุขภาพตัวเอง และคนที่คุณรัก ดีที่สุดคือหยุดสูบ

หากใครอยากเลิกสูบบุหรี่ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ลองโทรปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 โทรฟรีทุกเครือข่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th

สาระน่ารู้ 80 คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธรรมชาติ ป่าไม้ สายลม สายแดด มีคำว่าอะไรอีกบ้าง

บทความน่ารู้เล็กน้อยๆในวันนี้ ขอแนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธรรมชาติ ที่หลายๆคนอาจจะไม่รู้จักมาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง

ก็ขอสวีดัด สวัสดีเพื่อนๆบนโลกออนไลน์ และเหล่านักทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่ะช่าหัวใจกันทุกๆคน ก็กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ สำหรับบทความน่ารู้เล็กๆน้อยๆ ที่จะมาเสริมเติมต้อย ให้ได้สอยอ่านกันค่ะ หลังจากที่ห่างหายไปนาน วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า ขอมาแนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธรรมชาติ ป่าไม้ สายลม แสงแดด และคำอื่นๆ ที่เพื่อนๆหลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อน ส่วนจะมีคำว่าอะไรบ้างนั้น ตามไปอ่านกันได้เลยจ้า

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับธรรมชาติ มีดังนี้
1.Nature  หมายถึง ธรรมชาติ
2.Air หมายถึง อากาศ
3.Earth  หมายถึง โลก, พื้นดิน
4.World   หมายถึง โลก, คนทั้งโลก
5.Climate  หมายถึง  ภูมิอากาศ
6.Universe หมายถึง  จักรวาล
7.Star หมายถึง  ดาว
8.Sky หมายถึง  ท้องฟ้า
9.Cloud หมายถึง เมฆ
10.Dawn  หมายถึง รุ่งอรุณ, ฟ้าสาง
11.Dusk หมายถึง เวลาโพล้เพล้-ใกล้ค่ำ
12.Space  หมายถึง   อวกาศ, ระยะห่าง
13.Storm หมายถึง  พายุ
14.Sun หมายถึง  ดวงอาทิตย์
15.Sunlight หมายถึง  แสงอาทิตย์
16.Moon  หมายถึง  ดวงจันทร์
17.Moonlight หมายถึง   แสงจันทร์
18.River หมายถึง   แม่น้ำ
19.Desert หมายถึง  ทะเลทราย
20.Island  หมายถึง  เกาะ
21.Earthquake หมายถึง  แผ่นดินไหว
22.Rain   หมายถึง ฝน
23.Horizon  หมายถึง ขอบฟ้า
24.Thunder  หมายถึง ฟ้าร้อง, ฟ้าคะนอง
25.Lightning  หมายถึง ฟ้าแลบ
26.Overcast sky หมายถึง  ฟ้าหลัว
27.Thunderbolt  หมายถึง ฟ้าผ่า
28.Rainstorm หมายถึง พายุฝน
29.Rainbow หมาย ถึงรุ้ง, สีรุ้ง
30.Depression หมายถึง พายุดีเปรสชั่น, พายุฝน
31.Cyclone หมายถึง พายุไซโคลน, พายุหมุน
32.Tornado หมายถึง พายุทอนาโด
33.Hurricane หมายถึง พายุเฮอริเคน
34.Wind หมายถึง  ลม
35.Wave หมายถึง คลื่น
36.Mist หมายถึง หมอก
37.Fog หมายถึง หมอก
38.Hail หมายถึง ฝนลูกเห็บ (hailstone = ลูกเห็บ)
39.Drizzle หมายถึง ฝนปรอย, ฝนตกพรำๆ
40.Heavy rain หมายถึง ฝนตกหนัก
41.Forest หมายถึง ป่า
42.Jungle หมายถึง  ป่าทึบ
43.Rain forest หมายถึง  ป่าฝน (ป่าในเขตร้อนชื้น,เขตศูนย์สูตร)
44.Waterfall  หมายถึง น้ำตก
45.Forest fire หมายถึง ไฟป่า
46.Wildlife หมายถึง สัตว์ป่า
47.Wildling  หมายถึง พืชป่า,
48.Grass  หมายถึง  หญ้า
49.Grassland หมายถึง  ทุ่งหญ้า
50.Hill หมายถึง  เนินเขาเตี้ยๆ
51.Wildwood หมายถึง ต้นไม้ป่า, ไม้ป่า
52.Lake หมายถึง  ทะเลสาบ
53.Frost หมายถึง  น้ำค้างแข็ง
54.Ground หมายถึง  ดิน, พื้นดิน
55.Mountain หมายถึง ภูเขา
56.Rock หมายถึง หิน
57.Ocean หมายถึง มหาสมุทร
58.Planet หมายถึง ดาวเคราะห์
59.Pond หมายถึง สระน้ำ, บ่อน้ำ
60.Landslide หมายถึง ดินถล่ม
61.Phenomenon หมายถึง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
62.Swamp หมายถึง หนอง, บึง, ตม
63.Wild  หมายถึง  ทุ่งว่างเปล่า, พง, ความรกร้างว่างเปล่า
 64.Sea หมายถึง  ทะเล
65.Sand หมายถึง ทราย
66.Beach หมายถึง ชายหาด
67.Coast หมายถึง  ชายฝั่งทะเล
68.Coastline  หมายถึง  แนวชายฝั่ง
69.Water หมายถึง  น้ำ
70.High tide  หมายถึง  น้ำขึ้น
71.Low tide  หมายถึง  น้ำลง
72.Dew หมายถึง  น้ำค้าง
73.Cave หมายถึง  ถ้ำ
74.Canal  หมายถึง  คลอง
75.Spring หมายถึง น้ำพุ
76.Snow หมายถึง  หิมะ
77.Blizzard หมายถึง  พายุหิมะ
78.Fountain หมายถึง น้ำพุ
79.Iceberg หมายถึง  ภูเขาน้ำแข็ง
80.Fresh water หมายถึง  น้ำจืด
81.Flood หมายถึง น้ำท่วม
82.Groundwater หมายถึง  น้ำใต้ดิน, น้ำบาดาล
83.Flash flood หมายถึง น้ำท่วมฉับพลัน, น้ำบ่า
84.Whirlpool  หมายถึง น้ำวน
85.Hot sprin  หมายถึง  น้ำพุร้อน
86.Mineral water หมายถึง น้ำแร่
87.Weather หมายถึง สภาพอากาศในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น วัน,สัปดาห์
88.Pet หมายถึง  สัตว์เลี้ยง
89.Aquatic animalหมายถึง  สัตว์น้ำ
90.Land animal หมายถึง   สัตว์บก
91.Poultry หมายถึง  สัตว์ปีก, เป็ด, ไก่
92.Amphibian หมายถึง สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
93.Mammal หมายถึง  สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
94.Cold-blooded animal หมายถึง สัตว์เลือดเย็น
95.Warm-blooded animal หมายถึง สัตว์เลือดอุ่น

ขอบคุณข้อมูลจาก khunnaiver.blogspot.com

อวดโฉม “อเมซฟิต นีโอ” สมาร์ทวอชสายเรโทร

อเมซฟิต (Amazfit) เผยโฉมสมาร์ทวอชรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Wearable  “อเมซฟิต นีโอ” (Amazfit Neo) ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรโทร ฟังก์ชันการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา และแบตเตอรีที่อยู่ได้ยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาที่มีเอกลักษณ์และเข้ากับสไตล์เฉพาะตัว เป็นสมาร์ทวอชที่ช่วยติดตามและจัดการกิจกรรมให้ถึงเป้าหมาย และรู้ถึงข้อมูลสุขภาพของตนได้ทันที อเมซฟิต นีโอ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2563 ที่ Shopee ได้แก่ ร้าน Amazfit Official Store , THMall, Techmate, Pando Selection และ Pando Smartlife ในราคาพิเศษสุดเพียง 1,190 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  อเมซฟิต (Amazfit) เผยโฉมสมาร์ทวอชรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Wearable  “อเมซฟิต นีโอ” (Amazfit Neo) ที่มาพร้อมกับดีไซน์เรโทร ฟังก์ชันการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา และแบตเตอรีที่อยู่ได้ยาวนาน  พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2563 ที่ Shopee ได้แก่ ร้าน Amazfit Official Store , THMall, Techmate, Pando Selection และ Pando Smartlife ในราคาพิเศษสุดเพียง 1,190 บาท

อเมซฟิต นีโอ มาพร้อมกับหน้าจอทรงสี่เหลี่ยมและมุมโค้งมนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมปุ่มกดสี่ปุ่ม  เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทวอชที่ทันสมัย ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและการทำกิจกรรม อเมซฟิต นีโอ พร้อมวางจำหน่าย โดยมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ ดำ เขียว และแดง

อเมซฟิต นีโอ หนักเพียง 32 กรัม ตัวเรือนทำจากพลาสติกทนทาน สายรัดข้อมือโพลียูรีเทน (PUR) จอแสดงผล STN ความคมชัดสูง และหน้าจอใหญ่ 1.2” ที่แสดงข้อมูลเวลาและจำนวนก้าว หน้าจอประหยัดพลังงาน อ่านง่ายและชัดเจน แม้ในที่แสงจ้า

อเมซฟิต นีโอ สามารถซิงก์ข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งข้อความ อีเมล และการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากแอพยอดนิยมในสมาร์ทโฟน และยังมีฟังก์ชันตามหาโทรศัพท์ find-my-phone มาให้ผู้ใช้สนุกกับชีวิตได้ง่ายชึ้นโดยมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายบนข้อมือ

อเมซฟิต นีโอ มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและติดตามกิจกรรมการออกกำลังกาย พร้อมช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายส่วนตัวตามที่หวังได้

อเมซฟิต นีโอ โดดเด่นด้วยเซนเซอร์ PPG BioTracker สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลา 24/7 รวมทั้งติดตามชีพจรขณะพัก (resting heart rate) ค่าในโซนต่าง ๆ และอินเทอร์วัล และเตือนเมื่อชีพจรเต้นเร็ว ให้ข้อมูลเรียลไทม์ที่จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถตรวจเช็คความฟิตของหัวใจได้ง่าย ๆ  

ระบบประเมินภาวะสุขภาพส่วนบุคคล (PAI Health Assessment System) จะแปลงอัตราการเต้นของหัวใจเป็นคะแนนส่วนบุคคล ทำให้ผู้ใช้เข้าใจภาวะสุขภาพของตนเองได้อย่างรวดเร็ว PAI ย่อมาจาก Personal Activity Intelligence หรือข้อมูลกิจกรรมส่วนบุคคล และคะแนน PAI จะได้มาจากข้อมูลส่วนตัว กิจกรรมและอัตราการเต้นของหัวใจของผู้สวมใส่ คะแนนนี้จึงเป็นข้อมูลที่ปรับให้เข้ากับตัวผู้ใช้จริง ๆ โดยรายงานหลายฉบับ  ได้ชี้ให้เห็นว่าระบบประเมินภาวะสุขภาพนี้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการคำนวณว่าจะต้องทำกิจกรรมมากแค่ไหน ถึงจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ หรือจะรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตที่สุดได้อย่างไร ตัวชี้วัดระดับกิจกรรมได้เข้ามาพลิกโฉมวงการ โดยทำให้ไม่จำเป็นต้องบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูล เพียงสวมใส่อเมซฟิต นีโอ ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บคะแนน PAI ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หรือทำกิจกรรมประเภทใด

อเมซฟิต นีโอ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามการนอนและเข้าใจรูปแบบการนอนของตัวเองได้ดีขึ้น จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนได้ เมื่อซิงก์ข้อมูลเข้ากับแอพ Zepp สามารถแสดงข้อมูลระยะเวลาการนอนในช่วงหลับตื้นและหลับลึกได้ (light and deep sleep stages) รวมถึงช่วงหลับฝัน หรือ REM (Rapid Eye Movement) หรือแม้กระทั่งช่วงงีบตอนกลางวัน  ก็สามารถเก็บเป็นข้อมูลได้

นอกจากนั้น อเมซฟิต นีโอ ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ PPG  BioTracker ประสิทธิภาพสูงและอัลกอริทึมต่าง ๆ ยังสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ  ทั้งก้าวเดิน วิ่ง และจำนวนแคลอรี อเมซฟิต นีโอ รองรับ 3 โหมดออกกำลังกาย ได้แก่ วิ่ง เดิน และขี่จักรยาน ให้ผู้สวมใส่ดูข้อมูลเรียลไทม์ ระยะทาง และอัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกายได้ สามารถเชื่อมต่อกับแอพเพื่อติดตามการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ กันน้ำ 5ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้

อเมซฟิต นีโอ มีอายุการใช้งานแบตเตอรีที่นานถึง 28 วัน  อีกทั้งยังมีสมรรถนะการจัดการพลังงานสูง ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับชีวิตแอ็คทีฟได้โดยไม่ติดขัด อเมซฟิต นีโอ สามารถทำงานได้ต่อเนื่องสูงสุดสี่สัปดาห์สำหรับการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง โดยมีการใช้งานปกติในแต่ละวัน และทำงานได้สูงสุด 37 วัน  ในโหมดประหยัดพลังงาน

อเมซฟิต นีโอ พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ใน Shopee ในราคาเพียง 1,190 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ยูคาลิปตัส สรรพคุณและประโยชน์ของต้นยูคาลิปตัส 15 ข้อ !

ยูคาลิปตัส

ยูคาลิปตัส

ยูคาลิปตัส ชื่อสามัญ Eucalyptus[4]

ยูคาลิปตัส ชื่อวิทยาศาสตร์ Eucalyptus globulus Labill. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Eucalyptus gigantea Dehnh., Eucalyptus glauca A.Cunn. ex DC., Eucalyptus globulosus St.-Lag., Eucalyptus globulus subsp. globulus, Eucalyptus maidenii subsp. globulus (Labill.) J.B.Kirkp., Eucalyptus perfoliata Desf., Eucalyptus pulverulenta Link) จัดอยู่ในวงศ์ชมพู่ (MYRTACEAE)[1],[2]

สมุนไพรยูคาลิปตัส มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า โกฐจุฬารส น้ำมันเขียว มันเขียว ยูคาลิป (ไทย), อันเยี๊ยะ หนานอัน (จีนกลาง)[1],[2]

หมายเหตุ : ต้นยูคาลิปตัสที่ปลูกกันทั่วไปจะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eucalyptus camaldulensis Dehnh. ซึ่งเป็นคนละชนิดกับยูคาลิปตัสที่นำมาใช้ทำยาในบทความนี้ (ชนิดทำยามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eucalyptus globulus Labill.)[3]

ลักษณะของยูคาลิปตัส

  • ต้นยูคาลิปตัส จัดเป็นไม้ยืนต้น ลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 10-25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบค่อนข้างกลม แตกกิ่งก้านมาก เปลือกต้นบางเรียบเป็นมันและลอกออกง่าย เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนปนขาว หรือมีสีเทาสลับสีขาวและสีน้ำตาลแดงเป็นบางแห่ง เปลือกนอกจะแตกร่อนเป็นแผ่น ๆ และหลุดออกจากผิวของลำต้น เมื่อแห้งจะลอกได้ง่าย กิ่งก้านเล็กเป็นเหลี่ยม มีจุดตากลม[1],[2]

ต้นยูคาลิปตัส

เปลือกต้นยูคาลิปตัส

  • ใบยูคาลิปตัส ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับเป็นคู่ ใบห้อยลง ลักษณะของใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 12-30 เซนติเมตร แผ่นใบหนาเป็นสีเขียวอมสีน้ำเงิน มีผงคล้ายแป้งปกคลุม เส้นใบมองเห็นได้ชัดเจน ก้านใบสั้น ก้านใบยาวประมาณ 2 เซนติเมตร[1],[2]

ใบยูคาลิปตัส

  • ดอกยูคาลิปตัส ออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ มีดอกประมาณ 2-3 ดอก ดอกเป็นสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้หลายก้าน ออกดอกเกือบตลอดทั้งปี[1],[2]

ดอกยูคาลิปตัส

รูปดอกยูคาลิปตัส

  • ผลยูคาลิปตัส ผลมีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลมหรือคล้ายรูปถ้วย ปลายผลแหลม ผลอ่อนเป็นสีเขียว และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อแก่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.8-2 เซนติเมตร เปลือกผลหนา มีรอยเส้นสี่เหลี่ยม 4 เส้น เมื่อผลแก่ปลายผลจะแยกออก[1],[2]

ผลยูคาลิปตัส

รูปผลยูคาลิปตัส

เมล็ดยูคาลิปตัส

สรรพคุณของยูคาลิปตัส

  1. ใบและเปลือกรากมีรสขมเผ็ด กลิ่นหอม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อปอด ลำไส้ และทางเดินปัสสาวะ ใช้ใบเป็นยาแก้ไข้ ไข้หวัดติดเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ (ใบ)[1],[3]
  2. ใช้เป็นยาแก้ไอ ด้วยการใช้น้ำมันที่กลั่นได้จากใบสด 0.5 มิลลิเมตร (ประมาณ 8 หยด) นำมารับประทานหรือทำเป็นยาอม (ใบ)[2]
  3. น้ำมันยูคาลิปตัสนำมาใช้ทาคอ จะช่วยแก้ไอ หรือใช้อมแก้หวัดคัดจมูก (น้ำมันยูคาลิปตัส)[3]
  4. ช่วยขับเสมหะ ด้วยการใช้น้ำมันที่กลั่นได้จากใบสด 0.5 มิลลิเมตร (ประมาณ 8 หยด) นำมารับประทานหรือทำเป็นยาอม (ใบ)[2],[3]
  5. ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ (ใบ)[2]
  6. ช่วยรักษาลำไส้อักเสบ แก้บิด (ใบ)[1]
  7. ช่วยแก้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (ใบ)[1]
  8. ใช้แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ผดผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อไวรัสบริเวณผิวหนัง (ใบ)[1]
  9. ช่วยแก้ฝีมีหนองอักเสบ ฝีหัวช้าง (ใบ)[1]
  10. ใช้ทาถูนวดตามอวัยวะต่าง ๆ เพื่อแก้อาการฟกช้ำ (น้ำมันยูคาลิปตัส)[3]

หมายเหตุ : การใช้ตาม [1] ให้ใช้ใบยาแห้งครั้งละ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทานหรือใช้เข้ากับตำรับยาอื่น ส่วนการใช้ภายนอกให้กะตามความเหมาะสม ส่วนใบสดให้ใช้ครั้งละ 18-30 กรัม[1]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของยูคาลิปตัส

  • ในใบยูคาลิปตัสพบน้ำมันหอมระเหยประมาณ 0.92-2.89% Oleum Eucalypti ประกอบด้วยสาร เช่น Aromadendrene, Cineole, Pinene, Pinocarvon, Pinocarveol, Cuminaldehyde, 1-Acely 1-4 isopropylide-necyclopentene, Quercitrinm Quercetin Rutin ใบพบ Eucalyptin, Tannin และ Guaiacol Globulol.[1]
  • สาร Oleum Eucalypti ความเข้มข้นอยู่ที่ 6% จะสามารถช่วยยับยั้งเชื้อวัณโรค H37, Rv ได้[1]
  • สารที่สกัดได้จากยูคาลิปตัสมีฤทธิ์ขับพยาธิปากขอได้[1]
  • สารสกัดจากยูคาลิปตัส สามารถยับยั้งเชื้อ Staphylo coccus ได้ โดยฤทธิ์ที่ยับยั้งเชื้อได้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารสกัด[1]
  • สารสกัดจากยูคาลิปตัส สามารถดับพิษจากเชื้อบาดทะยักและเชื้อคอตีบได้ โดยนำสารที่สกัดได้มาทำเป็นยาฉีดให้กระต่ายที่ติดเชื้อบาดทะยักหรือเชื้อคอตีบ ในอัตราส่วน 0.2 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม พบว่ามีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อดังกล่าวได้ และไม่มีอาการแสดงพิษของเชื้อที่ติดอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์[1]

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรยูคาลิปตัส

  • น้ำมันที่สกัดได้จากยูคาลิปตัส ห้ามรับประทานเกิน 3.5 ซีซีต่อ 1 ครั้ง เพราะจะทำให้เกิดอาการเป็นพิษต่อร่างกายได้[1]
  • การใช้เกินขนาดจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร[2]

ประโยชน์ของยูคาลิปตัส

  1. ใช้ทำเป็นยาไล่ยุง ฆ่ายุง และแมลง ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 1 กำมือ นำมาขยี้ กลิ่นของน้ำมันจะออกมา ซึ่งจะช่วยไล่ยุงและแมลงได้[2]
  2. ใบสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมัน น้ำยาหอมระเหย ไอระเหยแก้หวัด[4]
  3. เนื้อไม้ยูคาลิปตัสสามารถนำมาใช้ทำกระดาษ ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง ทำเสาเข็ม สร้างบ้าน ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้สอยต่าง ๆ ทำรั้ว ทำเสา คอกเลี้ยงสัตว์ นั่งร้านในการก่อสร้าง (แต่ต้องมีการอาบน้ำยาเพื่อรักษาเนื้อไม้ไว้ก่อนถึงจะยืดอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น) ฯลฯ[4]
  4. เปลือกไม้นำมาบดให้ละเอียดผสมกับขี้เลื้อยและกาว ใช้ทำเป็นธูป และผสมกำมะถัน ใช้ทำเป็นยากันยุงได้ดี[5]
  5. นำมาใช้เผาถ่าน โดยฟืนจากไม้ยูคาลิปตัสจะให้พลังงานความร้อนสูงถึง 4,800 แคลอรีต่อกรัม ส่วนถ่านไม้ยูคาลิปตัสจะให้พลังงานความร้อน 7,400 แคลอรีต่อกรัม ซึ่งมีความใกล้เคียงกับไม้โกงกางซึ่งเป็นถ่านไม้ชั้นดีที่สุด ฯลฯ[4]

ประโยชน์ของน้ำมันยูคาลิปตัส

ช่วยบรรเทาอาการไอ ภูมิแพ้ หวัด ไข้หวัดใหญ่ บรรเทาอาการคัดจมูก เป็นยาธาตุ แก้อาการปวดศีรษะจากหวัดไซนัส ทำให้หายใจโล่ง ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน บรรเทาแผลสด แผลไฟไหม้และแผลติดเชื้อ หรือนำมาใช้ทาถูนวดแก้ปวดกล้ามเนื้อ

วิธีใช้น้ำมันยูคาลิปตัส สามารถนำมาใช้ผสมกับน้ำมันพื้นฐาน น้ำมันนวด และน้ำมันหอมระเหยต่าง ๆ ได้เกือบทุกชนิด เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดมะรุม น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ น้ำมันองุ่น น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันสวีทอัลมอนด์หรือน้ำมันพืชอื่นที่เป็น Cosmetic grade เป็นต้น (อัตราส่วนการใช้น้ำมันยูคาลิปตัส หากนำมาใช้กับผิวหน้าไม่ควรใช้เกิน 1% ส่วนผิวกายไม่ควรใช้เกิน 3%) หรือใช้หยดลงในอ่างอาบน้ำอุ่นเพื่อช่วยลดอาการหวัด แก้แพ้อากาศ ไซนัส ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อและเมื่อยล้า ใช้ผสมในครีมหรือโลชันนำมาใช้ทาเพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และใช้ใส่ในโคมไฟฟ้าอโรมาบุหงา หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อไอระเหยจะช่วยลดอาการจามจากการแพ้อากาศหรือเป็นหวัดได้ดี และช่วยทำให้หายใจได้โล่งขึ้น ทำให้เกิดสมาธิที่ดีขึ้น และช่วยขับไล่แมลง เป็นต้น

คำแนะนำในการใช้น้ำมันยูคาลิปตัส ให้ใช้ภายนอก ไม่ควรนำมารับประทาน ห้ามนำมาสูดดมหรือสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง แต่ต้องนำมาทำให้เจือจางก่อน เนื่องจากมีความเข้มข้นสูง หากเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งก่อนไปพบแพทย์ ถ้าหากถูกผิวหนังให้รีบล้างออกด้วยน้ำสบู่ มิฉะนั้นอาจเกิดอาการแพ้ได้ และไม่ควรนำมาใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้ปวดศีรษะ ส่วนผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมู โรคความดันโลหิตสูงหรือต่ำ ผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ต้องพึ่งอินซูลิน (เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลผิดปกติ) ผู้ป่วยเรื้อรังที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับ ไต กระเพาะอาหาร รวมถึงสตรีมีครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตรอายุต่ำกว่า 5 ปีก็ไม่ควรนำมาใช้ (ข้อมูลส่วนนี้มาจาก : www.aromahub.com, www.thaiherbweb.com)

ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 28,250.00 28,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,830.00 27,742.80 28,850.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,647.00 24,968.52 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,464.00 22,194.24 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 824.00 12,491.84 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 641.00 9,717.56 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,896.00 28,743.36 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 02/10/2563 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 21.85 21.85 22.15 21.85 22.15 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85
แก๊สโซฮอล์ 91 21.58 21.58 21.88 21.58 21.88 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58
แก๊สโซฮอล์ E20 20.34 20.34 20.64 20.34 20.64 20.34 20.34 20.34 20.34
แก๊สโซฮอล์ E85 18.14 18.14 18.14
เบนซิน 95 29.26 30.01 29.76 29.26 29.26
ดีเซล 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59 21.59
ดีเซล B10 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59 18.59
ดีเซล B20 18.34 18.34 18.34 18.34 18.34 18.34 18.34 18.34
ดีเซลพรีเมี่ยม 26.04 26.06 28.04 28.04 26.04
แก๊ส NGV 14.17 14.17 14.17
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า