สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 03 กันยายน 2563

ติดอาวุธ ผ่าวิกฤติดีมานด์ แห่งอนาคต

หลังวิกฤติโควิด-19 กำลังเป้าหมายสำคัญของทุกแวดวงธุรกิจ ผ่านการปรับทัพ ปรับตัว เข้าสู่วิถีใหม่ หรือ ความปกติใหม่ (New Normal) ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไป ส่งสัญญาณ โปรดักต์ หรือ การบริการในแง่เดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์ ดีมานด์ อีกต่อไป

    การสร้างแนวความคิด หลักการพัฒนาใหม่ๆ หลังวิกฤติโควิด-19 กำลังเป้าหมายสำคัญของทุกแวดวงธุรกิจ ผ่านการปรับทัพ ปรับตัว เข้าสู่วิถีใหม่ หรือ ความปกติใหม่ (New Normal) ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไป ส่งสัญญาณ โปรดักต์ หรือ การบริการในแง่เดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป โดยมีความไม่แน่นอนจากวิกฤติโรคภัย, ความสำคัญของสุขอนามัย, ความปลอดภัย, ช่องทางการซื้อ-ขาย ที่ต้องสะดวกหยืดหยุ่น และความเสี่ยงจากมาตรการล็อกดาวน์ เข้ามาเป็นข้อพิจารณาร่วมด้วย ขณะในอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ไทย  Real Sector ซึ่งก่อนหน้าถูก “โควิดดิสรัปต์ชัน” แบบไม่ทันตั้งตัวเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ นั้น ก็กำลังเป็นที่ถกเถียง ว่าปรากฎการณ์ New Normal ใดคงตั้งอยู่ถาวร และสูญเปล่าหายไป เป็นเพียงเทรนด์ระยะสั้นที่พบ เพราะนั่นจะมีผลโดยตรงต่อหลักคิด การลงทุน และโอกาสทางการตลาด ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ อย่างตรงจุด ไม่เสียเปล่า

 โดยหญิงแกร่งในแวดวงอสังหาฯ อย่าง ดร.ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แห่งบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ควบตำแหน่ง อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย และที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สะท้อนมุมมองว่า ศัพท์ New Normal ที่ได้ยินกันแพร่หลายในหลายแง่มุมนั้น บางเรื่องอาจเป็นเพียง Current Abnormal หรือความผิดปกติปัจจุบันเท่านั้น เปรียบภาพวิกฤติน้ำท่วม ปี 2554 ตลาดบ้านจัดสรรในโซนจังหวัดปทุมธานี แทบล่มสลาย คนซื้อกังวล การซื้อ-ขาย หยุดชะงักนานครึ่งปีหนีไปซื้อคอนโดมิเนียมอยู่อาศัย แต่หลังสถานการณ์คลี่คลาย คนก็กลับมาซื้อบ้านแนวราบเหมือนเดิม เพราะมีกลไกทางการตลาด หรือปัจจัยทางกายภาพที่สำคัญกว่าเข้ามาเกี่ยวข้อง  วิกฤติคราวนี้ก็เช่นกัน เราเห็นการทิ้งร้างคอนโดฯ คนเปลี่ยนโปรดักต์อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียม ที่เคยเติบโตมาตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มาสู่ตลาดแนวราบ จนมีตัวเลขเติบโตอย่างคึกคัก ผู้ประกอบการเองชะลอการพัฒนาฯคอนโดฯ ตัวเลขเปิดใหม่ร่วงนับ 40%  จากความต้องการซื้อที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่าความต้องการในแนวราบก็มีข้อจำกัด ในแง่ความสามารถของผู้ซื้อเช่นกัน จริงอยู่โควิดทำให้อยากอยู่บ้านมากกว่าคอนโดฯ เพราะต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีกำลังซื้อแตะแนวราบถึง

 ทั้งนี้ สิ่งที่มองว่าจะเป็น New Normal ระยะยาวของอสังหาฯ มี 2 เรื่องสำคัญที่ผู้พัฒนาฯ จะต้องเพิ่มดีกรีให้มากขึ้นเท่านั้น  หลังจากเดิมเป็นสิ่งที่ถูกคิดและพัฒนาในหลายๆ โครงการมาล่วงหน้าแล้ว 1. การเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว เพื่อรองรับการทำงานทั้งภายในห้องพัก และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้มากกว่าปกติ 2. ความสะอาดและปลอดภัยโดยมักพ่วงมากับเทคโนโลยี แต่ด้วยภาระต้นทุนก่อนหน้าผู้พัฒนาฯ อาจจัดสรรให้ได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นรายใดผลักดันได้ ขายความสะอาดดีเลิศได้ต่างจากโครงการอื่นๆ นั่นอาจเป็นโอกาสในการสร้างจุดขายใหม่ 

 “โควิดไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรม แต่เปลี่ยนจุดเด่น-จุดด้อยของโครงการมากกว่า ความน่าสนใจอยู่ที่ วิกฤติคราวนี้ ทำให้ผู้บริโภคเงินน้อยลง แบงก์ให้กู้น้อยลงจำต้องซื้อบ้านถูกลง ขณะผู้ประกอบการต้องรีแพ็กเกจให้ต้นทุนต่ำลง ซึ่งสิ่งแรกที่จะตัด ก็มักเป็นส่วนเสริมโซลูชันต่างๆ ซึ่งย้อนแย้งกับความต้องการ”

อีกหนึ่งธุรกิจที่เผชิญกับความท้าทาย คือ ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง โดยพระเอกหลักของวงการ อย่างบริษัท เอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด  โดยนายวชิระชัย คูนำวัฒนา ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ Living Solution ระบุ สอดคล้องกันว่า “โควิด” เป็นเพียงตัวเร่งปฎิกริยาของการรับแนวโน้มใหม่ๆเข้ามาในธุรกิจ เดิมตลาดก่อสร้างถูกแรงกระตุ้นจากฝั่งผู้ซื้อ ต่อความต้องการลดโลกร้อน, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลักษณะ Well Being ความเป็นอยู่สุขกาย สบายใจของผู้อยู่อาศัยในบ้านและอาคาร ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันโควิดเข้าตอกย้ำให้คนตระหนักในเรื่องของความสะอาด ปลอดภัยมากขึ้น คาดเป็นเทรนด์ความต้องการระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในแง่ผู้ผลิตนั้นงานไม่ได้จบแค่ส่วนสำคัญในขั้นตอนการก่อสร้าง เพราะลูกค้า-ผู้อยู่อาศัย ต้องการโซลูชันใหม่ๆ สำหรับการใช้ชีวิตในบ้านที่มากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ เช่น การประหยัดพลังงาน ผ่านการเปิด-ปิดแอร์เองขณะคนไม่อยู่, การควบคุมอากาศสะอาด ทั้งฝุ่น และไวรัส แม้กระทั่งเทรนด์ความต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายลง อย่างการติดตั้ง โซลาร์รูฟ ซึ่งเดิมเป็นเพียงตลาดความต้องการเฉพาะ 

ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีปัญหารอฟื้นตัว อาจมองได้ว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผู้พัฒนาฯต่อการศึกษา และต่อยอดความต้องการใหม่ๆที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในฝั่งบริโภค เพื่อเพิ่มโอกาสแห่งอนาคต เพราะหลังวิกฤติคลี่คลายจากวัคซีนสำเร็จ สินามิเศรษฐกิจจบลง  เซ็กเตอร์หลักอย่างอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ที่เปรียบเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงในชีวิต ก็ถูกมองว่า จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด จากความต้องการอัดอั้นมหาศาล ทั้งจากกำลังซื้อภายในประเทศและคนต่างประเทศ นั่นเท่ากับ ใครปรับตัวเร็ว และถูกต้อง โอกาสสร้างความได้เปรียบ ช่วงชิงกำลังซื้อยิ่งมีมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เกิน 3,000 บาท กทม.ให้ผ่อนจ่ายได้ 3 เดือน

จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากชำระภาษีเกิน 3,000 บาท กทม.ให้ผ่อนจ่ายได้ไม่เกิน 3 งวด งวดละเท่าๆ กัน ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.นี้

นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2562 ให้เริ่มจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 ซึ่งภาษีดังกล่าวนำมาใช้จัดเก็บแทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมทั้งภาษีบำรุงท้องที่

สำหรับผู้มีหน้าที่เสียภาษี คือ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเป็นผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ อาทิ ที่ดินราชพัสดุ เป็นต้น

เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า การถือครองอสังหาริมทรัพย์มีการกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวย ซึ่งได้มีการถือครองไว้เป็นจำนวนมาก และอาจเป็นที่ดินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ในขณะที่มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเอง โดยการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จะกระตุ้นให้ผู้ถือครองที่ดินใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการกักตุนที่ดินเพื่อเก็งกำไร รวมทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำของรายได้ในสังคมอีกด้วย สำหรับการคำนวณภาษีต้องนำมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาใช้ในการประเมินภาษี และกำหนดให้ยื่นชำระภาษีฯ ภายในเดือน เม.ย. ของทุกปี

สำหรับปี 2563 เป็นปีแรกของการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รัฐบาลจึงได้ขยายเวลาการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถึงสิ้นเดือน ส.ค. 63

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยประสบปัญหาด้านเศรฐกิจ ซึ่ง กทม.รู้สึกห่วงใยและเห็นใจประชาชนผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว ประกอบกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 เป็นการดำเนินการในครั้งแรก ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยยังคงสับสนและขาดความเข้าใจที่ชัดเจน กทม.จึงมีประกาศ ลงวันที่ 28 ส.ค. 2563 ขยายกำหนดเวลาสำหรับผู้ที่จะต้องชำระภาษีที่ดินฯ ประจำปี ออกไปถึงวันที่ 31 ต.ค. 2563 โดยไม่ต้องต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

กรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตแจ้งราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแจ้งการประเมินภาษีให้กับผู้มีหน้าที่เสียภาษีทราบไปแล้วเมื่อเดือน ก.ค. 63 ที่ผ่านมา หากตรวจสอบพบว่า การแจ้งการประเมินถูกต้อง นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร ได้เพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการชำระภาษีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ สำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เช่น ธนาณัติ ตั๋วแลกเงิน เช็ค หรือชำระผ่านธนาคาร (เฉพาะใบแจ้งการประเมินที่มี Barcode แนบท้าย) รวมถึงสามารถชำระผ่านระบบ QR Payment, ATM, Internet Banking, Mobile Banking

สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนชำระค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีต้องชำระภาษีตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไปนั้น สามารถขอผ่อนชำระภาษีได้ไม่เกิน 3 งวดๆละเท่าๆกัน แบ่งเป็น งวดที่ 1 ชำระภายในเดือนตุลาคม 2563 งวดที่ 2 ชำระภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 และงวดที่ 3 ชำระภายในเดือนธันวาคม 2563

สำหรับผู้ที่เห็นว่าการประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ถูกต้องเหมาะสม สามารถยื่นคำร้องคัดค้านต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต ที่ตั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ สำหรับเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างท่านใดที่ไม่ได้รับเอกสารแจ้งการประเมินภาษี ขอให้นำสำเนาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือสำเนาหลักฐานการเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขาย เป็นต้น

พร้อมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ติดต่อที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ เพื่อ กทม.จะนำเงินดังกล่าวมาพัฒนากรุงเทพฯ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตพื้นที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ หรือกองรายได้ สำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 0 2224 3070 และ 0 2226 6219

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บาทเปิด 31.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า

บาทเปิด 31.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า

เงินบาทเปิดตลาด 31.31 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า ตลาดจับตาแคนดิเดท รมว.คลัง-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.31 บาท/ดอลลาร์ จากที่ปิดตลาดเมื่อวันที่ 2 กย.ที่ระดับ 31.26 บาท/ดอลลาร์ “เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องจาก 2 ปัจจัย คือ ดอลลาร์ฟื้นตัวแม้ว่าตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯจะออกมาต่ำกว่าคาดก็ตาม เข้าใจว่านักลงทุนคงจะลดพอร์ตก่อนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะออกมา ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนรอดูรายชื่อแคนดิเดท รมว.คลังคนใหม่”นักบริหารเงินกล่าว

นักบริหารเงิน มองกรอบเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 31.25-31.40 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


6 เหตุผลที่นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงไทยควรไปเล่น “ลีกญี่ปุ่น”

  • เด็กในระดับมัธยมที่ญี่ปุ่น เมื่อได้ลงเล่นลีกอาชีพกับสโมสรแล้วจะไม่ต้องมาโรงเรียนอีก
  • นักกีฬาไทยที่ไปเล่นลีกญี่ปุ่น จะมีรายได้ 7 หลัก
  • หากไม่มีสถานการณ์โควิด-19 อาจมีนักวอลเลย์บอลหญิงไทยไปเล่นลีกญี่ปุ่น มากกว่า 5 คน

หลังจากที่ “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เตรียมไปเล่นลีกอาชีพที่ประเทศญี่ปุ่น ทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต วิเคราะห์ถึง 6 ปัจจัยที่นักตบไทยควรไปเล่นในลีกญี่ปุ่น

1.คุณภาพลีก

เรียกได้ว่าเป็น “วอลเลย์บอลลีก” ที่เก่าแก่สุดในเอเชีย เพราะมีการบันทึกว่าเริ่มแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1967 หรือกว่า 63 ปีที่แล้ว และถูกยกให้เป็นลีกวอลเลย์บอลอาชีพเบอร์หนึ่งของเอเชีย เพราะด้วยระบบการจัดการต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพเป็นระบบครอบคลุมทุกด้าน

“วนัชศักดิ์ สุภาวรรณ์” หรือ “ไอซ์” ล่ามภาษาญี่ปุ่น เคยทำหน้าที่ให้กับนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงไทยในลีกญี่ปุ่น และนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่นในลีกไทย ได้ถ่ายทอดประสบการณ์กับทีมข่าวไทยรัฐสปอร์ต

“ที่ญี่ปุ่นถ้าคุณกำลังศึกษาอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วได้ลงเล่นลีกอาชีพกับสโมสร คุณจะไม่ต้องมาโรงเรียนแล้ว แต่ที่ประเทศไทยยังต้องมาโรงเรียน เพราะที่นั่นเป็นกีฬาอาชีพที่แท้จริง”

“การเดินทางไปแข่งขันเมืองต่างๆ แต่ละสโมสรจะยอมเสียค่าใช้จ่ายหากไปทางไหนเร็วที่สุดก็เพื่อให้นักกีฬาเหนื่อยน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็น รถไฟชินคันเซ็น, เครื่องบิน ถ้าไปเครื่องบิน หรือชินคันเซ็น จะไปตัวเปล่ากับเป้ใบเดียว กระเป๋าเดินทางรถสโมสรเอาไปให้ก่อน”

“ทุกสโมสรต้องมีรถบัสประจำทีมควบคุมนักกีฬาตลอด 24 ชั่วโมง ไปสนามต้องไปพร้อมกัน หากเป็นที่ไทยจะเดินทางไปเจอที่สนามกันเอง”

“ส่วนเรื่องของการเข้าพักที่โรงแรม จะให้นักกีฬานอนคนละห้อง เพื่อไม่ให้นักกีฬารบกวนกันเอง”

นักกีฬาไทยที่เคยทำหน้าที่ “อรอุมา สิทธิรักษ์” สมัยเล่นให้ “เจที มาร์เวลลัส” ศึกวี.ลีก ประเทศญี่ปุ่น ปี 2014-2017

นักกีฬาญี่ปุ่นที่เคยทำหน้าที่ “โอคุมูระ ไม” สมัยเล่นให้ “นครราชสีมา เดอะมอลล์ วีซี” ศึกไทยแลนด์ลีก ปี 2018-2019

2.วิทยาศาสตร์การกีฬา

กีฬายุคสมัยใหม่นอกจาก “พรสวรรค์-พรแสวง” สิ่งสำคัญที่ทำให้ประสบความเร็จคงหนีไม่พ้น “วิทยาศาสตร์การกีฬา”

“ไอซ์ วนัชศักดิ์” เล่าว่า ญี่ปุ่นทุกสโมสรจะมีนักโภชนาการอยู่ประจำทีม ดูแลและควบคุมอาหารของนักกีฬาทุกคนอย่างละเอียด ทั้งตอนฝึกซ้อมรวมถึงในช่วงระหว่างแข่งขัน เพื่อให้นักกีฬามีร่างกายที่แข็งแรงอยู่ตลอด เพราะการแข่งขันลีกญี่ปุ่นหนึ่งฤดูกาลมีระยะเวลาแข่งขันค่อนข้างนาน

เรื่องของการฝึกซ้อมก็เป็นส่วนสำคัญนอกจากซ้อมหนักแล้ว สภาพสนามยังดูดีทันสมัย อุปกรณ์ฝึกซ้อมมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เครื่องวัดความเร็วสำหรับการเสิร์ฟบอล, หุ่นยนต์สำหรับซ้อมการบล็อก

3.รู้เขารู้เรา

แฟนลูกยางอาจมองว่าหากนักกีฬาไปเล่นลีกญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นจะศึกษาการเล่นของนักตบไทย ทำให้อาจเสียเปรียบในยามที่ทีมชาติไทยต้องพบทีมชาติญี่ปุ่น แต่อีกมุมนักกีฬาของไทยก็จะได้เรียนรู้สไตล์การเล่นของนักกีฬาญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

“บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี เผยว่า “แน่นอนค่ะ เขาต้องศึกษาการเล่นของเราอยู่แล้ว ศึกษาเราตั้งแต่เราเล่นทีมชาติแล้วค่ะ เขาถึงมั่นใจติดต่อให้เราไปเล่นในลีกบ้านเขา แต่สำหรับตัวหนูการที่ได้ไปเล่นลีกในญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ ด้วยความที่เราเคยเห็นทีมชาติญี่ปุ่นเล่น ซึ่งจุดเด่นก็คือความเหนียว แล้วเราก็อยากรู้ว่าเขาซ้อมกันยังไง เขาถึงเล่นได้ดี มันก็แบบศึกษาซึ่งกันและกัน เป็นผลดีของทั้งสองฝ่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยว่า เราจะศึกษาเรียนรู้มาได้เยอะแค่ไหน แต่หนูก็แอบเสียดายนะ ตอนปีที่หนูไปอ่ะ ก่อนหน้านั้นประมาน 3 เดือน คือหนูบาดเจ็บข้อเท้าพลิก แล้วก็ไปในช่วงแข่งเลย ก็เลยต้องเซฟร่างกายเตรียมแข่งอย่างเดียว แต่ถ้าได้ไปในช่วงซ้อมนะ หนูว่าอาจจะได้อะไรเยอะมากกว่านี้ ก่อนกลับยังคุยกับโค้ชอยู่เลยว่าหนูอยากพุ่งรับบอลสวยๆแบบนักกีฬาญี่ปุ่นบ้าง โค้ชเลยตอบกลับมาว่า น่าเสียดายเหมือนกันนะ ยังไม่ได้สอนเลย เห็นบีบีเจ็บข้อเท้าด้วยก็เลยเป็นห่วง”

4.ประสบการณ์

เชื่อว่าฝีมือของนักกีฬาไทยไม่ได้เป็นรองนักกีฬาญี่ปุ่น แต่หากนักกีฬาที่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเอง เพราะด้วยจำนวนสโมสรที่เยอะ ทีมหญิง 12 ทีม ทำให้มีแมตช์แข่งขันมาก อีกทั้งลีกญี่ปุ่นดึงผู้เล่นระดับโลกมาเล่นเสมอ ได้รับคำแนะนำประสบการณ์จากนักกีฬาระดับโลก

“ทิพย์” แก้วกัลยา กมุลทะลา เผยประสบการณ์ที่ได้รับว่า “ความแตกต่างคือความรับผิดชอบในตัวเอง ความมีระเบียบวินัย นักกีฬาญี่ปุ่นจะมีความรับผิดชอบในตัวเองสูงมากๆ จะมีการมาซ้อมกันเอง ทั้งก่อนซ้อมและหลังซ้อม ซ้อมเสริมในทักษะที่ตัวเองขาด หลังซ้อมเสร็จก็กลับไปดูวิดีโอที่ตัวเองซ้อมในแต่ละวัน ดูข้อดีข้อเสียของตัวเอง เขาดูทุกวันจริงๆ ค่ะ อีกอย่างคือเรื่องการกิน ถ้าช่วงที่แข่งขันนักกีฬาญี่ปุ่นจะงดอาหารพวกปลาดิบคือไม่กินเลย ของหวาน แอลกอฮอล์ กินน้อยมากค่ะ”

5.รายได้

เป็นเรื่องที่เปิดเผยมากไม่ได้นัก แต่ข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวน่าเชื่อถือเผยว่า หากเป็นระดับทีมชาติจรดปากกาเซ็นสัญญาแล้วจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวน 7 หลัก แต่ อาจจะมากกว่า ขึ้นอยู่กับผลงานของนักกีฬาในช่วงเวลานั้น รวมถึงระยะเวลาในการเล่นที่ญี่ปุ่น หรือ อาจจะน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและผลงานที่ผ่านมา

6.ความเป็นอยู่

“ญี่ปุ่น” นับว่าเป็นประเทศยอดนิยมที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะหลายปัจจัย อาทิ อากาศ, สถานที่สวยงาม, อาหารอร่อย, แหล่งช็อปปิ้ง, การคมนาคมที่สะดวกตรงต่อเวลา ราคาไม่สูงมาก สิ่งเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจนักกีฬา ช่วยให้ผ่อนคลายยามที่ต้องเจอกับสภาวะความกดดันในการแข่งขัน และความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อม

การเดินทางที่ไม่ไกลมากนัก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใกล้กับไทย ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 5 ชั่วโมง ทำให้ครอบครัวสามารถวางแผนเดินทางไปเยี่ยมให้หายคิดถึง หรือตัวนักกีฬาจะเดินทางกลับมาเติมพลังใจที่ไทยเองก็ได้

ก่อนที่สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาจะระบาดทั่วโลก มีสโมสรจากญี่ปุ่นติดต่อนักกีฬาไทยเข้ามา แต่เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาทำให้สภาวะเศรษฐกิจนั้นถดถอย

เชื่อว่าหากไม่มีสถานการณ์โควิด-19 นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงของไทยจะมีโอกาสได้ไปเล่นลีกอาชีพที่ประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 5 คน

ขอบคุณข้อมุลจาก thairath.co.th


กลอยในฤดูฝนมีความเป็นพิษสูง ไม่ควรรับประทาน

 กลอยในฤดูฝนมีความเป็นพิษสูง ไม่ควรรับประทาน thaihealth

ผวจ.ขอนแก่น เตือนกินกลอยอันตรายถึงชีวิต หลังจากมีผู้ป่วย 9 ราย เกิดอาการใจสั่น คลื่นไส้ หายใจลำบาก โชคดีมาโรงพยาบาลรักษาทันจนปลอดภัย

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เผยว่า สำนักงานสาธารณสุข อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น รายงานสถานการณ์การเกิดอาหารเป็นพิษจากการรับประทานกลอย ซึ่งมีผู้ป่วยมารักษาพยาบาลที่ รพ.มัญจาคีรี ระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค. 2563 จำนวน 8 ราย เพราะเกิดอาการใจสั่น วิงเวียน คันบริเวณคอ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และรู้สึกหายใจอึดอัดคล้ายจะเป็นลม

โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยจำนวน 5 ราย เพศชาย 1 ราย เพศหญิง 4 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน ปัจจุบันรักษาหายแล้ว มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านนาข่า หมู่ 13 ต.นาข่า อ.มัญจาคีรี โดยเริ่มรับประทานกลอยเวลาประมาณ 10.18 น. ซึ่งผู้ป่วยมีอาการวิงเวียน อาเจียน อ่อนเพลีย หลังจากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกลอยที่ปรุงเอง ซึ่งซื้อมาจากร้านค้าในหมู่บ้านปัจจุบันรักษาหายแล้ว

นอกจากนี้ วันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยจากการรับประทานกลอยเป็นส่วนผสมของอาหารมีภูมิลำเนาอยู่บ้านหนองโน หมู่ที่ 5 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี 3 ราย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุรักษาหายแล้วเช่นกัน โดยซื้อกลอยดิบมาจากรถเร่ที่มาขายในหมู่บ้าน

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ช่วงนี้ประชาชนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จะมีประเพณีบุญข้าวสาก ซึ่งจะนำกลอยมาไหว้บรรพบุรุษ หลังจากนั้นร่วมรับประทานอาหารที่มีกลอยเป็นส่วนผสม ดังนั้นสำนักงานสาธารณสุขอำเภอมัญจาคีรี จึงได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่อยู่ในเดือนสิงหาคมจะมีกลอยออกดอกมาจำนวนมาก และมีสารไดออสคอรีน (Dioscrine)

พิษชนิดนี้จะมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ใจสั่น วิงเวียน คันบริเวณคอ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย รู้สึกหายใจอึดอัดคล้ายจะเป็นลม หากรับประทานมาก พิษจะกดระบบทางเดินหายใจ หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้

ขอฝากถึงประชาชนที่อยู่ใน จ.ขอนแก่น หรือ จังหวัดใกล้เคียง ที่มีประเพณีบุญข้าวสากเดือน 10 ที่นำกลอยมาเป็นส่วนผสมของอาหาร หรือนำกลอยมาปรุงเป็นอาหาร จึงขอฝากไว้ว่ากลอย นั้นซ่อนพิษที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากเป็นไปได้ขอให้ใช้กลอยประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษเท่านั้น ส่วนจะนำมารับประทานขอให้รับประทานข้าวกระยาสารทอย่างเดียว

อย่างไรก็ตามสาธารณสุขอำเภอมัญจาคีรี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล อสม.ทุกคนทุกหมู่บ้าน ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งในพื้นที่ เฝ้าระวังการจำหน่ายกลอย รถเร่จำหน่ายกลอย เฝ้าระวังการเกิดโรคดังกล่าว ให้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนให้งดรับประทานกลอยทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านอย่างต่อเนื่องทุกวันๆละ 2 ครั้ง และสำรวจการจำหน่ายกลอยสด และกลอยแปรรูปในตลาดสดเทศบาล ต.มัญจาคีรี และขอความร่วมมือให้เลิกจำหน่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสปา

โพธิ์แก้วนวดสปาเพื่อสุขภาพ

สปา เป็นสถานที่ซึ่งหลายคนชอบไปเพื่อการผ่อนคลาย ซึ่งในภาษาอังกฤษมีคำศัพท์เกี่ยวกับสปาอยู่หลายคำ เราจึงได้รวบรวมคำต่างๆ เหล่านี้   พร้อมคำอ่าน และคำแปลภาษาไทย มาให้ได้ทบทวนกัน ดังนี้

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสปา

ภาษาอังกฤษ คำอ่าน คำแปลภาษาไทย
aroma อะโรมา กลิ่นหอม
changing room เชนจิง รูม ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
stiff สติฟ เมื่อย
massage มาสซาจ นวด
masseur มาสเซอร์ ผู้นวด
relax รีแล็กซ์ ผ่อนคลาย
Thai massage ไท มาสซาจ นวดไทย
foot massage ฟุต มาสซาจ นวดเท้า
herbal massage เฮอเบิล มาสซาจ นวดประคบสมุนไพร
herbal compress ball เฮอเบิล คอมเพรส บอล ลูกประคบสมุนไพร
oil massage ออยล์ มาสซาจ นวดน้ำมัน
massage chair มาสซาจ แชร์ เก้าอี้นวด
sauna ซาวนา ห้องอบไอน้ำ, ห้องซาวน่า
steam สตีม ไอน้ำ
scrub สครับ ขัด, ถู
aroma candle อะโรมา แคนเดิล เทียนหอม
hand towel แฮนด์ ทาวเอิล ผ้าเช็ดมือ
towel ทาวเอิล ผ้าเช็ดตัว
spa robe สปา โรบ เสื้อคลุมสปา
Jacuzzi จาคุซซี อ่างน้ำวน

ขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya.com


สครับเม็ดบีดส์จากนํ้ายาง ที่สุดนวัตกรรมดีท็อกซ์ผิว

“ยางพารา” เป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 4 แสนล้านบาท แต่การส่งออกยางพาราส่วนใหญ่อยู่ในรูปวัตถุดิบแปรรูปขั้นต้น มีมูลค่าเพิ่มตํ่า เช่น ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และนํ้ายางข้น ทำให้มีผลต่อการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและการยกระดับรายได้ของเกษตรกรไม่มากเท่าที่ควร  หากเรื่องนี้ได้รับการพัฒนา จะส่งผลดีต่อประเทศและเกษตรกรชาวสวนยางอย่างมหาศาล

 ทั้งนี้หนึ่งในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากนํ้ายางพารา คือการใช้นวัตกรรมเชื่อมต่อไปสู่อุตสาหกรรมความงามโดยพัฒนาเป็น “สครับ“เม็ดบีดส์” เพื่อการขัดผิวที่ปัจจุบันมีเทรนด์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเม็ดบีดส์ที่ใช้ในการขัดผิวส่วนใหญ่มาจากโพลีเอทิลีน ซึ่งเป็นบีดส์พลาสติกที่ได้มาจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งโพลีเอทิลีน มีข้อดี คือสามารถกำหนดขนาดที่แน่นอนได้อย่างแม่นยำ มีความคงตัวสูง แต่มีข้อด้อย คือเป็นพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ แม้เวลาจะผ่านไปเป็นร้อยปี ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศทางนํ้าที่อาจปนเปื้อนเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายห้ามใช้โพลีเอทิลีนไมโครบีดส์เป็นวัสดุขัดผิวแล้ว ส่วนในไทยได้ห้ามนำพลาสติกไมโครบีดส์มาใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ส่งผลให้ในปัจจุบันเทรนด์เม็ดบีดส์ขัดผิวจากวัสดุธรรมชาติได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

รศ.ดร.ช.วยากรณ์ เพ็ชญไพศิษฏ์

รศ.ดร.ช.วยากรณ์ เพ็ชญไพศิษฏ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หัวหน้าทีมผู้ที่คิดค้น และพัฒนา “Rubber beads” กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นได้เล็งเห็นแนวทางในการนำยางพาราซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ 1 ใน 3 ของประเทศมาใช้ ซึ่งในห้องปฏิบัติการได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการนำนํ้ายางพารามาประยุกต์ใช้อยู่แล้ว และนักวิจัยได้คิดค้นต่อยอดหาวิธีพัฒนาเม็ดบีดส์จากยางพารา พบว่า เพียงนำนํ้ายางธรรมชาติมาทำปฏิกิริยาทางเคมี หลังเสร็จสิ้นปฏิกิริยาไขนํ้ายางลงในนํ้าเย็น และหลังอบแห้งจะได้ยางผงออกมา มีข้อดีคือสามารถเตรียมขนาดของเม็ดบีดส์ได้หลากหลายตั้งแต่ 50-1,000 ไมครอน เม็ดบีดส์มีลักษณะมนกลม เมื่อนำมาขัดผิวจะได้สัมผัสที่นุ่ม ไม่ระคายเคือง

นวัตกรรมใหม่รับเบอร์บีดส์จึงผลิตขึ้นมาเพื่อมาทดแทนเม็ดบีดส์จากพลาสติก ลดช่องว่างเรื่องขนาด และเหลี่ยมมุมของเม็ดบีดส์จากธรรมชาติ ทั้งยังมีจุดเด่นเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติในสภาวะที่มีจุลินทรีย์โดยทั่วไป นอกจากนี้รับเบอร์บีดส์ยังสามารถดูดซับกับสารในสมุนไพรได้ เช่น ขมิ้น ฝาง และอัญชัน เป็นต้น ซึ่งเมื่อนำไปใช้ขัดผิว สารจากสมุนไรดังกล่าวจะค่อย ๆ ออกสู่ผิว ทำให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างดี ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับนํ้ายางพารา 

สำหรับการใช้งานสามารถนำรับเบอร์บีดส์ผสมกับเครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น โฟมล้างหน้า ก้อนสบู่ และครีมอาบนํ้า เป็นต้น เพื่อช่วยในการทำความสะอาด และขัดผิวได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับอุตสาหกรรมสปาที่มีการขัดผิวเม็ดบีดส์ยางพารา คุณสมบัติของรับเบอร์ บีดส์ มี Sieve ขนาด 50-150 ไมครอน ทำให้ขัดผิวได้ละเอียดกว่า จุดเด่นช่วยกำจัดคราบความสกปรกออกจากรูขุมขน ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยในการหมุนเวียนของเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ลดริ้วรอยของผิวพรรณ และลดเซลลูไลท์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายคือโรงงานผลิตเครื่องสำอาง หรือโรงงานอื่นๆ ที่ต้องการผงขัด เช่นยาสีฟัน กลุ่มธุรกิจบริการด้านสปา บุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลผิวหน้าและผิวกายโดยการขัด เป็นอีกทางเลือกใหม่ในยุค “New Normal”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ถั่วขาว” สรรพคุณ-ประโยชน์ดีๆ เปลี่ยนร่างเผละให้กลับมาหุ่นดีอย่างได้ผล

ถั่วขาว สรรพคุณ ประโยชน์

ถั่วขาวช่วยลดความอ้วนได้” เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะปัจจุบันมีการผสมสารสกัดจากถั่วขาวลงในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมาย รวมทั้งโหมโฆษณาว่าช่วยให้ผอมลง ทำให้ขับถ่ายง่าย ลดพุง ลดน้ำหนัก จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจริงๆ แล้วถั่วขาวมีสรรพคุณและประโยชน์ในเรื่องการลดน้ำหนักอย่างที่เค้าเคลมกันมาหรือไม่ ดังนั้นใครที่อยากรู้สามารถหาคำตอบกันได้ที่นี่ค่ะ

ที่มา ต้นกำเนิดของถั่วขาว

ถั่วขาว ( Nevy Bean หรือ White Kidneys Beans) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Phaseous vulgaris L. เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับถั่วเหลืองถั่วแขก รวมไปถึงถั่วปากอ้า เป็นถั่วที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกาเช่น แม็กซิโก กัวเตมาลา สำหรับประเทศไทยมีการส่งเสริมในเรื่องการเพาะปลูกควบคู่ไปกับถั่วชนิดอื่น โดยความสนับสนุนของโครงการหลวง แต่ก็ยังเพาะปลูกได้ไม่มาก เนื่องจากถั่วขาวเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่อากาศเย็น ดังนั้นผลิตผลในประเทศจึงมาจากการนำเข้าเป็นหลัก

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของถั่วขาว

ลำต้น เป็นพืชล้มลุกอายุสั้นแค่ฤดูเดียว ต้นเป็นทรงพุ่มเตี้ยสูงเฉลี่ย 8-15 ซม. เปลือกลำต้นสีน้ำตาล ผิวลำต้นหยาบ โคนต้นอวบกลมและมีรากอากาศแตกอยู่รอบๆ รากเป็นระบบรากแก้ว

ใบ แตกเป็นชุด ชุดหนึ่งมี 3 ใบย่อย เป็นรูปโล่ โคนใบมนใหญ่ ปลายใบแหลม ผิวใบหยาบ ขอบใบเรียบ เส้นใบเป็นร่างแหเห็นได้ชัดเจน ผิวใบสีเข้มส่วนท้องใบสีอ่อนกว่า

ดอก ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อมีดอกย่อย 3 ดอก ลักษณะโดยทั่วไปเหมือนดอกถั่วชนิดอื่นๆ คือ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วงอ่อน มีรังไข่ที่รอเจริญออกมาเป็นฝัก

เมล็ด จะเรียงกันอยู่ตลอดความยาวฝัก รูปทรงคล้ายไต มีจมูกถั่วสีน้ำตาลเข้มติดอยู่ ผิวเปลือกสีขาวครีม

ผล มีลักษณะเป็นทรงกระบอก อาจจะกลมหรือแบน เรียวยาว ฝักอ่อนสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาลอ่อน

ลักษณะของถั่วขาว

สรรพคุณดีๆ ที่ห้ามพลาดของถั่วขาว

1.ถั่วขาวมีสรรพคุณแก้ท้องผูก ถั่วขาวมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เส้นใยจากถั่วจะอุ้มน้ำจนพอง ช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น บรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี

2. ถั่วขาวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จากการศึกษาผลการรับประทานถั่วขาวในผู้ที่น้ำตาลเลือดสูงแต่ไม่มากจนเกินไป พบว่าการทานถั่วขาวแบบแคปซูลหรือเนยถั่วขาวกับขนมปัง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังทานอาหาร ดังนั้นใครที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงในขั้นเริ่มต้น จะลองปรุงอาหารที่มีส่วนผสมจากถั่วขาวมารับประทาน ก็เป็นทางเลือกที่น่าใจไม่น้อยค่ะ

3. ถั่วขาวช่วยรักษาโรคเบาหวาน เนื่องจากมีผลช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยทำให้อาการของโรคเบาหวานดีขึ้นตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ต้องทานถั่วขาวควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน และต้องปฏิบัติตามแพทย์สั่งด้วย จึงจะได้ผลดีที่สุดค่ะ

4. ถั่วขาวช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดการเปลี่ยนรูปของแป้งไปเป็นน้ำตาล จึงทำให้น้ำตาลเปลี่ยนไปเป็นไขมันน้อยลง ทำให้ลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ถั่วขาวช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือ?

ถั่วขาวเป็นอาหารที่มีไฟเบอร์สูงมาก ทานแล้วจะทำให้อิ่มไว อิ่มนาน ไม่หิวระหว่างวัน รวมทั้งมีสารฟาซิโอลามินที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ชื่อว่าอัลฟ่า-อะไมเลส เอนไซม์ตัวนี้ทำหน้าที่ย่อยคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นน้ำตาล เปลี่ยนแป้งให้เป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้ เมื่อทานถั่วขาว กระบวนการเปลี่ยนรูปคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาลจะถูกยับยั้งมากกว่าครึ่ง อาหารในกลุ่มแป้งที่เราทานเข้าไปกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จะถูกขับถ่ายออกมา ส่วนที่เหลือก็เข้าสู่กระบวนการย่อยตามปกติ ดังนั้นคาร์โบไฮเดรตที่เราทานเข้าไปจึงไม่ได้เข้าสู่ร่างกายทั้งหมด จึงช่วยลดปริมาณน้ำตาลในร่างกาย รวมทั้งลดการสะสมของไขมันที่เกิดจากการเปลี่ยนรูปของน้ำตาลด้วย เมื่อร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง พลังงานที่มีอาจจะไม่พอต่อการนำมาใช้ ร่างกายจึงไปดึงไขมันซึ่งเป็นพลังงานสำรองมาใช้ จึงทำให้น้ำหนักลดลงนั่นเอง

จากการศึกษาค้นคว้าเรื่องถั่วขาวกับการลดน้ำหนัก โดยทดลองกับอาสาสมัครที่มีน้ำหนักตัวเกินเล็กน้อยและผู้ที่มีน้ำหนักปกติคงที่มาอย่างน้อย 6 เดือน ให้ทานสารสกัดถั่วขาวในปริมาณ 445 มิลลิกรัมทุกวันหลังอาหารมื้อใหญ่ที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นเวลา 1 เดือน พบว่ากลุ่มผู้ทดลองมีน้ำหนักตัวลดลง ค่าไขมันในร่างกายน้อยลง ความหนาของเอว สะโพกและต้นขาลดลง แต่เปอร์เซ็นต์กล้ามเนื้อไม่มีการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าเกิดจากเอนไซม์อัลฟ่าอะไมเลสถูกยับยั้ง จึงช่วยลดการสะสมพลังงานจากแป้งและน้ำตาลได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยโดยทดลองกับอาสาสมัครที่มีสุขภาพร่างกายแข็งดี 25 คน ทานถั่วขาวสกัดปริมาณ 1,000 มก.ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง แต่การทดลองนี้ทำร่วมกับการทำกิจกรรมอื่น เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย พบว่าน้ำหนักตัว รอบเอวและรอบสะโพกลดลงมากกว่ากลุ่มผู้ทดลองที่ไม่ได้ทานถั่วขาวอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อควรระวังในการรับประทานถั่วขาว

1. ปรุงสุกอยู่เสมอ เพราะสารเคมีบางชนิดที่อยู่ในเปลือกถั่วขาวอาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องเสียได้ การปรุงให้สุกด้วยความร้อนจะทำสารเคมีนั้นถูกทำลายจนหมดไป

2. ทานในปริมาณที่พอเหมาะ ใครที่ต้องการทานเพื่อลดน้ำหนักก็อย่าทานจนมากเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดอันตราย และจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารจำเป็นชนิดอื่นๆ ได้ ดังนั้น ต้องทานอาหารอื่นให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนด้วย

3. ระวังในการรับประทานเป็นพิเศษ ถ้าเป็นบุคคลในกลุ่มสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่กำลังจะผ่าตัด เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยเรื่องความปลอดรองรับมากพอ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของเด็กหรือผู้ป่วยได้

จากข้อมูลสรรคุณและประโยชน์ของถั่วขาว ได้ข้อสรุปว่าถั่วขาวช่วยลดน้ำหนักได้จริง จากกลไกที่ยับยั้งการเปลี่ยนรูปของคารโบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล แต่อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักที่ถูกวิธีไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทานถั่วขาวเพียงอย่างเดียว ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ลดละเลิกอาหารมันๆ หวานๆ เลิกทานจุบจิบ หมั่นออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะทุกกิจกรรมนั้นช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันหมด ดังนั้นหากปฏิบัติตามอย่างครบถ้วนเหมาะสม จะทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 28,750.00 28,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,862.00 28,227.92 29,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,675.80 25,405.13 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,489.60 22,582.34 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 838.00 12,704.08 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 652.00 9,884.32 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,930.00 29,258.80 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 03/09/2563 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 21.75 21.75 22.25 21.75 21.75 21.75 21.75 21.75 21.75 21.75
แก๊สโซฮอล์ 91 21.48 21.48 21.98 21.48 21.48 21.48 21.48 21.48 21.48 21.48
แก๊สโซฮอล์ E20 20.24 20.24 20.74 20.24 20.24 20.24 20.24 20.24 20.24
แก๊สโซฮอล์ E85 18.04 18.04
เบนซิน 95 29.16 29.61 29.66 29.16 29.16
ดีเซล 21.79 21.79 22.29 21.79 21.79 21.79 21.79 21.79 21.79 21.79
ดีเซล B10 18.79 18.79 19.29 18.79 18.79 18.79 18.79 18.79 18.79 18.79
ดีเซล B20 18.54 18.54 19.04 18.54 18.54 18.54 18.54 18.54
ดีเซลพรีเมี่ยม 26.24 26.26 28.74 28.24
แก๊ส NGV 14.41 14.41
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า