สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2560

 

“ORI” ดึง “โนมูระฯ” ร่วมทุน “ออริจิ้น วัน ทองหล่อ” ต่อยอดบิ๊กโปรเจกต์-เพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ

“ออริจิ้น” ต่อยอดความร่วมมือกับกลุ่มญี่ปุ่น ขายหุ้นร้อยละ 49 ในบริษัท ออริจิ้น วัน ทองหล่อ ให้กับกลุ่มพันธมิตรบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (NRED) โดยได้รับชำระเงินสด 177 ล้านบาท ระบุรองรับการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส Staybridge Suites Bangkok Thonglor มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท คาดเข้าทำรายการได้ภายในเดือน ธ.ค. นี้ 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่มีการประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 14/2560 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 60 ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติให้บริษัทร่วมทุนกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (NRED) โดยการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท ออริจิ้น วัน ทองหล่อ จำกัด (วัน ทองหล่อ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นของ วัน ทองหล่อ ) จำนวน 26,460,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) แบ่งเป็นหุ้นที่เรียกชำระแล้วมูลค่าหุ้นละ 10 บาท จำนวน 49,000 หุ้น และหุ้นที่เรียกชำระแล้ว มูลค่าหุ้นละ 3.07 บาท จำนวน 26,411,000 หุ้น คิดเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 81,571,770 บาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของวัน ทองหล่อ โดย NRED จะชำระด้วยเงินสด จำนวน 177,121,770 บาท โดยคาดว่าจะสามารถทำรายการดังกล่าวได้ภายในเดือน ธ.ค. 60 

“คณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า การที่บริษัทได้ร่วมทุนกับ NRED ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีประวัติความสำเร็จ และประสบการณ์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดที่อยู่อาศัยสูงเป็นอันดับ 1ใน 3 รวมทั้งมีแบรนด์อาคารชุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ทาง NRED ยังประสบการณ์ในการทำธุรกิจ Recurring Income ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเสริมศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มั่นคง และยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน และการร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาพัฒนาการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาโครงการ และการบริการของบริษัทให้สามารถสร้างความพึงพอใจอย่างสูงสุดให้แก่ลูกค้าต่อไป รวมถึงมีโอกาสในการขยายตลาดไปต่างประเทศในอนาคต”

อนึ่ง ตามแผนของบริษัทออริจิ้นฯ วางเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ภายในปี 66 เพิ่มขึ้นเป็น 5-10% จากปัจจุบันมีสัดส่วนแค่ 1% โดยรายได้ประจำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดให้บริการโรงแรมใน จ.ชลบุรี ในปี 61 อีกทั้งยังจะมีรายได้จากคลังสินค้าให้เช่าเข้ามาเสริม ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการและบริหารอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มของรายได้ที่เติมโตมากขึ้นตามจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ รายการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว คือ เป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 2.67 โดยคำนวณจากงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 60 ซึ่งเป็นขนาดรายการสูงสุดตามเกณฑ์การคำนวณที่ 1 คือ เกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิเปรียบเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของกลุ่มบริษัท

อนึ่ง เมื่อนำขนาดของรายการจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน ตามข้อ 1.1 มาคำนวณรวมกับมูลค่าของการเข้าทำรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนที่ผ่านมา ขนาดรายการแล้วมีมูลค่าสูงสุด จะทำให้มีขนาดรายการรวมเท่ากับร้อยละ 24.86 ซึ่งเป็นขนาดรายการที่มีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 15 แต่ต่ำกว่าร้อยละ 50 บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องจัดทำรายงาน และเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทันที และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น วัน ทองหล่อ มีสินทรัพย์ ณ ไตรมาส 3 ปี 60 ที่ 157.97 ล้านบาท ขาดทุนสะสม 0.73 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยดังกล่าวยังไม่มีการรับรู้รายได้จากการพัฒนาโครงการ Staybridge Suites Bangkok Thonglor รูปแบบโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มูลค่าโครงการ 1,725 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่ที่ ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ 5)

ล่าสุดในวันที่ 14 ธ.ค. บริษัท ออริจิ้น วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างออริจิ้น และโนมูระ เตรียมพัฒนาโรงแรมในย่านใจกลางเมือง โดยประกาศจับมือกับ Intercontinental Hotels Group (IHG) ซึ่งเป็นเชนบริหารโรงแรมชั้นนำ เพื่อให้ IHG เป็นผู้บริหารโรงแรมภายใต้เชนใหม่ โดยจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้.

https://mgronline.com


 

“ทีซีซี” ผุด ‘The PARQ’ มูลค่า 2 หมื่น ล. ดันทำเลพระราม 4 สู่ศูนย์กลางธุรกิจ

ปณต สิริวัฒนภักดี

“ทีซีซี แอสเซ็ท” ประกาศเปิดตัว ‘The PARQ’ มูลค่า 20,000 ล้านบาท โครงการมิกซ์ยูสอาคารสำนักงานระดับพรีเมียม ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม รวมพื้นที่ 320,000 ตารางเมตรบนพื้นที่โครงการ 24ไร่ เสริมความแข็งแกร่งพื้นที่ย่านพระราม4-ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นศูนย์กลางการประชุมและการจัดแสดงสินค้า (MICE) ที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ขึ้นแทนศูนย์กลางธุรกิจ ภายใต้แนวคิด ‘คุณภาพชีวิตและการมีสุขภาพดี’ มาตรฐาน LEED Gold และ WELL ชูจุดเด่น อาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ต่อชั้น (Floor Plate) ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ แจง พร้อมเดินหน้าก่อสร้างเฟสแรกสำนักงานและร้านค้า กำหนดแล้วเสร็จปี 62

โครงการ ‘The PARQ’ (เดอะ ปาร์ค) เป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารโดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมีประสบการณ์การพัฒนาและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติของบริษัท เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พอยท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก นายปณต สิริวัฒนภักดี กรรมการ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว


ทั้งนี้ ‘The PARQ’ มีพื้นที่อาคารรวม 320,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 24 ไร่ ประกอบด้วยสำนักงานระดับพรีเมียม เชื่อมต่อกับพื้นที่ร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรม มีสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่ภายในโครงการ ซึ่งถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นด้วยขนาดพื้นที่ต่อชั้นใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และปราศจากเสาภายในพื้นที่ ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการใช้สอยพื้นที่ภายใน และมีทางเดินเชื่อมต่อตรงกับทางเข้ารถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

“สิ่งที่ทำให้โครงการ ‘The PARQ’ แตกต่างและโดดเด่น คือ การมุ่งมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิต และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังส่งเสริมการสร้างสมดุลย์ระหว่างการทำงาน และการพักผ่อน ให้กับผู้คนที่ทำงานอยู่ภายในโครงการ รวมถึงพื้นที่โดยรอบ” นายปณต กล่าว

นายปณต กล่าวว่า “เดอะ ปาร์ค” กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ในเรื่องของคุณภาพชีวิตในที่ทำงาน ซึ่งมาตรฐานใหม่นี้กำลังจะกลายเป็นรูปธรรมด้วยสถาปัตยกรรมภายนอกที่ยอดเยี่ยมโดยบริษัท Palmer & Turner และการออกแบบตกแต่งภายในโดยบริษัท PIA Interior นอกจากนั้น พื้นที่มากกว่า 7,000 ตร.ม. ของโครงการยังถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่สีเขียว และพื้นที่เปิดโล่ง กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ โดยบริษัท Shma เป็นผู้ออกแบบภูมิทัศน์ ผสมผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นนวัตกรรมล้ำสมัย เทคโนโลยีชั้นเลิศที่ล้ำยุค สิ่งจำเป็นและความรื่นรมย์ต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตที่ผ่านการคิดอย่างพิถีพิถัน เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ออกแบบตามมาตรฐาน WELL”

โครงการดังกล่าวได้ออกแบบจัดสรรให้มีสวนเขียวร่มรื่น เป็นพื้นที่ทอดยาวกว่า 200 เมตร โอบล้อมด้านหน้าโครงการทั้งฝั่งถนนพระราม 4 และถนนรัชดาภิเษก มอบบรรยากาศ และความรู้สึกสบาย พร้อมทั้งเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามของถนนพระราม 4 ให้แก่ชุมชน ผู้มาเยี่ยมเยือน และผู้ที่สัญจรผ่านไปมา นอกจากนั้น ยังออกแบบให้มีสวนลอยฟ้ากลางแจ้ง ขนาดพื้นที่รวมกว่า 3,400 ตารางเมตร ที่เขียวชอุ่มร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด และการตกแต่งด้วยธารน้ำอย่างสวยงาม มอบความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ผสมผสานอยู่ในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ทั่วทั้งโครงการ เพื่อให้กับทุกคนที่อยู่ภายในโครงการ และผู้มาเยี่ยมเยือนสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้ตลอดเวลา

นายปณต กล่าวว่า “การมีสุขภาพดีกลายเป็นสมบัติที่มีค่าอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้ ซึ่งการมีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดีนั้น ได้ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะล้วนส่งต่อความสามารถในการทำงาน เราจึงกำลังสร้างสถานที่ทำงานที่องค์กรต่าง ๆ จะสามารถมอบสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ส่งเสริมการมีสุขภาพดีให้กับพนักงานของตนเองได้ โดยโครงการ ‘The PARQ’ (เดอะ ปาร์ค) ได้มุ่งเน้นการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก และสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ โครงการ ‘The PARQ’ (เดอะ ปาร์ค) ยังตั้งอยู่ใกล้กับสวนเบญจกิติ ที่กำลังขยายพื้นที่ให้มีขนาดใหญ่กว่า 450 ไร่ อีกด้วย

 

ซู หลิน ซูน

ซู หลิน ซูน

ด้านนางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ ‘The PARQ’ (เดอะ ปาร์ค) กล่าวว่า “เรากำลังสร้างอาคารสำนักงานที่มีขนาดพื้นที่ต่อชั้น (Floor Plate) ใหญ่ที่สุดในบรรดาอาคารสำนักงานทั้งหมดในกรุงเทพฯ และเชื่อมั่นว่าจะตอบสนองความต้องการในอนาคตของบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการรวมการบริหารจัดการ และดำเนินธุรกิจทั้งหมดไว้บนชั้นเดียวกัน เพื่อให้การสื่อสารภายในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และง่ายต่อการดำเนินการทางธุรกิจ โดยโครงการ ‘The PARQ’ ประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน, พื้นที่ค้าปลีก, ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และโรงแรม จะผนึกกำลังกับโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มทีซีซี ในพื้นที่โดยรอบทั้งอาคาร FYI Center อาคารสำนักงานล้ำสมัยที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อทำให้เกิดเป็นย่านธุรกิจที่มีชีวิตชีวา และเป็นศูนย์กลางไมซ์ (MICE) ที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ และยังเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เชื่อมต่อโดยตรงกับถนนพระราม 4 ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 3 และสามารถเข้าถึงระบบทางด่วนได้อย่างสะดวกง่ายดายอีกด้วย”

สำหรับเฟสแรกของ ‘The PARQ’ จะมีพื้นที่ให้เช่า 71,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมที่ออกแบบตามมาตรฐานทั้ง LEED Gold และ WELL ขนาด 60,000 ตร.ม. โดยจัดสรรพื้นที่ในแต่ละชั้นให้เปิดรับแสงธรรมชาติมากที่สุด มีขนาดของยูนิตที่หลากหลายตั้งแต่ 2,400-5,100 ตร.ม. โดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตแก่ผู้ที่ทำงานในโครงการ และผู้มาเยี่ยมเยือน อาทิ สวนลอยฟ้ากลางแจ้งขนาดใหญ่, คุณภาพอากาศหมุนเวียนภายในอาคาร, น้ำดื่มที่จัดไว้ให้ในบริเวณพื้นที่เตรียมอาหารของทุกชั้น, พื้นที่จอดจักรยานสำหรับผู้ที่สัญจรด้วยจักรยาน และผู้ที่รักการออกกำลังกาย พร้อมทั้งส่งเสริมไลฟ์สไตล์คนเมืองที่สมดุลด้วยพื้นที่ร้านค้าปลีกระดับพรีเมียม, ร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เกต และศูนย์อาหารระดับคุณภาพ บนพื้นที่ขนาดรวม 11,000 ตร.ม. ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat Well and Shop Well” ร้านค้าปลีก ร้านค้า และร้านอาหาร ภายในโครงการ ‘The PARQ’ 

ส่วนเฟสสองของโครงการ ‘The PARQ’ อยู่ในระหว่างการวางแผนเพื่อจัดสรรให้เป็นพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมเพิ่มเติม โรงแรม หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มนักธุรกิจ และผู้คนในแวดวงต่าง ๆ ที่เดินทางมาประชุมและสัมมนาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อีกด้วย ขณะที่เฟสแรกของโครงการนี้จะประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว และมีกำหนดเปิดให้บริการประมาณปลายปี 62 โดยทั้งโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปี 66

https://mgronline.com


ครม.ยกเว้นภาษีผลตอบแทนเงินฝากไอแบงก์

ครม.ไฟเขียวยกเว้นภาษีผลตอบแทนฝากเงินแบบรักษาทรัพย์ – ฝากเพื่อการลงทุนของธนาคารอิสลาม

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผลตอบแทนเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำ ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ให้สอดคล้องกับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผลตอบแทนเงินฝากของสถาบันการเงินอื่นๆ

สำหรับการอนุมัติดังกล่าว เนื่องจากเพื่อสร้างความเป็นกลางทางภาษี เนื่องจากที่ผ่านมา การดำเนินการตามหลักศาสนาอิสลาม ห้ามจ่ายและรับดอกเบี้ย แต่ให้ใช้การแบ่งปันผลกำไรจากการค้าและการลงทุนแทน โดยการรับฝากของธนาคารอิสลามจะเป็นรูปแบบการรับฝากเงินแบบรักษาทรัพย์ หรือ เงินฝากออมทรัพย์ และ การฝากเงินเพื่อการลงทุน หรือ เรียกว่า ฝากประจำ ซึ่งทำให้รูปแบบมีความคล้ายคลึงกับสถาบันการเงินอื่นๆ ดังนั้นจึงให้อนุมัติการเว้นภาษีเงินได้ในรูปแบบเดียวกัน

นอกจากนี้ ครม.ยังอุมัติมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการสายพลังประชารัฐ โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จ่าย เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนโครงการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5% ของกำไรสุทธิ โดยให้มีผลในรอบบัญชี วันที่ 1 มกราคม 2560-31 ธันวาคม 2561

http://www.bangkokbiznews.com


มติครม. เว้นค่ามอเตอร์เวย์ปีใหม่ 28 ธ.ค.60 – 4 ม.ค.61

มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษหมายเลข 7,9 วันที่ 28 ธ.ค. 60 ถึง 4 ม.ค. 61

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่าที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอการอำนวยความสะดวกในการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

โดยจะยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือ มอเตอร์เวย์ และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 หรือ วงแหวนรอบนอก โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 28 ธ.ค. 2560 จนถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 2561 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ และลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงที่มีการเดินทางจำนวนมาก

https://news.mthai.com


 

เทคโนโลยีชาร์จเร็ว อาจจะเป็นไม้ตายของ Samsung Galaxy S9 แต่จะเร็วขนาดไหน ยังไม่มีใครรู้

เทคโนโลยีชาร์จเร็ว อาจจะเป็นไม้ตายของ Samsung Galaxy S9 แต่จะเร็วขนาดไหน ยังไม่มีใครรู้

ถ้าเป็นเรื่องของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนแล้วหล่ะก็ นอกจากเราจะสนใจว่ามันสามารถใช้งานได้ยาวนานขนาดไหนแล้ว ก็ยังอยากให้มันชาร์จแบตฯ ได้เต็มเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้

ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เห็นการขยายเพิ่มขนาดความจุแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ เป้าหมายการพัฒนาของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน จึงมุ่งเป้าไปที่การประหยัดพลังงานให้ได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ และเทรนด์ที่มาแรงตลอดกาลของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของแต่ละแบรนด์ คือเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ที่ต้องเร่งสปีดการชาร์จขึ้นไปเรื่อยๆ (โดยที่ต้องไม่มองข้ามเรื่องความปลอดภัยในการชาร์จแบตฯ) และ Samsung Galaxy S9 ที่มีกำหนดการวางขายในช่วงต้นปี 2018 ก็เหมือนว่าจะเกาะเทรนด์ชาร์จเร็วด้วยเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง Qualcomm ออกประกาศหลายฉบับ เผยรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับชิปตัวแรง Snapdragon 845 ที่จะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมายหลายรุ่นในปี 2018 รวมถึงจะมีการนำไปใข้ใน Samsung Galaxy S9 และ S9+ ด้วย

เทคโนโลยีชาร์จเร็ว อาจจะเป็นไม้ตายของ Samsung Galaxy S9 แต่จะเร็วขนาดไหน ยังไม่มีใครรู้

ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจของ Snapdragon 845 คือระบบการชาร์จเร็วรุ่นล่าสุด ที่ทาง Qualcomm ขนานนามให้ว่า Quick Charge 4+ โดยมีการเคลมว่าสามารถเร่งความเร็วการชาร์จขึ้นได้ถึง 15%และทำให้อุณหภูมิในระหว่างการชาร์จต่ำกว่าเดิมถึง 3 องศาเซลเซียส ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

แต่ในกรณีของ Samsung นั้นไม่สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใส่ไว้ใน Galaxy S9 ทุกเครื่อง เนื่องจากมีทั้งตัวเครื่องเวอร์ชั่นที่ใช้ชิปของ Snapdragon 845 และตัวเครื่องที่ใช้ชิป Exynos 9810

ในช่วงเวลานี้ เทคโนโลยีชาร์จเร็วของ Samsung มีชื่อเรียกว่า Adaptive Fast Charge และเทคโนโลยีนี้อาจจะช่วยให้เครื่อง S9 ทั้งรุ่นที่ใช้ชิป Exynos 9810 และรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 845 มีความเร็วในการชาร์จที่เท่ากันได้ แต่จนถึงเวลานี้ทาง Samsung ยังไม่ได้เปิดเผยสเปคของชิป Exynos 9810 แต่ก็คาดการณ์ว่า จะต้องมีระบบการชาร์จเร็วที่ไม่น้อยหน้าทางฝั่งของ Snapdragon 845

https://news.thaiware.com


 

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 13/12/2560​

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,150.00 19,250.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,240.00 18,798.40 19,750.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,119.60 16,973.14 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 558.00 8,459.28 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 434.00 6,579.44 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,285.00 19,480.60 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  13/12/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.85 27.85 27.85 35.41 27.85
27.85
27.85
27.85
27.85
แก๊สโซฮอล E-20
25.34
25.34
25.34
25.34
27.85
25.34
25.34
25.34
25.34
แก๊สโซฮอล E-85 20.64 20.64 20.64 20.64
แก๊สโซฮอล 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.98 27.58 27.58 27.58 27.58
เบนซิน 95 34.96 35.41 35.46 34.96 34.96 34.96
ดีเซลหมุนเร็ว 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39 26.39
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.39 30.07 30.26 30.26 30.26
มีผลตั้งแต่ 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 10 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00 08 Dec 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า