สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2563

ปักหมุดพระราม 3 ผุดคอนโดวิวแม่น้ำ ดึงดูดนักลงทุนและเรียลดีมานด์

เผยพระราม 3 ทำเลแห่งอนาคต ศักยภาพโดดเด่น แนวโน้มเติบโตสูง ผู้ประกอบการชิงพื้นที่ปักหมุดผุดโครงการคอนโดมิเนียม ชูดจุดขายวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจ หวังดึงดูดนักลงทุนและเรียลดีมานด์

คอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งทำเลยอดนิยมทั้งในมุมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ซื้อ ด้วยวิวที่สวยงาม และที่ดินที่นับวันเริ่มหาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ในอนาคตมูลค่าของคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำจะยิ่งสูงขึ้น จึงเป็นที่น่าสนใจของทั้งนักลงทุนและเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เอง

ด้วยข้อจำกัดของที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่หาได้ยากและเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่นิยมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของทำเล สร้างความคึกคักและอัตราการแข่งขันสูงในทำเลดังกล่าว ล่าสุด บริษัท เจ อาร์ วาย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์การพัฒนาคอนโดมิเนียมมากว่า 10 ปี มุ่งเน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ เลือกใช้วัสดุคุณภาพเกรดพรีเมียม เพื่อความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ลูกค้าควรจะได้รับ ก็ได้ปักหมุดพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม แซฟไฟร์ ลักซูเรียส คอนโดมิเนียม พระราม 3 (Sapphire Luxurious Condominium Rama 3)

JRY_02

แซฟไฟร์ ลักซูเรียส คอนโดมิเนียม พระราม 3 เป็นอาคารสูง 44 ชั้น ชมวิวได้ 270 องศา โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม รูปลักษ์อาคารดุจแซฟไฟร์หรืออัญมณีที่ล้ำค่าแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในมีความโมเดิร์น ลักซ์ชัวรี ลงตัวกับการอยู่อาศัยและพักผ่อน มีรูปแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ราคาเริ่มต้นที่ 2.4 ล้านบาท ดังนี้

– 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33.8-43 ตารางเมตร
– 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 52.5-61 ตารางเมตร 
– Duplex พื้นที่ใช้สอย 56-129 ตารางเมตร
– Penthouse พื้นที่ใช้สอย 128-211 ตารางเมตร

มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนชั้น 40 และ 41 ทั้งฟิตเนส สวนลอยฟ้า กรีนพัตต์กอล์ฟ ห้องซิมูลเรเตอร์ สกายเลาจน์ ห้องสมุด ห้องเล่นเด็ก โยคะซ้อมมวย ซาวน่า ห้องประชุม และสระว่ายน้ำที่ถือเป็นไฮไลต์

JRY_03

ด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น เดินทางสะดวก บนทำเลทอง ติดถนนพระราม 3 วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และในอนาคตที่ศักยภาพด้านทำเลมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี เชื่อมต่อ BRT และ BTS สายสีเทา ในอนาคต และยังรายล้อมด้วยแหล่งคอมมูนิตี้มอลล์ ทำให้กลุ่มลูกค้าที่สนใจจึงมีทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เองและซื้อเพื่อลงทุน โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าก่อสร้าง งานเสาเข็มดำเนินการไปแล้วกว่า 50% มียอดจองประมาณ 20%

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท* และจองวันนี้รับของแถมเพิ่มกว่า 15 รายการ* อาทิ เพิ่มพื้นที่ระเบียงโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย Samsung Digital Door Lock (หรือเทียบเท่า) แอร์ Daikin (หรือเทียบเท่า) อุปกรณ์ Lamtan Smarthome Fully Fitted-Built-In/ชุดครัว เครื่องฟอกอากาศ (วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2563)

JRY_04

ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com


อสังหาริมทรัพย์หลังยุคโควิด คอนโดมิเนียมเร่งขายหนีโอเวอร์ซัพพลาย

สำนักเศรษฐกิจหลายแห่ง โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในช่วงเวลาก่อนหน้าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ว่า การก่อสร้างที่อยู่อาศัยและคอนโดมิเนียมอยู่อาศัย ริมเส้นทางที่รถไฟฟ้า 10 สายผ่าน มีปริมาณล้นตลาด และเกินความต้องการจริง

นั่นทำให้ ธปท.ออกมาตรการเตือนธนาคารพาณิชย์ให้ชะลอการปล่อยกู้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ กระทั่งมีการออกกฎควบคุมการปล่อยกู้ที่เรียกว่าเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (Loan To Value Ratio : LTV)ที่กำหนดให้การวางดาวน์ขั้นต่ำที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทสูงขึ้น เช่น บ้านหลังแรก ต้องวางเงินดาวน์ 5-10% ให้กู้ 90-95%, ผ่อนบ้านหลังแรกแล้ว3 ปีขึ้นไปต้องวางดาวน์ 10% ให้กู้ได้ 90%, ผ่อนบ้านหลังแรกไม่ถึง 3 ปีตั้งแต่บ้านหลังที่ 3 เป็นต้นไป วางดาวน์ 20-30% และให้กู้เพียง 70-80%

ส่วนบ้านตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป บ้านหลังที่ 1-2 ต้องวางเงินดาวน์20% ปล่อยกู้ 80% ตั้งแต่หลังที่ 3 วางเงินดาวน์ 30% ให้กู้ 70% นอกจากนี้ ยังมีกฎเกณฑ์บางส่วนที่ให้ควบคุมการสะสมที่ดินเพื่อสร้างโครงการต่างๆ ซึ่งธนาคารพาณิชย์ไม่ควรปล่อยกู้เพิ่มด้วย เป็นต้น

แม้ในช่วงระหว่างปี 2562 ที่มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ จะมีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดให้บ้าง แต่สภาวะเศรษฐกิจที่เข้าสู่ขาลง และถดถอยทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องชะลอการก่อสร้างโครงการต่างๆลงโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2563 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน รายได้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในส่วนที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับชาวจีน หรือต่างชาติทั่วไป เกือบจะเป็นศูนย์ (0)

ขณะที่พฤติกรรมคนในประเทศได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง และปิดธุรกิจที่เป็นต้นเหตุให้ผู้คนไปรวมตัวกันในสถานที่นั้นๆ ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ต้องชะลอการใช้จ่าย เพราะตกงาน ไม่ก็ต้องหยุดพักงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับเงินเดือน นั่นยิ่งซ้ำเติมผู้ประกอบการในธุรกิจนี้มากขึ้นไปอีก จนทำให้ผู้เกี่ยวข้องวิตกว่า จะมีการล้มหายตายจากของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง และเมื่อเกิดการล้มหายตายจากไป ธนาคารที่ปล่อยกู้ ก็ย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย

“ทีมเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์ผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง “พฤกษา เรียลเอสเตท” “ออริจิ้น” รวมทั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ “เน็กซัส” เพื่อสำรวจสิ่งที่สำนักเศรษฐกิจหลายแห่งแสดงความห่วงใยกัน

สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีความท้าทายอยู่มาก โดยบริษัทประเมินสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ ผลกระทบต่อกำลังซื้อ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ควบคู่กับการประเมินสภาวะตลาดและการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง

โดยมีการปรับแผนธุรกิจ วางกลยุทธ์สำคัญขององค์กร การเปิดโครงการในช่วงเวลาที่เหมาะสม โปรโมชันที่น่าจูงใจ รวมถึงการให้ความสำคัญในการระบายสต๊อกพร้อมอยู่ ที่ลูกค้ายังให้ความสนใจเพื่อพักอาศัยจริง

ในส่วนทิศทางการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้นั้น จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้เพิ่มความระมัดระวังในการวางแผนธุรกิจ โดยเน้นเปิดโครงการที่มีศักยภาพดี ควบคู่กับการบริหารสินทรัพย์ ควบคุมค่าใช้จ่าย และบริหารสภาพคล่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทมีโครงการใหม่ที่จะเปิดขายแน่นอน จำนวน 7 โครงการ ส่วนโครงการที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันยังได้รับการตอบรับที่ดี

จากนี้ไปบริษัทคงต้องดำเนินการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและแนวโน้มเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พัฒนาช่องทางการขายใหม่ และสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ให้ได้ประสิทธิภาพ และแพร่หลายมากที่สุด

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัยจริงภายในประเทศ ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญอันดับแรก ในส่วนของลูกค้าต่างชาตินั้น จากสถานการณ์โควิด-19 และการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้ลูกค้าต่างชาติเผชิญข้อจำกัดในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีมาตรการผ่อนผัน เลื่อนระยะเวลาโอน โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นเดือน มี.ค.2563 ประมาณ 27,968 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี คาดว่าหลังโควิด–19 คลี่คลาย ลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ยังคงมองหาอสังหาริมทรัพย์หลังที่ 2 ภายนอกประเทศต่อไป

นางสุพัตรา กล่าวด้วยว่า จากปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีแนวโน้มสูงขึ้น และรายได้ในประเทศลดลง ส่งผลให้ธนาคารเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ไม่เพียงแต่สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เท่านั้น

โดยการแก้ปัญหาจากนี้ ภาครัฐควรออกนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เช่น ขยายค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนองต่อเนื่อง, การยกเลิกนโยบาย LTV, ออกสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารรัฐ และเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปก่อน

อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐมีมาตรการลดการจัดเก็บภาษีที่ดินให้ 90% ในปี 2563 ถือว่ามีส่วนช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการได้บ้าง และอยากให้ขยายเวลาเพิ่มอีก 2–3 ปี

พีระพงศ์ จรูญเอก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ก็เริ่มมีลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมโครงการมากขึ้น

“ขอบอกเลยว่าเวลานี้ ใครที่วางแผนจะหาซื้อที่อยู่อาศัยเป็นโอกาสดี เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ามากๆ”

หากจะให้เห็นภาพคือ ราคาที่ผู้ประกอบการนำมาจัดโปรโมชัน ในเวลานี้คือเป็นราคาขายที่ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน หรือลดลงกว่า 30% โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม

หากพูดถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยรวมถือว่าผู้ประกอบการสามารถทำยอดขายได้ดี ดูได้จากผลประกอบการที่แถลงกันออกมา อย่างของออริจิ้นเอง ช่วง 5 เดือนแรกปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) สามารถทำยอดขายบวก 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่พอมาเจอกับวิกฤติโควิด–19 ก็ส่งผลกระทบทำให้ชะลอการซื้อ เนื่องจากรายได้ลดลง ถูกเลิกจ้างเป็นบรรยากาศที่คนไม่อยากใช้จ่ายเงิน โดยในช่วงโควิด–19 มีการประเมินเป้าในเรื่องยอดขาย–ยอดโอน ภาพรวมจะหายไป 30–35% แต่เอาเข้าจริงลดลงไม่ถึง 20%”

ส่วนตัวมองว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่แย่อย่างที่หลายๆคนกังวลกัน โดยการระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป คืออยากย้ายจากคอนโดมิเนียมไปอยู่บ้านมากขึ้น เพราะรู้สึกปลอดภัย ลดการสัมผัสในอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกันในคอนโดฯ

จากเทรนด์นี้เอง ก็ทำให้ออริจิ้นได้ปรับแผนรบใหม่ โดยเน้นเปิดโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม) มากขึ้นในสัดส่วน 60% และกลุ่มคอนโดมิเนียมเปิด 40% ซึ่งก็จะสลับกับเป้าของปีที่ผ่านมา

สำหรับแผนปีนี้ บริษัทตั้งยอดขายรวมไว้ที่ 21,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้สามารถขายได้แล้วกว่า 9,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้รวมตั้งไว้ที่ 16,000 ล้านบาทพร้อมมีแผนเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 22,000 ล้านบาท

สำหรับประเด็นที่มีหลายคนเป็นห่วงกันคือเรื่อง “โอเวอร์ซัพพลาย” หรือปริมาณที่อยู่อาศัยมีจำนวนมากกว่าความต้องการนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องเก่าที่พูดกันมานานแล้ว ผู้ประกอบการทุกรายก็มองเห็นปัญหาจุดนี้อยู่แล้ว ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความต้องการซื้อหดตัวสูงมาก เป็นผลมาจากเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัวผู้ประกอบการหลายรายเล็งเห็นปัญหานี้ ก็ชะลอการเปิดตัวโครงการตั้งแต่ช่วงปี 2562 แล้ว

“เรื่องใหม่ที่หลายคนยังไม่รู้คือ สินค้าคอนโดมิเนียมกำลังจะกลับมาสู่จุดสมดุล โดยสต๊อกกลุ่มที่ว่ามีจำนวนมาก ก็จะถูกระบายออกไปเป็นจำนวนมาก จากการเร่งอัดโปรโมชัน ซึ่งขณะนี้จากข้อมูลที่บริษัทมีคือคอนโดฯ ระดับราคา 2–5 ล้านบาท อยู่ในช่วงที่ขายดี”

ท้ายที่สุดสิ่งที่อยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนคือ การใช้โอกาสที่ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่แข็งแรง สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งก็ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นแล้ว กระทั่งก็มีกลุ่มชาวต่างชาติสนใจที่จะมาใช้ชีวิตในเมืองไทย อาทิ กลุ่มเกษียณอายุ กลุ่มมาเพื่อพักผ่อน มารักษาตัว เขาก็จะมาหาซื้อที่อยู่อาศัย หรือเช่า

นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พร็อพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ปริมาณของ คอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ออกสู่ตลาดในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยสาเหตุหลักๆ มาจากผลกระทบของโควิด-19 โดยช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. มีซัพพลายออกสู่ตลาดไม่ถึง 10,000 หน่วย

โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ ผู้ประกอบการน่าจะทยอยเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้น แต่ก็คงไม่มากเหมือนปีที่ผ่านๆมา คาดว่าจะเปิดประมาณ 60-70% เทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา หรือทั้งปีไม่ถึง 30,000 หน่วย

สำหรับในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการเร่งนำสินค้าที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ มาจัดทำโปรโมชันกันเป็นจำนวนมาก ผลที่ได้รับคือเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาก โดยเวลานี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับลูกค้าที่วางแผนหาซื้อที่อยู่อาศัย

ต่อเนื่องมาถึงช่วงเดือน มิ.ย. คาบเกี่ยวไปถึงช่วงไตรมาส 3 ประเมินว่าราคาที่อยู่อาศัย น่าจะยังทรงตัวในระดับนี้ต่อไป รวมถึงผู้ประกอบการก็คงยังใช้โปรโมชันยั่วใจลูกค้าอยู่

สำหรับในส่วนของเรื่องซัพพลายที่หลายคนมองว่า มีปริมาณที่ล้นเกินกว่าที่ตลาดจะดูดซับได้นั้น ในสภาวการณ์ตอนนี้มองว่า มีซัพพลายในสินค้าบางประเภทที่มากเกินไป ซึ่งผู้ประกอบการก็รู้ดี และเร่งขายออกให้เร็วที่สุด

“ปีนี้เป็นปีแห่งการระบายสต๊อกของผู้ประกอบการ ผ่านการจัดโปรโมชัน และชะลอการเปิดโครงการใหม่ โดยหลังจากที่ผู้ประกอบการเริ่มระบายซัพพลายที่มีอยู่เรียบร้อย ก็ค่อยกลับมาเริ่มต้นกันใหม่ โดยดูว่าเทรนด์ในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าจะเป็นอย่างไร”

หากให้วิเคราะห์กันตามจริงแล้ว เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ได้รับผลกระทบทั้งจากสงครามการค้าลากยาว กระทั่งมาต่อที่โควิด-19 ทำให้ลูกค้ากลุ่มเก็งกำไรแทบไม่มีเหลือ มีแต่กลุ่มที่ลงทุนระยะยาว เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการ ทำเลที่ตั้งดีก็จะซื้อเก็บไว้

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นบทเรียนให้ผู้ประกอบการหันมาโฟกัสในสิ่งที่ลูกค้าต้องการและมีกำลังซื้ออยู่จริง โดยจากการเก็บข้อมูลพบว่าคอนโดฯกลุ่มระดับกลาง ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือกลุ่มซิตี้คอนโดฯ ราคา 1.2-2.5 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ความต้องการใหญ่ที่สุด มีจำนวนลูกค้าต้องการหาซื้อเป็นจำนวนมาก”

จากตัวเลขในช่วงต้นปี 2563 พบว่าคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑล เหลือในตลาดเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณ 60,000 หน่วย หากเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทาง เช่นนี้ ไม่มีอะไรมาทำให้กระทบกระเทือน ก็คาดว่าจะสามารถระบายออกได้ 70-80% จากจำนวนที่เหลืออยู่

ผู้ประกอบการที่น่าจะสามารถรอดพ้นความท้าทายไปได้ คงต้องทำใน 2 ส่วน เริ่มที่ส่วนแรกคือ เร่งระบายซัพพลายที่มีอยู่ในมือออกไปให้เร็ว ส่วนที่2 คือ หากจะต้องพัฒนาโครงการใหม่ ก็ต้องวิเคราะห์ให้รอบคอบว่าตลาดแบบไหน ระดับราคาเท่าไรตอบโจทย์มากที่สุด

ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้คนต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน-คอนโดมิเนียมมากขึ้น ต่อไปการจัดวางฟังก์ชันการใช้สอยพื้นที่อาจต้องคำนึงให้รองรับการใช้งานที่เหมาะสม มีพื้นที่ทำงานได้ การออกแบบห้องครัวในคอนโดฯ อาจต้องให้รองรับการทำครัวประกอบอาหารได้จริงจังขึ้น เป็นต้น.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th

‘พริมามารีน’ ‘งบฯสวยสวนโควิด ค่าระวางเรือฟื้น-รายได้ประจำหนุน

'พริมามารีน' 'งบฯสวยสวนโควิด ค่าระวางเรือฟื้น-รายได้ประจำหนุน

 

ใกล้เข้ามาแล้วกับฤดูประกาศผลประกอบการประจำงวดไตรมาส 2 ปี 2563 ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดหนัก กิจกรรมกิจการหลายอย่างต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว สร้างความเสียหายไปแทบทุกธุรกิจ

ดังนั้น หากนักลงทุนหวังจะเลือกหุ้นเก็งกำไรงบฯสวยคงเหนื่อยหน่อย เพราะดูแล้วแย่กันไปหมด แต่หากลองไล่สแกนดูให้ดี ยังพอมีหุ้นเด่นที่ขอเป็น “ชาวสวน” ผลประกอบการโตสวนวิกฤตอยู่บ้าง

โดย บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เป็นหนึ่งหุ้นที่หลายโบรกฯ เลือกขึ้นมาแนะนำ แม้ว่าการล็อกดาวน์ปิดประเทศจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือขนส่งสินค้า โดยเฉพาะในเส้นทางระหว่างประเทศ แต่กลับไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงเท่ากับที่คาดการณ์กันไว้

เพราะปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทอิงกับสัญญาระยะยาวมากขึ้น จึงช่วยลดความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบไปได้เยอะ โดยไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมัยดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (FSU) 715.40 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47.50% ของรายได้รวมทั้งหมด เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 ที่มีรายได้ 336.90 ล้านบาท หรือ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 28.30%

ตามด้วยธุรกิจเรือขนส่งฯ ในประเทศ มีรายได้รวม 593.20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 39.40% เทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 อยู่ที่ 548.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 46.20% ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจสามารถสร้างรายได้ที่แน่นอนตามสัญญาระยะยาว

โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหารให้ข้อมูลว่าธุรกิจเรือ FSU ในไตรมาส 2 ปี 2563 ยังไปได้สวย หลังบริษัทได้ปรับขึ้นค่าบริการถึง 6 ลำ จากกองเรือทั้งหมด 8 ลำ ราว 20-25% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศฟื้นตัวเร็วเกินคาดจากช่วงเดือน เม.ย. ที่ได้รับผลกระทบหนักจากการระบาดของโควิด มาเดือน พ.ค.-มิ.ย. กลับสู่ภาวะปกติ หลังโรคระบาดในประเทศเริ่มคลี่คลาย

แนวโน้มไตรมาส 3 ปี 2563 ยังดูดีเพราะจะมีเรือใหม่เข้ามา 2 ลำ แบ่งเป็นเรือ FSU 1 ลำ และ เรือขนส่งน้ำมันในประเทศอีก 1 ลำ สามารถรับรู้รายได้ทันที นอกจากนี้ หากบริษัทตัดสินใจรุกตลาดขนส่งแอลเอ็นจี หลังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไฟเขียวให้โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่สามารถนำเข้าแอลเอ็นจีได้เอง จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสครั้งสำคัญของบริษัทในฐานะเบอร์ 1 ในธุรกิจขนส่งน้ำมันในประเทศ

ส่วนการเดินเรือระหว่างประเทศเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นเช่นกัน หลังการระบาดในจีนซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของโลกผ่อนคลาย นำมาสู่การปลดล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมการค้าการขายค่อยๆ ฟื้นตัว สะท้อนได้จากตัวดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ที่กลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง หลังเป็นขาลงมาตั้งแต่ต้นปี

โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีค่าระวางเรือรอบนี้เริ่มอ่อนตัวลงมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2562 จากระดับ 1,600 จุด มาหลุด 1,000 จุด เมื่อต้นปี 2563 และได้เห็นจุดต่ำสุดของปี 398 จุด เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นกลับมาเป็นขาขึ้นโดยตลอด ล้อไปกับการระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มผ่อนคลาย ขณะนี้กำลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,000 จุด อีกครั้ง ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้วมีโอกาสผ่านไปไม่ยาก 

การฟื้นตัวของค่าระวางเรือกลายเป็นปัจจัยบวกสำคัญให้กับกลุ่มเดินเรือ ราคาหุ้นเริ่มไต่ระดับตามๆ กันขึ้นมา นำทีมโดย PRM ที่สตอรี่ดูมีภาษีกว่าคู่แข่ง คาดว่าราคาหุ้นน่าจะผ่านจุดต่ำสุด 3.14 บาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ไปแล้ว โดยหากเทียบกับราคาปิดล่าสุด (10 ก.ค.) ที่ 8.80 บาท เท่ากับพุ่งขึ้นมาแล้วถึง 180% ภายในเวลาเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น

ส่วนเพื่อนๆ ในกลุ่มฟื้นตัวตามๆ กันมา เช่น บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ปิดที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 116% จากจุดต่ำสุดของปี 2.42 บาท เมื่อวันที่ 30 มี.ค., บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ราคาขึ้นมาแล้ว 65% จาก 1.88 บาท เมื่อ 25 มี.ค. มาปิดล่าสุดที่ 3.10 บาท

ถามว่าราคาขึ้นมาขนาดนี้จะไปต่อหรือไม่? น่าสนใจหรือเปล่า? ยังซื้อได้มั้ย? คงต้องเฟ้นกันหน่อย เพราะราคาขึ้นมาไม่น้อยแล้ว โอกาสที่จะไปต่ออย่างมั่นคงควรมีสตอรี่ที่ดีช่วยสนับสนุนด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ไม่หนีจากพวกนี้! “เคร้าช์” เปิดชื่อ 3 ทีมแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า

ไม่หนีจากพวกนี้! "เคร้าช์" เปิดชื่อ 3 ทีมแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า

ปีเตอร์ เคร้าช์ อดีตกองหน้าร่างโย่งทีมชาติอังกฤษ ออกมาทำนายว่าในฤดูกาลหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ก็จะสามารถคว้าแชมป์ได้อีก แต่จะมี 3 ทีมเต็งแชมป์ที่จะก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าในการไล่ล่าแชมป์ในฤดูกาล 2020-21 เช่นกัน

โดย อดีตดาวยิงหงส์แดง มีความเชื่อมั่นว่าอดีตต้นสังกัดที่มีขุมกำลังแน่นทุกตำแหน่งจะสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกครั้ง แม้ทางด้าน จอห์น สโตนส์ ปราการหลังแมนฯ ซิตี้ จะออกมาให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต ว่าพวกเขายังเชื่อลึกๆ ว่า ทัพเรือใบสีฟ้า เป็นทีมที่ดีที่สุด

“ผมคิดว่า สโตนส์ คิดผิดนะเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดในห้องแต่งตัว ผมเข้าใจว่าทำไมเขาพูดแบบนั้น แนวทางการเล่นของซิตี้สวยงามเสมอ พวกเขายังคงเป็นทีมเต็งเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการโดน ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างถึง 20 กว่าแต้ม มันเป็นช่องว่างที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี”

“ลิเวอร์พูล จะชนะอีกในฤดูกาลหน้า เพราะพวกเขามีผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก กองหลังที่ดีที่สุดในโลก และ 3 ประสานแนวรุกที่ยอดเยี่ยม อย่างที่เราได้เห็นผลงานกันในซีซั่นนี้”

“อย่างไรก็ตามช่องว่างของคะแนนจะไม่ห่างแบบฤดูกาลนี้ มันจะลดน้อยลงเนื่องจากทุกทีมจะมีการเสริมทัพ เชลซี เป็นทีมที่น่าสนใจพวกเขาเสริมทั้ง ฮาคิม ซิเย็ค และ ทิโม แวร์เนอร์ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แสดงให้เราเห็นกับฟอร์มในตอนนี้ ยิ่งในรายของ เมสัน กรีนวู้ด มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ” เคร้าช์ ให้ความเห็นกับ เดลี่ เมล สื่อดังของเกาะอังกฤษ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ชูท่องเที่ยวสุขภาพ ฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้

ชูท่องเที่ยวสุขภาพ ฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ thaihealth

ระดมนักวิชาการ ด้านเศรษฐศาสตร์ เสนอโมเดลพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้หลังโควิด-19 ชูเศรษฐกิจฐานรากต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวสุขภาพยั่งยืน

นายชยานนท์ ภู่เจริญ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา คณะการบริการและการท่องเที่ยว วิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจภาคใต้ขับเคลื่อนผ่าน 4 กลุ่มหลักได้แก่ ภาคบริการการท่องเที่ยว การเกษตร การค้าและการผลิต และภาคอุตสาหกรรม การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ต้องหยุดกิจการจากมาตรการล็อกดาวน์

จากการใช้โมเดลเศรษฐศาสตร์ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ พบว่า ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายกว่า 127,000 ล้านบาท โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต เกิดความเสียหายถึง 65,000 ล้านบาท เป็นผลให้จีพีพีของจังหวัดในปีนี้คาดว่าจะหดตัวถึง 20% ถือว่ารุนแรงกว่าช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิที่จีพีพีหดตัว 15%

“โควิด-19 กระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้ บางรายต้องปิดกิจการหรือต้องลดคนเพื่อประคับประคองธุรกิจให้ผ่านวิกฤติไปได้ ส่งผลให้ภาคแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้ มีรายได้หายไปเฉลี่ย 12,000 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งจะกระทบกับการบริโภคต่อไป ในอนาคต” นายชยานนท์ กล่าว

ทั้งนี้ การพลิกฟื้นเศรษฐกิจของ จ.ภูเก็ต ต้องนำจุดแข็งด้านการป้องกันการแพร่ระบาดโรคที่ประเทศไทยทำได้ดี มาเป็นจุดขายเปิดรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาล (Medical Tourism) นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานของจังหวัดที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและโรงแรมจำนวนมาก ทำให้มีศักยภาพก้าวสู่การเป็นฮับ work from Hotel เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจจากบริษัทข้ามชาติได้

ผศ.วีระศักดิ์ คงฤทธิ์ รองคณบดีฝ่ายบริหารและวิจัย วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ภาคเกษตรกรรมและภาคการผลิตเพื่อการส่งออกสินค้าเกษตร ยางพารา อาหารทะเล น้ำมันปาล์มดิบ ในเขตภาคใต้ได้รับผลกระทบ น้อยกว่าสาขาอื่น และยังมีโอกาสที่ดีในการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ การนำยางพาราไปผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ สาธารณสุข เช่น ถุงมือยางเพื่อใช้ในการแพทย์ กลุ่มสินค้าอาหารทะเลกระป๋องที่ยังมี แนวโน้มเติบโตได้ดีจากความต้องการเพิ่มขึ้น ในกลุ่มประเทศยุโรป

ส่วนธุรกิจการท่องเที่ยวนั้น พฤติกรรม การเดินทางท่องเที่ยวจะเปลี่ยนเป็น รูปแบบเฉพาะเจาะจงที่เป็นรายบุคคล แทนการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์จากความกังวลการติดเชื้อ ทำให้ต้องเว้นระยะห่าง ส่งผลให้รูปแบบการให้บริการจะเน้นความเป็นส่วนตัว ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและภาคบริการ ต้องสร้างความเชื่อมั่นถึงสุขอนามัย ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาใช้บริการ

ผศ.จรีรัตน์ รวมเจริญ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบริการวิชาการ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้ประชาชนสร้างกลไกภูมิคุ้มกันเพื่อเผชิญกับความไม่แน่นอน ที่จะเกิดขึ้น โดยให้ความสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง จากการศึกษาหาทักษะเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตเพิ่มเติม เช่น การทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำให้เกิดวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งและสร้างความมั่นคง ให้กับเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ผลไม้  ถือได้ว่า มีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือผักต่างๆ เลยค่ะ จึงได้จัดอยู่ในหมวดหมู่ของ อาหารหลัก 5 หมู่ ที่สำคัญต่อร่างกาย ผลไม้แต่ละชนิดนั้น สามารถ ช่วยล้างสารพิษจากร่างกาย ช่วยให้ขัยถ่ายได้ดี และยัง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของอวัยวะเรา อีกด้วยค่ะ  วันนี้จึงได้นำสาระดีๆ เรื่องผลไม้มาฝากค่ะ เผื่อว่าใครที่ไม่ชอบทานผลไม้ จะได้หันมาสนใจ และใส่ใจมากขึ้นค่ะ…

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

มังคุด

  • มีสาร Xanthone ในเปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่าง ๆ นอกจากนี้ในเปลือกมังคุดยังมีสาร แทนนิน ที่มีคุณสมบัติช่วยในการสมานแผล และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อีกด้วย

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

มะม่วง

  • ช่วยละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และยังช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ หากรับประทานมะม่วงสดเป็นประจำแล้วก็จะช่วยทำให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงไปได้

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

สตรอเบอร์รี่

  • มีวิตามิน ซี อยู่เป็นจำนวนมาก มีสรรพคุณที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัดและโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยให้เจริญอาหาร

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

เสาวรส

  • ผลเสาวรส มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คลายร้อน และป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

แก้วมังกร

  • มีสารอาหารหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และมีเส้นใย มีสรรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนัก แก้ท้องผูก ป้องกันมะเร็งสำไส้ใหญ่และช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

อะโวคาโด

  • เราอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ปัจจุบันสามารถหาซื้ออะโวคาโดได้จากตลาดทั่วไป ในอะโวคาโดมีสารกลูตาไทโอน ที่สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งกว่า 30 ชนิด และขณะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีและโลหะหนัก การรับประทานอะโวคาโดสามารถทานได้สดๆหรือนำมาดัดแปลงทำเป็นสลัดอะโวคาโดเพื่อเปลี่ยนรสชาติในการรับประทานได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

แตงโม

  • มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ดังนั้นจึงช่วยฟอกล้างไตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดความดันโลหิต และทำให้สบายท้อง แตงโม เป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ มีความเย็น รสหวาน รับประทานเป็นผลไม้แก้กระหายคลายร้อนได้อย่างดี หรือดื่มเป็นน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ น้ำแตงโม ยังช่วยทำให้ร่างกายขับปัสสาวะได้ดี จึงมีผลช่วยล้างไต ล้างกระเพาะปัสสาวะ ไม่ให้ร่างกายมีการสะสมกรดยูริค อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไขข้อ โรคเกาต์

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ส้ม

  • มีวิตามินเอและซี มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ฝรั่ง

  • มีวิตามินซี ที่มีสรรพคุณชะลอการลุกลามของมะเร็ง ช่วยสร้างและบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทำให้แผลหายเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดสารพิษในร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณสดใส

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

มะละกอ

  • มีสรรพคุณในการต่อต้านการเกิดของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น ม้าม และกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร และยังช่วยทำให้ผิวพรรณดี อีกด้วย

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

กล้วย

  • มีวิตามินบีสูง มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด ความอ่อนล้า ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใส ในกล้วยหอมจะมีเส้นใยอาหารช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี และยังช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้นได้

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ลำไย

  • เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้บำรุงร่างกายของสตรีภายหลังจากการคลอดบุตร

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

องุ่น

  • มีฤทธิ์เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง ตับ ลำไส้ และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่ออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆในร่างกายองุ่นยังให้พลังงานสูงและนำไปใช้ได้ง่าย อุดมด้วยเกลือแร่ ดังนั้นจึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้งแรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

แอปเปิ้ล

  • ผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย แอปเปิ้ลมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ชื่อเพคทิน ซึ่งสารนี้จะช่วยกำจัดสารพิษทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แอปเปิ้ลยังมีเส้นใยมาก ซึ่งจะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดี การรับประทานแอปเปิ้ลที่ดีควรล้างให้สะอาดโดยไม่ปอกเปลือกเพราะจะทำให้ไม่เสียคุณค่าทางโภชนาการไป

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ลิ้นจี่

  • มีวิตามินบี1 และบี2 และวิตามินซี มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงม้าม บำรุงอวัยวะภายใน บำรุงระบบประสาท และยังแก้อาการท้องเดินได้อีกด้วย

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

สับปะรด

  • มีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยไฟเบอร์ที่มีอยู่มากมาย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างการดูดซึมอาหารของร่างกาย การลดความร้อนของร่างกายและยังช่วยแก้กระหาย หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำแล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไตอักเสบ และโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย

ผลไม้ ล้างสารพิษ (สาระน่ารู้เรื่องผลไม้) เกล็ดความรู้สำหรับคนรักสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก noobeebee.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,600.00 26,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,723.00 26,120.68 27,200.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,550.70 23,508.61 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,378.40 20,896.54 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 775.00 11,749.00 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 603.00 9,141.48 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,785.00 27,060.60 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/07/2563

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85 21.85
แก๊สโซฮอล์ 91 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58 21.58
แก๊สโซฮอล์ E20 20.34 20.34 20.34 20.34 20.34 20.34 20.34 20.34 20.34
แก๊สโซฮอล์ E85 18.14 18.14
เบนซิน 95 29.26 29.71 29.76 29.26 29.26
ดีเซล 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49 22.49
ดีเซล B10 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49 19.49
ดีเซล B20 19.24 19.24 19.24 19.24 19.24 19.24 19.24 19.24
ดีเซลพรีเมี่ยม 26.94 26.96 28.94 28.94
แก๊ส NGV 15.31 15.31
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า