ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,950.00 | 20,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,292.00 | 19,586.72 | 20,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,162.80 | 17,628.05 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 581.00 | 8,807.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 452.00 | 6,852.32 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,339.00 | 20,299.24 | n/a |
บิ๊กอสังหาแข่งกลยุทธ์ดักเทรนด์ขาขึ้น ชูไฮไลต์ใช้ชีวิตดิจิทัลในบ้าน-คอนโดลักเซอรี่
บิ๊กอสังหาฯแข่งประชันกลยุทธ์ท่วมตลาด เมกะเทรนด์มาครบทั้งคอนโดฯแพงทำเลแนวรถไฟฟ้า-สมาร์ทโฮมยุค IOT-ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งลิงก์ที่อยู่อาศัยเชื่อมไลฟ์สไตล์ “พฤกษาฯ-แสนสิริ” ยืนเด่นแผนเปิดตัวใหม่บริษัทละ 6 หมื่นล้าน “ศุภาลัย-เอพี-เอสซีฯ” ติดลมบนยอดพรีเซลกระฉูด “LPN” ปรับตัว 360 องศาวาดเป้าปี”62 กลับมายืนที่เดิมบนยอดขาย 1.5 หมื่นล้าน
http://www.bkkcitismart.com
แสนสิริผนึก 6 พันธมิตรชู‘สมาร์ทมูฟ’เสริมแกร่งที่อยู่อาศัย
การแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ไม่เพียงโฟกัสที่“ทำเล”โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ แก่กับลูกบ้าน ผ่านเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคสมาร์ท ลิฟวิ่ง
ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภายใต้แนวคิด”เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” (Complete Your Living Experience) ได้เปิดตัว Smart Move แพลตฟอร์มบริการยานพาหนะระบบเช่า รูปแบบ “คาร์แชริ่ง” ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ
โดยศึกษาจากความต้องการของลูกบ้าน ที่พบว่านอกจากบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในโครงการคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าแล้ว ยังมีความต้องการใช้รถยนต์ จักรยานยนต์ หรือจักรยาน ในบางโอกาส เพื่อความสะดวกสบายและคล่องตัว
อีกทั้งสอดคล้องกับการขยายตัวของกระแส“เศรษฐกิจแบ่งปัน”(Sharing Economy) ซึ่งเป็นเทรนด์โลกที่สำคัญของปี 2561 จากการแบ่งปันทรัพยากรร่วมกันที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนทั่วโลก รวมทั้งเทรนด์รักษ์โลกด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่กำลังเป็นกระแสของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งนโยบายการรณรงค์ในการประหยัดพลังงาน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากทั้งภาครัฐและเอกชน
แพลดฟอร์ม“สมาร์ทมูฟ” ดำเนินการร่วมกับ 6 พันธมิตรในไทยและระดับโลก เพื่อให้บริการยานพาหนะระบบเช่าครบวงจรแก่ลูกบ้านแสนสิริ เป็นรายแรกของไทย โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน แอพพลิเคชั่น Sansiri Home Service ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแก่ลูกบ้านแสนสิริ ในโครงการที่พักอาศัยทุกประเภท ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์
สำหรับ 6 พันธมิตร ที่ให้บริการยานพาหนะระบบเช่า ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ “ฮอนด้า” ที่จะนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้บริการ
บริการจาก “อูเบอร์” ผู้ให้บริการรถร่วมเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่นจากสหรัฐ เซอร์วิสจาก ofo ผู้ให้บริการเช่า จักรยานผ่านทางแอพมือถือรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของโลก นำร่องให้บริการเช่ารถจักรยานใน 11 โครงการของแสนสิริ บริการจาก Haupcar ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการคาร์แชร์ริ่งรายแรกของไทย
นอกจากนี้ยังมีบริการจาก SHARGE ผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ และ EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ที่จะดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์รุ่นใหม่พร้อมให้ชาร์จฟรีครั้งแรกสำหรับลูกบ้านแสนสิริ
“การให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าครบวงจร ภายใต้แพลตฟอร์มสมาร์ทมูฟ ถือเป็นครั้งแรกในโครงการที่อยู่อาศัยของเมืองไทย แสนสิริมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งสร้างความแตกต่างและเสริมความแข็งแกร่งตลาดที่อยู่อาศัยของบริษัท”
ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย อูเบอร์ ผู้ให้บริการร่วมเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่น กล่าวว่าจากการวิจัยพบว่าคนไทยเสียเวลาหาที่จอดรถสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เฉลี่ย 72 นาทีต่อวัน หรือปีละ 20 วัน ขณะที่ปัจจุบันมีตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถยนต์ อีกทั้งเทคโนโลยี สามารถช่วยใช้ประโยชน์จากการใช้รถยนต์ด้วยแนวคิด แชริ่ง อีโคโนมี ที่อูเบอร์ให้บริการทั่วโลก
“การเป็นพันธมิตรกับแสนสิริ นำบริการร่วมเดินทางให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเดินทางสำหรับคนไทย ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและปัญหาการหาที่จอดรถในกรุงเทพฯ และใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง”
ขณที่ สโรช บุญศิริพันธ์ รองประธานสายงานกลยุทธ์และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ฮอปคาร์ จำกัด กล่าวว่า Haupcar (ฮอปคาร์) เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการ Carsharing รายแรกของไทย ซึ่งการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแพลตฟอร์มสมาร์ทมูฟ จะให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าในโครงการที่อยู่อาศัยโดยตรง โดยแสนสิริได้มีจัดให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BMW i3 โดยผู้เช่าสามารถจองและปลดล็อครถผ่านมือถือได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
“ในอนาคตเราจะจับมือกับแสนสิริ เพื่อขยายการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าให้ครอบคลุมในทุกโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริที่ติดรถไฟฟ้า เพราะมองว่าความต้องการใช้บริการประเภทนี้จะเพิ่มสูงขึ้นมากในอนาคต”
ทางด้าน พีระภัทร ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการ บริษัท ชาร์จ โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “SHARGE เป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าของแพลตฟอร์มสมาร์ทมูฟ ซึ่งมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 50% ต่อปี นอกจากนี้ยังเป็นพันธมิตรในระยะยาวกับแสนสิริในการให้บริการ EV Charger ในโครงการที่พักอาศัยอีกด้วย โดยได้นำร่องให้บริการไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา 3 โครงการและจะขยายอีกกว่า 10 โครงการในปีนี้
http://www.bangkokbiznews.com
แบงก์ลุยลดต้นทุน เล็งดึงเซเว่นฯ-โชห่วย รับฝาก-ถอนเงินแทนได้
ภาพจาก Andrey Burkov / Shutterstock.com
แบงก์ชาติ เตรียมประกาศเกณฑ์เลือกร้านค้าเป็นตัวแทนธนาคาร รับเงิน ฝากเงิน ถอนเงินแทนได้ หวังคนเข้าถึงธุรกรรมได้ง่ายขึ้น ซ้ำช่วยลดต้นทุนแบงก์เปิดสาขาใหม่
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ได้ลงนามในหลักเกณฑ์การเป็นตัวแทนธนาคาร หรือ แบงก์กิ้งเอเย่นต์แล้ว ซึ่งจะมีการประกาศออกมาในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการทำธุรกรรมจากตัวแทนธนาคาร เช่น ร้านค้าโชห่วย หรือร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น
นางสาวดารณี ระบุต่อว่า การมีแบงก์กิ้งเอเย่นต์จะช่วยให้ธนาคารสามารถขยายธุรกรรมทางการเงิน ทั้งรับเงิน ฝากเงิน ถอนเงิน ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่จะได้ประโยชน์มากเพราะเดินทางได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการเปิดสาขาของธนาคารและลดต้นทุนการขนย้ายเงินไปยังจังหวัดต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่ต้องการเป็นตัวแทนจะต้องมีระบบควบคุมที่ดี เพราะเป็นการดำเนินงานที่มีความเสี่ยง ส่วนธนาคารจะเลือกตัวแทนอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจของธนาคาร ซึ่งทาง ธปท. จะเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
https://money.kapook.com
ม.หอการค้าไทยคาดเงินสะพัดตรุษจีน 60,000 ล้านบาท
นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนในเกณฑ์ที่สูงกว่าปกติ โดย ธปท. ประมาณการว่า ธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลเพิ่มขึ้นจากการเบิกจ่ายปกติ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสุทธิประมาณ 46,000 ล้านบาท ดังนั้น ธปท. จึงได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับอย่างเพียงพอ
ขณะที่ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประเมินการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2561 อาทิ ธนาคารกสิกรไทย สำรองเงินสดไว้ช่วง 13-16 ก.พ. ทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสำรองผ่านช่องทางสาขา 21,000 ล้านบาท และสำรองผ่านตู้เอทีเอ็ม 27,000 ล้านบาท ทั่วประเทศ ขณะที่ ธนาคารกรุงเทพ จัดสรรเงินสดสำรองไว้บริการลูกค้า 35,000 ล้านบาท และเพิ่มความถี่เติมเงินที่ตู้เอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงสำรองธนบัตรใหม่ เพื่อใช้สำหรับเป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีนด้วย
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำรองเงินสดไว้ 17,077 ล้านบาท แบ่งเป็นช่องทางตู้เอทีเอ็ม 10,054 ล้านบาท สาขาของธนาคาร 7,023 ล้านบาท ส่วนธนาคารกรุงไทย เตรียมธนบัตรใหม่ทุกชนิดไว้ตามสาขาและตู้เอทีเอ็มคิดเป็นมูลค่า 10,218 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนช่วงวันที่ 8-16 ก.พ. และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เตรียมเงินสดสำรองไว้ให้บริการลูกค้าในช่วงดังกล่าว 1,111 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินเงินสะพัด 13,440 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เม็ดเงินค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯ ปีนี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 13,440 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่ม 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเม็ดเงินค่าใช้จ่ายปี 2561 ในเทศกาลนี้มีเพิ่มขึ้นในส่วนของค่าใช้จ่ายจากการทำบุญ การท่องเที่ยว และเงินแต๊ะเอีย ขณะที่เม็ดเงินค่าเครื่องเซ่นไหว้อาจอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากความเคร่งครัดในประเพณีที่ไม่เข้มแข็งเหมือนแต่ก่อน ทำให้แต่ละครอบครัวใช้เม็ดเงินในส่วนนี้เท่าที่จำเป็น ทั้งที่ราคาสินค้าก็ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก
โดยคาดว่า เม็ดเงินค่าเครื่องเซ่นไหว้ของคนไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพฯ ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5,970 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนค่าท่องเที่ยว ทำบุญ ประมาณ 3,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เงินแต๊ะเอีย ประมาณ 3,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7%
พร้อมกับคาดว่าในอนาคต เม็ดเงินค่าใช้จ่ายในส่วนของการไหว้ตรุษจีน อาจมีแนวโน้มปรับลดลง ตามจำนวนคนจีนรุ่นก่อนที่มีบทบาทนำด้านการจัดเตรียมพิธีไหว้ที่มีแนวโน้มลดลง และถูกทดแทนด้วยคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคร่งครัดประเพณี ซึ่งปัจจัยดังกล่าว นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายของธุรกิจในการวางกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการตลาดที่อาจเปลี่ยนไป โดยเฉพาะการดึงคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายและไม่ยึดติดกับประเพณีเดิม รวมถึงบางกลุ่มก็พร้อมที่จะไม่สืบทอดต่อไปให้มาใช้บริการ
ม.หอการค้าชี้ใช้จ่ายซื้อสินค้า-ท่องเที่ยวเฉียด 60,000 ล้านบาท สาเหตุเพราะของแพงขึ้น
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุุถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน 2561 พบว่า มีผู้ตอบว่าตรุษจีนปีนี้จะคึกคักมากกว่าปีก่อน 63% คึกคักเท่าเดิม 24.4% และ คึกคักน้อยลง 12.6% โดยส่วนใหญ่วางแผนไหว้เจ้า/บรรพบุรุษ และเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะปีนี้เดินทางไปต่างประเทศมากกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก
ในส่วนการใช้จ่ายซื้อสินค้า ส่วนใหญ่ 45.9% ระบุซื้อปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ 57.6% ระบุใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้น ของแพงขึ้น มีรายได้และโบนัส
42.6% ระบุใช้จ่ายเท่าเดิมและลดลง เพราะจำเป็นต้องลดการใช้จ่ายตามรายได้ที่ลดลง มองภาวะเศรษฐกิจแย่ลง และวิตกเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง โดยคาดว่าเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนทั้งการซื้อสินค้าและท่องเที่ยวประมาณ 56,860 ล้านบาท เป็นมูลค่าสูงสุดที่เคยทำการสำรวจมา 10 ปี แต่ขยายตัวเพียง 3.52% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปี
“สาเหตุหลักที่มูลค่าใช้จ่ายตรุษจีนปีนี้สูงสุด เป็นผลมาจากราคาสินค้าสูงขึ้น โดยผู้บริโภค 67.8% ระบุราคาสินค้าตรุษจีนปีนี้แพงขึ้น ขณะที่มีเพียง 15.7% ระบุราคาไม่เปลี่ยนแปลง สอดรับกับคำถามว่าสิ่งที่เป็นห่วงมากในตรุษจีนนี้อันดับแรกคือ การขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็นสำหรับตรุษจีน ส่วนกลุ่มที่ใช้จ่ายลดลงเพราะกังวลเรื่องรายได้และเห็นว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทำให้ระมัดระวังการใช้จ่าย หากไม่กังวลเรื่องเศรษฐกิจและเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวแบบกระจุกตัวอย่างตอนนี้ การใช้จ่ายตรุษจีนน่าจะขยายตัวได้ราว 5-6% เมื่อรวมการใช้จ่ายวันวาเลนไทน์และตรุษจีนปีนี้จะมีมูลค่าเกือบ 60,000 ล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีดีขึ้น 0.3%” นายธนวรรธน์ กล่าว
https://money.sanook.com
ประโยชน์ของมะละกอ ผลไม้เพื่อสุขภาพ ต้านโรคได้
มะละกอ ผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งดิบและสุก ซึ่งก็มีรสชาติอร่อย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสดๆ นำมาทำส้มตำ หรือเป็นส่วนประกอบของอาหารก็ตาม และนอกจากการนำมาใช้ประโยชน์แล้ว มะละกอก็ยังมีประโยชน์อีกมากมายที่จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและต้านโรคร้ายได้อีกด้วย โดยประโยชน์ของมะละกอก็มีดังนี้
ต้านมะเร็ง
จากการวิจัยพบว่า มะละกอมีสารไลโคปีน ที่จะช่วยในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก จึงควรทานมะละกอให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็พบว่าเมล็ดมะละกอสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีการนำเมล็ดมะละกอมาสกัดเพื่อเป็นยาบรรเทาอาการมะเร็งนั่นเอง
บำรุงหัวใจ
มะละกอ มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และสามารถป้องกันการเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือด หรือโรคหัวใจขาดเลือดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว การทานมะละกอบ่อยๆ ก็สามารถบรรเทาอาการของโรคหัวใจได้เหมือนกัน แม้จะไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่เมื่อทานควบคู่ไปกับการรักษาทางแพทย์ ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่น้อย
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
เนื่องจากมะละกอเป็นผลไม้ที่ย่อยง่าย จึงทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสารอาหารและวิตามินในมะละกอ ก็สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย จึงให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้เต็มที่สุดๆ
เสริมสร้างความจำและบำรุงสมอง
มะละกอ อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมาย ที่จะช่วยเสริมสร้างความจำและบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ความจำดีขึ้น แถมลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์และช่วยให้สมองเกิดความผ่อนคลายอีกด้วย โดยเฉพาะวัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องใช้สมองและความคิดมากเป็นพิเศษไม่ควรพลาดที่จะทานมะละกอเด็ดขาด
บรรเทาอาการท้องผูก
มะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีเส้นใยสูง จึงสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แถมยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอก็จะช่วยแก้อาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถปรับระบบการขับถ่ายให้เป็นปกติได้ดี
แค่ทานมะละกอเป็นประจำ ก็จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นได้ และสามารถต้านโรคร้ายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโรคมะเร็ง และเพื่อให้ได้ประโยชน์ของมะละกอมากที่สุด ควรทานมะละกอสุกมากกว่ามะละกอดิบ เนื่องจากจะมีวิตามินและสารอาหารสูงกว่า แถมทานง่าย ย่อยง่ายและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารอีกด้วย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี หันมาทานมะละกอบ่อยๆ กันเถอะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
https://www.sanook.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 15/02/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 15/02/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 | 27.55 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 25.04 | – | 25.04 | 25.04 | 25.04 | 25.04 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.44 | 20.44 | – | – | – | – | – | 20.44 | 20.44 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 | 27.28 |
เบนซิน 95 | 34.66 | – | – | – | 35.11 | – | 35.66 | 34.66 | 34.66 | 34.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 | 26.69 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 30.19 | 30.19 | 30.19 | 30.19 | 30.19 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:000 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 | 14 Feb 05:00 |