สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2563

ลดครั้งใหญ่ คอนโด ย่านอโศก กดเหลือ ตร.ม.ละ7หมื่นบาท ดิ้นล้างสต๊อก

อโศกร้อน บิ๊กเนมเฉือนเนื้อให้ส่วนลด 40% จาก 1.2 แสนบาทต่อตร.ม. เหลือ 7 หมื่น บาทต่อตร.ม. ทุนใหญ่ลงขัน แห่ซื้อบิ๊กล็อตเกินร้อยห้องทำกำไร ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หวังศก.หดตัวชั่วคราว

จากศักยภาพความเป็นจุดเชื่อมต่อใหญ่ การเดินทางกลางเมือง รถไฟฟ้า2 สาย ทั้ง ใต้ดิน MRT สีนํ้าเงิน และบีทีเอส สายสีเขียว แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งงาน ขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นย่านที่ นักธุรกิจตลอดจนนักท่องเที่ยว ต่างชาติให้ความนิยมส่งให้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอโศกมีคอนโดมิเนียมสะสม มากถึง 8,057 หน่วย ทั้งนี้จากการยืนยันของบริษัทวิจัย ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ ระบุว่านับตั้งแต่ปี 2557 เฉลี่ย 1.5-2 แสนบาทต่อตารางเมตร และ ในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการใหม่เปิดขายตารางเมตรละกว่า 2 แสนบาทต่อตารางเมตรขึ้นไปเนื่องจากราคาที่ดินสูงกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวาจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นของการลงทุนโครงการใหญ่

ดัมพ์เหลือตร.ม. 7หมื่น

                เมื่อพิษโควิดยังเล่นงานเศรษฐกิจซบเซาไร้ความหวังรัฐบาลออกมาตราการช่วยเหลืออโศกกลายเป็นทำเลเรดโอเชียนที่คอนโดมิเนียม แข่งขันรุนแรง ล่าสุดโค้งสุดท้ายปลายปี เกิดปรากฎการณ์ ดีเวลอปเปอร์ ประกาศลดราคาสูงถึง 40% จากตารางเมตรละ 1.2แสนบาท เหลือเพียง 7 หมื่นบาท ต่อตารางเมตร โล๊ะสต็อก ปิดการขายสร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการสวนทางราคาที่ดินแพงระยับขยับสู ขณะวงในยืนยันว่าเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจที่ลงขันซื้อเกือบ 100 ห้องเพื่อทำกำไร

พฤกษาถอย

                ย้อนไปช่วงเดือนพฤษภาคม ช่วงไวรัสระบาดรุนแรงจนบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ต่างถอยทัพ บริษัท พฤกษาจำกัด (มหาชน) ประกาศขายที่ดิน เนื้อที่ 4ไร่เศษ กำเงินสด ยกเลิกขึ้นโครงการหรูไอวี่ สุขุมวิท 18 ห่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก 600เมตร ทั้งๆ ที่มีแผน เตรียมขึ้น โครงการ 2อาคาร 800หน่วย ผลกระทบนี้ นายปิยะ ปะยงค์ CEO-PS ยอมรับว่าทำเลนี้เรดโอเชียน การแข่งขันรุนแรง เมื่อกำลังซื้อ ต่างชาติไม่มีลูกค้าไทย ชะลอตัดสินใจซื้อ หากดันทุรังขึ้นโครงการจะบาดเจ็บหนัก ได้ไม่คุ้มเสียเนื่องจากราคาขายต่อตารางเมตรค่อนข้างสูงเฉลี่ยกว่า 2 แสน บาทต่อตารางเมตร

อนันดา-เอพีลดแรง

                 ขณะโครงการที่เปิดขายค่ายใหญ่เจ้าตลาดคอนโดฯติดรถไฟฟ้า บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งมีการโหมแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อในหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ยังคงเดินหน้าลดราคาระบายสต็อก โดยเฉพาะกลุ่มโครงการที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ และรอส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ 7 โครงการขนาดใหญ่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีโดยเฉพาะโครงการที่ถูกโปรโมท เป็น New Iconic บนทำเลแยกอโศก-พระราม 9 คอนโดมิเนียมหรู บนผืนที่ดินแปลงหัวมุมผืนสุดท้ายใจกลาง CBD กรุงเทพ โครงการ “แอชตัน อโศก-พระราม 9” มูลค่าโครงการ จำนวน 599 หน่วย ในราคาเริ่ม 7.9 ล้านบาท จากราคาเดิม 8.5 ล้านบาท ทั้งนี้ทำเลอโศก-พระราม9 เป็นพื้นที่สำคัญด้านแหล่งอาคารสำนักงานหนาแน่น รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ซึ่งคอนโดฯที่มีการปล่อยเช่าปัจจุบันได้รับผลตอบแทนดีถึง 6%ต่อปี

                ในทำเลเดียวกันอย่าง บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ได้จัดแคมเปญ HURRICANE SALE ลดแรง 20% จอง 5,000 บาท ฟรีค่าใช้ จ่ายวันโอนและรับของแถม รวม 20 รายการในโครงการ Life อโศก-พระราม 9 เช่น ห้องชุดสตูดิโอ จากราคา 4.4 ล้านบาท เหลือ 3.2 ล้านบาท ขณะ 1 ห้องนอน จาก 5.12 เหลือ 3.99 ล้านบาท

สิงห์ลดเหลือ11.9 ล.

                ด้านบมจ.สิงห์ เอสเตท มีการจัดแคมเปญลดราคา สำหรับคอนโดมิเนียมระดับ ลักชัวรี แบรนด์ “ดิ เอส” (The ESSE) ใน 2 ทำเลใจกลางเมือง คือ โครงการ ดิ เอส อโศก ซึ่งถือ เป็นโครงการไฮไลท์ของบริษัท ด้วยการเป็นคอนโดฯที่สูงที่สุดในย่านสุขุมวิท บนทำเลใจกลางอโศกมนตรี ในราคาเริ่ม 8.99 ล้านบาท และอีกโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 มีการลดราคาลง จากราคาเริ่มต้นกว่า 12 ล้านบาท ณ วันเปิดตัว ช่วงปี 2560 ปัจจุบัน เหลือ 11.9 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเล ติดกับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เปรียบเป็นทำเลที่ “ไม่มีวันตาย” ซึ่งที่มีการแข่งขันด้านซัพพลายที่อยู่อาศัยระดับบนสูง มาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน จากความต้องการของลูกค้ามีกำลังซื้อ รวมถึงเป็นที่หมายปองของนักลงทุนชาวไทย และชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย ก็นิยมพักอาศัยในย่านดังกล่าว ทั้งนี้การลดราคาลง จึงถือเป็นการสวนทาง กับราคาที่มักมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อโครงการใกล้แล้วเสร็จในสถานการณ์ปกติ โดยบริษัทระบุว่าแคมเปญดังกล่าว เพื่อต้องการเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เข้าถึงได้มากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 

หั่นราคาขายบิ๊กล็อต

                ด้านนายกิตติ พัฒนาพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า การปรับลดราคาขายอสังหาริมทรัพย์นั้นมี2เหตุผลคือ กรณีซื้อบิ๊กล็อตหรือซื้อเหมาซึ่งราคาโครงการไม่ว่าสถานการณ์ใดราคาขายจะตํ่ากว่าลูกค้ารายย่อย เพราะนอกจากค่าก่อสร้างค่าการขายรายย่อยแล้วยังมีต้นทุนค่าบริหารโครงการด้วยดังนั้นโอกาสทำกำไรไม่สูงนัก และ 2 โควิดทำให้กำลังซื้อลดลง ประกอบกับปัจจุบันระบบขนส่ง คมนาคมเจริญขึ้นเอื้อให้เกิดโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมากทำให้แข่งขันราคาซึ่งมีทั้งข้อดีและเสีย ส่วนหนึ่งเมื่อโครงการใหม่ปรับลดลงโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วรอขายก็ต้องปรับราคาลดลงซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตามราคาอสังหาฯที่ปรับลดจึงเป็นไปโดยผู้ประกอบการดำเนินการลดราคาในภาวะยากลำบากขึ้นอยู่แต่ละโครงการ, ทำเลและสถาน การณ์ นอกจากนี้โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอาจต้องชะลอด้วย นอกจากนี้ด้านกำลังซื้อที่ปรับลดนั้น เนื่องจากภาระหนี้ต่อรายได้เพิ่มขึ้นมากและแหล่งที่มาของรายได้ไม่แน่นอน ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจหดตัวก็หวังว่าจะหดตัวชั่วคราว 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เคาะ “เวนคืนที่ดิน” 339 ไร่ 2ตำบล เมืองมุกดาหาร 

ครม.อนุมัติหลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ “เวนคืนที่ดิน” จำนวน 339 ไร่ ในพื้นที่ 2 ตำบล เมืองมุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 12 ตุลาคม 2563 มีมติอนุมัติหลักการ “เวนคืนที่ดิน” หรือ ร่างพระราชกฤษฎีกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. ….

ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา

เป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 เพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเพื่อปรับปรุงเส้นทางการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม

รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร ออกสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองมุกดาหาร และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน 

เรื่องที่กระทรวงคมนาคมเสนอต่อที่ประชุมครม.ว่า

1. โดยที่เป็นการสมควรดำเนินโครงการเพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหารเพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเพื่อปรับปรุงเส้นทางการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร กับสะพานมิตรภาพไทย – ลาวแห่งที่ 2 รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร ออกสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองมุกดาหาร อันจะทำให้การจราจรและการขนส่งมีความสะดวกยิ่งขึ้น

2. กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 แล้ว โดยลักษณะของโครงการเริ่มต้นจากแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (บริเวณ กม.ที่ 426+600) สิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (บริเวณ กม.ที่ 781+000) เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร ชนิดผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก เกาะกลางแบบยกกว้าง 5.10 เมตร ช่องจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร เขตทางกว้าง 40.00 – 60.00 เมตร มีระยะทางประมาณ 13.519 กิโลมตร มีพื้นที่ที่ถูกเวนคืนประมาณ 339 ไร่ (398 แปลง) มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนประมาณ 66 รายการ ใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการ ประมาณ 1,446.9660 ล้านบาท (ใช้งบประมาณในการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 11.0000 ล้านบาท ค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 461.0000 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง ประมาณ 974.9660 ล้านบาท)

3. การวิเคราะห์โครงการ สรุปผลดังนี้

 – ความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ พบว่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) มีค่า 573.54 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) มีค่า 16.95% อัตราผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) มีค่า 1.47 ซึ่งถือได้ว่าโครงการดังกล่าวนี้มีความเหมาะสมในการดำเนินการ และหากพิจารณาถึงผลประโยชน์ทางอ้อมที่เกี่ยวกับการรองรับการขยายตัวของเมืองและการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตโครงการก็จะมีความเหมาะสมมากขึ้นอีก

– การคาดการณ์ปริมาณการจราจรในอนาคต กรณีที่มีโครงการฯ กับกรณีที่ไม่มีโครงการฯมีผลการวิเคราะห์ ดังนี้

4. สำนักงบประมาณเห็นว่า กรมทางหลวงชนบทจะดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย มห. 3019 แยก ทล.212 – บ.บางทรายใหญ่ (ตอนที่ 2) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมเกาะกลางและทางเท้าระยะทางประมาณ 13.519 กิโลเมตร ประมาณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 461.0000 ล้านบาทโดยกรมทางหลวงชนบทแผนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและแผนการเบิกจ่ายค่าทดแทนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 – พ.ศ. 2566 ดังนั้น กรมทางหลวงชนบทควรจะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ตามความจำเป็นและเหมาะสม เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับแล้ว

5. กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของผู้ได้รับผลกระทบกับโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบทสายดังกล่าวแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว

จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. …. มาเพื่อดำเนินการ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คลังเร่งมาตรการด่วนแก้วิกฤตเศรษฐกิจ

คลังเร่งมาตรการด่วนแก้วิกฤตเศรษฐกิจ

คลัง ประกาศเร่งมาตรการด่วน กู้วิกฤตเศรษฐกิจจากพิษโควิด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังเพื่อมอบนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรับทราบการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และแนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2564 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการส่งออก ภาคบริการ และการท่องเที่ยว โดยคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ อย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้น นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการดำเนินนโยบายการคลัง ที่จะต้องบริหารจัดการให้อยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่เหมาะสม โดยจะต้องมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นในเรื่องการประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีค่อนข้างมาก

รมว. คลัง ได้กล่าวถึงนโยบายการคลังที่จะเน้นการประสานนโยบายและมาตรการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างยั่งยืน (Fiscal Sustainability)

(1) ในระยะสั้นจะให้ความสำคัญกับการบริหารภาพรวมเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว ได้แก่ การขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามมติของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน คือ การกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของภาคธุรกิจต่างๆ

(1.1) การแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของทั้งภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม SME เช่น มาตรการ Soft loan การเร่งรัดการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงมาตรการการพักชำระหนี้ในระยะต่อไป โดยกระทรวงการคลังต้องประสานธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในระยะต่อไป

(1.2) การเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนในกลุ่มต่างๆ ผ่านมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว เช่น การให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่ง ควรเร่งรัดให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนด

(1.3) มาตรการรองรับปัญหาการว่างงานอันเกิดจากวิกฤตโควิด-19 โดยต้องพยายามให้เอกชนรักษาการจ้างงานขององค์กรไว้ให้ได้มากที่สุด โดยขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชนไว้แล้ว

(1.4) การสร้างความเข้มแข็งฐานะการคลังอย่างยั่งยืน ดูแลกระแสเงินสดของภาครัฐ ให้เพียงพอต่อการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการจัดเก็บรายได้ ให้ได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งการหารายได้เพิ่มจากรายได้ที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tax revenue) จากทรัพย์สินของรัฐ รายได้จากรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเงินนอกงบประมาณต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ ควรต้องนำกลับมาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล

(1.5) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2564 ทั้งงบประมาณรายจ่ายและงบลงทุนโดยเฉพาะงบการจัดประชุมสัมมนาในต่างจังหวัดซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคได้ รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อเร่งนำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด

(2) สำหรับมาตรการระยะปานกลาง เป้าหมายคือการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและดูแลให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาเติบโตได้ตามศักยภาพหลังจากวิกฤตโควิด-19 โดยให้ความสำคัญในการปรับโครงสร้างการคลังของประเทศทั้งในส่วนของรายได้และรายจ่าย เช่น การจัดเก็บภาษี E-commerce, Online-trade และ E-logistics เป็นต้น โดยมีประเด็นเร่งด่วน คือ การเตรียมมาตรการฟื้นฟูหลังเศรษฐกิจเปิด (Reopening economy) ทั้งมาตรการด้านการเงินการคลังเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว และการเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่ได้รับการอนุมัติแล้ว รวมทั้งการจัดแหล่งเงินลงทุน (Financing infrastructure) ที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ เพื่อขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐในระยะต่อไป

ทั้งนี้ รมว.คลังได้มอบนโยบายในการทำงานแก่ผู้บริหารกระทรวงการคลังดังนี้ (1) ต้องมุ่งเน้นหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานที่ดูแลรายรับ รายจ่ายและงบการเงินของประเทศ จึงต้องมีมาตราฐานการเงินการคลังตามมาตรฐานสากล จะต้องตรวจสอบได้และมีความโปร่งใส

(2) จะต้องรอบคอบภายใต้กรอบวินัยการคลังของประเทศ และกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

(3) จะต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการคลัง ด้านการเงิน ด้านตลาดทุน ที่ดูแลด้านปฏิบัติ ด้านกำกับดูแล ด้านนโยบายในภาพรวม ส่วนในระดับมหภาคหรือในภาพรวมต้องหารืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเศรษฐกิจมหภาค ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ให้มันซอฟต์ลง

หลังจากที่วันก่อนมีข่าวว่าคณะกรรมการอุทธรณ์ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตัดสินใจกลับคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานฯ ด้วยการให้ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ไม่ต้องพ่ายแพ้ต่อ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แข่ง) จากเหตุการณ์หม้อแปลงระเบิดที่แพท สเตเดียม เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา

วันที่ 14 ตุลาคม 2563 คณะกรรมการอุทธรณ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการให้สโมสร การท่าเรือ เอฟ.ซี. โดยมีมติเอกฉันท์ยกโทษให้สโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. และการอุทธรณ์เป็นผลให้คืนเงินอุทธรณ์ 50,000 บาท แก่ผู้อุทธรณ์ตามระเบียบ เนื่องจากการยุติการแข่งขันไม่ใช่ผลจากการกระทำที่บกพร่องของสโมสรทีมเหย้าโดยตรง แต่เกิดจากเหตุปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือจากการควบคุมขององค์กรสมาชิก รวมถึงมิใช่สาเหตุที่สโมสร การท่าเรือ เอฟ.ซี. ไม่มีเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองที่ใช้การไม่ได้แต่อย่างใด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลความปลอดภัยของพื้นที่เห็นว่า การระเบิดดังกล่าวอาจเกิดจากการก่อเหตุร้าย หากปล่อยให้เข้าแก้ไขโดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด อาจเกิดอันตรายแก่ประชาชนและผู้ที่เข้าชมเกมดังกล่าวได้ ถ้าจะให้วิเคราะห์คำตัดสินดังกล่าว เชื่อว่าคณะกรรมการอุทธรณ์คงจะเห็นต่างกับคณะกรรมพิจารณาวินัยมารยาทฯ ในส่วนของการให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่นแหละครับ

มาถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า คณะกรรมการอุทธรณ์ช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ มันดูเบาลง ซึ่งเป็นผลดี หากต้องการให้ทุกอย่างเดินหน้าแบบไม่มีคลื่นมาซัด(อีก) ก็อย่างที่ผมเคยเขียนไปแล้วว่า คำตัดสินครั้งแรกอาจ “ถูกยก” ก็เป็นได้ แม้ว่าตอนนั้นสิ่งที่ผมเขียนไปอาจจะมีคนเถียงคอเป็นเอ็นว่า “ไม่มีทาง” ก็ตาม

เมื่ออ่านเกมให้ดี นี่แหละเป็นทางออกที่สวยงาม แม้คณะกรรมพิจารณาวินัยมารยาทสมาคมฟุตบอลฯ ดูจะเสียหน้าไปบ้าง ที่ถูกกลับคำตัดสิน แต่ก็เชื่อว่าไม่มีอะไรเสียหาย หากทำทุกอย่างให้มันถูกต้องตามกระบวนการ และตามวิธีคิดแบบที่มันควรจะเป็น

สำหรับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ยังได้รับข่าวดีอีกเรื่อง
นั่นคือ การที่บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้อนุมัติให้ใช้ “ลีโอ สเตเดียม” เป็นสนามกลางแข่งขันในฐานะทีมเหย้าของทีมไปจนถึงเดือนธันวาคมด้วย

ถึงตอนนี้ก็คงต้องเอาใจช่วยให้ผู้บริหารของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นเจ้าของสนามตัวจริง สามารถดูแลและบริหารจัดการสนามของตัวเองให้ดีให้ได้ โดยเฉพาะฟลอร์ผืนหญ้าที่ต้องถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง
เพราะเท่าที่ทราบ สโมสรราชประชา ก็ใช้สนามนี้อยู่ด้วยเช่นกัน นั่นเท่ากับว่าตอนนี้มีทีมที่ใช้ “ลีโอ สเตเดียม” เป็นสนามเหย้าถึง 3 ทีม

ส่วนข่าวลือเรื่อง “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” จะย้ายมาบินที่ “การท่าเรือ เอฟซี” หรือไม่นั้น
บอกได้แค่คำเดียวว่า ชัวร์!!!

พาวเวอร์บอมบ์

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


บริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างไร ให้เหมาะสม

บริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างไร ให้เหมาะสม thaihealth

ม.มหิดล แนะวิธีทาน “มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น” โดยไม่ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ หรือการรับประทานอาหารไม่สมดุลจนเกิดความผิดปกติทางโภชนาการ ควรบริโภคอย่างเหมาะสม ตั้งอยู่บนทางสายกลาง

วันที่  16  ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้เป็น “วันอาหารโลก” (World Food Day) เพื่อการรณรงค์แก้ไขปัญหาความอดอยากและทุพโภชนาการ

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับต้นๆ ของเอเชีย และโลก ซึ่งปัจจุบันการรับประทานอาหารมังสวิรัติ หรือ อาหารจากพืชเป็นหลัก (plant-based diet) กำลังกลายเป็น lifestyle ในปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งนอกจากจะมีผลดีกับสุขภาพ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคมะเร็ง ฯลฯ แล้ว การรับประทานอาหารจากพืชเป็นหลักมีส่วนช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย เนื่องจากการทำปศุสัตว์ต้องใช้พื้นที่และปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าการปลูกพืช

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารมังสวิรัติอาจจะทำได้ยากสำหรับหลายคน ปัจจุบันการรับประทานอาหารแบบ “มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น” หรือ Flexitarian (มาจากคำว่า Flexible + Vegetarian) กลายเป็นกระแสการบริโภคนิยมแนวใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการบริโภคอาหารสุขภาพ ซึ่งยังคงหลักการของการรับประทานอาหารจากพืชเป็นหลัก โดยอาจจะยังคงมีการรับประทานเนื้อสัตว์ได้บ้าง แต่มีปริมาณที่ลดลง อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสะดวก และความเหมาะสมในแต่ละบุคคล แต่ยังไม่ถึงขนาดที่จะงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ได้เท่ากับกลุ่มที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ หรืออาหารเจ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร จากสาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล  ได้แนะหลักในการบริโภค “มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น” โดยไม่ทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ หรือการรับประทานอาหารไม่สมดุลจนเกิดความผิดปกติทางโภชนาการว่า ในระยะแรกควรเริ่มจำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์เพียงบางมื้อ โดยใน 1 วัน อาจมี 1 มื้อที่รับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ จากนั้นอาจเพิ่มเป็น 1 วัน หรือ 2 วันต่อสัปดาห์ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แล้วค่อยขยับขึ้นเรื่อยๆ สำหรับในมื้อที่มีเนื้อสัตว์ ควรเลือกรับประทานนม ไข่ ปลา หรือไก่ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์แปรรูป ซึ่งได้แก่ แฮม ไส้กรอก เบคอน ฯลฯ รวมทั้งเน้นอาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก

ข้อควรระวังในการรับประทานอาหารมังสวิรัติอย่างเคร่งครัด หรืออาหารเจ อาจจะทำให้ได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ ซึ่งวิตามินบี 12 พบในเนื้อสัตว์ ไข่ นม เป็นหลัก ถ้าไม่รับประทานอาหารกลุ่มนี้เลยเป็นเวลานาน ก็จะทำให้มีความเสี่ยงในการขาดวิตามินบี 12 ที่มีความสำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และระบบประสาท รวมทั้งแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม และเหล็ก ซึ่งได้จากพืช จะดูดซึมได้น้อยกว่าที่ได้จากสัตว์ ดังนั้น การรับประทานมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น ซึ่งมีการรับประทานเนื้อสัตว์บ้าง แต่ในปริมาณน้อยนั้น จึงควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม หลากหลาย และครบทั้ง 5 หมู่

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร   มองว่า ปกติอาหารไทยเป็นอาหารที่ไม่เน้นการบริโภคเนื้อสัตว์ปริมาณมากอยู่แล้ว เราควรตั้งอยู่ในทางสายกลาง ของทุกอย่างมากเกินไป หรือน้อยเกินไป ไม่ส่งผลดี ดังนั้น ประเด็นอยู่ที่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้รู้จักเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตัวเอง ที่สำคัญไม่ควรตีความการรับประทานจากพืชเป็นหลัก ไปในทางที่ผิด ซึ่งการรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่อุดมด้วยแป้งและไขมัน รวมทั้งขนมกรุบกรอบ หรือเครื่องดื่มรสหวานนั้น แม้จะถือว่าเป็นอาหารจากพืชเป็นหลักจริง แต่ไม่ใช่อาหารที่ดีกับสุขภาพ เพราะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ไม่ครบ 5 หมู่ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ นอกจากนี้ ควรมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไปด้วยเพื่อการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง

ที่ผ่านมา สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีบทบาทในการให้ความรู้ทางโภชนาการแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งทาง Rama Channel และ Mahidol Channel โดยหวังให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี และได้รับความรู้ที่ถูกต้องทางด้านโภชนาการ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสามารถติดตามได้จาก FB: รามาแชนแนล Rama Channel และ FB: Mahidol Channel

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


97 คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่าจำ เกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึก ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

เพื่อนๆทุกคนคงจะเคยสังเกตตัวเองว่า ในวันหนึ่งๆ เรามีอารมณ์หลากหลายอารมณ์มาก ทั้งมีความสุข เศร้า เบื่อ หัวเราะ ตื่นเต้น ฯลฯ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษ มาฝากเพื่อนๆเผื่อจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันกันน้า

108686357

A
afraid : เกรงกลัว
agitated : ตื่นเต้น,กระวนกระวาย
alarmed : ตื่นตระหนก
angry : โกรธ, โมโห
antsy : ประหม่า,วิตกกังวล
anxious : ร้อนใจ,กระวนกระวายใจ
apprehensive : เกรงกลัว,หวาดหวั่น
ashamed : ละอายใจ
awful : น่ากลัว,น่ายำเกรง
awkward : เชื่องช้า,อึกอัก

B
bashful : อาย,เขิน
bewildered : เลิกลั่ก,สับสน
bitter : ขมขื่น
bored  : เบื่อ
brave : กล้าหาญ

C
calm : สงบ,ใจเย็น
caring : เอาใจใส่,เป็นห่วง
cautious : รอบคอบ,ระมัดระวัง
cheerful : ร่าเริง,เบิกบาน
comfortable : สบาย,สุขสบาย
concerned : กังวล,เป็นห่วง
confident : มั่นใจ,เชื่อมั่น
confused : สับสน,งงงวย
content : อิ่มอกอิ่มใจ
critical : ตึงเครียด
cross : โกรธ,ฉุนเฉียว
curious : อยา่กรู้อยากเห็น
cynical : ดูถูก,เหยียดหยาม

D
depressed : หดหู่,เศร้าซึม
delighted : สุขใจ,ปิติยินดี
disappointed : ผิดหวัง
discouraged : ท้อใจ
disgusted : รังเกียจ
distressed : คับอกคับใจ
disturbed : กระวนกระวายใจ
down : เศร้าใจ

emotion-desktop-wallpapers

E
eager : กระตือรือร้น
edgy : หงุดหงิด
embarrassed : เขินอาย
encouraged : มีกำลังใจ
enraged : เกรี้ยวกราด
enthused : กระตือรือร้น
exasperated : ฉุนเฉียว
excited : ตื่นเต้น
exhausted : เมื่อยล้า

F
fatigued : เหน็ดเหนื่อย
fearful : หวั่นเกรง
fidgety : หงุดหงิด
frightened : ตกใจ
frustrated : สิ้นหวัง
funny : ตลก,สนุกสนาน
furious : กราดเกรี้ยว

G
gloomy : เศร้าใจ
greedy : โลภ,ละโมบ
grouchy : หงุดหงิด
guilty : รู้สึกผิด

H
happy : สุขใจ
hassled : รบกวน
hateful : น่ารังเกียจ
helpless : หมดหนทาง
hesitant : ลังเล
hopeful : เต็มไปด้วยความหวัง
horrible : น่าขนลุก
hostile : ไม่เป็นมิตร
hurt : ช้ำใจ
hysterical : รบกวน

I
impatient : กระวนกระวาย
indifferent : ไม่แยแส
inferior : น้อยหน้า
insecure : ไม่มั่นคง
intense : รุนแรง
irate : เดือดดาล
irked : น่ารำคาญ
irritated : ขุ่นเคือง

J
jealous : อิจฉา
jittery : กระวนกระวายใจ
joyous : ครื้นเครง

Connect-Emotion-With-Content

L
lazy : เกียจคร้าน
leery : โกง
lonely : โดดเดี่ยว
loved : รักใคร่
loving : ซึ่งรักใคร่

M
mad : คลั่ง
mean : ใจแคบ
mischievous : ร้าย
miserable : ห่อเหี่ยว
moody : หงุดหงิด

N
nervous : หวาดกลัว
nice : น่าคบหา
numb : มึนงง

0
overwhelmed : ล้นหลาม

P
panicky : เสียขวัญ
patient : ใจเย็น
pessimistic : มองโลกในแง่ร้าย
pleased : ยินดี
proud : ภาคภูมิใจ
puzzled : งงงวย

ขอบคุณข้อมูลจาก scholarship.in.th


เตรียมเปิด Vivo V20 รุ่นแรกมาพร้อม Android 11

Vivo ได้เตรียมเปิดตัว Vivo V20 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของไทยที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  Vivo ได้เตรียมเปิดตัว Vivo V20 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของไทยที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ให้สาวกไทยได้สัมผัสประสบการณ์ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดเป็นครั้งแรกก่อนใคร โดย Vivo V20 มาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำแห่งอนาคต พร้อมถ่ายภาพเซลฟี่ได้ชัดกว่าที่เคยกับระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus) ความละเอียด 44MP ให้ภาพเซลฟี่สวยโดดเด่นสะดุดตา เก็บทุกภาพความประทับใจด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64MP รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K ให้ภาพดูลื่นไหลสมจริง รวมทั้งสัมผัสประสบการณ์การใช้งานสุดทรงพลังด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon เตรียมสัมผัสฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Android 11 บนสมาร์ทโฟน Vivo V20 ได้เร็วๆ นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สะระแหน่ สรรพคุณจัดว่าเด็ด ขับลม แก้ปวดฟัน มีน้ำมันหอมระเหย

สะระแหน่

กลิ่นหอมของสะระแหน่ที่ถูกนำไปแต่งกลิ่นอาหารและเครื่องดื่ม จริง ๆ แล้วประโยชน์ของสะระแหน่มีดีต่อสุขภาพหลายข้อ มาพิสูจน์กัน
          สะระแหน่เป็นสมุนไพรที่ใบเล็ก แต่กลิ่นหอมแรง สรรพคุณของสะระแหน่ก็จัดว่าไม่ธรรมดาด้วยเหมือนกัน และใครอยากทราบว่าสะระแหน่นำไปทำอะไรได้บ้าง นอกจากตกแต่งอาหาร เครื่องดื่ม หรือกินแกล้มกับเมนูของคาว เรามาดูประโยชน์สะระแหน่ที่มีต่อสุขภาพกันเลย
สะระแหน่ สมุนไพรมีกลิ่นหอมสดชื่น

          สะระแหน่เป็นไม้ล้มลุกในวงศ์ Labiatae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mentha cordifolia  Opiz ex Fresen ส่วนชื่อภาษาอังกฤษของสะระแหน่ก็เรียกว่า Kitchen Mint หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Mint และนอกจากชื่อสะระแหน่แล้ว ในบางพื้นที่ยังเรียกสะระแหน่ด้วยชื่ออื่น ๆ เช่น หอมด่วน (ภาคเหนือ), มักเงาะ สะแน (ภาคใต้) หรือสะระแหน่สวน (ภาคกลาง) เป็นต้น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของสะระแหน่

          สะระแหน่เป็นไม้ล้มลุก มีเถาเลื้อยไปตามพื้นดิน ลำต้นทรงรูปสี่เหลี่ยม สีเขียวแกมม่วงออกไปทางน้ำตาล ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปทรงใบค่อนข้างรี กว้างประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร ผิวใบย่น ขอบใบหยักฟันเลื่อย ใบมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกและช่อสะระแหน่ออกเป็นกระจุกที่ซอกใบ ผลเป็นผลแห้ง ไม่แตก

สะระแหน่
ประโยชน์สะระแหน่และสรรพคุณทางยา

    1. ขับลม

          ตำรายาไทยใช้ใบสดกินเป็นยาขับลม เพราะใบสะระแหน่มีสารประกอบจำพวกเมนทอลอยู่มาก มีรสร้อนนิด ๆ กินเป็นยาขับลมได้ดี

    2. ช่วยย่อยอาหาร

          ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (University of Maryland Medical Center) ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า สะระแหน่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร และมีส่วนกระตุ้นการไหลเวียนของน้ำดีในร่างกาย ช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอาหารประเภทไขมัน ทั้งนี้สูตรช่วยย่อยอาหาร สามารถนำใบสะระแหน่สดมาต้มกับน้ำสะอาดแล้วดื่มแก้อาหารไม่ย่อยได้

สะระแหน่
3. บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน

          มีงานวิจัยเปิดเผยว่า อาสาสมัคร 57 คนที่มีอาการลำไส้แปรปรวน เมื่อกินน้ำมันสะระแหน่ชนิดแคปซูลนาน 4 สัปดาห์ มีอาการลำไส้แปรปรวนลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้กินน้ำมันสะระแหน่

          นอกจากนี้การศึกษาในไต้หวันยังพบว่า อาสาสมัครที่กินน้ำมันสะระแหน่ชนิดแคปซูลก่อนอาหาร 15-30 นาที มีอาการท้องอืดและมีกรดแก๊สในกระเพาะอาหารลดลง และยังพบว่าผู้ป่วยมากกว่า 80% มีอาการปวดในช่องท้องลดลงด้วย

    4. แก้ปวดหัว

          กลิ่นน้ำมันหอมระเหยในใบสะระแหน่มีส่วนช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและมีสรรพคุณระงับปวดได้ โดยใช้สะระแหน่ทั้งต้นประมาณ 500 กรัม โขลกจนละเอียด แล้วนำไปต้มกับน้ำเพื่อแยกเอาส่วนน้ำมันออก เพื่อที่เราจะใช้น้ำมันสะระแหน่ที่ได้มานวดคลึงขมับเมื่อรู้สึกปวดเวียนศีรษะ

    5. แก้คลื่นไส้

สะระแหน่
กลิ่นหอมจากสารเมนทอลในใบสะระแหน่ทำให้รู้สึกสดชื่น บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ และอาการคลื่นไส้ได้ โดยใช้ใบสด 1 กำมือ โขลกจนละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ จิบอุ่น ๆ แก้อาการคลื่นไส้ วิงเวียน

6. ฆ่าเชื้อในช่องปาก แก้ปวดฟัน

          อย่างที่บอกว่าสรรพคุณของสะระแหน่ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ดังนั้นอาการปวดฟันก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงสะระแหน่เท่าไรค่ะ โดยใช้ใบสะระแหน่ประมาณ 1 กำมือ โขลกพอแหลก แล้วนำไปต้มกับน้ำประมาณ 1 ถ้วยกาแฟ จากนั้นเคี่ยวต่อจนเหลือน้ำแค่ครึ่งเดียว ทิ้งไว้ให้อุ่น แล้วนำมากลั้วปากและลำคอเพื่อฆ่าเชื้อในช่องปาก บรรเทาอาการปวดฟัน เจ็บคอ และเจ็บโคนลิ้น

7. บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก

          หลายคนชอบกลิ่นสะระแหน่เพราะมีกลิ่นหอม ซึ่งน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในสะระแหน่นี่แหละค่ะที่ช่วยลดอาการอักเสบในเยื่อบุจมูก บรรเทาอาการหลอดลมหดตัว ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกจากหวัด และอาการหอบหืดได้ โดยดมน้ำมันหอมระเหยจากสะระแหน่ หรือทำชาสาระแหน่จิบอุ่น ๆ ก็ได้

8. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย

สะระแหน่
สะระแหน่เป็นสมุนไพรมีรสร้อน แต่มีฤทธิ์เย็น และมีสรรพคุณแก้ปวด จึงสามารถบรรเทาอาการปวดแสบจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้ โดยให้ใช้ใบสะระแหน่สดใหม่ 5-10 ใบ โขลกจนละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณที่แมลงกัด

9. แก้คัน

          ความเย็นจากใบสะระแหน่ก็ช่วยบรรเทาอาการคันบนผิวหนัง อีกทั้งสะระแหน่ยังมีฤทธิ์แก้อักเสบ จึงช่วยลดอาการคัน ฟกช้ำ หรืออาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียดแล้วนำมาพอกผิวแก้คัน

สะระแหน่
ข้อควรระวังในการใช้สะระแหน่

          * ห้ามใช้น้ำมันสะระแหน่กับทารกหรือเด็กเล็ก เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคยเคืองในระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้ปอดอักเสบได้

          * ข้อมูลจากวารสาร Toxicology and Industrial Health เผยว่า ชาสะระแหน่มีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กในหนูทดลอง และแม้จะยังไม่มีผลทดลองในคน ทว่าผู้ที่มีภาวะโลหิตจางก็ควรหลีกเลี่ยงสะระแหน่ไว้ก่อน

          * ผู้เป็นโรคกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงสะระแหน่ เนื่องจากสะระแหน่มีผลคลายกล้ามเนื้อหูรูดในหลอดอาหาร อาจส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบขึ้นมาได้

          ประโยชน์สะระแหน่เยอะเบอร์นี้หลายคนเริ่มอยากกินสะระแหน่ให้มากขึ้น ซึ่งปกติ นิยมนำสะระแหน่มาใช้แต่งกลิ่นอาหาร ใส่ในอาหารประเภทน้ำพริก-ยำต่าง ๆ หรือรับประทานเป็นผักสด และยังสามารถดื่มเป็นชาได้ด้วย ซึ่งเรามีวิธีชงชาสะระแหน่มาฝาก ทำไม่ยากด้วยนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก health.kapook.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 27,900.00 28,000.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,807.00 27,394.12 28,500.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,626.30 24,654.71 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,445.60 21,915.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 813.00 12,325.08 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 632.00 9,581.12 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,873.00 28,394.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/10/2563 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05 22.05
แก๊สโซฮอล์ 91 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78 21.78
แก๊สโซฮอล์ E20 20.54 20.54 20.54 20.54 20.54 20.54 20.54 20.54 20.54
แก๊สโซฮอล์ E85 18.14 18.14 18.14
เบนซิน 95 29.46 29.91 29.96 29.46 29.46
ดีเซล B7 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89 21.89
ดีเซล 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89 18.89
ดีเซล B20 18.64 18.64 18.64 18.64 18.64 18.64 18.64 18.64
ดีเซลพรีเมี่ยม 26.34 26.36 28.34 28.04 26.34
แก๊ส NGV 14.17 14.17 14.17
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า