สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 19 มิถุนายน 2561

REIC เปิดบิ๊กดาต้า กทม.-ปริมณฑล “ทาวน์เฮาส์-บ้านเดี่ยว” กอดคอขี่หลังเสือ ส่องท็อป 10 ทำเลคอนโดยอดขายบ๊วยสุด

ไฮไลต์อยู่ที่การเปิดราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมในรัศมี 500 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าหลากสีหลายเส้นทาง รวมทั้งสถิติอัตราดูดซับ (absorbtion rate) รายทำเล สำหรับประกอบการพิจารณาว่าทำเลใดบ้างที่ส่งสัญญาณซัพพลายไม่สมดุลดีมานด์
ปิดการขายเกลี้ยงมี 15 โครงการ
“ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์” รักษาการผู้อำนวยการ REIC ระบุว่า สถิติ ณ ครึ่งปีหลัง 2560 ภาพรวมมี 458,943 หน่วย มูลค่ารวม 1,764,603 ล้านบาท จาก 1,584 โครงการ แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 212,997 หน่วย (เพิ่มจากครึ่งปีแรก 2560 ที่มี 208,237 หน่วย) และอาคารชุด 245,946 หน่วย (เพิ่มจากครึ่งปีแรก 2560 ที่มี 242,852 หน่วย)
โดยมีโครงการเปิดใหม่ในปี 2560 รวม 396 โครงการ 101,422 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 408,084 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 272 โครงการ 40,841 หน่วย มูลค่ารวม 166,044 ล้านบาท และอาคารชุด 124 โครงการ 60,581 หน่วย มูลค่ารวม 242,040 ล้านบาท
สถานะโครงการอยู่ระหว่างขายครึ่งปีหลัง 2560 พบว่า เป็นบ้านจัดสรร 1,135 โครงการ เหลือขาย 80,449 หน่วยจากภาพรวม 212,997 หน่วย และอาคารชุด 449 โครงการ เหลือขาย 62,411 หน่วยจากภาพรวม 245,946 หน่วย ในจำนวนนี้สามารถปิดการขาย (ขายหมด 100%) ในปีที่แล้วจำนวน 15 โครงการ 1,593 หน่วย
แนวราบหนุนปริมณฑลขายดี
REIC จัดลำดับท็อป 20 หน่วยขายได้โดยมี 3 ทำเลไร้โครงการแนวราบ ได้แก่ บางซื่อ คลองเตย วัฒนา กับทำเลที่ไร้โครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม 1 ทำเล ได้แก่ คลองสามวา โฟกัสจากสัดส่วนเปอร์เซ็นต์หน่วยขายได้ มีดังนี้ อันดับ 1 ทำเลบางซื่อ เป็นอาคารชุดทั้งหมด 13,386 หน่วย สัดส่วนขายได้ 89.6%, อันดับ 2 ทำเลลาดกระบัง หน่วยรวม 6,827 หน่วย ขายได้ 86.7%
อันดับ 3 สวนหลวง 6,421 หน่วย ขายได้ 85.3%, อันดับ 4 บางนา 7,287 หน่วย ขายได้ 84.4%, อันดับ 5 คลองสามวา เป็นบ้านจัดสรรทั้งหมด 7,503 หน่วย ขายได้ 80.4%, อันดับ 6 สายไหม 6,904 หน่วย ขายได้ 79.6%
อันดับ 7 คลองเตย เป็นห้องชุดทั้งหมด 8,782 หน่วย ขายได้ 79.1%, อันดับ 8 วัฒนา เป็นห้องชุดทั้งหมด 7,765 หน่วย ขายได้ 75.1%, อันดับ 9 บางใหญ่ 9,047 หน่วย ขายได้ 72.2%, อันดับ 10 บางแค 6,806 หน่วย ขายได้ 71.6%
อันดับ 11 จตุจักร 8,051 หน่วย ขายได้ 69.5%, อันดับ 12 บางกรวย 7,335 หน่วย ขายได้ 66.8%, อันดับ 13 เมืองสมุทรปราการ 17,368 หน่วย ขายได้ 65.9%, อันดับ 14 เมืองนนทบุรี 18,669 หน่วย ขายได้ 63.7%, อันดับ 15 ลำลูกกา 8,344 หน่วย ขายได้ 62.1%
อันดับ 16 เมืองสมุทรสาคร 7,901 หน่วย ขายได้ 61.8%, อันดับ 17 บางพลี 8,930 หน่วย ขายได้ 61.1%, อันดับ 18 บางบัวทอง 9,688 หน่วย ขายได้ 60.2%, อันดับ 19 ธัญบุรี 12,695 หน่วย ขายได้ 58.8% และอันดับ 20 โซนคลองหลวง 7,566 หน่วย ขายได้ 55.2%
5 ปีคอนโดฯ ขายจบ 12 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า REIC ได้จัดทำแนวโน้ม “ซัพพลายเหลือขาย” เขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในปี 2561 โดยประเมินว่ามีจำนวน 145,099 หน่วย แบ่งเป็นแนวราบสัดส่วน 55.5% จำนวน 80,490 หน่วย, อาคารชุดสัดส่วน 45.5% จำนวน 64,609 หน่วย
โดยประเภทสินค้าที่มีสัดส่วนมากสุดคือ อาคารชุด 44.5% รองลงมา ทาวน์เฮาส์ 32.4% บ้านเดี่ยว 16.0% ที่เหลือเป็นสินค้าบ้านแฝดกับอาคารพาณิชย์สัดส่วนรวมกัน 7.1%
จุดโฟกัสอยู่ที่ข้อมูล “ภาวะการระบายซัพพลาย” โดยวิเคราะห์จากสถิติค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ในภาพรวม ภาวะการระบายซัพพลายหรือภาวะการขายได้ทั้งตลาดแนวสูงและแนวราบเฉลี่ยอยู่ที่ 17 เดือน โดยมีภาวะการระบายซัพพลายเจาะลึกเฉพาะปี 2560 พบว่า มีภาวะการระบายซัพพลายของครึ่งปีแรก-ครึ่งปีหลัง เท่ากับ 4.6%-4.6%
แยกย่อยลงไป กรณีตลาดแนวราบ (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์) ใช้เวลาระบายเฉลี่ย 22 เดือน โดยมีภาวะการระบายซัพพลายของครึ่งปีแรก-ครึ่งปีหลัง เท่ากับ 4.2%-3.5%
และตลาดคอนโดฯ ใช้เวลาระบายเฉลี่ย 12 เดือน โดยมีภาวะการระบายซัพพลายของครึ่งปีแรก-ครึ่งปีหลัง เท่ากับ 5.0%-5.8%
ทั้งนี้ เปรียบเทียบภาวะการระบายซัพพลายช่วงครึ่งปีหลัง 2560 พบว่ามีทิศทางลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก 2560 ดังนี้ สถิติการขายคอนโดฯ ครึ่งปีแรก 5.6% ลดเหลือ 5.3% ในครึ่งปีหลัง
บ้านเดี่ยว จาก 3.2% ลดเหลือ 3.1%, บ้านแฝด จาก 3.7% ลดเหลือ 3.6%, ทาวน์เฮาส์ จาก 4.1% ลดเหลือ 4.0% และอาคารพาณิชย์จาก 3.9% ลดเหลือ 3.8% ส่งผลให้ตลาดรวมครึ่งปีแรกจาก 4.7% ลดเหลือ 4.5% ในครึ่งปีหลัง 2560
ท็อป 10 โซนบ๊วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเรียง 10 อันดับแรกของสินค้าคอนโดฯ ทำเลรัศมี 500 เมตรจากแนวรถไฟฟ้าและมีภาวะการขายช้าที่สุดหรือภาวะการระบายซัพพลายต่ำสุด พบว่า มี 8 โซนที่เป็นทำเลออกนอกเมือง ใช้เวลาระบายซัพพลาย 28-107 เดือน
ในขณะที่ทำเลในเมืองอย่างสีลม-สาทร-บางรัก และห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง ใช้เวลาระบายซัพพลาย 43-54 เดือน
ในจำนวนนี้ กระจุกตัวอยู่ในทำเลนนทบุรี 3 อันดับ ได้แก่ รัศมี 500 เมตรจากแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล, สายสีแดงอ่อน และสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ประเมินว่าใช้เวลาระบาย 69-107 เดือน
รองลงมาทำเลบางซื่อ-ดุสิต ติดอันดับมีภาวะการระบายซัพพลายต่ำ 2 อันดับ ได้แก่ แนวรถไฟฟ้าสีแดงอ่อน กับสีม่วง (บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ) คาดว่าใช้เวลาระบาย 29-31 เดือน
อสังหาเดินหน้าปั้นยอดขาย
สำหรับปี 2561 ดีเวลอปเปอร์ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่และจัดโปรโมชั่นอย่างคึกคักต่อเนื่อง “ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดพรีเซลในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับคอนโดฯ แบรนด์นิช โมโน ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ทำเลห่างสถานีสาธารณสุข รถไฟฟ้าสายสีม่วง 300 เมตร ออกแบบเป็นคอนโดฯ ไฮไรส์สูง 36 ชั้น 526 ยูนิต ได้รับอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ปัจจุบันเริ่มก่อสร้างคาดว่าแล้วเสร็จและส่งมอบลูกค้าภายในปี 2563
รายละเอียดมีห้องชุดให้เลือกแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 26-55 ตารางเมตร ยูนิตเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท เฉลี่ย 91,000 บาท/ตารางเมตร ตั้งเป้าเจาะตลาดลูกค้าเรียลดีมานด์ซื้ออยู่เอง 70% ลูกค้านักลงทุนซื้อไว้ปล่อยเช่า 30% โดยคาดว่ามีลูกค้าต่างชาติสนใจซื้อ 10% หรือ 50 กว่ายูนิต
โครงการนี้มีตัวช่วยในการบริหารงานขาย “พนม กาญจนเทียมเท่า” กรรมการผู้จัดการไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า ทำเลถนนติวานนท์ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงตั้งแต่สถานีบางกระสอ-เตาปูน 7 สถานี มีแนวโน้มเติบโตที่ดี หลังจากมีการเชื่อม 1 สถานีฟันหลอเมื่อกลางปีที่แล้ว หากเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้ามีโครงการใหม่ออกมาขาย 400-500 หน่วย
ในขณะที่หลังการเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าทำให้ภายใน 5 เดือนแรกของปี 2561 มีการเปิดโครงการใหม่ 2,029 หน่วย ราคาเฉลี่ยของทำเลก็ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 112,500 บาท/ตารางเมตร จากปี 2560 อยู่ที่ 93,400 บาท/ตารางเมตร
ด้าน “จรัญ เกษร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด ในเครือแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ LPN แจ้งว่า บริษัทกำหนด 16 มิถุนายนนี้ จัดโปรโมชั่นทาวน์โฮมแบรนด์บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ ลาดปลาดุก-บางไผ่สเตชั่น ราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท มอบส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท พร้อมบริการจัดหาสินเชื่อตอบโจทย์คนอยากมีบ้าน รายละเอียดเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ จุดขายมีการบริหารนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรภายใต้คอนเซ็ปต์
“บ้านดี สิ่งแวดล้อมดี ดูแลดี ผู้คนดี” โดยทีมบริหารงานมืออาชีพจากบริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือ LPN

http://www.bkkcitismart.com


ดันที่ ‘พระราม 4’ วา 3 ล้าน! รื้อใหญ่ผังเมืองรวม พลิก “กทม. มหานครโลก”

ผังเมือง กทม. ปั้น ‘พระราม 4’ ให้เป็นย่านนวัตกรรม เมืองอัจฉริยะ เสริมกรุงเทพฯ เป็นมหานครชั้นนำระดับโลก เทียบชั้น ‘สิงคโปร์-ฮ่องกง’ คาดดันราคาที่ดินแพงตารางวาละ 3 ล้านบาท เท่าเพลินจิต

ภาพการเปลี่ยนแปลงของย่านพระราม 4 กำลังพลิกโฉม จากอาคารพาณิชย์เก่ากลายเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการ ‘วัน แบงค็อก’ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่จะปั้นให้เป็นโครงการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย วันนี้การก่อสร้างเริ่มเดินเครื่องแล้ว

©onebangkok.com

ขณะเดียวกัน ยังมีบิ๊กโปรเจ็กต์อื่นในเครือ ไม่ว่าจะเป็น สามย่านมิตรทาวน์ หรือล่าสุด ‘เดอะ ปาร์ค’ นอกเหนือจากนี้ ยังมีโครงการที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานในทำเลใกล้เคียงที่ผุดขึ้นมากมาย ถือเป็นการปลุกย่านนี้ให้คึกคักอย่างมาก กระทั่งผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงต้องนำมาทบทวน เพื่อยกระดับพื้นที่พระราม 4 ให้เป็นมหานครระดับโลก

ยกระดับชนสิงคโปร์
แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 ได้กำหนดให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครชั้นนำระดับโลก เพิ่มขีดความแข่งขัน กับประเทศในแถบเอเชียและทั่วโลก โดยยกย่านพระราม 4 เป็นย่านแข่งขันทางด้านนวัตกรรม เมืองแห่งเทคโนโลยี เทียบชั้นระดับเดียวกับประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง โดยดึงนักท่องเที่ยว นักลงทุน เข้าพื้นที่แข่งขันกับทั้ง 2 ประเทศนี้ได้

เจริญ สิริวัฒนภักดี

ทั้งนี้ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบริเวณรอบพื้นที่สวนลุม จากก่อนหน้านี้เป็นเพียงตึกแถวเก่า พลิกโฉมเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ ชัดเจนที่สุด คือ โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ‘วัน แบงค็อก’ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เริ่มก่อสร้างโครงการเดอะ ปาร์ค ตลอดจนการขยายพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ยาวไปถึงคลองเตย เช่นเดียวกับโครงการสามย่านมิตรทาวน์บนถนนพระราม 4 ฝั่งที่ดินจุฬาฯ ของนายเจริญ ซึ่งเห็นการก่อสร้างที่ใกล้จะแล้วเสร็จ ขณะที่ โรงแรมดุสิตจับมือกับเซ็นทรัล หัวมุมของถนนสีลมตัดพระราม 4 เริ่มเข้าพื้นที่ทุบอาคารเก่าเตรียมพัฒนา เป็นต้น

“การพัฒนาของโซนนี้เพิ่งเริ่มขึ้น ดังนั้น ผังเมืองจึงใช้โอกาสนี้กำหนดรูปแบบการพัฒนาให้เป็นเมืองอัจฉริยะผสมผสานไปกับวัฒนธรรมเก่า เพื่อดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่ และเชื่อมต่อไปยังหัวลำโพง เยาวราช โดยรถไฟฟ้า ซึ่งจะต่างจากโซนเพลินจิตที่มีการพัฒนาไปมากแล้ว เชื่อว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ภาพจะเปลี่ยนเป็นตึกสูงทั้งหมด คาดว่าไม่น่ามีอาคารแนวราบหลงเหลืออยู่ อนาคตโซนดังกล่าวจะมีคนเข้ามาอยู่อาศัยจำนวนมาก”

เสนอยกระดับแข่งญี่ปุ่น
ขณะที่ นายมานพ พงศทัต นักวิชาการผังเมือง เสนอให้พระราม 4 เทียบชั้นกับญี่ปุ่น โดยก้าวข้ามสิงคโปร์และฮ่องกง แต่ กทม. มองว่า ศักยภาพของเมืองไทยยังก้าวไม่ทันญี่ปุ่น เพราะระบบรถไฟฟ้าการเชื่อมต่อยังไม่ดีพอ ขณะเดียวกัน พื้นที่ยังไม่เอื้อต่อการใช้วิธีเดินเพื่อเชื่อมระบบรางเหมือนกับคนญี่ปุ่นได้

บิ๊กโปรเจ็กต์บูมพระราม 4
น.ส.ซู หลิน ซูน ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ The PARQ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ‘เดอะ ปาร์ค’ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ของกลุ่มบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด บนเนื้อที่ 24 ไร่ บนทำเลถนนพระราม 4 ว่า ด้วยจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้ง ที่ิติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และเชื่อมต่อกับสถานี MRT ศูนย์สิริกิติ์และสวนเบญจกิติ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้ย่านพระราม 4 กลายเป็นทำเลเศรษฐกิจที่สำคัญในอนาคตของไทยได้ หลังจาก 20 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

อุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง ประเทศไทย จำกัด

ด้าน นายอุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง ประเทศไทย จำกัด บริษัทร่วมทุน ระบุว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโครงการมิกซ์ยูสในไทย ทั้งในแง่ของรูปแบบและขนาดพื้นที่ของโครงการ โดยเบื้องต้น เฟสแรกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ‘เดอะ ปาร์ค เวิร์คเพลส’ พื้นที่สำนักงานระดับเกรดเอ สูง 16 ชั้น รวม 60,000 ตารางเมตร และส่วนรีเทล ‘เดอะ ปาร์ค ไลฟ์’ แหล่งรวมร้านค้าปลีก ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์อาหาร รวมอีก 12,000 ตารางเมตร

ขณะที่ นายแดน ตันติสุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ (สำนักงาน) ระบุถึงการแข่งขันในตลาดมิกซ์ยูสของกรุงเทพฯ ว่า โครงการในแต่ละทำเลนั้น ทั้ง ‘โครงการสามย่านมิตรทาวน์’ บริเวณหัวมุมพญาไท-พระราม 4 , โครงการวัน แบงค็อก และเดอะ ปาร์ค ล้วนมีการออกแบบและรายละเอียดที่แตกต่างกันชัดเจน แม้ในแง่ของปริมาณซัพพลายที่รวมกันแล้วจะมหาศาล แต่การแข่งขันนั้น คงขึ้นอยู่ที่ว่าทำเพื่อใครและลูกค้าคือใครมากกว่า

©samyan-mitrtown.com

ขณะนี้ ราคาค่าเช่าต่อตารางเมตรของโครงการเดอะ ปาร์ค ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ยังไม่มีการกำหนดชัดเจนออกมา แต่คาดว่าน่าจะมีความใกล้เคียงกับโครงการอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เช่นเดียวกับในส่วนของรีเทล เบื้องต้น กำลังเจรจากับลูกค้ารายใหญ่หลายราย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนการก่อสร้างในเฟส 2 นั้น คาดจะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากเฟสแรกที่แล้วเสร็จ แต่ทั้งนี้ ต้องรอดูสภาวะเศรษฐกิจและการตอบรับของตลาดในช่วงเวลานั้นด้วย

ที่ดินแตะ 3 ล้านบาท/ตร.ว.
แหล่งข่าวจาก บริษัท ทีซีซีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการวัน แบงค็อก เป็นโครงการมิกซ์ยูสใหญ่ที่สุดในเอเชีย และอีก 5 ปี เฟสแรกเปิดให้เข้าพื้นที่ เชื่อว่าราคาที่ดินโดยรอบแตะ 3 ล้านบาทต่อตารางวา เท่ากับถนนวิทยุ เพลินจิต

©onebangkok.com

ตึกแถวคูหาละ 20 ล้าน
นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด กล่าวว่า อนาคตที่ดินรอบโครงการวัน แบงค็อก สถานีลุมพินีและศูนย์สิริกิติ์อาจแตะ 3 ล้านบาทต่อตารางวา เท่ากับเพลินจิตในปัจจุบัน ปัจจุบัน ราคา 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา ขณะที่ ทำเลหัวลำโพง ที่บริษัทพัฒนาที่ดินขึ้นคอนโดมิเนียมราคาตารางวาละ 1.2-1.3 ล้านบาท ส่วนตึกแถวบ่อนไก่ คูหาละ 15-20 ล้านบาท ขนาด 200 ตารางเมตร เทียบกับสีลมตึกแถว 30-40 ล้านบาท

http://www.thansettakij.com


ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯพ.ค.ปรับตัวเพิ่ม หลังภาพรวมศก.ขยายตัว

ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯพ.ค.ปรับตัวเพิ่ม หลังภาพรวมศก.ขยายตัว

ดัชนีความเชื่อมั่น พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ระดับ 90.2 ภาพรวมเศรษฐกิจขยายตัว การส่งออกดีขึ้น ผู้ประกอบการขนาดใหญ่เน้นลงทุนเครื่องจักรเพิ่ม

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการประจำเดือน พ.ค.2561 จำนวน 1,015 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.2561 อยู่ที่ระดับ90.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเม.ย

ทั้งนี้ค่าดัชนีฯ ที่เพิ่มขึ้น เกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

จากการสำรวจ พบว่า ในเดือน พ.ค.2561 ค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาคการผลิตรวมทั้งการส่งออกได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สะท้อนจากคำสั่งซื้อโดยรวมและยอดขายโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ มีแผนการขยายการลงทุนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามจากการที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท ทำให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ระดับ 101.6 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 102.2 ในเดือน เม.ย.เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อโดยเฉพาะในระดับภูมิภาค อย่างไรก็ตามค่าดัชนีฯ ยังมีค่าเกิน 100 สะท้อนว่าผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่ดี

https://www.posttoday.com


บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า 32.70 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดกังวลความเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐ-จีน บอนด์ไทยยังโดนเทขายและบาทอ่อนต่อ อาจหนุน กนง. ขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.70บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินยังคงปิดรับความเสี่ยง (risk off) และนักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มทวีความรุนแรง

ล่าสุดโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งให้กระทรวงการคลังสหรัฐทำการสำรวจสินค้าที่นำเข้าจากจีนเพื่อตั้งกำแพงภาษีต่อมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ หลังจากที่มีการโต้ตอบด้วยการตั้งกำแพงภาษีระหว่างกันไปแล้วถึง 5 หมื่นล้านเหรียญในช่วงสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลกับปัญหาการค้าโลกมากขึ้น

เราพบว่าสงครามการค้านี้ ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมฟื้นฐาน โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องทั้งในยุโรปและอเมริกาปรับตัวลงกว่า 1-2% ในคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จุดที่ทำให้ตลาดการเงินไม่ผันผวนมาก มาจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจุดศุงสุดเดิม แม้ล่าสุดโอเปคและกลุ่มพันธมิตรจะเริ่มมีความเห็นต่างในเรื่องปริมาณการลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น (น้ำมันดิบเบรนท์ลับมาที่ระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล) แต่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีก็ยังไม่ปรับตัวขึ้นและซื้อขายอยู่ที่ระดับ 2.92% แม้ว่าเฟดจะพึ่งขึ้นดอกเบี้ยไป ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนยังไม่มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อหรือเศรษฐกิจทดถอย

เงินบาทช่วงต้นสัปดาห์อ่อนค่าเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินเพื่อนบ้าน เราเชื่อว่าปัจจัยหลักมาจากแรงขายในหุ้นเพราะตลาดไม่น่าสนใจเมื่อการค้าโลกมีโอกาสชะลอตัว

ขณะที่บอนด์ไทยก็โดนขายต่อ ทั้งจากเงินบาทที่อ่อนค่าและแนวโน้มการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่อาจมีมุมมองสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตในวันพุธ มองกรอบค่าเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 32.65-32.75 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


5 วิธี ตื่นเช้าอย่างสดชื่นแจ่มใส

5 วิธี ตื่นเช้าอย่างสดชื่นแจ่มใส

ตื่นเช้า อย่างสดชื่น จะทำให้คุณมีวันดีๆ ที่มีความสดชื่นอยู่กับคุณตลอดวัน แต่หลายคนกลับมีเช้าที่ขุ่นมัวไม่สดใสความรู้สึกสลึมสลือ งั้นมาเปลี่ยนการตื่นเช้าของคุณด้วย 5 วิธี ต่อไปนี้นะคะ

ตามวิธีของนายแพทย์เดวิด ไซมอน ผู้อำนวยการศูนย์สาธาณสุขโชปร้าในลาโจลา แคลิฟอร์เนีย (The Chopra Center for Well Being in La Jolla,Calif.) และคณะ แนะนำไว้อย่างนี้

1. ตื่นขึ้นรับแสงสว่างยามเช้า

มีการศึกษาพบว่าถ้าร่างกายได้สัมผัสกับแสงสว่างเป็นเวลา 30 นาที เมื่อตื่นจะเป็นการปลุกนาฬิกาในร่างกายให้เริ่มวงจรการทำงาน เพื่อปลุกร่างกายให้สดชื่นจึงแนะนำให้ตื่นขึ้นรับแสงสว่างยามเช้า

2. ปลุกด้วยเสียงที่แตกต่าง

ลองเปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกที่เสียงต่างๆกันบ้าง เช่น เสียงนกร้อง เสียงป่า เสียงน้ำตก จะชวนให้ตื่นมากกว่านาฬิกาปลุกที่เสียงคุ้นหูมาแรมปี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นการฝึกสมาธิก่อนนอน และตั้งนาฬิการ่างกายให้ปลุกตัวเองได้จะดีที่สุดค่ะ

3. เคลื่อนไหวร่างกาย

กิจกรรมยามเช้าจะส่งสัญญาณไปที่สมองว่าถึงเวลาเข้าเกียร์แล้วนะ และเป็นการตั้งนาฬิการ่างกายว่าถึงเวลาเริ่มเช้าวันใหม่แล้ว ตื่นขึ้นมาแล้วอย่ารีบเปิดข่าวค่ะ ลองฟังเพลงป๊อปสักเพลงที่ช่วยให้คุณรู้สึกกระฉับกระเฉงจนอยากขยับแข้งขยับขา ตาม หรือจะออกกำลังกายด้วยการรำกระบอง หรือโยคะเสียหน่อยก็ไม่เลว

4. หล่อเลี้ยงร่างกายให้ถูกทาง

หลังจากตื่นสักครู่ให้ดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพรที่ให้กลิ่นสดชื่น เพื่อปลุกระบบย่อยของร่างกายว่าได้เริ่มวันใหม่แล้ว แต่อย่าเพิ่งกินอาหารเช้าเร็วเกินไปให้รอจนรู้สึกหิวเสียก่อน เพราะเติมอาหารเข้าไปเร็วเกินไปทั้งที่ร่างกายยังไม่ต้องการจะเป็นการทำให้ ร่างกายทำงานหนักกับการย่อย จนไม่กระฉับกระเฉงเท่าที่ควร

5. สร้างนัดในเวลาเช้า

ลองระลึกถึงเมื่อตอนเป็นเด็กคุณจะรีบเด้งตัวขึ้นจากที่นอนทันทีที่ลืมตา เพราะคุณรู้สึกว่ามีเรื่องสนุกๆรอให้ทำอยู่มากมาย และนี่เองที่ช่วยให้คุณมีสิ่งที่จะแงะคุณออกจากเตียง ลองนัดเพื่อนที่รู้ใจรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน ดูวิดีโอเทปที่โปรดปรานในระหว่างอาหารเช้า หรือดูแลต้นไม้เสียหน่อยก่อนจะออกไปทำงาน

https://www.sanook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 19/06/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,750.00 19,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,279.00 19,389.64 20,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,151.10 17,450.68 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 576.00 8,732.16 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 448.00 6,791.68 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,325.00 20,087.00 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  19/06/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 31.79 31.79 31.79 31.79
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 14 Jun 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า