สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564

ทำเลทองฝังเพชร ‘ที่ดินรถไฟ’ ทุนยักษ์ จ้องชิงดำ

ทำเลทองฝังเพชร ‘ที่ดินรถไฟ’ ทุนยักษ์ จ้องชิงดำ 

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ้างที่ปรึกษาบริษัท ฟิกท์ แอสโซซิเอท จำกัด จัดทำฐานข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในระบบสารสนเทศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดบริหารทรัพย์สินตามแนวเส้นทางเดินรถ 234,976 ไร่ขณะที่ดินพัฒนาเชิงพาณิชยกรรมกว่า 38,000 ไร่มีผู้เช่าเป็นไปตามระเบียบการเช่าของรฟท.กว่า 5,000 สัญญามองว่าเป็นวิธีการเร่งรัดหารายได้ให้กับองค์กรได้เร็ว ช่วยลดภาระหนี้ โดยมีเป้าหมายจัดเก็บรายได้ 3,000 ล้านบาทในปี 2564

สำหรับที่ดินที่กลุ่มทุนให้ความสนใจยังคงเป็นที่ดินแปลงใหญ่ย่านใจกลางเมืองแปลงสามเหลี่ยมย่านพหลโยธินเนื้อที่ 47 ไร่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวและโรงแรมจะหมดสัญญาอีก 7 ปีข้างหน้าที่ดินแปลงงาม รองเมือง ย่านปทุมวัน ที่ดินโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ต้องประมูลใหม่

ขณะเดียวกันรฟท.ยังคงคัดเลือกที่ดินแปลงใหม่ทำเลกลางเมืองอย่างแปลงติดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควายเนื้อที่  3 ไร่ ปัจจุบันเป็นตึกร้าง เดิมรฟท.มีแผนพัฒนาเป็นอาคารพักอาศัยเพื่อเช่า

ส่องทำเลทองคำรฟท.

สำหรับที่ดินแปลงรัชดาฯ เขตห้วยขวาง ที่ดินแปลง อาบอบนวดโพไซดอน เขตดินแดง สร้างเสียงฮือฮา จากความเคลื่อนไหว เจ้าของอดีตนักการเมืองคนดัง ขอเปลี่ยนแปลงประเภทอาคารจาก ธุรกิจอาบอบนวด เป็นโรงแรม แม้ว่าสัญญาเช่าที่ดินจะสิ้นสุดลงอีก 3 ปีข้างหน้าหรือ ปี 2567 สะท้อนว่า ที่ดินแปลงนี้ ลูกค้ารายเดิมต้องการเช่าระยะยาวต่อเนื่อง  

เช่นเดียวกับ แปลงรัชดาฯเขตห้วยขวาง เชื่อมถนนพระราม 9  รอยัล ซิตี้ อเวนิวหรือ RCA เป้าหมาย รวมแปลง 62 ไร่เปิดประมูลใหม่ มี บริษัทนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ จำกัด ของกลุ่มแบงก์กรุงเทพ เช่าระยะยาว 30 ปี และกำลังจะหมดสัญญาในปี 2565 เรียกว่านักลงทุนต่างจ้องตาเป็นมัน หากผู้เช่ารายเดิม ไม่ต่อสัญญา  อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงรฟท.เตรียม นำออกมาประมูล แต่ติดปัญหาบุกรุก   

รายงานข่าวจากรฟท.ที่จะบุว่าจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้รายได้รฟท.ต้องกำหนดคงที่ ส่วนใหญ่มาจากการต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินฯ และได้ค่าธรรมเนียมเช่าสัญญาที่ดินฯ จากโครงการขนาดใหญ่ สำหรับเอกชนที่ให้ความสนใจต่อสัญญาเช่าที่ดินอสังหาริมทรัพย์ของรฟท. เช่น  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด มหาชน ที่ต่อสัญญาใหม่บริเวณที่ดินแปลงสามเหลี่ยมของศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว จาก 3,000 ล้านบาทต่อปีเป็นกว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี  บริษัทโกลเด้น แอสเซ็ทจำกัด ที่จะต่อสัญญาที่ดินของโรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ เนื้อที่ 6.53 ไร่ ย่านรองเมือง เขตปทุมวัน ซึ่งจะหมดสัญญา 20 ปี ภายในปี 2565-2566 

โดยเชื่อว่า 99% เอกชนให้ความสนใจในการต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินอสังหาริมทรัพย์เพราะมองว่าเป็นพื้นที่ที่คุ้นเคย รวมทั้งที่ดินดังกล่าวประชาชนทั่วไปรู้จัก มีเพียงเอกชนไม่กี่รายเท่านั้นที่ไม่ต่อสัญญาเช่า เกิดจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี  ราคาเช่าที่ดินสูงทำให้ไม่สามารถรับเงื่อนไขสัญญาได้ แต่เบื้องต้นการต่อสัญญาเช่าที่ดิน ในแต่ละครั้ง รฟท.จะให้สิทธิเอกชนรายเดิมในการประมูลก่อน หลังจากนั้นจะจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในพื้นที่บริเวณนั้น รวมถึงอัตราค่าเช่าที่ต้องจ่าย โดยการชำระค่าเช่าครั้งแรกเป็นการชำระเฉพาะที่ดิน เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มมีการก่อสร้างอาคารภายหลังจากการชำระค่าเช่าแล้ว แต่เมื่อผ่านไปหลายปี หากมีการต่ออายุสัญญารอบที่ สองรฟท.จะให้เอกชนเช่าที่ดินอาคารพร้อมสิ่งปลูกสร้าง  ซึ่งจะเปิดประมูลแก่เอกชนที่สนใจที่ดินเหล่านั้น

ขณะเดียวกัน รฟท.เล็งเห็นถึงศักยภาพที่ดินพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างอสังหาริมทรัพย์ย่านสะพานควาย บริเวณตลาดอตก. เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวถูกปล่อยให้เป็นตึกร้าง  หากรฟท.สามารถนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาเพื่อดำเนินการธุรกิจจะช่วยเพิ่มมูลค่าในพื้นที่นั้นได้ เนื่องจากที่ดินในกรุงเทพฯ ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีมูลค่าอยู่แล้ว

ส่วนแนวทางการรวบสัญญาที่ดินระหว่างเอกชนรายย่อยและรายใหญ่นั้น คงเป็นไปได้ยากที่จะรวมสัญญาไว้ด้วยกัน เนื่องจากหากเอกชนรายหนึ่งต้องการที่ดินบางแปลงที่ไม่ใช่ของตน โดยรวมสัญญาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ที่ดินแปลงนั้น ซึ่งสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจะหมดอายุในอีก 5 ปีข้างหน้า มองว่าจะตอบคำถามสังคมได้ลำบาก ภายหลังเอกชนรายนั้นเกิดปัญหาจากการฟ้องร้องกรณีที่รวมสัญญา  แต่ถ้าในกรณีที่เอกชนต้องการรวบรวมสัญญาที่ดินเพื่อสร้างถนนหรือสร้างทางรถไฟ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐและส่วนรวมก็สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ในส่วนของการประมูลโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน เนื้อที่ 71.65 ไร่ ของบจ.เซ็นทรัลหัวหินบีช รีสอร์ท จะสิ้นสุดวันที่ 15 พ.ค. 2565 ขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างการจัดจ้างที่ปรึกษา  เพื่อประเมินที่ดินอสังหาริมทรัพย์และผลตอบแทนให้เหมาะสมก่อนเปิดประมูล ซึ่งจะได้ผู้จัดจ้างที่ปรึกษาภายในเดือนมีนาคมนี้หลังจากนั้นจะใช้ระยะเวลาสำรวจและศึกษาความเหมาะสมพื้นที่ดังกล่าวราว 3-4 เดือนคาดว่าจะเปิดประมูลกลางปี 2564 และได้ตัวเอกชนภายในต้นปี 2565  

เรียกว่า กลุ่มทุนรายเก่า ยังกอดที่ดินอย่างเหนียวแน่น  ขณะรายใหม่ จ้องตาเป็นมัน สำหรับที่ดินทำเลทองฝังเพชรของการรถไฟฯ ที่กำลังจะเปิดประมูลเร็วๆ นี้ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


โควิดฉุดไม่อยู่ ตลาดบ้านแพง ทำเลกลางเมืองคึก 

โควิดฉุดไม่อยู่ ตลาดบ้านแพง ทำเลกลางเมืองคึก 

ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง HNWI กำลังซื้อแข็ง โควิดฆ่าไม่ตาย เบิกทางตลาดแพง 20 ล้านอัพ ทำเลใจกลางเมืองไปต่อ กูรูดัง 2 ค่าย มองมีลุ้นทั้งโครงการบ้าน-คอนโดฯ เหตุซัพพลายมีน้อย โปรดักต์เน้นคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน จับตา สาทร สีลม สุขุมวิท แหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดี

จำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ ทั่วประเทศ ซึ่งมีการหดตัว ตั้งแต่ปี 2562 จากมาตรการ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อ ต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ LTV และในปี 2563 หดตัวซ้ำเติมจากวิกฤติ COVID-19 ต่อเนื่อง จนส่งผลให้ตัวเลขรวมอยู่ที่-25.2% ขณะซัพพลายคงเหลือเพิ่มขึ้นสะสมรวมกว่า 2.26 แสนหน่วยนั้น ปฎิเสธไม่ได้ว่า คือ ดัชนีชี้วัดทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 และอนาคตช่วง 1-2 ข้างหน้า บ้างมองเป็น “ระเบิดเวลา” ที่อาจทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ทรุดลงไปอีก ขณะอีกฝ่าย คาดการณ์ตามจีดีพี ว่าอาจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ หลังจากผ่านจุดต่ำสุด ได้ปรับสมดุลทั้งในแง่ราคาและซัพพลายอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

ทั้งนี้ ตลาดโอกาสหลังสถาน การณ์ COVID-19 คลี่คลายลง ต่างยังคงเป็นที่ถกเถียงของคนในวงการอสังหาฯ ว่า โปรดักต์ หรือ เซ็กเมนต์ระดับราคาใด จะมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุด เพราะหากสังเกตจากแผนเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการรายใหญ่หลายราย ที่ทยอยประกาศออกมานั้น ยังคงเป็นไปในลักษณะกระจายพอร์ตการพัฒนา ในแนวตั้งรับความเสี่ยงแทบทั้งสิ้น ซึ่งนอกจาก วิกฤติอสังหาฯปี 2563 ได้ผลักดัน ให้ “ผู้ซื้อ” ขึ้นเป็นผู้คุมเกม และเปิดตลาดให้กับโปรดักต์แนวราบราคาไม่แพง สำหรับดีมานด์กลุ่มใหญ่แล้ว “ตลาดลักชัวรี” ก็นับเป็นอีกตลาด ที่กูรูอสังหาฯหลายราย ต่างฟันธงว่า มีโอกาสจะกลับมาได้เร็วสุดเช่นกัน เนื่องด้วย ซัพพลายมีไม่มาก แต่ดีมานด์เติบโตไม่มีขาด 

ส่องตลาดบ้านหรูVSคอนโดหรู

โดยก่อนหน้า นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ โดยรวม ได้รับผลกระทบเชิงลบจาก COVID แต่พบโครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี ยังคงเป็นที่ต้องการ
อย่างมาก จากลูกค้ากําลังซื้อสูง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมที่บริหารจัดการโดยเครือโรงแรม ในระดับราคาขายที่สมเหตุสมผลขึ้นก็ยังคงขายได้ เพียงแต่ลูกค้าตัดสินใจนานขึ้น  โดยยูนิตขนาดใหญ่ที่เคยขายได้ช้าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด มิเนียมใจกลางเมือง หรือบ้านพักตากอากาศ กลับมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นจากกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง หรือ High-net-worth individual (HNWI) (กลุ่มผู้บริหาร นักธุรกิจ และชาวต่างชาติ) ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสของโครงการพร้อมอยู่ใจกลางเมือง ที่ทำโปรโมชั่นแล้ว โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีกำหนดจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะจากการกลับเข้ามา ของดีมานด์กลุ่มลูกค้าต่างชาติกำลังซื้อสูง หลังปลดล็อกเปิดประเทศนับหนึ่งอีกครั้ง 

ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียมใจกลางกรุงเทพฯ ที่ระดับราคาขาย 10 ล้านบาทต่อยูนิต ขึ้นไป ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2563  มีทั้งสิ้นประมาณ 16,033 ยูนิต ขายไปแล้วประมาณ 11,355 ยูนิต หรือคิดเป็น 70.8% เหลือขายทั้งหมด4,678 ยูนิต หรือคิดเป็น 29.2% ส่วนใหญ่ กระจายตัวอยู่ในพื้นที่โซนสุขุมวิท สีลม สาทร เพลินจิต ชิดลม เป็นต้น

ขณะนางนลินรัตน์  เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ให้มุมมองอีกแง่ ว่า จุดเปลี่ยนเรื่อง COVID ยิ่งตอกย้ำเทรนด์ความต้องการบ้านหรูในเมือง ที่เดิมมีความคึกคัก ได้รับความสนใจจากผู้พัฒนาฯ มาก่อนแล้ว ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา จากดีมานด์ของกลุ่มที่เรียกว่า real demand หรือ ผู้อยู่อาศัยจริง โดยความน่าสนใจของตลาดนี้คล้ายคลึงกัน คือ เป็นเพียงไม่กี่ตลาด ที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID ในช่วงปีที่ผ่านมา แม้หลายโครงการจำเป็นต้องทำโปรโมชั่นลดราคาลงบ้าง แต่ไม่ได้กระทบการขาย เนื่องจากเป็นตลาดของคนมีเงินอย่างแท้จริง เมื่อเปรียบเทียบแล้ว กำลังซื้อกลุ่มนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าตลาดอื่นๆ 

ปัจจุบันตลาดนี้ ยังคงมีการเติบโตด้านซัพพลายต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการใหม่เกิดขึ้น 56 โครงการ รวมทั้งสิ้น 796 หน่วย มูลค่าตลาดมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการเข้ามาเล่นของผู้พัฒนาฯ รายย่อยนอกตลาดหลักทรัพย์ รูปแบบโครงการไม่ใหญ่มาก มีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 61% ส่วนซัพพลายที่เยอะสุด คือ กลุ่มราคา 30-50 ล้านบาท รองลงมาเป็นตลาดราคาน้อยกว่า 30 ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม ตลาดที่มีอัตราดูดซับดีสุดกลับเป็นช่วงราคา 20-30 ล้านบาท เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่กว้างกว่า

ทั้งนี้ ทำเลหลักของบ้านกลุ่มนี้ ยังคงครอบคลุมพื้นที่ใจกลางเมืองและส่วนต่อขยาย ได้แก่ สุขุมวิท ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีของคนมีเงิน, สาทร – พระราม 3 มีโอกาสจากคนทำงานใจกลางเมือง, ขยับทางทิศเหนือ ย่านพหลโยธิน-รัชดา ทำเลที่อยู่อาศัยของกลุ่มเศรษฐีเก่า และบริเวณเอกมัย-รามอินทรา ส่วนต่อขยายจากสุขุมวิท เป็นต้น 

“หลังตลาดอสังหาฯ กลับมาฟื้นตัว คงมีสีสันหลายอย่างเกิดขึ้น จากพฤติกรรม-ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะความต้องการบ้านในเมือง ที่มีโอกาสเติบโตสูง  พบย่านสาทร มีตั้งแต่ระดับราคา 50 ล้าน ไปจนถึง 100 ล้าน ขยับออกไปไม่ไกล ราคาอาจต่ำลงมาที่ 20 ล้าน เป็นโอกาสให้คนเลือกซื้อ มองในแง่ความคุ้มค่าซื้อสินทรัพย์ประเภทนี้ คล้ายกับการลงทุน ได้ทั้งบ้าน-ที่ดิน ที่อนาคตมีโอกาสแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ”

นางนลินรัตน์  กล่าวอีกว่า ปัจจุบันพบรายใหญ่ลงมาเล่นในตลาดบ้านแพงใจกลางมากขึ้น อาจเพื่อต้องการกระจายพอร์ตสินค้า แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ต้นทุนในการขาย อาจเสียเปรียบรายเล็ก ที่ทำราคาได้ดีกว่า นอกจากนี้ ลูกค้ากลุ่มนี้ มักให้ความสำคัญกับทำเล-คุณภาพของสังคมและสินค้ามากกว่าแบรนด์ดัง เป็นต้น 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เมื่อนโยบายการเงินโลกกลับทิศ สภาพคล่องโลกจะเป็นอย่างไร?

ดร.ฐิติมา ชูเชิด ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

ตั้งแต่ต้นปี 2562 มานี้ เราเริ่มเห็นทิศทางนโยบายการเงินโลกกลับทิศชัดขึ้น เมื่อธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จึงน่าคิดว่าการเปลี่ยนท่าทีของนโยบาย การเงินโลกเพื่อรับมือทันควันแบบนี้ จะมีผลต่อสภาพคล่องโลกอย่างไร และประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงปี 2561 นักวิเคราะห์มองกันว่า ทิศทางนโยบายการเงินโลกจะเข้มงวดขึ้นเต็มรูปแบบ หลังจากที่ผ่อนคลายมานานนับสิบปี ทั้งนี้ Fed ได้ดำเนินการปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติ (normalization) มาเป็นระยะ หลังส่งสัญญาณมาก่อนหน้าแล้วว่าจะปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นขาขึ้นจากที่อยู่ในระดับใกล้ 0% และจะทยอยถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE unwind) ที่พิมพ์เงินมาซื้อตราสารการเงินจากธนาคารพาณิชย์เพื่อปล่อยสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งกดดันให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินปรับลดลงมาตลอด สภาพคล่องโลกปรับสูงขึ้นมากเกือบ 4 เท่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา

สภาพคล่องโลก (global liquidity) ที่ว่าคือ ภาวะความผ่อนคลายของการระดมทุนในตลาดการเงินโลก วัดได้จาก เช่น (1) ปริมาณเงินรวม (monetary liquidity) สะท้อนภาพรวมทิศทางนโยบายการเงินโลก (2) สินเชื่อรวม (credit liquidity) สะท้อนสภาพคล่องเงินกู้ยืมของภาคเอกชนจากในและนอกประเทศ ทั้งในรูปสินเชื่อและการออกพันธบัตร และ (3) สภาพคล่องตลาด (market liquidity) ที่สะท้อนต้นทุนการระดมทุนจากตลาดการเงินโลก

ตัวอย่างเครื่องชี้สภาพคล่องโลกแบบ 2 ที่จัดทำโดย Bank of International Settlement ล่าสุดพบว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ สภาพคล่องโลกปรับดีขึ้นจากที่ตึงตัวขึ้นมากในช่วงปลายปี 2561 หลังจากที่ Fed สื่อสารเชิงผ่อนคลายมากขึ้นว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ ECB ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยนานขึ้นและชะลอการทำ QE unwind มองดูแล้วสภาพคล่องโลกในช่วงปีนี้คงจะปรับดีขึ้นอีก โดยเฉพาะเดือน ก.ค.ที่ธนาคารกลางหลายแห่งปรับลดดอกเบี้ยลง และมีแววว่าจะปรับลดเพิ่มหรือทำ QE เพิ่มอีก

แล้วผลกระทบของสภาพคล่องโลกที่ผ่อนคลายขึ้นต่อประเทศไทยจะเป็นอย่างไร? ไทยอาจได้ประโยชน์จากสภาพคล่องโลกที่ไหลมาช่วยให้การระดมทุนในประเทศมีต้นทุนถูกลงและมีผลส่งผ่านให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินไทยต่ำลงด้วย แต่ภาวะการเงินโลกที่ผ่อนคลายมากขึ้นอาจสะสมความเปราะบางไว้ในระบบการเงินไทย เช่น ราคาสินทรัพย์ในประเทศที่สูงขึ้นหากมีความต้องการของเงินทุนต่างชาติเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น การก่อหนี้ของภาคเอกชนที่สูงขึ้น

เนื่องจากประเทศไทยจัดเป็นหนึ่งในประเทศปลายทางของสภาพคล่องโลก เราจึงควรเตรียมความพร้อมรับมือกับคลื่นสภาพคล่องโลกระลอกใหม่อย่างมีภูมิคุ้มกัน หากสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงฉับพลันไม่ว่าจะเกิดจากการที่นโยบายการเงินโลกเปลี่ยนทิศอีกรอบ หรือภาวะที่นักลงทุนกลัวความเสี่ยงจนเร่งถอนการลงทุนจากกลุ่มประเทศ EMs เป็นจำนวนมากๆ ในที่สุดก็อาจส่งผลกระทบมาถึงภาวะการเงินในประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะในยุคที่โลกผันผวนเช่นนี้ อะไรๆที่ไม่น่าเกิดก็อาจเกิดขึ้นได้

** บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด **

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


ส.ลูกเด้งส่ง 3 ความหวัง ออกล่าโควตาโอลิมปิก 2020 ตั้งเป้า 2 ที่นั่ง

สมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสฯเตรียมส่ง “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร, “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง และ “ไบรท์” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล ไปลุ้นตั๋วโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ ในรายการควอลิฟายที่โดฮา เดือน มี.ค.นี้ ณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมฯหวังคว้าอย่างน้อย 2 ที่นั่ง เพื่อไปโตเกียวเกมส์ รอบสุดท้าย

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมแถลงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นคนในวงการกีฬาเทเบิลเทนนิส ระหว่างคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ กับเหล่าบุคคลในวงการกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย ที่โรงแรมอเล็กซานเดอร์ รามคำแหง เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา

นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส กล่าวว่า สำหรับการประชุมแถลงนโยบายในครั้งนี้จะเป็นการใช้การมีส่วนร่วมทั้งหมด จากปกติจะมีแต่คณะกรรมการบริหารเข้าร่วม แต่ในครั้งนี้สมาคมได้เปิดโอกาสให้บุคคลในวงการเทเบิลเทนนิสไทยได้ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็นทีมสโมสรต่างๆ โค้ช นักกีฬาทุกกลุ่ม ผู้จัดการแข่งขัน ผู้ตัดสิน สปอนเซอร์ รวมถึงนักวิชาการต่างๆเพื่อพูดคุยร่วมกันว่าอุปสรรคที่ผ่านมาจะแก้ไขกันได้อย่างไร รวมทั้งทิศทางของเทเบิลเทนนิสไทยตั้งแต่ปี 2564-2567 ควรเป็นเช่นไร เป็นการขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งตัวสมาคมฯเองและเหล่าบุคคลในวงการ

“นโยบายหลักๆที่ทางสมาคมวางไว้นั้นแน่นอนว่าเรื่องแรกคือการพัฒนานักกีฬาให้ประสบความสำเร็จ เรื่องที่ 2 คือการจัดการแข่งขัน เพราะปัจจุบันการแข่งขันเทเบิลเทนนิสเริ่มโตขึ้นมาก ดังนั้นการแบ่งกลุ่มแบ่งรุ่นการแข่งขันจึงต้องมีการวางระบบใหม่ทั้งหมด เรื่องที่ 3 คือการพัฒนาบุคลากรซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมอาจจะทำแล้วและพบเจอจุดอ่อนบางอย่างยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องมาแก้ไขกัน นอกจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนากีฬาอาชีพ อุตสาหกรรมกีฬาหรือสปอร์ตทัวริซึม รวมทั้งการทำกีฬามวลชน” นายณัฐวุฒิกล่าว

ขณะที่เรื่องของการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะแข่งขันกันที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตอนนี้ทางสมาคม ได้กำหนดตัวนักกีฬา 3 คนที่จะเป็นตัวแทนทัพเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยไปแข่งขันควอลิฟาย ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการคัดเลือกจากผลงานความสำเร็จมากที่สุดในบรรดานักกีฬาของสมาคม ชุดปัจจุบัน รวมทั้งดูจากเวิลด์แรงกิ้งด้วย โดยทั้ง 3 คนประกอบด้วย “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร, “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง และ “ไบร์ท” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล โดยจะมี 2 ผู้ฝึกสอนคุมทัพไปนั่นคือ “โค้ชต้อม” อาสาฬห์ อมรรัตนสุชาติ และ “โค้ชน้อง” อนิศรา เมืองสุข

ทั้งนี้ การควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ ของเทเบิลเทนนิสจะมี 2 รอบในเดือน มี.ค. โดยรอบแรกจะเป็นการควอลิฟายของนักกีฬาโซนเอเชีย ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ วันที่ 13-15 มี.ค.2564 เมื่อจบแล้วนักกีฬาที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจะมีอีกรายการให้แก้ตัวคือการแข่งขันควอลิฟาย โอลิมปิกเกมส์ ในรอบเวิลด์ทัวร์นาเมนต์ที่จะมีนักกีฬาที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือกจากทุกๆโซนทั่วโลกร่วมแข่งขันต่อที่สนามแห่งเดิมในกรุงโดฮา วันที่ 16-19 มี.ค.2564

แต่ก่อนที่จะถึง 2 รายการที่กล่าวมานี้ก็จะมีแมตช์แข่งขันให้นักกีฬาเข้าร่วมก่อนอีก 2 รายการ คือ “ดับเบิลยูทีที คอนเทนเดอร์” ในระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-6 มี.ค.2564 และรายการดับเบิลยูทีทีสตาร์ คอนเทนเดอร์ ในระหว่างวันที่ 6-13 มี.ค.2564 เป็นการแข่งขันเก็บคะแนนแต่ไม่ได้นำมาใช้ในการควอลิฟายโอลิมปิกรอบนี้ นั่นเท่ากับว่า 3 นักกีฬาของไทยจะต้องลงแข่งขัน 4 รายการ ที่กรุงโดฮาในเดือน มี.ค. ซึ่งทางสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ หรือไอทีทีเอฟ จัดการเช่นนี้เพื่อเลี่ยงไม่ให้นักกีฬาต้องเดินทางไปหลายประเทศ หากแข่งที่กาตาร์ประเทศเดียวก็จะทำการตรวจเชื้อหรือกักตัวตามมาตรการครั้งเดียวและสามารถแข่งได้ทั้ง 4 รายการเลย

“สำหรับการตั้งความหวังของทางสมาคม ครั้งนี้ เรามองว่านักกีฬาที่ส่งไปควอลิฟายทั้ง 3 คนนั้นน่าจะมี 2 คนที่ผ่านการคัดเลือกไปโอลิมปิกได้ จริงๆเราก็หวังทั้ง 3 แต่เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันนักกีฬามากเกินไปเราก็หวังไว้ที่ 2 ใน 3 ก่อน แต่เชื่อว่าเด็กทั้ง 3 เป็นคนที่มีความสามารถมาก พอถึงสถานการณ์จริงอะไรก็เกิดขึ้นได้” นายณัฐวุฒิ กล่าวในตอนท้าย.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


โควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร

โควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร

โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิด ไม่ใช่โรคติดต่อทางการกินอาหารเหมือนโรคไวรัสตับอักเสบ A โรคท้องร่วงจากโนโรและโรตาไวรัส

เพจเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ของนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ระบุข้อความข้อความโรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิด

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration – FDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ว่า โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิด โรคโควิด-19 ไม่ใช่โรคติดต่อทางการกินอาหารเหมือนโรคไวรัสตับอักเสบ A โรคท้องร่วงจากโนโรและโรตาไวรัส

ปัจจุบันมีคนป่วยจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกมากกว่า 110 ล้านคน ยังไม่มีรายงานว่าโรคโควิด-19 ติดต่อกันทางการกินอาหารปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหารถึงแม้จะมีรายงานตรวจพบรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิดบนอาหารทะเลเนื้อสัตว์แช่แข็งและบรรจุภัณฑ์อาหารส่วนใหญ่เป็นซากเชื้อถึงจะมีเชื้อเป็นบ้างแต่จำนวนก็น้อยมากไม่เพียงพอก่อโรคในคน

  • คนซื้ออาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องเช็ดถูทำความสะอาดอาหารและบรรจุภัณฑ์ หรือสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อโรคบนอาหารและบรรจุภัณฑ์
  • ล้างอาหารทะเลเนื้อสัตว์ผักผลไม้ด้วยน้ำ ก่อนนำมาทำเป็นอาหาร
  • ล้างมือก่อนและหลังสัมผัสอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหาร ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลก็เพียงพอแล้ว

โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อหลักๆ ทางการหายใจ โดยหายใจเอาหยดละออง (droplet) เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในระยะ 1-2 เมตร และหายใจละอองฝอย (aerosol) ลอยออกมาจากผู้ติดเชื้อ แพร่กระจายผ่านอากาศ (airborne) ไกลกว่า 2 เมตร 

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์วิธีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้:

วิธีที่ 1 เป็นวิธีที่แพร่กระจายบ่อยที่สุด โดยผ่านทางหยดละออง (droplets) เวลาผู้ติดเชื้อพูด ไอ จาม เชื้อไวรัสอยู่ในหยดละออง ลอยออกมาในอากาศช่วงเวลาสั้นๆ ลอยเข้าทางจมูก เยื่อบุตาของคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อในระยะ 1-2 เมตร ก่อนตกลงบนพื้น

วิธีที่ 2 แพร่กระจายผ่านอากาศ (airborne) พบได้ทั้งในโรงพยาบาลเวลาดูดเสมหะ พ่นยา ใส่ท่อหายใจ และนอกโรงพยาบาล พบได้น้อยกว่าวิธีแรก ในบางสถานการณ์เชื้อไวรัสอยู่ในละอองฝอย (aerosol) แพร่กระจายผ่านอากาศ ไกลกว่า 2 เมตร แขวนลอยในอากาศเป็นชั่วโมง เวลาผู้ติดเชื้อไอ จาม ร้องเพลง ตะโกน ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ คนรวมตัวกันมากๆ คนติดเชื้ออาจออกจากสถานที่นั้นไปแล้ว แต่เชื้อไวรัสยังแขวนลอยอยู่ คนที่อยู่ห่างออกไปเกิน 2 เมตร หายใจเชื้อไวรัสเข้าทางเดินหายใจ วิธีนี้เกิดขึ้นในสนามมวยลุมพินีเมื่อปีที่แล้ว ทำให้คนที่มาชมมวยวันนั้น ติดเชื้อพร้อมกันมากกว่า 50 คน

วิธีที่ 3 ผ่านทางพื้นผิว โดยผู้ติดเชื้อเอามือที่ปิดปากเวลาไอ จาม หลังสั่งน้ำมูก แล้วเอามือนั้นไปสัมผัสกับพื้นผิว เช่นลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได และผู้ติดเชื้อไอ จาม หยดละอองมีน้ำหนักตกลงบนพื้นผิวเช่นโต๊ะ เก้าอี้ หลังจากนั้นคนทั่วไปเอามือสัมผัสพื้นผิว แล้วเอามือที่เปื้อนเชื้อไวรัสมาขยี้ตา แคะจมูก เชื้อไวรัสเข้าเยื่อบุตา จมูก วิธีที่ไวรัสกระจายผ่านทางพื้นผิว ติดต่อทางอ้อมในชีวิตจริงพบน้อยกว่า 2 วิธีแรกมากๆ เพราะเชื้อไวรัสตายเองเร็วมากหลังออกจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


100++ วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย ความหมายน่าสนใจ ไม่รู้ไม่ได้

100++ วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย ความหมายน่าสนใจ ไม่รู้ไม่ได้

ในภาษาอังกฤษมีหลายวาลีที่มีความหมายเพราะและใช้บ่อย ไม่รู้ไม่ได้ ดังนั้นวันนี้ EngBreaking จะพาคุณไปค้าหาวลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวันและวลีเพื่อการทำงานที่โดดเด่นแบบมือโปรวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัว ไปพร้อมกัน

วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน ทุกคนควรรู้ไว้

ก่อนอื่นเราจะไปทำความรู้จักกับวลีภาษาอังกฤษที่มักจะใช้บ่อยก่อนนะคะ สามารถจดไว้เพื่อฝึกใช้ในบทสนทนาทั่วไปได้เลยค่ะ

วลีภาษาอังกฤษ แปลความหมาย
Alive as well เป็นสุขสบายดี
All systems go ทุกอย่างพร้อม
 Always the same. เ เหมือนเดิมตลอด
And away we go! ไป … กันได้แล้ว
Anyways, speak to you again soon ยังไงก็ ไว่คุยกันใหม่นะ
Almost there เกือบถึงแล้ว / ใกล้จะถึงแล้ว
Bye for now แค่นี้ก่อนนะ
bored to death เบื่อมาก
Back to square one กลับไปตั้งต้นใหม่
Behave yourself ทำตัวดีๆ นะ
Believe me, I’m not lying เชื่อฉันซิ ฉันไม่ได้โกหกนะ
Break it up! หยุดเถียงกันได้แล้ว
Calm down please ใจเย็นๆ
call it a day เลิกงานเลิกทำบางสิ่ง
That’s the way it is มันก็เป็นอย่างนี้แหละ
On a scale of one to ten จะให้แต้มเท่าใดดี
Different strokes for different folks ก็แล้วแต่คนชอบ
Time files when you’re having fun เวลาช่างผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกบิน
Go for it เอาเลย, ลองดู, เต็มที่เลย
I’ll take a rain check  เอาไว้คราวหน้า, ขอผัดเป็นคราวหน้าก็แล้วกัน
It is one of those days  มันเป็นวันอะไรของมันกันนี่
Easier said than done พูดง่ายแต่ทำยาก
Like you can do better เหมือนกับว่าทำได้ดีกว่างั้นแหละ
I can live with that พอทนไหว, รับได้, ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
Come again?  ไหนพูดใหม่สิ, ว่าไงนะ, (พูด) อีกทีสิ
What’s the big deal? ไม่เห็นจะมีอะไรเลย, อะไรกันนักกันหนา
Pretty much so ประมาณนั้น, ส่วนใหญ่ก็ตามนั้น, ก็ทำนองนั้น
Help yourself!  เชิญตามสบาย
I was just thinking ฉันแค่กำลังคิด
Is that so? อย่างนั้นหรือ
Of course! แน่นอน
 I guess so ฉันเห็นด้วย
 This is too good to be true มันดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง (เหลือเชื่อ)
You better believe it! เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
Right on! (Great!)  ถูกต้อง!
Never mind!  ช่างมันเถอะ
Don’t go yet. อย่าเพิ่งไป
You’re a life saver คุณช่วยชีวิตฉันไว้
That’s a lie!  นั่นเป็นเรื่องโกหก
This is the limit!   นี่คือขีดจำกัด
Ask for it! แส่หาเรื่อง
Don’t peep!  ห้ามแอบดู
Say cheese! ยิ้มหน่อย
Be good! อย่าซน ทำตัวดีๆ
What a relief!  โล่งอกไปที
 Good job! / Well done!  ดีมาก
Calm down!  ใจเย็นๆ
Go for it!  ลงมือทำเลย
Strike it lucky โชคดี
Just kidding (joking)  ล้อเล่น
Discourages me much!   ฉันรู้สึกท้อมาก
Got a minute?  มีเวลาไหม?
This one is on me! ฉันเลี้ยงเอง
Sorry for bothering!  ขอโทษที่รบกวน
read one’s mind คิดเหมือนฉันเลย
throw in the towel ยอมแพ้
keep an eye on เฝ้าดูเฝ้ามองจับตาดู (ตัวอย่างอื่น ๆ)
give someone a hand ช่วยเหลือ (ตัวอย่างอื่น ๆ)

English Breaking แนะนำวลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆ

วลีภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆในชีวิตประจำวัน

50 most common English phrases

ยกคัสอย่างเกี่ยวกับ Phrases (วลี)  สั้นๆ ตามนี้

  • I have nothing to do all day. I’m bored to death. แปลว่า ฉันไม่มีอะไรทำทั้งวันเลยฉันเบื่อมาก
  • It’s nine o’clock now. Let’s call it a day.แปลว่า  ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้วเลิกงานกลับบ้านกันเถอะ
  • You read my mind. I was going to say that. .แปลว่า   คุณคิดเหมือนฉันเลย (เหมือนอ่านใจฉันได้) ฉันกำลังจะพูดมันเลย
  • I don’t think I can win, so I’ll throw in the towel. แปลว่า ฉันไม่คิดว่าฉันจะชนะดังนั้นฉันจะยอมแพ้
  • Finding a good job is easier said than done. แปลว่า การหางานที่ดีนั้นพูดง่ายแต่ทำยาก
  • Please keep an eye on my son while I go to the bathroom.แปลว่า กรุณาจับตาดูลูกชายฉันในขณะที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ
  • Can you give me a hand putting away these toys? แปลว่า คุณช่วยฉันเก็บของเล่นเหล่านี้หน่อยได้ไหม

วลีภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานที่โดดเด่นแบบมือโปร

แล้วในการทำงานมักจะมีวลีภาษาอังกฤษไหนที่ไม่รู้ไม่ได้ ลองดูรายละเอียดในตารางดังต่อไปนี้นะคะ

วลีภาษาอังกฤษ ความหมายภาษาไทย
How are things? เป็นอย่างไรบ้าง?
How is it going? เป็นอย่างไรบ้าง?
What are you up to? ทำอะไรอยู่เหรอ?
What have you been up to? ทำอะไรอยู่เหรอ?
See you soon! เจอกันเร็วๆนี้นะ!
big deal เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ
Till next time! เจอกันคราวหน้านะ!
Until we meet again! แล้วพบกันใหม่นะ
Have a nice day! ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ!
Have a safe trip! เดินทางปลอดภัยนะ
First of all อย่างแรกเลยนะ
By the way อนึ่ง, อีกประการหนึ่ง
After all สุดท้ายแล้ว, นอกจากนั้น
If I’m not mistaken ถ้าฉัน (คิด/ตัดสินใจ) ไม่ผิด
On the contrary โดยตรงกันข้าม
As a rule โดยทั่วไป
On the other hand ในทางกลับกัน
As I said before ที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว
If I recall correctly ถ้าฉันจำไม่ผิด
Either way อยู่แล้ว, อย่างไรก็ตาม
Perhaps อาจจะ, บางที
Definitely อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว
Absolutely อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว
It can hardly be so มันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้, มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น
Most likely มีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้น
Most unlikely ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
Not a bit ไม่แม้แต่นิดเดียว
I agree with you ฉันเห็นด้วยกับคุณ
I’m afraid so ฉันก็เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
No doubt อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
Thank you in advance! ขอบคุณล่วงหน้า
Don’t mention it! ไม่เป็นไร อย่าไปพูดถึงมันเลย
How was it? แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง? (มันดีไหมหรือยังไง?)
It doesn’t matter. มันไม่สำคัญหรอก
Lucky you! ขอให้คุณโชคดี
Things happen. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด, อะไรก็เกิดขึ้นได้
I’m so happy for you! ฉันดีใจที่เห็นคุณมีความสุข/ได้รับสิ่งที่ดี          
My pleasure ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง
just name it แค่บอกมา(จะทำให้ทุกอย่าง)
you made it ประสบความสำเร็จในบางอย่าง

Most common English phrases in work

ลีภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานไม่รู้ไม่ได้

ยกคัสอย่างเกี่ยวกับ Phrases (วลี)  สั้นๆ ตามนี้

  • Come on, don’t be serious. It’s not a big deal. แปลว่า เอาน่าอย่าเครียดไปเลยมันไม่ใช่เรื่องใหญ่
  • It was my pleasure to meet you. แปลว่าฉันรู้สึกยินดีมากๆที่ได้พบคุณ
  • I will get whatever you need, just name it. แปลว่า ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการแค่บอกมา
  • You made it! I am so proud of you. แปลว่า คุณทำได้จริงๆด้วยฉันภูมิใจในตัวคุณจริงๆ

วลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัว

เมื่ออยากแสดงความเห็นอกเห็นใจในเรื่องราวที่คนอื่นประสบมาก็ถือว่าเป็นมารยาทที่ดีทางสังคมอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆเลย แต่ไม่รู้ในภาษาอังกฤษจะพูดอย่างไรก็ไม่ต้องห่วงเพราะ English Breaking จะแนะนำให้คุณวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัวตามตารางดังต่อไปนี้

วลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ความหมายภาษาไทย
Be strong! เข้มแข็งไว้นะ
Cheer up ร่าเริงหน่อยสิ
Chill out ใจเย็นๆ นะ
Don’t discourage อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเลย
Don’t feel so bad อย่ารู้สึกแย่ไปเลย
Don’t think too much อย่าคิดมากเลยน่า
Don’t worry about it อย่ากังวลใจไปเลย
I feel for you. ฉันเห็นใจเธอนะ
I’ ll encourage you ฉันจะเป็นกำลังใจให้นะ
It can’t be that bad มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง
Pull yourself together ทำตัวให้สดชื่นหน่อย
Snap yourself out of it. ลืมมันไป ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
Look on the bright side มองโลกในแง่ดีบ้างเถอะ
it’s could happen to anyone. เรื่องแบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้
I hope you get well soon. หวังว่าคุณคงจะหายดีเร็วๆ นะ
don’t give up อย่ายอมแพ้
it’s gonna be ok เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง
You’ll get through this เดี๋ยวเธอก็ผ่านมันไปได้นะจ๊ะ
I’m always here for you ฉันอยู่ข้างเธอเสมอนะ
smile on chin up ยิ้ม เริ่ด เชิด จบ
You can do it เธอทำได้แน่
May the force be with you ขอให้พลังจงสถิตย์อยู่กับคุณ

 

English Breaking แนะนำวลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ

วลีภาษาอังกฤษเด็ดๆ ดีๆ เอาไว้พูดให้กำลังใจคนใกล้ตัว

วลีอังกฤษใช้ในบทสนทนาได้แบบฝรั่ง

ทักษะการฟังและการพูดหรือเรียกได้ง่ายๆ คือทักษะการสื่อสารในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญมากบางทีผู้เรียนอาจจะรู้คลังศัพท์มากมาย แต่ไม่กล้าที่จะพูดก็ทำให้ทักษะในการสื่อสารค่อนข้างอ่อน และเมื่ออยากสื่อสารหรือสร้างบทสทนาได้แบบฝรั่งๆ ก็ต้องทราบวลีอังกฤษที่มักจะใช้บ่อยเพื่อทำให้การสนทนาของคุณฟังดูเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวามากขึ้นตามตารางดังนี้

วลีอังกฤษ ความหมายภาษาไทย
How are things?
How is it going?
เป็นไงบ้าง?
How’s life? ชีวิตเป็นไงบ้าง?
Long time no see! ไม่เจอกันนานเลยนะ!
See you soon! เจอกันเร็วๆนี้นะ!
See you later! ไว้เจอกันทีหลังนะ!
Till next time! เจอกันคราวหน้านะ!
Take care! ดูแลตัวเองด้วย!
Talk to you later! ไว้คุยกันทีหลังนะ!
Have a nice day! ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ!
Have a good weekend! สุขสันต์วันหยุดนะ
Just for the record เพื่อให้คุณรู้,…
And so on and so forth เป็นต้น
In other words กล่าวอีกนัยหนึ่ง, กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า
The thing is ประเด็นก็คือว่า
So as to
So that
เพื่อให้
As well as ตลอดจน
All the same ไม่ต่างกัน, เหมือนๆกันทั้งหมด
On one hand ด้านหนึ่งนั้น, เรื่องหนึ่งนั้น
As I said before ที่ฉันได้กล่าวไปแล้ว
Perhaps อาจจะ, บางที
Definitely
Absolutely
อย่างแน่นอน, แน่อยู่แล้ว
It can hardly be so มันไม่น่าที่จะเป็นกรณีนี้, มันไม่น่าที่จะเป็นอย่างนั้น
I believe so
I suppose so
ฉันเชื่อว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นล่ะ
Exactly so
Quite so
อย่างนั้นแหละ, อย่างนั้นเลย
I don’t think so ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ
I think I’ll pass ฉันว่าฉันไม่เอาดีกว่า, ฉันไม่เอาด้วยหรอก (ในการปฏิเสธต่อคำเชิญที่จะไปที่ใดหรือทำอะไรสักอย่าง)
It’s a great idea! เป็นความคิดที่เยี่ยมไปเลย!
I’m looking forward to it ฉันคอยอยู่นะ
Don’t mention it! ไม่เป็นไร!, อย่าไปพูดถึงมันเลย ไม่เป็นไร!
It’s very kind of you! คุณใจดีมากเลย!, คุณมีน้ำใจจัง!
It doesn’t matter. มันไม่สำคัญหรอก
It is new to me. นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับฉันเลย
Things happen. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด, อะไรก็เกิดขึ้นได้
Let’s hope for the best. ร่วมกันหวังเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกันเถอะ

ขอบคุณข้อมูลจาก engbreaking.co.th


เทคโนโลยีอวกาศแอร์บัสนำพาสู่ดาวอังคาร

เทคโนโลยีอวกาศแอร์บัสนำพาสู่ดาวอังคาร

ยานเพอร์เซวีแรนซ์ โรเวอร์ของนาซ่าใช้สถานีตรวจวัดข้อมูลสภาพอากาศและเสาอากาศเพื่อการสื่อสารของแอร์บัส

แอร์บัสพร้อมนำสถานีตรวจวัดข้อมูลสภาพอากาศของดาวอังคาร (Mars Environmental Dynamics Analyzer หรือ MEDA meteorological station) เทคโนโลยีหลักสำหรับให้ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการตรวจวัดอากาศดาวอังคารแก่นักวิทยาศาสตร์ และระบบเสาอากาศรับสัญญาณแรงสูงที่ทำให้การสื่อสารกลับมายังโลกในช่วงภารกิจ MARS2020 เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ปฏิบัติงานทันทีเมื่อยานเพอร์เซเวียแรนซ์ โรเวอร์ (Perseverance rover) ของนาซ่าลงจอดบนพื้นผิวของดาวอังคารในวันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์นี้

เทคโนโลยีอวกาศแอร์บัสนำพาสู่ดาวอังคาร

ยาน Perseverance จะใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ 7 ประเภท เพื่อที่จะศึกษาสภาพแวดล้อมทางชีวภาพและธรณีวิทยาของดาวอังคาร รวมไปถึงสถานีตรวจวัดข้อมูลสภาพอากาศของดาวอังคาร MEDA ที่แอร์บัสได้ออกแบบและสร้างขึ้นมา

อุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ MEDA จะวัดปริมาณตัวแปรสภาวะแวดล้อมโดยใช้เซ็นเซอร์ที่กระจายอยู่ทั่วโรเวอร์สำรวจอวกาศนี้ โดยจะตรวจวัดความเร็วและทิศทางลม ความชื้นสัมพัทธ์ ความดันบรรยากาศ อุณหภูมิของดินและอากาศ รังสีดวงอาทิตย์ และคุณสมบัติของฝุ่นละออง ซึ่งค่าพารามิเตอร์เหล่านี้จะเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อกระบวนการตัดสินใจอิสระเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ Ingenuity สำรวจดาวอังคารบนโรเวอร์ทำการบิน

MEDA เป็นสถานีตรวจวัดข้อมูลสภาพอากาศของดาวอังคารแห่งที่สามซึ่งดูแลโดยแอร์บัสที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ในปี พ.ศ.2555 ยานสำรวจคิวริออสซิตี้ (Curiosity rover) ยานสำรวจสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารหรือที่รู้จักกันในชื่อ REMS (Rover Environmental Monitoring Station) ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารเป็นครั้งแรก และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2561 ได้ทำการส่งอุปกรณ์ตรวจสอบและเฝ้าระวังสภาพอากาศ ณ จุดลงจอดของยาน ที่มีชื่อว่า TWINS (Temperature and Wind for InSight) เดินทางไปพร้อมกับยานสำรวจอินไซต์ (InSight) ซึ่งทั้งสองครั้งนับเป็นภารกิจที่ประสบความสำเร็จของทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Jet Propulsion Laboratory (หรือ JPL) ที่ดูแลโดย NASA

ข้อมูลทั้งหมดที่ยาน Perseverance ค้นพบจะถูกส่งมายังโลกผ่านระบบเสาอากาศรับสัญญาณแรงสูง (HGAS) ซึ่งออกแบบและผลิตโดยแอร์บัส โดยใช้สายอากาศรับและส่งสัญญาณ X-band ที่จะทำให้เกิดการสื่อสารข้อมูลด้วยความเร็วสูง เสาอากาศนี้จะใช้เทคโนโลยีไมโครสตริป (microstrip technology) ที่พัฒนาขึ้นเอง มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองเพื่อรักษาความสะอาดและเสถียรภาพทางความร้อน

เสาอากาศจะส่งข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่สร้างขึ้นโดยเครื่องมือต่าง ๆ และข้อมูลเกี่ยวกับสถานะสุขภาพของยานโรเวอร์โดยตรงและไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อตัวกลาง (เช่น ยานอวกาศ) นอกจากนี้ ยานพาหนะจะได้รับคำสั่งพร้อมกับภารกิจในแต่ละวันจากโลกเนื่องจากเสาอากาศสามารถควบคุมได้จึงสามารถส่ง “ลำแสง” ของข้อมูลชี้ตรงมายังโลกโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายตัวยานซึ่งช่วยทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

การสำรวจแหล่งความร้อนสูงบนดาวอังคารนั้น ระบบเสาอากาศจะต้องมีอุณหภูมิตั้งแต่ -135ºC ถึง +90ºC พร้อมกับการทดสอบความทนทานจากความร้อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยจะเป็นระบบสายอากาศ HGAS อันที่สองของแอร์บัสบนดาวอังคาร ซึ่งระบบแรกยังคงทำงานได้อย่างไร้ที่ติบนยานสำรวจคิวริออสซิตี้มาตลอด 8 ปี

Mars2020 เป็นภารกิจที่ต้องใช้ความพยายามมากที่สุดเท่าที่เคยส่งยานอวกาศไปดาวอังคาร เนื่องจากยานเหล่านั้นจะต้องทำการตรวขสอบหินและดินของดาวอังคารโดยละเอียดมากกว่าที่เคยทำมาในการค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีตบนดาวเคราะห์และจัดเก็บเพื่อการกลับสู่โลกในภายหลัง สัญญาณ หรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตในอดีต (bio-signature) นอกจากนี้ ภารกิจ Mars2020 จะแสดงลักษณะของกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ประกอบขึ้นเป็นพื้นผิว และจะวัดวิวัฒนาการประจำวันและตามฤดูกาลของกระบวนการที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารรวมไปถึงลักษณะของฝุ่นแขวนลอย ยานเพอร์เซวีแรนซ์ยังทดสอบเทคโนโลยีเพื่อช่วยปูทางสำหรับการสำรวจดาวอังคารของมนุษย์ในอนาคต เช่น การสร้างออกซิเจนจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ หรือการบินเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กครั้งแรกบนดาวเคราะห์ดวงอื่น

แอร์บัสและดาวอังคาร

ยานมาร์สเอกซ์เพรสและยานบีเกิล 2 (Mars Express and Beagle 2)

แอร์บัสสร้างภารกิจเดินทางสู่ดาวอังคารครั้งแรกของยุโรป นั่นก็คือยานมาร์สเอกซ์เพรส ซึ่งเปิดตัวไปในปี พ.ศ.2546 อีกทั้งยังออกแบบและผลิตยานบีเกิล 2 (ถูกส่งไปดาวอังคารโดยยานมาร์สเอกซ์เพรส) ซึ่งหายไปอย่างน่าเสียดายหลังจากที่ถูกปล่อยออกมา

ภารกิจสำรวจดาวอังคาร ExoMars

แอร์บัสได้ออกแบบและสร้างหุ่นยนต์สำรวจ ESA ExoMars ซึ่งเป็นหุ่นยนต์สำรวจดาวเคราะห์ตัวแรกของยุโรป หุ่นยนต์สำรวจนี้ถูกสร้างขึ้นในห้องปลอดเชื้อทางชีวภาพแบบพิเศษในเมืองสตีเวนิจ (สหราชอาณาจักร) เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามแนวทางการป้องกันดาวเคราะห์

ตัวอย่าง Fetch Rover

แอร์บัสกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาการออกแบบในขั้นถัดไป (B2) ของ Sample Fetch Rover (SFR) ในนามของ ESA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ Mars Sample Return ในปี พ.ศ.2569 โดย SFR จะถูกส่งไปยังดาวอังคารและค้นหาตัวอย่างที่ยาน Perseverance ทิ้งไว้ ทาง IT จะรวบรวมและนำกลับมาที่แลนเดอร์และวางไว้ในยาน Mars Ascent ซึ่งจะปล่อยขึ้นสู่วงโคจรรอบดาวอังคาร

Earth Return Orbiter

แอร์บัส จะสร้าง Earth Return Orbiter ซึ่งรวมรวมตัวอย่างจากวงโคจรของดาวอังคารและส่งกลับมายังโลก แอร์บัสจะเป็นผู้รับเหมาหลักของ European Space Agency (ESA) ในภารกิจ Mars Sample Return’s Earth Return Orbiter (ERO) ซึ่งเป็นยานอวกาศลำแรกที่นำตัวอย่างกลับมายังโลกจากดาวอังคาร

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ปูนแดง และประโยชน์ปูนแดง

ปูนแดง คือ ปูนที่มีส่วนผสมของปูนขาวกับผงขมิ้นร่วมกับเกลือป่นภายใต้สภาพที่มีความชื้นหรือมีการผสมน้ำ ซึ่งจะได้ก้อนปูนที่มีสีแดงส้มที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของด่างจากปูนขาวกับสารสีเหลืองส้มของขมิ้น

คำว่า ปูนแดง เป็นคำเรียกลักษณะสีของปูนที่ปรากฏ คือ มีสีแดงส้ม แต่ทั้งนี้ สีที่ผสมได้อาจเป็นสีส้มอมแดงก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของผงขมิ้นที่ใช้ทำส่วนผสม เพราะขมิ้นบางสายพันธุ์จะให้สีเหลือง ซึ่งหากนำมาผสมจะได้ปูนแดงเป็นสีส้มอมแดง แต่บางพันธุ์ที่มีสีเหลืองอมส้มหรอมีสีส้มมาก เมื่อผสมกับปูนขาวแล้วก็จะได้ปูนแดงเป็นสีแดงอมส้มที่มีสีแดงที่เข้มข้น

ปูนแดง

ประโยชน์ของปูนแดง
1. ปูนแดงนิยมใช้ทำน้ำปูนใสสำหรับใช้ประโยชน์ในด้านอาหาร ทั้งในระดับอุตสาหกรรม และระดับครัวเรือน ได้แก่
– ใช้ทำขนมหรือของหวาน เช่น ขนมเปียกปูน ลอดช่อง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ขนมมีความแข็งขึ้น มีความกรอบขึ้น รวมถึงช่วยในการต้านเชื้อจุลินทรีย์ ป้องกันอาหารบูดเน่า และเป็นแหล่งช่วยเสริมแคลเซียมให้แก่ร่างกาย

– ใช้ในการแช่ล้างผักหรือผลไม้ ซึ่งช่วยในการล้างยาฆ่าแมลง และช่วยตกตะกอนโลหะหนัก

– ใช้หมักเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ที่เปื่อยยุ่ยง่ายเมื่อถูกความร้อน ช่วยให้เนื้อคงรูปเดิมได้ดี
2. ปูนแดงใช้ประโยชน์ในทางยา ได้แก่
– การนำปูนแดงมาทาพอกบริเวณข้อมือ ข้อเข่า เพื่อช่วยลดอาการปวด และลดอาการอักเสบ หรือ นำปูนแดงมาทาพอกรักษาแผล ช่วยให้แผลแห้ง ลดน้ำหนองไหล
– ปูนแดงนำมาทาบางๆบนใบพลูสำหรับเคี้ยวกับหมาก ช่วยรักษาโรคฟันผุ และช่วยให้ฟันแข็งแรง
3. ปูนแดงใช้ประโยชน์ในทางการเกษตร ได้แก่
– ใช้ปูนแดงทาปลายกิ่งสำหรับการปักชำสำหรับช่วยให้รากงอกเร็ว และป้องกันการเน่าของรากจากเชื้อรา
– ใช้ปูนแดงทาแผลของเปลือกต้นไม้ เพื่อช่วยป้องกันเปลือกเน่าจากเชื้อรา และป้องกันด้วงเจาะต้นไม้
– ใช้ในการรักษาสภาพผักหรือผลไม้ให้เก็บได้นานขึ้น ด้วยการฉีดพรมหรือการแช่

การทำปูนแดงหรือผลิตปูนแดง
1. นำหินปูนหรือเปลือกหอยมาเผาไฟ ซึ่งจะใช้วิธีก่อกองไฟด้านล่าง และกองหินปูนไว้ด้านบน ซึ่งจะต้องคอยใส่ฟืนหรือเชื้อเพลิงให้ได้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ตามวิถีของชาวบ้านมักจะเผาประมาณ 3 วัน 3 คืน สำหรับเตาขนาดเล็ก แต่หากเตาขนาดใหญ่อาจใช้เวลานานมากกว่า 1 สัปดาห์
2. คอยมั่นตรวจสภาพการสุกขอหินปูน โดยการสังเกตง่ายๆ คือ เปลวไฟที่แทรกออกจากหินปูนจะมีเปลวสีทอง และก้อนหินปูนมีสีขาวทั่วก้อน ซึ่งจะต่างกับก่อนเผาที่มีลักษณะเป็นสีของหิน นอกจากนั้น อาจใช้วิธีนำบางก้อนที่เล็กๆออกมาบีบดู หากบีบแล้วแตกเป็นผงละเอียดก็แสดงว่าหินปูนสุกเป็นปูนขาวได้ที่แล้ว หลังจากนั้น ค่อยลดเชื้อเพลิงลงให้ดับ และปล่อยให้เย็น ก่อนจะลำเลียงออกจากเตา ซึ่งในขั้นนี้จะเรียกหินปูนที่เผาแล้วว่า ปูนก้อน

3. นำปูนก้อนเข้าเครื่องบดหรืออาจใช้วิธีการทุบ (ปริมาณน้อย) จนได้ผงสีขาวละเอียด ซึ่งจะเรียกผงนี้ว่า ปูนขาว (ประกอบด้วยแคลเซียม,Ca และออกซิเจน,O)
4. นำผงปูนขาวเทลงใส่บ่อผสมหรือที่เรียกว่าบ่อกรองที่ก่อด้วยอิฐมอญ อาจเป็นบ่อสีเหลี่ยมหรือบ่อวงกลม ลึกประมาณ 1 เมตร หรือ ขึ้นกับปริมาณที่ต้องการผสม
5. นำผงขมิ้น และเกลือเทลงผสม พร้อมใช้จอบหรือพลั่วคลุกให้เข้ากัน พร้อมกับเติมน้ำลงคลุกผสมจนได้น้ำปูนเหลวที่มีสีส้มแดงหรือแดงเรื่อตามชนิดของขมิ้นที่ใช้ ซึ่งขณะที่เติมน้ำลงผสมจะเกิดความร้อนแผ่ออกมามาก ผู้ทำหน้าที่คลุกผสม ควรระวังห้ามลงผสมในบ่อ โดยไม่สวมรองเท้าบูท หรือ ให้ใช้จอบยืนคลุกผสมเหนือบ่อจะปลอดภัยกว่า
6. เมื่อทำการกวนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้ตักน้ำปูนแดงมากรองผ่านผ้าขาวบางลงในบ่อตาก เพื่อกรองตะกอนหรือเศษวัสดุอื่นออก จากนั้น จึงปล่อยให้น้ำแห้งประมาณ 3-4 วัน จะได้เนื้อปูนแดงที่มีลักษณะเกือบเป็นโคลน ซึ่งเรียกปูนที่จับตัวกันในบ่อว่า ปูนแดง

7. หลังจากนั้น ก็ทำการตักเนื้อปูนแดงใส่ถุงบรรจุหรืออาจปั้นเป็นก้อน แล้วนำมาผึ่งแดดให้แห้ง ก็ส่งจำหน่าย

ปูนแดง1

ขอบคุณข้อมูลจาก siamchemi.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 25,300.00 25,400.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,639.00 24,847.24 25,900.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,475.10 22,362.52 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,311.20 19,877.79 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 738.00 11,188.08 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 574.00 8,701.84 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,698.00 25,741.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 22/02/2564

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05
แก๊สโซฮอล์ 91 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78
แก๊สโซฮอล์ E20 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54
แก๊สโซฮอล์ E85 20.54 20.54 20.54
เบนซิน 95 33.46 33.91 33.96 33.46 33.46
ดีเซล B7 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99 26.99
ดีเซล 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99 23.99
ดีเซล B20 23.74 23.74 23.94 23.74 23.74 23.74 23.74
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.44 31.46 33.44 32.84 31.44
แก๊ส NGV 13.35 13.35 13.35
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า