สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561

จับตาบ้าน 4 เทรนด์ใหม่ รับยุค 4.0

จับตาบ้าน 4 เทรนด์ใหม่ รับยุค 4.0

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ในยุค 4.0 ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อเทรนด์การสร้างบ้านในปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งจากสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงสร้างประชากรศาสตร์ของประเทศไทย ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)

คนอยากมีบ้านอายุน้อยลง
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ที่ต้องการมีบ้านได้เปลี่ยนจากกลุ่มที่มีอายุ 45-60 ปี เป็นกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรสูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้น การสร้างบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ จึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก

เทรนด์สร้างบ้าน เน้นรักษ์โลก-ผู้สูงอายุ-บ้านอัจฉริยะ

เทรนด์สร้างบ้าน เน้นรักษ์โลก-ผู้สูงอายุ-บ้านอัจฉริยะ

4 เทรนด์หลัก เน้นรักษ์โลก-ผู้สูงอายุ-บ้านอัจฉริยะ
แบบบ้านที่ได้รับความสนใจในปี 2561 มี 4 เทรนด์หลัก ได้แก่
1. Eco Friendly แบบบ้านประหยัดพลังงานและรักษ์โลก เป็นบ้านที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม บ้านลักษณะนี้ถูกออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบายเพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ และป้องกันความร้อนที่สะสมในบ้าน โดยทั่วไปการออกแบบบ้านลักษณะนี้จะเน้นวิถีทางธรรมชาติ ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยี โดยอาจติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน หรือติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บเป็นพลังงานทดแทน

2. Cluster บ้าน 3 เจนเนอเรชั่น แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นปู่ย่า ตายาย อาศัยอยู่ร่วมกันกับบ้านลูก บ้านหลาน ในพื้นที่เดียวกันหรือหลังเดียวกัน โดยมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน และใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์กันอย่างอบอุ่น เป็นบ้านผู้สูงอายุที่ไม่โดดเดี่ยว

3. บ้านแบบครอบครัวขยาย Multi Family หรือบ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน แบบบ้านที่มีลักษณะอยู่อาศัยแบบหลายครอบครัว ซึ่งขยายพื้นที่ใช้สอยออกไปได้ทั้งแนวสูงหรือแนวกว้างแล้วแต่ขนาดของที่ดิน แยกเป็นบ้านของพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว หรือพี่น้อง ที่ตัดสินใจสร้างบ้านพักอาศัยอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว รวมทั้งมีส่วนบริการ สันทนาการร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ห้องรับประทาน ฟิตเนส หรือสวนของบ้าน

4. Innovative Living บ้านอัจฉริยะ แบบบ้านที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย โดยคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น ระบบการสั่งการด้วยเสียง หรือระบบสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย (Gesture Control) ในการเปิด-ปิดไฟฟ้า ผ้าม่าน และเครื่องปรับอากาศ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 5% หรือมีมูลค่าตลาดรวม 11,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคให้กล้าใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ในการปลูกสร้างบ้านมากขึ้น

https://www.ddproperty.com


รถไฟฟ้า 11สาย พลิกโฉมกรุงเทพ ดันอสังหาฯโต

รถไฟฟ้า 11 เส้นทาง ครอบคลุมกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 500 กม. พลิกโฉมมหานครกรุงเทพฯ ดันตลาดที่อยู่อาศัยเกาะแนวรถไฟฟ้า-รอบเมืองโต “ออมสิน”ชี้สินเชื่อบ้านมีโอกาสขยายตัว หลังดีเวลอปเปอร์พัฒนาโปรดักท์หลากหลาย

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าแนวทางการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าเชื่อมโยงกรุงเทพฯ และปริมณฑล 11 สาย โดยเส้นทางล่าสุดคือสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ระยะทางกว่า 20 กม. ซึ่งคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้เห็นชอบหลักการสายล่าสุด โดยเมื่อทุกเส้นทางก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีเส้นทางรวม 480 กม. ทำให้กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในมหานครติดอันดับ “ท็อป5” ของโลกที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าเชื่อมโยงพื้นที่กลางเมืองสู่นอกเมืองยาวที่สุด รวมทั้งมีการเชื่อมโยงการเดินทางระบบขนส่งอื่นๆ ทั้งระบบราง ถนน อากาศ และน้ำ เป็นระบบขนส่งเดียวแบบไร้รอยต่อ

การก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เชื่อมโยงพื้นที่นอกเมือง เป็นปัจจัยส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยใหม่ ตามเส้นทางรถไฟฟ้าประเภทคอนโด รวมทั้งที่อยู่อาศัยนอกเมือง โดยใช้ระบบขนส่งรถไฟฟ้าในการเดินทาง นอกจากนี้จะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รูปแบบต่างๆ ในพื้นที่สถานีกลางเชื่อมโยงรถไฟฟ้าเส้นต่างๆ

ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีคนอาศัยอยู่กว่า 10 ล้านคน หลังจากเส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้ดำเนินการครบทุกเส้นทาง จะทำให้มีคนเข้ามาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น หรือระดับ 15-17 ล้านคน ทั้งกลุ่มทำงาน นักศึกษา ถือเป็นโอกาสของผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวรถไฟฟ้าและรอบเมือง

ที่ดินเกาะแนวรถไฟฟ้าพุ่งแรง

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส เปิดเผยว่าปัจจุบันรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการ 4 เส้นทาง ระยะทางกว่า 100 กม. คิดเป็นสัดส่วน 6% ของจำนวนผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และเมื่อเปิดให้บริการครบทุกเส้นทางภาครัฐวางเป้าหมายสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20%

รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ให้บริการมากว่า 17-18 ปี ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 9% ปัจจุบันยอดผู้ใช้วันธรรมดา 7-8 แสนคน คาดว่าหลังจากสายสีชมพูและสายสีเหลืองเปิด ทั้ง 3 สายจะมียอด 1.5 ล้านคน/วัน

ดังนั้นโครงข่ายรถไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยส่งเสริมการพัฒนาเมือง รวมทั้งที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในอนาคต โดยจะมีคอนโดเกิดตาแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น และกระจายรอบนอกในเส้นทางรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ และพบว่ามช่วงปี 2553-561  ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าปรับขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ย 10% โดย่ใจกลางเมืองปรับขึ้นสูงกว่า ขณะที่ราคาที่ดินทั่วไปปรับขึ้นเฉลี่ยปีละ 3%

“กรุงเทพฯ กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จทั้งหมด คนจะเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น และเป็นมืองสมัยใหม่ รอบสถานีมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์มากขึ้น เป็นปัจจัยส่งเสริมตลาดอสังหาฯเติบโต”

 รถไฟฟ้าหนุนคอนโดเติบโต

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ยังเติบโตด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ จีดีพีขยายตัว รวมทั้งการขยายตัวของระบบคมนาคม ทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน ถนนตัดใหม่ โดยรถไฟฟ้าสายแรกสีเขียว อยู่ในใจกลางเมือง แต่การขยายเส้นทางสายอื่นๆ กระจายออกจากย่านธุรกิจสู่พื้นที่รอบนอก ปัจจุบันยังไม่เป็นเครือข่ายเชื่อมทุกเส้นทาง แต่อีก 6-7 ปี จะเห็นการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายที่สมบูรณ์ และเป็นใยแมงมุมเมื่อครบทุกเส้นทางใน 10 ปีข้างหน้า ถือเป็นโอกาสของคอนโด ที่เป็นการเปิดพื้นที่การพัฒนาใหม่ๆ จากเดิมกระจุกตัวในเส้นทางรถไฟฟ้าสายเดิม ซึ่งการเริ่มก่อสร้างเส้นทางใหม่ ส่งผลให้มีจำนวนยูนิตคอนโดเปิดในปีที่ผ่านมากว่า 5.6 หมื่นยูนิต แต่กระจายตัวมากขึ้นในหลายพื้นที่ โดยตลาดใหญ่ยังอยู่ที่ราคา 2-4 ล้านบาทต่อยูนิต

ปีที่ผ่านมาคอนโดใหม่มียอดขายสูงถึง 60-70% จาก 2-3 ปีก่อนอยู่ที่ 40-50% จากปัจจัยการเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ คาดว่าปีนี้จำนวนยูนิตเปิดใหม่ในตลาดคอนโดใกล้เคียงปีก่อน แต่พบว่ามีบางทำเลยังอยู่ในภาวะยังอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย เช่น เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง

“ในอีก 5 ปีหลังจากนี้ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่อย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยเปลี่ยนโฉมกรุงเทพฯ ทุกอย่าง อยู่ที่ดีเวลลอปเปอร์แต่ละราย ว่าจะเลือกโปรดักท์ ประเภทใดมาพัฒนา เพื่อเจาะกำลังซื้อแต่ละพื้นที่ และเป็นปัจจัยผลักดันตลาดที่อยู่อาศัยขยายตัว”

 นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดคอนโดแนวรถไฟฟ้า และพื้นที่ใกล้เคียงเส้นทางรถไฟฟ้า ยังมีโอกาสพัฒนาได้หลายเซ็กเมนต์ ทั้งกลุ่มที่อยู่ติดรถไฟฟ้า สำหรับตลาดบน และต่างชาติ ซื้อลงทุน รวมทั้งทำเลเข้าซอยที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า ยังมีโอกาสสำหรับตลาดระดับกลาง

 สินเชื่อที่อยู่อาศัยโอกาสโต

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ยังมีโอกาสขยายตัว จากการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ ซึ่งปีที่ผ่านมาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น 3.5% โดยยอดขายโต 5.5% ขณะที่มูลค่าเพิ่ม 11% สะท้อนราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะคอนโดติดแนวรถไฟฟ้า จากราคาที่ดินปรับตัวสูง

ปัจจุบันพบว่าข้อจำกัดด้านที่ดิน ซีบีดี สำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัยมีน้อยลง แม้ราคาอสังหาฯ ย่านธุรกิจไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ถือว่ายังถูกกว่า ฮ่องกง สิงคโปร์ ทำให้มีดีมานด์จากกลุ่มต่างชาติ เข้ามาสนับสนุน จึงยังเห็นการลงทุนพัฒนาโครงการของดีเวลลอปเปอร์ ในพื้นที่เมืองเกาะแนวรถไฟฟ้า

อย่างไรก็ตามจากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้เกิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยหลายประเภท และเป็นทางเลือกให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย ดังนั้นมองว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโต ทุกสถาบันการเงินยังคงให้ความสำคัญกับการขยายพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นการปล่อยกู้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน ปัจจุบันสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นสัดส่วน 22.8% ต่อจีดีพี ยังมีโอกาสเพิ่มได้อีก เมื่อเทียบกับ มาเลเซีย อยู่ที่ 30-40% และยุโรป 60-70%

http://www.bangkokbiznews.com


เศรษฐกิจ ปี61 อาจโตเกิน 4.1% หลังตัวเลขส่งออกพุ่ง

สมคิด มอง เศรษฐกิจ ปี 61 อาจโตเกิน 4.1% หลังตัวเลขส่งออกพุ่ง ส่วนคุมเงินดิจิทัลสรุป มี.ค.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว่า เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาเติบโตได้ต่อเนื่องและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จนมาช่วงการฟื้นตัวที่เริ่มเต็บที่ทั้งเศรษฐกิจในปี 2560 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.9 และการส่งออกดีขึ้นต่อเนื่องโดยในเดือนมกราคม 2561 สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 17.6 สูงสุดในรอบ 62 เดือน ถือว่ายังขยายตัวได้ และปีนี้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวเกินร้อยละ 4.1

แต่ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่จะถือเป็นโอกาสในการพัฒนาของประเทศ และประชาชนตัองมีความสามารถเพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพในอนาคต และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยภาครัฐได้ผลักดันผ่าน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทุกคน ที่จะนำไปสู่การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งธุรกิจ e-commerce และกลุ่ม Startup จากผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs ที่จะเป็นกำลังหลักในการผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทดแทนการส่งออก ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4-5 เป็นหลายเท่า โดยเรื่องทั้งหมดจะสำเร็จได้ต้องมีความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันให้เกิดขึ้น

นอกจากนี้ การกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล จะต้องมีหน่วยงานที่เข้ามาควบคุมดูแล เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งการวางหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตดำเนินการเกี่ยวกับการทำธุรกรรม เพราะสกุลเงินดิจิทัล มีลักษณะคล้ายการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเรื่องดังกล่าวนั้นจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนา

https://news.mthai.com


ค่าบาท ‘แข็งค่า’ หวั่นสงครามค่าเงิน

บาทเปิดตลาดเช้านี้ แข็งค่า “31.47 บาทต่อดอลลาร์” ฝั่งยุโรปกังวลกับ “การทำสงครามค่าเงิน” ของฝั่งสหรัฐอเมริกา ตลาดการเงินไทยเริ่มผันผวน

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.47บาทต่อ ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดสิ้นวันทำการก่อนที่31.55บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก แม้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐจะยังอยู่ในระดับต่ำ (2.22 แสนคน) แต่นักลงทุนก็พบกับความกังวลเรื่องแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐไปพร้อมกัน

ที่น่าสนใจคือธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เริ่มส่งสัญญาณผ่านรายงานการประชุมครั้งล่าสุดว่ามีความกังวลกับ “การทำสงครามค่าเงิน” ของฝั่งสหรัฐอเมริกา และมีความจำเป็นจะต้องปรับท่าทีและการส่งสัญญาณของการใช้นโยบายการเงินในปีนี้ อาจตีความได้ว่าค่าเงินยูโรในปัจจุบันถือว่า “แพงเกินไป” ในสายตาของอีซีบี

ในส่วนของฝั่งตลาดการเงินไทยยังอยู่ในช่วงความผันผวนสูง โดยเริ่มลามไปที่ตลาดบอนด์ ล่าสุดบอนด์ยีลด์ไทยอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 2.53% ตามยีลด์สหรัฐ หลังค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงและผลการประมูลบอนด์ระยะสั้นก็เริ่มชี้ว่าปริมาณความต้องการบอนด์ที่ระดับยีลด์ปัจจุบันเริ่มลดลง เราเชื่อว่าในระยะสั้นบอนด์ยีลด์ไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้สูงขึ้นอีกโดนเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุสูงกว่า 5 ปีถ้าเงินบาทก็ยังคงอ่อนค่า

มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.40- 31.66บาท

http://www.bangkokbiznews.com


15 บทเรียนจากคำสอนจากท่าน ‘ดาไล ลามะ’ ที่จะทำให้คุณรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการใช้ชีวิต

มนุษย์เราต้องดำเนินชีวิตไปทุกๆ วัน แต่ก็ด้วยสังคมที่ดูยุ่งเหยิงในทุกวันนี้ ทำให้หลายคนมองหาความสุขในชีวิตของตัวเองไม่เจอ ในปัจจุบันจึงมีหนังสือที่เกี่ยวกับการหาความสุขง่ายๆ ในแต่ละวันออกมามากมาย ซึ่งผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านนี้ก็ต้องมีชื่อของ องค์ดาไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณแห่งทิเบต รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อของ องค์ดาไลลามะ แต่อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านเป็นใคร สำหรับตำแหน่งดาไลลามะนั้น เป็นตำแหน่งของประมุขคณะสงฆ์แห่งศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่จะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ซึ่งในปัจจุบัน เทนซิน เกียตโซ (Tenzin Gyatso) ก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นองค์ดาไลลามะองค์ที่ 14 อยู่ และผลงานของท่านก็มีให้เห็นอย่างมากมาย ทั้งการเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพให้แก่ประเทศและประชาชนชาวทิเบต จนกลายเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ รวมถึงยังได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพอีกด้วย

สำหรับอีกอย่างหนึ่่งที่ท่าน ดาไลลามะ มีให้กับโลกใบนี้ก็คือคำสอนต่างๆ ที่เราสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้มีความสุขได้ง่ายๆ และนี่คือ 15 บทเรียนที่อาจจะทำให้เราอาจจะมีความสุขยิ่งขึ้นในชีวิตที่วุ่นวายๆ อย่างทุกวันนี้เมื่อลองนำไปปฏิบัติดู ซึ่งคำสอนของท่านที่ได้กล่าวมาจะเป็นเช่นไรนั้น มาอ่านไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

1. จุดประสงค์สูงสุดในชีวิตของคนเราคือการมีความสุข เราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง แต่อย่างไรหัวใจของเราก็ต้องการความหวัง และมันจะทำให้เราสามารถก้าวต่อไปได้

2. ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเรายึดติดกับความแตกต่างระหว่างกันทั้งเรื่อง เชื้อชาติ ศาสนา การศึกษา ฐานะ แต่จริงๆ แล้ว สิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เราต้องจำไว้ก็คือ เราล้วนเป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน ซึ่งหากมองในมุมมองก็จะทำให้ไม่เห็นความแตกต่างรวมถึงไม่เกิดความขัดแย้งขึ้น

3. มิตรภาพ มิได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียง เงินทอง หรือความแข็งแกร่งกำยำของร่างกาย แต่มันขึ้นอยู่กับความเชื่อใจและความรัก

4. ทุกๆ คนต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสิ่งดีๆ ที่ไม่เพียงแต่ดีต่อตัวเอง หรือดีต่อครอบครัวเท่านั้น แต่ต้องเป็นผลดีต่อมนุษยชาติด้วย เพราะความรับผิดชอบร่วมกันคือแนวคิดที่ทำให้มวลมนุษย์อยู่รอดต่อไปได้

5. แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ว่ากับตัวเองหรือกับโลกจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้รวดเร็ว แต่ถ้าเราไม่ลองพยายามก็จะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป

6. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตของเราสบายขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้ใจของเราสบายขึ้นแต่อย่างใด

7. ถ้าอยากมีชีวิตที่มีความสุข จงเปิดกว้างยอมรับและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เพราะนี่คือพื้นฐานของมิตรภาพอย่างง่ายๆ

8. การเปลี่ยนแปลงมิได้เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของรัฐบาลหรือหน่วยงานใด การเปลี่ยนแปลงจริงๆ จะเกิดขึ้นเมื่อผู้คนเริ่มใช้สามัญสำนึกของแต่ละคนในการตัดสินใจต่อสิ่งใดๆ

9. ความรุนแรงเป็นวิธีที่ล้าสมัยในการแก้ไขข้อพิพาทและความขัดแย้ง

10. ชีวิตที่ดีสำหรับมวลมนุษย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอธิษฐานเท่านั้น จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับการกระทำมากกว่า

11. ถ้ามนุษย์ฆ่าสัตว์มันเป็นเรื่องที่เศร้า แต่ถ้ามนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองมันจะเป็นเรื่องที่แย่มาก เราต้องพยายามคิดถึงผู้อื่นให้มากๆ เข้าไว้

12. ข้าพเจ้าต้องการเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นเหมือนกับเด็ก นั่นก็คือเปิดใจและยอมรับผู้อื่นในสิ่งที่พวกเขาเป็น

13. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สามารถลดความกลัว รวมถึงสร้างความมั่นใจในตัวเราให้มากขึ้นได้ เมื่อเราเชื่อใจผู้อื่นและเปิดใจยอมรับพวกเขา เราจะไม่รู้สึกเหมือนกับอยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป

14. ข้าพเจ้าเป็นปรมาจารย์ด้านการหัวเราะ แม้ว่าข้าพเจ้าจะเคยพบเจอปัญหาใหญ่ๆ มากมายในชีวิต หรือประเทศของข้าพเจ้ากำลังเจอช่วงเวลาที่โหดร้าย แต่ข้าพเจ้าก็มักจะหัวเราะออกมาบ่อยๆ

การหัวเราะเป็นเหมือนโรคติดต่อที่สามารถแพร่ไปได้ง่ายมากๆ และเมื่อมีคนถามว่า ข้าพเจ้าทำอย่างไรถึงมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหัวเราะในช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ ข้าพเจ้าก็ตอบไปอย่างง่ายๆ ว่า ‘ก็ข้าพเจ้าเป็นปรมาจารย์ด้านการหัวเราะนี่’

15. ศาสนาของข้าพเจ้าเป็นสิ่งที่เรียบง่าย ศาสนาของข้าพเจ้าคือความเมตตา

และนี่คือ 15 บทเรียนที่องค์ดาไลลามะได้เคยฝากเอาไว้กับโลกใบนี้ หวังว่าบทเรียนเหล่านี้จะสามารถช่วยเพื่อนๆ ให้สามารถมีความสุขมากขึ้นในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี รวมถึงทำให้คนรอบข้างมีความสุขเช่นเดียวกันนะ

www.catdumb.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 23/02/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,750.00 19,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,279.00 19,389.64 20,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,151.10 17,450.68 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 576.00 8,732.16 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 448.00 6,791.68 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,325.00 20,087.00 n/a

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  23/02/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55
แก๊สโซฮอล E-20 25.04 25.04 25.04 24.54 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78 26.78
เบนซิน 95 34.66 35.11 35.16 34.66 34.66 34.66
ดีเซลหมุนเร็ว 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69 26.69
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.69 30.56 30.56 30.56 30.56
มีผลตั้งแต่ 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00 23 Feb 05:00

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า