สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2564

ครม.เคาะงบ 3.6 แสนล้าน ลุยแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ

ครม.เคาะงบ 3.6 แสนล้าน ลุยแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ 

โฆษกรัฐบาล เผยมติครม. เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ปีงบ 65 วงเงิน 366,538.8423 ล้านบาท 48,687 แผนงาน/โครงการ

วันที่ 23 มีนาคม 64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าครม. รับทราบแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงิน 366,538.8423 ล้านบาท รวม 48,687 แผนงาน/โครงการ ซึ่งสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ  20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)  ประกอบด้วย

แผนปฏิบัติการ ฯ จำแนกตามกระทรวง/หน่วยงาน รวม 9 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม  สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงพลังงาน รวมแผนส่วนภูมิภาค องค์กรส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และจังหวัด วงเงิน 366,538.8423

และครอบคลุมแผนแม่บท ฯ ทั้ง 6 ด้าน คือ 

– การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค 

– การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต  

– การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย   

– การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ   

– การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม

– ป้องกันการพังทลายของดินการบริหารจัดการ  

โดยแผนปฏิบัติการนี้ จะกระจายอยู่ในทุกภาค ทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ภาคเหนือ  ภาคกลาง  ภาคใต้  ภาคตะวันออกและส่วนกลาง ด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก  thansettakij.com


การเคหะฯ เปิดให้ ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองบ้านเช่า

การเคหะฯ เปิดให้ ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองบ้านเช่า

การเคหะแห่งชาติเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองบ้านเช่า“บ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้าและฉลองกรุง” ตั้งแต่วันที่ 23 – 30 มีนาคม 2564

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองอาคารเช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชานำร่อง 2 โครงการ คือ โครงการบ้านเคหะ
สุขประชาร่มเกล้า และโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ตั้งแต่วันที่ 23 – 30 มีนาคม 2564 สามารถลงทะเบียนจองทางเว็บไซต์ของการเคหะแห่งชาติ www.nha.co.th หรือ LINE OA : @NHA.THAILAND หากไม่สะดวกมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หรือสำนักงานเคหะชุมชนของการเคหะแห่งชาติทั่วประเทศ

นายทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีความห่วงใยประชาชนได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติเน้นการจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างโอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติแห่งชาติได้เสนอ “โครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย” ให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยมีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละประมาณ 20,000 หน่วย โดยการเคหะแห่งชาติดำเนินโครงการดังกล่าวภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มเปราะบาง ข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการเกษียณ รวมถึงผู้บุกรุกในพื้นที่สาธารณะ ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)

อีกทั้งเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี(พ.ศ.2560 – 2579) ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว (Housing for all) สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้ที่เรียนจบไม่มีงานทำ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ ลูกกตัญญู คนตกงาน/ไม่มีที่ดินทำกิน คนพิการและผู้สูงอายุที่ยังทำงานได้ และแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องการอาชีพ

นอกเหนือจากการเช่าอยู่อาศัยในโครงการบ้านเคหะสุขประชาแล้ว การเคหะแห่งชาติยังได้สร้างเศรษฐกิจชุมชนคู่ขนานกันไปในมิติ มีบ้าน – มีอาชีพ – มีรายได้ – มีสุข ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้สามารถประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีการพัฒนาชุมชนที่เปรียบเสมือนนิคมสร้างตนเอง ซึ่งนอกเหนือจาก
โซนที่พักอาศัยแล้ว ภายในโครงการยังจัดให้มีพื้นที่สีเขียว พื้นที่สันทนาการ พื้นที่จอดรถ และพื้นที่ “เศรษฐกิจสุขประชา”

ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ มี 6 รูปแบบ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด  อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก – ส่ง โดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยประกอบอาชีพอิสระในชุมชน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น พื้นที่ในเขตเมืองจัดทำเป็นตลาดชุมชน เนื่องจากประชาชนที่อยู่ในเมืองมักจะประกอบอาชีพอยู่แล้ว ส่วนโครงการในพื้นที่ภูมิภาคจัดให้มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และกสิกรรม เป็นต้น

การเคหะฯ เปิดให้ ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองบ้านเช่า

ปัจจุบันโครงการบ้านเคหะสุขประชาอยู่ระหว่างดำเนินโครงการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 โครงการ จำนวน 572 หน่วย ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย และโครงการบ้านเคหะ
สุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย มี 4 รูปแบบ ประกอบด้วย แบบ X (สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร ค่าเช่า 1,500 บาท/เดือน แบบ A (ผู้มีสถานะโสด) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร ค่าเช่า 2,000 บาท/เดือน แบบ B (ครัวเรือนใหม่ 1 ห้องนอน) พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร ค่าเช่า 2,500 บาท/เดือน และแบบ C (ครอบครัว
2 ห้องนอน) พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร ค่าเช่า 3,000 บาท/เดือน

การเคหะแห่งชาติเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองอาคารเช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้าและโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง โดยมีคุณสมบัติดังนี้ 1. เป็นประชาชนที่ถือสัญชาติไทย 2. เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องมาจากสถาณการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อาทิ ถูกเลิกจ้างงาน เปลี่ยนอาชีพ ย้ายถิ่นฐาน รายได้ลดลง เป็นต้น 3. เป็นผู้ว่างงาน เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว เป็นคนพิการ เป็นผู้สูงอายุ และเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการไล่รื้อเวนคืน ข้าราชการเกษียณ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และกฎหมายกำหนด 4. บรรลุนิติภาวะ สามารถจัดทำนิติกรรมสัญญากับการเคหะแห่งชาติได้ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 5. เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อเดือนต่อครัวเรือน จากเอกสารรับรองตนเองและ
ผ่านการพิสูจน์ตรวจสอบหลักฐานจากการเคหะแห่งชาติ

ส่วนเงื่อนไขการจอง ประกอบด้วย 1. ผู้จองสิทธิต้องแสดงเจตจำนงการเข้าอยู่อาศัยประจำและร่วมดำเนินกิจการเศรษฐกิจสุขประชา (ต้องเข้าอบรมโครงการสุขประชา (Sukpracha Academy) ตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด 2. ผู้จองสิทธิกรณีเป็นผู้สูงอายุต้องมีสุขภาพแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือกรณีเป็นคนพิการต้องขึ้นทะเบียนคนพิการกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือมีผู้ดูแลเป็นการเฉพาะ 3. ให้สิทธิจองที่อยู่อาศัยโครงการบ้านเคหะสุขประชาใด ๆ เพียงครอบครัวละ 1 หน่วย (ครอบครัว หมายถึง บิดา มารดา สามี ภรรยา (นิตินัยหรือพฤตินัย) บุตรหรือบุตรบุญธรรม) 4. ไม่สามารถโอนสิทธิการจองและสิทธิการเช่าให้กับผู้อื่น และไม่อนุญาตให้เช่าช่วง 5. ผู้จองสิทธิต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้าหรือเงินมัดจำ 1 เดือน โดยค่าเช่าขึ้นอยู่กับประเภทของรูปแบบบ้านในแต่ละโครงการ

การเคหะฯ เปิดให้ ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนจองบ้านเช่า

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนจองอาคารเช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า และโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2564 เวลา 08.30 น. ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2564 เวลา 24.00 น. สามารถลงทะเบียนจองทางเว็บไซต์ของการเคหะแห่งชาติ www.nha.co.th หรือ LINE OA : @NHA.THAILAND หากไม่สะดวกมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หรือสำนักงานเคหะชุมชนของการเคหะแห่งชาติทั่วประเทศ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


แบงก์รัฐพร้อมหนุนมาตรการอุ้มผู้ประกอบการธุรกิจจากโควิด3.5แสนล้าน

แบงก์รัฐพร้อมหนุนมาตรการอุ้มผู้ประกอบการธุรกิจจากโควิด3.5แสนล้าน

แบงก์รัฐพร้อมหนุนมาตรการอุ้มผู้ประกอบการธุรกิจจากโควิด 3.5 แสนล้าน ทั้งปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำและโครงการพักทรัพย์ พักหนี้

สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (The Government Financial Institutions Association : GFA) พร้อมให้การสนับสนุนธนาคารประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบผ่าน “มาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ)” วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท ผ่าน 2 มาตรการ มั่นใจสามารถช่วยเหลือและฟื้นฟูให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งได้อย่างแน่นอน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ(GFA) เปิดเผยว่า สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งมีความพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของธนาคารประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในการจัดทำความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบตามร่าง “มาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ)” วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันนี้(23 มีนาคม 2564) โดยถือเป็นมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้นำเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถาบันการเงินของรัฐจากการให้ความช่วยเหลือระยะสั้นแก่ลูกหนี้ผ่าน พ.ร.ก. Soft Loan ที่ดำเนินการในปี 2563 มาจัดทำเป็นมาตรการฟื้นฟูฯ ในครั้งนี้ เพื่อดูแลผู้ประกอบธุรกิจให้สามารถดำเนินกิจการ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูศักยภาพการดำเนินกิจการหลังวิกฤต COVID-19 ซึ่งจะมีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบเป็นอย่างมากให้แก่ลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐในกลุ่มที่รายได้ยังไม่แข็งแรง โดยแบ่งออกเป็น 2 มาตรการ คือ

1. มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบแต่ยังมีศักยภาพ ครอบคลุมทั้งลูกหนี้รายเดิมและรายใหม่ ให้เข้าถึงสินเชื่อ พร้อมรองรับการฟื้นตัว ด้วยการปรับเพิ่มวงเงินให้กู้ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้ยาวขึ้น และกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้เอื้อต่อการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยการสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อรวมถึงยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง และมี ธปท. ส่งเสริมสภาพคล่องต้นทุนต่ำให้แก่สถาบันการเงินดำเนินการต่อไป

2. มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์ชำระหนี้ และให้สิทธิลูกหนี้ซื้อคืน (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้) วงเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรง แต่มีศักยภาพและมีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน ให้สามารถเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อหยุดหรือลดภาระหนี้ และในอนาคตสามารถขอเช่าทรัพย์กลับไปดูแลหรือเปิดดำเนินการต่อได้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าไม่ถูกกดราคาบังคับขายทรัพย์หรือหลักประกัน กลับมาสร้างงาน สร้างรายได้เมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมี ธปท. สนับสนุนสภาพคล่องต้นทุนต่ำแก่สถาบันการเงิน และภาครัฐสนับสนุนยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาษีและค่าธรรมเนียมในการตีโอนทรัพย์

ทั้งนี้ CEO ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งได้ conference call กับ ธปท. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการฟื้นฟูฯ ในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และจะเร่งจัดทำรายละเอียดในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือลูกค้าประชาชนโดยเร็วที่สุดต่อไป เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกหลักที่จะส่งเสริม ช่วยเหลือ และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากในปี 2563 สถาบันการเงินของรัฐทุกแห่งมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวม 10.89 ล้านราย วงเงินสินเชื่อรวม 3.65 ล้านล้านบาท ผ่านมาตรการต่างๆ ทั้งการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย ลดเงินงวดผ่อนชำระ ขยายระยะเวลากู้ ให้สินเชื่อเพิ่มเติม และค้ำประกันสินเชื่อ

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ฟอร์มร้อน “กษิดิศ” ไล่ทุบ “ภวินทร์” 2-0 คัดทีมชาติไทยปี 2564

“กษิดิศ สำเร็จ” โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อไล่ทุบ “ภวินทร์ จิรภูมิเดช” 2-0 เซต 6-4, 6-0 ในศึก คัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทย ประจำปี 2564 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ

วันที่ 24 มี.ค. 64 การแข่งขันคัดเลือกนักเทนนิสทีมชาติไทย ประจำปี 2564 ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 23 มี.ค. เป็นการชิงชัยวันแรก คู่ที่น่าสนใจ ประเภทชายเดี่ยว รอบพบกันหมด กลุ่ม บี นัดแรก “บูม” กษิดิศ สำเร็จ นักหวดหนุ่มวัย 20 ปี ดีกรีทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ พบ “พาม” ภวินทร์ จิรภูมิเดช วัย 19 ปี ปรากฏว่า คู่นี้เป็น กษิดิศ ที่ได้ลูกกราวด์สโตรกที่ดุดัน รวมถึงการทำแต้มจากลูกโฟร์แฮนด์ขนานเส้นข้าง จนเป็นฝ่ายเอาชนะ ภวินทร์ ไปได้ 2-0 เซต 6-4, 6-0 จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ กษิดิศ ประเดิมคว้า 2 คะแนนได้สำเร็จ ส่วน ภวินทร์ เก็บไป 1 คะแนน สำหรับนัดต่อไป กษิดิศ จะพบ “เจเจ” กันตินันท์ สูตินันท์โอภาส ดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่พลิกชนะ “นพ” นพดล น้อยกอ นักหวดรุ่นพี่วัย 21 ปี มาได้ 2-1 เซต 6-1, 4-6 และ 6-2

ด้านหญิงเดี่ยว รอบพบกันหมด กลุ่ม อี นัดแรก “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ ดาวรุ่งวัย 18 ปี ดีกรีเหรียญทองแดงหญิงเดี่ยว ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และเป็นมือวางอันดับ 5 ของรายการ พบ สุวีร์ชยา บุญเลี้ยง ปรากฏว่า อัญชิสา ที่มีชั้นเชิงการเล่นที่เหนือกว่า เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2 เซตรวด 6-1, 6-0 คว้า 2 แต้มแรกได้สำเร็จ สำหรับนัดต่อไป อัญชิสา จะพบกับ ธมจันทร์ มอมขุนทด ที่ชนะ ธนัชพร ยังโหมด มาได้ 2-0 เซต 6-0, 6-3

ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ประเภทชายเดี่ยว รอบพบกันหมด กลุ่ม เอ นัดแรก วิชยา ตรงเจริญชัยกุล (มือวาง 1) ชนะ คมธัช กิตตโชค 6-3, 6-3 แม็กซิมัส ภราพล โจนส์ ชนะ วรวิญ กำธรกิตติกุล 6-3, 3-6, 6-4 ด้านกลุ่ม ซี นัดแรก พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ (มือวาง 3) ชนะ ไมเคิล มัธยมจันทร์ 6-4, 6-3 จิรัฏฐ์ นวสิริสมบูรณ์ ชนะ วรชน รักษ์ปวงชน 5-7, 7-6(4), 7-6(1) ส่วนกลุ่ม ดี นัดแรก คงทรัพย์ คงคา (มือวาง4) ชนะ ธนภัทร นิรันดร 6-4, 6-1 ธีรดนย์ ต่อตระกูล ชนะ ภาธร หาญชัยกุล 6-2, 6-2

กลุ่ม อี นัดแรก พล วัฒนกูล (มือวาง5) ชนะ ชนน พูลสวัสดิ์ 6-0, 7-6(4) กิติรัตน์ เกิดลาภี ชนะ ยุทธนา เจริญผล 6-4, 6-4 ด้านกลุ่ม เอฟ นัดแรก ฐานทัพ สุขสำราญ (มือวาง6) ชนะ ศุภวัฒน์ แซ่อุ้ย 6-2, 6-0 ณัฐสิทธิ์ กุลสุวรรณ์ ชนะ ปรัชญา อิสโร 7-6(3), 6-3 ส่วนกลุ่ม จี นัดแรก กฤติน โกยกุล (มือวาง 7) ชนะ ต้นกล้า มุละดา 6-3, 6-2 ภวิชญ์ สอนหลักทรัพย์ ชนะ ศรัญพงศ์ บริสุทธิ์พงศ์ 7-5, 6-1 สำหรับกลุ่ม เอช นัดแรก ธนเพชร ฉันทะ (มือวาง 8) ชนะ ฉัตริน วารีศรี 6-3, 6-2 พงศภัค เกิดลาภี ชนะ ชญานนท์ แก้วสุทอ 4-6, 6-1, 6-4

ขณะที่ประเภทหญิงเดี่ยว รอบพบกันหมด กลุ่ม เอ นัดแรก กมลวรรณ บัวแย้ม ชนะ สลักทิพย์ อุ่นเมือง 1-6, 6-3, 6-2 กลุ่ม บี นัดแรก มนัญชญา สว่างแก้ว (มือวาง 2) ชนะ ณัฐพัชร์ ผิวบางรักษ์ 6-2, 6-4 รดา มานะทวีวัฒน์ ชนะ เมลิสสา เซ 6-1, 3-6, 6-2 กลุ่ม ซี นัดแรก ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต (มือวาง 3) ชนะ เวียร่า ดีเพิ่ม 7-5, 6-4 ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล ชนะ เคียร่า จิระสุข 6-2, 6-1
กลุ่ม ดี นัดแรก พัชรินทร์ ชีพชาญเดช (มือวาง 4) ชนะ กัญญาณัฐ สุดสะอาด 6-1, 6-3, ณภัทร นิรันดร ชนะ ภาวินี ร่วมรักษ์ 6-1, 6-2 กลุ่ม เอฟ วรรษชล สวัสดี (มือวาง 6) ชนะ ช่อลดา หาสุข 6-0, 6-0 ลัลนา ธาราฤดี ชนะ ณัชชารีย์ ธีรโชติจิรานนท์ 6-0, 6-0 ส่วน กลุ่ม จี พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ (มือวาง 7) ชนะ กมลวรรณ ยอดเพ็ชร 6-4, 6-1 พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช ชนะ วริศรา ลี 2-6, 6-1, 6-3 สำหรับกลุ่ม เอช ศุภาพิชญ์ เกือรัมย์ (มือวาง 8) ชนะ ไทร่า ลิธิบี 6-2, 6-1 ญาตาวี ฉิมฉ่ำ ชนะ ภัณฑิลา นามวงศ์ 6-0, 6-0

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


V.-ing

V.- ing หรือกริยาที่เติม ing ต่อท้าย (ไม่ว่าจะเป็น V. แท้ หรือ V. ช่วย) โดยทั่วไป ใช้ใน 2 กรณี คือ 

  1. เติมเพื่อหมายถึงกำลังทำสิ่งนั้นอยู่ เช่น He is talking. เขากำลังคุย, She is running. หล่อนกำลังวิ่ง They are sleeping. พวกเขากำลังนอน เป็นต้น

ทั้งนี้ น้องๆสังเกตดูการที่จะใช้ในความหมายว่า ‘กำลัง…’ V ที่เติม ing นั้น ต้องมี V. to be นำหน้า หรือ แทรกกลางเอาไว้ ระหว่าง S. (ประธาน)กับ V. แท้ด้วย

หรือ S + V. to be + V.ing นั่นเอง

จะมี V. สองตัวติดกัน โดยไม่เติม -ing ให้กับ V. แท้ไม่ได้ 

ตัวอย่างเช่น 

  • He is play soccer. หรือ They are love me. 

ประโยคข้างบนนั้น เขียนผิดทั้ง 2 ประโยค ผิดหลักแกรมม่าร์

ต้องเป็น He is playing soccer. และ They are loving me.

2. ใช้เติมเพื่อทำ V. ให้เป็น N. (คำนาม) ซึ่งเราการเปลี่ยนรูปแบบนี้ว่า Gerund (เจอรันด์) 

ทั้งนี้ การเปลี่ยนเวิร์บเป็นคำนามด้วยการเติม ing นี้ คำที่ถูกเติม จะไม่มี V. to be ดักหน้าอยู่ ซึ่งพอแปลออกมา ก็จะแปลโดยมีคำว่า ‘การ…’ หรือ ‘ความ….’ อยู่ข้างหน้า

ตัวอย่างเช่น 

  • talk = คุย  →  talking = การคุย        
  • understand = เข้าใจ  →   understanding = ความเข้าใจ 
  • eat = กิน  →   eating = การกิน    

โดย V. ที่ถูกเปลี่ยนมาเป็น N. นั้น สามารถทำหน้าที่เป็น S. (ประธาน) หรือ O. (กรรม) ก็ได้ เช่น 

Talking in the classroom is bad. การคุยกันในห้องเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ดี

I enjoy reading  ฉันสนุกกับการอ่าน

Having you beside me, makes me happy. การมีคุณอยู่เคียงข้าง ทำให้ฉันมีความสุข

คำถามทดสอบ:

1) ประโยคใดไม่ได้ใจความที่สมบูรณ์ 

a.  I am eating my lunch           
b.  I am having my lunch.          
c.  I am doing my lunch            
d.  ถูกทุกข้อ

2) ข้อใดเขียนว่า ‘ฉันกำลังมีความสุข’ ได้ถูกต้อง

a.  I having a pleasure.             
b.  I being have a pleasure         
c.  I do having a pleasure         
d.  I am having a pleasure

3) เติมคำในช่องว่าง
  ________ is the best exercise.

a.  Run          
b.  Runner         
c.  Runing       
d.  Running

เฉลย

1. ( ข้อ d.) ถูกทุกข้อครับ เพราะไม่ว่าจะเป็น V.แท้ (eat) หรือ V.ช่วย (have, do) ก็สามารถนำมาเติม ing ให้หมายถึงกำลังทำบางสิ่งอยู่ได้เช่นกัน (I am doing my lunch หมายถึง ฉันกำลังเตรียมอาหารกลางวัน)

2. ( ข้อ d.) ตามสูตร S + V. to be + V.ing ครับ

3. ( ข้อ d.) เพราะในที่นี้เราจะพูดว่า ‘การวิ่งเป็นการบริหารร่างกายที่ดีที่สุด’ จึงต้องเติม ing ให้กับคำว่า Run (Run เป็นคำที่ออกเสียงสั้น จึงต้องเติมตัวสะกดท้ายเพิ่มเข้าไปอีกตัวหนึ่ง ก่อนที่จะเติม ing)

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


เผยโฉม Amazfit T-Rex Pro สมาร์ทวอทช์พันธุ์อึด 

เผยโฉม Amazfit T-Rex Pro สมาร์ทวอทช์พันธุ์อึด 

เปิดตัว Amazfit  T-Rex Pro นาฬิกาอัจฉริยะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาตัวตนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ ผ่านการทดสอบระดับทางทหารกว่า 15 ครั้ง โดยสามารถทนทานกับทุกสภาวะและความท้าทายทุกการใช้งาน

รายงานข่าวจาก Amazfit เปิดเผยว่า  Amazfit T Rex Pro ถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากความนิยมของผลิตภัณฑ์ Amazfit T-Rex ซึ่งได้รับรางวัลและเปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2020 โดยได้รับแรงบันดาลใจความสำเร็จจากรุ่นก่อน และด้วยนวัตกรรมที่สอดคล้องกันจึงได้เพิ่มคุณลักษณะใหม่ ๆ ให้กับรุ่นล่าสุดนี้ ทั้งนี้ Amazfit T-Rex Pro ได้ผ่านการทดสอบระดับทางทหารกว่า 15 ครั้ง และยังผ่านการทดสอบความทนทานเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง  โดยฟังก์ชั่นใหม่นี้ยังรวมถึงการกันน้ำในระดับ 10 ATM, การวัดระดับออกซิเจนในเลือด, ระบบการต่อเชื่อมระบบดาวเทียวนำทางระดับโลกถึง 4 ระบบ และระบบเครื่องวัดการกดดันของชั้นบรรยากกาศ, และมีโหมดเกี่ยวกับกีฬากว่า 100 โหมด อีกด้วย

เผยโฉม Amazfit T-Rex Pro สมาร์ทวอทช์พันธุ์อึด 

Amazfit Pro T Rex เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถทนทานในสภาพสิ่งแวดล้อมหลากหลายรูปแบบ มีระบบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีอาการเครื่องรวน ทั้งยังสามารถรับมือได้กับสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงและเลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทะเลยทรายที่สุดจะแห้งแล้ง หรือ ป่าดิบชื้นที่มีฝนกระหน่ำ, Amazfit T-Rex Pro จึงเป็นเพื่อนคู่กายสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการก้าวพ้นข้อจำกัดต่าง ๆ

Amazfit T-Rex Pro สามารถประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่ผู้ใช้ต้องการและพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วและอ่านง่ายบนหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว ที่ชัดเจนและมีสีสันสดใส ด้วยการออกแบบเชิงมุมที่น่าดึงดูด กรอบด้านนอกพ่นโลหะที่แข็งแรงช่วยให้น้ำหนักเบา และมีสายซิลิโคลนที่มีความทนทานเป็นมิตรกับผิวของคุณ มีการออกแบบเพื่อป้องกันเหงื่อ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Meteorite Black, Desert Grey และ Steel Bl

ด้วยคุณสมบัติอันทรงพลังที่ได้รับการยกระดับหมายความว่า Amazfit T-Rex Pro สามารถเป็นเพื่อนคู่หูของคุณในกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายรูปแบบ ด้วยการรองรับระบบดาวเทียมนำทางระดับโลกถึง 4 ระบบ จึงสามารถช่วยติดตามตำแหน่งของคุณในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนหรือแตกต่าง ซึ่งดีกว่ามากเมื่อเปรียบเทียมกับการค้นหาโดย GPS เพียงอย่างเดียว

ไม่ว่าจะอยู่บนภูเขาหรือต้องการที่จะท้าทายตัวเองด้วยการฝึกหนักขึ้นในโรงยิม ก็ยังสามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้ดี การออกกำลังกายด้วยระบบเครื่องวัดความกดดัน ที่จะช่วยวัดระดับความสูงที่คุณปีนขึ้นไปว่าสูงแค่ไหน ทั้งยังมีระบบเข็มทิศนำทางที่เชื่อถือได้ เพื่อชี้นำทางไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง

ด้วยระบบป้องกันน้ำในระดับ 10 ATM ช่วยให้คุณสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การว่ายน้ำ การเล่นกระดานโต้คลื่น การแล่นเรือ รวมถึงการรับมือกับสภาวะอากาศที่เปลียกชื้นด้วยอายุของแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 18 วัน สำหรับการใช้งานโดยทั่วไป ดังนั้น Amazfit T-Rex Pro จึงเป็นเพื่อนคู่หูของคุณทุกการสำรวจและและยังพร้อมเป็นเพื่อนร่วมทางในทุกกิจกรรมทุกความท้าทายที่คุณกำหนดขึ้นเอง

ด้วยโหมดที่รองรับการใช้งานกีฬามากกว่า 100 ประเภท  Amazfit T-Rex Pro สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ,ระยะทาง , ความเร็ว และวัดค่าแคลอรี่ที่เผาผลาญในทุกกิจกรรม , Firstbeat ™ ที่เป็นอัลกอริทึ่ม พร้อมนำสิ่งต่าง ๆ ไปสู่ระดับใหม่ โดยการประเมินข้อมูลเฉพาะด้าน อย่างเช่น จำนวนออกซิเจนที่หายใจเข้าไป, ระยะเวลาในการฟื้นตัว ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้ทราบถึงการพัฒนา ความสำเร็จ นอกจากนี้อัลกอริทึม ExerSense ™ยังจดจำโหมดกีฬา 8 โหมดโดยอัตโนมัติและบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เผยโฉม Amazfit T-Rex Pro สมาร์ทวอทช์พันธุ์อึด 

ติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วยเครื่องมือติดตามสภาพอากาศ Amazfit T-Rex Pro มาพร้อมจอภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตก การบอกวันข้างขึ้น – ข้างแรมในปัจจุบัน ซึ่งยังช่วยให้คุณสามารถจับภาพมุมมองที่ดีที่สุดได้อีกด้วย

หัวใจที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก Amazfit T-Rex Pro จึงมาพร้อมกับ BioTracker ™ 2 PPG Bio-Tracking Optical Sensor ซึ่งทำการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนหากอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป – และนาฬิกายังติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) เพื่อบันทึกการตอบสนองต่อความเครียด

 เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ใช้งาน  Amazfit T-Rex Pro นำเสนอการประเมินส่วนบุคคลผ่านระบบการประเมินสุขภาพ Personal Activity Intelligence (PAI) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ระบบอัฉจริยะด้านกิจกรรมส่วนบุคคลที่เป็นระบบการประเมินสุขภาพ ด้วยระบบนี้จะเก็บข้อมูลทั้งหมดที่ผู้ใช้ออกกำลังกาย อัตราการเต้นของหัวใจ และข้อมูลที่มีการตรวจสอบอื่น ๆ จากนั้นจึงนำมาแทนค่าเป็นตัวเลขเดียวเพื่อเป็นการประเมินค่าคะแนนสุขภาพและการประเมินผลเฉพาะของคุณ ด้วยข้อมูลนี้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายด้านสุขภาพและการออกกำลังกายครั้งต่อไป เพื่อให้บรรลุแนวทางที่ดีที่สุด

คุณภาพชีวิตในยามพักผ่อนและนอนหลับ ถือเป็นพื้นฐานของสุขภาพกายและใจที่ดี และสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจที่ทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืนด้วยฟังก์ชั่นสุดพิเศษ Amazfit SomnusCare ที่มีฟีเจอร์ที่ติดตามการนอนหลับ โดย Amazfiz T-Rex Pro ทำงานร่วมกับการนอนหลับหลายรูปแบบ ทั้งนอนหลับระยะแรก, นอนหลับลึก และ REM Sleep Step , รวมถึงการตรวจเวลาที่คุณงีบระหว่างวัน และยังเฝ้าดูปัญหาเรื่องการหายใจที่เกิดขึ้นเมื่อนอนอีกด้วย

Amazfit T-Rex Pro ช่วยให้จัดการสมดุลย์ในการทำงาน และชีวิตได้ดียิ่งกว่า ด้วยการเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม อย่างเช่น การตั้งปลุก, การแจ้งข้อความที่เข้ามา เสียงเรียก และการแจ้งเตือน ยังช่วยให้คุณควบคุมดนตรีในมือถือผ่านนาฬิกา –สำหรับการเพิ่งแรงบันดาลใจในช่วงของการออกกำลังกาย หรือ เมื่อต้องการพักผ่อน และ ฟังเพลงลิสต์สุดโปรด

Amazfit T-Rex Pro พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคา 5,599. – พบโปรโมชั่นสุด Exclusive ในวันที่ 24 มี.ค. – 7 เม.ย. 2564 เฉพาะที่ Shopee เท่านั้น

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


‘ดอกชมจันทร์’ พืชสมุนไพรให้ประโยชน์เป็นยาระบาย มีไฟเบอร์สูงมาก!

ในตลาดสดเมืองไทยทุกหนแห่ง จะมีอาหารสด ผัก ปลา หลากหลายชนิด แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย

น่าแปลกใจสำหรับชาวต่างประเทศ ที่เข้าตลาดและเห็นสิ่งของมากมาย รวมทั้งดอกไม้สีสันต่างๆ ที่นำมาทำอาหารได้ เช่น ดอกโสนสีเหลือง ดอกแคสีแดง-ขาว ดอกขจรสีเหลือง ดอกข้าวสารสีขาว ดอกอัญชันสีน้ำเงิน ต่างสีสันละลานตา เหล่านี้ชาวต่างชาติแปลกใจว่ากินได้อย่างไร

ครั้นเมื่อทดลองทำให้ดูก็ยิ่งแปลกใจที่คนไทยนำดอกไม้มาทำอาหารได้ทั้งคาว-หวาน

หลายปีมาแล้วพบดอกไม้แปลกในตลาดสดต่างจังหวัด

ครั้งแรกเข้าใจว่าคือดอกไม้จีน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับดอกไม้จีนตัวจริง (ที่แห้งแล้ว) ดูรูปลักษณ์ไม่น่าจะเป็นอย่างที่เห็น

เมื่อไม่นานมานี้ แม่ค้าบอกว่าคือดอกชมจันทร์ หรือดอกพระจันทร์ เรียกเหมือนกันทุกตลาด ซ้ำแนะนำให้นำไปผัดน้ำมันหอยจะอร่อยมาก

จึงลองนำมาผัดกินดูก็หวานอร่อยและย่อยง่าย

เพื่อนบ้านมีดอกชมจันทร์ ออกดอกให้ดูทุกวัน ที่บ้านเองก็เพิ่งจะปลูก ดูลักษณะต้นชมจันทร์จะถูกกับดินฟ้าอากาศ เพราะขึ้นง่าย โตเร็ว เวลานี้กำลังเลื้อยขึ้นค้างที่ทำไว้ให้อย่างรวดเร็ว

ดอกชมจันทร์เป็นไม้เลื้อยทอดยาว ชูยอดปะกับสิ่งใดก็เกาะสิ่งนั้น

ลำต้นเป็นเถาสีม่วงเหนียว มีข้อใบแตกใบตามข้อ ใบรูปหัวใจ พอใบแก่อาจเว้าลึกเป็นแฉก สามเหลี่ยมสามแฉก ใบบางดกออกทุกข้อเถา และแต่ละข้อก็ออกดอกข้อละ 2-3 ดอก

ดอกมีก้านยาวมาก ปลายก้านเป็นดอกเริ่มจากดอกอ่อนยังเล็ก ดอกกลีบพนมเหมือนบัวดอกน้อย พอเต็มที่ดอกก็โตขึ้น เห็นกลีบพนมซ้อนกันเวียนรอบ จรดกันที่ปลายแหลม

พอค่ำกลีบจะพองออก และดอกจะบานตอนค่ำ เช้าขึ้นก็โรย ดอกชมจันทร์มี 5 กลีบติดกันเป็นพืด เกสรจากหลอดกลางดอกเป็นสีเหลือง

สัณฐานดอกชมจันทร์ คล้ายดอกผักบุ้ง แต่กลีบดอกบางกว่า เมื่อบานกลางคืน ยังบานเลยมาถึงเช้าเห็นดอกสีขาวพร่าง พร้อมกลิ่นหอมอ่อนเย็นชื่นใจ

การปลูกดอกชมจันทร์ใช้เมล็ด โดยพรวนดินให้ร่วนซุย แล้วฝังเมล็ดที่แช่น้ำก่อนสัก 1-2 คืน ไม่ช้าก็งอกเป็นต้น ทอดยอดยาวเกาะเลื้อยพันร้านที่ทำไว้ จะทำไม้ร้านแบบค้างถั่วฝักยาวหรือบวบ หรือมะระก็ได้ ถ้าไม่ทำร้านให้โดยปลูกให้ไต่ตามรั้วบ้าน ถึงเวลาก็ออกดอกเป็นไม้ประดับ สวยไปอีกแบบ

ดอกชมจันทร์จะออกดอกตลอดเวลา ให้ดอกและเก็บได้ตลอด เก็บได้ทุกวัน ออกดอกดกโตเร็วมาก จนเถาเริ่มแก่ ก็ตัดแต่งให้แตกยอดใหม่ก็ออกดอกต่อไป เก็บได้หลายรุ่นจนต้นแก่ 1-2 ปี ค่อยถอนทิ้งเพราะหมดอายุแล้วปลูกใหม่

ดอกชมจันทร์ สวยงาม ปลูกประดับและเก็บดอกเป็นอาหาร ขณะเดียวกันก็เป็นพืชสมุนไพรให้ประโยชน์เป็นยาระบาย มีไฟเบอร์สูงมาก

เห็นดอกชมจันทร์วางขายตามตลาด แล้วนึกภูมิใจที่บ้านเมืองไทยมีของกินหลากหลายอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะปลูกอะไรลงในดินก็งอกงามเป็นอาหารได้

ถ้ารู้จักเลือกอาหาร ปรับปรุงการกินให้ถูกวิธี ก็ไม่ต้องซื้อยาราคาแพง เรามีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ สุขภาพก็ดี ชีวิตก็ปกติสุข

คนที่รู้สึกอึดอัดไม่สบายด้วยเหตุใด ลองเดินดูของขายในตลาดสด มีความรู้เรื่องกินอยู่บ้าง ก็เลือกหาของกินมาทำกินเอง ประหยัดและถูกอนามัย ของสดที่เห็นนั้นง่ายๆ เราสามารถมาปลูกกินเองก็ได้ กินของทำเองสะอาด ความรู้สึกอึดอัดก็หายไป อายุก็ยืนยาว

พื้นแผ่นดินไทย ปลูกพืชพันธุ์ใดลงไปก็งอกงาม ผลิตผลได้กินตลอดเวลา สมกับคำที่ว่า

“เมืองไทยใหญ่อุดม ดินดีสมเป็นนาสวน”

ถ้าขยันสักหน่อย เราก็มีอยู่มีกิน ไม่ต้องกลัวอดตาย

ขอบคุณข้อมูลจาก matichonweekly.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 25,350.00 25,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,642.00 24,892.72 25,950.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,477.80 22,403.45 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,313.60 19,914.18 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 739.00 11,203.24 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 575.00 8,717.00 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,702.00 25,802.32 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/03/2564

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55 26.55
แก๊สโซฮอล์ 91 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28 26.28
แก๊สโซฮอล์ E20 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04 25.04
แก๊สโซฮอล์ E85 20.99 20.99 20.99
เบนซิน 95 33.96 34.41 34.46 33.96 33.96
ดีเซล B7 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59 26.59
ดีเซล 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59 23.59
ดีเซล B20 23.34 23.34 23.54 23.34 23.34 23.34 23.34
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.16 31.36 33.04 32.56 31.16
แก๊ส NGV 13.43 13.43 13.43
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า