สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม 2564

“สถาพร เอสเตท” ปลดล็อคดีลฮ็อต ลดสูงสุดถึง 1,000,000 บาท* เมื่อจองโครงการ “เดอะ เชดด์ สาทร 1” ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. ศกนี้

บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้าน และทาวน์โฮม ปลดล็อคดีลสุดร้อนแรง สำหรับลูกค้าที่สนใจจองโครงการคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมอยู่ใจกลางสาทร “เดอะ เชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1) รับดีลส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 1,000,000 บาท* ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายนนี้ จำกัดจำนวนเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น*

โครงการ “เดอะ เชดด์ สาทร 1” (The SHADE Sathon 1) เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ฟังก์ชันลงตัว ที่มาพร้อม Smart Automation และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโซนสาทร กว่า 1,400 ตร.ม. อาทิ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Co-Working Space, พื้นที่สีเขียว และพื้นที่จอดรถถึง 63% บนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองย่านสาทร – พระราม 4 ใกล้ MRT สถานีลุมพินี ในราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ก่อนใครที่ www.theshadecondo.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2007 5555 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9.com


ส่งออก เม.ย.พุ่ง13.09% ‘จุรินทร์’ ชี้พ้นจุดต่ำสุด

ส่งออก เม.ย.พุ่ง13.09%  'จุรินทร์' ชี้พ้นจุดต่ำสุด

“จุรินทร์”เผยส่งออกไทย เม.ย.ขยายตัว 13.09% ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ชี้ ความต้องการสินค้าทำงานที่บ้านมากขึ้น มั่นใจพ้นจุดต่ำสุด เร่งแก้ปัญหาขาดตู้สินค้า เผย 25 พ.ค.นี้มีเรือขนตู้เปล่ามาเพิ่มหมื่นตู้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การส่งออกของไทยขณะนี้เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เนื่องจากตัวจักรสำคัญอย่างการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งตัวเลขการส่งออกไทยในเดือน เม.ย.2564 ขยายตัว 13.09% เป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 8.47% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ปรับดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 

ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวสามารถยืนยันได้เลยว่าการส่งออกของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป้าหมายการส่งออกในปี 2564 ตั้งไว้ที่ 4.0% และผ่านมา 4 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า การส่งออกของไทยก็ขยายตัวเกิน 4% แล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีการทบทวนปรับเป้าการส่งออก โดยจะมีการทำงานเชิงรุกเพื่อผลักดันการส่งออกของไทยอย่างต่อเนื่อง และจะพยายามให้การส่งออกมีอัตราการขยายตัวเกินเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

“กระทวงพาณิชย์ยังไม่มีการปรับเป้าส่งออกใหม่ เพราะเป้าคือตัวเลข แต่การทำงานเชิงรุกต้องทำตลอดเวลา หลักคือการทำให้เกินเป้าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่จำเป็นต้องปรับเป้าให้เกิดการสับสน หรือจะเป็นอัตราการขยายตัว 5-10% ได้ยิ่งดี และต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคยุค New Normal ซึ่งผมได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว”นายจุรินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้การส่งออกของไทยทรุดหนักตัวเลขการส่งออกติดลบมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 โดยเฉพาะในเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว การส่งออกติดลบถึง 23 % จากนั้นก็เริ่มติดลบน้อย จนกระทั่งเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว การส่งออกได้กลับมาเป็นบวกแต่ไม่มากนัก โดยปัจจุบันมูลค่าการส่งออกของไทยดีขึ้นเป็นลำดับ และการส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนได้ขึ้นมาแตะระดับ 20,000 ล้านดอลลาร์

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ตัวเลขการส่งออกของไทยดีขึ้นมาจาก 2 ปัจจัย คือ

1.เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้นหลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงในหลายประเทศ รวมทั้งการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้านหรือ Work from home มีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น 

2.การบริหารจัดการด้านการส่งออก โดยเมื่อเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการกำหนดแผนการผลักดันการส่งออกชัดเจนที่นำการส่งออกประสบความสำเร็จ โดยส่วนแรกได้ตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและะเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่มีกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)

คณะกรรมการดังกล่าวได้ร่วมมือกันทำงานผลักดันการส่งออก เมื่อมีปัญหาก็ร่วมกันแก้ไข ล่าสุดปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้า ทางกรอ.พาณิชย์ก็ได้เข้าไปแก้ไขโดยตนได้มีการประสานให้เรือขนาดใหญ่ที่มีความยาว 400 เมตรสามารถเข้ามาเทียบท่าเพื่อนำตู้เปล่าเข้ามา ซึ่งในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เรือขนาดใหญ่ลำที่ 2 ก็จะเข้ามาอีกและจะขนตู้เปล่าอีก 6,000-10,000 ตู้เข้ามาอีก

ส่วนที่เหลือ คือ การปรับปรุงการทำงานของทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัด เพื่อให้เป็นเซลล์แมนประเทศและเซลล์แมนจังหวัด ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าทีมเซลล์แมน โดยเฉพาะทูตพาณิชย์ที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้เจรจาและทำหน้าที่เป็นผู้ขายสินค้าให้กับประเทศด้วย 

รวมทั้งมีแผนงานเพื่อการผลักดันการส่งออกที่ชัดเจน ซึ่งก็จะมีการประเมินผลด้วย นอกจากนี้การเจรจาซื้อขายสินค้าก็ต้องปรับตัวรองรับยุค New Normal ทั้งเรื่องการซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ จัดงานแสดงสินค้าผ่านระบบไฮบริด การเดินหน้านโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด โดยเฉพาะผลไม้ไทยทั้งทุเรียน มังคุด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ซึ่งจากการทำงานของกระทรวงพาณิชย์จนถึงปัจจุบันก็เห็นผลสัมฤทธิ์ และแม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ในปัจจุบันแต่การส่งออกของไทยกลับมาดีขึ้นแล้ว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์การส่งออกที่ต้องเดินต่อไปในการผลักดันการส่งออกผ่าน 3 ตลาด คือ

1.รักษาตลาดเดิมไว้ เช่น สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ 

2.หาตลาดใหม่ เช่น รัสเซีย กลุ่มประเทศยูเรเซีย มองโกเลีย อินเดีย

3.ฟื้นตลาดเก่าที่เสียไปให้กลับมาเหมือนเดิม เช่น ตลาดตะวันออกกลาง อิรัก ซาอุดิอาระเบีย บาร์เรน การเดินหน้าข้อตกลงทางการค้าต่างๆทั้งข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ไม่ว่าจะเป็นไทย-อียู ไทย-สหราชอาณาจักร และไทย-กลุ่มประเทศยูเรเชีย 

นอกจากนี้ยังจะเร่งทำมินิเอฟทีเอกับมณฑล หรือรัฐของประเทศต่างๆด้วย ล่าสุดได้ทำมินิเอฟทีเอกับมณฑลไหหนาน ประเทศจีน มินิเอฟทีเอกับรัฐตรังกานู ประเทศอินเดีย นอกจากนี้จะเดินหน้าผลักดันให้ไทยเป็นครัวไทยเป็นครัวโลก โดยผลักดันอาหารเพื่อการส่งออก ทั้งอาหารมังสวิรัติ อาหารฮาลาล อาหารเพื่อสุขภาพ และอาหารแนวใหม่

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ธปท. เร่งรัดให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้

ธปท. เร่งรัดให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้

ธปท. เร่งรัดให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูภาคธุรกิจ

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือร่วมกันเพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ให้เร็วขึ้นและกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น หลังจากที่มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อฟื้นฟู (มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ) และโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ได้ดำเนินการผ่านมาแล้ว 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่ 26 เมษายน 2564

ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ยอดการให้ความช่วยเหลือจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ มีทั้งสิ้น 11,542 ล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ 5,465 ราย คิดเป็นยอดสินเชื่อเฉลี่ย 2.1 ล้านบาทต่อราย โดยร้อยละ 63 กระจายลงไปยัง SMEs ขนาดเล็ก ขณะที่โครงการพักทรัพย์พักหนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับโอน 753.12 ล้านบาท จำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 2 ราย

ในช่วงที่ผ่านมา การดำเนินมาตรการอาจยังไม่ทันต่อความคาดหวังของผู้ประกอบธุรกิจ ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวโน้มของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังซบเซา เนื่องจากมาตรการด้านสาธารณสุขที่ยังเข้มงวดเพราะการแพร่ระบาดระลอก 3 ทำให้ความต้องการสำหรับสินเชื่อฟื้นฟูอาจยังไม่มากนัก ประกอบกับโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เป็นโครงการที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ อีกทั้งยังคงมีรายละเอียดและเงื่อนไขเฉพาะกรณีที่สถาบันการเงินและลูกหนี้จะต้องเจรจาหารือเพิ่มเติม ทำให้การให้ความช่วยเหลือในช่วงต้นจึงอาจจะยังไม่สูงนัก

อย่างไรก็ดี ยังมีลูกหนี้ SMEs อีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือเพื่อนำสินเชื่อฟื้นฟูไปเป็นสภาพคล่องเยียวยากิจการ ธปท. จึงขอให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือถูกกลุ่มเป้าหมายทั่วถึงและทันเวลาสำหรับประคับประคองกิจการที่ถูกซ้ำเติมในการระบาดระลอก 3 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แล้วจึงค่อยทยอยปรับสู่การให้สินเชื่อที่มีขนาดวงเงินต่อรายที่เพิ่มขึ้นและระยะเวลาที่ยาวขึ้น

ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ตระหนักถึงปัญหาและความเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากที่สุด โดยเฉพาะลูกหนี้ SMEs ขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ยังพอมีศักยภาพและต้องการสภาพคล่องไปประคับประคองกิจการที่ได้รับผลกระทบซ้ำเติมจากการระบาดระลอกนี้ ในการนี้ ธปท. ได้ให้สถาบันการเงินเร่งรัดกระบวนการพิจารณา และหาข้อสรุปกับลูกหนี้โดยเร็ว รวมถึงสื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานสาขาในการให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการ เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่าง “รวดเร็ว เพียงพอ และตรงจุด”

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ไทย vs ญี่ปุ่น : วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2021, เทียบสถิติ, ถ่ายทอดสด

ไทย vs ญี่ปุ่น : วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2021, เทียบสถิติ, ถ่ายทอดสด

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2021 ที่เมืองริมินี่ ประเทศอิตาลี จะถูกจัดในรูปแบบบับเบิ้ล เพื่อความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน 2564

โดย “ทัพนักตบสาวไทย” จะลงสนามเกมแรกพบกับ “สาวแดนปลาดิบ” ทีมชาติญี่ปุ่น คู่ปรับเก่าที่เจอกันบ่อยทีเดียวในช่วงหลัง แต่ก่อนที่จะเจอกันในวันนี้ เราลองไปดูสถิติการพบกันของทั้งสองทีมก่อนหน้านี้กัน

เฮดทูเฮด 5 ครั้งหลังสุด : ไทย ชนะ 2, ญี่ปุ่น ชนะ 3
25 สิงหาคม 2562    ญี่ปุ่น ชนะ ไทย 3-1 เซต (ชิงแชมป์เอเชีย)
13 มิถุนายน 2562    ญี่ปุ่น ชนะ ไทย 3-0 เซต (เนชั่นส์ลีก)
17 กันยายน 2561    ไทย ชนะ ญี่ปุ่น 3-1 เซต (เอเชียน คัพ)
23 สิงหาคม 2561    ไทย ชนะ ญี่ปุ่น 3-0 เซต (เอเชียนเกมส์)
07 มิถุนายน 2561    ไทย แพ้ ญี่ปุ่น 2-3 เซต (เนชั่นส์ลีก)

สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมประเดิมสนามพบกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ในวันอังคารที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.00 น. แฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ช่อง 3 เอชดี

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“โควิด-19” แพร่เชื้อไวรัสผ่าน “น้ำแข็ง” ที่ปนเปื้อนได้หรือไม่?

“โควิด-19” แพร่เชื้อไวรัสผ่าน “น้ำแข็ง” ที่ปนเปื้อนได้หรือไม่?

จากข่าวพบคลัสเตอร์ผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงงานน้ำแข็ง กรมอนามัยออกมาตอบว่าน้ำแข็งมีสิทธิ์ปนเปื้อนโควิด-19 หรือไม่

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แนะนำประชาชนอย่าเพิ่งตระหนกกับประเด็นดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า กระบวนการผลิตน้ำแข็งก้อน น้ำแข็งบด ต้องใช้น้ำที่สะอาดมาผลิตตามพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 กำหนดต้องได้มาตรฐานตามคุณภาพน้ำดื่มในภาชนะบรรจุปิดสนิท โดยผู้ผลิตจะเลือกใช้น้ำบาดาลหรือน้ำประปาที่ได้ผ่านการปรับปรุงและฆ่าเชื้อโรคด้วยคลอรีนแล้ว เมื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตจะมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งการกรองชนิดหยาบ จนถึงชนิดละเอียดมาก ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถกำจัดเชื้อโรคทั้งแบคทีเรีย ไวรัสได้ และยังมีระบบฆ่าเชื้อโรค ทั้งการผ่านแสง UV เติมโอโซน

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ควบคุมการผลิตน้ำแข็งเพื่อจำหน่ายในเรื่องคุณภาพมาตรฐานต่างๆ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 78 (พ.ศ.2527) และฉบับที่ 137 (พ.ศ.2534) เรื่องน้ำแข็ง เพื่อกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน กรรมวิธีการผลิต การใช้น้ำในการผลิต สถานที่เก็บรักษาน้ำแข็ง การใช้ภาชนะบรรจุน้ำแข็ง ตลอดจนการแสดงฉลาก ต้องมีวิธีการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ ต้องมีการควบคุมกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับข้อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต หรือจีเอ็มพี เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อน

มาตรฐานการผลิตและกฎหมายที่บังคับทำให้น้ำแข็งที่ผ่านระบบการผลิตออกมาปลอดภัยจนถึงการบรรจุ โดยเฉพาะน้ำแข็งหลอดที่มีกระบวนการทำให้น้ำเป็นน้ำแข็งภายในเครื่องผลิตน้ำแข็งหลอดระบบปิด ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice หรือ GMP) ซึ่งจะไม่มีคนงานเข้าไปเกี่ยวข้องจนกว่าจะบรรจุเสร็จ 

สำหรับน้ำแข็งซอง เป็นกระบวนการแช่น้ำให้แข็งตัวโดยสารทำความเย็น เช่นแอมโมเนีย จากนั้นถึงมีการถอดซองออก ไม่มีการบรรจุ แต่จะฉีดน้ำล้างทำความสะอาดภายนอก ตัดเป็นก้อนแล้วนำส่ง หรือบดบรรจุถุงหรือกระสอบเพื่อส่งขายต่อไป จากกระบวนการผลิตดังกล่าวน้ำแข็งซองนั้นมีระยะเวลาตั้งแต่การถอดซองจนถึงจำหน่ายที่มีโอกาสสัมผัสคนงาน ดังนั้น การคัดกรองคนงานในโรงงานทุกวันจะลดโอกาสที่จะปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 ได้

แนะผู้ประกอบการคุมเข้มช่วงโควิด-19 ระบาด

ทั้งนี้ ทางกรมอนามัยขอความร่วมมือให้โรงงานน้ำแข็งทุกแห่งต้องยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานก่อนมาทำงานในระดับเข้มข้น โดยเจ้าของโรงงานประเมินมาตรการสถานประกอบการผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus ส่วนคนงานให้ประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” เพื่อช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 สู่เพื่อนร่วมงานก่อนเข้ามาทำงานทุกวัน ลดความแออัดหรือความหนาแน่นบริเวณที่ปฏิบัติงาน 

ในส่วนของที่พักคนงาน ให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ควบคุมความสะอาดของที่พักให้ได้มาตรฐาน หากมีรถรับ-ส่ง ต้องจำกัดจำนวนไม่ให้แออัด ต้องสวมหน้ากากทุกคนและทุกครั้งที่ใช้บริการ หมั่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในรถเป็นประจำ ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเคร่งครัด

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับฤดูกาลและสภาพอากาศ

อากาศในบ้านเรารวมถึงทั่วโลกค่อนข้างแปรปรวน น้อง ๆ อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพกันให้ดีด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ เราได้รวบรวมคำศัพท์เกี่ยวกับฤดูกาลและสภาพอากาศ พร้อมคำอ่าน และคำแปล มาให้น้อง ๆ ได้ทบทวนกัน ดังต่อไปนี้ครับ

Season (ซีซัน)                      แปลว่า ฤดูกาล
Summer (ซัมเมอร์)                แปลว่า ฤดูร้อน
Spring (สปริง)                      แปลว่า ฤดูใบไม้ผลิ
Fall (ฟอล), Autumn (ออทึม)     แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
Winter (วินเทอร์)                   แปลว่า ฤดูหนาว
Rainy season (เรนนี ซีซัน)       แปลว่า ฤดูฝน
Rain (เรน)                           แปลว่า ฝน
Hot (ฮอท)                           แปลว่า ร้อน
Warm (วอร์ม)                       แปลว่า อบอุ่น
Cold (โคลด์)                         แปลว่า หนาว
Cool (คูล)                            แปลว่า เย็น
Freezing (ฟรีซซิง)                 แปลว่า เย็นจนแข็ง
Cloudy (เคลาดิ)                    แปลว่า มีเมฆมาก
Foggy (ฟอกกี)                     แปลว่า หมอกลงจัด
Frost (ฟร็อซท์)                    แปลว่า น้ำค้างแข็ง
Snow (สโนว์)                      แปลว่า หิมะ
Storm (สตอร์ม)                   แปลว่า ลมพายุ
Hail (เฮล)                          แปลว่า ลูกเห็บ
Wind (วินด์)                       แปลว่า ลม
Sunny (ซันนี)                     แปลว่า แดดจัด
Rainbow (เรนโบว์)              แปลว่า รุ้งกินน้ำ
Thunder (ธันเดอร์)              แปลว่า ฟ้าร้อง
Lightning (ไลท์นิง)              แปลว่า ฟ้าแล่บ

ขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya.com


เทนเซ็นต์ คลาวด์ หนุนสถาบันการเงิน ยกระดับการให้บริการ ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์

เทนเซ็นต์ คลาวด์ หนุนสถาบันการเงิน ยกระดับการให้บริการ  ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์

เทนเซ็นต์ คลาวด์ กลุ่มธุรกิจคลาวด์ภายใต้เทนเซ็นต์ แนะนำสถาบันการเงิน ยกระดับการให้บริการทางการเงินด้วยโซลูชันคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเสริมศักยภาพ และเติมเต็มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคต่อบริการทางการเงินดิจิทัลที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

tencentcloud(5)

โดยตัวอย่างความสำเร็จจาก WeBank ดิจิทัลแบงก์รายใหญ่จากประเทศจีน ในการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์จากเทนเซ็นต์ในการดำเนินธุรกิจ ทำให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัด และกลายเป็น ‘Smart BFSI’ (BFSI: Banking, financial services และ insurance) ได้อย่างเต็มตัว

tencentcloud(2)

มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา คนไทยมีพฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมองหาความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม หรือเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของธนาคาร นอกจากนี้ความต้องการของผู้บริโภคต่อบริการทางการเงินดิจิทัลยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สถาบันทางการเงินจึงควรคำนึงถึงการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”

tencentcloud(4)

“เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยเสริมศักยภาพ และเติมเต็มช่องว่างของการให้บริการลูกค้าสำหรับสถาบันการเงินได้อย่างตรงจุด ผู้ประกอบการควรมองหาเทคโนโลยี หรือโซลูชันคลาวด์อัจฉริยะที่จะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจ ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ พร้อมยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อมุ่งสู่การเป็น “Smart BFSI ได้ในที่สุด”

ความสำเร็จของ WeBank ดิจิทัลแบงก์จากประเทศจีน ในการปรับใช้เทคโนโลยี และโซลูชันอัจฉริยะในการดำเนินธุรกิจ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระบบปฏิบัติการคลาวด์ที่คล่องตัว และทรงพลัง ได้ช่วยสร้างความยืดหยุ่น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธนาคารได้ถึง 80% และลดระยะเวลาในการบริหารจัดการแพลตฟอร์มไปได้ถึง 80% พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถในการจัดการกับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ WeBank สามารถจัดการธุรกรรมได้มากกว่าร้อยล้านรายการได้ภายในวันเดียว สำหรับโซลูชันคลาวด์ของ WeBank ประกอบด้วย

tencentcloud(6)

  • ระบบบริหารจัดการฐานข้อมูล TDSQL (TDSQL Database management system) ช่วยให้โครงสร้างด้านบัญชีมีความซับซ้อนน้อยลง และสามารถบริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ระบบการยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR-enabled identification system) โซลูชันที่ช่วยยืนยันความปลอดภัยของการพิสูจน์ตัวตน ด้วยการให้บริการการจดจำตัวอักษรที่มีความแม่นยำสูงในหลากหลายสถานการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการป้อนข้อมูล ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานจากทางไกลได้อย่างถูกต้อง ด้วยเทคโนโลยีการอ่านความเคลื่อนไหวของริมฝีปากและการจดจำใบหน้าของเทนเซ็นต์ คลาวด์
  • ระบบการจัดการข้ามโดเมน (cross-domain management system) ช่วยให้การปรับเพิ่ม หรือลดสเกลระบบประมวลผลธุรกรรมทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพด้านแพลตฟอร์มของธนาคารให้ทำงานได้อย่างแม่นยำ และลดปัญหาจากข้อผิดพลาดในกรณีเครือข่ายระบบล่ม

“เทนเซ็นต์ คลาวด์ ในฐานะผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการคลาวด์อัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น พร้อมให้การสนับสนุนกลุ่มสถาบันทางการเงินในการปรับตัวเพื่อให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และแนวโน้มที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” มร. ชาง กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ถั่วพิสตาชิโอ อาหารลดน้ำหนักและบำรุงสุขภาพ

ถั่วพิสตาชิโอจัดเป็นของว่างกินเล่นที่เคี้ยวเพลินจนหลายคนติดใจ แต่นอกจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ถั่วชนิดนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้านด้วย เพราะอุดมสารอาหารสำคัญหลากชนิด ทั้งยังเชื่อว่าอาจมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

พิสตาชิโอ rs

ข้อมูลทางโภชนาการของถั่วพิสตาชิโอ

ถั่วพิสตาชิโอจัดเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ โดยถั่วนี้ปริมาณ 28 กรัมจะให้พลังงานเพียง 156 แคลอรี่ และยังประกอบด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด ดังนี้

  • โปรตีน ถั่วชนิดนี้มีโปรตีนค่อนข้างสูง โดยถั่วพิสตาชิโอ 28 กรัมจะมีโปรตีนถึง 6 กรัม ซึ่งคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมด อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนจำเป็นและกรดอะมิโนกึ่งจำเป็นในปริมาณสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ หนึ่งในนั้น คือ แอลอาร์จินีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดเลือดและทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น
  • แร่ธาตุและวิตามิน ถั่วพิสตาชิโอประกอบด้วยแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และทองแดง ซึ่งช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นแหล่งของวิตามินบี 6 ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด หรือควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง เป็นต้น
  • สารต้านอนุมูลอิสระ ถั่วพิสตาชิโออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยป้องกันหรือยับยั้งความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระอันเป็นปัจจัยก่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในถั่วชนิดนี้ ได้แก่ ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา รวมถึงสารโพลีฟีนอลและโทโคฟีรอล ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่พบด้วยว่าร่างกายสามารถนำสารต้านอนุมูลอิสระในถั่วพิสตาชิโอไปใช้ได้ง่าย เพราะสารดังกล่าวถูกดูดซึมได้ดีในทางเดินอาหาร

ถั่วพิสตาชิโอกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ

เนื่องจากมีสารเคมีที่สำคัญมากมายถูกพบในถั่วพิสตาชิโอ จึงทำให้เชื่อว่าถั่วชนิดนี้อาจดีต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ และอาจมีประสิทธิภาพป้องกันโรคบางอย่างได้ด้วย ซึ่งมีงานวิจัยบางส่วนค้นคว้าเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของถั่วพิสตาชิโอเอาไว้ ดังนี้

ลดน้ำหนัก

พืชตระกูลถั่วจัดเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะถั่วพิสตาชิโอที่อุดมไปด้วยโปรตีนและเส้นใยอาหาร การรับประทานถั่วชนิดนี้จึงอาจช่วยให้รู้สึกอิ่มและรับประทานอาหารชนิดอื่นได้น้อยลง นอกจากนั้น ไขมันบางส่วนในถั่วพิสตาชิโอก็ไม่สามารถซึมผ่านผนังเซลล์ในทางเดินอาหารได้ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพเพราะร่างกายได้รับไขมันน้อยลง

ทั้งนี้ มีงานวิจัยหนึ่งศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอด้านการช่วยลดน้ำหนัก โดยให้ผู้ป่วยโรคอ้วนจำนวน 31 รายรับประทานอาหารที่คำนวณแล้วว่าให้พลังงานน้อยกว่าอัตราเผาผลาญพลังงานขณะพัก 500 แคลอรี่ในแต่ละวัน ควบคู่กับให้รับประทานถั่วพิสตาชิโออบเกลืออีกวันละ 53 กรัม เป็นเวลาติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวลดลง อีกทั้งยังมีค่าดัชนีมวลกายและระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด

สอดคล้องกับอีกหนึ่งงานวิจัยที่ศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านนี้ โดยแบ่งผู้ป่วยโรคอ้วนลงพุงจำนวน 60 รายออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอร่วมกับรับประทานอาหารหลักและออกกำลังกาย กับกลุ่มที่รับประทานอาหารหลักและออกกำลังกายเท่านั้น จากการทดลองเป็นเวลา 24 สัปดาห์ พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้ป่วยกลุ่มแรกมีน้ำหนักตัวและรอบเอวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนั้น เมื่อเปรียบเทียบปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับหลังรับประทานถั่วพิสตาชิโอดิบกับถั่วพิสตาชิโอที่ผ่านการแปรรูปมาแล้ว พบว่าผู้ที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอที่ยังไม่กระเทาะเปลือกอาจได้รับแคลอรี่ลดลงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรเลือกรับประทานถั่วพิสตาชิโอที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือปรุงแต่งใด ๆ เพื่อผลดีต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านการลดน้ำหนักนั้นยังมีงานวิจัยรองรับไม่มากนัก จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมให้รอบคอบ เพื่อยืนยันประสิทธิภาพในด้านนี้ให้แน่ชัดยิ่งขึ้น

ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ

ถั่วพิสตาชิโออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากชนิด จึงเชื่อว่าการรับประทานถั่วชนิดนี้อาจช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด อันเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจได้

โดยมีงานวิจัยหนึ่งศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านการลดไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด จากการแบ่งอาสาสมัครที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดตั้งแต่ 2.86 มิลลิโมลต่อลิตรขึ้นไปออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รับประทานอาหารไขมันต่ำที่มีส่วนผสมของถั่วพิสตาชิโอ 28 กรัมต่อวัน กลุ่มที่รับประทานอาหารไขมันต่ำที่มีส่วนผสมของถั่วพิตาชิโอ 56 กรัมต่อวัน และกลุ่มที่รับประทานอาหารไขมันต่ำที่ไม่มีส่วนผสมของถั่วพิตาชิโอ หลังใช้เวลาศึกษาทั้งหมด 4 สัปดาห์ พบว่าอาสาสมัครทุกกลุ่มมีระดับคอเลสเตอรอลลดลง ซึ่งอาสาสมัครกลุ่มที่ 2 ที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอมากที่สุดนั้นมีระดับคอเลสเตอรอลลดลงมากที่สุด รองลงมาเป็นอาสาสมัครกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 3 ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าการรับประทานถั่วพิสตาชิโอมากขึ้นอาจมีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลงด้วย

นอกจากนั้น มีงานวิจัยบางส่วนศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในการลดความดันโลหิตแล้วพบว่า การรับประทานถั่วพิสตาชิโอช่วยลดความดันโลหิตตัวบนหรือค่าความดันโลหิตสูงสุดขณะหัวใจบีบตัวได้ประมาณ 1.82 มิลลิเมตรปรอท และช่วยลดความดันโลหิตตัวล่างหรือค่าความดันโลหิตต่ำสุดขณะหัวใจคลายตัวได้ประมาณ 0.8 มิลลิเมตรปรอท

ดังนั้น การรับประทานถั่วพิสตาชิโออาจช่วยป้องกันและรักษาภาวะคอเลสเตอรอลสูงและภาวะความดันโลหิตสูงได้ รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจด้วย อย่างไรก็ตาม งานวิจัยที่ทำการศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านนี้ยังมีอยู่ไม่มากนัก ผู้บริโภคจึงควรรับประทานอาหารชนิดนี้ด้วยความระมัดระวังเสมอ

ลดระดับน้ำตาลในเลือด

ถั่วพิสตาชิโอมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก แต่เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดที่สามารถย่อยได้ง่ายและไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นมากนัก โดยมีงานวิจัยบางส่วนพบว่าการรับประทานถั่วชนิดนี้อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้

มีงานวิจัยหนึ่งที่ศึกษาคุณสมบัติของถั่วพิสตาชิโอในด้านนี้ได้ทดลองโดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานถั่วพิสตาชิโอ 25 กรัม 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงถึง 9 เปอร์เซ็นต์

แม้ผลการวิจัยจะเป็นไปในทางบวก แต่งานวิจัยที่ศึกษาถึงคุณสมบัติในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของถั่วพิสตาชิโอยังมีอยู่ไม่มากนัก จึงจำเป็นต้องรองานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิผลในด้านนี้ต่อไป

ข้อควรระวังในการรับประทานถั่วพิสตาชิโอ

แม้ถั่วพิสตาชิโออาจส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน แต่ผู้บริโภคควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเสมอ โดยไม่บริโภคเกินวันละ 28 กรัมหรือ 49 เม็ด และหลีกเลี่ยงถั่วที่มีส่วนผสมของสารปรุงแต่งใด ๆ อย่างเกลือหรือน้ำตาล รวมทั้งควรเก็บถั่วพิสตาชิโอในภาชนะที่ปิดมิดชิดแล้ววางไว้ในที่แห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคบางรายอาจเกิดอาการแพ้ถั่วพิสตาชิโอ ซึ่งส่งผลให้มีอาการผิดปกติ ดังนี้

  • ริมฝีปาก ใบหน้า หรือลำคอบวม
  • รู้สึกคันในช่องปากหรือริมฝีปาก
  • ผิวหนังมีผื่นแดง
  • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย
  • รู้สึกไม่สบายตัว อ่อนเพลีย
  • เป็นไข้
  • หายใจลำบาก

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ขอบคุณข้อมูลจาก pobpad.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 27,750.00 27,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,798.00 27,257.68 28,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,618.20 24,531.91 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,438.40 21,806.14 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 809.00 12,264.44 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 629.00 9,535.64 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,863.00 28,243.08 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/05/2564

ราคาน้ํามัน ปตท
ปตท.
ราคาน้ํามัน บางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ Caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 95 27.35 27.35 27.95 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35
แก๊สโซฮอล์ 91 27.08 27.08 27.68 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08
แก๊สโซฮอล์ E20 25.84 25.84 26.44 25.84 25.84 25.84 25.84 25.84 25.84
แก๊สโซฮอล์ E85 21.59 21.59 21.59
เบนซิน 95 34.76 35.21 35.26 34.76 34.76
ดีเซล B7 27.49 27.49 28.09 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49 27.49
ดีเซล 24.49 24.49 25.09 24.49 24.49 24.49 24.49 24.49 24.49 24.49
ดีเซล B20 24.24 24.24 25.04 24.24 24.24 24.24 24.24
ดีเซลพรีเมี่ยม 32.26 32.26 34.54 33.66 32.26
แก๊ส NGV 13.99 13.99 13.99
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า