สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2560

อสังหาฯญี่ปุ่นรุกไทยชี้ดีมานด์ที่พักอาศัยโต

ทิศทางกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่สัญชาติ“ญี่ปุ่น”เดินหน้าจับมือร่วมทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันมีดีเวลลอปเปอร์หลายราย ที่ประกาศความร่วมมือไปแล้ว เช่น  อนันดาฯ ร่วมทุน มิตซุย ฟูโดซัง, เอพี (ไทยแลนด์) ผนึก มิตซูบิชิ เอสเตท ,เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จับมือฮันคิว, แสนสิริ กับโตคิว คอร์ปอเรชั่น

ขณะที่ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่ประกาศร่วมทุนกับ “โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์”ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ใน 4 บริษัทย่อย เตรียมเปิดตัวพรีเซลแบรนด์“ไนท์บริดจ์” 3 โปรเจคในเดือน ก.ย.นี้

เอย์จิ คุสึคาเขะ ประธานกรรมการ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทวางแผนการเติบโตระยะกลางและยาว ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2567 ด้วยการลงทุนในต่างประเทศ ภายใต้งบลงทุน 3 แสนล้านเยน (ราว 9.06 หมื่นล้านบาท) เน้นการลงทุนในประเทศแถบเอเชียเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตลาดที่อสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ล่าสุดร่วมทุนกับออริจิ้น เพื่อลงทุนตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เพราะกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางขยายตัวและมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

“ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการเติบโตเชิงปริมาณ สู่การเติบโตเชิงคุณภาพ เรามีประสบการณ์ ดีไซน์ โนว์ฮาว และนวัตกรรมด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมในญี่ปุ่นมายาวนาน จึงเห็นโอกาสร่วมทุนกับออริจิ้นพัฒนาที่อยู่อาศัยในไทย” นายเอย์จิ กล่าว

ประเดิมลงทุนไทย3พันล้าน

ช่วง 2 ปีก่อนบริษัทเริ่มเดินหน้าลงทุนธุรกิจอสังหาฯในเอเชีย เริ่มที่ โฮจิมินห์ เวียดนาม, มะนิลา ฟิลิปปินส์, จีน และล่าสุด กรุงเทพฯ โดยไทยถือเป็นประเทศที่โนมูระ ใช้เงินลงทุนมากที่สุดในขณะนี้ โดยลงทุนไปแล้ว 1 หมื่นล้านเยน (ราว 3,000 ล้านบาท) และมีแผนลงทุนต่อเนื่อง

“มองว่าไทย เป็นตลาดอสังหาฯที่เติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่โนมูระ เข้าไปลงทุนในขณะนี้”

นอกจากการลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัยร่วมกับออริจิ้น  บริษัทยังศึกษาการลงทุนอื่นๆ ครบวงจร ทั้งอาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม

ปัจจุบันโนมูระ มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ได้แก่ 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว 2.ธุรกิจจัดหาสำนักงานให้เช่า 3.ธุรกิจค้าปลีก 4.ธุรกิจโลจิสติกส์ และ 5.ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น การขาย การซื้อ การเช่าอสังหาริมทรัพย์

ญี่ปุ่นหาโอกาสโตนอกบ้าน

ชิเงยูกิ ยามาโมโตะ ผู้อำนวยการและกรรมการเจ้าหน้าที่อาวุโส บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่าโนมูระเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯใจกลางโตเกียวที่ครองส่วนแบ่งการตลาด 8-10% ปัจจุบันการขยายธุรกิจอสังหาฯในเมืองทำได้ลำบาก จากพื้นที่จำกัด อีกทั้งปัจจุบันญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมสูงวัย และอัตราการเกิดต่ำ ทำให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง

ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯในญี่ปุ่นจึงต้องมองหาโอกาสเติบโตนอกบ้าน โดยไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาคอาเซียน ที่ตลาดอสังหาฯ ยังเติบโต ทำให้ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้จุดเด่นโนว์ฮาวของแต่ละรายเข้ามาขยายตลาด

สำหรับโครงการคอนโดที่โนมูระ ร่วมทุนพัฒนากับออริจิ้น ใช้แนวคิด  Luxmore  ที่มาจากคำว่า Lux คือ Luxury หรือหรูหรา กับคำว่า More หรือ มากขึ้นไปอีก แนวคิด Luxmore สะท้อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่หรูหราและสะดวกสบายมากขึ้นไปอีกระดับ

เปิด3โปรเจคหวังยอดพรีเซล50%

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าภายใต้การร่วมทุนกับโนมูระ ที่เข้ามาร่วมถือหุ้น 49% ผ่าน 4 บริษัทย่อย ในไตรมาส 3 เดือน ก.ย.นี้ เตรียมเปิดพรีเซล  3 โครงการร่วมทุน ได้แก่ ไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน จำนวน 334 ยูนิต ราคา 1.3-1.4 แสนบาทตร.ม., ไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช จำนวน 601 ยูนิต ราคา 1.2-1.3 แสนบาทต่อตร.ม. และไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง จำนวน 685 ยูนิต ราคา 9 หมื่นบาทต่อตร.ม. รวม 3 โครงการปีนี้จำนวน 1,620 ยูนิต และปีหน้าเตรียมเปิดตัวโครงการร่วมทุนอีก 1 โครงการ

ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้  เตรียมจัดงาน  My Life. My Origin ที่แฟชั่น ฮอลล์ และรอยัล พารากอน ฮอลล์ 3 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน พร้อมโครงการในทำเลใกล้รถไฟฟ้าของออริจิ้นอีกรวม 28 โครงการ พร้อมเปิดพรีเซล 3 โครงการร่วมทุนโนมูระ  คาดทำยอดพรีเซล 50%  หรือมูลค่า กว่า 4,000 ล้านบาท  จากมูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท

“ธุรกิจอสังหาฯไทยยังมีโอกาสเติบโตทั้งดีมานด์ในประเทศ ตลาดคอนโดโตปีละ 10% รวมทั้งตลาดต่างชาติซื้อเพื่อลงทุน จากราคาต่ำกว่าในฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน  อีกทั้งให้ผลตอบแทนอัตราเช่าสูงที่ราว 5%”

ทุนญี่ปุ่นจ่อร่วมทุนอสังหาฯเพิ่ม

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯ ญี่ปุ่น มองหาโอกาสขยายการลงทุนอสังหาฯ ในไทยต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมามีกลุ่มทุนรายใหญ่เข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการหลายรายแล้วก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีทุนญี่ปุ่นเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการอสังหาฯไทยเพิ่มขึ้นอีก

เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นดีมานด์ไม่เติบโต จากการเข้าสู่สังคมสูงวัย อีกทั้งที่ดินในการพัฒนาอสังหาฯลดลง  ทำให้ผู้ประกอบการต้องมองหาโอกาสการลงทุนนอกบ้าน และไทยเป็นตัวเลือกที่ดี จากตลาดอสังหาฯ ยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง

“คนไทยชอบญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเข้ามาของทุนญี่ปุ่นจึงเป็นประโยชน์ ขณะที่ดีเวลลอปเปอร์ไทยจะได้ทั้งแหล่งทุนและความรู้ในการพัฒนาอสังหาฯร่วมกัน”

สำหรับเสนา ได้ร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) หนึ่งในกลุ่มบริษัท Hankyu Hanshin Holding Group ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ในญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท เสนา ฮันคิว จำกัด พัฒนาโครงการอสังหาฯเน้นพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า ปีนี้มีแผนเปิดตัว 2 โครงการมูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเทอเชนจ์ และ“นิช โมโน สุขุมวิท 70”

http://www.bangkokbiznews.com


‘หมอบุญ’งัดแลนด์แบงก์ผุดเมืองดูแลสูงวัย ‘กรุงเทพฯ-ตจว’

“หมอบุญ”วางแผน 5 ปี ลงทุนเมืองดูแลวัยเกษียณ ทำเลใกล้กรุงเทพฯ 4 มุมเมือง เจาะตลาดไทยรับสังคมสูงวัย พร้อมลุยเมืองท่องเที่ยว สมุย ภูเก็ต กระบี่ มุ่งกลุ่มต่างชาติ   

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรสูงวัยหรือมีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป สัดส่วน 15%  ราว 9-10 ล้านคน  แต่ในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือปี 2564 สัดส่วนจะเพิ่มเป็น 20% ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ

“ผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น หากไม่เตรียมตัวรับมือ จะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ปัจจุบันพบว่าคนสูงวัยที่สามารถดูแลตัวเองได้ทั้งที่มีลูกหลานดูแลและเงินออมวัยเกษียณมีไม่ถึง 5%”

อย่างไรก็ตามกลุ่มสูงวัยถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง กลุ่มธนบุรีจึงลงทุนโครงการเมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ “จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้” ย่านรังสิตพื้นที่ 140 ไร่ มูลค่าการลงทุน 5 ปี รวม 1.8 หมื่นล้านบาท เปิดตัวเฟสแรกด้วยงบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท

ในโครงการมีที่พักอาศัย 2,400 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 9 หมื่นบาทตร.ม. พร้อมด้วยโรงพยาบาล อาคารพักฟื้น อาคารสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย เป็นรูปแบบเมืองวัยเกษียณด้วยแนวคิด การดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ(Integrated Healthcare) และแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Tailor-made Medicine) โดยจะเริ่มเปิดขายส่วนที่พักอาศัย เฟสแรก 1,200 ยูนิต ในเดือนต.ค.นี้  วางเป้าหมายยอดขายเดือนละ 150 ยูนิต

เมืองวัยเกษียณโปรเจคแรกที่รังสิต สามารถรองรับและดูแลผู้สูงวัยได้ราว 2,000 คน ขณะที่จำนวนผู้สูงวัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วง 5 ปีนี้ วางแผนขยายเมืองวัยเกษียณใกล้กรุงเทพฯ 4 มุมเมือง สำหรับตลาดสูงวัยคนไทย โดยมีแลนด์แบงก์ในมือหลายแปลงพร้อมพัฒนาโครงการ

ทำเลที่เตรียมพัฒนาที่อยู่อาศัย ย่านพระราม2 พื้นที่ 200-300 ไร่ ราคา 6-7 หมื่นบาทต่อตร.ม. วางเป้าหมายพัฒนา 3,000 ยูนิต, ย่านบางนา-ตราด กม.30 พื้นที่ 200 ไร่  ราคา 1 แสนบาทต่อตร.ม. ในทำเลนี้จะได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ทั้งนี้ กลุ่มที่ซื้อโครงการที่พักสูงวัยมีทั้งกลุ่มที่ซื้อเพื่อพักอาศัยเอง 60%  สัดส่วนที่เหลือเป็นลูกหลานและคนทั่วไป ซึ่งโครงการจะมีบริการดูแลสำหรับการปล่อยเช่าพื้นที่ให้กลุ่มที่ต้องการพักอาศัยแบบรายวัน สัปดาห์ รายเดือนและรายปีด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้วางแผนพัฒนาโปรเจคในเมืองท่องเที่ยวสำหรับตลาดสูงวัยต่างประเทศ ทั้งที่สมุย พื้นที่ 400 ไร่ ,ภูเก็ต พื้นที่ 150 ไร่, กระบี่ พื้นที่ 380 ไร่ สำหรับโครงการในจังหวัดชายทะเล ราคาอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ส่วนเชียงรายมีที่ดินหลายแปลงรวมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ โครงการเมืองท่องเที่ยวต่างจังหวัดมีกลุ่มเป้าหมายทั้งตลาดจีน ญี่ปุ่น และยุโรป

การพัฒนาโครงการเมืองวัยเกษียณ นอกจากการขายพื้นที่ที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีรายได้จากการให้บริการดูแลกลุ่มผู้สูงวัยทั้งด้านป้องกันสุขภาพและการดูแลผู้ป่วย ซึ่งผู้ใช้บริการจะมีค่าใช้จ่าย 1.5-5 หมื่นบาทต่อเดือน

“การลงทุนเมืองวัยเกษียณโปรเจคต่อไป จะดูฟีคแบ็คจากการเปิดขายโครงการแรกที่รังสิต หากมีการตอบรับดี จะพัฒนาโครงการอื่นต่อทันที โดยมีความพร้อมหลายโครงการทั้งทำเลใกล้กรุงเทพฯ ภูเก็ตและสมุย”

ใน 4-5 ปีข้างหน้าจะมีผู้สูงอายุ 13.5 ล้านคน ภาคเอกชนดูแลได้ราว 9 แสนคน  กลุ่มธนบุรี วางเป้าหมายดูแลกลุ่มสูงวัย 10% หรือ 9 หมื่นคน  ซึ่งถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ยังมีโอกาสขยาตัวต่อเนื่องในช่วง 5 ปีจากนี้

ทางด้านภาพรวมตลาดเมดิคัล ทัวริซึมปีนี้ ถือว่ายังเติบโต แม้ว่าชาวต่างชาติ ญี่ปุ่นและตะวันออกกลางลดลง แต่มีกลุ่มอาเซียนเข้ามาทดแทน ทั้งจากเมียนมา กัมพูชา และเวียดนาม

สำหรับตลาดโรงพยาบาลในไทยมีทิศทางเติบโตลดลง เนื่องจากมีการลงทุนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น เฉลี่ยเหลือตัวเลขหลักเดียว ดังนั้นยุทธศาสตร์ของกลุ่มธนบุรี จึงหนีการแข่งขันโดยหันมามาขยายสถานพักฟื้นและดูแลกลุ่มสูงวัยแทน

http://www.bangkokbiznews.com


ค่าบาท’แข็งค่า’รับแรงซื้อบอนด์ไทย

บาทเปิดตลาดเช้านี้ แข็งค่าที่ “33.25 บาทต่อดอลลาร์” ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าฝั่งบอนด์ไทยจากภาวะเงินเฟ้อต่ำและดอกเบี้ยสูงอยู่

บาทเปิดตลาดเช้านี้ แข็งค่าที่33.25บาทต่อดอลลาร์
ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าฝั่งบอนด์ไทยจากภาวะเงินเฟ้อต่ำและดอกเบี้ยสูงอยู่

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ33.25บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าจากท้ายสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 33.30 บาท ต่อดอลลาร์

 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดเงินผันผวนในกรอบแคบแคบหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังไม่มีทีท่าชัดเจนในการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดมากขึ้นจากการให้ความเห็นในการสัมมนาวิชาการประจำปีของ Fed ที่เมือง Jackson Hole เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าพร้อมกับบอรด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10ปี ที่ร่วงลงไปแตะระดับ 2.16% อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 52 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากความกังวลเรื่องกำลังการผลิตที่จะหายไปจากพายุเฮอริเคนฮาวี่ในฝั่งสหรัฐส่งผลให้บอนด์ยีลด์ขยับกลับขึ้นมาที่ระดับ 2.17% เช้าวันนี้

สำหรับสัปดาห์นี้ต้องจับตาคือ ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันอังคาร รายงาน GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐในวันพุธ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์

เริ่มจากฝั่งไทยยังมองเงินเฟ้อเดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำที่ 0.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากอาหารสดและน้ำมันยังคงไม่ปรับตัวขึ้นมาก น่าจะส่งผลให้ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าฝั่งบอนด์ไทยจากภาวะเงินเฟ้อต่ำและดอกเบี้ยสูงอยู่

ฝั่งสหรัฐ GDP และการจ้างงานยังอยู่ในเกญฑ์ดี มองว่า GDP น่าจะเติบโตได้ที่ 2.8% ในไตรมาส 2 จากการลงทุนของภาครัฐและการบริโภคของภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ด้านการจ้างงานน่าจะขึ้นมาได้ที่ระดับ1.6 แสนคนในสัปดาห์นี้จากภาคบริการที่ยังขยายตัว ส่งผลให้การว่างงานจะยังอยู่ที่ระดับต่ำที่ 4.3% ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเช่นเดิม

แนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ยังคงจะแกว่งตัวแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์ จากเงินทุนไหลเข้าและดอลลาร์ที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้นได้ตามที่เรามองไว้น่าจะส่งผลให้ดอลลาร์กลับตัวได้บ้างในช่วงท้ายสัปดาห์

กรอบเงินดอลลาร์รายวัน 33.17 – 33.27 บาท/ดอลลาร์ กรอบเงินดอลลาร์รายสัปดาห์ 33.00 – 33.50 บาท/ดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


เปิดใช้แล้ว! “ทางเชื่อมแยกปทุมวัน” ด้วยแนวคิดอารยสถาปัตย์ พร้อมเชิญชวนประกวดตั้งชื่อ พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท

“สยาม” ถือเป็นย่านที่เป็นหัวใจสำคัญของกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางธุรกิจ เศรษฐกิจ การค้า การศึกษา ศิลปะต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

แต่กลับพบว่าปัญหาทางเดินและสะพานลอยนั้นมีสภาพที่เก่าและแคบ ไม่สามารถรองรับการขยายตัวของปริมาณคนเดินเท้าในอนาคต อีกทั้งยังไม่สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุหรือผู้พิการได้ สิ่งนี้จึงเกิดเป็นแนวคิดและเริ่มปรับปรุงทางเชื่อมแยกปทุมวันใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2559 ด้วยงบประมาณของเอกชน

พันธมิตรพลังสยาม(Siam Synergy) ร่วมมือกับทางผู้ประกอบการในย่านสยาม คืนกำไรสู่สังคม ปรับปรุงทางเชื่อมแยกปทุมวัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สัญจรไปมา ด้วยแนวคิดการออกแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ซึ่งสามารถรองรับผู้คนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย รวมไปถึงบุคคลทุพพลภาพ อีกทั้งเพื่อยกระดับเป็น Art District แห่งสำคัญของกรุงเทพมหานครด้วย

โดย ทางเชื่อมแยกปทุมวัน นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อสี่แยกปทุมวัน สะท้อนออกมาเป็นงานศิลป์ Abstract รูปใบบัวลอยอยู่กลางสระน้ำ เปรียบเหมือนเป็นร่มเงาให้คนเดินได้โดยรอบ

นอกจากนี้ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ก็ได้ร่วมมือจัดพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นย่านแห่งศิลปะ (art district) พื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินไทย และต่างประเทศ จัดแสดงงานศิลปะกลางแจ้ง เนื่องในโอกาสปฐมฤกษ์เปิดทางเชื่อมแยกปทุมวันเป็นครั้งแรกนี้ ได้รวบรวมศิลปินสตรีทอาร์ทชื่อดังของไทยซึ่งมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ทั้งแนวกราฟฟิตี้ อิลลัสเตรชั่น ดรออิ้ง และเพ้นท์ติ้ง รวมทั้งสิ้น 13 ศิลปิน มาร่วมสร้างสีสีนให้กับอินสตอลเลชั่นอาร์ทบนใบบัว มาร่วมกันสร้างปรากฏการณ์งานศิลปะใจกลางกรุงเทพฯ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง

พันธมิตรพลังสยาม(Siam Synergy)
ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมประกวดตั้งชื่อลานลอยฟ้าใหม่กลางกรุงเทพมหานคร
ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 100,000บาท

ติดตามรายละเอียดและกติกาการประกวดตั้งชื่อ พร้อมส่งชื่อเข้าประกวดได้ทางไปรษณีย์โดยวงเล็บมุมซองว่า “สมัครประกวดตั้งชื่อทางเชื่อมแยกปทุมวัน” มายังบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด (สำนักงานใหญ่) 989 อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ ชั้น 8 ถ.พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หรือส่งทางอีเมลล์ siam_synergy@siampiwat.com , sstradeassociation@gmail.com

https://travel.mthai.com


เคล็ดลับ `สร้างสุขครอบครัวไทย`

เคล็ดลับ \\'สร้างสุขครอบครัวไทย\\' thaihealth

ความรักความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นสิ่งละเอียดอ่อนที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากคนในครอบครัวมีความสัมพันธ์กันมากพอ ย่อมเป็นเรื่องง่ายที่จะจับมือกันก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชีวิตคู่ ปัญหาการเรียน ปัญหาเรื่องเพื่อน ปัญหาที่ทำงาน เป็นต้น

ซึ่ง ‘วัยเด็ก’ เป็นรากฐานที่สำคัญของการเจริญเติบโตสู่ช่วงวัยต่างๆ ที่พ่อแม่และผู้ปกครองควรปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี และเป็นแบบอย่างของพฤติกรรมที่เหมาะสม รวมถึงเป็นต้นแบบของการใช้ชีวิตให้ลูก เพื่อเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นนี้ให้แตกหน่อและเติบโตอย่างงดงาม

แต่เพียงการอบรม สอนสั่ง และปลูกฝังอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ด้วยช่องว่างระหว่างวัยและโลกทัศน์ที่เปลี่ยนไประหว่างวัยพ่อแม่และลูกหลาน ซึ่งต้องการความเข้าใจ การปรับตัว และความประนีประนอมในการดูแลซึ่งกันและกัน ทีมเว็บไซต์ สสส. จึงรวบรวมเคล็ดลับเติมเต็มความสุขของครอบครัวมานำเสนอเป็นตัวอย่างแนวทางให้ครอบครัวไทยนำไปปรับใช้ในยุค 4 จี หรือ ยุค 4.0 เพื่อเป็นการเติมเต็มความรักและความเข้าใจและกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวค่ะ

“4 ย. เคล็ดลับเติมรักให้ครอบครัว” จากคู่มือ 4 ย.เคล็ดลับเติมความสุขชีวิตคู่ โดยสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้แนะนำไว้ว่า

ย.ยืดหยุ่น : รู้จักอดทนอดกลั้น รู้จักให้และรับที่เหมาะสม เรียนรู้ที่จะพบกันครึ่งทาง เพื่อความสัมพันธ์ที่สมดุลและแนบแน่น ดังคำกล่าวที่ว่า ‘บ้านเปี่ยมรัก…สร้างจากความรักและความเข้าใจ’

ย.ยกย่อง : หมั่นใช้คำพูดที่อ่อนหวานไพเราะ ห่วงใย ให้กำลังใจซึ่งออกมาจากใจบนพื้นฐานของสติปัญญาและความรัก เป็นพลังเสริมสร้างแรงบันดาลใจเพื่อการเปลี่ยนแปลงตนเองและโลกได้อย่างไร

ย.ยืนหยัด : ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ อย่าลืมยืนหยัดการมองโลกด้วยจิตใจที่ดีอยู่เสมอๆ เพราะการมองโลกในแง่ดีนั้นจะทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น รวมถึงในยามที่มีปัญหาอุปสรรคเข้ามาคุณก็จะมองในมุมที่เป็นสัจธรรมได้ด้วยเช่นกัน

ย.แยกแยะ : รู้จักแยะแยะปัญหาแต่ละเรื่องออกจากกัน ไม่นำปัญหาภายนอกมาใส่อารมณ์กับคนในบ้าน การคิดก่อนพูดจะช่วยให้ความยุ่งยากต่างๆ กลายเป็นเรื่องเล็กและสามารถแก้ไขได้ในที่สุด

เคล็ดลับ \\'สร้างสุขครอบครัวไทย\\' thaihealth

หลังจากที่ผู้ปกครองรู้จักเคล็ดลับการเติมเต็มความรักให้ครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของเคล็ดลับสิ่งที่ไม่ควรทำ กับ “8 นิสัยที่พ่อแม่ควรเลิกเสียที” จากหนังสือ ‘ปรับเปลี่ยน 8 นิสัยที่พ่อแม่ควรเลิกซะที’ นิตยสาร SOOK ฉบับที่ 14 ที่บอกไว้ว่า

ไม่มีเวลา : เด็กๆ โดยเฉพาะ วัย 6 ขวบปีแรก ควรมีพ่อแม่คอยสอนทักษะพื้นฐานชีวิตที่สำคัญให้กับเขา

ขี้หงุดหงิด : ควรแยกแยะเรื่องงานและครอบครัวออกจากกัน อย่าให้คนในบ้านมาคอยรับอารมณ์ที่เกิดจากนอกบ้านตลอดเวลา

ตามใจเกินเหตุ : การรักลูกแบบผิดๆ ชนิดที่ตามใจทุกอย่างอาจทำให้ติดเป็นนิสัยของตัวเด็กและกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่แก้ได้ยากในอนาคต

ติดสมาร์ทโฟน : พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดี และหากิจกรรมต่างๆ มาช่วยกระชับสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น การเล่านิทาน การปลูกต้นไม้ การพาไปสวนสัตว์ เป็นต้น

จู้จี้ขี้บ่น : ไม่มีใครชอบโดนบ่นตลอดเวลา ดังนั้นพ่อแม่หรือผู้ปกครองควรพูดตรงๆ กับลูกว่าอยากให้ปรับปรุงตัวหรือเลิกพฤติกรรมแบบไหน เพื่อที่คุณจะได้บ่นพวกเขาน้อยลงนั่นเอง

เจ้าบงการ : หยุดบังคับ กำหนดทุกอย่างให้ลูก และเปลี่ยนจากการเลือกให้เขาเป็นการช่วยแนะนำแทน

นอกจากนี้ พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร (หมอโอ๋) จาก เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้แนะนำเทคนิคการเลี้ยงลูกแบบไม่ต่อต้านคำสั่งของผู้ปกครองไว้ในกิจกรรม Workshop สื่อสารยังไงให้ได้ใจลูก ฐาน : พูดอย่างไร…ให้ลูกฟัง เอาไว้ดังนี้

ต่อติดก่อนตักเตือน เช่น ถ้าลูกกำลังเล่นของเล่นอยู่ ให้ถามว่ากำลังเล่นอะไร แล้วค่อยชวนเลิกเล่น เด็กจะรับฟังมากกว่าสั่งไปเลย

บอกความอยาก แทนห้าม อย่า ไม่ เช่น แม่อยากให้หนูลงมากระโดดข้างล่าง หรือแทนที่จะบอกว่าอย่าวิ่ง ให้เปลี่ยนเป็นเดินช้าๆ สิลูก

หมั่นตั้งคำถาม เช่น ให้ถามว่ากลับบ้านวันนี้ต้องทำอะไรบ้างนะ? แทนการสั่งว่ากลับบ้านต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้

สั้นๆ เข้าไว้ อย่าบ่นยืดเยื้อ ยืดยาว เช่น อยากสั่งให้ลูกถอดรองเท้า ก็พูดแค่ว่า ‘รองเท้าลูก’ แค่นี้ก็เพียงพอ

บอกล่วงหน้า เช่น อีก 5 นาที เราต้องเลิกเล่นแล้วนะลูก เด็กๆ จะได้เตรียมตัว ไม่โวยวาย

ให้ทางเลือก เพราะลูกจะรู้สึกมีอำนาจตัดสินใจ เช่น จะเล่นต่ออีก 1 หรือ 2 นาทีดีคะ?

พูดให้คิด ให้เด็กๆ ได้คิดวิเคราะห์ถึงผลที่ตามมา จากการกระทำของตนเอง เช่น ถ้าเราไม่กินผัก จะเป็นไงนะลูก? ท้องผูกใช่ไหม?

สั่งเป็นเพลง ทำให้คำสั่งดูเป็นความรื่นเริง ลื่นหู

ใช้ท่าทาง เช่น แทนที่สั่งลูกให้หยุดเล่น ipad ให้เดินไปหา ยิ้ม มองไปที่ไอแพด แทนการสั่งเสียงแข็งๆ

เขียนโน๊ตดีกว่า เขียนให้น่ารักๆ เข้าไว้ เด็กๆ จะชอบมากกว่า การสั่งด้วยคำพูดโดยตรง

นับ 1 ถึง 10 แทนที่จะสั่งให้ลูกหยุดทำนู่นทำนี่ทันที ควรให้เวลาลูก โดยการนับ 1 – 10 ถ้าลูกทำตามโดยที่นับไม่ถึงให้ชมลูกด้วยนะคะ

กระซิบสื่อรัก แทนที่จะใช้น้ำเสียงแข็งๆ สั่งลูก ให้กระซิบเบาๆ ใกล้ๆ แทน วิธีนี้จะไม่กระตุ้นสมองด้านอารมณ์ และเด็กๆ จะชอบมาก

ทั้ง 3 เทคนิคที่ทีมเว็บไซต์ สสส. หยิบขึ้นมานำเสนอนี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยกระชับความเข้าใจและความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เสมือนเป็นการแต่งแต้มสีสันธรรมชาติที่เป็นสีพื้นฐานลงบนผ้าขาว เพื่อที่ในอนาคตภายหน้าพวกเขาจะได้เลือกสีสันที่ถูกใจและงดงามมาต่อยอดเป็นผลงานศิลปะที่มีคุณค่าและน่าค้นหา

หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองท่านไหนสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลเว็บไซต์ สสส. หรือเข้าร่วมกิจกรรม workshop ที่เสริมสร้างพัฒนาการบุตรหลานและความสัมพันธ์ในครอบครัว กับ SOOK by สสส. ได้นะคะ

http://www.thaihealth.or.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 28/08/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 90% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 50% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 40% n/a n/a n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a n/a n/a

 

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  28/08/2560


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 26.65 26.65 26.65 26.65 26.65 26.65 26.65 26.65 26.65
แก๊สโซฮอล E-20 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14 24.14
แก๊สโซฮอล E-85 19.94 19.94 19.94 19.94
แก๊สโซฮอล 91 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38 26.38
เบนซิน 95 33.76 34.21 34.21 34.26 33.76 33.76 33.76
ดีเซลหมุนเร็ว 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19 25.19
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 27.69 28.37 28.37 28.37 28.37
มีผลตั้งแต่ 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00 19 Aug 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า