สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 29 มกราคม 2561

‘โฮมไพร์ส’สร้าง‘รสนิยม’แต่งบ้านสวย

ตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทย มียอดโอนกรรมสิทธิ์ปีละกว่า 1.5-1.7 แสนหน่วย ส่วนตลาดเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านต่อปี ถือเป็นโอกาสเติบโตของธุรกิจตกแต่งบ้าน

พรชัย แสนชัยชนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมไพร์ส จำกัด กล่าวว่าจากจุดเริ่มต้นที่สนใจในเทคโนโลยีและการแต่งบ้าน  ทำให้ช่วง 3 ปีก่อนเริ่มศึกษารูปแบบการซื้อขายสินค้าผ่านมาร์เก็ตเพลสต่างๆ รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ จากนั้นได้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่สนใจด้านเทคโนโลยีและดีไซเนอร์ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม โฮมไพร์ส (Homeprise) รูปแบบ “สตาร์ทอัพ” สร้างโมเดลธุรกิจ”แพลตฟอร์มกลาง” ของวงการตกแต่งบ้านและแหล่งรวมสินค้าเพื่อการแต่งบ้าน ที่ปัจจุบันยังไม่มีแพลตฟอร์มที่เป็นเซอร์วิส “ดีเอ็นเอ”ตกแต่งบ้าน ที่จะช่วยลูกค้าตกแต่งที่อยู่อาศัยมาก่อนในตลาด

ที่ผ่านมาเชื่อว่าพฤติกรรมคนไทย เวลาแต่งบ้าน จะวิ่งไปงานแฟร์ต่างๆ เพื่อเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เสนอราคาพิเศษมาแต่งบ้าน จากนั้นจะเป็นทฤษฎีตกแต่งบ้านแบบ “มิกซ์แอนด์มั่ว” แบบฉันเป็นฉันเอง เพราะไม่ต้องการจ้างคนออกแบบตกแต่ง ที่เป็นเช่นนั้นอาจจะมาจากปัจจัยเรื่อง “ค่าใช้จ่ายสูง”

การทำงานของโฮมไพร์ส จึงวางเป้าหมาย คือ ต้องการให้ทุกคนตกแต่งที่อยู่อาศัยได้ “สวย” ตามความต้องการ ด้วยค่าใช้จ่ายที่สามารถจ่ายได้ โดยไม่มีเพียงคนรวยเท่านั้นที่แต่งบ้านได้สวย โดยเชื่อว่า โฮมไพร์สสามารถสร้างความรู้ เรื่องการตกแต่งบ้านสวยผ่านแพลตฟอร์มกลาง ที่มีดีไซเนอร์ให้คำปรึกษา มีเฟอร์นิเจอร์หลากหลายให้เลือก

การพัฒนาแพลตฟอร์ม เริ่มจากการตั้งคำถามว่า หากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชน วงการตกแต่งบ้านใช้ชั่วโมงการทำงานลดลง ขณะที่ “เวลา” คือ “ต้นทุน” ดังนั้นเมื่อเวลาการทำงานลดลง “เงิน” หรือ “ต้นทุน” ก็จะลดลง เมื่อต้นทุนลดลง ก็จะมีโอกาสได้ “บ้านสวยขึ้น” จากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงาน

หลักการการทำงานของโฮมไพร์ส  มองว่าหากทำให้การตกแต่งบ้านของทุกกลุ่มทำได้ง่าย ด้วยต้นทุนไม่สูง เป็นการสร้าง“รสนิยม” การแต่งบ้านสวย เช่นเดียวกับการตกแต่งบ้านในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ดูสวยงาม

ซึ่งจะเชื่อมโยงไปที่อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ให้เติบโต จากรสนิยมการตกแต่งบ้านในแต่ละกลุ่ม เพราะทุกคน ไม่ได้ต้องการเพียงฟังก์ชันของเฟอร์นิเจอร์ แต่ต้องการ“รสนิยม”ที่ดูดี

การเลือกเฟอร์นิเจอร์จากความชอบ เมื่อใช้จึงเป็นฟังก์ชัน เพราะคำว่า “สวย” มากับฟังก์ชัน ที่ “เวิร์ค” และลงตัวแบบที่เรียกว่า “ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์”

“เราต้องการสร้างแพลตฟอร์ม ที่ช่วยสร้างรสนิยมตกแต่งบ้านของคนไทย ให้ทุกคนมีบ้านที่สวยในสไตล์ของแต่ละคน  โฮมไพร์ส “ไม่ได้ขายสินค้า แต่เราขายรสนิยมการอยู่อาศัยที่ดีและสวยงาม”

หลังจากเปิดแพลตฟอร์มโฮมไพร์ส ผ่านเว็บไซต์ ในปี 2560 มาปีนี้ได้พัฒนาสู่ แอพพลิเคชั่น ทั้ง ไอโอเอส และแอนดรอยด์  ด้วยเทคโนโลยี 3D Interactive ล่าสุด ทั้ง Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) ครั้งแรกของการแต่งบ้านด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือ

โฮมไพร์ส ถือเป็น “มาร์เก็ตเพลส” ด้านเซอร์วิสที่ผสมผสานงานศิลปะ เพราะไม่ใช่ว่าใครต้องการเข้ามาค้าขายก็ได้  เพราะจะมี gatekeeper ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ ทำหน้าที่คัดเลือกสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์ม

โดยผู้ที่ต้องการแต่งบ้านหรือคอนโด สามารถใช้แพลตฟอร์ม ช่วยให้การแต่งบ้านง่ายและสวยขึ้น ด้วยงบประมาณที่ควบคุมได้จริง  โดยสามารถปรึกษาหรือว่าจ้างดีไซเนอร์ที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกโฮมไพร์สให้ออกแบบและตกแต่งที่อยู่อาศัยได้ตลอดเวลา พร้อมเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มที่จะให้บริการส่งสินค้าและติดตั้ง

ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านทั่วประเทศ โดยเฉพาะ เอสเอ็มอี  จะมีช่องทางใหม่ในการขายสินค้าในยุคอีคอมเมิร์ซ เป็นเครื่องมือทางการตลาด ที่เข้าถึงลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง  ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดูแลหน้าร้าน หรือออกร้านแบบเดิมๆ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าตัวจริงมากขึ้น

ดีไซเนอร์ นักออกแบบ และมืออาชีพทุกสาขาที่เกี่ยวกับบ้าน โฮมไพร์สได้คิดค้นเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ Cloud Design Technology ช่วยการออกแบบโดยเฉพาะจากทุกสถานที่  ทำให้ทำงานออกแบบได้สะดวกรวดเร็วขึ้น มีระบบฐานข้อมูลสินค้าที่ผลิตจำหน่ายจริง ส่งมอบได้จริง ทำให้การสเปคสินค้าหรือออกแบบมีความแม่นยำขึ้น ลดเวลาแก้ไขงานจากการหาสินค้าตามไอเดียที่ออกแบบไปแล้วไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นช่องทางใหม่ในการเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการมืออาชีพในการออกแบบได้อย่างแท้จริง

“โฮมไพร์ส ต้องการเป็นแพลตฟอร์ม สนับสนุนผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ทั้ง เอสเอ็มอี แบรนด์เล็ก แบรนด์ใหม่ เข้าสู่สนามแข่งดิจิทัล ได้อย่างทัดเทียมและมีโอกาสไปสู่ระดับโลก”

พรชัย ย้ำว่าวันนี้การทำงานควรมาไกลกว่าคำว่าทำธุรกิจแล้วได้กำไร แต่ควรสร้าง“แวลู”ให้อุตสาหกรรม  สนับสนุนเอสเอ็มอีและแบรนด์ไทย ให้มีช่องทางขายออนไลน์แข่งกับระดับโลกได้ และพิสูจน์ว่าคนไทยพัฒนาเทคโนโลยีได้

มักมีคนพูดว่า “คนไทย”คิดเทคโนโลยีไม่ได้ เป็นได้แค่ “ผู้ใช้”เทคโนโลยี ถือเป็นแรงกระตุ้น ในการพัฒนาโฮมไพร์ส มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นครีเอเตอร์ เทคโนโลยี ที่มาจากคนไทย และวางเป้าหมายขยายสู่ตลาดเอเชียหลังจากนี้

http://www.bangkokbiznews.com


ฮาบิแททบุกซีบีดีกรุงเทพฯชู’คอนโดหรู’เจาะนักลงทุน

ฮาบิแทท กรุ๊ป เดินหน้าลงทุนคอนโด ไฮเอนด์ วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มนักลงทุน-ต่างชาติ ปีนี้เตรียมเปิดตัว5โครงการมูลค่า 4 พันล้าน ประเดิมบุกโซนซีบีดี กรุงเทพฯ ยึดทำเลซอยร่วมฤดี-สุขุมวิท-ทองหล่อ วางยอดขาย 3 พันล้าน รุกโรดโชว์ต่างประเทศเพิ่มลูกค้าต่างชาติ

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์พรีเมียมเพื่อการลงทุน เปิดเผยว่า แนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทตั้งแต่ปี 2555 มองโอกาสตลาดด้านการพัฒนาคอนโดมิเนียมกลุ่มลักชัวรีเพื่อการลงทุน จึงเริ่มพัฒนาโครงการที่เมืองท่องเที่ยวหลัก “พัทยา” ต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบันมีคอนโด ที่พัทยา 6 โครงการ ได้แก่ เดอะวิลล์ จอมเทียน โครงการครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ โครงการเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา ใน 3 โครงการดังกล่าว มียอดขาย100% โครงการครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ มียอดขาย 70-80% โครงการบลูเฟียร์ พัทยา แมเนจบายเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คอลเล็คชั่น มียอดขาย 70% และล่าสุด โครงการวินด์แฮม แอทลาส วงศ์อมาตย์ พัทยา มียอดขาย 50%

โดยทั้ง 6 โครงการมีมูลค่ารวมกว่า 3,700 ล้านบาท มียอดขายในปี 2560 กว่า 1,300 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้รวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 700 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการเดอะวิลล์ จอมเทียน และครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้าและมีเอเยนต์ ดูแลการลงทุน และมอบผลตอบแทนจากการลงทุนให้แก่นักลงทุนในโครงการแล้ว

รุกซีบีดีกรุงเทพฯผุดคอนโดหรู

นายชนินทร์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย 5 โครงการ มูลค่า 4,000ล้านบาท โดยเป็นการขยายการลงทุนอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ปีนี้เปิดตัว 4 โครงการ ในตลาดที่อยู่อาศัย ไฮเอนด์ โซนซีบีดี ประเดิมโครงการแรกเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้า ลักชัวรี ภายใต้ชื่อ “เลอรอย” (LEROY Ruamrudee) ในซอยร่วมฤดี ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลที่มีราคาที่ดินแพงที่สุดในประเทศไทย รวมถึงยังเป็นทำเลที่มีราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด

โดยบริษัทได้ซื้อที่ดินขนาด 200 ตร.ว. ในซอยร่วมฤดี 2 พัฒนาเป็นบ้านพักอาศัยจำนวน 2 หลัง 8 ชั้น 6 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว่า 2,160 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นหลังละ 108 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 250 ล้านบาท

นอกจากนี้ เตรียมพัฒนาโครงการคอนโด พรีเมียม รูปแบบโลว์ ไรส์ ในโซนสุขุมวิท อีก 3 โครงการ ภายใต้ชื่อโครงการ “วาลเด้น” (Walden) แต่ละโครงการจะมีจำนวนยูนิตไม่มาก หรือกว่า 100ยูนิต โครงการแรกที่ อโศก ระยะ500-600เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน มูลค่าโครงการ700ล้านบาท

ส่วนอีก 2 โครงการอยู่ในทำเลสุขุมวิท –ทองหล่อ หรือระหว่างซอย สุขุมวิท31และ สุขุมวิท39ใกล้กับย่านธุรกิจ ที่มีแนวรถไฟฟ้าวิ่งเกาะกลางตลอดความยาวของถนนตั้งแต่หัวถนน ทำให้เป็นย่านที่ดินราคาสูง โดยทั้ง 2 โครงการมีมูลค่าโครงการละ800-950ล้านบาท รวมมูลค่า3โครงการคอนโดหรูกว่า2,500 ล้านบาท

เปิดราคาไม่เกิน2แสนต่อตร.ม.

ปัจจุบันราคาคอนโด ในย่านสุขุมวิท เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5-3แสนบาทขึ้นไป ต่อตร.ม. ด้วยราคาดังกล่าว ทำให้ผลตอบแทนการปรับราคาของอสังหาฯ และผลตอบแทนอัตราเช่าอยู่ที่3-4%

ขณะที่โครงการของบริษัทในโซนซีบีดี สุขุมวิท ที่เตรียมเปิดตัวในครึ่งปีแรกราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.7-2แสนบาทต่อ ตร.ม. ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนลงทุนที่อัตรา5%

ทั้งนี้ โครงการอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ จะมีโมเดลธุรกิจที่แตกต่างจากพัทยา โดยมีทั้งรูปแบบซื้อเพื่อลงทุนและซื้อเพื่อพักอาศัย แต่จะเน้นที่รูปแบบการลงทุนเป็นหลัก โดยบริษัทจะมีการบริหารจัดการการเช่าและอำนวยความสะดวกเรื่องการบำรุงรักษาห้องให้ผ่านบริษัท ฮาบิแทท ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีทีมงานมืออาชีพและมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการการเช่าเป็นผู้ดูแล

“กลยุทธ์การลงทุนในกรุงเทพฯ เน้นขยายโครงการขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่มาก โดยชูทำเลซีบีดี ที่เหมาะกับการลงทุนและซื้ออยู่อาศัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ที่มีคู่แข่งขันจำนวนมากและเป็นกลุ่มทุนในตลาดฯ”

ปีนี้มีแผนลงทุนคอนโด ที่พัทยาเหนือ 1มูลค่า1,250ล้านบาท ในช่วงปลายปี2561 โดยยังยึดโมเดลการลงทุนแบบการันตีการเช่า โดยมีเชนโรงแรม ระดับโลก จากสหรัฐ เป็นผู้บริหารและจัดการการเช่า

ปี2563 เล็งเข้าตลาดฯ

นายชนินทร์ กล่าวว่าปี 2563 บริษัทวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจอสังหาฯกลุ่มไฮเอนด์ ในกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการลงทุนสูง เห็นได้จากราคาที่ดินที่พัทยาไร่ละ 30-40 ล้านบาท ขณะที่ทำเลในกรุงเทพฯ ที่สามารถพัฒนาคอนโดไฮเอนด์ได้ อยู่ที่ไร่ละ 300-400 ล้านบาท หรือ ตร.ว.ละ 8 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ มั่นใจตลาดอสังหาฯ ของไทยในปี 2561 จะยังคงเติบโตในทิศทางบวกมากขึ้น จากปัจจัยเสริมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่บริษัทเลือกลงทุนทั้งในพัทยา และโซนซีบีดี กรุงเทพฯ มีการเติบโตและมีดีมานด์สูงต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐที่ยังคงดึงดูดความสนใจของนักลงทุนและผู้ประกอบการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า หรือโครงการส่งเสริมการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

รวมถึงการลงทุนในอสังหาฯ เพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะสิงคโปร์ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ปีนี้บริษัทเตรียมโรดโชว์โครงการในประเทศดังกล่าว ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ จาก 10-15% เป็น 30%

 ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายปี 2561 อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และมีรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้น 20% ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ชื้อตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

http://www.bangkokbiznews.com


‘พาณิชย์’ คาดส่งออกปีนี้โต 6%

กระทรวงพาณิชย์คาดส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 6 สินค้าอิเล็กทริกส์ ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูปยังเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์  กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับภาคเอกชนเพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกในปี 2561 ว่า ที่ประชุมได้ประเมินตัวเลขการส่งออกปีนี้ว่าจะอยู่ที่ ประมาณ 6% มูลค่าประมาณ 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐโดยสินค้าที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออก เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูป

ส่วนสินค้าที่อาจมีการส่งออกน้อยลง คือ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพราะประเทศเพื่อนบ้านก็ผลิตออกมาได้มากเช่นกัน ทั้งนี้จะให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ที่กรมจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ก.พ. ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) 58 แห่งทั่วโลก เพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออกและเป้าหมายในปีนี้ รวมถึงวางแผนผลักดันการส่งออก โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มามอบนโยบายและแนวทางการทำงาน

สำหรับอุปสรรคในการส่งออกในปีนี้ก็ยังคงเป็นค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าซึ่งทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะนำเสนอแนวทางให้กับภาครัฐเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป แต่ในที่ประชุมครั้งนี้เอกชนที่เข้าร่วมประชุมไม่ได้เรียกร้องให้แทรกแซงค่าเงินบาทแต่อย่างใด

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เป้าขยายตัวที่เอกชนมองไว้คือ 6% ภายใต้เงื่อนไขค่าบาทอยู่ในระดับที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐทั้งปี และคาดว่าในไตรมาส 3 ค่าบาทน่าจะอ่อนค่าลงและมีทิศทางที่คลี่คลาย
ทั้งนี้ข้อเสนอที่ภาคเอกชนเสนอในที่ประชุม คือ ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาบริหารจัดการดูแลเรื่องค่าบาทอย่างจริงจังและเข้มงวด และมีความชัดเจนรวมถึงจับตาสัญญาณความผิดปกติของค่าเงินอย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อเสนอนี้คณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน(กกร.) จะเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป

http://www.bangkokbiznews.com


เปิดตัว ‘แท็กซี่ โอเค’ ตั้งเป้าอีก 5 ปี วิ่งเต็มถนน

เปิดตัว 'แท็กซี่ โอเค' ตั้งเป้าอีก 5 ปี วิ่งเต็มถนน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการ Taxi OK หวังยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการใช้บริการรถแท็กซี่ พร้อมกับเพิ่มทางเลือกเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Taxi OK ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวเปิดให้บริการครั้งแรกในวันนี้ (26 มกราคม)

พร้อมกันนี้ได้รับข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัวโครงการและกำหนดให้รถแท็กซี่อายุใช้งานครบ 9 ปี รวมกับที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมา ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยนั้น

ส่งผลให้มีแท็กซี่เดิมสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 30,000 คัน บวกกับแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ 9 พ.ย. 2560 อีก 6,000 คัน ขณะที่ปีนี้จะมีรถแท็กซี่ที่ทะเบียนหมดอายุและต้องต่อทะเบียนอีก 10,000 คัน จะเข้าสู่โครงการ Taxi OK ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะมี “แท็กซี่ โอเค” ให้บริการประมาณ 46,000 คัน และภายใน 5 ปี จะเป็นแบบนี้ทั้งระบบ

ความแตกต่างระหว่าง Taxi OK กับ Taxi Meter ในปัจจุบัน ได้แก่ ใช้เทคโนโลยีจีพีเอส แทร็กกิ้ง และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ, มีระบบยืนยันตัวตนของผู้ขับ, มีกล้องบันทึกภาพในรถ, มีปุ่มฉุกเฉิน (SOS) อย่างน้อย 1 จุด เชื่อมข้อมูลแบบเรียลไทม์กับ 3 หน่วยงาน คือ ศูนย์แท็กซี่ที่มีทั้งสิ้น 14 ศูนย์ทั่วประเทศ, กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พร้อมกับมีแอปพลิเคชัน Taxi OK ซึ่งสามารถดาวน์โหลดผ่านทั้งระบบ iOS, Android และ Windows Phone โดยมีค่าบริการเรียกผ่านแอปฯ ครั้งละ 20 บาท ส่วนค่าโดยสารเริ่มที่ 35 บาท เท่ากันกับแท็กซี่ทั่วไป

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกศูนย์บริการสื่อสารรถแท็กซี่ที่ต้องการในระบบได้จำนวน 14 ศูนย์ทั่วประเทศ มีรถแท็กซี่ให้บริการ 5,610 คัน และขณะอยู่บนรถแท็กซี่ ผู้โดยสารสามารถแจ้งผู้อื่นให้รับทราบตำแหน่งพิกัดได้ตลอดการเดินทาง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้โดยสารสามารถกดปุ่มฉุกเฉินภายในรถแท็กซี่ หรือกดขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย

ค่าติดตั้งอุปกรณ์ประมาณ 20,000 – 40,000 บาท

นายสนิทใจ แย้มใส คนขับแท็กซี่ Taxi OK วัย 63 ปี เปิดเผยสาเหตุที่เข้าร่วมโครงการว่า เพราะรถแท็กซี่ที่ขับมาก่อนหน้านี้หมดอายุการใช้งาน จึงต้องซื้อใหม่และจดทะเบียนใหม่หลัง 9 พ.ย.ปีที่ผ่านมา โดยรถคันนี้เป็นรถเขียว-เหลือง หมายถึงเป็นรถส่วนตัว พอเข้าโครงการทางกรมการขนส่งทางบกก็เรียกมาอบรมและแนะนำวิธีการใช้งานแอปพลิเคชัน

ส่วนการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมนั้น เนื่องจากซื้อรถแท็กซี่จากบริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด บริษัทติดตั้งแต่อุปกรณ์กล้องหน้า-กล้องหลัง อุปกรณ์บันทึกการเดินทาง ปุ่มฉุกเฉินทั้งของผู้โดยสารและคนขับ และการเชื่อมต่อระบบข้อมูลมาให้พร้อม โดยค่าอุปกรณ์เหล่านี้ประมาณ 35,000 บาท บริษัทจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง เจ้าของรถจ่ายเพิ่มอีก 15,000 บาท

กรณีที่ไฟเขียวแสดงสัญลักษณ์ว่ารถคันนี้ว่าง แทนไฟแดงแบบเดิม นายสนิทใจ ยอมรับว่า ช่วงเดือนแรก ๆ ที่ออกมา ผู้โดยสารยังงง ๆ ไม่แน่ใจว่า รถคันนี้จะจอดรับหรือไม่ แต่คาดว่าหลังจากนี้เมื่อกรมการขนส่งทางบกมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้น มีรถออกมาวิ่งเยอะขึ้น สักพักปัญหานี้ก็จะหมดไป

taxiok00

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวันนี้ (26 มกราคม) เป็นวันแรกที่เปิดให้เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ โอเค ผ่านแอปฯ Taxi OK จึงอาจยังติดขัด รถแท็กซี่บางครั้งยังรับงานผ่านแอปฯ ไม่ได้ เรื่องนี้คาดว่าจะมีการแก้ปัญหาต่อไป

ทั้งนี้ ค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับแท็กซี่โอเค ปัจจุบันมีราคาตั้งแต่ 20,000 – 40,000 บาทต่อคัน

https://money.sanook.com


รู้จักไหม? “ลูกหม่อน” (Mulberry) ช่วยลดน้ำตาลในเลือด-ป้องกันมะเร็ง

รู้จักไหม? “ลูกหม่อน” (Mulberry) ช่วยลดน้ำตาลในเลือด-ป้องกันมะเร็ง

เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม” กันไหมคะ เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่า “หม่อน” ที่ว่าคืออะไร มันคือใบหม่อนที่เคยมีการส่งเสริมให้ปลูกกันถามภาคเหนือ โดยเฉพาะหมู่บ้านชาวเขา ที่จะนำใบหม่อนมาใช้เป็นอาหารของหนอนไหม แต่หม่อนไม่ได้มีประโยชน์แค่ใบเท่านั้นนะคะ ลูกหม่อน หรือชื่อภาษาอังกฤษแบบไฮโซๆ เรียกว่า Mulberry ก็มีประโยชน์ดีๆ ไม่แพ้กัน

1. ช่วยบำรุงหัวใจ

2 ดับร้อน ทำให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการกระหายน้ำ

3. อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และกรดโฟลิก เหมาะแก่มารดาที่กำลังตั้งครรภ์

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

5. ลดน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

6. ผลหม่อนต้ม ช่วยแก้โรคไขข้ออักเสบ

7. มีวิตามินบี 6 ช่วยบำรุงเลือด ตับ และ ไต

8. ลดการเกิดสิว และปวดประจำเดือน

9. มีวิตามินซีสูง ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ และปอด

10. แก้อาการท้องผูก เพราะเป็นยาระบายอ่อนๆ

11. มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก

12. แก้อาการเมาค้าง ผ่อนคลายความเครียด

13. ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ สุขภาพดี ป้องกันผมหงอกก่อนวัย

หม่อนสามารถปลูกได้เองที่บ้านนะคะ ไม่ยาก แถมนอกจากผลแล้ว ตัวใบเองยังเป็นสมุนไพรที่ดี ทำประโยชน์ได้อีกเยอะ ใครอยากลองทานหม่อนลองหาซื้อทานกันดูนะคะ

https://www.sanook.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 29/1/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,950.00 20,050.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,292.00 19,586.72 20,550.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,033.60 15,669.38 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 581.00 8,807.96 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 452.00 6,852.32 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,339.00 20,299.24 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  29/1/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 28.45 28.45 27.95 28.45 28.45
28.45
28.45
28.45
28.45
แก๊สโซฮอล E-20
25.94
25.94
25.94
25.44
25.94
25.94
25.94
25.94
25.94
แก๊สโซฮอล E-85 20.94 20.94 20.94 20.94
แก๊สโซฮอล 91 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18 28.18
เบนซิน 95 35.56 36.01 36.06 35.56 35.06 35.56
ดีเซลหมุนเร็ว 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89 27.89
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 30.89 31.76 31.76 31.76 31.76
มีผลตั้งแต่ 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 27 Jan 05:00 18 Jan 05:00 27 Jan 05:00 18 Jan 05:00

 

 

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า