ตลาดที่อยู่อาศัยปีหน้า‘สินเชื่อ-ยอดโอน’ฟื้น
เศรษฐกิจปี 61 ส่งสัญญาบวก ดันตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยฟื้น แตะ 6 แสนล้าน ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ขยายตัว 6-8% หลังปีนี้ทรงตัว ประเมินซัพพลายใหม่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล 1.54 แสนหน่วย ชี้ภาวะระบายอุปทานสมดุล ย้ำ“ไม่ล้นตลาด”
นางไลวรรณ ปองเสงี่ยม รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่าตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา หลังจากไตรมาสแรกอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยภาพรวมยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ มีมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท ลดลง 15% เทียบไตรมาสแรกปีก่อน ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 33% เนื่องจากปี 2558-2559 ที่มีมาตราการรัฐสนับสนุน การลดค่าธรรมเนียมจำนองและโอนเหลือ 0.01% ทำให้มีการดึงดีมานด์ไปล่วงหน้า
ทั้งนี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งไตรมาส2 ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็น 1.47 แสนล้านบาท และกลับมาเติบโตในไตรมาส 3 ถึง 20% ด้วยยอด 1.67 แสนล้านบาท ขณะที่ไตรมาส4 ยังขยายตัวต่อเนื่อง คาดภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี2560 อยู่ที่ 5.87 แสนล้านบาท ถือว่าทรงตัว เทียบปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 5.86 แสนล้านบาท
ปี61สินเชื่อที่อยู่อาศัย6แสนล้าน
นางไลวรรณ กล่าวว่าหากประเมินทิศทางตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ปี2561 มีแนวโน้มกลับมาเติบโตชัดเจนที่ 3-4% คาดอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท
สะท้อนจากปัจจัยบวกเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งการส่งออก ท่องเที่ยว ลงทุนภาครัฐในปีหน้า จะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ไม่กระทบกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทย
ปัจจุบัน ธอส. มีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยสูงสุด ปี2559 อยู่ที่ 1.68 แสนล้านบาท ขยายตัว 6.8% ปี2561 คาดว่าทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.78 แสนล้านบาท เติบโต 5% และปี 2561 อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท
หนุนสินเชื่อกลุ่มรายได้น้อย
จากนโยบายรัฐสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย แต่ที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวมีปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อ ดังนั้นแนวทางของ ธอส. ในปีหน้าจะสร้างโอกาสให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. ด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และพิจารณาสินเชื่อที่เหมาะสม เช่น การกู้ร่วมของคู่สมรส บุตรหลาน มองว่าราคาที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท
ที่ผ่านมาพบว่าผู้ประกอบการอสังหาฯ พัฒนาที่อยู่อาศัยที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาทต่อยูนิตเป็นจำนวนน้อย เนื่องจากเห็นว่าตลาดดังกล่าวอาจมีปัญหาด้านการขอสินเชื่อ ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการระดับดังกล่าวมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้มีรายได้น้อย โดย ธอส. จะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อในกลุ่มนี้
“แนวราบ–คอนโด”1.54 แสนหน่วย
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าประมาณการอุปทาน(ซัพพลาย)ที่อยู่อาศัยปี 2561 พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อยู่ที่ 1.54 แสนหน่วย แบ่งเป็น อาคารชุด (คอนโดมิเนียม) 7.99 หมื่นหน่วย สัดส่วน 51.8% และแนวราบ 7.43 หมื่นหน่วย สัดส่วน 48.2%
ทั้งนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนหน่วยสูงสุดที่ 6.93 หมื่นหน่วย แบ่งเป็น แนวราบ 1.86 หมื่นหน่วย และคอนโด 5 หมื่นหน่วย
ขณะที่ภาวะการระบาย (Absorption Rate) อุปทานที่อยู่อาศัย ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีหน้ามีแนวโน้ม“สมดุล” และไม่เกิดภาวะล้นตลาด จากสถิติการระบายอุปทาน“ภาพรวม” ค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผานมา ใช้เวลา 17 เดือนเพื่อขายหมด ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์จากจำนวยซัพพลายใหม่ปีหน้า จะใช้เวลาระบาย 15 เดือน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
สำหรับ“แนวราบ” ค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 22 เดือน ซึ่งทิศทางปี 2561 อยู่ที่ 17 เดือน ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส่วน“อาคารชุด”อัตราการระบายค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 12 เดือน ขณะที่ปีหน้าอยู่ที่ 13 เดือน ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย
นายวิชัย กล่าวว่าทางด้านทิศทางการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปี 2560 “ทรงตัว”ใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากครึ่งปีแรกชะลอตัว และฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตชัดเจนในปี 2561 แต่กำลังซื้อจะฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2561 เป็นต้นไป เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นภาระผูกพันระยะยาว 20-30 ปี ดังนั้นคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปีหน้าจะเติบโต 6-8%
ระบบขนส่งหนุนพัฒนาอสังหาฯ
นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช นักวิชาการขนส่งคุณวุฒิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาอสังหาฯ ในอนาคต ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง คือ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางด้วยแนวคิด TOD (Transit Oriented Development) ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยมีระบบรางเป็นศูนย์กลางมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะมุ่งทำให้คนลดการใช้รถยนต์ได้
ตามแผนนี้ จะส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินแบบผสมผสานสำหรับพื้นทีรอบสถานีในระยะเดินเท้าได้ และมุ่งสร้างแหล่งกิจกรรมใกล้สถานี เพื่อจูงใจให้คนเดินเท้าในระยะเฉลี่ย 500-800 เมตรจากที่อยู่อาศัยไปยังขนส่งมวลชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วอย่าง ญี่ปุ่น หรือ ยุโรป ที่ทำสำเร็จมาแล้ว
โครงการที่ใช้หลักการดังกล่าวคือ การพัฒนาพื้นที่บริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน บนที่ดินกว่า 2,325 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าก่อสร้างระบบรางต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อถึงกันหมดแล้วเสร็จไปกว่า 50% และคาดว่าจะเรียบร้อยภายในปี 2563
สิ่งที่ดำเนินการคู่ขนานคือ การเปิดรับ “ผู้ร่วมทุน” จากภาคเอกชน เพื่อพัฒนาที่ดินรายแปลงเป็นโครงการต่างๆ เช่น ที่พักอาศัย, โครงการมิกซ์ยูสรวมเป็นย่านธุรกิจและการค้า เป็นต้น
http://www.bangkokbiznews.com
สินเชื่อปี 61 สดใส คาดโตกว่า 4% แตะ 6 แสนล้าน
แม้ว่าในปีช่วงต้นปี 2560 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมจะไม่สดใสนัก แต่ในไตรมาสหลัง ๆ ของปี โดยเฉพาะในด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยกลับกระเตื้องขึ้น โดยเติบโตใกล้เคียงกับปี 2559 ซึ่งมาจากแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์คาดการณ์ว่าในปี 2561 สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะสามารถเติบโตได้ถึง 6 แสนล้านบาท
ช่วงต้นปี 60 สินเชื่อแผ่วจากมาตรการรัฐ
คุณไลวรรณ ปองเสงี่ยม รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงต้นปี 2560 มีการหดตัวส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในปี 2558-2559 ซึ่งมีการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และการจดจำนอง เป็นการกระตุ้นให้เกิดการโอนขาย และเปลี่ยนมือที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2559 ก่อนหมดมาตรการ หากพิจารณาเฉพาะธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ในเดือนเมษายน 2559 เพียงเดือนเดียว สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมแล้ว 4 เดือนแรกของปี 2559 ขยายตัวไม่น้อยกว่า 30% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2560 โดยในไตรมาส 1 ปี 2560 ภาพรวมสามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้เพียง 1.15 แสนล้านบาท หดตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 15% และการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงถึง 33% เนื่องจากความต้องการและอุปทานจำนวนมากถูกดูดไปก่อนหน้านี้จากมาตรการของภาครัฐ
ไตรมาสหลังสินเชื่อกระเตื้อง คาดทั้งปีแตะ 5.87 แสนล้าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2 เริ่มมีอุปทานใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเริ่มขยายตัวขึ้น แม้จะมีการขยายตัวติดลบอยู่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่มีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในไตรมาส 3 สินเชื่อที่อยู่อาศัยเริ่มเป็นบวก ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น ในภาพรวมสามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 1.67 แสนล้านบาท จึงคาดว่าในปี 2560 สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะสามารถปล่อยได้ 5.87 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2559 ที่อยู่ที่ 5.86 แสนล้านบาท
เศรษฐกิจโต ปัจจัยหลักขับเคลื่อนสินเชื่อที่อยู่อาศัย
ปัจจัยบวกหนุนสินเชื่อบ้านโต
หากพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนสินเชื่อที่อยู่อาศัย จะพบว่ามีปัจจัยบวกมากมาย อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการขยายตัวส่งผลให้เกิดกำลังซื้อในตลาดต่างประเทศทำให้การส่งออกของไทยดีขึ้น การลงทุนภาครัฐในโครงการใหญ่ ๆ ที่จะเห็นภาพชัดเจนในปี 2561 ทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเป็นการปรับขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยในไทยมากนัก ทำให้ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ กำลังซื้อภายในประเทศยังคงดีอยู่ และสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงินยู่ในระดับสูงพอสมควร สามารถรองรับความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างเพียงพอ
จากการประเมินปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์จึงคาดการณ์ว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ในปี 2561 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณ 3-4% โดยอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท
https://www.ddproperty.com
พาณิชย์ดึงร้านขายยาร่วมธงฟ้าฯ ช่วยผู้มีรายได้น้อยยามเจ็บป่วย
กระทรวงพาณิชย์เปิดรับสมัครร้านขายยาทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ หวังเพิ่มโอกาสผู้ถือบัตรคนจน ใช้สิทธิซื้อยาดูแลสุขภาพ
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์เปิดรับสมัครร้านขายยาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ
ธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ได้มีโอกาสใช้วงเงินในบัตรซื้อยาต่าง ๆ ที่จำหน่ายในร้าน ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยในด้านการดูแลสุขภาพ
ทั้งนี้ พบว่ามีร้านขายยาสมัครเข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐแล้ว 105 แห่ง และเบื้องต้นได้เข้าไปติดตั้งเครื่องชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ไปแล้วกว่า 30 แห่ง ซึ่งจะทยอยดำเนินการติดตั้งให้ครบทุกร้านต่อไป โดยร้านขายยาในกรุงเทพ ฯ ที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 ส่วนร้านขายยาในต่างจังหวัด แจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
ขณะที่การดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC ในร้านธงฟ้าประชารัฐนั้น นายวิชัย ระบุว่า ล่าสุดได้ติดตั้งไปแล้วประมาณ 13,000 แห่ง ทั่วประเทศ และคาดว่าจะติดตั้งครบ 18,000 แห่ง ได้ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2560 อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 30,000 แห่ง ซึ่งจะมีการพิจารณาคัดเลือกร้านค้าจากพื้นที่ ที่ร้านธงฟ้ายังไม่ครอบคลุมก่อน
https://money.kapook.com
บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิตบุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต
หนึ่งบาทของคุณ จะเป็นพลังส่งต่อผู้คนอีกนับล้าน สมทบทุนสร้าง “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา รพ.ศิริราช” อาคารสุดท้ายของศิริราชที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงฯ พระราชทานนามอันเป็นมงคล
เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการสร้างความเท่าเทียมและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ป่วยด้อยโอกาส คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป เปิดตัวโครงการ “บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต” สมทบทุนซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ซึ่งเมื่ออาคารแห่งนี้มีครุภัณฑ์ทางการแพทย์พร้อมเปิดใช้บริการ ก็จะสามารถต่อชีวิตคนได้อีกนับล้าน จึงเชิญชวนประชาชนคนไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการมอบโอกาสสร้างชีวิต ด้วยเงินเพียง ๑ บาท
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราช ยืนหยัดเคียงคู่คนไทยกว่า 129 ปี เป็นความหวังของประชาชนจากทุกภาคส่วนของประเทศที่หลั่งไหลเข้ามารักษาไม่ขาดสาย แต่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น คือโจทย์สำคัญที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมุ่งหาแนวทางที่จะรองรับการขยายตัวของผู้ป่วย และต้องได้รับโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย จึงเป็นที่มาของโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ เพื่อยกระดับการให้บริการผู้ป่วยอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามว่า “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” นับเป็นอาคารสุดท้ายของศิริราชที่ได้รับพระราชทานนามอันเป็นมงคลแก่โรงพยาบาลศิริราชและประชาชนคนไทย เพื่อเชิญชวนประชาชนคนไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมในการมอบโอกาส สร้างชีวิต โครงการ “บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต” จึงเกิดขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป มาร่วมเป็นสื่อกลางในการเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินสมทบทุนอีกทางหนึ่ง
ด้าน ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กล่าวว่า โครงการ บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต เป็นการจัดโครงการต่อเนื่องจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่ง เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ และ ซูเปอร์คุ้ม ได้ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดโครงการ พลังแห่งการให้ พลังแห่งความสุข และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าและประชาชนทั่วไป โดยมียอดเงินบริจาคเข้าร่วมโครงการสูงมากเป็นประวัติการณ์ มากกว่า 17 ล้านบาท เพื่อสานต่อโครงการดังกล่าว เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อชั้นนำของประเทศ จึงร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดโครงการ “บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต” เพื่อเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมบริจาคเงิน เริ่มต้นเพียง ๑ บาท ของทุกการใช้จ่าย 1 ครั้ง ณ จุดแคชเชียร์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์, ซูเปอร์คุ้ม, แฟมิลี่มาร์ท และ มัตสึโมโตะคิโยชิ”
จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทย มาร่วมสร้างพลังแห่งความหวัง ด้วยพลังแห่งการให้ ในโครงการ “บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต” ร่วมบริจาคเงินเริ่มต้นเพียง ๑ บาท ของทุกการใช้จ่าย 1 ครั้ง ผ่านการสแกนบาร์โค้ดที่จุดแคชเชียร์ ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ซูเปอร์สโตร์, ซูเปอร์คุ้ม, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ออนไลน์, อีทไทย, แฟมิลี่มาร์ท และ และมัตสึโมโตะคิโยชิ ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังร่วมบริจาคผ่านกล่องรับบริจาค “บุญ ๑ บาท เพื่อล้านชีวิต” ภายในโรงพยาบาลศิริราช หรือบริจาคผ่านเลขที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ 939-3-50022-9, ธนาคารกสิกรไทย 987-1-00199-2, ธนาคารไทยพาณิชย์ 016-3-04546-0 หรือติดต่องานการเงิน ฝ่ายการคลัง อาคารชัยนาทนเรนทรานุสรณ์ รพ.ศิริราช โทร.02- 419-7646-8 และบริจาคผ่านเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง https:// si-eservice.mahidol.ac.th/donation/
เพื่อให้เงิน ๑ บาท จากการใช้ชีวิตในประจำวัน กลายเป็นบุญที่ได้ถูกส่งมอบไปสู่ผู้คนอีกมากมายในรูปของครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จะเข้ามาเติมเต็มอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช และเมื่อแล้วเสร็จ ประเทศไทยจะมีศูนย์การให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางที่ทันสมัย ครบวงจร เป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการและการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยอย่างเสมอภาคและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com
รู้จัก Substitute Phone มือถือดัดนิสัยคนติดมือถือ อยากได้ติดต่อ Kick Starter
ถ้าคุณคิดเป็นคนสูบบุหรี่ มักจะติดเพราะ นิโคติน และยังดีที่เราสามารถหาวิธีเลือกได้อยู่ แต่สำหรับคนที่ติดมือถือต้องยอมรับว่า ยังไม่มีวิธีแก้เรื่องนี้ค่อนข้างยาก แต่ล่าสุดมีนักออกแบบอย่าง lemens Schillinger ได้ออกแบบอุปกรณ์ทดแทนมือถือ หรืออีกชื่อคือ Substitute Phone
โดยรูปแบบของมือถือแบบนี้ก็จะมีคล้ายกับมือถือแต่จะมีลูกกลิ้งแทน เราสามารถรูดแทนให้จำลองว่าคุณกำลังถูกหน้าจอมือถืออยู่ ผู้สร้างได้เผยว่าเครื่องมือนี้จะช่วยทำให้คุณหลีกหนีจากมือถือได้ดีพอสมควร และรับมือกับการติดมือถือได้ดี
http://hitech.sanook.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 30/11/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
19,750.00 |
19,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,279.00 |
19,389.64 |
20,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,151.10 |
17,450.68 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
576.00 |
8,732.16 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
448.00 |
6,791.68 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,325.00 |
20,087.00 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 30/11/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
28.25 |
28.25 |
– |
27.65 |
28.25 |
27.65 |
28.25
|
28.25
|
28.25
|
28.25
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
25.74
|
25.74
|
25.74
|
25.14
|
25.74
|
– |
25.74
|
25.74
|
25.74
|
25.74
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.84 |
20.84 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.84 |
20.84 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
27.38 |
27.98 |
27.38 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
27.98 |
เบนซิน 95 |
35.36 |
– |
– |
– |
35.81 |
– |
35.86 |
35.36 |
35.36 |
35.36 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
26.79 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
29.79 |
30.47 |
30.47 |
30.47 |
30.47 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |
23 Nov 05:00 |